คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : 01
ที่นี่ที่ไหน...
เขามั่นใจว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในโรงพยาบาลแน่ๆ
ในเมื่อเขาไม่ได้กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้ออันเป็นเอกลักษณ์ของสถานที่นั้น
เด็กหนุ่มพยุงตัวเองขึ้น
พิงหลังกับหมอน ความปวดหัวสุดๆนี่มันอะไรกัน....
อืม...
เอาล่ะ เรามาทบทวนกันหน่อย
ตอนนั้นเขาแค่กำลังช่วยเพื่อนยกของ
แล้ว...
ก็มีรถขับพุ่งเข้ามา
เอาล่ะ
นี่แหละประเด็น ตามนิยายทุกเรื่องแนวแฟนตาซีที่มีอยู่เกลื่อนตลาด ผมตาย
และมาเกิดใหม่
เขากวาดตามองรอบห้อง
แต่ยังไม่ทันได้มองกลับพบกับใครบางคนยืนจ้องเขม็งมาทางนี้
“เอ่อ....
หวัดดี”
“นาย...” ว้าว แววตาไม่เป็นมิตรเลยนะครับ...
“อ้ากกกก!! อย่า อย่าบีบแก้ม เจ็บ เจ็บ ปล่อยนะ ปล่อย!!”
“แกก!! นี่ร่างฉัน!! เอาคืนมานะ!!”
“ร่างคุณแต่ผมอยู่ตอนนี้
แล้วจะออกยังไงล่ะครับ!!”
“ไม่รู้ล่ะ
คืนมาเดี๋ยวนี้!!”
“นี่ร่างคุณนะ! อย่ารุนแรงสิ!?”
“คืนร่างฉันมาซะ!!”
คุณคงสงสัยว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
งั้นผมจะเล่าให้ฟังนะครับ
ไอหมอนี่บอกว่า
ร่างกายที่ผมอยู่ตอนนี้คือของเขา และคงเป็นแบบนั้นเพราะผมรู้อยู่แล้วว่านี่ไม่ใช่ร่างของผมเอง
แล้วที่เห็นแวบๆคือเส้นผมของผมเป็นสีทองยาวถึงกลางหลัง หมอนี่กเช่นกัน เงาสะท้อนของตัวผมในตาสีแดงของหมอนี่ก็เหมือนกับตัวมันเป๊ะ
ไม่ถามเลยสักนิดว่าผมได้สมัครใจไหม...
เฮ้อ
ตอนนี้เลยเกิดเป็นการมะรุมมะตุ้มกันเล็กๆบนเตียง
(เพราะตอนแรกตื่นมาบนเตียง) จนเสียงแหกปากของผมไปเรียกเหล่า...
น่าจะคนรับใช้ของหมอนี่เข้า พวกเขาเลยรีบวิ่งกรูเข้ามาในห้องของผม
“องค์ชาย!!!” เขารีบพลักไอเจ้าของร่างนี่ออก
และทำเป็นสงบเสงี่ยม เดี๋ยวเขาจะหาว่าผมเป็นบ้า คุยคนเดียวเอา
“องค์ชายฟื้นแล้ว
เป็นอะไรไปเพคะ? ทำไมถึงร้องเสียดังขนาดนั้น” ผมเหลือบมองไอคนที่เปลี่ยนจากการประทุษร้ายผมไปยื่นทำหน้าบึ้งกอดอกอยู่ไม่ไกล
ก่อนจะส่งยิ้มพิมใจไปให้กับเหล่าคนรับใช้ที่ยังมีสีหน้าแตกตื่นไม่หาย
“ไม่เป็นไรหรอกครับ
พอดีผมสะดุดขาตัวเองน่ะ” แต่พอเห็นผมยิ้มเท่านั่นล่ะ
“จะบ้าหรอ!! อย่างฉันน่ะไม่มีทางยิ้มน่าขยะแขยงแบบนั้นหรอก!!
หยุด หยุดเดี๋ยวนี้!!” ไอหมอนี่ตอนแรกก็ดีๆแล้วนะ นี่เป็นบ้าอะไรอีกเนี่ย
ผมพยายามทำเป็นเมินไอคนขี้โวยวายตรงนั้นก่อน
แล้วหันมาคุยกับเหล่าสาวใช้ตรงหน้า
“ผมค่อนข้างกระหายน้ำ
ขอน้ำหน่อยได้ไหมครับ?”
“ฉันไม่มีทางใช้คำสุภาพแบบนั้นด้วย!! หยุด หยุดนะว่อยยย” ที่นี้หมอนี่เริ่มเข้ามาจะทำร้ายผมอีกรอบ ผมเลยต้องรีบลุกหนี
“อ่ะ
ไม่เอาดีกว่า ผมขอไปอาบน้ำก่อนดีกว่า...” ผมคิดว่าจะหนีไอบ้านี่ไปอาบน้ำ
แต่ผมก็ลืมไป นี่ไม่ใช่ร่างผม..
“จะบ้าหรอ
นี่มันร่างฉัน หยุดเดี๋ยวนี้!! ฉันจะฆ่าแก ฉันจะฆ่าแกกก!!!” คราวนี้ล่ะ มันวิ่งมากระชากผมที่กำลังจะก้าวเข้าห้องน้ำจนร่วงลงพื้น
ไม่พอยังกระทืบผมซ้ำอีก
“องค์ชาย!! เป็นอะไรไหมเพคะ”
เหล่าสาวใช้รีบวิ่งเข้ามาดูอาการผมที่ยังคงโดนเจ้าองค์ชายปลอมที่ทำตัวเหมือนโจรห้าร้อยและเหลือแต่วิญญาณกระทืบอยู่
“แอ้ก...”
หัวผมที่กระแทกพื้น ทำให้สติสัมปะชัญญะของผมเลือนลาง
สิ่งที่รับรู้เป็นสิ่งสุดท้ายคือเสียงร้องของสาวใช้
และใบหน้าที่เหมือนผมเป๊ะ กำลังยิ้มแสยะอยู่
ไอบ้านี่
ร่างตัวเองก็ช่วยถนอมหน่อยเถอะ...
ผมตื่นขึ้นมาอีกครั้ง
และได้แต่หวังว่าที่ผ่านมาเมื่อกี้มันจะเป็นความฝัน
แต่ผมก็ต้องผิดหวัง...
ผมกำลังมองคนที่มีสถานะเป็นคนหน้าเหมือนต่างกันแค่สีตา
ตอนนี้กำลังทำตัวเชิดหยิ่งใส่เหล่าสาวใช้ และทำท่าจะทำร้ายพวกเธอ
ด้วยความเป็นคนดีของผม ผมถึงได้พุ่งเข้าไปดึงขาเขาไว้ ทีนี้มันเลยล้มลงไป
“เห้ย
แก!! ทำบ้าอะไรวะ” มันหันมาหาผม คิดภาพตอนนี้คือเหมือนมันกำลังคุยกับอากาศ
ผมที่ร็สึกเห็นใจเขา จึงเอ่ยปากเตือน
“คุยกับผมจะดีหรอ?” มันที่เพิ่มรู้ตัวเริ่มมองไปรอบๆ
ถึงได้เห็นว่าพวกสาวใช้กำลังอ้าปากค้าง ตาแทบถลนออกจากเบ้า มันเริ่มหงุดหงิดอีกรอบ
“พวกนั้นจะทำอะไรก็ช่างสิ!! แกน่ะมานี่ ฉันจะฆ่าแกซะ”
นี่แกจะไม่สนใจภาพพจน์ตัวเองหน่อยเรอะ!? เอ็งเป็นเจ้าชายนะเฮ้ย!!
ยังไม่ทันได้ทำอะไร
ไอเจ้าชายก็เข้ามาตะครุบเขาอย่างแรงทันที
“อ้ากกกก
ปล่อย ปล่อยฉันเดี๋ยวเน้! อย่าบีบคอ อย่าบี— แอ้ก” เขาพยายามแกะมือของไอเจ้าชายเถื่อนนี่ออก
อ้ากก! ไอหมอนี่!!
เขาทนไม่ไหวจึงเตะเข้าที่ท้องของเจ้าชายเถื่อนอย่างแรง
จนมันปล่อยมือจากคอเขาไปกุมท้องตัวเอง
“อึก..
นี่แก.... กล้าทำร้ายร่างกายเจ้าชายเชียวหรอ!?”
“แกก็ทำร้ายร่างกายตัวเองเหมือนกันไม่ใช่หรือไง!?”
“ไม่เกี่ยว!! ฉันจะทำอะไรกับร่างกายตัวเองก็ได้”
พูดด้วยความมั่นใจถึงขีดสุด แถมยังส่งยิ้มแสยะมาให้อีก
“แกมันบ้า!!”
“แกนั่นแหละ!!!”
ตอนนี้ภาพที่สาวใช้เห็นจึงเป็นภาพที่เจ้านายของพวกเธอกำลังพูดกับอากาศ
แถมยังทำท่าเหมือนกับบีบคอใครสักคนอยู่ด้วย
หนึ่งในพวกเธอจึงรีบวิ่งไปกล่าวทูลกับองค์ราชา ซึ่งมีศักดิ์เป็นบิดาขององค์ชาย
องค์ราชาเมื่อรู้ว่าลูกตัวเองทำตัวเพี้ยนๆก็รีบมาหาลูกชายถึงห้อง
ในใจก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
แต่เมื่อได้มาเห็นกับตัวเองจึงรู้ว่ามันเป็นความจริง
“แน่จริงก็มาต่อยกันตรงๆเซ่!! อย่าเอาแต่หนี!?” “ฉันจะไปเอาร่างมาจากไหนกันเล่า!?”
“พูดมาก!! ยังไงก็ต้องหามาให้ได้!!” “แกนี่มันเหลวไหลจริงๆเลย!!”
“แกนั่นแหละ!!”
แถมยังตามมาด้วยการเขวี้ยงปาข้าวของตามนิสัยชอบทำลายข้าวของอีก
ไม่พอ ข้าวของพวกนั้นยังเหมือนโดนบางสิ่งบางอย่างจริงๆด้วย
ข้าวของบางอันจู่ๆก็ลอยกลับมาหาคนปาด้วย
“ฝ...
ฝ่าบาทคะ นี่คือ..”
“พอ...
เราขอคิดสักครู่...” องค์ราชานวดขมับของตนไปมา
“พ่อ!! ดูเจ้านี่สิ!! เมื่อกี้มันยึดร่างผม!!” เขามึนไปหมดแล้ว.... นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกันแน่..
“ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ได้ทำ!! นั่นฉันตื่นมาก็อยู่ในร่างนายเลย”
“หุบปาก!!” พูดกับเขาเสร็จก็หันไปพูดกับอากาศอีก...
“หยุด!!” สิ้นสุรเสียงอันทรงอำนาจขององค์ราชา
ภายในห้องก็เงียบทันที คนที่กำลังจะพุ่งเข้าไปต่อยหน้าวิญญาณชะงักทันที
วิญญาณที่กำลังจะตั้งรับก็ค้างไปในทันใด
เมื่อคนเป็นพ่อสั่งให้หยุด
มีหรือที่คนเป็นลูกจะไม่ทำ
เจ้าชายเถื่อน(ยังไม่รู้ชื่อ)ก็หยุดด้วยอารมณ์ที่ยังไม่สงบดี
“ไหนเล่ามาสิ...
ว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
เขากำลังนั่งอยู่ในห้องรับแขก
คนที่ดูท่าจะเป็นพ่อของเจ้าชายเถื่อนนี่บอกให้เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง
ทำให้พวกเราต้องมานั่งรวมกันอยู่ที่ห้องรับแขก
โซฟาที่ทั้งชาติเก่าของผมไม่มีวันได้นั่ง วันนี้ได้นั่งแล้ว.. ในฐานะวิญญาณ
“มันยึดร่างผม”
สั้นๆ ง่ายๆ ได้ใจความ...
บ้าอะไรล่ะ!!
“ก็
บอก ว่า! ไม่ได้ทำไงเล่า!?” ทำไมไม่เข้าใจกันเลยนะ
“ไม่สน
แกทำไปแล้ว”
“หยุด! ไร้สาระกันได้แล้ว”
“ชิ”
เจ้าชายเถื่อนหันหน้าหนีจากผมที่นั่งทางด้านซ้ายไป ผมที่อารมณ์เสียไม่ต่างกันจึงหันหนีบ้าง
“เล่ามาดีๆ
แล้วอย่าทำกิริยาแบบนี้อีก ลูกเป็นเชื้อพระวงศ์นะ”
“เหอะ
ตอนแรก ผมตื่นมา ก็กลายเป็นวิญญาณซะแล้ว จากนั้น มันก็ตื่นขึ้นมาในร่างของผม ผมถึงได้กระทืบมันจนสลบแล้วผมก็ได้ร่างตัวเองคืน
จากนั้นมันก็ทำร้ายผม ผมถึงยอมไม่ได้เลยเอาคืน ก็แค่นั้นแหละ”
ผมนั่งฟังที่เจ้าชายเถื่อนพูดจบก็พยักหน้าตาม
ถึงจะไม่มีใครเห็นก็เถอะ ที่มันเล่าก็ถูก แต่เหมือนจะเล่าไม่หมดนิดนึงนะ..
ก็นายจะทำร้ายคนอื่นนี่! ผมยอมไม่ได้หรอกนะ
“คือ...”
หนึ่งในสาวใช้คนนึงที่น่าจะอยู่ในสถานการ์ณแรกที่ผมยังอยู่ในร่างไอหมอนี่อยู่ยกมือขึ้น
เหมือนจะขอพูดบางอย่าง
“อะไร”
เจ้าชายเถื่อน เถื่อนสมชื่อ(ที่ผมตั้งให้) ถามอย่างโกรธเกรี้ยวจนเธอสะดุ้ง
“ข
ขอฉันพูดสิ่งที่เห็นบางอย่างได้ไหมคะ” เจ้าชายเถื่อนปลายตามอง
ทำท่าจะปฏิเสธแต่องค์ราชาก็พูดขัดขึ้นมาก่อน
“ได้
เธอเห็นอะไร” เมื่อโดนขัด เจ้าชายเถื่อนก็หัวฟัดหัวเหวี่ยง
บ่นงุบงิบอะไรบางอย่างที่เบามากๆ ถึงเรื่องไม่รักลูกตัวเอง หรือะไรนี่แหละ
“ตอน...ตอนที่องค์ชายตื่นขึ้นมาครั้งแรก
ฉันเห็นว่าดวงตาขององค์ชายเป็นสีฟ้าน่ะค่ะ”
“สีฟ้า?”
คราวนี้องค์ชายเถื่อนเริ่มหันมาสนใจบ้าง
จะว่าไป
ไอหมอนี่มันตาสีแดงนี่เนอะ นั่นหมายความว่า ในตอนที่ตัวผมอยู่ในร่างหมอนี่ ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีฟ้า
ผมที่เห็นแค่เงาสะท้อนของตัวเองจากตาสีแดงๆของหมอนี่ไม่มีทางเห็นสีตาของตัวเองแน่ๆ
“นี่ฉันมีสีตาเห่ยๆแบบนั้นเพราะแกงั้นหรอ”
ดูเหมือนว่าองค์ชายนี่จะคิดเหมือนกับผม พวกเรามองกันและกัน
เจ้าหมอนี่เบะปากออกมาอย่างน่าหมั่นไส้
“ที่พูดน่ะ
จริงหรือ” เหมือนองค์ราชาจะตกใจกับเรื่องนี้มาก จึงถามย้ำอีกครั้ง
“จริงค่ะ
ดิ่ฉันก็เห็น” สาวใช้อีกคนพูดเสริม
องค์ราชาเริ่มมีใบหน้าบิดเบี้ยว
แต่ก็กลับมาเป็นปกติด้วยความรวดเร็ว เหมือนจะไม่มีใครเห็นนอกจากผม... ไม่สิ
เหมือนคนข้างๆผมคือองค์ชายเถื่อนจะเห็นด้วย แต่แค่ปลายตามองนิดๆแล้วเสไปทางอื่นต่อ
“ค...
คือ” ทำไมมันมีคนเห็นอะไรเยอะแยะจัง ผมไม่เห็นสังเกตอะไรเลย
ผมหันไปตามที่มีเสียงของสาวใช้คนนึงอีกครั้ง
“อะไรอีก”
ไอเจ้าชายนี่ก็เถื่อนจัง ขอตบหัวสักรอบได้ไหม นั่นคนมีอายุมากกว่านะ นั่น
เธอกลัวหมดแล้ว
ผมอยากจะบอกให้เธอพูดเลย
แต่คงไม่ได้ยินเสียงผมอยู่ดี ผมเลยจะหันไปบอกเจ้าชายเถื่อนให้อนุญาตให้เธอพูด
แต่เหมือนจะไม่ต้อง เมื่องค์ราชาเจ้าเดิมเป็นคนอนุญาตเธอ
“คือฉัน
ตอนนั้นเห็นครั้งแรกที่องค์ชายฟื้นขึ้นมาน่ะค่ะ เงาในกระจกขององค์ชาย....
ตอนแรกดวงตาก็เป็นสีฟ้าค่ะ แต่หลังจากที่องค์ชายโดน... เออ ทำร้ายร่างกาย
เงาสะท้อนก็เปลี่ยนเป็นสีแดง เหมือนกับสีตาของเจ้าชายตอนปกติ” หืม...
เธอคงหมายถึงตอนแรกที่ผมกำลังจะไปอาบน้ำ
แล้วหมอนี่ก็เลยมากระทืบผม แล้วดวงตาที่สะท้อนในกระจกก็เป็นสีแดงสินะ...
ทำไมมันซับซ้อนจังฟระ
“เปลี่ยนสีได้ด้วย?”
องค์ชายถาม
“เธอมั่นใจนะว่าไม่ได้ตาฝาด?”
ส่วนเสียงนี้เป็นขององค์ราชา
“ค่ะ! ตอนนั้นเหมือนมีคนมาแทนที่เงาขององค์ชายน่ะค่ะ”
คนที่มาแทนที่ตัวผมแล้วหน้าเหมือนผมอีก(ในตอนที่อยู่ในร่างหมอนนั่น)
ก็จะเป็นใครไปไม่ได้อีก นอกจากเจ้าของร่างเอง ที่มีหน้าวิญญาณพิมพ์เดียวกับผมเป๊ะในตอนนี้
“เธอ...
ไปเอากระจกมา” องค์ราชาชี้ไปที่สาวใช้คนนึง เธอคนนั้นก้มหัวขานรับและรีบไปหากระจกด้วยความรวดเร็ว
ไม่นานก็ได้กระจกดังหวัง
องค์ชายเถื่อนที่ตอนแรกดูทำเป็นไม่สนใจรีบคว้ามาส่องหน้าตัวเองทันที...
นี่มันกลัวสีตาตัวเองเปลี่ยนขนาดนั้นเลยหรอวะ...
เมื่อเห็นว่าสีตาของตัวเองยังเป็นสีแดงอยู่ก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
แล้ววางกระจกไว้ที่โต๊ะ ไม่ใส่ใจมันอีก
ผมที่ไม่รู้จะทำอะไรจึงยื่นหน้าไปดูกระจก
ถึงได้เห็นเงาสะท้อนของตัวเอง
อืม...
ผมหน้าเหมือนไอหมอนี่จริงๆด้วย ต่างกันแค่สีตา...
“น...
นั่น!!” สาวใช้คนนั้นชี้มาทางผม... หืม อ่อ ชี้ไปที่กระจก
เหมือนเธอจะเห็นเงาสะท้อนของผมงั้นหรอ?
แล้วที่องค์ชายมันตาเปลี่ยนสีเป็นกิ้งก่าได้ล่ะ?
พอได้ยินดังนั้น
องค์ชายเถื่อนที่ห่วงสีตาของตัวเองเหลือเกินก็รีบหันกลับไปดูที่กระจก
ผมที่เห็นแบบนั้นเลยหลีกทางให้เล็กน้อย มองหน้าเจ้าชายอย่างงงงวย
เพราะมันเริ่มทำหน้าตกใจขีดสุด
“อะไร”
ผมถามมัน
“แกไม่รู้สึกแปลกๆไปเลยหรือไง?”
เมื่อได้ยินคำถาม ผมก็ขมวดคิ้วมุ่น และหันไปดูกระจกอีกครั้ง
“ไม่แปลกนะ
ผมก็เห็นเงาของผมกับนายไง” เขาตอบตามความจริง
“สิ่งที่ฉันเห็นคือ
เงาของฉันหายไปแล้วเหลือแต่ของแก”
“!!!”
ผมรีบหันไปมองกระจกอีกครั้ง ยังคงเห็นเป็นแบบเดิม
คือยังคงมีเงาของผมกับมันอยู่ในกระจก
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย”
“ฉันต่างหากที่ต้องถาม” มันหันหน้ามาหาเรื่องผมอีกรอบ
องค์ราชาที่โดนเมินไปโดยสิ้นเชิง ขอกระจกไปดูบ้าง และเรียกองค์ชายไปดูข้างๆ
เพราะตอนแรกผมกับองค์ชายนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับองค์ราชา
แต่ก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไปจากเดิม องค์ชายนั่นบอกว่าเงาของเขายังคงเหมือนเดิม
ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ผมที่ยังนั่งอยู่กับที่จึงเดินไปส่องกระจกจากด้านหลังโซฟาของพวกเขาบ้าง
ทีนี้ล่ะ ทำหน้าอย่างกับโดนผีหลอกกัน
ผมก็ยังเห็นเงาของพวกเราทั้งสามอยู่ครบถ้วน
“นาย....” องค์ราชาจ้องมองตัวผมผ่านเงาที่สะท้อนในกระจก
จนผมรู้สึกแปลกๆ แต่ก่อนที่จะได้สงสัยอะไรอีกนั้น
“แก.... แย่งร่างฉันไป เปลี่ยนสีตาฉัน แล้วยังแย่งเงาฉันอีก!!”
เจ้าชายเป็นบ้าอีกแล้ว!!!
===============================================
นั่งแต่งตอนเน็ตหลุดค่ะ ไม่รู้ว่าจะได้แต่งต่ออีกเมื่อไหร่ 5555555
ความคิดเห็น