ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Utterly Guy นายจอมตื้อของซื้อหัวใจยัยปากแข็ง

    ลำดับตอนที่ #4 : Part 3 : ขอโทษ

    • อัปเดตล่าสุด 2 มิ.ย. 54


    Part  5

    ขอโทษ

    ไม่ต้องมาทำเป็นห่วงฉันเลยนะ  ฉันโกรธนายอยู่นะเนี่ย....

                ตัวหายร้อนแล้วนี่

    บอกว่าอย่ามายุ่งไงเล่า   แต่หมอนี่ดันเอามือมาทาบลงบนหน้าผากฉัน  ซะงั้น.........

                ฉันไม่เป็นไรแล้ว   นายกลับไปเถอะ  ฉันอยู่คนเดียวได้

    ฉันตอบเขาด้วยเสียงเย็นๆแต่เขาก็ดื้อด้านไม่ยอมไปสักที

                ได้ไงล่ะ....นี่!วันนี้ฉันกะจะมาพาเธอไปห้องสมุดประชาชนด้วยกันเลยนะ รู้มั๊ย

                ฉันไม่อยากไปแล้ว  นายไปคนเดียวเถอะ

                อ้าว!ทำไมล่ะ  ก็ไหนเธอบอกว่าเธอชอบอ่านหนังสือไง  แล้วทำไมอยู่ดีถึง....

                แล้วทำไมเมื่อวาน นายไม่มารับฉัน  รู้มั๊ยว่าเมื่อวานฉันรอนายอยู่ทั้งวัน  ฉันเกลียดคนผิดสัญญาที่สุด!”

                ฉันขอโทษ.......

    หลุยส์ตีหน้าเศร้า พลางบอกขอโทษฉัน แล้วบอกว่า

                คือเมื่อวานฉันต้องไปเยี่ยมแม่ที่โรงพยาบาลน่ะ   แม่ฉันป่วย ต้องเข้าโรงพยาบาลกะทันหัน

                จริงเหรอ!!”   _

    คราวนี้ฉันกลับเป็นฝ่ายที่รู้สึกผิดซะเอง  นี่ฉันโกรธลูกกตัญญูอย่างเขาไปได้ยังไงเนี่ย~

                นี่ อย่าบอกนะว่า ที่เธอต้องมาไข้ขึ้นขนาดนี้ ก็เพราะฉันน่ะ

    หลุยส์ถามอย่างเป็นห่วง ระคนตกใจ

                เอ่อ....ชะ....ช่างฉันเถอะน่า!!  ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย  ฉันจะไปไข้ขึ้นเพราะนายได้ยังไงกันเล่า  นายไม่ใช่เชื้อไวรัสสักหน่อย

    ฉันแกล้งตอบเสียงดังๆเพื่อปกปิดความจริง  ที่จริงฉันกลัวเสียหน้าน่ะ  ฉันก็เลยต้องรีบแก้ตัวอย่างไว

                งั้น.....เราไปห้องสมุดประชาชนกันนะ

                ก็ได้

    พอฉันพยักหน้า  หลุยส์ก็ยิ้มอย่างพอใจ  ก่อนจะบอกว่า

                งั้น เดี๋ยวฉันลงไปรอข้างล่างนะ

                อือ

    ฉันพยักหน้า  หลุยส์เปิดประตูออกจากห้องไป  ฉันจึงเดินไปล้างหน้าล้างตา  ก่อนจะเปลี่ยนชุด  แล้วเดินลงไปข้างล่าง

                ไปกันเถอะ

    หลุยส์ส่งหมวกกันน็อคให้ฉัน แล้วขึ้นไปนั่งรอบนมอเตอร์ไซค์สีดำที่ฉันเคยแอบชมว่าเท่ห์โคตรคันนั้น

                บรื้น!!!~

    หลุยส์บิดคันเร่งรถออกไปหลังจากที่ฉันขึ้นไปนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ของเขาแล้ว

                แม่คะ   หนูออกมาห้องสมุดประชาชนกับหลุยส์นะคะ   ล็อกบ้านเรียบร้อยแล้วค่ะ  ค่ะแม่  กลับเย็นๆน่ะค่ะ  ค่ะ  หวัดดีจ๊ะ

    ฉันโทรศัพท์บอกแม่เพื่อไม่ให้แม่เป็นห่วง   เมื่อมาถึงห้องสมุดประชาชนแล้ว

                เดี๋ยวฉันจะไปหาหนังสือทำรายงานให้พี่สาว  เธอไปอ่านหนังสือเถอะ

    หลุยส์หันมาบอกฉัน  เมื่อเราสองเดินเข้ามาในห้องสมุดแล้ว

                เดี๋ยวสิ   นายจะไปหาหนังสือให้พี่สาวนายเหรอ

                อือ   มีอะไรหรือเปล่า

    หลุยส์หันมาถามฉันอย่างแปลกใจ

                แล้วพี่สาวนายทำรายงานเรื่องอะไรล่ะ  เดี๋ยวฉันช่วยหา

                ไม่เป็นไร  เธอไปนั่งอ่านหนังสือที่เธอชอบเถอะ  เดี๋ยวฉันหาเองก็ได้

                แต่ฉันอยากช่วยนี่นา

    พอเห็นฉันยืนยันว่าจะช่วยจริงๆ  หลุยส์จึงยอมบอกฉันว่าพี่สาวของเขากำลังจะทำรายงานส่งอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยในหัวข้อเรื่อง DNA & พันธุกรรม 

                นี่  พี่สาวนายเรียนแพทย์เหรอ

    ฉันถามอย่างตื่นเต้น  เมื่อหมอนั่นบอกหัวข้อเรื่องรายงานของพี่สาวของเขา

                อือ  ทำไมเหรอ

    หมอนั่นหันมาถามฉันเรียบๆอย่างกับว่าไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นเลยสักนิด

                นี่ นายไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยเหรอ  คนที่จะสอบติดแพทย์ได้น่ะ ต้องเรียนเก่งมากๆเลยรู้มั๊ย

                แล้วไงอ่ะ

    หมอนี่ยังคงทำหน้าเรียบไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรอยู่ดี

                เฮ้อ~นายนี่มันจริงๆเลยน้า   ช่างเถอะ  ฉันขี้เกียจคุยกับนายแล้ว  เดี๋ยวฉันช่วยหาหนังสือดีกว่า

    ฉันบอกเขาก่อนจะเดินตรงไปที่หมวดหนังสือวิทยาศาสตร์    ไม่นานนักฉันกับหลุยส์ก็ได้หนังสือเรื่องดีเอ็นเอและพันธุกรรมมาหลายเล่ม  พอหลุยส์ทำเรื่องขอยืมหนังสือเสร็จ  เขาก็พาฉันฉันมาส่งท่บ้าน  ซึ่งนี่ก็เป็นเวลาประมาณ 6 โมงเย็นเห็นจะได้

                เป็นยังไงบ้างลูก  หน้าตาสดใสขึ้นนะ   ไปเที่ยวกับเพื่อนมาสนุกล่ะสิ

                จ๊ะแม่  หลุยส์เค้าพาหนูไปที่ห้องสมุดประชาชนมาน่ะจ๊ะ  ก็สนุกดีนะจ๊ะแม่

    ฉันตอบแม่ด้วยรอยยิ้ม  แม่มองหน้าฉันก่อนจะยิ้มนิดๆแล้วบอกว่า

                ลูกจะคบกับใครน่ะ  แม่ไม่ว่าหรอกนะ ขอแค่เวลามีปัญหาอะไรแล้วหนูมาปรึกษากับแม่   แล้วก็คบกับคนคนั้นแล้วลูกมีความสุขก็พอ

                ค่ะแม่

    ฉันตอบรับแม่ ทั้งๆที่ยังงงๆว่าแม่พูดเรื่องอะไร  ฉันก็แค่เป็นเพื่อนกับหลุยส์เฉยๆ ยังไม่ได้เป็นแฟนกันสักหน่อย   ท่าทางแม่จะเป็นห่วงอนาคตฉันมากกว่าตัวฉันเองอีกนะเนี่ย

                งั้นหนูขอตัวก่อนนะจ๊ะแม่

    ฉันบอกแม่ แล้วเดินขึ้นห้องไป

                ฉันขึ้นมาถึงก็ล้มตัวลงนอนบนที่นอน  ก่อนจะหลับตาลง  จากนั้น ฉันก็หลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

    วันต่อมา

                วันนี้ฉันตื่นสายกว่าปกติเล็กน้อย  แต่แม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร  ท่านคงจะรู้ว่าฉันยังเพลียๆอยู่

                แม่จ๊ะ.....หนูไปโรงเรียนก่อนนะจ๊ะ

                จ๊ะ.....ตั้งใจเรียนนะลูก

    แม่เอามืบลูบหัวฉันเบาๆ  จากนั้นฉันก็เดินออกจากบ้าน  เพื่อจะไปขึ้นรถโดยสารที่หน้าปากซอย

                ปิ๊นๆ

    ขณะที่ฉันกำลังเดินออกไปหน้าซอย  ฉันก็ได้ยินเสียงเหมือนแตรรถดังขึ้นจากทางด้านหลัง  ฉันจึงหันกลับไปดู

                นาย!!!  ๐_;”

    ฉันตกใจเมื่อเห็นว่าคนขี่มอเตอร์ไซค์ตามฉันมาแล้วบีบแตรก็คือ หลุยส์ นั่นเอง

                ขึ้นมาสิ   เดี๋ยวฉันไปส่ง

    หมอนั่นบอกกับฉัน  แล้วขี่มอเตอร์มาเทียบข้างๆ

                ขอบใจนะ

    และคราวนี้ฉันก็ขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงกับเขาแล้วด้วย  ฉันจึงยอมขึ้นรถไปกับเขาแต่โดยดี     พอหลุยส์ขี่รถมาถึงโรงเรียนฉันก็ลงจากรถ ก่อนจะบอกขอบใจเขา

                ขอบใจมากนะ  ที่อุตส่าห์มาส่ง   จริงสิ!แล้วนายไปทำอะไรแถวบ้านฉันเหรอ

                ก็ไปรับเธอนั่นแหละ ^ ^”

    เขาพูดแล้วยิ้มให้ฉันอย่างอารมณ์ดี  จะว่าไป ถ้าสังเกตดีๆ เวลาหมอนี่ยิ้มก็ดูน่ารักดีเหมือนกันแฮะ  หมอนี่มีลักยิ้มเล็กๆตรงมุมปากด้วย   แต่.......ฉันจะมานั่งชมหมอนี่เพื่อ?....

                รับฉันเนี่ยนะ?...ท่าจะบ้านะนายเนี่ย  ทำไม? ที่บ้านน้ำมันเหลือใช้มากเหรอ

                ..............

    หมอนั่นไม่ตอบอะไร  หากแต่ยืนยิ้มจนหน้าบานเป็นจานดาวเทียมอยู่อย่างนั้น

                ฉันจึงรีบหันหลังเดินขึ้นอาคารเรียนอย่างรวดเร็ว  แล้วทำไมแก้มฉันต้องร้อนขึ้นมาด้วยเล่า   บ้าจริง!!!

                บลู......

                ........

                บลู!!”

                .........

                “บลู!!!!~”

                อะ......อะไรนะ  ลูกแพร์ เมื่อกี้แกเรียกฉันเหรอ

                ก็ใช่น่ะสิ  ทำไม มัวแต่คิดถึงหลุยส์อยู่รึไง  ฉันเรียกถึงไม่ได้ยินน่ะ  ชิ!!”

    ยัยลูกแพร์พูดจบก็สะบัดหน้าใส่ฉันอย่างงอนๆ  ที่จริงฉันก็กำลังคิดถึงหมอนั่นอยู่จริงๆนั่นแหละ    แต่เอ๊ะ!! แล้วยัยนี่รู้ได้ยังไงกันล่ะ

                เฮ้ย!!ลูกแพร์ เมื่อกี้แกบอกว่าไงนะ

                แหม~ไม่ต้องมาทำเป็นถามเลย  ตอนนี้น่ะใครๆเค้าก็ร๔กันหมดแล้ว ว่าเธอเป็นแฟนกับหลุยส์น่ะ

                บ้าสิ!!ฉันเนี่ยนะเป็นแฟนกับคนอย่างหมอนั่น

    แทบจะทันทีที่ยัยลูกแพร์พูดจบฉันก็สวนกลับไปด้วยน้ำเสียงเย็นๆทันควัน

                อ้าว!!แล้วถ้าตอนนี้เธอไม่ได้เป็นแฟนกับหลุยส์อยู่ แล้วเธอกำลังทำอะไร? ใครๆเค้าก็เห็นว่าหลุยส์น่ะตามรับตามส่งเธอเช้าเย็นขนาดนั้น

    ยัยลูกแพร์ยังคงพล่ามต่ออย่างสนุกปาก

                แต่ว่า......ฉัน.......

                ยอมรับมาเถอะนะบลู  ว่าเธอกำลังคบกับหลุยส์อยู่

                แต่วาฉันกับหลุยส์  เราไม่ได้เป็นอะไรกันจริงๆนะ

    ฉันยังคงยืนยันคำเดิม

                แกกำลังโกหกฉันนะบลู   นี่ฉันเป็นเพื่อนแกนะบลู

                ลูกแพร์  แต่ว่าฉัน.......

                เอาเถอะ  ถ้าแกยังไม่อยากบอกความจริงกับฉันตอนนี้   เอาไว้แกสบายใจก่อนก็ได้ฉันจะรอ

    แกจะรอทำไม  เรื่องส่วนตัวฉันนี่ต้องรายงานแกทุกเรื่องเลยหรือไง  ยัยลูกแพร์

                แต่ฉันก็ทำได้เพียงนิ่งเงียบ  ไม่ได้พูดอะไรออกไป

                หลังจากนั้น  หลุยส์ก็มักจะมารับฉันที่บ้านทุกเช้า  และขี่รถกลับมาส่งฉันที่บ้านทุกเย็น  แถมวันหยุดเสาร์-อาทิตย์  เขายังชอบชวนฉันไปห้องสมุดประชาชนอีก

                ทุกอย่างดำเนินไปอย่างนี้เรื่อยๆจนกระทั่งนี่ก็ปาเข้าไปเดือนกว่าแล้ว   จนฉันอดติดไม่ได้ว่าที่หลุยส์พยายามเข้ามาทำดีกับฉันอย่างนี้   เขาคิดอะไรกับฉันหรือเปล่า   หรือเขาอาจจะหวังอะไรในตัวฉันกันแน่

                หลุยส์.......

    ดังนั้น  เพื่อให้ความสงสัยที่มันอัดแน่นอยู่ในอกได้คลี่คลายลง  ฉันจึงตัดสินใจที่จะลองถามเขาดูในเย็นวันหนึ่ง

                หืม.....มีอะไรเหรอบลู......

    หลุยส์ถามฉัน ทั้งที่สายตาของเขายังคงจับจ้องอยู่บนเส้นทางเบื้องหน้า  โดยมีฉันซ้อนอยู่ข้างหลัง

                ทำไมนายถึงได้เข้ามาทำดีกับฉัน.....นายกำลังหวังอะไรจากฉันอยู่หรือเปล่า....

    ฉันถามด้วยน้ำเสียงเบาหวิว  เหมือนคนไม่มีแรง  ก็คำถามของฉันมันดูจะหักหาญน้ำใจของหลุยส์ไม่น้อย  ฉันจึงไม่อยากจะพูดตรงๆกับเขา  แต่นี่  ฉันก็พูดมันออกไปแล้วล่ะ

                นี่เธอถามอะไรของเธอน่ะ....ฉันไม่เห็นจะเข้าใจเลย

    เขาพูดพลางหัวเราะไป  ราวกับสิ่งที่ฉันเพิ่งพูดออกไปมันตลกซะเต็มประดา

                นี่  นายขำอะไรของนายน่ะ  ฉันถามจริงๆนะ  ว่าทำไมจู่ๆนายก็เข้ามาในชีวิต  เข้ามาทำนู่นทำนี่ให้กับฉัน  ความริงแล้วนายต้องการอะไรกันแน่

    น้ำเสียงของฉันเริ่มแฝงไปด้วยความจริงจังง  หลุยส์จึงหยุดหัวเราะ แล้วบอกกับฉันว่า

                ทำไมเธอถึงคิดว่าฉันจะต้องอะไรจากเธอล่ะ

                ไม่รู้สิ   แต่ฉันก็แค่สงสัย.....

                เธอไม่คิดบ้างหรือไงว่าบางทีสิ่งที่ฉันกำลังทำให้เธอ มันจะมาจากความเต็มใจของฉัน

                .............

    เจออย่างนี้ฉันถึงกับจอดสนิทไปต่อไม่ถูกเลยแฮะ

                ว่าไงล่ะ   บลู  ทำไมเธอถึงไม่คิดบ้างล่ะว่าบางที  ที่ฉันทำไปทุกอย่างอาจจะเป็นเพราะว่าฉันรักเธอก็ได้

    ดูเหมือนคำว่ารักของเขาจะพูดง่ายซะเหลือเกินนะ   แต่ฉันซึ่งเป็นคนฟังนี่สิ  มันคิดไปไหนต่อไหนแล้ว.......เขาจะรู้บ้างมั๊ยนะ.......

                บลู......เธอฟังฉันอยู่หรือเปล่า

                .............

                บลู!!!”

                ฮะ....ฟะ......ฟัง....ฉันฟังอยู่

    ฉันกำลังอึ้งกับคำพูดของนายอยู่ต่างหากล่ะ

                แล้วเธอล่ะ......คิดยังไงกับฉันบ้าง

    คราวนี้คำถามของเขาทำเอาฉันตอบไม่ถูกไปเลยทีเดียว    และโชคก็เข้าข้างฉันจริงเมื่อเขาขับรถมาถึงบ้านฉันพอดี

                ถึงบ้านแล้ว   ฉันเข้าบ้านก่อนนะ

    ฉันรีบลงจากรถแล้วบอกเขา   แต่หมอนี่ก็ยังมิวายหันมาบอกกับฉันอีก

                ฉันยังไม่ลืมง่ายๆหรอกนะ  ว่าฉันถามเธอว่าอะไรฉันจะให้เวลาเธอไปคิดคำตอบมา  ถ้าเธอไม่ได้รักฉัน.......ฉันสัญญาว่าฉันจะออกไปจากชีวิตเธอ

    คำสัญญาของเขาทำเอาฉันใจหล่นวูบไปอยู่ที่ตาตุ่มแน่ะ  แต่สีหน้าของเขาจริงจังขึ้นมากเลยทีเดียว    ฉันพยักหน้าแล้วเข้าบ้าน

                ฉันล้มตัวลงนอนบนที่นอนหลังจากที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ     ก่อนที่คำพูดของเขาเมื่อตอนเย็นจะลอยมาวนเวียนอยู่ในสมองฉันเต็มไปหมด

                ถ้าเธอไม่ได้รักฉัน   ฉันสัญญาว่าจะออกไปจากชีวิตเธอ

                ฉันสัญญาว่าฉันจะออกไปจากชีวิตเธอ…….’

                ‘ฉันจะออกไปจากชีวิตเธอ

                ‘ออกไปจากชีวิตเธอ

                ‘ออกไปจากชีวิตเธอ

                บ้าจริง!!!”

    ฉันลุกพรวดขึ้นมานั่งบนเตียงด้วยสีหน้าเครียดและเป็นกังวลมาก  ทำไมเขาต้องพูดอะไรแบบนี้ออกมาด้วยนะ  ฉันไม่เข้าใจเขาเลยจริงๆ  ถ้าฉันไม่ได้รักเขา  ทำไมเขาจะต้องไปจากชีวิตฉันด้วย   ทำไมเราถึงคบกันต่อไม่ได้ล่ะ   ทำไมกัน........

    วันรุ่งขึ้น         

                วันนี้ฉันเรียนหนังสือไม่ค่อยจะรู้เรื่องสักวิชา     เพราะอะไรน่ะเหรอ......ก็เพราะอีตาบ้านั่นแหละ   เพราะคำพูดของหมอนั่นคนเดียวทำให้ฉันสับสนไปหมดอย่างนี้

                บลู~วันนี้เธอเป็นอะไรไปเหรอ.......เห็นนั่งเงียบทั้งวันเลย   มีอะไรบอกฉันได้นะ

    ลูกแพร์เข้ามาถามฉันด้วยสีหน้าเป็นห่วงไม่น้อย   ดูเหมือนจะมีก็แต่ยัยนี่แหละนะที่สนใจฉันอยู่ตลอดเวลาน่ะ

                ไม่มีอะไรหรอกลูกแพร์   ขอบใจมากนะที่เป็นห่วงฉันน่ะ

                ก็เราเป็นเพื่อนกันนี่นา   ไม่เป็นห่วงเพื่อนแล้วจะให้ฉันไปเป็นห่วงใครที่ไหนล่ะ

                ขอบใจมากนะ

    ฉันยิ้มให้ลูกแพร์  ซึ่งยัยนั่นก็ยิ้มตอบเช่นกัน

    เลิกเรียน

                วันนี้ฉันรู้สึกไม่กล้าสู้หน้าหลุยส์เลย   ทำไมก็ไม่รู้เหมือนกันแฮะ........

                อ้าว  บลู  ทำไมวันนี้ไม่กลับบ้านพร้อมหลุยส์ล่ะ

    ยัยลูกแพร์ออกมารอพี่แบงค์ที่หน้าโรงยิม   จึงมาเจอกับฉันซึ่งเดินหันหน้าหันหลังอยู่

                ทำไมท่าทางแปลกๆยังไงชอบกล   ดูเธอแปลกๆนะบลู

                อ๋อ.....ไม่มีอะไรหรอกลูกแพร์    ฉัน.......ฉันโอเค

    ฉันตอบก่อนจะยิ้มนิดๆ  ยัยลูกแพร์จึงพยักหน้าให้ฉันแล้วบอกว่า

                งั้น ฉันเข้าไปหาพี่แบงค์ข้างในก่อนนะ  ถ้าเจอหลุยส์แล้วฉันจะบอกเขาให้ว่าเธอรออยู่

                เอ้อ....ไม่มะ.....ไม่ต้องบอกหลุยส์หรอกลูกแพร์  ฉัน......ฉันรอได้......อืม

    ฉันรีบบอกยัยลูกแพร์ทันทีที่ยัยนี่บอกว่าจะบอกหลุยส์ว่าฉันรออยู่   ก่อนจะพยักหน้าว่าฉันรอได้จริงๆ

                ถ้างั้น.......ก็ตามใจแล้วกันนะ

    ยัยลูกแพร์พูด  ก่อนจะเดินเข้าไปในโรงยิม  ฉันมองตามจนยัยนั่นหายเข้าไปในโรงยิมแล้ว  ก่อนจะลอบถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างโล่งอก

                เฮ้อ~”

    ฉันค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ๆประตูโรงยิมแล้วแอบมองหาหลุยส์  เมื่อเห็นว่าไม่มีเขา  ฉันจึงค่อยๆย่องออกมา.....ย่องออกมา......เพื่อที่จะหนีกลับบ้านโดยที่ไม่ต้องให้เขาไปส่ง

                ย่อง........ย่อง........ย่อง........

                ทำอะไรของเธอน่ะ!!!”

                เฮือก!!!!”

    ขณะที่ฉันกำลังย่องออกจากบริเวณนั้น  หลุยส์ก็เดินมาขวางทางฉันแล้วถามเสียงเข้ม.......ออกมาได้ยังไงเนี่ย  เมื่อกี้ยังไม่เห็นมีเลยนี่นา

                นะ.......นาย......

    ฉันตาลีตาเหลือก  เพราะตกใจที่อยู่ๆหมอนี่ก็โผล่ออกมา

                ฉันถามว่าเธอจะทำอะไร  ทำไมดูท่าทางแปลกๆ

    หมอนี่ทำเสียงเครียดๆแฮะ

                คือ.....ฉะ.....ฉัน......

                ว่าไง!!!!”

                เปล่า.....ฉัน........ฉันก็รอนายอยู่นี่ไง…..W

    ฉันพยายามปฏิเสธแล้วมองไปทางอื่น  เพื่อกลบเกลื่อน แล้วยิ้มให้เขานิดๆ

                โกหก!!!”

    เขาตะโกนใส่หน้าฉันเสียงเครียด  ฉันผงะมองหน้าเขาอย่างไม่เข้าใข  นี่  เขาเป็นอะไรของเขากันนะ  ไม่เห็นเหมือนหลุยส์คนเดิมที่ฉันรู้จักเลย

                บอกมาสิ....ว่าเธอกำลังจะไปไหน!!”

                ฉันไม่ได้......

                เธอจะหนีฉันใช่มั๊ย?....ทำไม.....ทำทุกคนต้องทิ้งฉันไปหมด......แม้แต่เธอ....

    คราวนี้สีหน้าที่เครียดของเขาดูเศร้าลง   นัยน์ตาแฝงไปด้วยความรู้สึกบางอย่าง   ฉันมองหน้าหลุยส์ ก่อนจะถามเสียงเบา

                นี่นาย......เป็นอะไรไปเหรอ…..”

                เปล่า.......ไม่มีอะไร.......กลับบ้านเถอะ

    หลุยส์ส่ายหน้าไปมา   แล้วจูงมือฉันไปขึ้นรถ

                ท่าทางของเขาในวันนี้ดูแปลกๆแฮะ.......แปลกจังเลย........แปลกมากถึงมากที่สุด!!!

                ฉันนั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย  โดยไม่ได้พูดอะไรกับหลุยส์สักคำ  ไม่นานนัก  หลุยส์ก็ขี่รถมาส่งถึงบ้านฉัน    ฉันจึงเดินลงจากรถ  แล้วบอกขอบใจเขาเหมือนทุกครั้ง   ก่อนที่เขาจะเลี้ยวรถกลับไป

                กลับมาแล้วเหรอลูก

                ค่ะแม่

    ฉันยิ้มให้แม่อย่างเหนื่อยๆ  แล้วนั่งลงบนโซฟา  หลังจากที่วางกระเป๋าลงบนโต๊ะที่วางอยู่ด้านหน้าโซฟาแล้ว

                เป็นอะไรหรือเปล่าลูก   ดูเหนื่อยๆ

    ฉันยิ้มแห้งๆให้แม่   ไม่ต้องเอากระจกมาส่องก็รู้ว่าตอนี้หน้าตาฉันคงจะดูเหนื่อยสุดๆ  ฉันมองหน้าแม่อย่างชั่งใจ  ก่อนจะเริ่มถามแม่

                แม่คะ   ทำไมแม่ถึงรู้ได้ล่ะว่าเรารู้สึกรักใคร

                ยังไงล่ะลูก

                ก็......คือว่า  เวลาที่แม่รู้สึกรักใคร  แม่รู้ได้ยังว่าเราเริ่มรักคนคนนั้นแล้ว

                ทำไมวันนี้ลูกถามอะไรแปลกล่ะลูก.....ฮึ

    แม่ถามพลางยิ้มให้ฉันอย่างอบอุ่น

                ไม่รู้สิจ๊ะ....แม่~ตอบหนูมาเถอะ.....หนูอยากรู้อ่ะ  น๊าๆๆๆ

    ฉันจับแขนแม่เขย่าไปมา  จนแม่มองฉันราวกับฉันเป็นเด็กๆ  ก่อนจะบอกว่า

                ความรักน่ะเหรอ......อืม......เวลาเรามีความรู้สึกรักใครสักคน   เราก็จะรู้สึกผูกพันกับเขา  รู้สึกคิดถึงเขาอยู่ตลอดเวลา    รู้สึกว่าสามารถทำหน้าในสิ่งที่ยากลำบากที่เราไม่เคยทำมาก่อน  เพื่อคนคนนั้นได้…..”                 แม่บอกกับฉัน

                แล้ว  ถ้าความรักทำให้ดราเสียใจล่ะคะแม่

                ฟังนะลูก......ความรักจะดีใจกับเราถ้าเราดีใจกับความรัก   ความรักจะยิ้มกับเรา  เมื่อเรามีความสุขกับความรัก   แต่เมื่อไหร่ที่เราร้องไห้ให้กับความรัก  ความรักจะปล่อยให้เราร้องไห้.....เพียงลำพัง

                ..........

    ฉันมองหน้าแม่อย่างครุ่นคิด  ไม่อยากจะเชื่อว่าแม่จะพูดได้ดีขนาดนี้  นี่แม่ไปเอาคำพูดพวกนี้มาจากไหนกันเนี่ย ~

                จริงเหรอจ๊ะแม่

    แม่พยักหน้าให้กับฉันแทนคำตอบพลางยิ้มให้ฉันอย่างอบอุ่น

    วันรุ่งขึ้น

                หลุยส์!!!”

    วันนี้ฉันต้องไปโรงเรียนแต่เช้าเพราะอาจารย์วิชาคณิตศาสตร์นัดสอบชั่วโมงแรก  แต่เมื่อฉันออกมายืนหน้าบ้านเพื่อเตรียมที่จะเดินออกไปหน้าปากซอย  ฉันก็ต้องตกใจที่หลุยส์มาจอดรถอยู่หน้าบ้านแล้ว

                วันนี้ เธอมีสอบคณิตศาสตร์วิชาแรกไม่ใช่เหรอ  รีบขึ้นมาสิ  เร็วเข้า

    และพอโดนเร่งมากๆเข้า  มันก็ทำให้สมองฉันไม่ทันได้หยุดคิดอะไรอีกต่อไป  ฉันบ้าจี้กระโดขึ้นรถไปกับเขาด้วยจนได้

                นายรู้ได้ยังไงว่าวันนี้ ฉันมีสอบคณิตวิชาแรก

                บอลลูนบอกฉันน่ะ

    บอลลูนไหน?  ฉันเคยรู้จักคนชื่อนี้ด้วยเหรอ

                บอลลูนไหน?                ฉันถาม

                ก็....บอลลูนที่อยู่ห้องเดียวกับเธอไง  ยัยบอลลูนน่ะ

    สงสัยคงจะเป็นเพื่อนร่วมห้องกับฉันล่ะมั้ง...........

                นาย.......หายโกรธฉันแล้วเหรอ?

                อ้าว......ก็เมื่อวาน......นายไม่โกรธฉันหรอกเหรอ

                เปล่านี่....

                แล้วทำไมนายต้องพูดแบบนั้นกับฉันด้วยล่ะ                 ฉันถามอย่างไม่เข้าใจ

                เมื่อวานนี้ฉันคงจะเครียดล่ะมั้ง  ฉัน...ขอโทษละกัน            เขาบอก

    เมื่อมาถึงโรงเรียน ฉันจึงรีบขึ้นห้องเรียนเพื่อเรตียมตัวสอบวิชาคณิตศาสตร์

                ว่าไง  บลู

    ยัยลูกแพร์ทักฉันมาแต่ไกล  ด้วยใบหน้าที่บานเป็นจานยูบีซี

                อืม...

    ฉันพยักหน้าตอบให้ยัยนั่นสองสามทีพลางยิ้ม

                เออ....บลู เดี๋ยวปิดเทอมกลางภาคนี้  พวกพี่แบงค์เค้าจะไปเที่ยวทะเลกัน  เธอจะไปด้วยกันมั๊ย?

                เธอเองก็ไปด้วยเหรอ

                แน่นอน!!”

                แล้วพวกพี่แบงค์ที่ว่าน่ะ มีใครมั่งล่ะ

                ก็พวกที่แข่งฟุตบอลทีมเดียวกับพี่แบงค์ไง

    ถ้างั้น.....ก็มีหลุยส์ด้วยอ่ะดิ่!!! ฉันคิด

                ก็มีแต่ผู้ชายน่ะสิ”                ฉันถามยัยลูกแพร์

                ผู้หญิงก็มี......ฉัน........ยัยบอลลูน......ปีโป้....แฟนซี.....แล้วก็ยิปซัม...

                5 คนเลยเหรอ

                ใช่  บลูเธอก็ไปด้วยกันสิ  นะๆๆๆ

                ฉันขอคิดดูก่อนแล้วกัน

                งั้นก็ตามใจ

    ลูกแพร์พูด  หลังจากที่เมื่อกี้มันเขย่าแขนฉันจนเนื้อแทบจะแยกออกเป็นชิ้นๆ

                รีบไปสอบเถอะ  ป่านนี้อาจารย์เข้าห้องแล้วล่ะมั้ง

    ในที่สุด   เมื่อพวกเราสอบวิชาต่างๆมาจนถึงวันสอบกลางภาคเรียนวันสุดท้าย

                ตกลง แกจะไปเที่ยวทะเลกับพวกฉันมั๊ย  บลู

    ยัยลูกแพร์ยัลคงตามจิกฉันเรื่องไปเที่ยวทะเลอย่างเหนียวแน่นหนึบ

                ถ้าฉันไม่ไปล่ะ?              ฉันลองหยั่งเชิงดูก่อน

                ถ้าแกไม่ไป  ฉันโกรธแกจริงๆด้วยยัยบลู

    แล้วมันจะถามฉันเพื่อ?  ยัยบ้านี่!

                แล้วจะมาถามฉันหาวิมานอะไรวะ

                ถ้างั้น......ก็แสดงว่า.... แกตกลงจะไปกับพวกฉันใช่ปะ?

                อือ

    ทันทีที่ฉันพยักหน้าเซ็งๆของตัวเองให่ยัยลูกแพร์  ยัยนี่ก็กระโดดกอดฉันเป็นลูกลิง

                เย้!สมแล้วที่แกเป็นเพื่อนฉันมาตั้งแต่ตอนเรียนประถมน่ะ

                เออๆ  ปล่อยฉันได้แล้วยัยบ้า  อายคนอื่นเค้า

    ฉันพยายามแกะยัยลูกลิง  เอ้ย!!ลูกแพร์นี่ออกจากตัวฉัน  เพราะตอนนี้ฉันจะขาดออกซิเจนตายอยู่แล้ว

                งั้น...พรุ่งนี้ฉันไปรับแกที่บ้านตอน 8 โมงเช้านะ   เตรียมตัวให้พร้อมล่ะ

                อะไรนะ!!พรุ่งนี้เลยเหรอ  ไม่เร็วไปหน่อยเหรอ  นี่ เพิ่งจะสอบเสร็จเองนะลูกแพร์

                ไม่หรอก  พวกฉันวางแผนกันมาตั้งแต่ยังไม่สอบด้วยซ้ำ  ยังไงซะ  ก็ต้องไปพรุ่งนี้  โอเค?

                เออๆ

    ฉันตอบอย่างรำคาญ   ก็ดูยัยลูกแพร์ดิ่  นี่กกะจะไม่ให้ฉันพักสมองตอนสอบเสร็จอยู่กับบ้านเลยใช่มั๊ยเนี่ย ~ ไม่รู้จะรีบไปไหนกัน  ทะเลไม่ได้อยู่ถึงเชียงใหม่สักหน่อย   ยัยบ้านี่!

     

    วันรุ่งขึ้น

                “บลู!!!”

    ยัยลูกแพร์เดินเข้ามาในบ้านฉันอย่างคุ้นเคย  ก็เพราะบ้านหลังนี้น่ะ  ยัยนี่เดินเข้าๆออกๆมาตั้งแต่เด็ก  จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ยัยนี่จะรู้จักบ้านฉันไปซะทุกซอกทุกมุม  พอๆกับฉันที่เป็นเจ้าของบ้านเลยก็ว่าได้

                ยังแต่งตัวไม่เสร็จอีกเหรอ

    ยัยลูกแพร์เปิดประตูเข้ามาในห้องฉันพลางถาม

                ก็ฉันไม่รู้จะใส่ชุดไหนนี่นา

    ยัยลูกแพร์มองหน้าฉัน  พลางส่ายหน้าไปมาช้าๆ  ก่อนจะบอกว่า

                เธอนี่มันจริงๆเลยน๊า

    พูดเสร็จยัยนี่ก็เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าฉันอย่างกับที่นี่เป็นบ้านของตัวเอง

                อ่ะนี่  ใส่ชุดนี้ซะ

    ไม่นานนัก(หลังจากที่ยัยลูกแพร์รื้อค้นตู้เสื้อผ้าฉันซะจนกระจุยกระจายเละเทะไปหมด)

    ยัยนี่ก็ส่งชุดซึ่งเป็นเสื้อยืดโปโลสีขาวตัวไม่เล็กไม่ใหญ่ กับกางเกงสามส่วนสีชมพูเข้มให้ฉัน

                เฮ้ย!ชุดนี้มัน....

                อะไรของแกอีก   อ่ะ  เอาไปสิ

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×