คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : กระสุนวงจักร&มวยอ่อน-การสนทนาบทแรก
ตอนที่5
“ พวกมึงเก็บด้วยนะถ้าปาไม่ลง”เสียงนัทร้องเตือนเพื่อนฝูงของตนที่กำลังเล่นปาแก้วน้ำให้ลงถังขยะอยู่อย่างสนุกสนานด้วยน้ำเสียงเป็นการเป็นงาน
“เออน่า~นายก็เล่นด้วยนี่ อย่าพูดแบบนี้ดิ๊เสีย’รมณ์หมด”อาร์ตร้องสวนกลับมาพร้อมกับทำหน้าขบขำน้อยๆ
“เออ...ว่ะ”นัทร้องออกมาเหมือนพึ่งนึกขึ้นได้แล้วหันมามองแก้วน้ำพลาสติกที่อยู่ในมือตัวเอง
แล้วจัดการปาจากระยะเกือบ10วา แต่ก็ไม่แม้แต่จะเฉียวถังขยะเลยแม้แต่น้อย
สวบ
เสียงแก้วน้ำพลาสติกถูกโยนลงในถังขยะความกว้าง3นิ้ว
“เย้ ของฉัน6วาเฟ้ย”ก้อนร้องออกมาพร้อมกับทำท่าเหมือนนักฟุตบอลในบอลโลก
เวลาส่งลูกบอลลอยเข้าประตูได้โดยมีพวกเพื่อนๆร้องส่งเสียงเครึกครื้นกันยกใหญ่ประมาณโฆษณาที่ว่า
”งานนี้มีเฮแน่นอน” โดยที่ผู้แข่งขันคนอื่นทั้งหลายเมื่อได้เห็นความไกลที่ก้อนปาลงก็เริ่มยอมแพ้กันเป็นแถว จนอาร์ตที่ตอนนี้ทำหน้าที่เหมือนโฆษบออกมาประกาศให้ทุกคนรู้กันทั่วหน้าถึงชัยชนะของก้อน
“งั้นวันนี้ผู้ชนะคือ...”
อาร์ตร้องบอกทุกคนด้วยเสียงอันดังแต่ยังไม่ทันจบประโยคก็เกิดเสียงๆหนึ่งดังขึ้นแทรก
สวบ
เสียงแก้วน้ำซึ่งปิดฝาแล้วข้างในยัดก้อนหินลงไปเพื่อเพิ่มจุดถ่วงลอยข้ามหัวทุกคนไป
ทำให้ทุกคนต้องหันไปมองตัวคนปา
“น้ำกล้วยปั่นที่นี่ก็อร่อยดีแฮะ”เสียงคนปาดังขึ้นห่างจากถังขยะร่วม10วา
“คือ..ฟาย”อาร์ตจัดการเปลี่ยนข้อมูลในประโยคเดิมในหัวแล้วต่อให้จบ
“โถ~อดชนะสิงี้ฉัน”ก้อนเดินคอตกไปนั่งข้างนัทที่โต๊ะไม้
คนในห้องเมื่อเห็นว่าคนปาคือใคร ก็รีบกรูกันเข้ามาฟายเหมือนผู้คนที่เห็นดาวซันโวฟุตบอลตัวเป็นๆออกมาเดินตามท้องถนนยังไงอย่างงั้น และ1ในไม่กี่เสียงก็คือ..
“โห..ทำได้ไงอ่ะฟาย”เสียงหวานที่ฟังดูนุ่มหูซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวร้องถามฟายเบาๆแต่ก็ยังสามารถแหวกเสียงเอะอะโวยวายดงลั่นของคนอื่นๆเข้ามาในโสตประสาทหูของฟายได้
ทำให้ฟายรีบหันไปมองหาต้นเสียง เจ้าของต้นเสียงคือเจ้าของสายตาแป๋วแหว๋วที่แสดงความอยากรู้เหมือนเด็กในห้องเรียนถามการบ้านข้อที่ตนทำไม่ได้กับอาจารย์
“เออ..”ฟายอึดอัดที่จะตอบเมื่อบัตเตอร์ซักถาม
“กะ...ก็~~ ก็..มองเป้าแล้วปา”
“ง่ายแค่เนี้ย!!!!”ทั้งห้องร้องออกมาพร้อมกันแล้วทำตาโตเท่าไข่ห่าน
“ก็...แค่นี้ไง ต้องมีไรมากกว่านี้อ่ะ”ฟายตอบแล้วรีบหลบตาบัตเตอร์ทันที
“อ้อ ลืมแนะนำตัว เราชื่อบัตเตอร์นะ”บัตเตอร์หันมาแนะนำตัว
“คะ ครับ”ฟายรีบหันตอบอย่างตะกุกตะกัก
“ไม่ต้อง”ครับ”ก็ได้ พวกเราเพื่อนห้องเดียวกันนี่นา”บัตเตอร์มองฟายอย่างขำขันก่อนเอ่ยประโยคนี้ออกมาพร้อมปล่อยรอยยิ้มที่ดูน่ารักสุดๆสำหรับฟายออกมา
//ง่า..เพื่อนมีเยอะแล้วอ่า//ฟายลอบคิดในใจแล้วหลบตาไปพร้อมๆกับหัวใจที่เต้นซอยถี่ยิบเหมือนกุ๊กมือ1ในภัตคารฝรั่งเศส5ดาวกำลังซอยพริกขี้หนู(ภัตคารฝรั่งเศสที่ไหนเสิร์ฟพริกขี้หนู- -)
“อ้อลืม ฉันบลู”บลูแนะนำตัวเองเหมือนพึ่งนึกขึ้นได้
“ฉันบี”เด็กสาวร่างท้วมเล็กน้อย นัยน์ตาบอกถึงความอบอุ่นแนะนำตัวเองต่อจากบลูแล้วมองฟายด้วยสายตาเป็นกันเองและดูถ่อมตัวน้อยๆ
เมื่อลูกทัวร์อย่างฟายดื่มน้ำกล้วยปั่นหมดแล้วพวกบลูหรือผู้นำทัวร์ก็เริ่มลากฟายไปแนะนำร้านอื่น
“นี่เป็นร้านอาหารน๊า~”บลูแนะนำพลางมองดูร้านขนาดใหญ่ซึ่งมีช่องบริการหลายสิบช่อง แต่ละช่องก็จะขายอาหารต่างๆกัน มีตั้งแต่อาหารพื้นเมืองไปจนถึงอาหารต่างแคว้น
“ตอนนี้ยังไม่มีคนลงมากินหรอก รีบไปกินกันก่อนดีก่า”มินิสาวร่างเล็กที่นัทปรามาสว่าxxxร้องบอกเพื่อนในกลุ่มตัวเอง
“อืม”บลูและบีตอบพร้อมกัน
......................................................
“อ๊ากกกกกกกกกกกก!?”
เสียงอูคอนร้องออกมาอย่างเจ็บปวด เมื่อถูกพี่ชายตัวเองซึ่งก็คือซาคอนเปลี่ยนแปลงเซลล์ในร่างกายเขา
“เฮ้ย?!! อูคอนแกมาอยู่นี่ได้ไงว่ะ”ซาคอนรีบเปลี่ยนเซลล์กลับเป็นของอูคอนอย่างรวดเร็วแล้วร้องถามอย่างฉงนแต่ไม่มีท่าทางสำนึกผิดต่อน้องชายของเขาที่นอนหอบแฮกๆอยู่กับพื้นเลยแม้แต่น้อย ตอนนี้เขากำลังต้องการคำตอบให้ข้อข้องใจกับสิ่งที่เขาเผชิญอย่างมาก เพราะแทนที่นินจาผมทองผู้พี่จะโดนเขากลืนเซลล์แต่กลับเป็นน้องชายฝาแฝดของเขาซะเอง
//คาถาสลับร่างเหรอ....ไม่สิคาถาลวงตา...งั้นแสดงว่าพวกนี้อยู่นอกคาถาลวงตาของทายูยะแต่แรกแล้วนะสิ...หรือไม่ใช้..พวกมันสามารถอยู่เหนือคาถาลวงตาได้ยังไง...//
คิมิมาโร่ซึ่งดูการต่อสู้อยู่วงนอกวิเคราะห์อย่างใจเย็นแต่ก็เก็บความดีใจที่จะได้สู้กับคนมีฝีมือไม่ได้
//2ตัวนั้นมันหายไปไหน!?//คิโดมารุหันซ้ายหันขวาอย่างใจอยู่ไม่สุขเมื่อนินจาทั้ง2คลาดสายตา
//ไม่เป็นไรน่า...ต่อให้มันหลุดจากอูคอนไปได้มันก็ผ่านคาถาของทายูยะไม่ได้หรอก//คิโดมารุที่ลืมคิดถึงจุดที่
คิมิมาโร่คิดกังวลอยู่ซึ่งก็คือ นินจาทั้ง2อยู่นอกพลังคาถาลวงตาของทายูยะ
แต่เมื่อคิโดมารุคิดเช่นนั้นอยู่ๆหมอกควันจากคาถาของทายูยะก็เริ่มบางตา
“เฮ้ย!!!”คิโดมารุร้องขึ้น
“ยัยนี่เล่นง่ายกว่าที่คิดนะพี่”เสียงนินจาคนน้องดังขึ้นขณะถอนสันมือออกจากต้นคอของทายูยะทามกลางกลุ่มหมอกที่เริ่มบางตา ร่างจากสภาวะที่2ที่มีรูปร่างไม่เหมือนมนุษย์เริ่มคลายตัว เขาขนาดใหญ่ที่อยู่บนหัวของเธอก็ค่อยๆหดเล็กลง จนจมหายเข้าไปในศีรษะ ร่างของเธอล่มลงบนพื้นแทบจะในทันทีที่คิซาตะหรือนินจาผมดำคนน้องถอนสันมือออก
“ก็ว่างั้นละ...คิดว่าจะมีลูกเล่นอะไรอีก อุส่าห์ยืนดูตั้งนาน”นินจาคนพี่ตอบ ขณะตรวจดูว่าทายูยะสลบจริงหรือป่าว
“เฮ้ย พวกแกไปอยู่นั้นได้ไง”ซาคอนกับอูคอนตะโกนออกมาโดยที่คิโดมารุกำลังแสดงแววตาที่ตื่นตระหนักออกมาอย่างเห็นได้ชัด
“พวกฉันก็อยู่ตรงนี้มาตลอดนั้นละ....”นินจาคนพี่หยักไหล่แล้วตอบความจริงที่ทำให้นินจาโอโตะที่เหลือขนลุกเกรียว
//งั้นก็หมายความว่าพวกมันอยู่นอกคาถาลวงตาจริงๆ!!//คิมิมาโร่คิดอย่างตื่นตะหนักไม่น้อย
//จักระที่เท่าเทียมหรือสูงกว่าพวกเรา คาถาลวงตาที่เหนือกว่าทายูยะ//คิมิมาโร่คิดต่อมาอย่างตื่นเต้น
//กะ..เก่ง//เสียงนี้ดังขึ้นในหัวของนินจาโอโตะขึ้นพร้อมกัน.
เฟี้ยว
มีดนินจาเล่มบาง พุ่งจากด้านบนลงมาทางหัวของคิมิมาโร่
//โจมตีถื่อๆเลยเหรอ คราวนี้หันมาเล่นกับฉันเหรอ
..สงสัยฉันจะ..คาดหวังมากเกินไปสำหรับเจ้าพวกนี้ซะแล้ว//
คิมิมาโร่คิดในใจ พลางหลบมีดสั้นที่พุ่งมาเป็นเส้นตรงอยางง่ายดาย
“เดี๋ยว!!!หรือว่า”คิมิมาโร่ที่พึ่งหลบมีดบินไปอยู่ๆก็เกิดเฉลียวใจขึ้นมารีบพุงทะยานออกจากบริเวณที่เขาพึ่งใช้เป็นที่ยืนวิเคราะห์การต่อสู้เมื่อครู่
ฉึก
เสียงมีดสั้นปักลงบนพื้น
บึม~~
มีดสั่นเล่มนั้นระเบิดออกมาด้วยเสียงดังสนั่นที่พอปลุกคนเกือบครึ่งหมู่บ้านให้ลุกขึ้นมาได้
//งี้นี่เอง...คาถาลวงตาซ้อนคาถาลวงตาสินะ//คนเก่งที่เกือบตายนึกอย่างหงุดหงิดที่ตัวเองประมาทมากจนเกือบได้บัตรชิงโชคลุ้นไปดิสนีแลนด์เมืองผี
“ทางซ้าย”เสียงนินจาผู้พี่ดังมาแต่ไกล เหมือนต้องการบอกตำแหน่งของเขาให้คิมิมาโร่รับรู้
//ซ้าย!?//คิมิมาโร่รีบหันตามก็พบนินจาคนพี่พุ่งเข้าหาเขาพร้อมดาบในมือ
“เพลงดาบ3ทิวาสายโคโนะฮะ!!!”นินจาคนพี่พุ่งมาหาคิมิมาโร่อย่างรวดเร็วและเหมือนโยกย้ายไปตามลมเหมือนวิญญาณอาฆาตที่มุ่งจะเอาชีวิตอริ ฝ่ายอริผมขาวก็ใช้กระดูกของตนเองที่งอกออกมาจากข้อมือเข้าต่อสู้
“ย๊ากกกกกกก”นินจาผมทองฟาดดาบอย่างคล่องแคล่วว่องไวใส่คิมิมาโร่ แต่ก็ไม่สามารถผ่านดาบกระดูกของคิมิมาโร่ได้
“เก่งนี่...ทั้งกระบวนท่าทั้งความเร็ว...ความแรง...”คิมิมาโร่กล่าวชมเชยในจังหวะที่อาวุธทั้ง2กำลังดันกันอยู่
“ขอบคุณ..แต่พวกฉันอยากตามพวกนั้นไปต่อแล้วละ...เอาไว้คราวหลังค่อยมาสู้กันนะ”นินจาผมทองพูดเหมือนไม่อยากเสียเวลา
“ไม่ง่ายงั้นหรอก ความแม่นยำ100%ความรุ่นแรง90%”คิโดมารุร้องออกมาพร้อมยิงธนูออกมาหวังโจมตีจากด้านหลัง
“ชิ”นินจาผู้พี่ร้องออกมาอย่างไม่ชอบใจที่ถูกขัดจังหวะการดวลตัวต่อตัวกับคิมิมาโร่
“ถอยไป ไอสวะ”เสียงตะโกนนี้ดังออกมาจากปากคิซาโตะหรือนินจาผู้พี่พร้อมกับลูกธนูที่อยู่ๆก็หยุดค้างอยู่กลางอากาศ
“อะไรกัน!?”คิมิมาโร่กับคิโดมารุถึงกับอึ้งที่อยู่ๆลูกธนูเหมือนลอยอยู่กลางอากาศ
“หันไปไหน คนที่จะชนะนายอยู่นี่”คิซาตะหรือนินจาผู้น้องร้องออกมาอย่างกวนโทสะทำให้คิมิมาโร่รีบหันไปดูก็พบว่าเบื้องลังร่างนินจาผมดำมีร่างที่สลบไม่ได้สติของพี่น้องฝาแฝดนักกลืนเซลล์
//เสร็จมันไปแล้วเหรอ!?//
พุ๊บ
“อุ๊บ!?”คิโดมารุกระอักเลือดออกมา โดยมีลูกธนูเสียบอยู่ที่ท้อง
“พวกแกเป็นผีหรือไง”
คิมิมาโร่เอ่ยถาม เมื่อเห็นนินจาผู้น้องทำท่าเหมือนบังคับให้ลูกธนูหยุดและหันกลับไปบินเสียบคิโดมารุได้
“ก็แค่การควบคุมจักระภายนอกร่างกายแค่นั้นเอง สมแล้วละ...พวกชอบแทงข้างหลังต้องเจอแทงข้างหลังดัดสันดานบ้าง...เอ้ามาสู้กันต่อได้แล้ว”
พลั๊ก
นินจาผู้พี่ตอบแทนแล้วใช้ดาบสั้น
ของตัวเองปัดกระดูกในมือคิมิมาโร่ไป แต่คิมิมาโร่อ่านไว้แล้ว จึงบังคับกระดูกในมือให้ปัดดาบสั้นของนินจาผมทองไปด้วย
เพราะเท่าที่เขารู้การต่อสู้ด้วยมือปล่าวยังไงเขาก็ยังได้เปรียบ เพราะเขาสามารถสร้างกระดูกอีกเมื่อไหร่ก็ได้
ในขณะที่นินจาผมทองไม่มีอาวุธคู่กายและท่าทางนินจาผมดำก็ไม่คิดจะก้าวก่ายการต่อสู้ของพวกเขาด้วย
“จบแน่ละนาย...”เสียงคิมิมาโร่ดังขึ้นขณะที่ดาบและกระดูกกระเด็นตกลงไปในน้ำ
“เหรอ~”คิซาโตะหรือนินจาผู้พี่ทำเสียงล้อเลียนขณะที่คิมิมาโร่กำลังจะชักกระดูกจากข้อมือออกมาแต่..
“มวยอ่อน8ทิศ64ฝามือ!!!!”คิซาโตะใช้วิชามวยอ่อนของตระกูลฮิงงะออกมาอย่างรวดเร็วและคล่องแคลวไม่แพ้อัฉริยะอย่างเนจิเลย
คิมิมาโร่พยายามปัดป้องแต่สุดท้ายก็พลาดท่าโดนปัดกระดูกในมือกระเด็นไป เขาจึ่งต้องอาศัยการหลบหลีกแล้วพยายามหาจังหวะหลบฉากออกมาเพื่อใช้กระดูกอีกครั้ง
“ไม่ให้หนีหรอก ฝ่ามือที่64!!!”
ผั๊ว
ผ่ามือสุดท้ายของคิซาโตะกระแทกเข้ากลางการ์ดที่เป็นกระดูกของคิมิมาโร่ที่งอกออกมาทันการพอดี
ทำให้คิมิมาโร่ถึงกับโดนแรงกระแทกผลักไปข้างหลังทั้งในสภาพใช้กระดูกป้องกันตัว
พลุบ
มือคู่1โผล่ขึ้นมาจากพื้นดินจับขาของคิมิมาโร่ไว้
“อ๊ะ!?”คิมิมาโร่ร้องขึ้นเบาๆอย่างตกใจปนสงสัย
หวิ้ง~~~~~~~~~~~~~~
เสียงจักระที่ถูกหมุนอย่างรวดเร็วดังขึ้นเสียงดัง ความรุนแรงของมันทำให้เกิดคลื่นลมพัดต้นไม้รอบข้างให้โยกไปเอนมาเหมือนกำลังถูกยักษ์กำลังส่ายต้นไม้เล่นอยู่
//อะไรกัน!!?//
“กระสุนวงจักร!!!!!!!”
คิซาโตะกู่ร้องออกมาเสียงดัง
พร้อมมือข้างขวาที่ยืนออกมาข้างหน้า บนมือของเขาเป็นก้อนจักระรูปทรงกลมก้อนใหญ่ที่ด้านในมีการหมุนไปมาอย่างรวดเร็วเหมือนอิเล็กตรอนที่วิ่งไปมาในอะตอม
ผลั๊ก
เพียงสัมผัสแรกกระสุนวงจักรของนินจาผมทองก็พังกระดูกที่เป็นโล่อันแข็งแกร่งของคิมิมาโร่หักดังผลั๊ก และเป้าหมายถัดไปของกระสุนวงจักระนี้ก็คือ..
“อ๊ากกกก”
คิมิมาโร่ถูกแรงหมุนของกระสุนวงจักรลอยออกไปแบบหมุนควงสว่างตามแรงหมุน
.............................
ป่าไผ่เขียวชอุ่มมียอดสูงร่วม10เมตรขึ้นชุกชุม ใบไผ่ปลิวว่อนไปตามลมอุ่นสบาย ทำให้บนพื้นเต็มไปด้วยใบไผ่ทั้งสีเขียวสดและสีเหลืองอ่อนจนไปถึงสีออกน้ำตาลแล้วบรรยากาศนี้ดูจะเหมาะเป็นทางเดินเล่นของที่ชายหญิงคู่หนึ่ง(และที่รับประทานไผ่ของแพนด้า)ซึ่งกำลังเดินผ่าน
“พะ พวกเขาอยู่นี่ละนี่ ”เด็กสาวผมดำพูดตะกุกตะกักด้วยความตื่นเต้นอะไรสักอย่าง
“เหมือน~นี่เดี๋ยวนี้พวกนี้ชอบนอนกลางวันกันเหรอดูสินิ่งเป็นรูปปั่นเลย”เด็กหนุ่มที่อาจเป็นสาเหตุของการตื่นเต้นเต็มที่ของเด็กสายเอ่ยออกมาอย่างแปลกใจที่เพื่อนฝูงที่ไม่ได้พบกันมานานปีของเขาอยู่ๆเกิดชอบนอนกลางวันกันขึ้นมา
“ฉันว่าท่าทางไม่ดีละ พวกเราสุ่มดูกันก่อนดีกว่านะฮินาตะ”เสียงที่ดูสุขุมเยือกเย็นที่ไม่น่าออกมาจากปากของอดีตจอมขี้โวยวายขณะมองดูกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่ออกมาจากที่กำบังและมีสัญลักษณ์ที่คาดหน้าผากเป็นของ
หมู่บ้านคิริงาคุเระ
“อืม”ฮินาตะตอบออกมาอย่างว่าง่าย
...........................
แกร๊บ
เสียงเหยียบใบไม้แห้งดังกร็อบแกร๊บดังมาแต่ไกลทำให้เด็กสาวผมสีชมพูที่คอยเหงียงหูฟังอยู่เกิดไหวตัว
//มากันแล้วเหรอ!?//
“ผสมยาสลบกับชาเข้าด้วยกันแล้วปดเป็นผงแล้วก็ละลายใส่ไอน้ำของอากาศนี่ยากนะว่าไหม”นินจาคิริคนหนึ่งถามออกมาพลางก้มหน้าลงดูคิบะที่ตกลงมาจากต้นไม้ด้วยท่าเหมือนยังนั่งอยู่บนต้นไม้
“ก็คุ้มนี่ ถึงยากก็เถอะ เก็บมันก่อนเหอะไม่ต้องเก็บไว้เป็นตัวประกันนะ”นินจาคิริคนเดียวกับตอนที่แล้ว(บรรยายง่ายไปมะ บรรยายงี้เหมือนขี้โกงไงไม่รู้- -“)ร้องเตือนพรรคพวก
แล้วหยิบดาบด้านยาวที่สะพายไว้บนบ่าออกมาอย่างช้าๆสายตาของเขาจับจ้องไปที่ร่างของเด็กสาวผมสีซากุระ
ที่นั่งนิ่งอยู่บนพื้น สายตาเหม่อลอยมองท้องฟ้า
“รีบไปช่วยพวกเขากันเถอะ”ฮินาตะเห็นเพื่อนของเธอและนารุโตะกำลังจะโดนฆ่าจึงรีบทำท่าจะออกจากก่อไผ่สีเขียวเข้มก่อใหญ่ที่เธออาศัยเป็นที่ซ่อนตัวอยู่กับนารุโตะโดยลืมการพูดตะกุกตะกักไปโดยสิ้นเชิง
แต่กับมีบางสิ่งจับเข้าที่ข้อมือเธอไว้
“ใจเย็น..ซากุระไม่ได้สลบแบบถาวร...นั้นคงเป็นผลจากยาอะไรสักอย่าง~”นารุโตะพูดขณะออกแรงดึงฮินาตะให้ลงมานั่งเหมือนเดิม
“ทะ ทำไมคิดอย่างนั้นละนารุโตะคุง”ฮินาตะกลับมาตะกุกตะกักอีกครั้งมือรู้ว่ามือที่ดึงมือของเธอให้เธอกลับมานั่งที่พื้นคือมือของนารุโตะ
“อืม~เห็นเซียนจ๊กม๊กบอกว่าซากุระเป็นลูกศิษย์ของป้าซึนาเดะน่ะนะ
ก็น่าจะมีวิชาแพทย์ติดตัว อีกอย่างถ้าข้อสันนิฐานแรกถูกต้อง..คนฉลาดอย่างซากุระคงไม่ยอมโดนยาพิษที่มันละลายเข้ามาปะปนในไอน้ำง่ายๆหรอก แต่ถ้าไม่เป็นอย่างนั้นขั้นจะใช้วิชาใหม่เข้าไปช่วยเอง”
นารุโตะร่ายเป็นชุด แต่จากการร่ายเป็นชุดของเขาก็ทำให้คนอ่านหลายคน(ร่วมถึงคนแต่ง-*-)
รู้ว่านารุโตะคนนี้แตกต่างจากคนเดิมโดยสิ้นเชิง ตั้งแต่ความสุขุมเยือกเย็นไปจนถึงการคิดที่เป็นระบบร่วมถึงการเชื่อใจเพื่อนฝูง
แต่สิ่งที่ทำท่าจะไม่มีวันเปลี่ยนไปเลยก็คือการล้อเล่นกับพวกจิไรยะและซึนาเดะ
.............
เนื้อเรื่องย่อๆอยู่ในหัวยันจบแล้วละ ตอนนี้ต้องขยายบทความแล้วก็เติมบทสนทนา^^"
ความคิดเห็น