ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    การกลับมาของนารุโตะ(Hinata+Naruto)

    ลำดับตอนที่ #6 : เกย์?-วิชาเล่นเกม

    • อัปเดตล่าสุด 17 ม.ค. 50


    ตอนที่6

    อาคารเรียนแหล่งเดียวที่ฟายพึ่งเคยมีโอกาสได้เห็นคืออาคารเรียนขนาดใหญ่ที่มีความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีของแคว้นมิโตะที่ว่ากันว่าเทคโนโลยีของแคว้นนี้นำสมัยกว่าแคว้นอื่นร่วม10กว่าปีบรรจุอยู่

    อาคารเรียนที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้ยืนต้นที่กำลังออกดอกสีฟ้าอ่อนบานสะพรั่นชุกชุมอยู่รอบๆอาคาร

    มีหินที่ใช้มาทำถนนที่ดูมีความหลั่งเหมือนทางเดินเข้าวัดญี่ปุ่นส่วนทางเดินในอาคารที่แคบๆไม่กว้างมากนักที่ปรูด้วยพรมสีน้ำเงินอ่อนนุ่ม ตามทางเดินจะมีประตูเป็นระยะๆ เบื้องหลังของประตูแต่ละบานไม่เหมือนกัน บ้างห้องเป็นห้องสมุดที่เก็บรวบรวมความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีบ้างห้องเป็นห้องปฏิบัติการ ประตูบานที่เชื่อมอาคารและพื้นที่ภายนอกเป็นประตูเลื่อนสีดำทึบที่ตอนนี้ถูกเลื่อนออกให้ร่างเกือบ10ร่างทอดกายกันเข้ามา

    "คราวนี้วิชาอะไรละ"

    เสียงคนไม่รู้เรื่องที่มีชื่อคล้ายสัตว์นิยมบริโภคหญ้าร้องถามคนรู้ดีที่ใส่แว่นซึ่งเดินอยู่ข้างๆเขา

    "คอม"คนใส่แว่นตอบง่ายๆแล้วเดินนำขบวนทั้งชั้นเข้าไปในอาคาร

    "อะไรคือคอม?"เสียงนี้ดังออกมาพร้อมกันแต่มันดังขึ้นคนละจุด

    จุดแรกมาจากฟายที่ถามนัท อีกจุดคือบัตเตอร์ที่ถามบลู

    "ก็คอมพิวเตอร์ไง"นัทและบลูตอบพร้อมกันแล้วหันมามองคู่สนทนาของตนด้วยสายตาที่เหมือนจะถามเป็นนัยๆว่า"นี่โง่หรือแกล้งโง่กันแน่"

    "แล้วไอคอมพิวเตอร์นี่มันคืออะไรละ= =""เสียงคำตอบของทั้งคู่เหมือนเสียงสวรรค์ที่ประทานคำตอบให้กับนัทและบลูรู้ว่า พวกนี้ไม่ได้แกล้งโง่

    "งั้น~นาย/เธอต้องมาดูเอง"บลูและนัทตอบพร้อมกันแล้วหยุดขบวนที่หน้าห้องที่มีป้ายเขียนไว้ว่า314

    นัมจัดการทำตัวเป็นประธานจัดการทำท่าตัดริบบิ้นหน้าห้องโดยมีเพื่อนๆในห้องส่องเสียงเฮฮาโดยมีเบนที่แหกปากเสียงดังเป็นต้นเสียงหลัก เมือเสียงเฮฮาลดลงนัทก็ก้มคำนับน้อยๆเหมือนกำลังจะเริ่มการแสดงอะไรสักอย่างเรียกเสียงฮาเสียงเป่าปากจากเพื่อนฝูงอีกระลอกได้เป็นอย่างดี ก่อนที่นัทจะเลื่อนประตูเลื่อนให้เปิดออก

    ภาพห้องด้านในหลังบานประตูเต็มไปด้วยอุปกรณ์บางอย่างที่ฟายไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิตวางเรียงกันเป็นแถวอย่างเป็นระเบียบบนโต๊ะ

    ซึ่งจากที่ฟายสังเกตแล้วมันแบ่งออกได้เป็น3ส่วนคือ 1ส่วนที่อยู่บนโต๊ะเป็นจอแบนราบและท่าทางบอบบาง

    ส่วนที่2คือแป้นอักษรที่มีตัวอักษรต่างๆร่วมไปถึงตัวเลข และอันสุดท้ายเป็นกล่องรูปทรง4เหลี่ยมขนาดใหญ่

    "เออ...มันใช้ทำอะไรน่ะ"

    "ความจริง~วิชานี้ไม่มีอาจารย์ จะว่าไปมันเหมือนวิชานั่งเล่นมากกว่า"ก้อนพูดออกมาบ้างแล้วเดินรี่เข้าไปจับจองเครื่องคนแรกโดยมีฟายตามไปติดๆเพื่อไปสังเกตการ

    ก้อนใช้นิ้วชี้กดปุ่มบ้างอย่างที่กล่องรูปทรง4เหลี่ยม เมื่อก้อนสัมผัสปุ่ม ปุ่มก็บุ๋มลงไปในตัวกล่องแล้วก็เกิดแสงบ้างอย่างขึ้นที่จอแบนราบเป็นรูปภาพสัญลักษณ์ต่างๆโดยมีลูกศรขนาดเล็กๆสีขาวอยู่กลางหน้าจอ

    //อ่ะ อะไรน่ะ//ฟายกับบัตเตอร์ร้องด้วยเสียงที่แสนฉงนในใจพร้อมกัน

    "ต่อเน็ตๆๆ"ก้อนบ่นพึมพำกับตัวเองแล้วอยู่ๆลูกศรกลางหน้าจอก็ขยับไปสัมผัสสัญลักษณ์บางอย่างที่อยู่ใน

    จอภาพ ขณะที่ก้อนกำลังต่อเน็ตนร.คนอื่นในห้องก็จัดการหาที่สิงสถิตของตัวเองแล้วเริ่มทำแบบก้อนกัน

    โดยที่ฟายเลือกนั่งเครื่องติดกับก้อนเพื่อคอยถามเรื่องเกี่ยวกับสิ่งทื่เรียกว่าเจ้าคอมพิวเตอร์

    "อย่าลืมกฎนะก้อน"เสียงนัทดังมาจากอีกมุมห้อง

    "เออๆ"ก้อนตะโกนตอบกลับไปอย่างไม่ค่อยใส่ใจ

    "กฏอะไร"ฟายถามก้อนขณะพยายามทำความเข้าใจกับแป้นที่มีอักษรตรงหน้าว่าตัวอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง

    "นี่เป็นอุปกรณ์สื่อสารความเร็วสูงอย่างหนึ่งน่ะนะ....ดูนี่"ก้อนตอบแล้วชี้บนหน้าจอให้ฟายดู

    ในหน้าซึ่งจอมีบทสนทนาโต้ตอบกันอยู่

    "สนุกก็เพราะกฎที่ห้ามบอกว่าคุยกะใครอยู่นี่ละ คนที่คุยคือคนที่ใช้เครื่องในห้องนี้น่ะละ มันเป็นเครือข่ายเชื่อมกันไงไอที่เรียกว่าเน็ตหรือชื่อเต็มคืออินเตอร์เน็ต"ก้อนอธิบาย ซึ่งก็พอให้ฟายพอเข้าใจเป้าหมายการทำงานของเจ้าเครื่องนี้ได้

    "แล้วจะคุยกะคนกดไงอ่ะ"ฟายถามก้อนอีกครั้งขณะลองจับสิ่งที่มีขนาดเท่าหนูตัวหนึ่งอยู่ข้างแป้นพิมพ์ ทันใดนั้นลูกศรกลางหน้าจอก็เกิดขยับ

    "ในคอมนี่จะมีโปรแกรมซึ่งก็คือชุดคำสั่งต่างๆเก็บไว้ โปรแกรมที่ใช้คุยกันก็เป็นหนึ่งในนั้น"ก้อนอธิบายต่อแล้วเคลื่อนหนูน้อยของฟายไปพร้อมๆกับลูกษรที่ขยับตามเจ้าหนูตัวน้อย ให้ไปสัมผัสกับสัญลักษณ์บางอย่างในคอม

    "จะเข้าโปรแกรมไหนนายก็เอาเจ้านี่ไปโดนที่สัญลักษณ์หรือshotcutของมันแล้วนายก็กดปุ่มซ้ายที่เจ้าหนูน้อยนี่"ก้อนอธิบายพร้อมๆกับหน้าจอที่เปลี่ยนไปเหมือนอยู่ในห้องสนทนาที่ใช้ภาษาเขียนเป็นภาษาสากลในการพูดคุยโต้ตอบกัน

    "อ่ะนั้นไง มีคนแอดเครื่องนายอ่ะ นายคุยกะเขาหน่อยจิ"ก้อนหันมาเห็นหน้าจอฟายมีหน้าต่างเด็งขึ้นมาก็จัดการรีบบอกก่อนจะมีคำถามจากฟาย

    "แล้ว~"

    "ก็พิมพ์ที่แป้นพิมพ์ไงไอฟาย"ก้อนหันมาตอบแบบหลอกด่าโดยใช้ชื่อของคนถูกด่าบังหน้าก่อนที่ฟายจะทันได้ถามจบ

    "ตูจะถามว่าพิมพ์เสร็จแล้วต้องกดอะไรมันถึงส่งข้อความเฟ้ย "ฟายจัดการชี้แจงคำถามที่ตัวเองต้องการคำตอบทำเอาก้อนหน้าแตกดังเพล้ง

    ...........

    "อ่ะๆแอดคอมให้เครื่องหนึ่งละ ทีนี้เธอก็กดที่แป้นพิมพ์นา~เสร็จแล้วก็กดEnterเป็นการส่งข้อความ"บลูจัดการอธิบายให้บัตเตอร์ฟังขณะจัดการแอดคอมเครื่องหนึ่งในห้องให้บัตเตอร์ลองใช้คอม

    "อืม~"บัตเตอร์นึกคำทักทายอยู่ก่อนว่าจะทักว่ายังไงดีจึงจะเหมาะสม

    ......................

    ก้อนชะโงกหน้ามาดู ขณะที่ฟายกำลังอ่านตัวหนังสือบนจอ

    "ดีค่ะ เหรอเอ~ดีคับ..ถามไรก่อนดีหว่า~อ้อใช้ มาอยู่ร.ร.นี้นานหรือยัง"ฟายนึกคำถามก่อนที่จะพิมพ์ลงแผ่นพิมพ์พลางคิดว่าทำไมคราวนี้การตั้งคำถามมันยากกว่าปกติ ทั้งที่ปกติเขาก็กระชากคอแล้วก็ตั้งคำถามเพื่อรีดเอาข้อมูลจากข้าศึกเป็นประจำ

    ...............................

    "ดีคับ...อืม~ถามว่าอยู่ร.ร.นี้นานหรือยังเหรอ~"บัตเตอร์พึมพำกับเองเองพลางเกาหัวแกรกๆซึ่งดูเหมือนเด็กสาวเป๋อๆกำลังคิดทบทวนเรื่องบ้างอย่างก่อนที่จะพิมพ์ตำตอบของตนเองลงไปอย่างทุลักทุเลเพราะต้องมาคอยนั่งจิ้ม

    ............................................

    "วันนี้วันที่2เหรอ เข้าก่อนเราวันหนึ่งเลยแฮะ  ฮื่มถามกลับมามั่งแฮะ เป็นผู้ชายหรือผู้หญิงเหรอ..."ฟายชะโงกดูหน้าจออย่างเริ่มนึกสนุกกับการคุยกับคนที่รู้ว่ามีตัวตนแต่ไม่สามารถเห็นหน้าได้

    แล้วพิมพ์ตอบกลับไปอย่างแคล้วคล่องด้วยการดูเพียงตำแหน่งขอตัวอักษรเพียงรอบเดียวก็เหมือนกับว่าเขาเคยใช้เครื่องนี้มานานแล้ว

    .......................................................

    "ชายเหรอ~อืม~ชื่อไรอ่ะ"

    บัตเตอร์กำลังจะมองหาตัวชอช้างเพื่อเริ่มต้นจิ้มแต่บลูที่นั่งอยู่เครื่องข้างๆรีบเข้ามาขัด

    "เขาห้ามบอกชื่อกันบัตเตอร์ งี้ก็ม่าหนุกดิ๊"บลูร้องบอกก่อนจะหันกลับไปดูจอของตัวเองที่มีข้อความเด้งขึ้นมา

    "อ้อ งั้นเหรอ ฉันผู้หญิงนะ....งั้นถามว่า~"บัตเตอร์พิมพ์บอกคู่สนทนาหนุ่มของต้นไปแล้วตั้งคำถามใหม่ขึ้นมา

    ..................................................

    "ฮึ่ม?รู้จักแคว้นฮิโนะคุนิหรือป่าว...อ้อเธอต้องเป็นคนแคว้นเดียวกับเราด้วยแน่ๆเลย"ฟายพึมพำกับตัวเองเมื่อดูคำถามของคู่สนทนาสาวที่เขากำลังจะตอบคำถาม  //ไม่รู้ได้ไงหว่า~เราเป็นนินจาในแคว้นนั้นนี่//ฟายคิดในใจก่อนที่จะตอบออกไปผ่านทางตัวอักษร

    .............................................................................

    "บ้านเกิดเขาเหรอ~ งั้นไว้เจอกันที่นั้นเราก็ต้องบริการเขาให้เต็มที่ไปเลย คิกๆแต่...ไม่ๆๆ เราไม่กลับไปหาท่านพ่อหรอก"บัตเตอร์วาดฝันที่จะจัดการบริการคู่สนทนาของเธอให้เต็มที่ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อรู้ว่าถ้าเธอกลับบ้านไปก็ต้องเจอพ่อที่บ้างานไม่มีเวลาให้เธออีกแน่

    ..........................................................................................

    เชื่อใจเพื่อน...ไม่ต้องการแย่งบทออกโรง(ศพ)ของเพื่อน...นี่คือความคิดที่ดูซื่อบริสุทธ์อย่างที่คนอ่านคิดไม่ถึงว่านารุโตะจะคิดได้เพราะโดยปกตินารุโตะนี่ละที่ชอบแย่งบทวิวาทกับคนอื่น  แต่อย่างไรก็ตามนินจาคิริก็ยังหมายจะปลิดชีวิตเหล่าเกะนินจาโคโนะฮะที่ไม่ได้สติสักตัวเฮ้ยคน(ชิโนะมันก็แมลงดีดีนี่ละ- - คิบะก็หมาชัดๆโจจิก็อย่างที่เราๆรู้กัน ชิกามารุก็ เซ็นทอ ฉลาดเป็นกรด อิโนะก็ ผีตะเคียน ซากุระเป็นผีตะนีเวอร์ชั่นโหน่ง55+ปล.อ่ะโหน่งมาแว้ว!!)

    โดยเหยื่อรายแรกคือเด็กสาวผมสีชมพูผู้มีหน้าผากกว้าง ดาบใหญ่ของนินจาคิริถูกง่างขึ้นเหนือศีรษะและฟาดลงตรงกลางแสกหน้าหมายจะฆ่าให้ตายโดยไม่ต้องเจ็บปวด!!

    วืด~~

    เสียงดาบวืดจากเป้าหมายผมสีชมพู ที่พลิกตัวหลบอย่างรวดเร็ว

    "ปูด~"เสียงปริศนาดังขึ้นจากตัวซากุระพร้อมๆกับตาสีเขียวมรกตที่ลืมตาตื่นขึ้น

    และแล้วอยู่ๆพวกเกะนินที่เหลือก็พาก็ได้สติ

    "ขยับตัวได้ยังไง!?"นินจาคิริที่ตอนนี้ทั้งสงสัยทั้งตกใจที่อยู่ๆแหล่ากะนินโคโนะฮะที่ตอนนี้ควรจะหมดสภาพไปแล้วกลับขยับตัวหลบการโจมตีเพื่อหมายปลิดชีวิตของเขาได้

    "หึๆ...ฉันเป็นนินจาแพทย์ไง...หน้าที่ช่วยทุกคนคือหน้าที่ของฉัน"ซากุระประกาศหน้าที่ของตัวเองอย่างภูมิใจ

    "เราใช้พิษละลายเข้าไปในไอน้ำ...พวกเราต้องใช้อุปกรณ์มากมายที่จะทำให้ยามันเกิดการระเหิดโดยที่สรรพคุณของก๊าซที่ได้เหมือนตัวยาแล้วเก็บมันไว้ในที่เก็บโดยเฉพาะเพื่อไม่ให้ก๊าซเบาบางหรือสลายตัวลงเพื่อที่จะได้ไม่มีสีหรือกลิ่น...เธอ...เธอไม่น่าจะมีอุปกรณ์..เธอทำได้ไงในเวลาอันสั้น"คนที่ทำท่าเหมือนจะเป็นนินจาคิริที่เป็นคนผลิตก๊าซสลบแบบที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาและกลิ่นที่แตกต่างจากยาพิษปกติร้องถามซากุระ

    ปล.ระเบิดควันที่มีพิษธรรมดาจะมีกลิ่นและสีทำให้ร่วมถึงเสียงตอนขว้างทำให้ไหวตัวทัน

    "ฉันมีวิธีของฉันแล้วกัน"ซากุระร้องออกมาสุดเสียงด้วยความหึกเหิม

    "ขอบใจนะซากุระ..."เหล่าเกะนินทั้งหลายขอบใจซากุระแล้วเตรียมตั้งท่าสวัดดิกะต้อนรับแขกที่ไม่ได้รับเชิญของพวกเขา

    "ว่าแต่...อะไรน่ะวิธีที่เธอช่วยเรา"ก่อนจะออกรบ เหล่าทหารกล้าได้ขอคำเฉลยจากแม่ทัพหัวเหม่งก่อน

    "เออ..."ซากุระอึดอัดอ้ำอึ้งที่จะตอบ

    "ว่ามาสิ!!"ด้วยความอยากรู้ เกะนินทั้งกลุ่มก็ช่วยกันเร่งรัด

    "ฉันตดน่ะ" สิ้นเสียงคำเฉลย เหล่าเกะนินโคโนะฮะร่วมไปถึงนินจาคิริกลุ่มที่อยู่ตรงหน้าก็แทบอยากบีบคอตายที่ตัวเองดมตดของคนหัวเหม่งเข้าไปเต็มปอด!!!!

    ตรงขามกับนารุโตะที่หัวเราะงอหาย

    ผ่านไป10นาที

    เกะนินที่นี่ก็สามารถขับไล่นินจาคิริไปได้...

    ฟรึบๆ

    "อย่าดิ้นสิ เฉยๆหน่อย"

    "อะ อืม"

    เสียงบ้างอย่างกำลังเครื่องไหวและบทสนทนาบ้างอย่างอยู่หลังก่อไผ่ดงใหญ่ทำให้เกะนินทั้งกลุ่มตกใจผวารีบหันไปดูต้นเสียง

    ยิ่งกว่านั้นเสียงทั้ง2ที่ดังออกมานั่นดูคุ้นหูมาก

    "อะ อะไรน่ะ"อิโนะกับคิบะหันไปถามเพื่อนข้างๆซึ่งก็คือซากุระกับชิโนะเบาๆ

    ซึ่งคนที่ต้องรับบทตอบทั้ง2ก็จนใจที่จะหาคำตอบให้เพื่อนได้ แต่ชิโนะก็ทำท่าจะส่งแมลงออกไปดู

    "ไม่ต้อง"ชิกามารุแย้ง

    "เดี๋ยวเกิดเป็นตระกูลผู้ใช้แมลง มันอาจรู้ได้ว่ามีคนใช้แมลงอยู่ในกลุ่มเราด้วย"ชิการมารุชี้แจงเหตุผลจึงทำให้ชิโนะหยุดการกระทำของเขา

    หลังดงไผ่ที่เขียวชอุ่มและดูหนากว่าพุ่มไผ่ปกติ...ลมอุ่นๆพัดเข้ามาเป็นบางคราวทำให้ใบไผ่ลู่ไปตามสายลมชั่งดูยั่วยวนให้น้ำลายแพนด้าไหลอะไรอย่างนี้(อย่างกินอ่ะ)บรรยากาศที่ดูเงียบสงบตามธรรมชาติอยู่ๆก็เกิดชะงักลงเพราะมีการเคลื่อนไหวบ้างอย่างเกิดขึ้นที่หลังพุ่มไผ่หนานั้น

    "นารุโตะคุง..ทำแบบนี้จะดีเหรอ"เด็กสาวผมดำนามฮินาตะร้องถามเสียงตะกุกตะกักพร้อมใบหน้าที่แดงสาด

    "น่าๆ~ฉันไม่คิดอะไรกับเธอหรอก แค่อยากเล่นละครแกล้งพวกนั้นเล่น ขำๆนิดหน่อย..เอ้าอีกนิดๆอึ๊บ"เสียงนารุโตะดังออกมาข้างๆฮินาตะ ซึ่งจากเสียงนั้นก็สามารถบอกได้ว่าร่างของคนพูดคงอยู่ใกล้จนเรียกได้ว่าแทบแนบเนื้อเลยทีเดียวกับร่างของคู่สนทนา

    ฮินาตะถึงจะนึกเสียใจที่นารุโตะพูดว่า"ไม่ได้คิดอะไร" แต่ก็ยังเต็มใจทำในสิ่งที่นารุโตะต้องการ

    "โอ๊ย"ฮินาตะร้องออกมาในจังหวะที่นารุโตะสามารถสวมบางสิ่งลงบนส่วนหัวเธอได้สำเร็จ

    "โทษๆฉันทำเธอเจ็บเหรอ โทษทีนะ ไอนี่มันเล็กไปหน่อย"นารุโตะขอโทษขอโพยฮินาตะเป็นการใหญ่

    "มะ ไม่เป็นไรจ๊ะ"ซึ่งก็แน่นอนอยู่แล้ว ฮินาตะโกรธคนเป็นที่ไหนละ ยิ่งกับนารุโตะด้วยแล้วเธอไม่เคยแม้แต่จะคิด ที่สำคัญตอนนี้เธอก็คิดว่าท่าทางของนารุโตะที่กุลีกุจอขอโทษขอโพยเธอเป็นการใหญ่นั้นดูน่ารักเสียด้วยซ้ำ

    "อ๊า~~ใช้ๆ ตรงนี้ละ...แค่นี้คงใช้ได้แล้วละ"นารุโตะร้องออกมาด้วยน้ำเสียงแสดงความดีใจจนออกนอกหน้าขณะพยายามจัดสิ่งที่สวมอยู่บนส่วนหัวของฮินาตะให้ดูเข้าที่เข้าทาง

    ในขณะที่หน้าของฮินาตะดูปั่นยากจนน่าตลก

    "พวกนั้นจะทำหน้ายังไงน๊า~ เอ้าฮินาตะทำตามอย่างที่พูดนะ"นารุโตะพูดทิ้งท้ายก่อนจะดันตัวฮินาตะที่ตอนนี้อยู่ในร่างของเนจิออกมาจากพุ่มไผ่หนา

    "อ้าวเนจินายมาด้วยเหรอ"คิบะ โจจิ และชิกามารุหันไปทักเมื่อเห็นการเคลื่อนไหวด้านหลังพุ่มไผ่

    "อะ อืม"เนจิตอบด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูไม่เหมือนเขาเท่าไหร่ มันสั่นด้วยความตื่นเต้นอะไรบ้างอย่างรวมถึงท่าทางที่ดูไม่มั่นใจและดูกังวลอะไรบ้างอย่าง ที่สำคัญตอนนี้หน้าของเนจิเป็นสีแดงระเรื่อเหมือนว่าอนาคตเขาต้องเจอบ้างสิ่งที่น่าขายหน้าหรือน่าอายก็ยิ่งทำให้ทุกคนเกิดระแวงขึ้นมา

    "ไม่เป็นไรๆไม่มีกลิ่นไอของจักระไหลออกมาแสดงว่าไม่ใช้วิชาแปลงร่างของพวกคิริแน่ น่าจะเป็นตัวจริง"

    ซากุระที่ท่าทางตอนนี้เชี่ยวชาญด้านจักรเป็นพิเศษร้องบอกเพื่อนในกลุ่มเบาๆ

    "นาย..มีธุระอะไร..ท่านซึนาเดะให้มาร่วมภารกิจกับพวกเราเหรอ"ชิโนะเปิดบทสนทนา

    "ปะ ป่าว~"เนจิซึ่งที่จริงเป็นฮินาตะตอบตะกุกตะกัก

    "ทุ๊กคน~~"นารุโตะอยู่ๆก็โผล่ออกมาไม่มีปี่ไม่มีขลุยจากหลังก่อไผ่เดียวกับเนจิ

    "อ้าว นารุโตะ ไม่ได้เจอกันนาน~"ทุกคนหันไปทักนารุโตะ แล้วก็คิดว่าวันนี้ดวงเฮงเจอคนรู้จักตั้ง2คน

    "กลับจากฝึกวิชากับท่านจิไรยะแล้วเหรอ"ซากุระรี่เข้ามาถาม

    "ช่าย~แต่ก็ชั่วคราวละ"นารุโตะตอบสบายๆ

    "แล้วเมื่อกี้...นายกับเนจิแอบทำไมน่ะ"

    ชิกามารุถามอย่างสงสัยกึ่งระแวงไม่ไว้ใจ ที่อยู่ๆก็มีคนรู้จักโผล่ออกมาถึง2คน

    "ก็~"ใบหน้าของนารุโตะมีสีชมพูระเรือและดูน่าขำสำหรับใครหลายคนแต่มันดูน่ารักจนหัวใจดวงหนึ่งเต้นถี่ยิบ

    "ก็~?"ทุกคนทวน

    "ฉัน..กับเนจิ..."

    "ยะ อย่าบอกพวกเขานะนารุโตะ"เนจิซึ่งที่จริงก็คือฮินาตะร้องห้ามไปตามบทที่นารุโตะให้

    "นารุโตะ...บอกไม่บอก"ซากุระเดินก้าว3ขุมเข้ามาหาแล้วบีบนิ้วดังกร๊อบๆเป็นการข่มขู่กันอย่างเลือดเย็นที่ซากุระรู้ดีว่านารุโตะไม่เคยรอดจากการขู่แบบนี้ของเธอเลย แล้วก็จริงๆนารุโตะกลืนน้ำลายดังเอื๊อกแล้วสารภาพออกมา

    "ฉะ ฉันกับเนจิ...เรามี..."นารุโตะสารภาพตะกุกตะกักกลัวทิ้งช่วงทำให้พวกเพื่อนๆต้องทวน

    "มี...?"

    "เรามีอะไรกัน"นารุโตะสารภาพออกมาด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อของเพื่อนทั้งกลุ่ม

    เนจิตอนนี้มีใบหน้าแดงสดซึ่งเป็นหลักฐานมัดตัวได้เป็นอย่างดี

    "จริงเหรอเนี่ย"คิบะร้องลั่น เขารู้นิสัยเนจิดี เขาไม่มีทางป็นเกย์แน่ ยิ่งนารุโตะที่แสนห้าวถึงปัจจุบันจะดูเรียบร้อยสุขุมยิ่งไม่มีทางแน่ เหล่าเกะนินที่ตอนนี้เหมือนตุ๊กตาที่โดนชักใยไปตามแผนของคนชอบแกล้งเพื่อนเอ่ยประโยคต่อไปนี้ขึ้นมาพร้อมกัน

    "พะ..พวกนาย2คน...เป็นเกย์!!!"

    ........................................
    แหะๆ
    ชอบเปล่า
    ชอบไม่ชอบก็อยู่ลืมเม้นนะ
    (ใครไม่เม้นขอให้ฝันว่าโดยแพนด้าเอาไผ่ฟาดหัว)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×