ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Executional เมนูอาหารวันนี้<ยำNaruto+Reborn+One piece+บลีช>

    ลำดับตอนที่ #8 : Hinata no kyubi

    • อัปเดตล่าสุด 2 ส.ค. 52


     
                   
    นารุโตะคุง...ชั้น...

    จา...จะบอกว่า....

    ว่า...วะ...ว่า

    ชั้น...ชั้น....

    ชั้นชอบเธอนะ....

    เฮ้อ~ทีพูดในใจละพูดได้

    แต่ทำไมเวลาเจอนารุโตะคุงทีไรเราถึงพูดไม่ได้นะ

    เด็กสาวขี้อายอย่างเธอคงทำได้แค่นี้ละ ได้แต่เฝ้ามองเขาอยู่ห่างๆ

    นารุโตะคุง....

    ................................

    “อูย~เจ็บจังเลยมุคุโร่คุง”

    บอสนักกินมาสเมโล่ของเหล่าไวท์สเปลโอดครวญ

    หลังจากที่ซัดกับฮาตาเกะ คาคาชิในหัวข้อเรื่อง”สับปะรดลูกนี้ของกู”

    //ไอ้สำออยทำเป็นเรียกคะแนนความสงสาร//

    คาคาชิกัดเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างหงุดหงิดใจ

    ขณะมองมุคุโร่ที่กระวี้กระว้ายเข้าไปดูอาการของเบียคุรัน

    ทั้งๆที่เขาเองก็เจ็บตัวไม่แพ้มันแท้ๆ

    “อะเออ...แล้วคุณโคลมละครับ”คาคาชิร้องเรียกหาสัปป้าตัวแม่

    “คือว่า...”มุคุโร่กำลังจะพูดหากแต่...

    “ครูคาคาชิค่ะ!!!”เสียงหนึ่งดังขึ้นขัดจังหวะ

    “ให้พวกเรารอเก้ออยู่ตั้งนานที่แท้ก็หลบมาหลี้หนุ่มเองเหรอ!!”

    น้ำเสียงที่ไม่มีความเคารพในตัวอาจารย์แม้แต่น้อยของเจ้าลูกชิ้นญี่ปุ่นดังตามมาติดๆ

    “ถึงว่าละ...อย่างนี้ใช่ไหมที่เขาเรียก3P”

    ซาสึเกะใช้สายตาไล่มองตั้งแต่คาคาชิ มุคุโร่ยันเบียคุรัน

    “เฮ้ย ไม่ใช่นะๆ พวกเธอกำลังเข้าใจชั้นผิด!!”

    //ตายละหว่า หมดกันภาพลักษณ์ครูของตู//

    ...............................

    วันรุ่งขึ้น....

    ภารกิจระดับ:A

    เนื้อหา:คุ้มกันและเป็นกำลังเสริมให้กับคาบัลโลเน่

    ผู้รับมอบ:หน่วย7

    -อุสึมากิ นารุโตะ

    -ฮารุโนะ ซากุระ

    -อุจิวะ ซาสึเกะ

    ผู้ดูแล:ฮาตาเกะ คาคาชิ

    “ห๊า ภารกิจเนี่ยนะ”โจนินหนุ่มร้องงงๆ

    “ก็ผู้พิทักษ์อัสนีของคาบัลโรเน่ได้ติดต่อไปยังท่านโฮคาเงะว่าทางอิวะได้เข้าร่วมกับแฟมิลี่อื่น

    เข้าโจมตีคาบัลโลเน่ จึงให้พวกเรามาเป็นกำลังเสริมเพื่อดูท่าทีน่ะค่ะ”ซากุระอธิบาย

    //เออแหะ....แต่งี้ก็ดีจะได้อยู่กับมุคุโร่คุงแล้วก็หนูโคลมด้วย> //// <//

    คาคาชิคิดไปก็ยิ้มระรื่นไปจนผ้าปิดปากปิดรอยยิ้มไม่มิด

    “ยิ้มอะไรน่ะ”ซาสึเกะร้องถาม

    “อ้อป่าวๆ ว่าแต่ทำไมวันนี้นารุโตะมันตื่นสายจัง ปกติก็สายอยู่แล้ว”

    “’งั้นเดี๋ยวหนูไปเรียกให้เองละกัน”ซากุระว่าก่อนที่จะออกวิ่งไปตามบันได

    ......................................

    ที่นี่ที่ไหนน่ะ?

    ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้?

    ป่ารกทึบ ต้นไม้สีเข้มแข่งกันชูยอดสูงเพื่อหลบแสงอาทิตย์จึงทำให้เกิดร่มเงาขนาดใหญ่

    ที่แทบไม่มีแสงอาทิตย์รอดผ่านมาได้ ความชื้นรอบๆตัวชักทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกไม่ดี

    เสียงแมลงและสัตว์มีพิษที่ดังแววๆอยู่รอบตัวทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกถึงอันตรายรอบด้าน

    //ป่าดงดิบเหรอ?//

    เด็กหนุ่มมองซ้ายมองขวาสำรวจรอบตัวอีกครั้ง

    เสียงหยดน้ำค้างยามเช้าหยุดลงทีละเม็ดจากยอดไม้ที่สูงที่สุดลดหลั่นกันลงมาจนถึงพื้นหญ้า....

    บรรยากาศอึมครึ่มของป่าแห่งนี้เริ่มทำให้นารุโตะชักรู้สึกใจไม่ดี

    ชี่~ชี่ๆ~

    เสียงประหลาดเสียงหนึ่งดังขึ้นกะทันหันจนหัวใจเด็กหนุ่มกระตุกวูบ

    อะไรน่ะ....!?

    นินจาเป็นพวกที่มีประสาทสัมผัสเหนือกว่ามนุษย์ปตุชนธรรมดาอยู่แล้ว

    ยิ่งคนที่ฝันอยากจะเป็นโฮคาเงะอย่างเขายิ่งรู้สึกถึงมัน!!

    เร็วเท่าความคิด นารุโตะหันขวับกลับไปหาต้นเสียงทันที!!

    งูตัวยักษ์สีขาวเผือกกำลังจ้องเขาอยู่ในระยะประชิดที่ห่างกันแค่ครึ่งเมตร!!!

    ขยับสิ...ขยับสิ ไอ้ร่างบ้าขยับสิ!!!

    เด็กหนุ่มตัวแข็งทื่อ ยืนตะลึงกับงูตัวใหญ่ยักษ์ที่จ้องมองเขาอยู่ด้วยดวงตาสีขาวอมม่วงของมัน

    .........................................

    เฮือก!!!

    เด็กหนุ่มผมเหลืองสะดุ้งเฮือกขึ้นมาจากเตียงพร้อมใบหน้าที่ชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ

    //ฝัน!?//

    ”นารุโตะตื่นได้แล้ว จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหนห๊า!!!”

    “อา...ซากุระจัง...ตื่นแล้วๆๆจะไปเดี๋ยวนี้แหละ!!!”

    นารุโตะรีบสะลัดเรื่องฝันไร้สาระเมื่อครู่ทิ้งไปทันที

    ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงอย่างรวดเร็วแล้วคว้าเสื้อที่ถอดทิ้งไว้ตอนก่อนนอนขึ้นมาใส่

    นารุโตะพุ่งเข้าหาประตูพร้อมกับคว้าลูกบิด...

    โป๊ก!!

    “โอ๊ย!!”เสียงหวานปริศนาดังขึ้น

    //เสียงอะไรน่ะ!?//

    “อูย...เจ็บจัง...”เสียงหวานปริศนาดังขึ้นอีกครั้ง

    มันดังมาจากมือขวาของเขา...

    “เฮ้ย!!?”

    มือขวาของเขาที่เคยมีนิ้ว5นิ้วกลับกลายสภาพเป็นเด็กสาว!!

    เด็กสาวผิวหิมะ ดวงตาสีขาวอมม่วงกำลังใช้มือทั้ง2ข้างกุมหัวไว้อย่างเจ็บปวด

    ที่หัวไปกระแทกเข้าให้กับลูกบิดประตูเมื่อครู่

    ผมทรงหน้าม้าที่ดูกระเซิงเล็กน้อยเป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ดีว่าเธอพึ่งตื่นนอน

    ยิ่งไปกว่านั้นบนร่างเด็กสาวยังไร้ซึ่งอาภรณ์ใดมาปิดบังจากสายตาของเด็กหนุ่ม

    “ที่นี่ที่ไหนเนี่ย.....นะ นารุโตะคุงO //// O!!!!”

    .................

    ณ ร้านอาหารแห่งหนึ่ง

    “แปลกใจจัง....วันนี้พวกนายนึกยังไงชวนพวกชั้นมาเนี่ย”

    มัจฉาร้องถามเพราะจู่ๆ วันนี้วิศนะกับแครอทก็ชวนเธอและวิริยามาทานมาอาหารเย็น..

    “เป็นแฟนกันก็ต้องดูแลกันสิ...”วิศนะเอ่ย

    มัจฉาที่ได้ฟังดังนั้นก็ยิ้มอย่างพอใจ ในขณะที่วิริยากับแครอทก็ยังคงนิ่ง...นิ่ง....และนิ่ง...

    (สาบานว่าถ้า2คนนี้มีลูกออกมาลูกมันต้องเป็นง่อยแน่)

    “รับอะไรดีครับ”บริกรชายโผล่ออกมาได้จังหวะ

    “ชั้นเลี้ยงเองนะ”วิศนะว่าพลางยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วเอ่ยปากสั่ง

    เมนูแรกๆก็เป็นอาหารพื้นๆเช่นข้าวผัดปูแต่พอถึงจานเด็ด....

    “หัวปลาหม้อไฟ”

    มัจฉาคิ้วกระตุก...เมื่อรู้ว่าอาหารเมนูนี้ของวิศนะมีความหมายบางอย่างแฝงอยู่

    มัจฉาจึงจัดการตลบหลังทันที

    “ใส่พริกเยอะๆ นะ....ชั้นชอบ”

    มัจฉากล่าวพลางยิ้มให้วิศนะ คำพูดฟังดูเหมือนจะธรรมดาๆ

    หากแต่หนูพริกที่รู้ความหมายของอีกฝ่ายดีสะดุ้งเฮือก...

    “แล้วคุณผู้ชายท่านนี้ละครับจะรับอะไรดี”บริกรหันมาถามแครอทที่นั่งนิ่ง

    “กระต่ายแป๊ะซะ...”

    วิริยาที่โดนจู่โจมกระทันหันสะดุ้งก่อนหันมามองหน้าแครอท...

    “ใส่แครอทเยอะๆ ด้วยล่ะ”วิริยาสั่งพลางจ้องหน้าแครอท

    อีกมุมหนึ่งของร้านอาหาร

    “มันพาคุณหนูมาทานข้าว...มันคิดจะล่อลวงคุณหนูหรือเปล่า..”

    ปอนด์พูดพึมพำส่วนตาก็มองวิศนะไม่กระพริบ

    “งั่มๆๆๆๆ!!!”ปุยและตะวันทั้งสองตะกุยอาหารเข้าปากกันอย่างบ้าคลั่ง.

    “ต้องจับตาดูให้ดี มันอาจจะทำอะไรมิดีมิร้ายกับคุณหนูก็ได้...”

    “งั่มๆๆๆๆ!!”ตะวันกับปุยก็ยังกินต่อไม่สนใจ

    “พวกเราต้องปกป้องคุณหนูจากไอ้บ้านั้นให้ได้.....”

    “งั่มๆๆๆๆๆ!!!”

    ผัวะ! ผัวะ!

    “พวกเอ็งฟังชั้นอยู่รึเปล่าฟะ!!!”ปอนด์ตวาดน้องๆ เสียงโหด

    “โหยพี่~”ทั้ง2โอดครวญ

    “นึกว่าเสียงกุ๊ยที่ไหน...ที่แท้ก็ไอ้บ้าปอนด์นี่เอง”

    เสียงหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของผู้พิทักษ์ทั้ง3แห่งคาบัลโรเน่

    “ไอเลวเฟรม....”ทันทีที่ปอนด์น้อยได้ยินเสียงของคู่อริ ปากก็ด่าออกไปโดยอัตโนมัติ

    “แก๊ว่าใครห๊า!!”ผู้พิทักษ์พิรุณกระชากคอปอนด์น้อย

    “ท่าจะโง่ ก็ว่ามึงไง!!!”

    “เป็นแค่เบ้เจ้าของบริษัทประกันภัย

    อย่ามาทำเทียบรัศมีกับผู้พิทักษ์พิรุณของแก๊งคาบัลโรเน่นะเฟ้ย!!”

    “เฟรม ปอนด์อย่าตีกัน~!!”zCGzกับเต้ยเข้ามาห้าม

    ในขณะที่น้องรักอีก2คนของปอนด์ก็ยังคงฉะอาหารที่ปอนด์น้อยประกาศจะเลี้ยง

    เนื่องในโอกาสฉลองที่ออกจากคุก

    ระหว่างที่ด้านนี้กำลังเกิดการตีกันชุลมุน บริกรก็นำอาหารมาเสิร์ฟโต๊ะของวิศนะ

    “หัวปลาหม้อไฟครับ”

    ทันทีที่อาหารจานเด็ดถูกเสิร์ฟวิศนะก็จัดการตักมันใส่จาน

    แล้วนำเข้าปากเขี้ยวโชว์มัจฉาดังหงุบๆ

    ตาของวิศนะมองมัจฉาอย่างหยิ่งผยอง....ว่าแต่...ทำไมมันเผ็ดงี้ฟะ!!!!

    ไม่ได้ๆจะแสดงออกไม่ได้...ไม่งั้นเสียหน้ายัยนี่แน่

    หนอย....ใส่พริกซะเยอะ แล้วตูจะกินยังไงฟะ

    ทั้งความกดดันทั้งความเผ็ดทำให้วิศนะเหงื่อแตกพลั่กๆ

    ในขณะที่มัจฉากำลังส่งยิ้มหวานให้วิศนะราวกับจะยั่วโมโห

    “ยิ้มอะไรฟะ!!”วิศนะที่เหงือแตกท้วมตัวร้อง

    “ก็.....”มัจฉาเกริ่นขณะตักพริกแห้งเม็ดโตขึ้นมาจากหม้อไฟ

    “เฮ้ย!!!”

    วิศนะร้องลั่นร้านเมื่อมัจฉาโยนพริกเม็ดนั้นเข้าปากแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ

    “เป็นไรซะละชิลลี่ ทำหน้าซะอย่างกับเห็นผี”

    มัจฉายิ้มหวานขณะเขี้ยวพริกเม็ดดังกล่าวราวกับไม่รู้สึกถึงความเผ็ดของมันแม้แต่น้อย

    “กระต่ายแป๊ะซะครับ”เสียงบริกรดังขึ้นพร้อมกับอาหารจานเด็ดอีกจานวางลงบนโต๊ะ

    “ชั้นป้อนให้ไหม”แครอทร้องถามเสียงเจ้าเล่ห์ขณะตักเนื้อกระต่ายขึ้นมา

    “แหม...เกรงใจแย่เลย...แต่ชั้นอยากให้เธอได้ชิมมากกว่านะ...รสชาติของกระต่าย”

    วิริยายิ้มยั่วขณะตักเนื้อกระต่ายขึ้นมาเหมือนกันแล้วนำมันไปจ่อที่ปากของแครอท

    “ฮึ่ม!!”แครอทนึกด่าตัวเองในใจที่ต้องมาเสียท่ายัยกระต่ายตัวนี้ทุกที

    “เอ้ากินซะสิ”วิริยาส่งยิ้มหวานๆที่หาได้ยากยิ่งให้

    ขณะที่อีกมือก็ตักแครอทขึ้นมาเคี้ยวหงุบหงับอย่างสนุกปาก

    ...................

    อ่า...ขอบคุณสำหรับทุกเม้นนะครับ จะพยายามแต่ง2เรื่องควบให้ได้

    แต่ถ้าพล็อกอันไหนมันมาก่อนก็จะแต่งอันนั้นก่อนละกันครับ^^"
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×