คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Part 2 : เดทแรกที่ห้องสมุด ประชาชน...........
Part 3
เดทแรกที่ห้องสมุดประชาชน...........
“กรี๊ดดด!!!~หลุยส์........หลุยส์มองมาทางฉันด้วยล่ะ ยัยมินนี่”
ฉันได้ยินเสียงผู้หญิงคนนึงกรี๊ดขึ้นมาจากทางด้านหลังฉัน จนฉันสะดุ้ง ดูเหมือนเจ๊แกจะปลื้มหมอนั่นอยู่สินะ ถึงได้กรี๊ดขึ้นมาจนฉันตกใจหมดน่ะ
“แต่ฉันว่าหลุยส์เค้ามองมาที่ยัยนี่มากกว่านะ”
ฉันได้ยินเพื่อนของยัยเสียงแหลมที่อยู่ข้างหลังฉันคนเมื่อกี้บอก แต่ฉันก็ไม่รู้หรอกว่า ‘ยัยนี่’น่ะ คือใคร
ปี๊ด!!~
ดูเหมือนการแข่งขันครึ่งแรกจะจบลงแล้วล่ะ ยัยลูกแพร์เดินจากขอบสนามที่เมื่อกี้ยืนดิ้นเป็นไส้เดือนโดนขี้เถ้าอยู่ ก่อนจะตรงเข้ามาหาฉันแล้วบอกว่า
“บลู....ไปหาพี่แบงค์กับฉันหน่อนสิ”
แล้วยัยลูกแพร์ก็ไม่รอให้ฉันได้ตอบรับหรือปฏิเสธ เพราะยัยนี่พูดจบก็เอาแต่ลากๆฉันไปที่ห้องพักนักกีฬาที่อยู่ไม่ไกลจากสนาม
“พี่แบงค์!!~”
“อ้าว!ลูกแพร์ มาเชียร์พี่เหรอ บลูก็มาด้วยเหรอเนี่ย”
“เอ่อ...ค่ะ”
พี่แบงค์หันมาทักฉันที่ยืนอยู่ข้างหลังยัยลูกแพร์ ฉันจึงพยักหน้ายิ้มๆตอบ
“เธอ!!”
“เฮ้ย!!นี่นาย!!”
หลุยส์หันมาเห็นฉันพอดี เขาจึงทักฉันเสียงดังแถมยังทำหน้าดีใจอย่างกับเมืองไทยหิมะตก ทำเอาฉันทำหน้าไม่ถูก
“นี่เธอมาดูฉันแข่งด้วยเหรอเนี่ย”
“อือ”
ฉันพยักหน้า พี่แบงค์หันมามองเราสองคนอย่างแปลกใจ ก่อนจะถามว่า
“อ้าว!บลูรู้จักกับหลุยส์ด้วยเหรอเนี่ย”
“ค่ะ คือเราสองคนเคยเจอกันมาแล้วครั้งนึง แต่ก็ไม่ได้สนิทอะไรกันหรอกค่ะ เราสองคนเพิ่งจะรู้จักน่ะค่ะ”
พี่แบงค์พยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะหันไปคุยกับยัยลูกแพร์ต่อ
“นี่เธอมาเชียร์ฉันจริงๆเหรอเนี่ย”
หลุยส์ยังคงถามต่อ ฉันจึงส่ายหน้าช้าๆก่อนจะบอกว่า
“เปล่าหรอก ฉันถูกเพื่อนขอร้องให้มาเป็นเพื่อนน่ะ ที่จริงฉันไม่ค่อยชอบดูบอลเท่าไหร่หรอก”
เอ่อ.......ไม่ใช่แค่ไม่ชอบนะ แต่เกลียดเลยต่างหากล่ะ
“เหรอ.......น่าเสียดายจัง แล้วถ้าไม่ชอบดูบอล เวลาว่างๆเธอทำอะไรเธอทำอะไรล่ะ”
“อ่านหนังสือน่ะ”
ตอบแบบไม่ต้องคิดให้เสียเวลา เห็นอย่างนี้ก็เถอะนะ ฉันน่ะเคยได้รางวัลสุดยอดนักอ่านจากคุณครูบรรณารักษ์ตอนอยู่ม.3ด้วยล่ะ ไม่อยากจะคุย.....
“งั้นเดี๋ยวเสาร์-อาทิตย์นี้ ฉันจะห้องสมุดประชาชน เธอจะไปด้วยหรือเปล่าล่ะ”
“จริงเหรอ นี่รู้มั๊ยว่าห้องสมุดประชาชนนน่ะเป็นที่ที่อยากไปมานานแล้ว แต่ว่า.........”
“แต่ว่าอะไรเหรอ”
“แต่ฉันไม่รู้น่ะสิว่ามันอยู่ตรงไหน”
“จริงเหรอเนี่ย”
หมอนั่นถามพลางหัวเราะเบาๆ แต่มันก็ยังไม่น่าสนใจเท่ากับที่หมอนั่นกำลังชวนฉันไปห้องสมุดประชาชนนั่น
“ตกลงนายชวนฉันไปห้องสมุดประชาชนจริงๆเหรอ”
“อืม....ก็จริงน่ะสิ คือว่า พอดีพี่สาวฉันฝากให้ไปยืมหนังสือที่นั่นมาทำรายงานน่ะ เธอไปกับฉันนะ”
“อืม”
ฉันพยักหน้าตกลง เย้!! นี่ฉันจะได้ไปห้องสมุดประชาชนจริงๆเหรอเนี่ย เย่!ดีใจๆ
“บลู.......ป่ะ ใกล้จะเริ่มการแข่งขันในครึ่งสุดท้ายแล้ว ไปกันเถอะ”
ลูกแพร์จูงมือฉันออกมาจากห้องพักนักกีฬา แต่ก็ยังมิวายหันไปหาพี่แบงค์อีกรอบก่อนออก
“สู้ๆนะคะพี่แบงค์ แพร์จะคอยเป็นกำลังใจให้ค่ะ”
“ครับ”
พี่แบงค์รับคำยัยลูกแพร์ ก่อนที่ยัยนี่จะลากฉันกลับไปที่ขอบสนามเหมือนเดิม
“นี่.....เมื่อกี้แกคุยอะไรกับหลุยส์เหรอ”
“อ๋อ ไม่มีอะไรหรอก”
ฉันตอบยัยลูกแพร์โดยหวังว่ายัยนี่ต้องตื้อให้ฉันบอกเหมือนทุกครั้งแฟงๆ แต่คราวนี้ไม่แฮะ เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็ตอนนี้การแข่งขันในครึ่งที่สองเริ่มขึ้นเล้วน่ะสิ ยัยนี่ก็เลยจับตาอยู่แต่กับพี่แบงค์ที่วิ่งอยู่ในสนามนู่น ไม่ได้สนใจฉันเลยสักนิด ชิ!! หมั่นไส้
วันเสาร์
วันนี้ฉันตื่นแต่เช้าตามปกติ เพราะฉันไม่ชอบตื่นสาย อีกอย่างแม่ฉันก็ไม่ชอบคนตื่นสายด้วย
“วันนี้จะออกไปข้างนอกหรือเปล่าลูก”
แม่ถามเหมือนรู้ใจฉันเลยแฮะ
“จ๊ะ พอดีวันนี้เพื่อนหนูจะมารับไปที่ห้องสมุดประชาชนกันน่ะค่ะ”
“จะไปกันตอนกี่โมงล่ะลูก”
“สายๆน่ะค่ะ”
ฉันเดาเอาเอง เพราะหมอนั่นไม่ได้บอกจะมารับฉันตอนกี่โมงนี่นา
“งั้นก็ชวนเพื่อนเข้ามากินข้าวเช้ากันให้เรียบร้อยก่อนนะลูก แล้วค่อยไปกัน”
“ค่ะแม่”
ฉันรับปากแม่ ก่อนจะอาบน้ำ แต่งตัว ทำนู่นทำนี่ไปเรื่อย แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าหมอนั่นจะมารับฉับฉันเลย ฉันจึงเดินเข้าไปกินข้าวเช้าในครัว ทั้งๆที่คิดวไว้ว่าจะชวนหมอนั่นมากินพร้อมๆกันแล้วแท้ๆ แต่มันหิวนี่นา
“เพื่อนยังไม่มาอีกเหรอลูก”
แม่เดินมาถามฉัน เมื่อเห็นว่าฉันเดินวนไปเวียนมารอบบ้านอย่างเป็นกังวล ก็ฉันกลัวว่าหมอนั่นจะไม่มารับฉันอ่ะ
“ค่ะแม่”
ฉันพยักหน้าตอบ แม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่เดินกลับเข้าไปในครัวเหมือนเดิม
“เมื่อไหร่จะมาสักทีนะ”
ฉันนั่งบ่นอยู่คนเดียว เพราะนี่มันก็เก้าโมงกว่าแล้ว แต่หมอนั่นก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะมาที่บ้านฉันแต่อย่างใด
“บลู........บลู.......บลูเข้าไปนอนในห้องเถอะลูก ดึกแล้ว”
นี่ฉันหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี่ย บ้าจริง แล้วหลุยส์ล่ะ ฉันค่อยๆลืมตาขึ้นมา
“แม่คะ.....แล้วเพื่อนหนูล่ะคะ”
“ไม่เห็นมีใครมาที่บ้านเราเลยนะลูก”
“จริงเหรอคะ”
ฉันไม่อยากจะเชื่อว่าหมอนั่นจะหลอกให้ฉันรอเขาตั้งแต่เช้าจนดึกแบบนี้ ท่าทางหมอนั่นไม่น่าจะเป็นคนชอบโกหกได้เลย
“งั้น หนูขอตัวก่อนนะคะ”
ฉันบอกแม่แล้วเดินขึ้นห้องนอนไปอย่างผิดหวังในตัวของหมอนั่นไม่น้อย
วันอาทิตย์
ฉันรู้เหมือนแสงแดดส่องมากระทบกับเปลือกตาของฉันแล้วนะ แต่ทำไมฉันถึงลืมตาไม่ขึ้นเลย รู้สึกเหมือนหนังตามันหนักๆยังไงก็ไม่รู้
ก๊อกๆๆ
“บลู.....ตื่นหรือยังลูก บลู...”
เสียงเคาะประตูดังขึ้นสลับกับเสียงเรียกของแม่ฉันที่ดังอยู่หน้าห้อง
ฉันไม่มีเรี่ยวแรงยังไงก็ไม่รู้ รู้สึกว่าลุกขึ้นไม่ไหวเลย ทุกอย่างในร่างกายมันหนักอึ้งไปหมด
“แม่เข้าไปแล้วนะลูก”
ประตูห้องของฉันถูกเปิดเข้ามา ฉันได้ยินเสียงฝีเท้าของแม่เดินตรงมาที่เตียงของฉัน
“บลู....ลูกเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมหน้าซีด ปากซีดอย่างนี้ล่ะลูก”
ฉันได้ยินเสียงแม่ดังอยู่ข้างๆ แต่ก็ไม่มีแรงแม้แต่จะขยับปากตอบอะไรออกไป นี่ฉันเป็นอะไรไปนะ
“โห~บลู ทำไมลูกตัวร้อนอย่างรี้ล่ะ”
ฉันรู้สึกเหมือนแม่จะเอาหลังมือมาแตะที่หน้าผากฉันแล้วชักมือกลับไปอย่างรวดเร็ว แต่ฉันว่าคนที่ตัวเย็นน่ะ คือแม่ต่างหากล่ะ
“ฮัลโหล ค่ะๆ ได้ค่ะ ค่ะ”
รู้สึกเหมือนแม่จะคุยโทรศัพท์กับใครอยู่
“บ้าจริง!! นี่ขนาดวันหยุดแท้ๆทำไมถึงวุ่นวายกันอย่างนี้นะ แค่โปรเจ็กต์เดียวทำกันไม่ได้ แล้วอย่างนี้ใครจะดูแลบลูล่ะ”
แม่ฉันบ่นล่ะ
“งั้นเดี๋ยวผมดูแลบลูให้เองก็ได้ครับ”
เอ๊ะ!!เสียงผู้ชายนี่นา นี่มีผู้ชายอยู่ในห้องฉันด้วยเหรอเนี่ย
“ถ้างั้น ก็ฝากด้วยแล้วกันนะ เดี๋ยวแม่จะรีบกลับ”
“ครับ”
ผู้ชายคนนั้นตอบรับแม่ฉัน ก่อนที่ฉันจะได้ยินเสียงฝีเท้าของแม่วิ่งอย่างเร่งรีบออกจากห้องไป
ไม่นานนัก ฉันก็รู้สึกเหมือนมีใครเอาอะไรเย็นๆมาแปะไว้บนหัวฉัน นี่เห็นหัวฉันเป็นอะไรกันเนี่ย
“ตัวร้อนจริงๆด้วยแฮะ”
เสียงห้าวทุ้มนั้นบอก อย่างบอกนะว่าไอ้อะไรเย็นๆเมื่อกี้นี้ คือมือของผู้ชายคนนี้น่ะ
“งั้น เดี๋ยวฉันเช็ดตัวให้นะ”
อะไรนะ!!!นี่ฉันต้องมานอนให้ผู้ชายเช็ดตัวให้จริงๆเหรอเนี่ย!! บ้าจริง!!
อึ้ย!!หนาว....หนาวชะมัด ทำไมหมอนี่ต้องเอาน้ำเย็นๆแบบนี้มาลูบตามตัวฉันด้วยนะ
“หนาว......หนาวจังเลย”
ฉันเริ่มขยับปากได้แล้วล่ะ ดังนั้นสิ่งแรกที่ฉันลอกกับหมอนี่ก็คือ หนาว เพราะตอนนี้ฉันกำลังหนาวมาก ถึงมากที่สุด จะแข็งตายคาเตียงอยู่แล้วเนี่ย ให้ตายเถอะ!!
“หนาวเหรอ.....งั้นห่มผ้าซะนะ”
พอเขาได้ยินฉันบอกอย่างนั้น เขาจึงดึงผ้าห่มที่กองอยู่ตรงปลายเท้าฉันขึ้นมาห่มให้ฉันจนถึงคอ
“เป็นไง อุ่นขึ้นใช่มั๊ยล่ะ”
หมอนี่พูดคนเดียวล่ะ คนบ้าอะไรพูดคนเดียวก็เป็น ตลกดีจัง ฉันชักอยากจะเห็นหน้าหมอนี่ซะแล้วสิ
ฉันหลับไปนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้สินะ แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าเปลือกตาฉันจะเปิดตาได้แล้วนะ
“.........”
ฉันค่อยๆลืมตาขึ้นมา แล้วมองไปรอบๆห้อง โอเค!ฉันยังนอนอยู่ที่ห้องของตัวเอง แต่.......
“เฮ้ย!นี่นาย....”
ฉันเห็นผู้ชายคนหนึ่งนั่งหลับอยู่ข้างๆเตียงฉันน่ะสิ
“นี่นาย.....”
ฉันพยายามเรียกเขา พลางเอามือจิ้มๆ
“หือ......”
หมอนี่ค่อยๆลืมตาขึ้นมา แต่พอเขาเห็นหน้าฉันเท่านั้น เขาก็ดีใจใหญ่เลย ที่บ้านถูกหวยรางวัลที่หนึ่งหรือไง อีตาบ้า!!
“นี่เธอฟื้นแล้วเหรอ”
“อืม.....”
ถ้ายัง ฉันจะมานั่งหน้าสวยอยู่นี่หรือไงฮะ แต่เอ๊ะ!ฉันกำลังปรับสายตาที่นอนมาครึ่งวันให้เข้าที่เข้าทางแล้วมองหน้าหมอนี่ให้ชัดๆ.......และพอฉันเห็นหน้าเขาชัดขึ้นเท่านั้น ฉันก็จำได้ทันทีว่าหมอนี่ คือ หลุยส์!!!
“หลุยส์!!! ๐_๐;”
“ใช่ ฉันเอง” ^ ^
ฉันเรียกชื่อเขาเสียงดังอย่างตกใจ แต่เขากลับหันมายิ้มแฉ่งให้ฉันจนหน้าบานเป็นจานดาวเทียม แล้วยังทำหน้าทะเล้นอีก น่าหมั่นไส้ชะมัด!!!
“นี่นายมาอยู่ที่บ้านฉันได้ยังไงน่ะ”
“ก็แม่เธอฝากให้ฉันดูแลเธอ.....ฉันก็เลยมาอยู่ที่บ้านเธอไง ^ ^”
หมอนี่ยังไม่เลิกทำหน้าทะเล้นใส่ฉันอีก ไม่รู้หรือไงกันนะว่าเมื่อวานฉันโกรธนายมากขนาดไหน ถึงขนาดนอนร้องไห้ทั้งคืน จนเมื่อเช้าลืมตาไม่ขึ้น นายนี่มัน.......
“เธอเป็นยังไงบ้าง”
ความคิดเห็น