ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : แขกรับเชิญ
ตอนที่2
“ห้าว~”เด็กหนุ่มผมดำหาวออกมาอย่างเบื่อหน่าย
เขาคือปุยเด็กหนุ่มที่พึ่งย้ายมาเรียน ณ โรงเรียนรวมมิตรประชาทัณฑ์
มาวันแรก นอกจากเขาจะไม่มีเพื่อนแล้ว ยังโดนล้อว่าเป็นไอ้ขี้ก้างจำศีลอีก
ก็คนมันง่วงก็ต้องนอน ผิดหรือไง!?
ถ้าไม่ติดว่าโรงเรียนนี้อยู่ใกล้กับโรงเรียนของคุณหนูที่น่ารักของเขาละก็
เขาไม่มีวันมาเหยียบที่นี่แน่
“เบื่อโลกแล้วเหรอพี่”เสียงเด็กชายร่างเล็กร้องถาม
ตะวัน คือน้องชายข้างบ้านของเขา ซึ่งก็เรียนอยู่โรงเรียนเดียวกับคุณหนูของตะวันและเขาพอดี
“ห๊าว~”ปุยแกล้งทำเป็นเมินโดยการหาวใส่
ไม่สนใจไอ้เกรียนเมพที่มาขัดขวางเวลาง่วงนอนอันแสนมีค่าของเขา
“หรือว่าพี่เจอผู้หญิงน่ารักๆแต่ไม่มีปัญญาจีบ”
เด็กชายทำหน้าเจ้าเล่ห์ ราวกับว่าจะรู้ทันไปซะทุกเรื่อง(ทั้งๆที่ความจริงมันไม่รู้อะไรเลย= =)
//เหอะ น่ารักๆเหรอ โรงเรียนพรรคนี้มันจะไปมีได้ไง//
เด็กหนุ่มคิดในใจ ปากอ้าหวอ เตรียมจะหาวออกมาเป็นรอบที่3ตามปกติ
หากแต่บางสิ่งได้หยุดชะงักการกระทำของเขาไว้ให้แข็งราวโดนสาป
เด็กสาวหัวกระเซิงสีฟ้านามภัสสร ดวงตาสีฟ้าของเจ้าหล่อนมองเหม่อ
ไปข้างหน้าราวกับกำลังคิดเรื่องบางเรื่อง
“น่ะ...น่ารัก”ปุยหลุดประโยคต้องห้ามเมื่ออยู่ต่อหน้าเจ้าตะวันออกมา
ตะวันยิ้มกริ่มก่อนจะเอ่ยคำพูดออกมา
“จีบเลยพี่ สุดหูรูดดดดดด!!!”ว่าแล้วเจ้าตัวก็ใช้พระบาทถีบพี่ชายสุดที่รักเข้าชาร์จภัสสรทันที
อุ๊ป!!!
ร่างของเด็กหนุ่มขึ้นไปคร่อมบนร่างเด็กสาวหัวกระเซิงพร้อมใบหน้าที่ตกใจสุดขีด!
ดวงตาสีฟ้าท่อประกายตื่นตระหนัก เด็กหนุ่มที่ถูกความรู้สึกของตนครอบงำโดยไม่
สามารถขัดขืนได้ทำให้ร่างกายโน้มตัวลงเข้าหาริมฝีปากบาง...
...............................
ณ เกมNU
“เจอกันครั้งแรกก็ไปจูบเขาเลยเหรอ แน่มากนะเอ็ง 5555+”
พี่ใหญ่สุดในกลุ่มนามปอนด์ปล่อยก๊ากออกมาก๊ากใหญ่เมื่อฟังเรื่องทั้งหมด
“ไม่พอนะพี่ นอกจากนั้นพี่เขายังมีฉายาใหม่ ‘ขี้ก้างจอมหื่นด้วยนะ’ ”ตะวันเสริม
“แก๊!!!!!”
เสียงปุยร้องก่อนที่จะวิ่งจ้ำพรวดๆหมายจะไล่กระทืบเจ้าตัวดีต้นเรื่อง
“ผมแค่อยากให้พี่สมหวังน้า~ ที่ทำไปเพราะหวังดี เพราะเคารพรักในตัวพี่นะเนี่ย^O^”
เจ้าดวงอาทิตย์อุทัยพูดน้ำสำเนียงชวนน่าถีบ
ในขณะที่ปุยน้อยกำลังจะวางมวยพี่ใหญ่นามหนูปอนด์ก็ล็อกคอทั้งสองไว้
“เอาเหอะน่าๆ เดี๋ยวเรื่องจีบสาวพี่ช่วยเอง~พี่น่ะ ทำสาวๆ ร้องไห้มาเยอะแล้ว~”
ปอนด์ว่าพลางโอ้อวดสรรพคุณราวเซลขายเครื่องกรองน้ำตามบ้าน ว่าแล้วก็เหลียวหันไปเห็น
สาวน้อยนางหนึ่งเข้า
“เห็นสาวน้อยคนนั้นป่ะ”แล้วปอนด์น้อยชี้ชวนปุยกับตะวันดูเหยื่อใกล้ตัว
“ผมยาว~ผิวขาว~ใส่แว่น~สรุปดิ๊”คาสิโนปอนด์โชว์ความรอบรู้แล้วหันไปถามลูกศิษย์ทั้งสอง
“โมเอะ!”ลูกศิษย์ทั้งสองตอบพร้อมกันอย่างชะฉ้าน
“เอาล่ะ เดี๋ยวพี่จะโชว์ให้ดู”
............
นังกระต่ายบ้า...ตุ๊กตาจิ๊ปปี้นั้นมันควรเป็นของชั้น...
แครอทคิดอย่างเคียดแค้น เส้นเลือดในสมองเต้นตุบๆ
เรียกเราไปคิดจะทำอะไรกันแน่..มันต้องการอะไร...ไม่ไปก็ไม่ได้...เสียศักดิ์ศรี...
จะไปคนเดียวก็กระไรอยู่...เรียกชิลลีไปด้วยดีกว่า...แครอทวิเคราะห์ปัญหา
นัยน์ตาสีทองประกายกร้าวเหมือนจะขยี้ทุกคนที่มาเข้าใกล้ในระยะที่เขาจะเรียกฝนดาวตกเทใส่ได้
“นี่~น้องสาว”เสียงคาสิโนปอนด์ดังขึ้นด้านหลังแครอท
หากแต่ชายหนุ่มมิได้สนใจเนื่องด้วยความคิดที่ว่า
“กุเป็นผู้ชาย”ทำให้ไม่คิดจะเหลือบไปมองโดยลืมเรื่องสำคัญที่ว่า แถวนี้มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้น
“น้องสาวเรียกแล้วไม่หัน พี่ปวดใจนะเนี่ย...”เสียงน่ารำคาญดังขึ้นอีกระรอกคราวนี้ไม่พูดเปล่า
แต่มีการตบไหล่แครอทเบาๆ อย่างทะนุถนอม
มันหมายความว่าไงว่ะ...แครอทคิดคำนึงขณะรู้สึกขนลุกเพราะมุขที่โคตรจะเสี่ยวของแอดมินบอร์ดEXE 2
“นั่งอยู่คนเดียวไม่มีใครดูแลหัวใจ ให้พี่ช่วยดูแลให้ไหม~”
อะไรของมันว่ะ...
“พี่อยากรู้ชื่อน้องมากเลยอ่ะ~”ปอนด์ว่าพลางลูบไล้เส้นผมของสาวงาม
ไร้เสียงตอบจากสวรรค์...
ท่าทางจะยากแฮะ...
ปอนด์คิดขณะหันไปทางน้องทั้งสองที่มองเขาอย่างใจจดใจจ่อ...
ถ้าจีบไม่ได้ละก็เสียฟอร์มแย่เลยเดะ...
“หันหน้ามาหน่อยสิจ้ะน้องพี่อย่างเห็นหน้า~”
หนูปอนด์ว่าขณะนำมือมาวางไว้บนมือของสาวน้อยแครอท
แครอทที่เพิ่งรู้ตัวว่าถูกลวนลามหันกลับมามองช้าๆ
ผิวขาวเนียนสวยเหมือนกับผู้หญิงแต่คิ้วเข้มๆ
กับนัยน์ตาสีทองโหดๆ แผ่รังสีอำมหิตได้นั่น
บอกปอนด์น้อยว่า คนตรงหน้าเป็นผู้ชาย!!!
“ผู้ชายนี่!!O/[]\O”ปอนด์กรีดร้องเป็นตัวอักษรอันฟาเบต
“เออ”
แครอทตอบเสียงนิ่งในขณะหนูปอนผู้น่าสงสารกำลังสั่นเป็นเจ้าเข้าเพราะโดนรังสีอำมหิตของแครอทข่มไว้
“ขะ...ขอโทษคับ ครือ~น้องๆ ผม...เออ...เฮ้ย!!”
ปอร์นน้อยร้องลั่นเมื่อน้องรักทั้งสองที่ควรจะอยู่ข้างหลังเขาหายวับไปอย่างไร้ร่องรอย
และเมื่อปอนด์หันมามีอันต้องเหงื่อตกเมื่อพบกับคทาด้ามงามที่อยู่ในมือของแครอทเรียบร้อยแล้ว
“ข้อหาข้อแรก ชั้นไม่ใช้ผู้หญิง
ข้อที่สอง แกจีบชั้น
ข้อที่สาม แกลวนลามชั้น
ข้อที่สี่ มุขแกเสี่ยว
ข้อที่ห้า แกทำให้ชั้นอารมณ์ไม่ดี
โทษที่แกจะได้รับก็คือ...”
...............
เรือที่มีรูปทรงโบราณช่างดูขัดตาเสียยิ่งกระไรเมื่อมันแล่นมากลางแม่น้ำเจ้าพระยา
ยิ่งกว่านั้น เรือดังกล่าวยังมีธงสีดำ รูปกะโหลกไขว้ซึ่งใส่หมวกฟางไว้อยู่ด้วย...
“เราอยู่ไหนกันเนี่ย นามิ”
หนุ่มหมวกฟางร้องถามพลางโซ้ยไก่ย่างส้มตำข้าวเหนียวที่เหมามาจากร้านอาหารแถวๆ นั้น
เขาคือลูฟี่กัปตันของเรือโจรสลัดโกอิ้งแมรี่ลำนี้
ดวงตากลมแป๋วของเด็กหนุ่มจ้องไปยังจานส้มตำในมืออย่างไม่วางตา
ส่วนมือก็ถือไก่ย่างเสียบไม้ชิ้นโตไว้
“สะพานพระรามแปด...ไม่ค่อยแน่ใจแฮะ แกรนไลน์นี่ประมาทไม่ได้เลยจริงๆ”
หญิงสาวที่มีชื่อว่านามิว่าพลางกางแผนที่ดู
ผมสีสมถูกสายลมยามเช้าพัดลู่ลม กางเกงขาสั้นสุดsexyของเจ้าหล่อน
ทำให้ชายหนุ่มหลายต่อหลายคนที่เคยเห็นต้องน้ำลายหกกันเต็มหน้าจอคอมพิวเตอร์
ตั้งแต่เข้าแกรนไลน์มาก็มีหลายครั้งที่มีหลงกันบ้าง
แต่หลงถึงขนาดมาถึงสะพานพระราม8นี่มันก็ออกจะเกินไปหน่อย
“เหรอ~ง้ำ....อร่อยดีหรอกนะ เสียดายน้อยไปหน่อย...”
ลูฟี่ขานรับก่อนจะบ่นออกมาเมื่อง้ำๆเดียวของเขาก็สามารถกลืนไก่ย่างไม้เดียวเข้าไปได้หมดในคำๆเดียว
“เฮ้ย นายกินไรน่ะ ท่าทางน่าอร่อย”เด็กหนุ่มจมูกยาวร้องทักมาแต่ไกล
“อ่า~มากินด้วยกันสิอุซบ หวานนุ่มลิ้มมากเลยแหละ”
ลูฟี่กล่าวขณะที่อุปซบวิ่งเข้ามาร่วมวงเปิบข้าวเหนียวส้มตำไก่ย่างทันที
“ไหนๆชิมดิ๊....จ๊ากกกกกกกก เผ็ด!!!”
อุซบร้องลั่นเรือแทบจะในทันทีที่กระเดือกส้มตำช้อนแรกเข้าไป
นามิที่กำลังเครียดจัดหันมามองด้วยสายตามหาโหด
แต่ถึงอย่างไร ชายหนุ่มผู้มีผมสีเขียวก็ยังนอนหลับสบายใจไม่รู้ไม่ชี้อยู่บนดาดฟ้าเรือที่ประจำ
“ไหนบอกนุ่มลิ้นไง!!!”อุปซบโวย
“ก็ชั้นกำลังฝึกโกหกอยู่ไงละ ฮี่ๆ!!”
ลูฟี่ยิ้มหน้าทะเล้น ในขณะที่อุปซบที่โดนเทคนิกการโกหกที่ตนภาคภูมิใจดัดหลังตัวเองซะเอง
ทำท่าเหมือนแทบจะอยากร้องกรี๊ด
ขณะที่เรือโกอิ้งแมรี่กำลังจะรอดใต้สะพานพระราม8กลางกรุงเทพมหานครไปนั้นเอง
บนสะพานก็มีรถสปอต์สีแดงวิ่งตัดผ่านข้ามสะพานไป
ในรถคันนั้นคือวิศนะและแครอท ที่กำลังมุ่งหน้าไปที่บ้านของวิริยา
...........
สัมภาษณ์หลังกองถ่ายโดยหนูปอร์น หนู ตะวัน และหนูปุยหัวข้อเรื่อง “อาหารที่ชอบ”
“เริ่มจากหัวหน้าGMเลยนะคับ^^”หนูตะวันว่าพลางถือไมค์ไปจ่อปากโฮลี่ ออเดอร์ที่
นั่งอ่านอาลาเร่อยู่ที่มุมกองถ่ายเพื่อมารอรับน้องเมียกลับ
“อะไรเหรอ^^”โฮลี่ออเดอร์ถามตะวันที่เอาไมค์จ่อปาก
“สัมภาษณ์หน่อยคับชอบกินอะไร”ปอนด์ว่าตะวันดันไมค์จ่อปากโฮลี่ออเดอร์ ชายหนุ่มยิ้ม
พรายแล้วตอบว่า
“ชั้นชอบกินแครอทแกล้มพริกน่ะ^_^”
“ไม่ทราบว่ามีความหมายแฝงอะไรหรือเปล่าคับ- -;”ตะวันถามออกไปโฮลี่ออเดอร์ยิ้มเช่นเดิม
“ตามที่พูดนั่นล่ะ^^”ด้วยว่าอยู่ต่ออาจไม่ปลอดภัยต่อทั้งสามพวกเขาจึงถ่อยทัพกลับมา
แล้วตัดสินใจไปสัมภาษณ์การ์ลิคกับราดิช
“คุณการ์ลิคชอบกินอะไรคับ”
“เอ๋~ชั้นเหรอ~”การ์ลิคว่าพลางยิ้มระรื่นเช่นเคยแล้วทำทีคิด
“คงจะเป็น...อะไรก็ได้ที่โชคชะตาจะพามาให้ล่ะมั้ง...”
//...นี่เขาคิดว่าอยู่ดีๆ พายุหมุนจะพาร้านก๋วยเตี๋ยวมาตรงหน้าเขารึไงว่ะ..\\
ทั้งสามคิดพร้อมกัน
“แล้วคุณราดิชล่ะครับ”คราวนี้ปุยเป็นคนถาม
“ชั้นชอบกินอะไรที่มันเขียวๆ น่ะ แต่เลือกไม่ได้ก็กินเป็ดไปก่อนแล้วกัน”ราดิชกล่าว
พลางมองไปที่นันทกรที่กำลังเสียวสันหลังวูบๆ
“เคี๊ยกๆๆๆ”โอเนี่ยนจรลีมาพร้อมกับโทเมโทตะวันจึงจัดการเอาไมค์จ่อปาก
“คุณโอเนี่ยนชอบกินอะไรครับ”
“เคี๊ยกๆๆๆ”
“เออ...คุณโอเนี่ยน- -a”
“เคี๊ยกๆๆๆๆๆๆ”ตะวันเห็นว่าไม่ได้เรื่องก็เลยหันไปถามโทเมโท
“คุณโทเมโทคับ..”
“เคี๊ยกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”เป็นอันว่าการสัมภาษณ์ต้องยกเลิกเนื่องจาก...เคี๊ยกๆๆๆ...
“สัมภาษณ์ใครดีอ่ะเนี่ย”ปุยทำหน้าเซ็งเป็ดก่อนหันไปเห็นแครอท
“คุณแครอทค้าบบบบ ชอบกินไรคับ”ปุยเป็นคนถามเพราะปอนด์เข็ด
“กระต่ายแป๊ะซะ..”แครอทตอบเสียงเคียดแค้นนิดๆ แล้วเดินหนีไป
“สงสัยจะชอบอาหารป่า...”ปุยสรุปเอาเองก่อนปอนด์จะลากเขาและตะวันไปสัมภาษณ์วิศนะ
“อาหารที่ชื่นชอบของคุณคืออะไรคับ^^”ปอนด์สัมภาษณ์ตัวละครตัวโปรด
“ชั้นไม่ชอบกินผัก..”วิศนะตอบขณะให้อาหารปลาทองในตู้หลังกองถ่าย
“บอกมาเหอะคับชอบกินอะไร~วันหลังผมจะซื้อมาถวายเลยคับ^____^”
ปอนด์เซ้าซี้ไม่เลิก วิศนะจ้องตากลมๆ ของปลาทองตัวน้อยที่หุบเหยื่อพลางตอบส่งๆ
“ปลา”ปลาในตู้ที่ตาโตอยู่แล้วตาโตขึ้นมาในทันใด พุ่งเป็นจรวดติดมิตไซต์
หลบหลังก้อนหิน
“คุณภัสสรก็กลับไปแล้วน่าเสียดายจาง~”ปุยบ่นงึมงำเพราะ
คนหัวกระเซิงกลับบ้านไปแล้ว
“ทำอะไรอยู่เหรอครับ...”เสียงใครคนหนึ่งถามพวกตะวันหันไปตามเสียง
เขาผู้นั้นคือพัมกิ้น...
“อ๋อ...มาได้จังหวะเชียวครับ คุณพัมกิ้น”ตะวันว่าก่อนจ่อไมค์ไปที่ฟักทองหนุ่ม
ที่ทำท่าไร้เดียงสาราวเคะใสซื่อ...
“คือกำลังสัมภาษณ์กันอยู่น่ะครับ คุณพัมกิ้นพอจะบอกได้ไหมคับว่าชอบกินอะไร”
“ก็...”พัมกิ้นใช้นิ้วแตะริมฝีปากพลางเหลือบตามองทั้งสามอย่างพินิจพิจารณา
“คนที่สบตาผมกระมั้งครับ...”ทั้งสามคนสะดุ้งเฮือก หัวใจพวกเขาแทบหยุดเต้น...นี่พวกเขา
จะตกเป็นเครื่องสังเวยของปิศาจฟักทองรึนี่!!!
//...ไอ้ร่าน...//ปอนด์คิด
//....ถึงผมจะเมพ แต่ผมยังอายุไม่ถึงนะคับT_T...//ตะวันคิด
//...ถ้าเป็นคุณภัสสรก็อีกเรื่องนึง...//ปุยคิด
และแล้วทั้งสามจรลีหนีการไล่ล่าของปิศาจฟักทองมาได้อย่างฉิวเฉียด
ก่อนจะเหลือบไปเห็นคนสองคนที่นั่งอยู่
ใต้ต้นไม้ หนึ่งในนั้นคือเด็กหนุ่ม และอีกหนึ่งเป็นเด็กสาว
“นั่นมันไอ้พวกคนแต่งนี่หว่า”ว่าแล้วปุยน้อยก็ชี้ชวนดู
ทั้งสองร่างคุยกันพลางหัวเราะคิกคักอะไรบางอย่างขณะที่เขียนบางสิ่งยุกยิกลงแผ่นกระดาษ
“สัมภาษณ์มันดีมะ ไม่มีใครให้สัมภาษณ์ละ”ปุยว่าซึ่ง
ทั้งสองก็พยักหน้าเห็นด้วย เมื่อเดินไปใกล้ๆ คนแต่งทั้งสองก็
รีบซ่อนกระดาษนั่นแล้วเด็กหนุ่มก็โบกไม้โบกมือทักทายทั้งสาม
“งาย~ชอบบทอ่ะดิ ปุย^^”เขาว่าพลางยิ้มแป้นให้ปุย
“จูบคุณภัสสรน่ะเหรอคับ-///-”
“แน่นอน~เรามีนโยบายสำหรับเหยื่อ...เอ้ย!...ตัวละครใหม่ ใช่มะๆ”
เด็กหนุ่มว่าพลางสะกิดเด็กสาวข้างๆ
พรืด...
เด็กสาวที่นั่งข้างๆ ล้มลงมา เลือดแดงนองเต็มพื้น นัยน์ตาเบิกโพล่ง
“คะ....ฆาตรกรรมนองเลือดO_o”ตะวันร้องจ๊ากกระโดดกอดพี่ทั้งสองที่ตกใจไม่แพ้กัน
เด็กสาวลุกขึ้นมาแล้วเช็ดเลือดที่ไหลออกมาจากจมูก...
“ทำไมทั่นฮิขาสวยอย่างงี้....เคะซึนๆ”เด็กสาวพูดพึมพำพลางหยิบหนังสือที่จมกองเลือดขึ้นมา
“ฮึย~~~โดชั้นเปื้อนเลือดหมดแล้ว... อ้าว~หนูตะวัน อ่านD18กันมะ^0^”เด็กสาวว่า
พลางหันรูปดีโน่กำลังพรากผู้เยาว์ให้ดู ทั้งสามรีบส่ายหน้าพร้อมกันพลางถอยหลังพรืด....
“อะ...เออ มีอะไรจะฝากถึงคนอ่านมะคับ...”
“อ๋อ...เราจะยังรับสมัครเหยื่อ เอ้ย! ตัวละครเพิ่มน่ะ ถ้าสนใจก็ไปโพสไว้...”
“ขอบริจาคเลือดกรุ๊ปวายด้วย ชั้นจะไม่ไหวอยู่แล้ว= =”
เด็กสาวพูดเสริมพลางใช้ผ้าเช็ดหน้าเปื้อนเลือดเช็ดจมูก
ขณะนั้นเองปอนด์ก็ระลึกขึ้นได้ถึงตอนจบของตอนนี้ที่ค่อนข้างจะไม่สวยเท่าไหร่สำหรับเขา
คิดได้ดังนั้นก็กระโดดเข้ากระชากเสื้อคนแต่งชายทันที
“แล้วผมจะเป็นไงต่อล่ะ คุณจบแบบนี้ผมก็ซวยอ่ะเดะ”เจ้าตัวโวยวายพลางเขย่าเสื้อคนแต่ง
“นายน่ะเหรอ~ก็เหมือนปุยนั่นล่ะ ขออะไรมาเราก็ให้แบบนั้น=v=”คนแต่งชายกล่าวแบบกั๊กๆ
“ละ...แล้วผมล่ะๆ!!”พฤติกรรมเลียนแบบแบบเกรียนๆของตะวันกำเริบ
กระโดดกระชากคอคนแต่งหญิงที่กำลังนั่งซับเลือด...
“เอาเลือดมาให้กุก่อนสิโว้ยยยยยย โฮกกกกกกกกกก~!!!”
..................
เม้นเป้นกำลังใจด้วยนะคร้าบ~
อ่านทุกเม้นละ^^v
“ห้าว~”เด็กหนุ่มผมดำหาวออกมาอย่างเบื่อหน่าย
เขาคือปุยเด็กหนุ่มที่พึ่งย้ายมาเรียน ณ โรงเรียนรวมมิตรประชาทัณฑ์
มาวันแรก นอกจากเขาจะไม่มีเพื่อนแล้ว ยังโดนล้อว่าเป็นไอ้ขี้ก้างจำศีลอีก
ก็คนมันง่วงก็ต้องนอน ผิดหรือไง!?
ถ้าไม่ติดว่าโรงเรียนนี้อยู่ใกล้กับโรงเรียนของคุณหนูที่น่ารักของเขาละก็
เขาไม่มีวันมาเหยียบที่นี่แน่
“เบื่อโลกแล้วเหรอพี่”เสียงเด็กชายร่างเล็กร้องถาม
ตะวัน คือน้องชายข้างบ้านของเขา ซึ่งก็เรียนอยู่โรงเรียนเดียวกับคุณหนูของตะวันและเขาพอดี
“ห๊าว~”ปุยแกล้งทำเป็นเมินโดยการหาวใส่
ไม่สนใจไอ้เกรียนเมพที่มาขัดขวางเวลาง่วงนอนอันแสนมีค่าของเขา
“หรือว่าพี่เจอผู้หญิงน่ารักๆแต่ไม่มีปัญญาจีบ”
เด็กชายทำหน้าเจ้าเล่ห์ ราวกับว่าจะรู้ทันไปซะทุกเรื่อง(ทั้งๆที่ความจริงมันไม่รู้อะไรเลย= =)
//เหอะ น่ารักๆเหรอ โรงเรียนพรรคนี้มันจะไปมีได้ไง//
เด็กหนุ่มคิดในใจ ปากอ้าหวอ เตรียมจะหาวออกมาเป็นรอบที่3ตามปกติ
หากแต่บางสิ่งได้หยุดชะงักการกระทำของเขาไว้ให้แข็งราวโดนสาป
เด็กสาวหัวกระเซิงสีฟ้านามภัสสร ดวงตาสีฟ้าของเจ้าหล่อนมองเหม่อ
ไปข้างหน้าราวกับกำลังคิดเรื่องบางเรื่อง
“น่ะ...น่ารัก”ปุยหลุดประโยคต้องห้ามเมื่ออยู่ต่อหน้าเจ้าตะวันออกมา
ตะวันยิ้มกริ่มก่อนจะเอ่ยคำพูดออกมา
“จีบเลยพี่ สุดหูรูดดดดดด!!!”ว่าแล้วเจ้าตัวก็ใช้พระบาทถีบพี่ชายสุดที่รักเข้าชาร์จภัสสรทันที
อุ๊ป!!!
ร่างของเด็กหนุ่มขึ้นไปคร่อมบนร่างเด็กสาวหัวกระเซิงพร้อมใบหน้าที่ตกใจสุดขีด!
ดวงตาสีฟ้าท่อประกายตื่นตระหนัก เด็กหนุ่มที่ถูกความรู้สึกของตนครอบงำโดยไม่
สามารถขัดขืนได้ทำให้ร่างกายโน้มตัวลงเข้าหาริมฝีปากบาง...
...............................
ณ เกมNU
“เจอกันครั้งแรกก็ไปจูบเขาเลยเหรอ แน่มากนะเอ็ง 5555+”
พี่ใหญ่สุดในกลุ่มนามปอนด์ปล่อยก๊ากออกมาก๊ากใหญ่เมื่อฟังเรื่องทั้งหมด
“ไม่พอนะพี่ นอกจากนั้นพี่เขายังมีฉายาใหม่ ‘ขี้ก้างจอมหื่นด้วยนะ’ ”ตะวันเสริม
“แก๊!!!!!”
เสียงปุยร้องก่อนที่จะวิ่งจ้ำพรวดๆหมายจะไล่กระทืบเจ้าตัวดีต้นเรื่อง
“ผมแค่อยากให้พี่สมหวังน้า~ ที่ทำไปเพราะหวังดี เพราะเคารพรักในตัวพี่นะเนี่ย^O^”
เจ้าดวงอาทิตย์อุทัยพูดน้ำสำเนียงชวนน่าถีบ
ในขณะที่ปุยน้อยกำลังจะวางมวยพี่ใหญ่นามหนูปอนด์ก็ล็อกคอทั้งสองไว้
“เอาเหอะน่าๆ เดี๋ยวเรื่องจีบสาวพี่ช่วยเอง~พี่น่ะ ทำสาวๆ ร้องไห้มาเยอะแล้ว~”
ปอนด์ว่าพลางโอ้อวดสรรพคุณราวเซลขายเครื่องกรองน้ำตามบ้าน ว่าแล้วก็เหลียวหันไปเห็น
สาวน้อยนางหนึ่งเข้า
“เห็นสาวน้อยคนนั้นป่ะ”แล้วปอนด์น้อยชี้ชวนปุยกับตะวันดูเหยื่อใกล้ตัว
“ผมยาว~ผิวขาว~ใส่แว่น~สรุปดิ๊”คาสิโนปอนด์โชว์ความรอบรู้แล้วหันไปถามลูกศิษย์ทั้งสอง
“โมเอะ!”ลูกศิษย์ทั้งสองตอบพร้อมกันอย่างชะฉ้าน
“เอาล่ะ เดี๋ยวพี่จะโชว์ให้ดู”
............
นังกระต่ายบ้า...ตุ๊กตาจิ๊ปปี้นั้นมันควรเป็นของชั้น...
แครอทคิดอย่างเคียดแค้น เส้นเลือดในสมองเต้นตุบๆ
เรียกเราไปคิดจะทำอะไรกันแน่..มันต้องการอะไร...ไม่ไปก็ไม่ได้...เสียศักดิ์ศรี...
จะไปคนเดียวก็กระไรอยู่...เรียกชิลลีไปด้วยดีกว่า...แครอทวิเคราะห์ปัญหา
นัยน์ตาสีทองประกายกร้าวเหมือนจะขยี้ทุกคนที่มาเข้าใกล้ในระยะที่เขาจะเรียกฝนดาวตกเทใส่ได้
“นี่~น้องสาว”เสียงคาสิโนปอนด์ดังขึ้นด้านหลังแครอท
หากแต่ชายหนุ่มมิได้สนใจเนื่องด้วยความคิดที่ว่า
“กุเป็นผู้ชาย”ทำให้ไม่คิดจะเหลือบไปมองโดยลืมเรื่องสำคัญที่ว่า แถวนี้มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้น
“น้องสาวเรียกแล้วไม่หัน พี่ปวดใจนะเนี่ย...”เสียงน่ารำคาญดังขึ้นอีกระรอกคราวนี้ไม่พูดเปล่า
แต่มีการตบไหล่แครอทเบาๆ อย่างทะนุถนอม
มันหมายความว่าไงว่ะ...แครอทคิดคำนึงขณะรู้สึกขนลุกเพราะมุขที่โคตรจะเสี่ยวของแอดมินบอร์ดEXE 2
“นั่งอยู่คนเดียวไม่มีใครดูแลหัวใจ ให้พี่ช่วยดูแลให้ไหม~”
อะไรของมันว่ะ...
“พี่อยากรู้ชื่อน้องมากเลยอ่ะ~”ปอนด์ว่าพลางลูบไล้เส้นผมของสาวงาม
ไร้เสียงตอบจากสวรรค์...
ท่าทางจะยากแฮะ...
ปอนด์คิดขณะหันไปทางน้องทั้งสองที่มองเขาอย่างใจจดใจจ่อ...
ถ้าจีบไม่ได้ละก็เสียฟอร์มแย่เลยเดะ...
“หันหน้ามาหน่อยสิจ้ะน้องพี่อย่างเห็นหน้า~”
หนูปอนด์ว่าขณะนำมือมาวางไว้บนมือของสาวน้อยแครอท
แครอทที่เพิ่งรู้ตัวว่าถูกลวนลามหันกลับมามองช้าๆ
ผิวขาวเนียนสวยเหมือนกับผู้หญิงแต่คิ้วเข้มๆ
กับนัยน์ตาสีทองโหดๆ แผ่รังสีอำมหิตได้นั่น
บอกปอนด์น้อยว่า คนตรงหน้าเป็นผู้ชาย!!!
“ผู้ชายนี่!!O/[]\O”ปอนด์กรีดร้องเป็นตัวอักษรอันฟาเบต
“เออ”
แครอทตอบเสียงนิ่งในขณะหนูปอนผู้น่าสงสารกำลังสั่นเป็นเจ้าเข้าเพราะโดนรังสีอำมหิตของแครอทข่มไว้
“ขะ...ขอโทษคับ ครือ~น้องๆ ผม...เออ...เฮ้ย!!”
ปอร์นน้อยร้องลั่นเมื่อน้องรักทั้งสองที่ควรจะอยู่ข้างหลังเขาหายวับไปอย่างไร้ร่องรอย
และเมื่อปอนด์หันมามีอันต้องเหงื่อตกเมื่อพบกับคทาด้ามงามที่อยู่ในมือของแครอทเรียบร้อยแล้ว
“ข้อหาข้อแรก ชั้นไม่ใช้ผู้หญิง
ข้อที่สอง แกจีบชั้น
ข้อที่สาม แกลวนลามชั้น
ข้อที่สี่ มุขแกเสี่ยว
ข้อที่ห้า แกทำให้ชั้นอารมณ์ไม่ดี
โทษที่แกจะได้รับก็คือ...”
...............
เรือที่มีรูปทรงโบราณช่างดูขัดตาเสียยิ่งกระไรเมื่อมันแล่นมากลางแม่น้ำเจ้าพระยา
ยิ่งกว่านั้น เรือดังกล่าวยังมีธงสีดำ รูปกะโหลกไขว้ซึ่งใส่หมวกฟางไว้อยู่ด้วย...
“เราอยู่ไหนกันเนี่ย นามิ”
หนุ่มหมวกฟางร้องถามพลางโซ้ยไก่ย่างส้มตำข้าวเหนียวที่เหมามาจากร้านอาหารแถวๆ นั้น
เขาคือลูฟี่กัปตันของเรือโจรสลัดโกอิ้งแมรี่ลำนี้
ดวงตากลมแป๋วของเด็กหนุ่มจ้องไปยังจานส้มตำในมืออย่างไม่วางตา
ส่วนมือก็ถือไก่ย่างเสียบไม้ชิ้นโตไว้
“สะพานพระรามแปด...ไม่ค่อยแน่ใจแฮะ แกรนไลน์นี่ประมาทไม่ได้เลยจริงๆ”
หญิงสาวที่มีชื่อว่านามิว่าพลางกางแผนที่ดู
ผมสีสมถูกสายลมยามเช้าพัดลู่ลม กางเกงขาสั้นสุดsexyของเจ้าหล่อน
ทำให้ชายหนุ่มหลายต่อหลายคนที่เคยเห็นต้องน้ำลายหกกันเต็มหน้าจอคอมพิวเตอร์
ตั้งแต่เข้าแกรนไลน์มาก็มีหลายครั้งที่มีหลงกันบ้าง
แต่หลงถึงขนาดมาถึงสะพานพระราม8นี่มันก็ออกจะเกินไปหน่อย
“เหรอ~ง้ำ....อร่อยดีหรอกนะ เสียดายน้อยไปหน่อย...”
ลูฟี่ขานรับก่อนจะบ่นออกมาเมื่อง้ำๆเดียวของเขาก็สามารถกลืนไก่ย่างไม้เดียวเข้าไปได้หมดในคำๆเดียว
“เฮ้ย นายกินไรน่ะ ท่าทางน่าอร่อย”เด็กหนุ่มจมูกยาวร้องทักมาแต่ไกล
“อ่า~มากินด้วยกันสิอุซบ หวานนุ่มลิ้มมากเลยแหละ”
ลูฟี่กล่าวขณะที่อุปซบวิ่งเข้ามาร่วมวงเปิบข้าวเหนียวส้มตำไก่ย่างทันที
“ไหนๆชิมดิ๊....จ๊ากกกกกกกก เผ็ด!!!”
อุซบร้องลั่นเรือแทบจะในทันทีที่กระเดือกส้มตำช้อนแรกเข้าไป
นามิที่กำลังเครียดจัดหันมามองด้วยสายตามหาโหด
แต่ถึงอย่างไร ชายหนุ่มผู้มีผมสีเขียวก็ยังนอนหลับสบายใจไม่รู้ไม่ชี้อยู่บนดาดฟ้าเรือที่ประจำ
“ไหนบอกนุ่มลิ้นไง!!!”อุปซบโวย
“ก็ชั้นกำลังฝึกโกหกอยู่ไงละ ฮี่ๆ!!”
ลูฟี่ยิ้มหน้าทะเล้น ในขณะที่อุปซบที่โดนเทคนิกการโกหกที่ตนภาคภูมิใจดัดหลังตัวเองซะเอง
ทำท่าเหมือนแทบจะอยากร้องกรี๊ด
ขณะที่เรือโกอิ้งแมรี่กำลังจะรอดใต้สะพานพระราม8กลางกรุงเทพมหานครไปนั้นเอง
บนสะพานก็มีรถสปอต์สีแดงวิ่งตัดผ่านข้ามสะพานไป
ในรถคันนั้นคือวิศนะและแครอท ที่กำลังมุ่งหน้าไปที่บ้านของวิริยา
...........
สัมภาษณ์หลังกองถ่ายโดยหนูปอร์น หนู ตะวัน และหนูปุยหัวข้อเรื่อง “อาหารที่ชอบ”
“เริ่มจากหัวหน้าGMเลยนะคับ^^”หนูตะวันว่าพลางถือไมค์ไปจ่อปากโฮลี่ ออเดอร์ที่
นั่งอ่านอาลาเร่อยู่ที่มุมกองถ่ายเพื่อมารอรับน้องเมียกลับ
“อะไรเหรอ^^”โฮลี่ออเดอร์ถามตะวันที่เอาไมค์จ่อปาก
“สัมภาษณ์หน่อยคับชอบกินอะไร”ปอนด์ว่าตะวันดันไมค์จ่อปากโฮลี่ออเดอร์ ชายหนุ่มยิ้ม
พรายแล้วตอบว่า
“ชั้นชอบกินแครอทแกล้มพริกน่ะ^_^”
“ไม่ทราบว่ามีความหมายแฝงอะไรหรือเปล่าคับ- -;”ตะวันถามออกไปโฮลี่ออเดอร์ยิ้มเช่นเดิม
“ตามที่พูดนั่นล่ะ^^”ด้วยว่าอยู่ต่ออาจไม่ปลอดภัยต่อทั้งสามพวกเขาจึงถ่อยทัพกลับมา
แล้วตัดสินใจไปสัมภาษณ์การ์ลิคกับราดิช
“คุณการ์ลิคชอบกินอะไรคับ”
“เอ๋~ชั้นเหรอ~”การ์ลิคว่าพลางยิ้มระรื่นเช่นเคยแล้วทำทีคิด
“คงจะเป็น...อะไรก็ได้ที่โชคชะตาจะพามาให้ล่ะมั้ง...”
//...นี่เขาคิดว่าอยู่ดีๆ พายุหมุนจะพาร้านก๋วยเตี๋ยวมาตรงหน้าเขารึไงว่ะ..\\
ทั้งสามคิดพร้อมกัน
“แล้วคุณราดิชล่ะครับ”คราวนี้ปุยเป็นคนถาม
“ชั้นชอบกินอะไรที่มันเขียวๆ น่ะ แต่เลือกไม่ได้ก็กินเป็ดไปก่อนแล้วกัน”ราดิชกล่าว
พลางมองไปที่นันทกรที่กำลังเสียวสันหลังวูบๆ
“เคี๊ยกๆๆๆ”โอเนี่ยนจรลีมาพร้อมกับโทเมโทตะวันจึงจัดการเอาไมค์จ่อปาก
“คุณโอเนี่ยนชอบกินอะไรครับ”
“เคี๊ยกๆๆๆ”
“เออ...คุณโอเนี่ยน- -a”
“เคี๊ยกๆๆๆๆๆๆ”ตะวันเห็นว่าไม่ได้เรื่องก็เลยหันไปถามโทเมโท
“คุณโทเมโทคับ..”
“เคี๊ยกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”เป็นอันว่าการสัมภาษณ์ต้องยกเลิกเนื่องจาก...เคี๊ยกๆๆๆ...
“สัมภาษณ์ใครดีอ่ะเนี่ย”ปุยทำหน้าเซ็งเป็ดก่อนหันไปเห็นแครอท
“คุณแครอทค้าบบบบ ชอบกินไรคับ”ปุยเป็นคนถามเพราะปอนด์เข็ด
“กระต่ายแป๊ะซะ..”แครอทตอบเสียงเคียดแค้นนิดๆ แล้วเดินหนีไป
“สงสัยจะชอบอาหารป่า...”ปุยสรุปเอาเองก่อนปอนด์จะลากเขาและตะวันไปสัมภาษณ์วิศนะ
“อาหารที่ชื่นชอบของคุณคืออะไรคับ^^”ปอนด์สัมภาษณ์ตัวละครตัวโปรด
“ชั้นไม่ชอบกินผัก..”วิศนะตอบขณะให้อาหารปลาทองในตู้หลังกองถ่าย
“บอกมาเหอะคับชอบกินอะไร~วันหลังผมจะซื้อมาถวายเลยคับ^____^”
ปอนด์เซ้าซี้ไม่เลิก วิศนะจ้องตากลมๆ ของปลาทองตัวน้อยที่หุบเหยื่อพลางตอบส่งๆ
“ปลา”ปลาในตู้ที่ตาโตอยู่แล้วตาโตขึ้นมาในทันใด พุ่งเป็นจรวดติดมิตไซต์
หลบหลังก้อนหิน
“คุณภัสสรก็กลับไปแล้วน่าเสียดายจาง~”ปุยบ่นงึมงำเพราะ
คนหัวกระเซิงกลับบ้านไปแล้ว
“ทำอะไรอยู่เหรอครับ...”เสียงใครคนหนึ่งถามพวกตะวันหันไปตามเสียง
เขาผู้นั้นคือพัมกิ้น...
“อ๋อ...มาได้จังหวะเชียวครับ คุณพัมกิ้น”ตะวันว่าก่อนจ่อไมค์ไปที่ฟักทองหนุ่ม
ที่ทำท่าไร้เดียงสาราวเคะใสซื่อ...
“คือกำลังสัมภาษณ์กันอยู่น่ะครับ คุณพัมกิ้นพอจะบอกได้ไหมคับว่าชอบกินอะไร”
“ก็...”พัมกิ้นใช้นิ้วแตะริมฝีปากพลางเหลือบตามองทั้งสามอย่างพินิจพิจารณา
“คนที่สบตาผมกระมั้งครับ...”ทั้งสามคนสะดุ้งเฮือก หัวใจพวกเขาแทบหยุดเต้น...นี่พวกเขา
จะตกเป็นเครื่องสังเวยของปิศาจฟักทองรึนี่!!!
//...ไอ้ร่าน...//ปอนด์คิด
//....ถึงผมจะเมพ แต่ผมยังอายุไม่ถึงนะคับT_T...//ตะวันคิด
//...ถ้าเป็นคุณภัสสรก็อีกเรื่องนึง...//ปุยคิด
และแล้วทั้งสามจรลีหนีการไล่ล่าของปิศาจฟักทองมาได้อย่างฉิวเฉียด
ก่อนจะเหลือบไปเห็นคนสองคนที่นั่งอยู่
ใต้ต้นไม้ หนึ่งในนั้นคือเด็กหนุ่ม และอีกหนึ่งเป็นเด็กสาว
“นั่นมันไอ้พวกคนแต่งนี่หว่า”ว่าแล้วปุยน้อยก็ชี้ชวนดู
ทั้งสองร่างคุยกันพลางหัวเราะคิกคักอะไรบางอย่างขณะที่เขียนบางสิ่งยุกยิกลงแผ่นกระดาษ
“สัมภาษณ์มันดีมะ ไม่มีใครให้สัมภาษณ์ละ”ปุยว่าซึ่ง
ทั้งสองก็พยักหน้าเห็นด้วย เมื่อเดินไปใกล้ๆ คนแต่งทั้งสองก็
รีบซ่อนกระดาษนั่นแล้วเด็กหนุ่มก็โบกไม้โบกมือทักทายทั้งสาม
“งาย~ชอบบทอ่ะดิ ปุย^^”เขาว่าพลางยิ้มแป้นให้ปุย
“จูบคุณภัสสรน่ะเหรอคับ-///-”
“แน่นอน~เรามีนโยบายสำหรับเหยื่อ...เอ้ย!...ตัวละครใหม่ ใช่มะๆ”
เด็กหนุ่มว่าพลางสะกิดเด็กสาวข้างๆ
พรืด...
เด็กสาวที่นั่งข้างๆ ล้มลงมา เลือดแดงนองเต็มพื้น นัยน์ตาเบิกโพล่ง
“คะ....ฆาตรกรรมนองเลือดO_o”ตะวันร้องจ๊ากกระโดดกอดพี่ทั้งสองที่ตกใจไม่แพ้กัน
เด็กสาวลุกขึ้นมาแล้วเช็ดเลือดที่ไหลออกมาจากจมูก...
“ทำไมทั่นฮิขาสวยอย่างงี้....เคะซึนๆ”เด็กสาวพูดพึมพำพลางหยิบหนังสือที่จมกองเลือดขึ้นมา
“ฮึย~~~โดชั้นเปื้อนเลือดหมดแล้ว... อ้าว~หนูตะวัน อ่านD18กันมะ^0^”เด็กสาวว่า
พลางหันรูปดีโน่กำลังพรากผู้เยาว์ให้ดู ทั้งสามรีบส่ายหน้าพร้อมกันพลางถอยหลังพรืด....
“อะ...เออ มีอะไรจะฝากถึงคนอ่านมะคับ...”
“อ๋อ...เราจะยังรับสมัครเหยื่อ เอ้ย! ตัวละครเพิ่มน่ะ ถ้าสนใจก็ไปโพสไว้...”
“ขอบริจาคเลือดกรุ๊ปวายด้วย ชั้นจะไม่ไหวอยู่แล้ว= =”
เด็กสาวพูดเสริมพลางใช้ผ้าเช็ดหน้าเปื้อนเลือดเช็ดจมูก
ขณะนั้นเองปอนด์ก็ระลึกขึ้นได้ถึงตอนจบของตอนนี้ที่ค่อนข้างจะไม่สวยเท่าไหร่สำหรับเขา
คิดได้ดังนั้นก็กระโดดเข้ากระชากเสื้อคนแต่งชายทันที
“แล้วผมจะเป็นไงต่อล่ะ คุณจบแบบนี้ผมก็ซวยอ่ะเดะ”เจ้าตัวโวยวายพลางเขย่าเสื้อคนแต่ง
“นายน่ะเหรอ~ก็เหมือนปุยนั่นล่ะ ขออะไรมาเราก็ให้แบบนั้น=v=”คนแต่งชายกล่าวแบบกั๊กๆ
“ละ...แล้วผมล่ะๆ!!”พฤติกรรมเลียนแบบแบบเกรียนๆของตะวันกำเริบ
กระโดดกระชากคอคนแต่งหญิงที่กำลังนั่งซับเลือด...
“เอาเลือดมาให้กุก่อนสิโว้ยยยยยย โฮกกกกกกกกกก~!!!”
..................
เม้นเป้นกำลังใจด้วยนะคร้าบ~
อ่านทุกเม้นละ^^v
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น