ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Utterly Guy นายจอมตื้อของซื้อหัวใจยัยปากแข็ง

    ลำดับตอนที่ #2 : Part 1 : นาย นี่ช่างตื้อจริงๆเลยนะ!!!

    • อัปเดตล่าสุด 2 มิ.ย. 54


    Part  1

    นายนี่ช่างตื้อจริงๆเลยนะ!!!

                ท่าจะบ้าแฮะ  หมอนี่  อยู่ดีๆก็จะให้ฉันเดินกลับบ้านทั้งๆที่ฝนยังตกหนักอย่างนี้   ขืนทำตามที่หมอนั่นบอก พรุ่งนี้ฉันได้ไข้ขึ้นกันพอดีล่ะ

                กึก!!

                “นี่เธอ....ขึ้นมาสิ  เดี๋ยวฉันไปส่ง

                นายคนเมื่อกี้นี้(เอ่อ...ว่าแต่หมอนี่ชื่ออะไรอ่ะ)เดินกลับมาพร้อมกับรถมอเตอร์ไซค์สีดำสนิทคันหนึ่ง  ดูๆแล้วก็เท่ห์ดีแฮะ 

                ไม่เป็นไร  เดี๋ยวฉันรอให้ฝนหยุดตกก่อนก็ได้  ฉันไม่รีบ

    ฉันปฏิเสธเขา  พลางส่ายหน้าช้าๆ

                แต่เธอเป็นผู้หญิงนะ.....นั่งอยู่ที่นี่คนเดียวมันอันตราย  อีกอย่างนี่ก็เย็นมากแล้วด้วย

    หมอนี่ช่างตื้อชะมัด  แต่ฉันก็ยังคงปฏิเสธ ที่จริงฉันเกรงใจหมอนี่น่ะ บ้านฉันอาจจะอยู่ไกลจากบ้านเขาก็ได้  ถ้าเขาไปส่งฉันเขาก็ต้องกลับบ้านช้า แล้วเขาก็ต้องเปียกฝนด้วย

                นี่  ไปขึ้นรถเถอะ  เดี๋ยวฉันไปส่งบ้าน

    ในที่สุด เขาก็เดินลงจากรถมาพร้อมกับยื่นหมวกกันน็อคให้ฉัน  แล้วเอากระเป๋านักเรียนของฉันไปไว้ที่รถ

                แต่ว่า.......

                ไม่ต้องแต่...แล้ว ไปเถอะ

    หมอนี่ไม่รอให้ฉันได้พูดอะไร  แต่กลับยัดหมวกกันน็อคลงในมือฉัน  แล้วเดินนำไปที่รถ

                ไปกันเถอะ

    ฉันขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงกับเขาแล้ว  ก็เลยเดินไปขึ้นรถ

                ก็แค่นั้น

    ยังจะมีหน้ามาพูดอีกนะ  อีตาบ้า!!ฉันจำใจขึ้นเพราะนายมันขึ้ตื้อต่างหากล่ะ!!

                บรื้น!!!~

    หมอนี่บิดคันเร่ง  ก่อนจะที่รถจะพุ่งทะยานออกจากบริเวณหน้าโรงยิมไป

                หวัดดี   ฉันชื่อ บลู เป็นนักเรียนชั้นมัธยมปลายของโรงเรียน Siam Inter ส่วนคนที่นั่งขับมอเตอร์ไซค์ให้ฉันซ้อนอยู่นี่  เป็นใครก็ไม่รู้ เพิ่งจะรู้จักกันเมื่อไม่กี่วินาทีนี้เอง  รู้แต่ว่าหมอนี่น่าจะเรียนอยู่ที่โรงเรียนเดียวกับฉัน        

    เออ  ว่าแต่  เธอชื่ออะไรเหรอ

    เขาหันมาถามฉันเมื่อรถติดไฟแดงอยู่     ฉันจึงตอบด้วยเสียงเรียบๆ

                ฉันชื่อ บลู แล้วนายล่ะ

                ฉันชื่อ หลุยส์ นะ

                แล้วนายมาทำอะไรที่โรงยิมเหรอ”         ฉันสงสัย

                อ๋อ  มาขโมยลูกบอลโรงเรียนไปขายทอดตลาดน่ะ      ^ ^

                จะบ้าเหรอ  ใครที่ไหนเขาเอาลูกบอลไปขายทอดตลาดกันล่ะ

    ใครเขาจะมาซื้อฮะ อีตาบ้า   -_-;

                ล้อเล่นน่ะ  ที่จริงฉันมาซ้อมบอล  เพราะพรุ่งนี้ทีมของโรงเรียนเราต้องไปแข่งกับทีมของโรงเรียน Mancial  Inter น่ะ  วันนี้เลยต้องอยู่ซ้อมจนเย็น

                “นายหมายถึงโรงเรียนที่อยู่ข้างๆโรงเรียนเราน่ะเหรอ

                “ถูกต้องนะคร๊าบ”      ^ ^

    เอ่อ......นี่ฉันคงไม่ได้นั่งซ้อนมอไซค์คนพิการทางสมองหรอกนะ  นาย......ร่าเริงเกินไปหน่อยหรือเปล่า?  -_-;    หวังเป็นอย่างยิ่งว่านายคงจะปกติดี และคงจะพาฉันกลับบ้านได้โดยสวัสดิภาพนะ......

                เออ  ว่าแต่ บ้านเธออยู่ไหนอ่ะ

    นั่นสิ  ฉันนึกว่านายจะไม่ถามฉันซะแล้ว  ยังสงสัยอยู่เลยว่านายจะไปส่งบ้านฉันถูกมั๊ย?

                ตรงไปอีกนิด  พอถึงซอยข้างหน้านั่น  นายก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปในซอย หรือจะจอดแค่หน้าปากซอยก็ได้  เดี๋ยวฉันเดินเข้าไปเอง

                งั้นเลี้ยวเข้าไปเลยนะ

    ง่ะ  นายแน่ใจนะว่าฟังฉันอยู่  -_-q

                “เฮ้ย!ถึงแล้วๆ

    ฉันรีบบอกหมอนี่  ก่อนที่เขาจะขี่รถเลยบ้านฉันไปมากกว่านี้   มีหวังฉันได้เดินย้อนกลับมาอีกหลายโลแหงๆ   ก็หมอนี่ขี่มอไซค์ไวอย่างกับพายุ

                หลังนี้เหรอ

    หมอนี่คิดจะเบรกก็เบรกขึ้นมาเฉยๆ จนฉันกระเด้งไปติดแผ่นหลังของเขาเต็มๆ  โอ๊ย~ดั้งฉัน~ เอ๊ย!ไม่ใช่ หน้าฉัน  (เอ่อ....เพื่อนๆที่จริงฉันไม่ใช่คนอย่างนี้นะ  จริงๆ  ทันมั๊ย?)  (ไม่ทันแล้วล่ะยัยบลู : Gangster)

                ขอบใจมากนะ

    ฉันลงจากรถ  ก่อนจะรับกระเป๋ามาจากหมอนั่น  แล้วบอกขอบใจตามมารยาท 

                ไม่เป็นไร   ^ ^

                “ขี่รถกลับดีๆล่ะ

    ฉันบอกกับหลุยส์ หมอนั่นพยักหน้ายิ้มๆให้ฉันก่อนจะเลี้ยงรถกลับ…...

                บรื้น!!!!~

    ง่ะ!  หัวฟูค่ะพี่น้องแม้ว   ใครก็ได้บอกฉันทีว่าเมื่อกี้ฉันคุยอยู่กับคนน่ะ  ฉันว่าหมอนั่นต้องเคยเกิดเป็นปลาทองมาแล้วชาตินึงแหงๆ ฉันเพิ่งจะบอกเขาเองนะว่าให้ขี่รถดีๆ แต่ไหง เขาถึงออกตัวด้วยความเร็วชนิดที่ทำเอาหัวฉันบรรเจิดขนาดนี้ล่ะ

                กลับมาแล้วเหรอลูก   ตายแล้ว!!  นี่ลูกไปทำอะไรมาน่ะบลู

    หึๆ ขอกระจกสองที่ค่ะ   แต่สภาพฉันตอนนี้  ไม่ต้องเอากระจกมาส่องก็พอจะเดาได้ไม่ยาก  เพราะนอกจากจะตากฝนจนหัวแฉะมาจากโรงเรียนแล้ว  พอลงจากรถ ก็ยังโดนท่อไอเสียจากมอไซค์ของหมอนั่นเปาผมให้ซะเรียบร้อย  ที่สำคัญก่อนจะลงจากรถของ  ฉันยังเอาดั้ง เอ๊ย!หน้าไปกระแทกกับหลังของหมอนั่นอีกต่างหาก  เพราะฉะนั้นสภาพฉันตอนนี้.........เหนือคำบรรยายค่ะพี่น้องแม้ว

                “เอ่อ....ฝนมันตกน่ะแม่   หนูขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะจ๊ะ

    ฉันบอกกับแม่ ก่อนจะเดินเข้าบ้านไป เพื่อไปสะสางกับสังกะตังบนหนังศีรษะของฉันออกให้หมดเสียก่อน

                เฮ้อ~อาบน้ำเสร็จแล้ว  โล่งชะมัด  ทำการบ้านดีกว่า   ลั้ลลลา~

                ติ๊ด~ติ๊ดติด~ตี้ดีดี่ดิด

    โทรศัพท์ฉันเองแหละ  ฟังจากเสียงก็พอจะเดาออกแล้วใช่มั๊ยล่ะว่ามันเป็นรุ่นสมัยพระเจ้าเหายังอยู่ในครรภ์มารดาน่ะ

                “ฮัลโหล~”              ฉันรับโทรศัพท์

                ฮัลโหล~บลูเหรอ....นี่ฉันเองนะ  ลูกแพร์

    ปลายสายตอบกลับมา

    นึกว่าใคร  ที่แท้ก็ยัยลูกแพร์นี่เอง  ลูกแพร์เป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของฉันที่คบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนประถม  ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ยัยนี่จะรู้ใจฉันไปซะทุกเรื่อง  แม้แต่เรื่องที่ฉันไม่อยากให้รู้ด้วยซ้ำ

                มีอะไรเหรอ

                [บลู....ฉันขอโทษนะ  ที่วันนี้ฉันลืมแกไว้ที่หน้าโรงยิมอีกแล้วน่ะ]

                ถ้าจำไม่ผิด  แกก็ลืมฉันอย่างนี้มาเกือบอาทิตย์นึงแล้วไม่ใช่เหรอ  ยัยลูกแพร์

                [ฉันขอโทษจริงๆนะแก  พอดีวันนี้พี่แบงค์เค้าโทร.มาชวนฉันไปกินไอติมที่เซ็นทรัลฯน่ะ]

                แหม~เดี๋ยวนี้อะไรๆก็พี่แบงค์ ลืมฉันไปเลยสินะยัยลูกแพร์เน่า  เออ  จริงสิ  ฉันลืมบอกไป  พี่แบงค์ก็คือแฟนของยัยลูกแพร์เน่าเพื่อนฉันเองแหละ  คบกันมาได้เกือบอาทิตย์นึงแล้วล่ะ  ระยะยเวลาก็พอๆกับที่ยัยนี่ลืมฉันไว้ที่หน้าโรงยิมนั่นแหละ

                แล้วนี่แกโทร.มามีเรื่องอะไรอีกหรือเปล่า ฉันรู้นะ ว่าแกคงจะไม่ได้โทร.มาเพื่อขอโทษฉันอย่างเดียวหรอก  ใช่มั๊ย?

    ฉันถามยัยลูกแพร์อย่างรู้ทัน

                [จริงสิ.......ที่จริงฉันจะโทร.มาบอกแกว่า พรุ่งนี้โรงเรียนของเราจะจัดการแข่งขันฟุตบอลสัมพันธ์ระหว่างทีมโรงเรียนเรากับทีมของโรงเรียน Mancial  Inter  ที่อยู่ข้างๆน่ะ]

                แล้วไงอ่ะ   แกก็รู้ไม่ใช่เหรอ ว่าฉันเกลียดฟุตบอล  ไม่ว่าจะเป็นลูกบอล นักกีฬาแข่งบอล  สนามบอล  โดยเฉพาะการแข่งบอล!!”

                [ฉันรู้......แต่ว่าปีนี้พี่แบงค์ของฉันเค้าลงแข่งด้วยนะแก  แกมาดูเป็นเพื่อนฉันหน่อยไม่ได้เหรอ]

                ยัยลูกแพร์ออดอ้อนฉันเป็นเด็กๆ  แต่ฉันไม่ยอมใจอ่อนเด็ดขาด  เพราะอะไรน่ะเหรอ  ก็ตอนเด็กๆน่ะฉันเคยมีปมเรื่องลูกบอลน่ะสิ  มันทำให้ฉันเกิดอคติกับไอ้ลูกหนังกลมๆนั่น  แต่ช่างเถอะ เรื่องมันก็ผ่านมานานมากแล้ว  แต่ถึงยังไงฉันก็ไม่เคยลืมเรื่องนั้นเลย มันทำให้ฉันฝังใจว่า ไอ้พวกที่ชอบเล่นฟุตบอลน่ะ เป็นพวกที่ชอบใช้แต่กำลัง ไม่ใช้มันสมอง  แถมยังชอบทำให้คนอื่นเดือดร้อนอีกต่างหาก

                [บลู~ไปดูกับฉันเถอะนะ   น๊า~]

    ยัยลูกแพร์ยังคงตื้อฉันอยู่

                ไม่-ไป!!”                    ฉันยืนยันหนักแน่น

                [นี่แกจะให้ฉันไปคนเดียวจริงๆเหรอ…….]

    ยัยลูกแพร์เริ่มทำเสียงเศร้าเล่าความเท็จ      แต่ฝันไปเถอะว่าฉันจะเชื่อมัน

                ไม่จริง.......

                [แสดงว่าเธอจะไปกับฉัน......]

                เปล่า.....ฉันหมายความว่า  แกไปชวนคนอื่นไปก็ได้นี่

                [แล้วจะให้ฉันไปชวนใครล่ะ]

                ใครก็ได้......ที่ไม่-ใช่-ฉัน   เพราะฉันไม่-ไป  ชัดมั๊ย?

    ฉันพูดเน้นเสียงชัดทุกคำ

                [บลู~…….]

    ยัยลูกแพร์ลากเสียงชื่อฉันซะยาวเป็นกิโลฯ

                เน่!ยัยลูกแพร์  ฉันจะทำการบ้าน   แกมีธุระกับฉันแค่นี้ใช่มั๊ย

                [ก็ได้!!แกไม่ไปกับฉันใช่มั๊ย   ฉันงอนแกจริงๆด้วย   พรุ่งนี้มีวิชาการงานฯแกไม่ต้องมาให้ฉันเย็บกระเป๋าให้เลยนะ]

                เฮ้ย!ได้ไงเล่า  นี่ ยัยลูกแพร์ แกสัญญากับฉันแล้วไม่ใช่เหรอว่าแกจะเย็บไอ้กระเป๋านั่นให้ฉันน่ะ

    คือ ความจริงฉันชอบให้ยัยลูกแพร์ทำงานเย็บปักถักร้อยของวิชาการงานอาชีพให้น่ะ เพราะงานฝีมือในการทำงานพวกนี้ของมันห่วยมากๆเลยน่ะสิ

                [ถ้างั้น....แกต้องไปดูการแข่งขันฟุตบอลสมพันธ์กับฉันพรุ่งนี้  โอเค?]

                เออๆก็ได้....

    ฉันตอบยัยลูกแพร์ไปอย่างไม่เต็มใจ  ก็ยัยนี่น่ะเอาแต่ใจตัวแม่  นี่ถ้าฉันขัดใจอีก  พอดีงานฝีมือนั่นของฉันไม่ต้องส่งอาจารย์กันพอดี

                [งั้นแค่นี้นะ.......บ๊ายบาย]

    ยัยลูกแพร์พูดอย่างร่าเริง  ก่อนจะวางสายไป       โอ๊ย~แล้วอย่างนี้ฉันจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย  ฉัน-เกลียด-ฟุตบอล!!!

     

    วันรุ่งขึ้น

                ฉันเดินขึ้นมาบนห้องเรียนด้วยสภาพไร้วิญญาณ  ก็ฉันมัวแต่คิดถึงเรื่องที่ฉันต้องไปเผชิญชะตากรรมกับยัยลูกแพร์ที่สนามแข่งบอลในวันนี้น่ะสิ  แค่คิดฉันก็เซ็งชีวิตแล้ว

                “นี่....แล้ววันนี้พี่แบงค์ของแกลงสนามตอนกี่โมงอ่ะ

    ฉันถามยัยลูกแพร์ขณะที่นั่งกินข้าวกลางวันอยู่ที่โรงอาหาร

                อ๋อ~ตอนบ่ายนี่นแหละ

                พรวด!!!~

    ฉันสำลักข้าวคำเมื่อกี้   จึงรีบกินน้ำตามเข้าไปอย่างไว  ก่อนจะตะโกนถามยัยลูกแพร์

                ว่าไงนะ!!”

                ก็ตอนบ่ายไง

    ยัยลูกแพร์หันมาบอกฉันอีกรอบอย่างงงๆ

                แก......เปลี่ยนเอาคนอื่นไปแทนฉันได้มั๊ย?

                บลู.......แต่แกตกลงกับฉันแล้วนะ   แล้วแกมาบอกตอนนี้  ฉันจะไปเอาใครมาแทนแกล่ะยัยบลู

                เออ   ก็ได้ๆ

    ฉันขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงกับยัยนี่   ก็เลยพนักหน้าอย่างรำคาญ

                ปี๊ด~

    เสียงนกหวัดของกรรมการดังขึ้น   นักกีฬาที่อยู่ในสนามเริ่มทำการแข่งขันแล้ว   ในที่สุด  ฉันก็ต้องมานั่งติดขอบสนามอยู่กับยัยลูกแพร์ด้วยความ จำใจ!!

                พี่แบงค์สู้ๆนะค๊า

    แต่.....ตอนนี้ยัยนั่นมันไม่ได้มานั่งเหลียวแลฉันหรอก   นู่น!  ยัยบ้านั่นกำลังยืนชักดิ้นชักงอเชียร์อีตาพี่แบงค์ของมันอยู่ตรงขอบสนามนู่น….ฉันล่ะอยากจะแทรกแผ่นดินหนีไปทะเลจีนใต้จริงๆเลย  นี่ฉันคบยัยบ้านี่มาได้ยังไงตั้งนานเนี่ย

                เฮ้ย!!นั่นมัน......

    แล้วขณะที่ฉันกำลังปลงกับชีวิตพลางด่ายัยลูกแพร์ในใจอยู่นั้น   สายตาของฉันก็พลันเหลือบไปเห็น หลุยส์

                ใช่หมอนั่นจริงๆด้วย   ๐_;”

    ฉันมองหมอนั่นตาค้าง   แล้วก็รู้สึกว่าหมอนั่นเองก็กำลังมองมาทางนี้อยู่เหมือนกัน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×