ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : 3rd Suspense: การประชุมของวันนี้‘ควอน ยูริ เมื่อวานนี้เกิดอะไรขึ้นกับเธอกันนะ? ’
3rd Suspense: การประชุมของวันนี้ ‘ควอน ยูริ เมื่อวานนี้เกิดอะไรขึ้นกับเธอกันนะ? ’
เจสสิก้ายังคงยืนนิ่งมองคนที่ไม่สมควรจะมาอยู่ที่นี่ในเวลานี้อย่างไม่วางตา
“มีเสียงคนว่ายน้ำในสระว่ายน้ำมันแปลกตรงไหนกัน ข้ออ้างของเธอนี่มันใช้ไม่ได้เลยนะ”
หญิงสาวคนนั้นเอ่ยออกมาขณะหันไปหยิบเสื้อคุมจากเก้าอี้ที่ตั้งอยู่ข้างสระมาสวมทับชุดว่ายน้ำไว้
“ไหนกระดาษล่ะ เอาออกมาสิ ฉันแถมลายรูปถ่ายพร้อมเซ็นให้เป็นพิเศษด้วยก็ได้นะ”
“ห๊า!!” เจสสิก้าดูจะไม่เข้าใจสิ่งที่ร่างสูงนั้นพูดออกมาเอาซะเลย
“อะไรกัน เธอไม่ได้จะมาขอลายเซ็นกับรูปถ่ายของฉัน ควอน ยูริ นักว่ายน้ำคนดังแห่งโรงเรียนโซนยอชิแดคนนี้หรอกเหรอ”
“ควอน ยูริ? ฉันไม่เห็นจะเคยได้ยินเลยชื่อนี้เลย” เจสสิก้าเอ่ยออกมาอย่างไม่สนใจสายตาของอีกคนที่หันควับมามอง
“อะไรนะ เธอไม่เคยได้ยินชื่อฉันงั้นเหรอ ไม่น้า.... นี่ความนิยมของเราตกต่ำลงแล้วเหรอเนี่ย ไม่ได้การ ซันนี่ ต้องปรึกษาซันนี่ด่วน”
หลังจากแสดงท่าทางโอเวอร์แอ็คติ้งอยู่พักใหญ่ ยูริก็รีบวิ่งไปหยิบโทรศัพท์มากดหาเพื่อนสนิทตัวเตี้ยอย่างรวดเร็ว
‘ว่าไง ไอ้ลิง’ เสียงจากปลายสายเอ่ยทักทายเพื่อนรักที่ตัวโตกว่า
“ซันนี่ วันนี้มียัยหัวทองคนหนึ่งบอกว่าไม่รู้จักฉัน มันเป็นไปไม่ได้ใช่มั้ย แกบอกฉันสิว่ามันเป็นไปไม่ด้ายยยยยย”
‘ยูริ นี่แกอยู่ที่สระว่ายน้ำใช่มั้ย?’
“ก็ ใช่น่ะสิ นักว่ายน้ำอันดับหนึ่งอย่างฉัน จะสามารถเฉิดฉายเจิดจรัสเปล่งประกายระยิบระยับให้ผู้คนได้เห็นเสน่ห์อัน เหลือล้นอย่างเต็มที่
ก็ที่สระว่ายน้ำนี่แหละ”
‘..............’
“ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าในโรงเรียนนี้ยังมีคนที่ไม่รู้จักสาวงามนักว่ายน้ำอันดับหนึ่ง ควอน ยูริ คนนี้อยู่อีก”
‘.............’
“ซันนี่เพื่อนรัก ฉันจะทำยังไงกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นตรงหน้านี่ดี ได้โปรด....ช่วยเพื่อนสาวแสนงามคนนี้ด้วยเถอะ”
‘แกรก ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด ......’ ดูเหมือนปลายสายจะรำคาญจนวางหูไป
“ซันนี่ แม้กระทั่งเธอก็ทำกับฉันแบบนี้เหรอเนี่ย จบสิ้นกันแล้วความโด่งดังของฉัน”
ยูริยังคงแสดงออกแบบโอเวอร์แอ็คติ้งต่อไป
“ยัยนี่ ท่าทางจะไม่ปกติแฮะ” เจสสิก้าไม่อาจหาคำใดอธิบายการกระทำของหญิงสาวตรงหน้าได้
ขณะที่ยูริกำลังคร่ำครวญกับตนเองอยู่นั้น สิ่งไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อน้ำในสระค่อยๆม้วนเป็นตัวขึ้นสู่อากาศ
“บ้าจริง ทำไมต้องมาอาละวาดตอนนี้ด้วยนะ” เจสสิก้าที่สังเกตเห็นเป็นคนแรกพึมพำกับตัวเองด้วยความหงุดหงิด
“ห้าโมงสี่สิบห้า”
ก่อนที่ยูริจะรู้สึกตัว น้ำวนกลางอากาศก็พุ่งเข้าหวังจะโจมตีใส่เธอ
โชคดีที่เจสสิก้าวิ่งไปเตะเสยคางได้ทัน ทำให้เธอหลบการโจมตีนั้นพ้นอย่างหวุดหวิด
“กรี๊ดดดดด!! เธอทำบ้าอะไรเนี่ย บังอาจมาเตะใบหน้าอันงดงามของฉันอย่างนั้นเหรอ”
ร่างสูงที่ถูกเตะโดยไม่ทันได้ตั้งตัวหันมาโว้ยวายใส่สาวผมทอง แต่ต้องหยุดชะงักลงเมื่อเห็นมวลน้ำขนาดใหญ่ลอยอยู่บนอากาศ
น้ำจำนวนมหาศาลพุ่งเข้าใส่ยูริอีกครั้ง คราวนี้เธอโดนเข้าอย่างจัง ร่างของเธอที่ติดอยู่ในนั้นถูกพาให้ลอยขึ้นไป
‘นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย แย่แล้ว...หาย...ใจ...ไม่ออก’
เธอได้แต่คิดอยู่ในใจ แม้จะพยายามดิ้นร้นอย่างสุดความสามารถก็ไม่อาจหลุดออกจากมวลน้ำนั้นได้
ปั้ง!! ปั้ง!!
เสียงปืนสองนัดดังขึ้นท่ามกลางความวุ่นวายนั้น กระสุนตรงเข้าไปยังส่วนหนึ่งของน้ำก้อนใหญ่ยักษ์
ร่างที่หมดสติเพราะขาดอากาศของยูริร่วงลงสู่สระน้ำเบื้องล่าง เมื่อน้ำบริเวณที่สัมผัสกระสุนนั้นสลายไป
เจสสิก้าได้โอกาสที่มวลน้ำแปลกประหลาดกำลังซ่อมแซมตัวเองอยู่ จึงกระโดดลงไปคว้าตัวอีกคนขึ้นมาไว้ที่ริมสระ
ก่อนจะกระชับปืนในมือแน่น แล้วสวดภาวนากับกระสุนน้ำมนต์ที่ขึ้นลำอยู่แล้ว
“ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าบนสวรรค์ ขอพระองค์โปรดเมตตา นำแสงสว่างมาสู่ข้า ส่องให้เห็นตัวจริงของสิ่งนี้ด้วยเถิด”
กระสุนถูกยิงเข้าไปในก้อนน้ำนั้นหนึ่งนัด มันระเบิดออกทันทีที่สัมผัสกับเป้าหมาย
จากก้อนน้ำใหญ่โต เปลี่ยนเป็นสัตว์ประหลาดตัวเขียว มีมือและเท้าเป็นพังผืด พร้อมกระดองที่หลังและจานบนหัว
“ดันเป็นไอ้ตัวที่ฉันเกลียดที่สุดอีกแน่ะ ไอ้ตัวกินแตงกวาบ้านี่”
กัปปะ คือภูติที่เจสสิก้าไม่ปลื่มมากที่สุด เพราะครั้งหนึ่งมันเคยเอาแตงกวาที่เธอแสนเกลียด ปาใส่ขณะที่พยายามกำจัดมันออกไปจากหนองน้ำ
ภูติที่ชอบแตงกวา กับมนุษย์ที่เกลียดแตงกวาต่างโจมตีเข้าใส่กันอีกครั้งอย่างไม่มีใครยอมใคร
ขณะที่การต่อสู้ยังคงดำเนินไป เด็กสาวผู้มีดวงตาสีแดงเพลิงเปล่งประกายคนหนึ่ง ก็กำลังเฝ้ามองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
อยู่บนยอดของหอนาฬิกาที่ตั้งตระหง่าน ณ ใจกลางโรงเรียน ท่ามกลางความมืดที่คืบคลานเข้ามา
‘จะไม่ไปช่วยคุณหนูผมทองคนนั้นสักหน่อยเหรอ แม่สาวแก่ในร่างเด็ก’
ฮโยยอนที่ปรากฏกายขึ้นข้างๆร่างนั้นเอ่ยถาม ร่างบางที่ยืนอยู่ก่อนได้แต่ส่งยิ้มบางตอบกลับมา
‘เมื่อเช้ายังไม่มีเลยแท้ๆ เจ้ากัปปะนั้นมาจากไหนกันนะ’
“ถูกดึงดูดเข้ามาน่ะค่ะ คุณฮโยยอนเองก็สัมผัสได้เหมือนกันไม่ใช่เหรอคะ ถึงได้ไปคลุกคลีอยู่กับคนๆนั้นทั้งวัน”
‘อ่า...เพราะ คิม แทยอน เด็กใหม่คนนั้นเองเหรอเนี่ย’
“แต่ไม่คิดเลยนะคะ ว่าคุณจะถึงขนาดไปแนะนำตัวเองก่อนแบบนั้น ระวังจะถูกคุณหนูเอ็กโซสิสท์ฝึกหัดตรงนั้นขับไล่เอานะ”
เธอพยักพเยิดไปทางสระว่ายน้ำ
‘เธอก็รู้อยู่แล้วนี่ว่ามันเป็นไปไม่ได้ อย่าห่วงไปเลยน่า’
“นั้นสินะคะ ฉันก็ลืมไป ว่าทั้งฉันและคุณจะต้องอยู่ที่นี่ต่อไป จนกว่าเวลานั้นจะมาถึง”
เวลาผ่านไป การต่อสู้ที่สระว่ายน้ำก็มาถึงช่วงสุดท้าย
ทั้งเจสสิก้าและเจ้ากัปปะตัวเขียวดูจะเหลือเรี่ยวแรงให้ฟาดฟันกันอีกไม่มากแล้ว
“ทดทายาดจริงๆ ไอ้ตัวกินแตงกวานี่ รีบๆสลายไปสักทีสิยะ” เธอบ่นออกมาตอนวิ่งหลบสายน้ำที่อีกฝ่ายใช้โจมตี
ก่อนจะสาดกระสุนน้ำมนต์ที่เหลืออยู่ในแม็กกาซีนใส่จนหมด แต่ก็ถูกกำแพงน้ำกั้นเอาไว้ไม่สามารถทำอันตรายต่อศัตรูได้
ขณะเดียวกัน ยูริที่นอนหมดสติอยู่ริมสระ ค่อยๆลืมตาขึ้น แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นสัตว์ประหลาดตัวเขียวอยู่ตรงหน้า
“กรี๊ดดดดด นี่มันตัวอะไรกันเนี่ยยยย ไม่ มันไม่ใช่ความจริง ฉันจะต้องฝันไปแน่ๆ ยูริ ตื่นได้แล้วควอน ยูริ ตื่นเร็วๆเข้า”
เธอใช้สองมือตบเข้าที่ใบหน้าของตัวเอง พยายามหลีกหนีจากความเป็นจริง ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่สำเร็จ
“ตื่นพอดีเลยยัยคนหลงตัวเอง หยิบกระเป๋าเป้ที่อยู่ใกล้ๆนั้นโยนมาเร็วเข้า”
เจสสิก้าตะโกนมาจากอีกด้านของสระ เธอกำลังเข้าตาจนเมื่อกระสุนที่ใช้ต่อสู้หมดลง แต่ดูเหมือนคำพูดของเธอจะไม่เข้าหูอีกคนเลยสักนิด
“มัวทำอะไรอยู่ยัยลิงดำหยิบขึ้นมาเร็วเข้าสิ เดี๋ยวก็ได้ซี้แหงแก๋กันทั้งคู่หรอก”
ในที่สุดลิงดำ ควอน ยูริ ก็รู้สึกตัวรีบมองหากระเป๋าแล้วโยนไปให้เจสสิก้าทันที
กระเป๋าใบนั้นตกลงข้างๆ ตัว เจสสิก้าจึงก้มตัวลงหยิบ เป็นเหตุให้เจ้ากัปปะผู้มีมารยาทงามคิดว่าเธอโค้งศีรษะให้มัน
มันจึงโค้งตอบ ทำให้น้ำในจานบนหัวหกออกมา มันจึงอ่อนแอลง กำแพงน้ำที่กางไว้ป้องกันตัวก็หายไปด้วย
เมื่อเห็นเช่นนั้น เจสสิก้าจึงเปลี่ยนกระสุนใหม่ จากน้ำมนต์เป็นกระสุนระเบิดเพลิง
“ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าบนสวรรค์ โปรดชี้ทางแห่งแสงสว่าง ให้กับสัตว์โลกผู้หลงผิดตัวนี้ด้วยเถิด”
คาถาถูกร่ายออกมาพร้อมกับกระสุนที่ตรงเข้าสู่ร่างของปีศาจตัวเขียว เผ่าผลาญร่างนั้นให้สลายหายไปในพริบตา
“ต่อไปก็ตายัยนั้นสินะ” เจสสิก้าเดินตรงไปหายูริที่ยืนนิ่ง งุนงงกับเหตุการณ์แปลกประหลาดที่เพิ่งเกิดขึ้น
เธอหยิบแว่นดำจากกระเป๋าขึ้นมาสวม ก่อนจะหยิบอุปกรณ์บางอย่างรูปร่างคล้ายปากกาขึ้นมาถือไว้
“ทุ่มครึ่งพอดี” เธอปรับตั้งเวลาที่อุปกรณ์นั้นไปที่หนึ่งชั่วโมงสี่สิบห้านาที
“ควอน ยูริ” เจ้าของชื่อหันไปตามเสียง แสบวาบปรากฏขึ้นจากอุปกรณ์นั้น ก่อนที่ยูริจะหมดสติลงไปกองกับพื้น
“ฝันดีนะ ยัยคนหลงตัวเอง” แล้วเจสสิก้าก็เดินจากไป ปล่อยให้อีกคนนอนไม่ได้สติอยู่แบบนั้น
เช้าวันที่สองของการเปิดเทอม เจสสิก้ายังคงเริ่มต้นวันใหม่ด้วยความเอื่อยเฉื่อยเช่นเดิม
“อรุณสวัสดิ์เจสสิก้า เมื่อคืนนอนไม่หลับเหรอ ท่าทางง่วงๆนะ”
ซูยองที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนเดินมาขว้างหน้าสาวผมทองที่กำลังอ้าปากหาวไว้
“รับนี่ไปสิ เธอจะได้สดชื่นขึ้น”
ช่อดอกไม้ถูกยื่นมาให้พร้อมกับรอยยิ้มกว้าง เจสสิก้ารับช่อดอกไม้นั้นมาก่อนจะเอ่ยทักหญิงสาวตัวเล็กผมสั้นที่บังเอิญเดินสวนมา
“เธอ คนๆนี้เค้าบอกว่ารับนี่ไว้แล้วจะสดชื่นขึ้นน่ะ เอ้า”
อยู่ๆ แม่นางก็ยกช่อดอกไม้ที่เพิ่งได้มาหยกๆให้อีกคนไปหน้าตาเฉย แล้วก็เดินจากไป
“ห๊า!” ซันนี่ที่บังเอิญเดินสวนมานั้นมองช่อดอกไม่ที่ถูกยัดเยียดให้เธออย่างงงๆ
“เอาคืนมานะยัยเตี้ย นั้นมันของฉัน”
เมื่อเห็นว่าอีกคนเดินไปไกลแล้ว ซูยองจึงหันไปทวงช่อดอกไม้ของตนคืนจากร่างเล็กที่อยู่ข้างๆ
“ฉันก็ไม่ได้อยากได้ของเธอนักหรอกน่า ยัยคนสับสนทางเพศเอ๊ย” ซันนี่โยนของในมือใส่อีกคนก่อนจะเดินห่างออกไป
“ย๊า! คอยดูนะ ถ้าเธอเกิดชอบผู้หญิงด้วยกันขึ้นมาเมื่อไหร่ ฉันจะหัวเราะให้กลิ้งเลย ยัยเตี้ย!!”
อีกด้านหนึ่งแทยอนที่ยืนอยู่อีกด้านของสนามกำลังมองหญิงสาวคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะแอบตามเจสสิก้าไปอย่างลับๆ
“ยัยนั้นชื่อ ควอน ยูริ” ทิฟฟานี่เอ่ยขึ้นที่ข้างๆหูแบบไม่ให้อีกฝ่ายตั้งตัว ทำเอาแทยอนตกใจถอยหนีไปหลายก้าว
“ธะ...เธอมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”
“น่าแปลก ปกติถ้าไม่ใช่ที่สระว่ายน้ำ ยัยนั้นจะอายมากเวลามีคนเยอะๆนี่นา
ทำไมวันนี้ถึงมาเดินตามเจสสิก้ากลางฝูงชนแบบนั้นได้นะ”
ทิฟฟานี่ไม่สนใจอาการตกใจของอีกคนแม้แต่น้อย ได้แต่คิดหาเหตุผลว่ามีอะไรเกิดขึ้น
“รึว่าเมื่อวานฉันพลาดอะไรไป?” เธอยังคงสงสัยในความเปลี่ยนแปลงของ ควอน ยูริ
“ดีล่ะ งั้นหัวข้อการประชุมของวันนี้ ‘ควอน ยูริ เมื่อวานนี้เกิดอะไรขึ้นกับเธอกันนะ? ’”
หลังจากพูดเองเออเองอยู่คนเดียว ทิฟฟานี่ก็เดินนำหน้าแทยอนที่ยืนอึ้งอยู่ออกไป
“อ้าว? แล้วนี่เธอจะไม่เข้าเรียนรึไง ยืนนิ่งอยู่ได้” ว่าแล้วเธอก็เดินกลับมาลากแขนแทยอนไปยังห้องเรียน
เจสสิก้ายังคงยืนนิ่งมองคนที่ไม่สมควรจะมาอยู่ที่นี่ในเวลานี้อย่างไม่วางตา
“มีเสียงคนว่ายน้ำในสระว่ายน้ำมันแปลกตรงไหนกัน ข้ออ้างของเธอนี่มันใช้ไม่ได้เลยนะ”
หญิงสาวคนนั้นเอ่ยออกมาขณะหันไปหยิบเสื้อคุมจากเก้าอี้ที่ตั้งอยู่ข้างสระมาสวมทับชุดว่ายน้ำไว้
“ไหนกระดาษล่ะ เอาออกมาสิ ฉันแถมลายรูปถ่ายพร้อมเซ็นให้เป็นพิเศษด้วยก็ได้นะ”
“ห๊า!!” เจสสิก้าดูจะไม่เข้าใจสิ่งที่ร่างสูงนั้นพูดออกมาเอาซะเลย
“อะไรกัน เธอไม่ได้จะมาขอลายเซ็นกับรูปถ่ายของฉัน ควอน ยูริ นักว่ายน้ำคนดังแห่งโรงเรียนโซนยอชิแดคนนี้หรอกเหรอ”
“ควอน ยูริ? ฉันไม่เห็นจะเคยได้ยินเลยชื่อนี้เลย” เจสสิก้าเอ่ยออกมาอย่างไม่สนใจสายตาของอีกคนที่หันควับมามอง
“อะไรนะ เธอไม่เคยได้ยินชื่อฉันงั้นเหรอ ไม่น้า.... นี่ความนิยมของเราตกต่ำลงแล้วเหรอเนี่ย ไม่ได้การ ซันนี่ ต้องปรึกษาซันนี่ด่วน”
หลังจากแสดงท่าทางโอเวอร์แอ็คติ้งอยู่พักใหญ่ ยูริก็รีบวิ่งไปหยิบโทรศัพท์มากดหาเพื่อนสนิทตัวเตี้ยอย่างรวดเร็ว
‘ว่าไง ไอ้ลิง’ เสียงจากปลายสายเอ่ยทักทายเพื่อนรักที่ตัวโตกว่า
“ซันนี่ วันนี้มียัยหัวทองคนหนึ่งบอกว่าไม่รู้จักฉัน มันเป็นไปไม่ได้ใช่มั้ย แกบอกฉันสิว่ามันเป็นไปไม่ด้ายยยยยย”
‘ยูริ นี่แกอยู่ที่สระว่ายน้ำใช่มั้ย?’
“ก็ ใช่น่ะสิ นักว่ายน้ำอันดับหนึ่งอย่างฉัน จะสามารถเฉิดฉายเจิดจรัสเปล่งประกายระยิบระยับให้ผู้คนได้เห็นเสน่ห์อัน เหลือล้นอย่างเต็มที่
ก็ที่สระว่ายน้ำนี่แหละ”
‘..............’
“ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าในโรงเรียนนี้ยังมีคนที่ไม่รู้จักสาวงามนักว่ายน้ำอันดับหนึ่ง ควอน ยูริ คนนี้อยู่อีก”
‘.............’
“ซันนี่เพื่อนรัก ฉันจะทำยังไงกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นตรงหน้านี่ดี ได้โปรด....ช่วยเพื่อนสาวแสนงามคนนี้ด้วยเถอะ”
‘แกรก ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด ......’ ดูเหมือนปลายสายจะรำคาญจนวางหูไป
“ซันนี่ แม้กระทั่งเธอก็ทำกับฉันแบบนี้เหรอเนี่ย จบสิ้นกันแล้วความโด่งดังของฉัน”
ยูริยังคงแสดงออกแบบโอเวอร์แอ็คติ้งต่อไป
“ยัยนี่ ท่าทางจะไม่ปกติแฮะ” เจสสิก้าไม่อาจหาคำใดอธิบายการกระทำของหญิงสาวตรงหน้าได้
ขณะที่ยูริกำลังคร่ำครวญกับตนเองอยู่นั้น สิ่งไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อน้ำในสระค่อยๆม้วนเป็นตัวขึ้นสู่อากาศ
“บ้าจริง ทำไมต้องมาอาละวาดตอนนี้ด้วยนะ” เจสสิก้าที่สังเกตเห็นเป็นคนแรกพึมพำกับตัวเองด้วยความหงุดหงิด
“ห้าโมงสี่สิบห้า”
ก่อนที่ยูริจะรู้สึกตัว น้ำวนกลางอากาศก็พุ่งเข้าหวังจะโจมตีใส่เธอ
โชคดีที่เจสสิก้าวิ่งไปเตะเสยคางได้ทัน ทำให้เธอหลบการโจมตีนั้นพ้นอย่างหวุดหวิด
“กรี๊ดดดดด!! เธอทำบ้าอะไรเนี่ย บังอาจมาเตะใบหน้าอันงดงามของฉันอย่างนั้นเหรอ”
ร่างสูงที่ถูกเตะโดยไม่ทันได้ตั้งตัวหันมาโว้ยวายใส่สาวผมทอง แต่ต้องหยุดชะงักลงเมื่อเห็นมวลน้ำขนาดใหญ่ลอยอยู่บนอากาศ
น้ำจำนวนมหาศาลพุ่งเข้าใส่ยูริอีกครั้ง คราวนี้เธอโดนเข้าอย่างจัง ร่างของเธอที่ติดอยู่ในนั้นถูกพาให้ลอยขึ้นไป
‘นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย แย่แล้ว...หาย...ใจ...ไม่ออก’
เธอได้แต่คิดอยู่ในใจ แม้จะพยายามดิ้นร้นอย่างสุดความสามารถก็ไม่อาจหลุดออกจากมวลน้ำนั้นได้
ปั้ง!! ปั้ง!!
เสียงปืนสองนัดดังขึ้นท่ามกลางความวุ่นวายนั้น กระสุนตรงเข้าไปยังส่วนหนึ่งของน้ำก้อนใหญ่ยักษ์
ร่างที่หมดสติเพราะขาดอากาศของยูริร่วงลงสู่สระน้ำเบื้องล่าง เมื่อน้ำบริเวณที่สัมผัสกระสุนนั้นสลายไป
เจสสิก้าได้โอกาสที่มวลน้ำแปลกประหลาดกำลังซ่อมแซมตัวเองอยู่ จึงกระโดดลงไปคว้าตัวอีกคนขึ้นมาไว้ที่ริมสระ
ก่อนจะกระชับปืนในมือแน่น แล้วสวดภาวนากับกระสุนน้ำมนต์ที่ขึ้นลำอยู่แล้ว
“ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าบนสวรรค์ ขอพระองค์โปรดเมตตา นำแสงสว่างมาสู่ข้า ส่องให้เห็นตัวจริงของสิ่งนี้ด้วยเถิด”
กระสุนถูกยิงเข้าไปในก้อนน้ำนั้นหนึ่งนัด มันระเบิดออกทันทีที่สัมผัสกับเป้าหมาย
จากก้อนน้ำใหญ่โต เปลี่ยนเป็นสัตว์ประหลาดตัวเขียว มีมือและเท้าเป็นพังผืด พร้อมกระดองที่หลังและจานบนหัว
“ดันเป็นไอ้ตัวที่ฉันเกลียดที่สุดอีกแน่ะ ไอ้ตัวกินแตงกวาบ้านี่”
กัปปะ คือภูติที่เจสสิก้าไม่ปลื่มมากที่สุด เพราะครั้งหนึ่งมันเคยเอาแตงกวาที่เธอแสนเกลียด ปาใส่ขณะที่พยายามกำจัดมันออกไปจากหนองน้ำ
ภูติที่ชอบแตงกวา กับมนุษย์ที่เกลียดแตงกวาต่างโจมตีเข้าใส่กันอีกครั้งอย่างไม่มีใครยอมใคร
ขณะที่การต่อสู้ยังคงดำเนินไป เด็กสาวผู้มีดวงตาสีแดงเพลิงเปล่งประกายคนหนึ่ง ก็กำลังเฝ้ามองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
อยู่บนยอดของหอนาฬิกาที่ตั้งตระหง่าน ณ ใจกลางโรงเรียน ท่ามกลางความมืดที่คืบคลานเข้ามา
‘จะไม่ไปช่วยคุณหนูผมทองคนนั้นสักหน่อยเหรอ แม่สาวแก่ในร่างเด็ก’
ฮโยยอนที่ปรากฏกายขึ้นข้างๆร่างนั้นเอ่ยถาม ร่างบางที่ยืนอยู่ก่อนได้แต่ส่งยิ้มบางตอบกลับมา
‘เมื่อเช้ายังไม่มีเลยแท้ๆ เจ้ากัปปะนั้นมาจากไหนกันนะ’
“ถูกดึงดูดเข้ามาน่ะค่ะ คุณฮโยยอนเองก็สัมผัสได้เหมือนกันไม่ใช่เหรอคะ ถึงได้ไปคลุกคลีอยู่กับคนๆนั้นทั้งวัน”
‘อ่า...เพราะ คิม แทยอน เด็กใหม่คนนั้นเองเหรอเนี่ย’
“แต่ไม่คิดเลยนะคะ ว่าคุณจะถึงขนาดไปแนะนำตัวเองก่อนแบบนั้น ระวังจะถูกคุณหนูเอ็กโซสิสท์ฝึกหัดตรงนั้นขับไล่เอานะ”
เธอพยักพเยิดไปทางสระว่ายน้ำ
‘เธอก็รู้อยู่แล้วนี่ว่ามันเป็นไปไม่ได้ อย่าห่วงไปเลยน่า’
“นั้นสินะคะ ฉันก็ลืมไป ว่าทั้งฉันและคุณจะต้องอยู่ที่นี่ต่อไป จนกว่าเวลานั้นจะมาถึง”
เวลาผ่านไป การต่อสู้ที่สระว่ายน้ำก็มาถึงช่วงสุดท้าย
ทั้งเจสสิก้าและเจ้ากัปปะตัวเขียวดูจะเหลือเรี่ยวแรงให้ฟาดฟันกันอีกไม่มากแล้ว
“ทดทายาดจริงๆ ไอ้ตัวกินแตงกวานี่ รีบๆสลายไปสักทีสิยะ” เธอบ่นออกมาตอนวิ่งหลบสายน้ำที่อีกฝ่ายใช้โจมตี
ก่อนจะสาดกระสุนน้ำมนต์ที่เหลืออยู่ในแม็กกาซีนใส่จนหมด แต่ก็ถูกกำแพงน้ำกั้นเอาไว้ไม่สามารถทำอันตรายต่อศัตรูได้
ขณะเดียวกัน ยูริที่นอนหมดสติอยู่ริมสระ ค่อยๆลืมตาขึ้น แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นสัตว์ประหลาดตัวเขียวอยู่ตรงหน้า
“กรี๊ดดดดด นี่มันตัวอะไรกันเนี่ยยยย ไม่ มันไม่ใช่ความจริง ฉันจะต้องฝันไปแน่ๆ ยูริ ตื่นได้แล้วควอน ยูริ ตื่นเร็วๆเข้า”
เธอใช้สองมือตบเข้าที่ใบหน้าของตัวเอง พยายามหลีกหนีจากความเป็นจริง ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่สำเร็จ
“ตื่นพอดีเลยยัยคนหลงตัวเอง หยิบกระเป๋าเป้ที่อยู่ใกล้ๆนั้นโยนมาเร็วเข้า”
เจสสิก้าตะโกนมาจากอีกด้านของสระ เธอกำลังเข้าตาจนเมื่อกระสุนที่ใช้ต่อสู้หมดลง แต่ดูเหมือนคำพูดของเธอจะไม่เข้าหูอีกคนเลยสักนิด
“มัวทำอะไรอยู่ยัยลิงดำหยิบขึ้นมาเร็วเข้าสิ เดี๋ยวก็ได้ซี้แหงแก๋กันทั้งคู่หรอก”
ในที่สุดลิงดำ ควอน ยูริ ก็รู้สึกตัวรีบมองหากระเป๋าแล้วโยนไปให้เจสสิก้าทันที
กระเป๋าใบนั้นตกลงข้างๆ ตัว เจสสิก้าจึงก้มตัวลงหยิบ เป็นเหตุให้เจ้ากัปปะผู้มีมารยาทงามคิดว่าเธอโค้งศีรษะให้มัน
มันจึงโค้งตอบ ทำให้น้ำในจานบนหัวหกออกมา มันจึงอ่อนแอลง กำแพงน้ำที่กางไว้ป้องกันตัวก็หายไปด้วย
เมื่อเห็นเช่นนั้น เจสสิก้าจึงเปลี่ยนกระสุนใหม่ จากน้ำมนต์เป็นกระสุนระเบิดเพลิง
“ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าบนสวรรค์ โปรดชี้ทางแห่งแสงสว่าง ให้กับสัตว์โลกผู้หลงผิดตัวนี้ด้วยเถิด”
คาถาถูกร่ายออกมาพร้อมกับกระสุนที่ตรงเข้าสู่ร่างของปีศาจตัวเขียว เผ่าผลาญร่างนั้นให้สลายหายไปในพริบตา
“ต่อไปก็ตายัยนั้นสินะ” เจสสิก้าเดินตรงไปหายูริที่ยืนนิ่ง งุนงงกับเหตุการณ์แปลกประหลาดที่เพิ่งเกิดขึ้น
เธอหยิบแว่นดำจากกระเป๋าขึ้นมาสวม ก่อนจะหยิบอุปกรณ์บางอย่างรูปร่างคล้ายปากกาขึ้นมาถือไว้
“ทุ่มครึ่งพอดี” เธอปรับตั้งเวลาที่อุปกรณ์นั้นไปที่หนึ่งชั่วโมงสี่สิบห้านาที
“ควอน ยูริ” เจ้าของชื่อหันไปตามเสียง แสบวาบปรากฏขึ้นจากอุปกรณ์นั้น ก่อนที่ยูริจะหมดสติลงไปกองกับพื้น
“ฝันดีนะ ยัยคนหลงตัวเอง” แล้วเจสสิก้าก็เดินจากไป ปล่อยให้อีกคนนอนไม่ได้สติอยู่แบบนั้น
เช้าวันที่สองของการเปิดเทอม เจสสิก้ายังคงเริ่มต้นวันใหม่ด้วยความเอื่อยเฉื่อยเช่นเดิม
“อรุณสวัสดิ์เจสสิก้า เมื่อคืนนอนไม่หลับเหรอ ท่าทางง่วงๆนะ”
ซูยองที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนเดินมาขว้างหน้าสาวผมทองที่กำลังอ้าปากหาวไว้
“รับนี่ไปสิ เธอจะได้สดชื่นขึ้น”
ช่อดอกไม้ถูกยื่นมาให้พร้อมกับรอยยิ้มกว้าง เจสสิก้ารับช่อดอกไม้นั้นมาก่อนจะเอ่ยทักหญิงสาวตัวเล็กผมสั้นที่บังเอิญเดินสวนมา
“เธอ คนๆนี้เค้าบอกว่ารับนี่ไว้แล้วจะสดชื่นขึ้นน่ะ เอ้า”
อยู่ๆ แม่นางก็ยกช่อดอกไม้ที่เพิ่งได้มาหยกๆให้อีกคนไปหน้าตาเฉย แล้วก็เดินจากไป
“ห๊า!” ซันนี่ที่บังเอิญเดินสวนมานั้นมองช่อดอกไม่ที่ถูกยัดเยียดให้เธออย่างงงๆ
“เอาคืนมานะยัยเตี้ย นั้นมันของฉัน”
เมื่อเห็นว่าอีกคนเดินไปไกลแล้ว ซูยองจึงหันไปทวงช่อดอกไม้ของตนคืนจากร่างเล็กที่อยู่ข้างๆ
“ฉันก็ไม่ได้อยากได้ของเธอนักหรอกน่า ยัยคนสับสนทางเพศเอ๊ย” ซันนี่โยนของในมือใส่อีกคนก่อนจะเดินห่างออกไป
“ย๊า! คอยดูนะ ถ้าเธอเกิดชอบผู้หญิงด้วยกันขึ้นมาเมื่อไหร่ ฉันจะหัวเราะให้กลิ้งเลย ยัยเตี้ย!!”
อีกด้านหนึ่งแทยอนที่ยืนอยู่อีกด้านของสนามกำลังมองหญิงสาวคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะแอบตามเจสสิก้าไปอย่างลับๆ
“ยัยนั้นชื่อ ควอน ยูริ” ทิฟฟานี่เอ่ยขึ้นที่ข้างๆหูแบบไม่ให้อีกฝ่ายตั้งตัว ทำเอาแทยอนตกใจถอยหนีไปหลายก้าว
“ธะ...เธอมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”
“น่าแปลก ปกติถ้าไม่ใช่ที่สระว่ายน้ำ ยัยนั้นจะอายมากเวลามีคนเยอะๆนี่นา
ทำไมวันนี้ถึงมาเดินตามเจสสิก้ากลางฝูงชนแบบนั้นได้นะ”
ทิฟฟานี่ไม่สนใจอาการตกใจของอีกคนแม้แต่น้อย ได้แต่คิดหาเหตุผลว่ามีอะไรเกิดขึ้น
“รึว่าเมื่อวานฉันพลาดอะไรไป?” เธอยังคงสงสัยในความเปลี่ยนแปลงของ ควอน ยูริ
“ดีล่ะ งั้นหัวข้อการประชุมของวันนี้ ‘ควอน ยูริ เมื่อวานนี้เกิดอะไรขึ้นกับเธอกันนะ? ’”
หลังจากพูดเองเออเองอยู่คนเดียว ทิฟฟานี่ก็เดินนำหน้าแทยอนที่ยืนอึ้งอยู่ออกไป
“อ้าว? แล้วนี่เธอจะไม่เข้าเรียนรึไง ยืนนิ่งอยู่ได้” ว่าแล้วเธอก็เดินกลับมาลากแขนแทยอนไปยังห้องเรียน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น