ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เปรมาศ

    ลำดับตอนที่ #1 : Bright or dark morning

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 16
      0
      16 ต.ค. 57

              อากาศหนาวเพียงสิบสามองศาทำให้แว่นสายตาของฉันมัวได้ตลอดเวลาจนน่าโมโห ฉันมองอะไรแทบจะไม่เห็นแล้ว การมาโรงเรียนวันแรกมันน่าจะเป็นเรื่องน่าดีใจสำหรับเด็กม.หกที่จะได้มาเจอเพื่อนในปีการศึกษาสุดท้าย ในทางกลับกันมันไม่ใช่เรื่องน่าชื่นชมเลยสักนิดสำหรับนักเรียนใหม่ที่เพิ่งย้ายมาตอนม.หก แต่นั่นก็นับว่าเป็นเรื่องดีถ้าเทียบกับการที่ฉันต้องทนอยู่กับโรงเรียนเฮงซวยที่ปลดฉันออกจากการเป็นนักเรียนดีเด่นเพียงเพราะพ่อแม่ของยัยเด็กใหม่ยัดเงินให้ผอ.หวังให้ลูกตัวเองไดัตำแหน่งแทนจนทำให้ผอ.ยอมปลดฉันออกจากการเป็นนักเรียนดีเด่นของโรงเรียนเพียงคนเดียวในระยะเวลาถึงสี่ปีเต็มแล้วดันให้ยัยเด็กใหม่นั่นมาครองตำแหน่งแทน การย้ายโรงเรียนครั้งนี้ไม่ทำให้ฉันลำบากใจมากนักเพราะมีโรงเรียนมากมายที่อ้าแขนรอรับนักเรียนดีเด่นสี่ปีซ้อนอย่างฉัน ฉันจึงกลายเป็นนักเรียนม.หกที่ย้ายมีโรงเรียนให้เลือกเรียนมากมาย แต่เหตุผลที่ฉันเลือกเรียนที่โรงเรียนเปรมาศ ไม่ใช่เพราะเป็นโรงเรียนที่เรียนดี ไม่ใช่โรงเรียนชื่อดัง ไม่ใช่โรงเรียนลูกคนรวย แถมโรงเรียนนี้ยังไกลบ้านฉันมากๆ แต่ที่จริงแล้วฉันอยากเรียนที่นี่เพราะมีเพื่อนสมัยประถมของฉันอยู่ ยัยนี่ชื่อเพลง เท่าที่จำได้ยัยนี่เป็นเด็กอ้วนแล้วก็ชอบร้องเพลงมากๆสมัยประถมยัยนี่บอกกับฉันตลอดว่าโตไปจะเป็นนักร้องให้ได้ ฉันก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ยัยนี่จะเป็นยังไงบ้าง เพราะเราสองคนก็ไม่ได้เจอกันเกือบจะสิบปีแล้ว แต่ฉันได้เบอร์โทรศัพท์เพลงมาจากพ่อของเพลง แต่พ่อของเพลงบอกว่าอย่าโทรไปหาเพลงเองเพราะช่วงนี้เพลงอารมณ์ค่อนข้างแปรปวน มีอะไรให้ฝากบอกพ่อของเพลงไว้แล้วพ่อของเพลงจะบอกเอง ถ้ามีอะไรจำเป็นจริงๆค่อยโทรตอนถึงโรงเรียนแล้ว แล้วฉันก็ได้ฝากบอกพ่อของเพลงไว้แล้วว่าฉันย้ายโรงเรียนมาที่โรงเรียนเปรมาศแต่ไม่มีเพื่อนเลย พ่อของเพลงก็ได้บอกกับเพลงเรียบร้อยแล้วว่าฉันจะมาอยู่ที่โรงเรียนด้วยถ้าถึงโรงเรียนแล้วให้โทรหาเพลงได้ตลอด

              "เธอ นี่มันตึกเรียนนักเรียนชายนะ นักเรียนหญิงห้ามขึ้นมาในตึกนี้ เป็นเด็กใหม่หรือไงถึงไม่รู้เรื่องรู้ราวแบบนี้"

              อยู่ๆก็มีเสียงผู้ชายคนหนึ่งดังมาจากด้านหน้าฉัน แต่ด้วยแว่นตาที่มัวจนมองอะไรไม่เห็นทำให้ฉันไม่สามารถมองเห็นคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าได้ เอ่อ...ว่าแต่เขาพูดกับฉันหรือเปล่า ถ้าฉันตอบอะไรไปแล้วเขาไม่ได้พูดกับฉันล่ะ

              "นี่เธอ ได้ยินหรือเปล่าเนี่ย หูหนวกหรอ"

              เอ... เขาพูดกับฉันหรือเปล่า -..-

              "แว่นเธอมัวหมดแล้ว เช็ดให้มองเห็นก่อนดิ"

              แถวนี้อาจจะมีคนใส่แว่นตาเหมือนฉันก็ได้นะ ไม่สนใจดีกว่า เผื่อเข้าใจผิด -0-

              "เห้ย! ได้ยินปะเนี่ย ถ้ามองไม่เห็นก็เอาแว่นมานี่เดี๋ยวเช็ดให้"

              พรึ่บ!!!

              อยู่ๆก็มีมือปริศนามาดึงแว่นของฉันออกไป นั่นทำให้ฉันถึงบางอ้อเลยว่าเสียงนั้นพูดกับฉันจริงๆด้วย-0-

              ด้วยสายตาสั้นถึงสามร้อยห้าสิบทำให้ฉันไม่สามารถมองเห็นภาพชัดเจนในขณะที่ไม่มีแว่น แต่พอจะเห็นภาพลางๆว่าหมอนี่กำลังเช็ดแว่นของฉันด้วยปลายนิ้วชี้-0-!!!

              "นี่ จะบ้าหรอ!!! ใครเขาใช้นิ้วเช็ดแว่นตากันเล่า"

              ฉันบ่นหมอนั่นอย่างห้ามตัวเองไม่อยู่ ก็ใครจะทนไหว แว่นของฉันฉันดูแลรักษามาอย่างดี ทำความสะอาดอย่างดีมาตลอด ใช้นิ้วเช็ดเลนส์แว่นแบบนั้น เลนส์ของฉันก็เป็นรอยหมดน่ะสิ

              "อย่าบ่นได้มั้ย ก็เราพูดกับเธอแล้วเธอไม่ยอมตอบอะ แต่อ้าว นี่เธอไม่ได้เป็นใบ้หรอกเหรอเนี่ย"

              "ก็ใช่น่ะสิ อากาศมันหนาวแว่นก็เลยมัวมองอะไรไม่เห็น"

              "ให้เราเดานะ ถ้าเธอไม่ได้นอนดึกจนลืมทางไปตึกเรียนของตัวเอง ก็ต้องเป็นเด็กใหม่ แต่เราว่าจะเป็นอย่างหลังมากกว่า เพราะหน้าตาบ้านนอกแบบนี้เราไม่เคยเห็นเลย"

              หนอย... เพียงแค่วันแรกในโรงเรียนบ้านี่ก็ทำฉันอารมณ์เสียแต่เช้า ไม่อยากจะนึกเลยว่าอีกหลายวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไง

              "เราจะเป็นเด็กใหม่หรืออะไรก็ช่างแต่มันก็ไม่เกี่ยวกับนายอยู่ดี"

              "อะๆๆๆ ไม่เกี่ยวก็ได้ แต่เธออะรีบกลับไปตึกเรียนของเธอได้แล้ว อาจารย์ที่คุมตึกนี้ดุมากนะ ถ้าเขาเห็นว่ามีนักเรียนหญิงจากตึกอื่นมายืนคุยกับนักเรียนชายของตึกนี้ รับรองเธอกับเราอะโดนดีแน่ รีบไปเร็วๆเลย"

              ด้วยความที่กลัวอาจารย์มาเห็นหมอนี่เลยดันหลังฉันให้ไปไกลๆราวกลับเห็นฉันเป็นหมูเป็นหมา โอ้ยยย เบาๆก็ได้หลังจะหักแล้วนะ

              "โอเคๆไปก็ได้ แต่ขอถามอะไรหน่อย รู้หรือเปล่าว่าเพลงเรียนห้องไหน คือเราเป็นเพื่อนเพลงแต่ไม่รู้ว่าเพลงอยู่ไหน"

              "เพลงไหน มีสองเพลง เพลงคนสวยเพื่อนเราเอง กับเพลงอ้วนวงโย แต่เธอคงไม่ได้ถามถึงไอ้เพลงเพื่อนฉันหรอก งั้นถ้าเพลงวงโยก็คงอยู่ในห้องวงโยแหละ"

              คงจะเป็นเพลงคนหลังเพราะฉันจำได้ว่าเพลงอ้วนมากแล้วก็ชอบร้องเพลงมากคงไม่แปลกถ้าเพลงจะอยู่วงโยธวาทิต

              "แล้วไอ้ห้องวงโยนี่มันอยู่ที่ไหน"

              "นี่ มีปากก็ถามคนอื่นเอาสิ เราไม่ใช่พระเอกนิยายนะที่จะได้พานางเอกไปส่งอะ"

              ฉันไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เพราะขืนได้อยู่ต่อคงมีเรื่องกันอีกยาวแน่ ฉันเงียบแล้วเดินหันหลังออกมาจากตึกนั้น พอพ้นจากสายตาหมอนั่นฉันก็กำลังจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเพลง แต่แล้วอยู่ก็มีมือปริศนามาจิกผมฉันจากด้านหลัง สงสัยเป็นหมอนั่นอีกแน่ๆ ฉันทำหน้าเอือมระอากับการเล่นไม่เลิกของหมอนี่พร้อมกับหันหลังไปมองหน้าหมอนี่อย่างช้าๆ

              แต่เอ๋!!! นี่มันไม่ใช่หมอนั่น!!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×