ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Hinata no kyubi
นารุโตะคุง...ชั้น...
จา...จะบอกว่า....
ว่า...วะ...ว่า
ชั้น...ชั้น....
ชั้นชอบเธอนะ....
เฮ้อ~ทีพูดในใจละพูดได้
แต่ทำไมเวลาเจอนารุโตะคุงทีไรเราถึงพูดไม่ได้นะ
เด็กสาวขี้อายอย่างเธอคงทำได้แค่นี้ละ ได้แต่เฝ้ามองเขาอยู่ห่างๆ
นารุโตะคุง....
................................
“อูย~เจ็บจังเลยมุคุโร่คุง”
บอสนักกินมาสเมโล่ของเหล่าไวท์สเปลโอดครวญ
หลังจากที่ซัดกับฮาตาเกะ คาคาชิในหัวข้อเรื่อง”สับปะรดลูกนี้ของกู”
//ไอ้สำออยทำเป็นเรียกคะแนนความสงสาร//
คาคาชิกัดเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างหงุดหงิดใจ
ขณะมองมุคุโร่ที่กระวี้กระว้ายเข้าไปดูอาการของเบียคุรัน
ทั้งๆที่เขาเองก็เจ็บตัวไม่แพ้มันแท้ๆ
“อะเออ...แล้วคุณโคลมละครับ”คาคาชิร้องเรียกหาสัปป้าตัวแม่
“คือว่า...”มุคุโร่กำลังจะพูดหากแต่...
“ครูคาคาชิค่ะ!!!”เสียงหนึ่งดังขึ้นขัดจังหวะ
“ให้พวกเรารอเก้ออยู่ตั้งนานที่แท้ก็หลบมาหลี้หนุ่มเองเหรอ!!”
น้ำเสียงที่ไม่มีความเคารพในตัวอาจารย์แม้แต่น้อยของเจ้าลูกชิ้นญี่ปุ่นดังตามมาติดๆ
“ถึงว่าละ...อย่างนี้ใช่ไหมที่เขาเรียก3P”
ซาสึเกะใช้สายตาไล่มองตั้งแต่คาคาชิ มุคุโร่ยันเบียคุรัน
“เฮ้ย ไม่ใช่นะๆ พวกเธอกำลังเข้าใจชั้นผิด!!”
//ตายละหว่า หมดกันภาพลักษณ์ครูของตู//
...............................
วันรุ่งขึ้น....
ภารกิจระดับ:A
เนื้อหา:คุ้มกันและเป็นกำลังเสริมให้กับคาบัลโลเน่
ผู้รับมอบ:หน่วย7
-อุสึมากิ นารุโตะ
-ฮารุโนะ ซากุระ
-อุจิวะ ซาสึเกะ
ผู้ดูแล:ฮาตาเกะ คาคาชิ
“ห๊า ภารกิจเนี่ยนะ”โจนินหนุ่มร้องงงๆ
“ก็ผู้พิทักษ์อัสนีของคาบัลโรเน่ได้ติดต่อไปยังท่านโฮคาเงะว่าทางอิวะได้เข้าร่วมกับแฟมิลี่อื่น
เข้าโจมตีคาบัลโลเน่ จึงให้พวกเรามาเป็นกำลังเสริมเพื่อดูท่าทีน่ะค่ะ”ซากุระอธิบาย
//เออแหะ....แต่งี้ก็ดีจะได้อยู่กับมุคุโร่คุงแล้วก็หนูโคลมด้วย> //// <//
คาคาชิคิดไปก็ยิ้มระรื่นไปจนผ้าปิดปากปิดรอยยิ้มไม่มิด
“ยิ้มอะไรน่ะ”ซาสึเกะร้องถาม
“อ้อป่าวๆ ว่าแต่ทำไมวันนี้นารุโตะมันตื่นสายจัง ปกติก็สายอยู่แล้ว”
“’งั้นเดี๋ยวหนูไปเรียกให้เองละกัน”ซากุระว่าก่อนที่จะออกวิ่งไปตามบันได
......................................
ที่นี่ที่ไหนน่ะ?
ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้?
ป่ารกทึบ ต้นไม้สีเข้มแข่งกันชูยอดสูงเพื่อหลบแสงอาทิตย์จึงทำให้เกิดร่มเงาขนาดใหญ่
ที่แทบไม่มีแสงอาทิตย์รอดผ่านมาได้ ความชื้นรอบๆตัวชักทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกไม่ดี
เสียงแมลงและสัตว์มีพิษที่ดังแววๆอยู่รอบตัวทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกถึงอันตรายรอบด้าน
//ป่าดงดิบเหรอ?//
เด็กหนุ่มมองซ้ายมองขวาสำรวจรอบตัวอีกครั้ง
เสียงหยดน้ำค้างยามเช้าหยุดลงทีละเม็ดจากยอดไม้ที่สูงที่สุดลดหลั่นกันลงมาจนถึงพื้นหญ้า....
บรรยากาศอึมครึ่มของป่าแห่งนี้เริ่มทำให้นารุโตะชักรู้สึกใจไม่ดี
ชี่~ชี่ๆ~
เสียงประหลาดเสียงหนึ่งดังขึ้นกะทันหันจนหัวใจเด็กหนุ่มกระตุกวูบ
อะไรน่ะ....!?
นินจาเป็นพวกที่มีประสาทสัมผัสเหนือกว่ามนุษย์ปตุชนธรรมดาอยู่แล้ว
ยิ่งคนที่ฝันอยากจะเป็นโฮคาเงะอย่างเขายิ่งรู้สึกถึงมัน!!
เร็วเท่าความคิด นารุโตะหันขวับกลับไปหาต้นเสียงทันที!!
งูตัวยักษ์สีขาวเผือกกำลังจ้องเขาอยู่ในระยะประชิดที่ห่างกันแค่ครึ่งเมตร!!!
ขยับสิ...ขยับสิ ไอ้ร่างบ้าขยับสิ!!!
เด็กหนุ่มตัวแข็งทื่อ ยืนตะลึงกับงูตัวใหญ่ยักษ์ที่จ้องมองเขาอยู่ด้วยดวงตาสีขาวอมม่วงของมัน
.........................................
เฮือก!!!
เด็กหนุ่มผมเหลืองสะดุ้งเฮือกขึ้นมาจากเตียงพร้อมใบหน้าที่ชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ
//ฝัน!?//
”นารุโตะตื่นได้แล้ว จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหนห๊า!!!”
“อา...ซากุระจัง...ตื่นแล้วๆๆจะไปเดี๋ยวนี้แหละ!!!”
นารุโตะรีบสะลัดเรื่องฝันไร้สาระเมื่อครู่ทิ้งไปทันที
ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงอย่างรวดเร็วแล้วคว้าเสื้อที่ถอดทิ้งไว้ตอนก่อนนอนขึ้นมาใส่
นารุโตะพุ่งเข้าหาประตูพร้อมกับคว้าลูกบิด...
โป๊ก!!
“โอ๊ย!!”เสียงหวานปริศนาดังขึ้น
//เสียงอะไรน่ะ!?//
“อูย...เจ็บจัง...”เสียงหวานปริศนาดังขึ้นอีกครั้ง
มันดังมาจากมือขวาของเขา...
“เฮ้ย!!?”
มือขวาของเขาที่เคยมีนิ้ว5นิ้วกลับกลายสภาพเป็นเด็กสาว!!
เด็กสาวผิวหิมะ ดวงตาสีขาวอมม่วงกำลังใช้มือทั้ง2ข้างกุมหัวไว้อย่างเจ็บปวด
ที่หัวไปกระแทกเข้าให้กับลูกบิดประตูเมื่อครู่
ผมทรงหน้าม้าที่ดูกระเซิงเล็กน้อยเป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ดีว่าเธอพึ่งตื่นนอน
ยิ่งไปกว่านั้นบนร่างเด็กสาวยังไร้ซึ่งอาภรณ์ใดมาปิดบังจากสายตาของเด็กหนุ่ม
“ที่นี่ที่ไหนเนี่ย.....นะ นารุโตะคุงO //// O!!!!”
.................
ณ ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
“แปลกใจจัง....วันนี้พวกนายนึกยังไงชวนพวกชั้นมาเนี่ย”
มัจฉาร้องถามเพราะจู่ๆ วันนี้วิศนะกับแครอทก็ชวนเธอและวิริยามาทานมาอาหารเย็น..
“เป็นแฟนกันก็ต้องดูแลกันสิ...”วิศนะเอ่ย
มัจฉาที่ได้ฟังดังนั้นก็ยิ้มอย่างพอใจ ในขณะที่วิริยากับแครอทก็ยังคงนิ่ง...นิ่ง....และนิ่ง...
(สาบานว่าถ้า2คนนี้มีลูกออกมาลูกมันต้องเป็นง่อยแน่)
“รับอะไรดีครับ”บริกรชายโผล่ออกมาได้จังหวะ
“ชั้นเลี้ยงเองนะ”วิศนะว่าพลางยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วเอ่ยปากสั่ง
เมนูแรกๆก็เป็นอาหารพื้นๆเช่นข้าวผัดปูแต่พอถึงจานเด็ด....
“หัวปลาหม้อไฟ”
มัจฉาคิ้วกระตุก...เมื่อรู้ว่าอาหารเมนูนี้ของวิศนะมีความหมายบางอย่างแฝงอยู่
มัจฉาจึงจัดการตลบหลังทันที
“ใส่พริกเยอะๆ นะ....ชั้นชอบ”
มัจฉากล่าวพลางยิ้มให้วิศนะ คำพูดฟังดูเหมือนจะธรรมดาๆ
หากแต่หนูพริกที่รู้ความหมายของอีกฝ่ายดีสะดุ้งเฮือก...
“แล้วคุณผู้ชายท่านนี้ละครับจะรับอะไรดี”บริกรหันมาถามแครอทที่นั่งนิ่ง
“กระต่ายแป๊ะซะ...”
วิริยาที่โดนจู่โจมกระทันหันสะดุ้งก่อนหันมามองหน้าแครอท...
“ใส่แครอทเยอะๆ ด้วยล่ะ”วิริยาสั่งพลางจ้องหน้าแครอท
อีกมุมหนึ่งของร้านอาหาร
“มันพาคุณหนูมาทานข้าว...มันคิดจะล่อลวงคุณหนูหรือเปล่า..”
ปอนด์พูดพึมพำส่วนตาก็มองวิศนะไม่กระพริบ
“งั่มๆๆๆๆ!!!”ปุยและตะวันทั้งสองตะกุยอาหารเข้าปากกันอย่างบ้าคลั่ง.
“ต้องจับตาดูให้ดี มันอาจจะทำอะไรมิดีมิร้ายกับคุณหนูก็ได้...”
“งั่มๆๆๆๆ!!”ตะวันกับปุยก็ยังกินต่อไม่สนใจ
“พวกเราต้องปกป้องคุณหนูจากไอ้บ้านั้นให้ได้.....”
“งั่มๆๆๆๆๆ!!!”
ผัวะ! ผัวะ!
“พวกเอ็งฟังชั้นอยู่รึเปล่าฟะ!!!”ปอนด์ตวาดน้องๆ เสียงโหด
“โหยพี่~”ทั้ง2โอดครวญ
“นึกว่าเสียงกุ๊ยที่ไหน...ที่แท้ก็ไอ้บ้าปอนด์นี่เอง”
เสียงหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของผู้พิทักษ์ทั้ง3แห่งคาบัลโรเน่
“ไอเลวเฟรม....”ทันทีที่ปอนด์น้อยได้ยินเสียงของคู่อริ ปากก็ด่าออกไปโดยอัตโนมัติ
“แก๊ว่าใครห๊า!!”ผู้พิทักษ์พิรุณกระชากคอปอนด์น้อย
“ท่าจะโง่ ก็ว่ามึงไง!!!”
“เป็นแค่เบ้เจ้าของบริษัทประกันภัย
อย่ามาทำเทียบรัศมีกับผู้พิทักษ์พิรุณของแก๊งคาบัลโรเน่นะเฟ้ย!!”
“เฟรม ปอนด์อย่าตีกัน~!!”zCGzกับเต้ยเข้ามาห้าม
ในขณะที่น้องรักอีก2คนของปอนด์ก็ยังคงฉะอาหารที่ปอนด์น้อยประกาศจะเลี้ยง
เนื่องในโอกาสฉลองที่ออกจากคุก
ระหว่างที่ด้านนี้กำลังเกิดการตีกันชุลมุน บริกรก็นำอาหารมาเสิร์ฟโต๊ะของวิศนะ
“หัวปลาหม้อไฟครับ”
ทันทีที่อาหารจานเด็ดถูกเสิร์ฟวิศนะก็จัดการตักมันใส่จาน
แล้วนำเข้าปากเขี้ยวโชว์มัจฉาดังหงุบๆ
ตาของวิศนะมองมัจฉาอย่างหยิ่งผยอง....ว่าแต่...ทำไมมันเผ็ดงี้ฟะ!!!!
ไม่ได้ๆจะแสดงออกไม่ได้...ไม่งั้นเสียหน้ายัยนี่แน่
หนอย....ใส่พริกซะเยอะ แล้วตูจะกินยังไงฟะ
ทั้งความกดดันทั้งความเผ็ดทำให้วิศนะเหงื่อแตกพลั่กๆ
ในขณะที่มัจฉากำลังส่งยิ้มหวานให้วิศนะราวกับจะยั่วโมโห
“ยิ้มอะไรฟะ!!”วิศนะที่เหงือแตกท้วมตัวร้อง
“ก็.....”มัจฉาเกริ่นขณะตักพริกแห้งเม็ดโตขึ้นมาจากหม้อไฟ
“เฮ้ย!!!”
วิศนะร้องลั่นร้านเมื่อมัจฉาโยนพริกเม็ดนั้นเข้าปากแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ
“เป็นไรซะละชิลลี่ ทำหน้าซะอย่างกับเห็นผี”
มัจฉายิ้มหวานขณะเขี้ยวพริกเม็ดดังกล่าวราวกับไม่รู้สึกถึงความเผ็ดของมันแม้แต่น้อย
“กระต่ายแป๊ะซะครับ”เสียงบริกรดังขึ้นพร้อมกับอาหารจานเด็ดอีกจานวางลงบนโต๊ะ
“ชั้นป้อนให้ไหม”แครอทร้องถามเสียงเจ้าเล่ห์ขณะตักเนื้อกระต่ายขึ้นมา
“แหม...เกรงใจแย่เลย...แต่ชั้นอยากให้เธอได้ชิมมากกว่านะ...รสชาติของกระต่าย”
วิริยายิ้มยั่วขณะตักเนื้อกระต่ายขึ้นมาเหมือนกันแล้วนำมันไปจ่อที่ปากของแครอท
“ฮึ่ม!!”แครอทนึกด่าตัวเองในใจที่ต้องมาเสียท่ายัยกระต่ายตัวนี้ทุกที
“เอ้ากินซะสิ”วิริยาส่งยิ้มหวานๆที่หาได้ยากยิ่งให้
ขณะที่อีกมือก็ตักแครอทขึ้นมาเคี้ยวหงุบหงับอย่างสนุกปาก
...................
อ่า...ขอบคุณสำหรับทุกเม้นนะครับ จะพยายามแต่ง2เรื่องควบให้ได้
แต่ถ้าพล็อกอันไหนมันมาก่อนก็จะแต่งอันนั้นก่อนละกันครับ^^"
จา...จะบอกว่า....
ว่า...วะ...ว่า
ชั้น...ชั้น....
ชั้นชอบเธอนะ....
เฮ้อ~ทีพูดในใจละพูดได้
แต่ทำไมเวลาเจอนารุโตะคุงทีไรเราถึงพูดไม่ได้นะ
เด็กสาวขี้อายอย่างเธอคงทำได้แค่นี้ละ ได้แต่เฝ้ามองเขาอยู่ห่างๆ
นารุโตะคุง....
................................
“อูย~เจ็บจังเลยมุคุโร่คุง”
บอสนักกินมาสเมโล่ของเหล่าไวท์สเปลโอดครวญ
หลังจากที่ซัดกับฮาตาเกะ คาคาชิในหัวข้อเรื่อง”สับปะรดลูกนี้ของกู”
//ไอ้สำออยทำเป็นเรียกคะแนนความสงสาร//
คาคาชิกัดเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างหงุดหงิดใจ
ขณะมองมุคุโร่ที่กระวี้กระว้ายเข้าไปดูอาการของเบียคุรัน
ทั้งๆที่เขาเองก็เจ็บตัวไม่แพ้มันแท้ๆ
“อะเออ...แล้วคุณโคลมละครับ”คาคาชิร้องเรียกหาสัปป้าตัวแม่
“คือว่า...”มุคุโร่กำลังจะพูดหากแต่...
“ครูคาคาชิค่ะ!!!”เสียงหนึ่งดังขึ้นขัดจังหวะ
“ให้พวกเรารอเก้ออยู่ตั้งนานที่แท้ก็หลบมาหลี้หนุ่มเองเหรอ!!”
น้ำเสียงที่ไม่มีความเคารพในตัวอาจารย์แม้แต่น้อยของเจ้าลูกชิ้นญี่ปุ่นดังตามมาติดๆ
“ถึงว่าละ...อย่างนี้ใช่ไหมที่เขาเรียก3P”
ซาสึเกะใช้สายตาไล่มองตั้งแต่คาคาชิ มุคุโร่ยันเบียคุรัน
“เฮ้ย ไม่ใช่นะๆ พวกเธอกำลังเข้าใจชั้นผิด!!”
//ตายละหว่า หมดกันภาพลักษณ์ครูของตู//
...............................
วันรุ่งขึ้น....
ภารกิจระดับ:A
เนื้อหา:คุ้มกันและเป็นกำลังเสริมให้กับคาบัลโลเน่
ผู้รับมอบ:หน่วย7
-อุสึมากิ นารุโตะ
-ฮารุโนะ ซากุระ
-อุจิวะ ซาสึเกะ
ผู้ดูแล:ฮาตาเกะ คาคาชิ
“ห๊า ภารกิจเนี่ยนะ”โจนินหนุ่มร้องงงๆ
“ก็ผู้พิทักษ์อัสนีของคาบัลโรเน่ได้ติดต่อไปยังท่านโฮคาเงะว่าทางอิวะได้เข้าร่วมกับแฟมิลี่อื่น
เข้าโจมตีคาบัลโลเน่ จึงให้พวกเรามาเป็นกำลังเสริมเพื่อดูท่าทีน่ะค่ะ”ซากุระอธิบาย
//เออแหะ....แต่งี้ก็ดีจะได้อยู่กับมุคุโร่คุงแล้วก็หนูโคลมด้วย> //// <//
คาคาชิคิดไปก็ยิ้มระรื่นไปจนผ้าปิดปากปิดรอยยิ้มไม่มิด
“ยิ้มอะไรน่ะ”ซาสึเกะร้องถาม
“อ้อป่าวๆ ว่าแต่ทำไมวันนี้นารุโตะมันตื่นสายจัง ปกติก็สายอยู่แล้ว”
“’งั้นเดี๋ยวหนูไปเรียกให้เองละกัน”ซากุระว่าก่อนที่จะออกวิ่งไปตามบันได
......................................
ที่นี่ที่ไหนน่ะ?
ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้?
ป่ารกทึบ ต้นไม้สีเข้มแข่งกันชูยอดสูงเพื่อหลบแสงอาทิตย์จึงทำให้เกิดร่มเงาขนาดใหญ่
ที่แทบไม่มีแสงอาทิตย์รอดผ่านมาได้ ความชื้นรอบๆตัวชักทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกไม่ดี
เสียงแมลงและสัตว์มีพิษที่ดังแววๆอยู่รอบตัวทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกถึงอันตรายรอบด้าน
//ป่าดงดิบเหรอ?//
เด็กหนุ่มมองซ้ายมองขวาสำรวจรอบตัวอีกครั้ง
เสียงหยดน้ำค้างยามเช้าหยุดลงทีละเม็ดจากยอดไม้ที่สูงที่สุดลดหลั่นกันลงมาจนถึงพื้นหญ้า....
บรรยากาศอึมครึ่มของป่าแห่งนี้เริ่มทำให้นารุโตะชักรู้สึกใจไม่ดี
ชี่~ชี่ๆ~
เสียงประหลาดเสียงหนึ่งดังขึ้นกะทันหันจนหัวใจเด็กหนุ่มกระตุกวูบ
อะไรน่ะ....!?
นินจาเป็นพวกที่มีประสาทสัมผัสเหนือกว่ามนุษย์ปตุชนธรรมดาอยู่แล้ว
ยิ่งคนที่ฝันอยากจะเป็นโฮคาเงะอย่างเขายิ่งรู้สึกถึงมัน!!
เร็วเท่าความคิด นารุโตะหันขวับกลับไปหาต้นเสียงทันที!!
งูตัวยักษ์สีขาวเผือกกำลังจ้องเขาอยู่ในระยะประชิดที่ห่างกันแค่ครึ่งเมตร!!!
ขยับสิ...ขยับสิ ไอ้ร่างบ้าขยับสิ!!!
เด็กหนุ่มตัวแข็งทื่อ ยืนตะลึงกับงูตัวใหญ่ยักษ์ที่จ้องมองเขาอยู่ด้วยดวงตาสีขาวอมม่วงของมัน
.........................................
เฮือก!!!
เด็กหนุ่มผมเหลืองสะดุ้งเฮือกขึ้นมาจากเตียงพร้อมใบหน้าที่ชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ
//ฝัน!?//
”นารุโตะตื่นได้แล้ว จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหนห๊า!!!”
“อา...ซากุระจัง...ตื่นแล้วๆๆจะไปเดี๋ยวนี้แหละ!!!”
นารุโตะรีบสะลัดเรื่องฝันไร้สาระเมื่อครู่ทิ้งไปทันที
ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงอย่างรวดเร็วแล้วคว้าเสื้อที่ถอดทิ้งไว้ตอนก่อนนอนขึ้นมาใส่
นารุโตะพุ่งเข้าหาประตูพร้อมกับคว้าลูกบิด...
โป๊ก!!
“โอ๊ย!!”เสียงหวานปริศนาดังขึ้น
//เสียงอะไรน่ะ!?//
“อูย...เจ็บจัง...”เสียงหวานปริศนาดังขึ้นอีกครั้ง
มันดังมาจากมือขวาของเขา...
“เฮ้ย!!?”
มือขวาของเขาที่เคยมีนิ้ว5นิ้วกลับกลายสภาพเป็นเด็กสาว!!
เด็กสาวผิวหิมะ ดวงตาสีขาวอมม่วงกำลังใช้มือทั้ง2ข้างกุมหัวไว้อย่างเจ็บปวด
ที่หัวไปกระแทกเข้าให้กับลูกบิดประตูเมื่อครู่
ผมทรงหน้าม้าที่ดูกระเซิงเล็กน้อยเป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ดีว่าเธอพึ่งตื่นนอน
ยิ่งไปกว่านั้นบนร่างเด็กสาวยังไร้ซึ่งอาภรณ์ใดมาปิดบังจากสายตาของเด็กหนุ่ม
“ที่นี่ที่ไหนเนี่ย.....นะ นารุโตะคุงO //// O!!!!”
.................
ณ ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
“แปลกใจจัง....วันนี้พวกนายนึกยังไงชวนพวกชั้นมาเนี่ย”
มัจฉาร้องถามเพราะจู่ๆ วันนี้วิศนะกับแครอทก็ชวนเธอและวิริยามาทานมาอาหารเย็น..
“เป็นแฟนกันก็ต้องดูแลกันสิ...”วิศนะเอ่ย
มัจฉาที่ได้ฟังดังนั้นก็ยิ้มอย่างพอใจ ในขณะที่วิริยากับแครอทก็ยังคงนิ่ง...นิ่ง....และนิ่ง...
(สาบานว่าถ้า2คนนี้มีลูกออกมาลูกมันต้องเป็นง่อยแน่)
“รับอะไรดีครับ”บริกรชายโผล่ออกมาได้จังหวะ
“ชั้นเลี้ยงเองนะ”วิศนะว่าพลางยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วเอ่ยปากสั่ง
เมนูแรกๆก็เป็นอาหารพื้นๆเช่นข้าวผัดปูแต่พอถึงจานเด็ด....
“หัวปลาหม้อไฟ”
มัจฉาคิ้วกระตุก...เมื่อรู้ว่าอาหารเมนูนี้ของวิศนะมีความหมายบางอย่างแฝงอยู่
มัจฉาจึงจัดการตลบหลังทันที
“ใส่พริกเยอะๆ นะ....ชั้นชอบ”
มัจฉากล่าวพลางยิ้มให้วิศนะ คำพูดฟังดูเหมือนจะธรรมดาๆ
หากแต่หนูพริกที่รู้ความหมายของอีกฝ่ายดีสะดุ้งเฮือก...
“แล้วคุณผู้ชายท่านนี้ละครับจะรับอะไรดี”บริกรหันมาถามแครอทที่นั่งนิ่ง
“กระต่ายแป๊ะซะ...”
วิริยาที่โดนจู่โจมกระทันหันสะดุ้งก่อนหันมามองหน้าแครอท...
“ใส่แครอทเยอะๆ ด้วยล่ะ”วิริยาสั่งพลางจ้องหน้าแครอท
อีกมุมหนึ่งของร้านอาหาร
“มันพาคุณหนูมาทานข้าว...มันคิดจะล่อลวงคุณหนูหรือเปล่า..”
ปอนด์พูดพึมพำส่วนตาก็มองวิศนะไม่กระพริบ
“งั่มๆๆๆๆ!!!”ปุยและตะวันทั้งสองตะกุยอาหารเข้าปากกันอย่างบ้าคลั่ง.
“ต้องจับตาดูให้ดี มันอาจจะทำอะไรมิดีมิร้ายกับคุณหนูก็ได้...”
“งั่มๆๆๆๆ!!”ตะวันกับปุยก็ยังกินต่อไม่สนใจ
“พวกเราต้องปกป้องคุณหนูจากไอ้บ้านั้นให้ได้.....”
“งั่มๆๆๆๆๆ!!!”
ผัวะ! ผัวะ!
“พวกเอ็งฟังชั้นอยู่รึเปล่าฟะ!!!”ปอนด์ตวาดน้องๆ เสียงโหด
“โหยพี่~”ทั้ง2โอดครวญ
“นึกว่าเสียงกุ๊ยที่ไหน...ที่แท้ก็ไอ้บ้าปอนด์นี่เอง”
เสียงหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของผู้พิทักษ์ทั้ง3แห่งคาบัลโรเน่
“ไอเลวเฟรม....”ทันทีที่ปอนด์น้อยได้ยินเสียงของคู่อริ ปากก็ด่าออกไปโดยอัตโนมัติ
“แก๊ว่าใครห๊า!!”ผู้พิทักษ์พิรุณกระชากคอปอนด์น้อย
“ท่าจะโง่ ก็ว่ามึงไง!!!”
“เป็นแค่เบ้เจ้าของบริษัทประกันภัย
อย่ามาทำเทียบรัศมีกับผู้พิทักษ์พิรุณของแก๊งคาบัลโรเน่นะเฟ้ย!!”
“เฟรม ปอนด์อย่าตีกัน~!!”zCGzกับเต้ยเข้ามาห้าม
ในขณะที่น้องรักอีก2คนของปอนด์ก็ยังคงฉะอาหารที่ปอนด์น้อยประกาศจะเลี้ยง
เนื่องในโอกาสฉลองที่ออกจากคุก
ระหว่างที่ด้านนี้กำลังเกิดการตีกันชุลมุน บริกรก็นำอาหารมาเสิร์ฟโต๊ะของวิศนะ
“หัวปลาหม้อไฟครับ”
ทันทีที่อาหารจานเด็ดถูกเสิร์ฟวิศนะก็จัดการตักมันใส่จาน
แล้วนำเข้าปากเขี้ยวโชว์มัจฉาดังหงุบๆ
ตาของวิศนะมองมัจฉาอย่างหยิ่งผยอง....ว่าแต่...ทำไมมันเผ็ดงี้ฟะ!!!!
ไม่ได้ๆจะแสดงออกไม่ได้...ไม่งั้นเสียหน้ายัยนี่แน่
หนอย....ใส่พริกซะเยอะ แล้วตูจะกินยังไงฟะ
ทั้งความกดดันทั้งความเผ็ดทำให้วิศนะเหงื่อแตกพลั่กๆ
ในขณะที่มัจฉากำลังส่งยิ้มหวานให้วิศนะราวกับจะยั่วโมโห
“ยิ้มอะไรฟะ!!”วิศนะที่เหงือแตกท้วมตัวร้อง
“ก็.....”มัจฉาเกริ่นขณะตักพริกแห้งเม็ดโตขึ้นมาจากหม้อไฟ
“เฮ้ย!!!”
วิศนะร้องลั่นร้านเมื่อมัจฉาโยนพริกเม็ดนั้นเข้าปากแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ
“เป็นไรซะละชิลลี่ ทำหน้าซะอย่างกับเห็นผี”
มัจฉายิ้มหวานขณะเขี้ยวพริกเม็ดดังกล่าวราวกับไม่รู้สึกถึงความเผ็ดของมันแม้แต่น้อย
“กระต่ายแป๊ะซะครับ”เสียงบริกรดังขึ้นพร้อมกับอาหารจานเด็ดอีกจานวางลงบนโต๊ะ
“ชั้นป้อนให้ไหม”แครอทร้องถามเสียงเจ้าเล่ห์ขณะตักเนื้อกระต่ายขึ้นมา
“แหม...เกรงใจแย่เลย...แต่ชั้นอยากให้เธอได้ชิมมากกว่านะ...รสชาติของกระต่าย”
วิริยายิ้มยั่วขณะตักเนื้อกระต่ายขึ้นมาเหมือนกันแล้วนำมันไปจ่อที่ปากของแครอท
“ฮึ่ม!!”แครอทนึกด่าตัวเองในใจที่ต้องมาเสียท่ายัยกระต่ายตัวนี้ทุกที
“เอ้ากินซะสิ”วิริยาส่งยิ้มหวานๆที่หาได้ยากยิ่งให้
ขณะที่อีกมือก็ตักแครอทขึ้นมาเคี้ยวหงุบหงับอย่างสนุกปาก
...................
อ่า...ขอบคุณสำหรับทุกเม้นนะครับ จะพยายามแต่ง2เรื่องควบให้ได้
แต่ถ้าพล็อกอันไหนมันมาก่อนก็จะแต่งอันนั้นก่อนละกันครับ^^"
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น