ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FIC EXO SCHOOL HORROR [END]

    ลำดับตอนที่ #4 : SCHOOL : CHAPTER2

    • อัปเดตล่าสุด 1 ก.ค. 56


    CHAPTER2

    เพลงทำนองหลอนที่ดังแผ่วเอื่อยๆในห้อง ทำให้ผมต้องเขยิบเข้าหาคยองซูโดยอัตโนมัติ ครั้งนี้ผมพอจะรู้หน้าที่ตัวเองดี
    จึงไม่ทักอะไรออกไป ปล่อยให้เพลงแห่งความตายนี้ผ่านตัวผมและคนอื่นๆไป ประตูหน้าต่างเปิดปิดไปมาเสียงดัง
    แรงเสียดทานของหน้าต่างทำให้เกิดเสียงที่น่าหวาดเสียว ลมที่ไม่มีที่มา พัดเข้ามาในห้องอย่างแรงดั่งพายุขนาดเล็ก
    แจกันดอกกุหลาบบนโต๊ะอาจารย์ที่ต้านแรงลมไม่ไหวจึงเอนล้มจนแตกกระจาย
    ส่งผลให้เซฮุนที่ยืนใกล้ๆได้รับบาดเจ็บจากชิ้นส่วนที่แหลมของแจกันไปด้วย

     

    แบคฮยอนกอดแฟนตัวเองแน่นด้วยความหวาดกลัว คยองซูก็ซุกอกผมเช่นกัน
    ผมพยามกดหัวคนตัวเล็กให้ชิดอกกว้างผมมากที่สุดเพื่อป้องกันอุบัติเหตุเล็กๆเหมือนเซฮุน

     

    ปัง!

     

    ประตูห้องปิดลงอย่างแรง หน้าต่างหลายบานก็กระแทกปิดเข้ามาเช่นกัน

    ในขณะเดียวกันลมที่เคยพัดดั่งพายุก็หายไปด้วย สถานการณ์ภายในห้องเริ่มกลับมาเป็นปกติ

     

    ผมคลายอ้อมกอดจากคนตัวเล็กและสำรวจสิ่งผิดปกติรอบๆห้อง แต่ทุกอย่างยังเหมือนเดิม
    ที่ต่างก็คือข้าวของภายในห้องที่กระจัดกระจายเพราะโดนอิทธิพลจากลม

     

    ทันทีที่ทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง แบคฮยอนก็โวยวายลั่นด้วยความกลัว อี้ชิงทำลายข้าวของไม่หยุดราวกับสติแตก
    มินซอกเอาแต่ทุบประตูที่ยังเปิดไม่ออก ทุกคนในห้องเริ่มควบคุมตัวเองไม่อยู่

     

    “เงียบ!!

    ……

     

    ผมเพิ่งรู้ก็ตอนนี้ ว่าคนที่แบคฮยอนเรียกเฮียคริส มีอิทธิพลมากขนาดนี้

    ทันทีที่เฮียคริสตะโกนออกมาลั่นห้อง ทุกสิ่งทุกอย่างก็นิ่งเงียบ ไม่เว้นแม้แต่คยองซูที่ต้องหยุดร้องไห้

     

    “พวกนายช่วยตั้งสติกันก่อน แล้วมาช่วยกันคิดว่าจะแก้ไขปัญหานี้ยังไง”

    …… ทุกคนนิ่งเงียบ ตั้งใจฟังเฮียคริส รวมถึงผมด้วย

    “อย่างแรก ไค!” ร่างสูงหันมาจ้องผมเขม็งจนผมต้องขานรับแทบไม่ทัน

    “นายอาจจะไม่เข้าใจว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นภายในโรงเรียน แต่ถ้าจะให้ฉันเล่าเวลานี้ก็คงไม่ทันแล้ว”

    “จำไว้ว่านายและทุกๆคนต้องจำกฎนี้ให้ขึ้นใจ”

    …….

    “ข้อแรก อย่าทักถ้าได้ยินเสียงอะไรแปลกๆ”

    “ข้อสอง อย่าพยายามหนีออกจากโรงเรียน

    “ข้อสาม ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นอย่าอยู่คนเดียว”

     

    …..!!” ทุกคนหน้าซีดเผือก มองเฮียคริสด้วยความไม่เข้าใจ

    ผมไม่เข้าใจข้อห้ามบางข้อของเขา ทำไมต้องห้ามหนี? พวกเราควรจะหนีสิ การออกไปจากที่นี่เป็นความคิดแรกที่ผมจะทำด้วยซ้ำ แล้วยังข้อสุดท้ายอีก เมื่อกี้คนที่ชื่อจงแดเพิ่งวิ่งพล่านออกไป แล้วเขาจะเป็นยังไง?

     

    “เฮียคริสครับ แล้วจงแดล่ะ” เด็กหนุ่มผมดำขลับที่มีชื่อว่าเทาเอ่ยถามคำถามที่ผมและหลายๆคนอยากรู้

    คนถูกถามเพียงแต่ถอนหายใจเบาๆแล้วพูดเสียงอ่อน

    “จำไว้นะทุกคน คืนนี้จะไม่มีคำว่าเพื่อนอีกต่อไป แต่ละคนก็ต้องการจะมีชีวิตรอด เพราะฉะนั้นเลิกนึกถึงคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวเองซะ”

    ……” ผมขบฟันแน่น ไม่คิดว่าเฮียคริสที่ใครๆต่างก็เคารพยำเกรงถึงได้เห็นแก่ตัวขนาดนี้ ขนาดเพื่อนในกลุ่มตัวเองก็ยังไม่ห่วงเลยสักนิด ถึงแม้ว่าที่พูดมาจะเป็นความจริงก็เถอะ บางทีค่ำคืนนี้ก็อาจวัดค่าได้เหมือนกัน ว่าความเป็นเพื่อนที่มีมานานหลายปีของแต่ละคนจะเอาชนะความเห็นแก่ตัวได้หรือไม่

    เพราะอย่างนี้ไงล่ะ ผมถึงไม่อยากมีเพื่อน ไม่อยากผูกมัดกับใคร

     

    พลั่ก!

     

    ภาพตรงหน้าทำให้ผมมึนงงไปชั่วขณะ

    คยองซูต่อยเฮียคริสอย่างแรงจนคนโดนกระทำเสียหลักปลิวไปกระแทกกำแพง

    เพื่อนๆรีบเข้ามาดึงร่างคนตัวเล็กไว้ไม่ให้ทำอะไรไปมากกว่านี้เมื่อเห็นอารมณ์ร้อนของคยองซู

    คยองซูที่บอบบางอ่อนแอไปไหน คนตรงหน้าผมกลายเป็นคนอารมณ์ร้าย แววตาเกรี้ยวกราด

    “นายมันเห็นแก่ตัว คริส!” “นายทรยศเพื่อนตัวเอง ไม่เคยคิดช่วย ห่วงแต่ตัวเอง นึกถึงแต่ตัวเอง!

    “สงบสติหน่อยสิคยองซู” ลู่หานบีบใหล่คนตัวเล็กเบาๆให้รู้สึกตัว แต่ดูเหมือนอารมณ์จะไม่ได้เย็นลงเลย

    เฮียคริสถ่มน้ำลายที่ผสมเลือดทิ้งพลางเงยหน้ามองคยองซูด้วยแววตากราดเกรี้ยดไม่แพ้กัน

    “ถ้าห่วงมันนักก็วิ่งไปช่วยมันสิ กล้าหรือเปล่าละ ไปเลย!!” ร่างสูงผลักคนตัวเล็กจนเซล้ม

    บรรยากาศในตอนนี้ตึงเครียดเป็นอย่างมาก หลังจากที่เฮียคริสเริ่มมีโทสะความน่ากลัวก็เพิ่มคูณสอง

    “ทำไมไม่ไปล่ะ ไปเซ่!” ผลักไม่พอ ร่างสูงยังปรี่เข้ามากระชากเสื้อคนตัวเล็กอย่างแรง จนผมเริ่มทนดูไม่ไหว

    “หยุดเถอะ เฮียทำเกินไปแล้วนะ”
    ผมพูดเสียงเรียบ ถึงแม้ในใจยังหวั่นๆอยู่ก็ตาม แต่ความเป็นห่วงคยองซูมันมีมากกว่า
    เฮียหันมามองผมก่อนจะสบถดังๆอย่างหัวเสีย

     

    “ถ้าอยากจะเป็นคนดีรักเพื่อนกันก็เชิญ แต่คนที่จะไปกับฉันได้ต้องปรารถนาที่จะมีชีวิตรอดเพียงผู้เดียวรู้ไว้ซะด้วย!
    “ใครจะมากับฉันบ้าง??”

    เฮียคริสประกาศแยกฝั่งด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด และแน่นอน ผมไม่มีทางไปกับคนๆนี้แน่ๆ แม้อาจจะไม่รอดก็ตาม

    คยองซูเกาะแขนผมไว้แน่นราวกับว่าไม่อยากให้ไปไหน ซึ่งผมก็ไม่คิดจะไปอยู่แล้ว

    มีเพียงแต่เทาและลู่หานเท่านั้นทีเดินเข้าไปฝั่งเฮียคริส

    “มินซอก” ลู่หานพูดเสียงแผ่ว เป็นการเชื้อเชิญให้ย้ายฝั่งตามเขา คนถูกเรียกได้แต่สับสน

    ผมรู้ว่าสองคนนี้รักกัน แต่ด้วยความที่อยู่คนละกลุ่มทำให้หนักใจไม่น้อย
    พลันเหลือบไปเห็นร่างสูงอีกคนที่ยืนอยู่ข้างหลังแบคฮยอน

    .. เซฮุนกำหมัดแน่น แววตาแบบนั้น


    ...เซฮุนรักลู่หานงั้นเหรอ...

    “มินซอกมากับฉันเถอะ เราต้องไม่เป็นอะไร” ลู่หานยังคงเว้าวอนต่อไป
    ดูเหมือนมินซอกพยายามตัดสินใจ ว่าควรจะเลือกอะไร ระหว่างคนรักกับเพื่อน แต่ท้ายที่สุดก็ต้องจำใจเดินไปฝั่งตรงข้าม


    ฉันขอโทษนะ” แบคฮยอนส่ายหน้าเบาๆเป็นเชิงว่าไม่เป็นไร
    คงจะหนักใจอยู่เหมือนกัน ถ้าเป็นผม ผมก็คงเลือกคนรักเหมือนมินซอกเช่นกัน

     

    “งั้นผมขอไปด้วย”

    ……”  เป็นเสียงของเซฮุนที่เงียบอยู่นาน

    ผมไม่เข้าใจ เซฮุนอยู่กลุ่มเดียวกับแบคฮยอน พวกเขาเป็นเพื่อนกัน หรืออาจเป็นเพราะร่างสูงเป็นห่วงลู่หาน

    อี้ชิงรีบฉุดแขนร่างสูงไม่ให้เดินข้ามฝั่งไป “อย่าไปเซฮุนเราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ”

    …… ร่างสูงไม่ตอบ ใบหน้าเรียบเฉย สายตามองลู่หานและมินซอกด้วยแววตาเจ็บปวด

    “อย่าให้ความรักมาทำลายมิตรภาพของเราสิ” อี้ชิงยังพูดเกลี่ยกล่อมต่อไป
    ผมหันไปมองมินซอกที่ตอนนี้ก้มหน้านิ่งราวกับถูกแทงใจดำ ลู่หานเห็นดังนั้นจึงกอดปลอบ

    การกระทำแบบนี้ยิ่งเรียกความเจ็บปวดให้เซฮุนมากขึ้น ร่างสูงกัดฟันแน่น
    พยายามกระพริบตาถี่ๆไม่ให้หยดน้ำใสที่เบ้าตาไหลออกมา ก่อนจะยอมถอยหลังกลับมาอยู่ที่เก่าของตัวเอง


    “ถ้านายไม่เคยเห็นฉันอยู่ในสายตาก็ไม่เป็นไรขอให้รอดไปได้นะลู่หาน”

    -

    -

    -

    -

     

    “โชคดีนะพวก” เฮียคริสยิ้มเยียดก่อนจะพาพรรคพวกของตัวเองออกไปจากห้อง

     

     

    --SCHOOL HORROR—

     

     

    เหลือพวกเราหกคนที่ยังไม่มีใครปริปากอะไรออกมา

    แต่ผมรู้สึกเหมือนขาดใครไปซูโฮ

    “แล้วซูโฮล่ะ?” ผมถามออกไปท่ามกลางความเงียบ ดูเหมือนทุกๆคนก็เพิ่งจะจำซูโฮได้ตอนที่ผมท้วง

    แบคฮยอนมีสีหน้าวิตก ดูกระสับกระส่ายไปมาจนชานยอลเองต้องปราม

    “ฉันกลัวเขาจะเป็นอะไรไป จำที่ไอเฮียคริสมันบอกได้ไหมว่าห้ามอยู่คนเดียว”

    ผมก็อดเป็นหว่งไม่ได้เหมือนกัน ซูโฮไปห้องน้ำตั้งแต่บ่ายแล้วป่านนี้ยังไม่กลับมาเลย หรือจะเกิดอะไรขึ้น

     

    “ฉันว่าเรื่องนี้มันมีสาเหตุนะ” ผมเริ่มหัวข้อใหม่โดยไม่ได้ตั้งใจ ช่วยเบนความสนใจจากเพื่อนๆได้เป็นอย่างดี

    “สาเหตุ?” คยองซูเอ่ยทวนเบาๆเป็นเชิงถาม ผมพยักหน้าเป็นคำตอบก่อนจะวิเคราะห์ออกมาตามที่ตัวเองคิดไว้ก่อนหน้านี้

    “จากที่คยองซูเล่าให้ฉันฟังเมื่อกี้ว่า5ปีที่แล้วมีคนขโมยเพชรในห้องสมุดไป
    หลังจากนั้นทุกคนที่อยู่ในโรงเรียนก็ตายหมด แต่ก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนขโมยไปอยู่ดี”

    ….” ทุกคนในห้องตั้งใจฟังผมพลางคิดตามไปด้วย

    “ฉันสงสัยว่า ถ้ามีฆาตกรตามฆ่าทุกคนในโรงเรียนจริง ทำไมถึงไม่มีใครรอดหรือหนีออกมาได้เลยล่ะ?”

    “ทั้งๆที่โรงเรียนมีทางออกหลายทาง นอกซะจากโรงเรียนนี้จะไม่ใช่โรงเรียนธรรมดา

     

    “ไม่หรอก ที่นี่ก็เหมือนโรงเรียนอื่นนั่นแหละ แค่เราขึ้นลิฟท์หรือเดินลงบันไดไปชั้นล่างแล้วเดินออกจากตึกก็ถือว่าออกได้แล้ว ไม่มีอะไรกั้นซับซ้อนหรอก” ชานยอลพูดขัด

     

    “ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่มีใครหนีออกมาได้เลยล่ะ? อย่างน้อยต้องมีคนที่โชคดีวิ่งออกมาได้สักคนนั่นแหละ”

    ผมท้วงไปบ้าง คนอื่นๆก็คิดอย่างผมเช่นกัน

    ดูจากความเป็นไปได้ ฆาตกรคนนั้นไม่น่าเก่งถึงขนาดวิ่งไล่ฆ่านักเรียนทีละคนทีละคนโดยที่นักเรียนจำนวนมากมายไม่แตกตื่นแล้ววิ่งหนีลงตึกมาหรอกนะ ใช่ว่าโรงเรียนนี้จะใหญ่มากมาย อย่างที่ชานยอลบอก แค่ขึ้นลิฟท์ลงมาที่ชั้น1แล้วเดินออกมาจากตึกก็แค่นั้น

     

    “ก็เพราะว่ามันไม่ให้เราออกจากตึกน่ะสิ” คยองซูพูดเสียงสั่น

    “หมายความว่ายังไง? ทำไมจะออกไม่ได้”

    “งั้นนายก็ลองวิ่งออกไปซิไค ลองขึ้นลิฟท์หรือเดินลงบันไดลงไปชั้นหนึ่งให้พวกเราดูสิ แล้วนายจะรู้ว่ามันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น”

    …..” ผมชักสีหน้ากับคำพูดของคยองซู ดูเหมือนคนตัวเล็กจะรู้มากไปแล้วนะ ทำไมถึงได้คิดอย่างนั้น

     

    “เอาล่ะๆ ฉันพอจะรู้แล้ว” แบคฮยอนพูดตัดบท

    “เท่าที่ฟังคยองซูกับไคเมื่อกี้

    “ฉันว่าฉันเห็นด้วยกับคยองซูนะ ถึงหนีไปก็ใช่ว่าจะรอด” ร่างบางพูดน้ำเสียงจริงจัง

    คนอื่นๆพยักหน้าเห็นด้วย เว้นแต่ผม ที่ยังไม่ค่อยเห็นด้วยสักเท่าไร

    มันจะเป็นไปได้ยังไงที่ว่าหนีไม่ได้ มันต้องได้สิ ไม่มีใครกักเราไว้สักหน่อย

    หรือทุกคนจะไม่หนีหรือไง? จะรอให้มันมาจัดการเราทีละคนในห้องนี้น่ะเหรอ

    แบคฮยอนหันมามองผมเหมือนรู้ทัน ร่างเล็กถอนหายใจก่อนจะเดินมานั่งข้างๆผม

    “ไค ฉันรู้ว่านายไม่เข้าใจที่ฉันและคยองซูพูด แต่ตอนนี้พวกเราไม่ควรจะหนี”

    “?”

    “เราต้องแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น”

    …..

    “ต้องตามหาเพชรที่ถูกขโมยไปให้ได้ แล้วปิดห้องสมุดซะ!

     

    --SCHOOL HORROR—

     

    “อยู่ไม่ได้ อยู่ไม่ได้” “ต้องรีบออกไปจากที่นี่”

     

    ร่างสูงพูดประโยคนี้วนซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบในขณะที่วิ่งออกมาจากห้องของพวกเฮียคริส

    เป้าหมายเดียวที่เขาจะไปคือลิฟท์ ลิฟท์เท่านั้น เป็นทางเดียวที่จะลงจากชั้น5นี้ได้

     

    ร่างสูงยืนรอลิฟท์อยู่ไม่นานประตูลิฟท์ก็ค่อยๆเปิดออก แน่นอนว่าไม่มีใครอยู่ข้างใน มืดขนาดนี้แล้วคงจะไม่มีใครยังอยู่หรอก นอกจากพวกแบคฮยอนและพวกเฮียคริส จงแดนึกโทษตัวเองอยู่ในใจ เขาไม่น่าอยู่ช่วยงานลู่หานเลย ไม่อย่างนั้นคงได้กลับบ้านนานแล้ว

     

    ร่างสูงเข้ามาข้างในแล้วกดชั้นหนึ่งอย่างรวดเร็ว ยิ่งเร็วมากเท่าไรยิ่งดี
    เขาไม่ค่อยอยากจะอยู่ในนี้นานนักหรอก มันเย็นยะเยือกแปลกๆ

     

    หืม…~ หืม ~…หือออ~’

     

    เสียงแปลกดังขึ้นภายในลิฟท์ เป็นทำนองที่ทำให้เขาต้องเสียวสันหลังวาบ

    มันดังก้องอยู่ในโสตประสาท แม้จะปิดหูเท่าไรก็ยังได้ยิน

    ร่างสูงหันซ้ายหันขวาด้วยความระแวง ในใจก็เร่งอยากให้มันถึงชั้นหนึ่งสักที

    แต่ในความรู้สึกเขาตอนนี้ แต่ละชั้นดูจะเชื่องช้ามากเกินไป จากชั้นห้ามาสี่ใช้เวลาร่วม2นาที

    เวลาในนาฬิกาข้อมือเขาบ่งบอกว่าร่างสูงไม่ได้คิดไปเอง ลิฟท์มันช้ามากจริงๆ

     

    เสียงท่วงทำนองยังคงดังขึ้นเรื่อยๆ มีความรู้สึกเหมือนมีใครมาร้องกรอกหูใกล้ๆ

    เขาพยายามไม่สนใจเสียงนั่นและใช้สายตาจับจ้องไปที่เลขชั้นแทน

     

    4

     

     

    3

     

     

     

    2

     

     

     

    ……

     

     

     

    พรึ่บ !

     

     

    ยังไม่ทันทีตัวเลขจะขึ้นเลขหนึ่ง ไฟภายในลิฟท์กลับดับลงดื้อๆ และลิฟท์ก็หยุดเคลื่อนที่เช่นกัน

    ร่างสูงตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจ ขยับตัวก็ขยับไม่ได้
    ความกลัวและความตกใจอย่างกระทันหันมันมีมากเกินไปจนสมองประมวลผลไม่ทัน

     

    เสียงเพลงเริ่มเงียบลง ตามด้วยความรู้สึกที่กลัวก็ค่อยๆหายไป

    ทันทีที่ขยับตัวได้เป็นอิสระ เขาทุบประตูลิฟท์อย่างกระวนกระวายในความมืด แม้จะรู้ว่าไม่มีปะโยชน์ก็ตาม

     

    ฉับพลันไฟในลิฟท์เพิ่มแสงสว่างให้เขากลับมามองเห็นอีกครั้ง แต่สิ่งที่แปลกไปจากตรงหน้าคือ

     

    เลือดที่ไหลลงตามประตูและพนังลิฟท์

     

    “เหี้ยแล้วไง”   ร่างสูงมองหยดเหลือดที่ไหลลงมาอย่างตกใจ

     

    หยดเลือดที่ไหลมาจากข้างบน ไหลลงมาสู่ระดับสายตาเขา ไหลเรื่อยๆจนถึงพื้น

     

    และไม่มีท่าทีว่าจะหยุดไหล มีแต่เพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ

     

     

    เขายืนนิ่ง ปล่อยให้เวลาผ่านเลยไปเป็นสิบนาที เลือดที่ยังไมหลไม่หยุด

    เริ่มเจิ่งนองมาที่ที่เขายืนอยู่ มันไหลเปื้อนรองเท้าเขาไปหมด

     

    ร่างสูงหลับตาปี๋ด้วยความกลัว พอจะรู้แล้วว่าสิ่งที่เขาพบเจอจะต้องไม่ใช่คนแน่ๆ

    พลันสัมผัสที่เย็นยะเยือกจากปลายข้อเท้าทำให้สติเขาแตกกระเจิง แต่ก็ไม่กล้าที่จะลืมตาขึ้นมา

     

    กลัวกลัวว่าสิ่งที่สัมผัสอยู่จะเป็นอย่างที่เขาคิด

     

    สัมผัสนั้นไล่จากข้อเท้าขึ้นมาถึงหัวเข่าอย่างช้าและเนิ่บนาบ

    ก่อนจะเลื่อนขึ้นเรื่อยๆมาถึงใบหน้า ทันทีที่ได้รับสัมผัสอันน่าขนลุกนั่นที่แก้ม

    เขาก็ได้กลิ่นคาว..คาวเหมือนเลือด

    กลิ่นมันเข้มข้นซะจนคิดว่าเลือดอาจจะอยู่ใต้จมูกเขา กลิ่นอันน่าแขยงของมันทำให้เขาพะอืดพะอม

     

    “หึหึ”

     

    --SCHOOL HORROR—

     

    หลังจากที่เฮียคริสออกมาจากห้องของพวกแบคฮยอน เทาก็เอาแต่ถามไม่หยุดจนเขาเริ่มหงุดหงิด

    ไม่ใช่ว่ารำคาญ แต่เหมือนเทาจะพูดจี้ใจเขามากกว่า เอาแต่ถามด้วยคำถามเดิมๆอยู่นั่น ว่า

    เราจะทำยังไงต่อไป

     

    ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีที่ไป แต่เขายังไม่กล้าตัดสินใจเท่านั้นเอง

    เขาไม่ได้โง่เหมือนจงแดที่วิ่งหนีอย่างไร้สติ เขารู้ว่ายังไงมันก็ไม่ให้ออกไปจากตึกนี้อยู่ดี

     

    จะหนีก็ไม่รอด แล้วจะให้ทำยังไง??

     

     

    ร่างสูงเดินนำคนอื่นๆมาเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย พลันจะให้หยุดในห้องใดห้องหนึ่งตามทางเดินก็ไม่กล้าเข้าไป
    ทุกอย่างดูน่าระแวงไปซะหมด

    ในขณะที่กำลังเดินอย่างเนือยๆ เขาเหลือบไปเห็นเงาแวบๆที่ห้องแล็ป

    ด้วยความที่เป็นคนมีสติพอจึงไม่กระโตกกระตาก เพียงแต่ยืนนิ่งและลอบมองเข้าไปข้างในห้อง

    “พวกนายรออยู่นี่ก่อน  เดี๋ยวฉันมา” ร่างสูงหันไปบอกกับเพื่อนๆที่ตามเขามา

    “แต่เฮียเป็นคนบอกเองว่าห้ามอยู่คนเดียว เฮียจะไป...

    “ฉันไม่ไปไหนไกลหรอกน่า แค่เดินไปดูในห้องแล็ปนิดหน่อย เหมือนจะมีใครอยู่ในนั้น”

     

    เทาลอบกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ อดเป็นห่วงร่างสูงที่ค่อยๆเดินเข้าไปในห้องนั้นไม่ได้

     

    คริสก้าวเท้าเข้ามาเหยียบพื้นห้องอย่างใจเย็น กวาดสายตามองไปรอบๆเพื่อหาต้นตอของเงา

    “ใครอยู่ในนี้น่ะ” เขาตัดสินใจถามออกไปท่ามกลางความเงียบ จนเงานั้นค่อยๆโผล่ขึ้นมาจากใต้โต๊ะ

    “ฉ..ฉันเอง”  เผยให้เห็นร่างเล็กทที่เขาไม่เคยเห็นหน้าและไม่รู้จัก

    ร่างสูงถอนหายใจอย่างโล่งอก อย่างน้อยคนตรงหน้าก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาคิด

    “นายเป็นใคร?”

    “ฉันชื่อซูโฮ อยู่ปีสามห้องบี”

    คนฟังขมวดคิ้วเมื่อรู้ว่าห้องที่ว่าคือห้องเดียวกับพวกแบคฮยอน

    “แล้วนายมาทำอะไรที่นี่”

    “ฉันออกมาเข้าห้องน้ำแต่หาทางกลับห้องไปหาแบคฮยอนไม่ได้เลยเข้ามาหลบอยู่นี้”

    ถึงแม้จะงงกับเหตุผลคนตัวเล็กอยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกไป สงสัยคงจะเป็นเด็กใหม่เหมือนไค

     

    “เอ่อนายเห็นพวกแบคฮยอนไหม” ร่างบางถามน้ำเสียงเกรงๆ

    “เห็น แต่ไม่บอก” ร่างสูงยิ้มเย็น

     

    “นายจะไปกับพวกเราหรือเปล่าล่ะ รับรองว่ารอดจากคืนนี้ได้แน่”

    …..

     

    --SCHOOL HOOROR—

     

    “เฮียคริสพาใครมาอะ” เสียงลู่หานทำให้คนที่เหลือหันมามองตาม

    “คนนี้ชื่อซูโฮ จะไปกับเราด้วย” คริสพูดแนะนำเพื่อนใหม่พลางโอบไหล่ร่างเล็กจนแนบชิด

    เทาเห็นดังนั้นจึงขบฟันแน่นด้วยความหงุดหงิด หงุดหงิดที่สองคนนี้ใกล้กันเกินไป

     

    “จะยืนอ้อยอิ่งอยู่ทำไมล่ะ เดินต่อสิ”  เทาพูดไม่สบอารมณ์จนร่างสูงอดสงสัยไม่ได้

     

    ตอนแรกยังดีดีอยู่เลย

     

    คริสเร่งฝีเท้าไล่ตามเทาให้ทัน “นายรู้เหรอว่าจะต้องไปไหน”

    “ขึ้นลิฟท์ไปชั้นล่างน่ะสิถามได้ ขืนมัวแต่ตามเฮียอยู่ก็ไม่ได้ออกไปกันพอดี”

    “อย่าหนีนะ ยิ่งหนีมันยิ่งมาหา” คริสพยยามเตือนเทา แต่ดูเหมือนอารมณ์เทาตอนนี้จะยังไม่อยากรับฟังใครทั้งนั้น
    โดยเฉพาะร่างสูงข้างๆที่เป็นต้นเหตุทำให้เขาหงุดหงิด

    “ฉันจะหนี ฉันไม่อยากรอเฮียแล้ว ถ้ากลัวนักก็ไม่ต้องตามมา เชิญอยู่กับซูโฮของเฮียที่นี่แหละ!

    เทาตะคอกใส่ร่างสูงด้วยความโมโห ก่อนจะเร่งฝีเท้าเดินเลี้ยวไปอีกด้านโดยไม่รอใคร

     

    “เดี๋ยวเทา เทา!

     

    “ฉันบอกแล้วใช่ไหม ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นอย่าอยู่คนเดียว”

     

    --SCHOOL HORROR—


     

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×