คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Part 1 : นาย นี่ช่างตื้อจริงๆเลยนะ!!!
Part 1
นายนี่ช่างตื้อจริงๆเลยนะ!!!
ท่าจะบ้าแฮะ หมอนี่ อยู่ดีๆก็จะให้ฉันเดินกลับบ้านทั้งๆที่ฝนยังตกหนักอย่างนี้ ขืนทำตามที่หมอนั่นบอก พรุ่งนี้ฉันได้ไข้ขึ้นกันพอดีล่ะ
กึก!!
“นี่เธอ....ขึ้นมาสิ เดี๋ยวฉันไปส่ง”
นายคนเมื่อกี้นี้(เอ่อ...ว่าแต่หมอนี่ชื่ออะไรอ่ะ)เดินกลับมาพร้อมกับรถมอเตอร์ไซค์สีดำสนิทคันหนึ่ง ดูๆแล้วก็เท่ห์ดีแฮะ
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันรอให้ฝนหยุดตกก่อนก็ได้ ฉันไม่รีบ”
ฉันปฏิเสธเขา พลางส่ายหน้าช้าๆ
“แต่เธอเป็นผู้หญิงนะ.....นั่งอยู่ที่นี่คนเดียวมันอันตราย อีกอย่างนี่ก็เย็นมากแล้วด้วย”
หมอนี่ช่างตื้อชะมัด แต่ฉันก็ยังคงปฏิเสธ ที่จริงฉันเกรงใจหมอนี่น่ะ บ้านฉันอาจจะอยู่ไกลจากบ้านเขาก็ได้ ถ้าเขาไปส่งฉันเขาก็ต้องกลับบ้านช้า แล้วเขาก็ต้องเปียกฝนด้วย
“นี่ ไปขึ้นรถเถอะ เดี๋ยวฉันไปส่งบ้าน”
ในที่สุด เขาก็เดินลงจากรถมาพร้อมกับยื่นหมวกกันน็อคให้ฉัน แล้วเอากระเป๋านักเรียนของฉันไปไว้ที่รถ
“แต่ว่า.......”
“ไม่ต้องแต่...แล้ว ไปเถอะ”
หมอนี่ไม่รอให้ฉันได้พูดอะไร แต่กลับยัดหมวกกันน็อคลงในมือฉัน แล้วเดินนำไปที่รถ
“ไปกันเถอะ”
ฉันขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงกับเขาแล้ว ก็เลยเดินไปขึ้นรถ
“ก็แค่นั้น”
ยังจะมีหน้ามาพูดอีกนะ อีตาบ้า!!ฉันจำใจขึ้นเพราะนายมันขึ้ตื้อต่างหากล่ะ!!
บรื้น!!!~
หมอนี่บิดคันเร่ง ก่อนจะที่รถจะพุ่งทะยานออกจากบริเวณหน้าโรงยิมไป
หวัดดี ฉันชื่อ ‘บลู’ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมปลายของโรงเรียน Siam Inter ส่วนคนที่นั่งขับมอเตอร์ไซค์ให้ฉันซ้อนอยู่นี่ เป็นใครก็ไม่รู้ เพิ่งจะรู้จักกันเมื่อไม่กี่วินาทีนี้เอง รู้แต่ว่าหมอนี่น่าจะเรียนอยู่ที่โรงเรียนเดียวกับฉัน
“เออ ว่าแต่ เธอชื่ออะไรเหรอ”
เขาหันมาถามฉันเมื่อรถติดไฟแดงอยู่ ฉันจึงตอบด้วยเสียงเรียบๆ
“ฉันชื่อ ‘บลู’ แล้วนายล่ะ”
“ฉันชื่อ ‘หลุยส์’ นะ”
“แล้วนายมาทำอะไรที่โรงยิมเหรอ” ฉันสงสัย
“อ๋อ มาขโมยลูกบอลโรงเรียนไปขายทอดตลาดน่ะ” ^ ^
“จะบ้าเหรอ ใครที่ไหนเขาเอาลูกบอลไปขายทอดตลาดกันล่ะ”
ใครเขาจะมาซื้อฮะ อีตาบ้า -_-;
“ล้อเล่นน่ะ ที่จริงฉันมาซ้อมบอล เพราะพรุ่งนี้ทีมของโรงเรียนเราต้องไปแข่งกับทีมของโรงเรียน Mancial Inter น่ะ วันนี้เลยต้องอยู่ซ้อมจนเย็น”
“นายหมายถึงโรงเรียนที่อยู่ข้างๆโรงเรียนเราน่ะเหรอ”
“ถูกต้องนะคร๊าบ” ^ ^
เอ่อ......นี่ฉันคงไม่ได้นั่งซ้อนมอ’ไซค์คนพิการทางสมองหรอกนะ นาย......ร่าเริงเกินไปหน่อยหรือเปล่า? -_-; หวังเป็นอย่างยิ่งว่านายคงจะปกติดี และคงจะพาฉันกลับบ้านได้โดยสวัสดิภาพนะ......
“เออ ว่าแต่ บ้านเธออยู่ไหนอ่ะ”
นั่นสิ ฉันนึกว่านายจะไม่ถามฉันซะแล้ว ยังสงสัยอยู่เลยว่านายจะไปส่งบ้านฉันถูกมั๊ย?
“ตรงไปอีกนิด พอถึงซอยข้างหน้านั่น นายก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปในซอย หรือจะจอดแค่หน้าปากซอยก็ได้ เดี๋ยวฉันเดินเข้าไปเอง”
“งั้นเลี้ยวเข้าไปเลยนะ”
ง่ะ นายแน่ใจนะว่าฟังฉันอยู่ -_-q
“เฮ้ย!ถึงแล้วๆ”
ฉันรีบบอกหมอนี่ ก่อนที่เขาจะขี่รถเลยบ้านฉันไปมากกว่านี้ มีหวังฉันได้เดินย้อนกลับมาอีกหลายโลแหงๆ ก็หมอนี่ขี่มอ’ไซค์ไวอย่างกับพายุ
“หลังนี้เหรอ”
หมอนี่คิดจะเบรกก็เบรกขึ้นมาเฉยๆ จนฉันกระเด้งไปติดแผ่นหลังของเขาเต็มๆ โอ๊ย~ดั้งฉัน~ เอ๊ย!ไม่ใช่ หน้าฉัน (เอ่อ....เพื่อนๆที่จริงฉันไม่ใช่คนอย่างนี้นะ จริงๆ ทันมั๊ย?) (ไม่ทันแล้วล่ะยัยบลู : Gangster)
“ขอบใจมากนะ”
ฉันลงจากรถ ก่อนจะรับกระเป๋ามาจากหมอนั่น แล้วบอกขอบใจตามมารยาท
“ไม่เป็นไร” ^ ^
“ขี่รถกลับดีๆล่ะ”
ฉันบอกกับหลุยส์ หมอนั่นพยักหน้ายิ้มๆให้ฉันก่อนจะเลี้ยงรถกลับ…...
บรื้น!!!!~
ง่ะ! หัวฟูค่ะพี่น้องแม้ว ใครก็ได้บอกฉันทีว่าเมื่อกี้ฉันคุยอยู่กับคนน่ะ ฉันว่าหมอนั่นต้องเคยเกิดเป็นปลาทองมาแล้วชาตินึงแหงๆ ฉันเพิ่งจะบอกเขาเองนะว่าให้ขี่รถดีๆ แต่ไหง เขาถึงออกตัวด้วยความเร็วชนิดที่ทำเอาหัวฉันบรรเจิดขนาดนี้ล่ะ
“กลับมาแล้วเหรอลูก ตายแล้ว!! นี่ลูกไปทำอะไรมาน่ะบลู”
หึๆ ขอกระจกสองที่ค่ะ แต่สภาพฉันตอนนี้ ไม่ต้องเอากระจกมาส่องก็พอจะเดาได้ไม่ยาก เพราะนอกจากจะตากฝนจนหัวแฉะมาจากโรงเรียนแล้ว พอลงจากรถ ก็ยังโดนท่อไอเสียจากมอ’ไซค์ของหมอนั่นเปาผมให้ซะเรียบร้อย ที่สำคัญก่อนจะลงจากรถของ ฉันยังเอาดั้ง เอ๊ย!หน้าไปกระแทกกับหลังของหมอนั่นอีกต่างหาก เพราะฉะนั้นสภาพฉันตอนนี้.........เหนือคำบรรยายค่ะพี่น้องแม้ว
“เอ่อ....ฝนมันตกน่ะแม่ หนูขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะจ๊ะ”
ฉันบอกกับแม่ ก่อนจะเดินเข้าบ้านไป เพื่อไปสะสางกับสังกะตังบนหนังศีรษะของฉันออกให้หมดเสียก่อน
เฮ้อ~อาบน้ำเสร็จแล้ว โล่งชะมัด ทำการบ้านดีกว่า ลั้ลลลา~
ติ๊ด~ติ๊ดติด~ตี้ดีดี่ดิด
โทรศัพท์ฉันเองแหละ ฟังจากเสียงก็พอจะเดาออกแล้วใช่มั๊ยล่ะว่ามันเป็นรุ่นสมัยพระเจ้าเหายังอยู่ในครรภ์มารดาน่ะ
“ฮัลโหล~” ฉันรับโทรศัพท์
“ฮัลโหล~บลูเหรอ....นี่ฉันเองนะ ลูกแพร์”
ปลายสายตอบกลับมา
นึกว่าใคร ที่แท้ก็ยัยลูกแพร์นี่เอง ลูกแพร์เป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของฉันที่คบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนประถม ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ยัยนี่จะรู้ใจฉันไปซะทุกเรื่อง แม้แต่เรื่องที่ฉันไม่อยากให้รู้ด้วยซ้ำ
“มีอะไรเหรอ”
[บลู....ฉันขอโทษนะ ที่วันนี้ฉันลืมแกไว้ที่หน้าโรงยิมอีกแล้วน่ะ]
“ถ้าจำไม่ผิด แกก็ลืมฉันอย่างนี้มาเกือบอาทิตย์นึงแล้วไม่ใช่เหรอ ยัยลูกแพร์”
[ฉันขอโทษจริงๆนะแก พอดีวันนี้พี่แบงค์เค้าโทร.มาชวนฉันไปกินไอติมที่เซ็นทรัลฯน่ะ]
แหม~เดี๋ยวนี้อะไรๆก็พี่แบงค์ ลืมฉันไปเลยสินะยัยลูกแพร์เน่า เออ จริงสิ ฉันลืมบอกไป พี่แบงค์ก็คือแฟนของยัยลูกแพร์เน่าเพื่อนฉันเองแหละ คบกันมาได้เกือบอาทิตย์นึงแล้วล่ะ ระยะยเวลาก็พอๆกับที่ยัยนี่ลืมฉันไว้ที่หน้าโรงยิมนั่นแหละ
“แล้วนี่แกโทร.มามีเรื่องอะไรอีกหรือเปล่า ฉันรู้นะ ว่าแกคงจะไม่ได้โทร.มาเพื่อขอโทษฉันอย่างเดียวหรอก ใช่มั๊ย?”
ฉันถามยัยลูกแพร์อย่างรู้ทัน
[จริงสิ.......ที่จริงฉันจะโทร.มาบอกแกว่า พรุ่งนี้โรงเรียนของเราจะจัดการแข่งขันฟุตบอลสัมพันธ์ระหว่างทีมโรงเรียนเรากับทีมของโรงเรียน Mancial Inter ที่อยู่ข้างๆน่ะ]
“แล้วไงอ่ะ แกก็รู้ไม่ใช่เหรอ ว่าฉันเกลียดฟุตบอล ไม่ว่าจะเป็นลูกบอล นักกีฬาแข่งบอล สนามบอล โดยเฉพาะการแข่งบอล!!”
[ฉันรู้......แต่ว่าปีนี้พี่แบงค์ของฉันเค้าลงแข่งด้วยนะแก แกมาดูเป็นเพื่อนฉันหน่อยไม่ได้เหรอ]
ยัยลูกแพร์ออดอ้อนฉันเป็นเด็กๆ แต่ฉันไม่ยอมใจอ่อนเด็ดขาด เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็ตอนเด็กๆน่ะฉันเคยมีปมเรื่องลูกบอลน่ะสิ มันทำให้ฉันเกิดอคติกับไอ้ลูกหนังกลมๆนั่น แต่ช่างเถอะ เรื่องมันก็ผ่านมานานมากแล้ว แต่ถึงยังไงฉันก็ไม่เคยลืมเรื่องนั้นเลย มันทำให้ฉันฝังใจว่า ไอ้พวกที่ชอบเล่นฟุตบอลน่ะ เป็นพวกที่ชอบใช้แต่กำลัง ไม่ใช้มันสมอง แถมยังชอบทำให้คนอื่นเดือดร้อนอีกต่างหาก
[บลู~ไปดูกับฉันเถอะนะ น๊า~]
ยัยลูกแพร์ยังคงตื้อฉันอยู่
“ไม่-ไป!!” ฉันยืนยันหนักแน่น
[นี่แกจะให้ฉันไปคนเดียวจริงๆเหรอ…….]
ยัยลูกแพร์เริ่มทำเสียงเศร้าเล่าความเท็จ แต่ฝันไปเถอะว่าฉันจะเชื่อมัน
“ไม่จริง.......”
[แสดงว่าเธอจะไปกับฉัน......]
“เปล่า.....ฉันหมายความว่า แกไปชวนคนอื่นไปก็ได้นี่”
[แล้วจะให้ฉันไปชวนใครล่ะ]
“ใครก็ได้......ที่ไม่-ใช่-ฉัน เพราะฉันไม่-ไป ชัดมั๊ย?”
ฉันพูดเน้นเสียงชัดทุกคำ
[บลู~…….]
ยัยลูกแพร์ลากเสียงชื่อฉันซะยาวเป็นกิโลฯ
“เน่!ยัยลูกแพร์ ฉันจะทำการบ้าน แกมีธุระกับฉันแค่นี้ใช่มั๊ย”
[ก็ได้!!แกไม่ไปกับฉันใช่มั๊ย ฉันงอนแกจริงๆด้วย พรุ่งนี้มีวิชาการงานฯแกไม่ต้องมาให้ฉันเย็บกระเป๋าให้เลยนะ]
“เฮ้ย!ได้ไงเล่า นี่ ยัยลูกแพร์ แกสัญญากับฉันแล้วไม่ใช่เหรอว่าแกจะเย็บไอ้กระเป๋านั่นให้ฉันน่ะ”
คือ ความจริงฉันชอบให้ยัยลูกแพร์ทำงานเย็บปักถักร้อยของวิชาการงานอาชีพให้น่ะ เพราะงานฝีมือในการทำงานพวกนี้ของมันห่วยมากๆเลยน่ะสิ
[ถ้างั้น....แกต้องไปดูการแข่งขันฟุตบอลสมพันธ์กับฉันพรุ่งนี้ โอเค?]
“เออๆก็ได้....”
ฉันตอบยัยลูกแพร์ไปอย่างไม่เต็มใจ ก็ยัยนี่น่ะเอาแต่ใจตัวแม่ นี่ถ้าฉันขัดใจอีก พอดีงานฝีมือนั่นของฉันไม่ต้องส่งอาจารย์กันพอดี
[งั้นแค่นี้นะ.......บ๊ายบาย]
ยัยลูกแพร์พูดอย่างร่าเริง ก่อนจะวางสายไป โอ๊ย~แล้วอย่างนี้ฉันจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย ฉัน-เกลียด-ฟุตบอล!!!
วันรุ่งขึ้น
ฉันเดินขึ้นมาบนห้องเรียนด้วยสภาพไร้วิญญาณ ก็ฉันมัวแต่คิดถึงเรื่องที่ฉันต้องไปเผชิญชะตากรรมกับยัยลูกแพร์ที่สนามแข่งบอลในวันนี้น่ะสิ แค่คิดฉันก็เซ็งชีวิตแล้ว
“นี่....แล้ววันนี้พี่แบงค์ของแกลงสนามตอนกี่โมงอ่ะ”
ฉันถามยัยลูกแพร์ขณะที่นั่งกินข้าวกลางวันอยู่ที่โรงอาหาร
“อ๋อ~ตอนบ่ายนี่นแหละ”
พรวด!!!~
ฉันสำลักข้าวคำเมื่อกี้ จึงรีบกินน้ำตามเข้าไปอย่างไว ก่อนจะตะโกนถามยัยลูกแพร์
“ว่าไงนะ!!”
“ก็ตอนบ่ายไง”
ยัยลูกแพร์หันมาบอกฉันอีกรอบอย่างงงๆ
“แก......เปลี่ยนเอาคนอื่นไปแทนฉันได้มั๊ย?”
“บลู.......แต่แกตกลงกับฉันแล้วนะ แล้วแกมาบอกตอนนี้ ฉันจะไปเอาใครมาแทนแกล่ะยัยบลู”
“เออ ก็ได้ๆ”
ฉันขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงกับยัยนี่ ก็เลยพนักหน้าอย่างรำคาญ
ปี๊ด~
เสียงนกหวัดของกรรมการดังขึ้น นักกีฬาที่อยู่ในสนามเริ่มทำการแข่งขันแล้ว ในที่สุด ฉันก็ต้องมานั่งติดขอบสนามอยู่กับยัยลูกแพร์ด้วยความ จำใจ!!
“พี่แบงค์สู้ๆนะค๊า”
แต่.....ตอนนี้ยัยนั่นมันไม่ได้มานั่งเหลียวแลฉันหรอก นู่น! ยัยบ้านั่นกำลังยืนชักดิ้นชักงอเชียร์อีตาพี่แบงค์ของมันอยู่ตรงขอบสนามนู่น….ฉันล่ะอยากจะแทรกแผ่นดินหนีไปทะเลจีนใต้จริงๆเลย นี่ฉันคบยัยบ้านี่มาได้ยังไงตั้งนานเนี่ย
“เฮ้ย!!นั่นมัน......”
แล้วขณะที่ฉันกำลังปลงกับชีวิตพลางด่ายัยลูกแพร์ในใจอยู่นั้น สายตาของฉันก็พลันเหลือบไปเห็น ‘หลุยส์’
“ใช่หมอนั่นจริงๆด้วย ๐_๐;”
ฉันมองหมอนั่นตาค้าง แล้วก็รู้สึกว่าหมอนั่นเองก็กำลังมองมาทางนี้อยู่เหมือนกัน
ความคิดเห็น