คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Part 5 :
5
ฉันว่านี่ก็นานมากแล้วนะ ที่ฉันมาอยู่กับหมอนี่น่ะ อีกอย่าง ตอนนี้เขาก็รู้แล้วด้วยว่าฉันคือคุณหนู
แพลนเน็ต แต่ทำไมนะ.......ทำไม ฉันถึงไม่รู้สึกเป็นกังวลว่าเขาจะพันกลับไปส่งที่บ้านเหมือนที่ฉันเคยกังวลกับชายสี่แล้วก็ช้องนางเลยแฮะ แปลกจังเลย........ที่ฉันรู้สึกไว้ใจแล้วก็อบอุ่นที่ได้มาอยู่ที่นี่ อยู่กับผู้ชายคนนี้ ทั้งๆที่ฉันน่าจะกลัว น่าจะหวาดระแวงด้วยซ้ำ เพราะเขาไม่ใช่แม้แต่ญาติพี่น้องของฉัน แต่ฉันน่ะ ฉัน.......รู้สึกยังไงกับเขากันแน่นะ????
“คิดอะไรอยู่เหรอ คุณหนู”
แหม ตายยากจริงนะ ซีเดินมานั่งลงข้างๆฉัน แล้วยื่นอะไรเย็นๆมาแตะที่ข้างแก้มฉันก็ไม่รู้
“อะไรน่ะ”
“โยเกิร์ต กินสิ อ้ะ”
ซียื่นโยเกิร์ตให้ฉัน ฉันก็เลยรับมา แล้วเปิดฝาออก
“คุณหนูยังไม่ได้ตอบคำถามฉันเลยนะ”
ให้ตายเถอะ!ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครเรียกแทนชื่อฉันด้วย ‘คุณหนู’ แล้วแทนตัวเองว่า ‘ฉัน’ เลยสักครั้ง หมอนี่เป็นคนแรกเลยนะเนี่ย ถึงมันจะฟังดูแปลกๆก็เหอะ แต่ฉันว่ามันก็โอเคนะ
“อะไรเหรอ? เมื่อกี้นายถามฉันว่าไงนะ” ก็ฉันไม่ได้ตั้งใจฟังจริงๆนี่นา คนกำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่ หมอนี่ก็โผล่เข้ามาอ่ะ
“แหม ~ มัวแต่คิดถึงใครอยู่ล่ะ ไม่ได้สนใจฟังฉันเลยใช่มั๊ย” ฮ่าๆๆ เวลาหมอนี่ทำหน้าน้อยใจ ตลกชะมัดเลย ฮ่าๆๆ
“คุณหนูยิ้มอะไรน่ะ” อ้าว!นี่ฉันเผลอยิ้มออกมาเหรอเนี่ย ก็หน้าหมอนี่มันตลกจริงๆนี่นา
“เปล่าๆ ไม่มีอะไรหรอก ตกลงเมื่อกี้นายถามฉันว่าอะไรนะ ขอโทษนะ พอดีฉันกำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่น่ะ”
“ช่างเถอะ ไม่มีอะไรสำคัญมากมายหรอก ฉันก็ถามไปงั้นแหละ ว่าแต่คุณหนูน่ะ กำลังคิดถึงใครอยู่หรือเปล่า”
“ทำไมอ่ะ นายอยากรู้จริงๆเหรอ” ฉันแกล้งทำหน้าทะเล้นใส่นายซี ฮ่าๆๆ ขำอ่ะ ก็หน้าหมอนี่ตอนนี้น่ะสิ ทำหน้างอนๆแบบนี้แล้ว หมอนี่ก็ยังดูดีอยู่เลย
“ก็ใช่น่ะสิ บอกมานะว่าคุณหนูกำลังคิดถึงใครอยู่”
“ฉันกำลังคิดถึง......”
“ถึง.......”
“ชายสี่......”
แป่ว!!คุณหนูนะคุณหนู ไอ้เราก็นึกว่ากำลังคิดถึงเราอยู่ซะอีก มันน่านัก จนป่านนี้แล้วยังไม่ยอมลืมไอ้หมอนั่นอีกเหรอเนี่ย คิดว่าจะโกรธกันแล้วซะอีก แล้วทำไมผมต้องมานั่นเสียดาย เอ.....หรือว่าเสียใจ บ้าๆๆ ไม่นะ ผมจะคิดอะไรกับคุณหนูไม่ได้ๆนะ ไม่ได้เด็ดขาด ไม่ได้ๆๆๆๆ โอ๊ย!!!นี่ผมเป็นบ้าอะไรไปเนี่ยยยยยยยย
“นี่นายๆ เป็นอะไรไปเหรอ สะบัดหัวทำไมน่ะ ปวดหัวเหรอ” จริงๆนะ ฉันเห็นนายซีสะบัดหัวไปมาสองสามครั้งจริงๆ
“เปล่าๆไม่มีอะไรหรอก”
“นายเป็นอะไรเหรอ ไม่สบายหรือเปล่า”
“ฉันเจ็บ....” เสียงแผ่วๆแบบนี้ มันอาการน้อยใจชัดๆ (ฉันเป็นบ่อย อิอิ)
“เจ็บเหรอ......เจ็บตรงไหน ไหนขอดูหน่อยสิ เดี๋ยวฉันทายาให้เอามั๊ย” ฉันเอามาลูบๆไปตามตัวหมอนี่ แต่เขาดันปัดมือฉันออก เอ๊ะ ยังไงของเขากันนะ
“ไม่ต้อง”
“นายเป็นบ้าอะไรของนายเนี่ย โกรธอะไรฉันอีกล่ะ ฉันทำอะไรให้นายไม่พอใจหรือไง”
“นิดหน่อย คุณหนูจะไปไหนก็ไปเถอะ ฉันไม่ได้เป็นอะไรมาก เดี๋ยวหายากินแก้ช้ำในก็พอแล้ว”
พูดจาแปลกๆแฮะหมอนี่ แถมตรงคำว่า ช้ำใน นี่ต้องหันมาย้ำใส่หน้าฉันด้วย ทำไมยะ เห็นฉันเป็นต้นใบบัวบกหรือไง ถึงต้องมาย้ำคำนั้นให้ฉันฟังชัดๆน่ะ
“ไม่จริง ฉันไม่เชื่อนายหรอก นายโกหก นายเป็นอะไรกันแน่”
“ก็บอกแล้วไง ว่าไม่ได้เป็นอะไร คุณหนูจะมาวุ่นวายกับฉันทำไมเนี่ย ไปหาไอ้ชายสี่ของคุณหนูสิ ป่านนี้คงจะคิดถึงมันจะแย่แล้วสินะ”
เสียงขื่นๆแบบนี้ ชัดเลย.........ชัดเลย หมอนี่ หึง ชัวร์!!! แต่.........จะหึงใครล่ะ ฉันเหรอ.........
“นาย.........โกรธ.......ที่ฉันคิดถึงชายสี่เหรอ”
ขวับ!!!
แง้! อย่ามองฉันด้วยสายตาแบบนั้นสิ ฉันกลัวน้า
“ไม่รู้สิ........คงงั้นมั้ง”
แป่ว!มีคงงั้นด้วย จะบ้ากันไปใหญ่แล้ว
“ตกลง นายโกรธฉัน............เพราะฉันคิดถึงชายสี่ ใช่มั๊ย”
“ก็.......ใช่”
“แล้วนายจะให้ฉันทำยังไง จะให้ฉันห้ามใจตัวเองไม่ให้คิดหรือไง นายจะบ้าเหรอ”
“ใช่.......ฉันคงจะห้ามคุณหนูไม่ให้คิดถึงไอ้ชายไม่ได้ แต่คุณหนูจะแบ่งใจเธอมาคิดถึงฉันด้วยไม่ได้หรือไง”
ง่ะ!!!นะ.....นี่ ฉัน.........ฉันไม่ได้หูฝาดไปใช่มั๊ย
“คิดถึง.........นายเนี่ยนะ”
ซีพยักหน้าตอบรับให้ฉันด้วย แง้ๆ เขินอ่ะ
“ถ้านาย......ต้องการอย่างนั้น.......ก็ได้” อ๊า ~ เขินๆ เขินจะตายอยู่แล้ว แบบนี้ หมอนี่กำลังสารภาพรักกับฉันอยู่หรือเปล่านะ โอ๊ย ~ ไม่ไหวๆ จะเป็นลมๆ ขอยาดมหน่อย เกิดมาเพิ่งเคยมาผู้ชายมาสารภาพรักตรงๆแบบนี้ โอ๊ย ~ หัวใจจะวายตาย
“คุณหนู.......คิดยังไงกับฉัน?”
นายซีถามฉันล่ะ แถมยังยืนจ้องหน้าฉันด้วย อ๊า อยากจะบ้าตาย คิดยังไงน่ะเหรอ........คิดๆๆๆ ก็.....
“คิด....ยังไงล่ะ ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคิดยังไงกับนาย”
“แต่ฉันรู้นะ.......ฉันรู้ว่าฉันชอบคุณหนู”
ชอบ!!!ชอบฉัน เนี่ยนะ!!! ให้ตายเถอะ
“ฉันเองก็ไม่ได้เกลียดนายสักหน่อย จะว่าไปนายก็โอเคนะ”
“แล้วไอ้โอเคของคุณหนูนี่มันหมายความว่าชอบหรือไม่ชอบล่ะ”
ทำไมต้องมาบังคับกันด้วยเล่า ฉันอุตส่าห์หลีกเลี่ยงที่จะพูดคำพวกนั้นแล้วนะ
“ก็........ไม่รู้สิ ชอบ.....มั้ง”
“ทำไมต้องมีมั้งด้วยล่ะ หรือคุณหนูไม่ชอบฉัน”
“ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย คือว่า........คือ.....” ยังไงดีล่ะ ฉันน่ะ ฉันคิดยังไงกับหมอนี่กันแน่นะ ไม่ค่อยแน่ใจเลยแฮะ แต่อย่างน้อย ตลอดเวลาที่ฉันอยู่กับหมอนี่ ฉันก็รู้สึกอบอุ่นแล้วก็มีความสุขดีนะ ที่ได้อยู่ใกล้ๆคนอย่างเขาน่ะ
“เสียงอะไรน่ะ” ฉันถาม เพราะอยู่ดีๆก็มีเสียงแปลกๆดังขึ้นมาขัดจังหวะพอดี ฟู่ว!!!
“อ้อ ริงโทนใหม่ของฉันเองแหละ แปบนึงนะ”
นายซีกดรับโทรศัพท์แล้วเดินออกไปคุยข้างนอก แต่ไม่ถึง 5 นาที หมอนี่ก็รีบวิ่งเข้ามาหาฉันตาลีตาเหลือก
“คุณหนู!!รีบหนีเร็ว!!เร็วเข้า ตอนนี้คุณพ่อกำลังส่งคนมาหาคุณหนูที่นี่”
“ว่าไงนะ!!”
ฉันแหกปากลั่น แต่นายซีหัวไวกว่า รีบพาฉันที่กำลังตกใจตาค้างออกทางหลังบ้าน แล้ววิ่งสู้ฟัดใส่เกียร์หมากันไปอย่างเร็ว
“นายจะพาฉันไปไหนน่ะ”
ตอนนี้สติสตังฉันเริ่มจะเข้าที่เข้าทาง ก็เลยลองถามหมอนี่ดู เพราะตอนนี้เราก็วิ่งกันมาได้สักพักแล้วแหละ ขาฉันเริ่มตึง งานนี้มีหวังฉันต้องน่องปูดเป็นลูกมะขวิดแหงๆ
“ไม่รู้สิ รู้แต่ว่าฉันต้องพาคุณหนูหนีไปก่อน คุณหนูไม่อยากกลับไปหมั้นกับไอ้ชายไม่ใช่เหรอ”
“อืม แต่ที่จริง นายไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้นะ ฉันว่ามัน...”
“ทำไม!คุณหนูอยากจะกลับไปหมั้นกับไอ้ชายงั้นสิ คิดถึงมันมากใช่มั๊ย”
“จะบ้าหรือไง ฟังฉันก่อนได้มั๊ย”
“.........”
“ฉันน่ะ.......แค่ไม่อยากให้นายมาเดือดร้อนเพราะฉันต่างหากล่ะ ลำพังถ้าพ่อเจอฉันคนเดียว ท่านก็คงไม่ทำโทษอะไรมาก อาจจะแค่ดุ หรือว่ากล่าวตักเตือน แต่ถ้าท่านเจอนายอยู่กับฉันล่ะก็....นายอาจจะโดนมากกว่านั้น ฉันไม่อยากให้นายมาเดือดร้อนเพราะฉัน”
“คุณหนูเป็นห่วงฉันเหรอ”
“ใช่.......ฉันไม่อยากให้ใครต้องมาเดือดร้อนเพราะฉันอีก”
เอี๊ยดดดดดดด ~
“คุณหนู.......กลับบ้านกับผมเถอะครับ คุณพ่อของคุณหนูรออยู่นะครับ”
อยู่ๆรถเก๋งสีดำสนิท (ซึ่งฉันจำได้แม่นว่ามันเป็นรถของที่บ้านฉันเอง) มาเลี้ยวมาตัดหน้าพวกเรา แล้วจอดดักหน้าไว้ ก่อนจะมีผู้ชายใส่แว่นตาดำสองคนเดินลงมาจากรถแล้วมาพูดกับฉันด้วยเสียงเย็นๆ สองคนนี้เป็นใครกันนะ
“พวกนายเป็นใครน่ะ นายสองคนไม่ได้เป็นคนขับรถที่บ้านฉันนี่นา” จริงๆนะ ฉันไม่รู้จักสองคนนี้จริงๆ
“ใช่ครับ พวกผมไม่ใช่คนขับรถที่บ้านของคุณหนูหรอก แต่เป็นนักสืบที่คุณพ่อของคุณหนูส่งมาตามคุณหนูต่างหาก”
“จะเป็นอย่างนั้นไปได้ยังไง ในเมื่อคุณพ่อของคุณหนูส่งฉันมาตามสืบเรื่องคุณหนูแล้วนี่นา”
อยู่ๆนายซีที่ยืนอยู่ข้างๆฉันก็โพล่งขึ้นมา ซึ่งคำพูดของเขาทำให้ฉันตกใจมากกว่าเรื่องของนายแว่นดำสองคนนี้เป็นสองเท่า
“ว่าไงนะ!!นี่นายเองก็เป็นนักสืบที่พ่อส่งมาตามสืบเรื่องฉันงั้นเหรอ?”
“เอ่อ คุณหนู คือ.....”
คราวนี้ ดูเหมือนนายซีจะเพิ่งนึกได้ว่าได้พูดความลับของตัวเองออกมาแล้ว เขาดูตกใจไม่น้อย แต่ฉันสิ ฉันต้องเป็นคนที่ตกใจมากกว่านายถึงสองเท่านะ
“ฉันไม่น่าไว้ใจคนอย่างนายเลยจริงๆ นายหลอกฉัน!!!”
ฉันสะบัดข้อมือออกจากมือของนายซีอย่างแรงจนรู้สึกเจ็บนิดๆ แล้วรีบวิ่งหนีออกมาจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว ฉันรู้สึกว่ามีน้ำใสไหลลงมาอาบแก้มฉันแล้วด้วยนะ นี่ฉันร้องไห้เหรอเนี่ย แต่ฉันก็อยากจะร้องไห้อยู่เหมือนกันแหละ มันอัดอั้นมานานแล้ว ฮือๆๆๆๆ เอาให้เต็มที่ไปเลย ฮือๆๆๆ
“คุณหนู!!รอฉันด้วยสิ คุณหนู!!”
ฉันได้ยินเสียงนายซีแว่วๆมาทางข้างหลังนะ ก็เลยหันไปมอง หมอนั่นกำลังวิ่งตามฉันมาจริงๆด้วย บ้าจริง!!จะวิ่งตามมาทำบ้าอะไรก็ไม่รู้
“ไปให้พ้นนะ ฉันเกลียดนาย ฉันไม่อยากเห็นหน้านายอีกแล้ว ไปให้พ้นนะ!!”
ฉันพยายามตะโกนไล่เขา แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลเลยแฮะ ยิ่งฉันแหกปากเท่าไหร่ หมอนั่นก็ยิ่มเร่งฝีเท้าให้ตามฉันเร็วขึ้นเท่านั้น จะตามมาทำไมก็ไม่รู้
“หยูดก่อน คุณหนูต้องฟังฉันนะ คุณหนู ฉันรักคุณหนูนะ”
กึก!!!
ฉันหยุดวิ่งทันที (ที่จริงรู้สึกเหมือนขามันหมดแรงวิ่งเองมากกว่า อยู่ดีๆมันก็หยุดซะงั้นอ่ะ) ฉันหันกลับไปมองหน้านายซีที่กำลังวิ่งมาถึงตัวฉันแล้ว
“ฟังฉันนะ คุณหนู ฉันขอโทษที่ไม่ได้บอกความจริงคุณหนูตั้งแต่แรก ว่าฉันคือนักสืบที่คุณพ่อของคุณหนูจ้างให้มาตามสืบเรื่องคุณหนู ฉันแค่กลัวว่าถ้าฉันบอกความจริงไป คุณหนูจะโกรธ แล้วก็จะเกลียดฉัน เพราะฉันเริ่มรู้สึกว่าชอบคุณหนูตั้งแต่ตอนที่ฉันเห็นหน้าคุณหนูจากรูปที่ทางองค์กรส่งมาให้ ก่อนที่จะเจอตัวจริงของคุณหนูซะอีก”
“นาย.....”
ฉันพูดอะไรไม่ออกแล้ว รู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรสักอย่างมาจุกอยู่ที่คอหอย โอ๊ย ~ วันนี้ฉันโดนสารภาพรักถึงสองครั้งสองครา แถมยังในสถานการณ์ที่หน้าสิ่วหน้าขวานอีกต่างหาก ให้ตายเหอะ!!
“ฉันขอโทษนะ คุณหนูอย่าโกรธฉันเลยนะ”
“อืม.....ฉันไม่โกรธนายก็ได้”
ฉันพูดออกแล้ว เย้ๆ แต่.......ไอ้แว่นดำสองคนนั้นมาถึงแล้วล่ะ เผ่นเร็ว!!!
“อย่าเพิ่งพูดอะไร หรีกันก่อนเถอะ สองคนนั้นตามมาแล้ว”
ฉันรีบบอกกับนายซี เพราะหมอนี่ยืนหันหลังอยู่ ก็เลยไม่เห็น หลังจากนั้น ฉันกับหมอนี่ก็เตรียมตัวจะใส่เกียร์หมากันสุดชีวิต แต่......
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!!อย่าหนี!!”
ปัง!!!!
สะ......เสียงปืน ฉันหันหลังกลับไป ไอ้แว่นดำคนหนึ่งถือปืนซึ่งหันปากกระบอกมาทางเราสองคน ส่วนคนที่โดนยิงก็คือ.......นายซี
“นาย!!!นี่นาย อย่าเพิ่งเป็นอะไรนะ นี่ๆๆ ลุกขึ้นสิ ฉันบอกให้ลุกขึ้นไง”
นายซีค่อยๆทรุดลงกับพื้น ส่วนฉันที่กำลังเขย่าร่างของเขาอยู่ ก็โดนไอ้แว่นดำดึงออกมาจากร่างของนายซี ตอนนี้ฉันกำลังโดนลากไปขึ้นรถ ฉันจับมือของซีแน่น ฉันจะไม่ยอมทิ้งเขาไปทั้งๆที่เขากำลังบาดเจ็บแบบนี้แน่ๆ เขาต้องมาเดือดร้อนเพราะฉันแท้ๆเลย ฮือๆๆ
“ฮือๆๆ นาย นายอย่าเป็นอะไรนะ ฮือๆๆ”
ฉันร้องไห้พลางขืนตัวเองไว้ ไม่ให้ไอ้บ้าแว่นดำดึงฉันออกไปได้ (ที่จริง ฉันน่าจะตัวใหญ่กว่านี้หน่อยนะ ไอ้บ้านี่จะได้ดึงไม่ไหว)
“ปล่อยนะเว้ย บอกให้ปล่อยไงเล่า!!”
ฉันสะบัดมือออกจากไอ้แว่นดำแล้วหันไปสนใจนายซีที่นอนอยู่ที่พื้น
“คุณหนูครับ ไปกับพวกเราเถอะครับ คุณพ่อของคุณหนูรออยู่”
“ไม่!!!บอกแล้วไงว่าไม่ ไม่ได้ยินหรือไง ฮือๆๆ นายอย่าเป็นอะไรนะ ฉันรักนายนะๆ ได้ยินฉันมั๊ย นายซี ฮือๆๆ”
“แต่ว่า....คุณหนูครับ”
“หุบปากไปเลย!!! ถ้าพวกนายอยากให้ฉันกลับบ้าน นายต้องพาผู้ชายคนนี้ไปด้วย ได้ยินมั๊ย!!”
ฉันหันไปตวาดใส่ไอ้บ้าแว่นดำสองคนนั้นด้วยความโมโห แต่มันสองคนดันทำจริงๆ
“ตกลงครับ”
พอพูดจบ มันสองคนก็มาช่วยกันพยุงร่างของนายซีขึ้นคนละข้างแล้วพาเขาไปขึ้นรถ
“พวกนายจะพาเขาไปไหนน่ะ” ฉันหันหลังกลับไปมองตามร่างของนายซีที่โดนพาขึ้นรถไปแล้ว
“ก็คุณหนูบอกพวกผมเองไม่ใช่เหรอครับ ว่าถ้าจะให้คุณหนูไปกับพวกเรา ต้องพาผู้ชายคนนี้ไปด้วย”
ง่ะ!!นี่ พวกมันเอาจริงเหรอ?
“เชิญครับ คุณหนู”
ไอ้แว่นดำคนหนึ่งเดินมาเปิดประตูรถแล้วผายมือออกให้ฉันขึ้นไป
“ก็ได้....ถ้าฉันยอมกลับไปหาคุณพ่อกับพวกนาย พวกนายต้องพาผู้ชายคนนี้ไปที่โรงพยาบาล”
“ตกลงครับ”
ฉันนั่งรถมากับไอ้แว่นดำสองคนนี่ได้สัก ฉันก็สั่งให้เลี้ยวเข้าโรงพยาบาลที่อยู่ข้างหน้า แล้วพานายซีไปที่ห้องฉุกเฉิน
“ฉันจะรอจนกว่าจะแน่ใจว่าเขาไม่เป็นอันตรายใดๆ ถึงจะกลับไปกับพวกนาย แต่ถ้าผู้ชายคนนี้เป็นอะไรไปล่ะก็.....ฉันรับรองว่าจะไม่ปล่อยพวกนายไปแน่!!” ฉันบอกกับไอ้แว่นดำสองคนนั้น พวกมันได้แต่ยืนนิ่งไม่ได้ตอบอะไรกลับมา
ฉันเดินวนไปวนมาหน้าห้องฉุกเฉินอยู่พักใหญ่ๆ คุณหมอก็เดินออกมา
“อาการของคนไข้ที่โดนยิงเป็นยังไงบ้างคะคุณหมอ”
“พ้นขีดอันตรายแล้วล่ะค่ะ หมอขอตัวก่อนนะคะ”
“ขอบคุณมากนะคะ”
นายซี.........นายปลอดภัยแล้วสินะ ฉันดีใจที่สุดเลย
“คุณหนูครับ หวังว่าคุณหนูคงจำสัญญาที่ให้ไว้กับพวกผมได้นะครับ”
“รู้แล้วล่ะน่า”
ไอ้แว่นดำมันทวงสัญญากับฉัน ฉันก็เลยต้องออกไปกับมันก่อน ทั้งๆที่ความจริง ฉันอยากจะอยู่รอจนกว่านายซีจะฟื้นก่อนด้วยซ้ำ แต่ช่างเหอะ แค่นี้ก็โอเคแล้วล่ะมั้ง นายปลอดภัยแล้วนี่ อีกอย่าง ฉันพูดคำไหนก็ต้องเป็นคำนั้นสิ
“เชิญครับ คุณหนู ถึงบ้านคุณหนูแล้วครับ ตอนนี้คุณพ่อกับคุณแม่ท่านคงจะรอคุณหนูกันอยู่”
“ไม่ต้องพูดมากหรอกน่า ฉันไม่ได้ขอความคิดเห็นพวกนาย”
ฉันบอกกับไอ้สองคนนี้อย่างรำคาญ ก่อนจะเปิดประตูรถแล้วเดินลงไปหาพ่อกับแม่ที่รออยู่ในบ้าน
“ลูกหายไปไหนมาน่ะ แพลน รู้มั๊ยว่าพ่อกับแม่ให้คนไปตามหาลูกแทบแย่แน่ะ”
“แพลนทราบค่ะ แต่พ่อกับแม่ทราบหรือเปล่าคะ ว่าคนของพ่อกับแม่ไปยิงคนรักของแพลนด้วยน่ะค่ะ”
“ว่าไงนะ!!ยิง”
“ใช่ค่ะ ยิง ตอนนี้เขาอยู่ที่โรงพยาบาลค่ะ”
ตอนนี้พ่อกับแม่กำลังตกตะลึงตาค้างกันอยู่ ฉันก็เลยถือโอกาสเดินเข้าห้องไป เป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกว่าห้องนอนของตัวเองเป็นเหมือนกรงขังที่ฉันรู้สึกอึดอัดเหลือเกินที่อยู่ในนี้
ก็อกๆๆๆ
“คุณหนูคะๆ คุณหนู คุณท่านเรียกพบน่ะค่ะ”
เสียงแม่บ้านมายืนเรียกฉันอีกแล้ว ฉันเดินไปเปิดประตูห้อง
“ทราบแล้วค่ะ”
แล้วเดินลงมาหาพ่อกับแม่ที่นั่งอยู่ที่ห้องรับแขก
“นี่ลูกเป็นอะไรของลูกน่ะ ลูกไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลยรู้มั๊ย”
ฉันไม่อยากให้พ่อกับแม่รู้เลยว่าที่ฉันเป็นแบบนี้ ก็เพราะพ่อกับแม่น่ะนแหละ
“เปล่านี่คะ แพลนไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย พ่อกับแม่คิดมากไปเองแล้วล่ะค่ะ”
“ชายสี่เล่าให้พ่อฟังหมดแล้วนะลูก”
“ชายว่าไงบ้างล่ะคะ”
“ลูกไม่อยากหมั้นกับชายใช่มั๊ย”
“ใช่ค่ะ” เป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกเหมือนจะฉันกล้าที่จะบอกความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองกับพ่อและแม่ ทั้งๆที่เมื่อก่อน ฉันน่ะ กลัวเรื่องนี้มาก มันก็เลยทำให้ฉันต้องคอยตามใจพวกท่านมาโดยตลอด แม้ว่ามันจะฝืนหัวใจตัวเองแค่ไหนก็ตาม
“โอเค ถ้างั้น....พ่อจะไม่บังคับจิตใจลูกแล้ว พ่อจะยกเลิกงานทั้งหมด”
“ใช่.........ที่ผ่านมา พ่อกับแม่แค่รอคำยืนยันจากปากของลูกคนเดียว ถ้าลูกยอมรับว่าไม่อยากหมั้นกับชายสี่จริงๆ พ่อกับแม่ก็เต็มใจที่จะยกเลิกงานทั้งหมด”
พ่อกับแม่ของฉันพูดสลับกัน
“ขอบคุณ พ่อกับแม่มากนะคะ”
ฉันรู้แล้วล่ะ ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา ฉันเข้าใจท่านทั้งสองผิดมาตลอด พ่อกับแม่เลือกสิ่งที่ดีให้กับฉัน เพียงแต่ฉันไม่เคยบอกพวกท่านเลยว่าฉันชอบหรือไม่ชอบ หรือต้องการสิ่งที่พวกท่านเลือกสรรมาให้หรือเปล่า ถ้าเพียงแต่ฉันลองบอกแล้วก็กล้าที่จะเปิดใจพูดกับพวกท่านเท่านั้น เรื่องทั้งหมดมันก็คงจะไม่วุ่นวายอย่างนี้ เฮ้อ ~
ความคิดเห็น