คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Travel with you my dear
3
Travel with you
my dear
[Kira Talk]
นับวันผมยิ่งรู้สึกตัวว่าตัวเองเลวแค่ไหน ผมพยายามที่จะเลิกเป็นเพลย์บอย แต่ผมก็เลิกไม่ได้อยู่ดี มันคงเป็นนิสัยติดตัวผมไปแล้วละมั้ง และอีกอย่าง ถ้ามันสามารถเลิกกันได้ง่ายๆ นะ ป่านนี้ก็คงจะมีแต่คนดีเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมดจริงมั๊ย และด้วยความที่ผมเป็นเพลย์บอยนั้นก็ทำให้ผมไม่สามารถมีแฟนเป็นตัวเป็นตนสักที T^T
หลายคนคงสงสัยละสิ ว่าผมตั้งเกมส์การแข่งขันขึ้นมาพิชิตใจยัยโปกิเพื่ออะไร เป็นเพราะผมชอบยัยโปกิหรือเปล่า ถ้าคุณคิดแบบนั้นผมขอบอกให้คุณเลิกคิดซะเดี๋ยวนี้เลยนะ เพราะผมไม่ได้มีความรู้สีกชอบยัยนี้แม้แต่น้อย แต่ที่ผมทำแบบนี้เป็นเพราะว่าผมเบื่อ ไม่มีอะไรทำเพียงแค่นั้น แต่ถ้าสุดท้ายยัยเผลอมารักผม ผมก็ช่วยไม่ได้ ก็คนมันมีเสน่ห์ ผมก็ถือซะว่ามันคือรางวัลของผู้ชนะหรือผลพลอยได้เท่านั้น
ตอนนี้ผมกำลังคิดแผนว่า ในวันนี้ผมจะแกล้งอะไรยัยโปกิกับไอคริสดี แค่นึกว่าจะได้แกล้งก็สนุกแล้ว อิอิ*-*
อ๊ะ! ยัยนั้นมาพอดี โชคดีจริงๆ ที่วันนี้มาเรียนเร็ว โปกิเดินมากับไอคริสด้วยนี้หว่า จะทำอะไรดีน้า... ผมเหลือบไปเห็นเวทีกลางห้องโถ่งใหญ่ ซึ่งถ้าผมเดินขึ้นไปมันก็คงเป็นจุดเด่นมากทีเดียว ฮึฮึ แต่ก็เอาวะ จะกลัวอะไร ด้านมาขนาดนี้แล้ว ฮ่าๆๆๆ
“สวัสดีครับทุกคน” ตอนนี้ทุกคนมองมาที่ผม ร่วมทั้งโปกิและไอคริสด้วย และผมยังสังเกตเห็นผู้หญิงหลายคนทำหน้าตาหื่นๆ ใสผมอีกตั้งหาก เพิ่งรู้นะเนี๊ยว่าผมก็ป็อปเหมือนกัน แต่ช่างมันเถอะผมไม่แคร์ ผมชอบ ฮ่าๆๆๆ “วันนี้ผมมีเรื่องจะประกาศให้ทุกคนได้รู้ครับ ^-^” ผมเหลือบมองไปทางโปกิและคริส “เนื่องจากตอนนี้ผมมีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้วครับ” ผมเดินลงจากเวที แล้วจับมือยัยโปกิลากยัยนั้นขึ้นไปบนเวทีกับผม “ต่อไปนี้ คนๆนี้จะเป็นแฟนผม ขอร้องว่าห้ามใครจีบเด็ดขาด หรือถ้าใครเห็นว่ามีคนมาจีบผู้หญิงคนนี้ช่วยมาบอกผมได้มั๊ยครับ^^”
วี้ดดดดดดด วิ้ววววววววววว เสียงผู้คนจำนวนมากตะโกนขึ้นมา
“ไอบ้า! ใครจะไปเป็นแฟนนายกัน ไอนิสัยไม่ดี -O-;;”
“ผมนิสัยไม่ดียังไงหรอครับ ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยสิ ^^”
“...”
“โปกิ ถ้าเธอไม่เล่า แล้วแฟนคนนี้จะรู้ได้ยังไง แฟนน้อยใจนะครับ”
“เรื่องของนาย!” พูดจบเธอสะบัดมือผมออก แล้วเดินไปหาไอคริสทันที ผมที่ยืนอยู่บนเวทีได้แต่ยิ้มๆ ใจจริงอยากหัวเราะด้วยซ้ำไป ว่าแต่ตอนที่ยัยนี้โกรธก็น่ารักดีเหมือนกันนะ แต่ถึงยังไง ยัยนี้ก็ไม่ใช่สเป๊คผมอยู่ดี
ผู้หญิงในสเป๊คผมนะต้องเป็นคนเรียนร้อยไม่ก๋าแก่น ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เที่ยวกลางคืน ไม่เล่นการพนัน ไม่ค้าสิ่งผิดกฎหมาย อ่อที่สำคัญ ต้องหน้าตาดีด้วย ถ้าครบทุกข้อนี้นะ ผมจีบทันที แต่ก็ไม่รู้จะไปหาที่ไหน มันยากน่ะเนี่ย หรือว่าผมต้องเลิกเป็นเพลย์บอยให้ได้ อืม... ใช้ต้องเลิกให้ได้
“กิระจ๋า...^^” ผมมองหาแหล่งกำเนิดเสียง ว่ามันเป็นเสียงของใครกัน แต่แล้วผมก็ต้องสะอึก เหมือนมีบาทาของใครสักคนอยู่ในคอ เพราะเจ้าของเสียงนี้คือ ‘นีล’ อดีตแฟนเก่าผมเอง เราทั้งสองเลิกกันไป 2 ปีแล้ว แต่ยัยนี้ยังตามเกาะแกะผมไม่เลิก น่ารำคาญจริง
“ฉันไม่ว่างไปก่อนนะ”
“จะด่วนไปไหนละ เมื่อกี้มีคนบอกฉันว่าเธอประกาศตัวแฟนคนใหม่หรอ”
“ใช้”
“ใช้ฉันรึป่าวนะ” ฮึ ใครมันจะไปเอาแก ยัยตุ๊กแก หน้าหนา ไม่รู้ตอนนั้นผมไปจีบยัยนี้ได้ยังไง พอตอนนี้มานึกดูแล้วรู้สึกขนลุกพิกล
“ไม่มีทางเป็นเธออยู่แล้ว เพราะแฟนฉันชื่อโปกิ ไม่ใช่นีล” ผมใช้โปกิบังหน้าเพื่อที่จะเดินหนีนีล ในตอนนี้โปกิกลายเป็นบุคคลที่มีประโยชน์สำหรับผมไปแล้ว เพราะต่อไปผมจะใช้โปกิบังหน้า เพื่อป้องกันนีล
[Poki Talk]
“โปกิ ไม่เป็นไรนะ”
“อืมๆ”
“ฉันว่าวันนี้แกคงไม่มีอารมณ์เรียนแล้วละ ขอโทษน่ะที่พาแกมาก่อนเวลาเรียน ฉันไม่คิดว่ามาแล้วจะเจอมันนะ”
“ไม่เป็นไร”
“เราไปเที่ยวกันเถอะ”
“หะ ห๊า!” คริสก็จับมือฉันลากออกไปข้างนอก ทั้งที่ฉันยังไม่ทันได้ตกลงเลย ฉันมองเห็นสายตาหลายๆคู่จับจ้องมาที่เรา ก็จะไม่ให้จ้องได้ไงฉันเพิ่งโดนประกาศตัวว่าเป็นแฟนนายกิระเมื่อตะกี้นี้เอง
เราสองคนอยู่บนรถมอไซต์ของไอคริส แต่ที่แย่กว่านั้นก็คือไอคริสยังคงขับมอไซต์เร็วๆ เหมือนเดิม T^T ฉันจะเป็นลม ไม่รู้ว่ามันได้ใบขับขี่มาได้ยังไง
ในตอนนี้ฉันกับคริสที่เนินทุ่งกว้าง ที่จริงมันเป็นภูเขานะ ที่นี้อากาศดีมาก แดดไม่รู้อนจนเกินไป ลมพัดเอื่อยๆ ฉันได้ยินแม้กระทั่งเสียงนก เสียงใบไม้เสียดสีกัน ฉันสามารถมองเห็นท้องฟ้า และก้อนเมฆได้สุดลูกหูลูกตา อืมๆ... อยู่ชนบทมันก็ดีอย่างนี้นี่เอง
“ชอบมั๊ย” คริสถาม
“ชอบสิ นายรู้จักที่นี้ได้ยังไง”
“ฉันกับครอบครัวมาที่นี้กันบ่อยๆนะ”
“เอ่อ ฉันไม่น่าถามเลย”
“ไม่เป็นไร”
ฉันลืมเล่าไปว่า พ่อกับแม่ของคริส เสียชีวิตตั้งแต่พวกเราอยู่ ม.2 ตอนนี้ พวกเราอยู่ ม.6 กันแล้ว คริสก็เลยอยู่กับน้องสาวที่อายุห่างกัน 5 ปี คริสก็เลยรักน้องสาวของมันมาก และทุกเดือนทางญาติพี่น้องของมันทั้งหมด จะส่งเงินมาให้ใช้รวมกันก็ประมาณ 100,000 เดือน รวมกับเงินประกันของพ่อกับแม่มันอีก 100,000 กลายเป็นว่าบ้านหลังใหญ่โตของคนฐานะร่ำรวยอย่างมัน มีคนอาศัยอยู่เพียง 3 คน คือ น้องมัน มันเอง และคนงานที่บ้านชื่อป้า จิต
เราทั้งสองคนได้แต่นั่งมองภูเขาลูกถัดไปเรื่อยๆ จนสุดลูกหูลูกตา ไม่รู้ว่าเป็นเวลาเท่าไหร่ ฉันเอนตัวลงนอนกับพื้นหญ้าที่นุ่มเหมือนปุยฝ้าย มองท้องฟ้า มันทำให้รู้สึกสบายใจนะ เหมือนในเพลงของ basket band ที่บอกว่า ‘เคยมองฟ้า เวลาทุกข์ไหม
รู้ได้เลย ว่าทุกข์ยิ่งเล็กลง’ ไม่นานฉันพล่อยหลับไป ตื่นมาอีกที ก็เห็นไอคริสนั่งมองฉันอยู่
“โปกิ ถ้าฉันจะบอกอะไรเธอหน่อย เธออย่าโกรธฉันได้มั๊ย”
“แกใช้คำว่าเธอกับฉันหรอเนี๊ยะ”
“เออ น่า”
“อะๆ บอกมาๆ ไม่โกรธหรอก”
“จริงนะ”
“... -_-“
“คือว่าฉัน... ชอบ...เธอนะ คือชอบมานานแล้วด้วย คบกับฉันเป็นแฟนได้มั๊ย” ไอคริสพุดประโยคหลังแบบรัวเป็นปืนกลเลยทีเดียว
“คือ... ขอโทษนะ ฉันคิดว่าเราจะเป็นเพื่อนกันแล้วจะดีกว่าซะอีก”
“เราลองคบกันไม่ได้หรอ”
“...”
“มัน 8 ปีที่อยู่กับเธอนะ แต่ความรู้สึกที่ฉันชอบเธอ อีก 4 ปี มันนานมากเลยนะสำหรับฉัน” ฉันก็ว่ามันนานเหมือนกันแหละ ตั้ง 4 ปี -_-
“งั้นเราลองคบกันดูก็ได้” ฉันตกปากรับคำไป แต่ฉันไม่เคยชอบคริสเลยนะ ฉันเห็นมันเป็นเพื่อนมาตลอด การที่เราคบกันแบบ มันเองก็อาจจะไปได้สวยก็ได้นะ ใครจะไปหยั่งรู้ได้ถึงอนาคตละเนอะ
ความคิดเห็น