ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC EXO] ` แฟนเพื่อน KAI x DO x KRIS

    ลำดับตอนที่ #3 : แฟนเพื่อน : CHAPTER2 9493ROOM :) [Edit]

    • อัปเดตล่าสุด 16 ต.ค. 56


    Chapter2...

     

     

    แอด..

     

    คริสยิ้มแป้นทันทีที่เห็นผมผลักประตูเข้ามาข้างใน หลังจากนั้นก็ส่งสายตาไปทางชานยอลและเซฮุนประมาณว่าให้ออกไป สองคนนั้นก็ทำหน้าเซ็งสุดขีด แต่ก็ยอมลุกออกไปได้


    ชานยอลที่เดินรั้งท้ายกระซิบกับผมเบาๆระหว่างเราเดินสวนกัน

    “ขอโทษที่ตะคอกนายไปเมื่อกี้นะ”

    “อ..อืม ไม่เป็นไร” ผมยิ้มแห้งๆตอบกลับไป นั่นทำให้คริสขมวดคิ้วสงสัยว่าเราสองคนคุยอะไรกัน

     
     

    “เป็นไงบ้าง ยังเจ็บอยู่มั้ย” ผมเดินเข้าไปหาร่างสูงที่ทำเป็นนอนซมอย่างรวดเร็วเมื่อผมเข้ามา

    “เจ็บสิ ยังหายใจไม่ค่อยสะดวกเลย”

    “ก็นายเล่นถอดเครื่องช่วยหายใจนี่ เพิ่งจะพ้นขีดอันตรายมาแท้ๆ ยังมีหน้ามายิ้มอีก”

    ผมส่ายหัวเนือยๆก่อนจะจัดแจงอุปกรณ์ต่างๆให้เข้าที่ อันที่จริงผมก็รู้เรื่องพวกนี้มาพอสมควรนะ ก็แม่ผมเป็นหมอนี่เนอะ ลูกก็ต้องซึมซับเรื่องพวกนี้มาบ้างแหละ

    “ฉันคุยกับคุณหมอมาเมื่อกี้ เขาบอกว่ายังไม่อยากให้นายเคลื่อนไหวสักเท่าไร เพราะกลัวแผลจะฉีก อยู่นิ่งๆแหละดีแล้ว” คริสพยักหน้ายอมแต่โดยดี พลางมองผมตาแป๋ว

    “มองอะไรเนี่ย”

    “มองคนน่ารัก ผิดด้วยเหรอ”

    ._. ///”

    พูดงี้ผมก็ไปต่อไม่เป็นเลยดิ ไหนจะสายตาแบบนั้นอีก ต้องการไรกันแน่หะ

    “ไม่ต้องมามองเลย นอนไปได้แล้ว หมอให้พักผ่อน” ผมทำทีจัดของบนโต๊ะไปเรื่อยเปื่อยเนื่องจากไม่มีอะไรทำ ก็มันเขินนี่ คริสก็เอาแต่มองผมตาไม่กระพริบแบบนี้

    แต่จัดไปได้ไม่เท่าไรคริสก็คว้ามือของผมไว้แนบแก้มและทำสายตาออดอ้อน

    “คิดถึงอะ”

    “คิดถึงบ้าอะไร เพิ่งจะไม่เจอกันแค่ไม่กี่ชั่วโมงเอง”

    “ขอกอดหน่อยดิ”

    ไม่รอให้ผมอนุญาต คริสอ้าแขนหวังจะโอบรอบเอวผมที่ยืนอยู่ข้างเตียง แต่กลายเป็นต้องร้องโอดโอยแทน

    “โอ้ย”

    “บอกแล้วว่าอย่าเพิ่งขยับตัว แผลฉีกขึ้นมาทำไงหะ”

    ผมตีแขนเขาเบาๆไปหนึ่งที โทษฐานทำตัวเป็นเด็ก ขัดกับหน้าตาชะมัด

    คริสเลยเปลี่ยนจากกอดมาเป็นลูบใบหน้าผมแทน ก่อนใบหน้ายิ้มจะเปลี่ยนเป็นขมวดคิ้วยุ่ง

    “นี่รอยแดงอะไร? ใครทำอะไรนาย” อ่า ผมไม่น่าปล่อยให้เขาสำรวจรูปหน้าเลยให้ตายสิ

    “ไม่มีอะไรหรอก”

    “แม่ใช่มั้ย แม่ตบนายใช่มั้ย!



    ผมไม่ได้ตอบอะไร ร่างสูงถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างปลงๆ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คุณแม่ของคริสทำแบบนี้ แค่ไม่ได้ทำมานานแล้วต่างหาก เมื่อก่อนนี้น่ะประจำเลย จนคริสต้องพาผมหนีไปต่างประเทศเชียวเรื่องถึงเงียบไป

    “ฉันจะพานายหนี”

    “ว่าไงนะ!

    “ก็บอกว่าจะพาหนีไง”

    “ไม่เอา ไม่ไป! เรื่องแค่นี้ทำไมต้องไปด้วย” ผมยืนกราน

    ครั้งที่แล้วคริสก็พาผมหนีคุณแม่ไปครั้งนึงแล้ว เรื่องอะไรจะไปอีกให้วุ่นวาย แค่นี้คนรอบข้างก็หมั่นไส้ผมเกินพอแล้ว และอีกอย่าง ผมไม่อยากทำตัวหลบๆซ่อนๆ

    “ไม่ใช่จะพาหนีแม่สักหน่อย” คริสกุมมือผมอีกรอบ

    “??”

    “ฟังนะคยองซู ไอพวกนั้นมันจะลอบฆ่าฉัน แต่พอดีว่าฉันไม่ตาย และฉันมั่นใจว่าพวกมันจะต้องกลับมาอีกแน่ๆ ในเมื่อนายเป็นคนสำคัญของฉัน ฉันก็ต้องดูแลให้ถึงที่สุด”



    “ทีนี้เข้าใจหรือยัง ว่าฉันจะพานายหนีทำไม" คริสส่งสายตาจริงจังมาให้ ซึ่งทำให้ผมรู้ว่าไม่มีใครขัดเขาได้ตอนนี้ได้ แม้แต่ผมก็เถอะ

    “ล..แล้วจะให้ฉันไปอยู่กับใคร เซฮุนหรอ?”

    “ไม่เอาอะ อย่าเอาคนใกล้ตัวสิ อย่างงั้นก็ไม่ต่างอะไรกับอยู่ที่เดิมหรอก”

    “งั้นจะให้ฉันไปอยู่กับใคร?”

    เอาจริงๆ ตอนนี้ผมชักรู้สึกไม่ชอบมาพากลแล้วล่ะ ถ้าไม่ใช่ชานยอลหรือเซฮุนแล้วจะเป็นใคร? ผมว่าคริสเป็นคนไม่ไว้ใจใครง่ายๆนะ แล้วนอกจากสองคนนี้ที่สนิทกันมากๆ จะเป็นใครได้อีก? แล้วฝ่ายนั้นจะยอมให้ผมไปอยู่ด้วยหรือเปล่าเถอะ อาจจะไปเป็นภาระเขาก็ได้

    “เพื่อนฉันเอง เพื่อนที่คบกันมาทั้งชีวิต เพื่อนที่ไว้ใจมากกว่าไอยอลและไอฮุน เพื่อนที่มีพ่อเป็นนายตำรวจใหญ่ ฉันว่านายไปอยู่กับมันรับรองว่าไอพวกกระจอกพวกนั้นไม่มีทางแตะต้องได้หรอก”

    คริสดูภาคภูมิใจเสียเต็มประดาที่มีเพื่อนอลังถึงขนาดนี้ ว่าแล้วก็อดหมั่นไส้ไปตีแขนร่างสูงไม่ได้

    “นี่แน่ะ ไปมีเพื่อนแบบนั้นตั้งแต่ตอนไหนไม่เห็นแนะนำให้รู้จักแต่แรก” คนโดนตียิ้มทะเล้นก่อนจะเอื้อมมือมาเขกหัวผมเบาๆ อ่า มันเจ็บนะ L

    “มันเป็นความลับทางราชการคร้าบ แม้แต่ไอยอลกับไอฮุนยังไม่รู้จักคนนี้เลย”

    ราชการบ้าบออะไร เห็นผมเป็นเด็กอมมือหรือไงนะ

    “ไปก็ได้ๆ ถ้านายรับประกันว่าไว้ใจได้จริงๆน่ะ แล้วจะให้ไปวันไหน”

    “พรุ่งนี้เลย J

    “หา!

    “ชู่ว เบาๆสิ เดี๋ยวพยาบาลก็แห่กันมาหรอก”

    จะไม่ให้แหกปากได้ยังไง ผมยังไม่ทันได้เตรียมตัวอะไรเลยนะ! แล้วเขาก็ยังออกจากโรงพยาบาลไม่ได้ด้วย ยังไม่พร้อมอะไรสักอย่าง

    “นายจะบ้าหรือไง นายยังไม่หายดีเลยนะ จะไปทั้งอย่างนี้น่ะเหรอ”

    “ใครบอกว่าฉันจะไปพร้อมนายเล่า ฉันก็ต้องพักรักษาตัวอยู่นี่ก่อนดิ เดี๋ยวตามไปเองแหละ”

    “แต่ความปลอดภัยของนายสำคัญมากที่สุดไม่ใช่หรือไง มันจะมาฆ่านายนะไม่ใช่ฉัน”

    “เอาน่า ฉันมีลูกน้องตั้งเยอะตั้งแยะ พอให้คุ้มกันทั้งโรงพยาบาลเลยก็ได้ ฮู่ว” คริสพูดเหมือนไม่จริงจังมากนัก

    ผมยอมปิดปากและหย่อนก้นลงโซฟาแทน คุยมาตั้งนานเพิ่งจะได้นั่ง เฮ้อ

    “เอาเป็นว่าฉันจะให้ที่อยู่เพื่อนฉันไปนะ มันก็ไม่ไกลจากบ้านนายนักหรอก นั่งรถไปแปปเดียวก็ถึง”

    “แน่ใจนะว่าตกลงกับเพื่อนคนนั้นของนายไว้แล้ว” ผมจ้องเขาอย่างจับผิด

    ทำไมต้องถามอย่างนี้น่ะเหรอ เหอะ ก็เขานะเป็นอย่างนี้ประจำเลย ชอบทำอะไรโดยพละการ ไม่ยอมปรึกษาคนอื่น ครั้งที่แล้วก็พาผมไปเที่ยวต่างจังหวัดโดยไม่บอกใคร คนที่บ้านก็ตามกันให้วุ่น คิดว่าเฮียคริสของพวกเขาโดนแก๊งค์คู่อริจับถ่วงน้ำไปซะแล้ว ก็เล่นพาผมไปพักร้อนเป็นเดือนๆ กว่าจะโทรไปบอกที่บ้านก็เกือบกลับกันแล้ว

    “แน่นอนสิ ทำไมต้องมองฉันอย่างนั้นล่ะคยองซู J

    L” ฮึ่ยย แววตาแบบนี้ของเขามันไม่น่าไว้วางใจเอาซะเลย

     

     

    ตอนนี้ผมกำลังแบกสัมภาระของตัวเองเข้ามาในลิฟท์ อืม ความจริงมันก็ไม่มีอะไรมากมาย ก็แค่กระเป๋าอันบิ๊กเบิ้มสามใบ ก็คริสบอกว่าจะต้องอยู่ไปอีกนานนี่ ผมก็เลยขนของพี่จำเป็นๆมา กว่าจะทำใจออกมาจากหอพักได้ก็นานเลยทีเดียว แบคฮยอนที่เป็นรูมเมทของผมก็กำชับเสียงดังว่าให้ระวังตัวๆ ที่เจ้าตัวหมายถึงน่ะไม่ใช่คนที่ลอบทำร้ายคริสหรอก แต่ให้ระวังเพื่อนคริสที่ผมจะไปอยู่ด้วยต่างหาก เอาแต่แนะนำวิธีการป้องกันตัว ผมยังไม่ลืมตอนที่แบคฮยอนหยิบเสปรย์พริกไทยยัดใส่กระเป๋าผมเมื่อเช้าเลย ฮ่ะๆ เรื่องนี้น่ะผมไม่กังวลหรอก ก็เขาคนนั้นเป็นคนที่คริสไว้ใจนี่นา

     

    ว่าแต่ว่า มันอยู่ชั้นไหนกันนะ คริสบอกผมแค่ว่าอยู่คอนโดนี้ ห้อง9493 มันคงไม่ใช่ชั้นเก้าหรอกใช่มั้ย แต่คอนโดนี้มันมีแค่เจ็ดชั้นเองหนิ งั้นก็แสดงว่าไม่ได้เรียงจากเลขตัวหน้า

    อ่าแล้วผมจะเริ่มจากชั้นไหนก่อนดีล่ะเนี่ย

     

    ในขณะที่ผมกำลังยืนงงในลิฟท์อยู่นั้น ผู้ชายคนหนึ่งก็เข้ามาในลิฟท์ เขารูปร่างสูงโปร่ง มีกระเป๋าลากพื้นสุดหรูใบนึง มืออีกข้างก็ถือโทรศัพท์คุยอยู่กับใครบางคน และเผอิญว่าเราอยู่กันแค่สองคนในลิฟท์ และผมก็ได้ยินเขาคุยโทรศัพท์เสียงดัง ผมไม่ได้เสียมารยาทใช่มั้ย เขาพูดเสียงดังจนผมได้ยินเองนะ

    แล้วอีกอย่าง เขาพูดว่าจะไปห้อง 9492 ด้วย J

    เอาเป็นว่าผมจะตามเขาไปละกัน หมายเลขห้องก็ใกล้เคียง โชคเข้าข้างผมชัดๆ

     

    “จะไปชั้นไหนครับ” ชายหน้าตาดีคนนั้นหันมาถามผมหลังจากวางโทรศัพท์แล้ว จะให้ตอบว่าไงดีล่ะ

    “เอ่อ ผมขอโทษนะครับ แต่ว่าห้อง9493นี่มันอยู่ชั้นไหนเหรอครับ”

    “อ่อ ฮ่ะๆ ชั้นห้าครับ คุณเพิ่งย้ายเข้ามาใหม่เหรอ” ร่างสูงยิ้มให้ผมจนตาสองข้างเป็นสระอี

    “ก็ไม่เชิงหรอกครับ แล้วคุณล่ะ?”

    “ผมเพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ ห้องข้างๆคุณนี่เอง ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ผม เสี่ยว ลู่หาน”

    อ่ารอยยิ้มของเขามันดู..น่ารักชะมัด มองตาก็รู้แล้วว่าเป็นคนเจ้าเลห์ไม่เบา แต่ก็ไม่เลวร้ายเท่าไรนักหรอก

    “ผม โด คยองซู ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ” ผมยิ้มกลับไปให้

    “ตอนนี้ผมต้องไปทำธุระที่ชั้นสี่ ขอตัวก่อนนะครับ ไว้เราคุยกันใหม่นะ”

    ลู่หานโบกมือให้ผมและเดินออกไป ผมมองตามแผ่นหลังเขาไปกระทั่งลิฟท์ปิด ที่นี้ก็เหลือแค่ผมต้องเดินไปหาเพื่อนของคริสที่ห้องสินะ ชื่ออะไรก็ยังไม่รู้เลย คริสไม่บอกอะไรผมสักอย่าง ยังดีที่เขาโทรนัดกันไว้แล้วว่าผมจะมา..มั้งนะ

     

    ในที่สุดผมก็มายืนอยู่หน้าห้องจนได้ หวังว่าเขาจะต้อนรับผมเป็นอย่างดีนะ

     

    ก๊อกๆๆ

    ” ผ่านไปครึ่งนาทีประตูก็ยังไม่เปิดออก

    ก๊อกๆๆ

    ” นี่เขาทำอะไรอยู่นะ

    ก๊อกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ’ ผมตัดสินใจเคาะประตูรัวๆ หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงตะกุกตะกักจากในห้องและน้ำเสียงแหบแห้งที่ตะโกนออกมา

    “รู้แล้วๆๆๆ จะเคาะอะไรนักหนาวะ!

     

    แอด

     

    !!!

     

    “จะยืนตาโตอีกนานมั้ย ต้องการอะไรก็ว่ามา” คนพูดถอนหายใจเนือย

     

    ตรงหน้าผมตอนนี้ คือผู้ชายร่างสูงผิวสีแทน จมูกโด่งได้รูป สันกรามที่ดูเซ็กซี่ ซิคแพคที่เอ่อ..

    คือเขาไม่ได้ใส่เสื้อน่ะ เรียกได้ว่านุ่งผ้าขนหนูตัวเดียวโดดๆก็ได้ ผมเผ้าที่ชี้ฟูไม่เป็นทรง ดูๆแล้วเหมือนคนตรงหน้าหน้าจะเพิ่งตื่นเสียมากกว่า แต่น่าแปลกที่องค์ประกอบทุกอย่างกลับลงตัวกลายเป็นเซ็กซี่เร้าร้อนไปเสียได้

     

    “เฮ้...นายเป็นใครเนี่ย นี่อย่าบอกนะว่าเป็นคนที่หมอนั่นส่งมาให้”

     

    หืม หมอนั่นไหน หมอนั่นที่ว่าน่าจะหมายถึงคริสละมั้ง และคนที่เขาพูดถึงก็คงจะเป็นผม ใช่มั้ย?

    ผมพยักหน้าไปอย่างงงๆ นั่นทำให้ร่างสูงคลี่ยิ้มอย่างพอใจและลากตัวผมเข้ามาข้างในห้องอย่างรวดเร็ว

    “อ่ะ.. นายจะทำอะไรเนี่ย!

    ตอนนี้ผมงงกับการกระทำของคนตรงหน้าเป็นอย่างมาก เจ้าตัวลากผมขึ้นเตียงและขึ้นคร่อมอย่างรวดเร็ว มือหนาก็จัดแจงปลดกระดุมเสื้อผมอย่างชำนาญ นี่มันอะไรกันเนี่ย!

    “อย่าทำเป็นใสซื่อน่า เป็นเด็กใหม่หรือไง”

    ร่างสูงกระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง มือก็ปัดป่ายอยู่ใต้สาบเสื้อผมจนขนลุกซู่ ทันทีที่ตั้งสติได้ผมก็ผลักเขาออกไปทันที

    “เด็กใหม่บ้าอะไรของนาย ฉันเป็นแฟนคริสนะ!

    “หะ!? คริสไหน” คำตอบของเขาทำให้ผมใบ้กินขึ้นมากะทันหัน หมายความว่าไงที่ว่าคริสไหน

     

    นี่อย่าบอกนะว่าคริสไม่ได้โทรนัดไว้ก่อนน่ะ!

     

    “คริส อู๋อี้ฟาน เพื่อนสนิทนายไง!

    ให้ตายเถอะ ถ้าเขายังบอกว่าไม่รู้จัก ผมจะถีบตกเตียงจริงๆนะ ยังมีหน้ามาเลียริมฝีปากอีก นี่มันเพลย์บอยชัดๆ

    “อ๋ออออ ไอคริสอะนะ” ในที่สุดก็ร้องอ๋อออกมาได้เสียที

    แต่สายตาที่มองผมอย่างเคลือบแคลงนี่มันหมายความว่ายังไง ไม่เชื่อกันงั้นเหรอ

    “เมื่อวานคริสได้โทรหานายหรือเปล่า?”

    ” ร่างสูงยังคงไม่ตอบอะไรผม เขาเอาแต่เค้นยิ้มและไล่สายตามองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าแทน

    “ฉันถามไม่ได้ยินหรือไง”

    “หึ”

    “??”

    ผมสะดุ้งเมื่ออยู่ดีๆคนตรงหน้าก็เขยิบตัวมาคร่อมผมอีกครั้ง ลมหายใจอุ่นๆเป่ารดใบหน้าผมจนต้องหลับตาปี๋

    “ฉันจะบอกอะไรให้นะ

    “ฉันกับคริสไม่ได้ติดต่อกันมาเป็นปีแล้ว หมอนั่นอยู่ที่ไหนฉันก็ยังไม่รู้เลย เบอร์โทรก็ไม่มี แล้วอยู่ดีๆนายก็มาเคาะประตูห้องฉันแล้วแล้วบอกว่าเป็นแฟนมันอย่างนั้นเหรอ”

    “เหอะ เกือบเนียนแล้วนะนาย ความจริงชอบฉันก็บอกมาเถอะ หน้าตาน่ารักอย่างนายแค่เดินเข้ามาหาฉันก็จัดให้แล้วล่ะ ไม่จำเป็นต้องหาข้อมูลขนาดนี้หรอก”

    “ว..ว่าไงนะ..อื้อ!

    ยังพูดไม่ทันขาดคำริมฝีปากผมก็ถูกประกบลงมาทันที ฟันคมขบริมฝีปากล่างอย่างแรงจนต้องเผยอปากออกอย่างช่วยไม่ได้ ลิ้นร้อนๆแทรกเข้ามาเก็บเกี่ยวความหอมหวานอย่างชำนาญ

    ผมพยายามผลักตัวเขาให้ออกไป แต่ครั้งนี้ดูเหมือนเขาจะจงใจขืนร่างไว้ไม่ให้ผมขยับไปไหน

    นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย! ผมไม่ได้จะมาที่นี่เพื่อโดนจูบจากเพื่อนแฟนหรอกนะ!

     

    ‘RRRRRR’

     

    เสียงริงโทนของโทรศัพท์ในกระเป๋าช่วยชีวิตผมได้ทันท่วงที แต่ถึงกระนั้นเจ้าตัวก็ยังไม่ยอมถอนจูบออกสักทีจนผมเริ่มขาดอากาศหายใจ

    ผมควานหามือถือในกระเป๋ากางเกงและดูว่าใครโทรมา

    คริส

    ดีล่ะ

     

    “อื้อ..” ผมพยายามเรียกร้องความสนใจเขาให้หันหน้ามามองหน้าจอโทรศัพท์ ซึ่งมันก็ได้ผล ทันทีที่สายตานั่นอ่านชื่อคนที่โทรเข้ามาได้ก็ถอนจูบออกมาทันที ผมรีบจัดแจงเสื้อผ้าให้เข้าที่และกดรับสาย

    “ฮัลโหล คริส!

    ว่าไงคยองซู เจอหมอนั่นมั้ย

    “เจอสิ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น” ผมพูดเสียงเย็น สายตาก็เหลือบมองคนข้างๆที่นั่งเสยผมยักคิ้วให้ผมอย่างกวนๆ

    ???

    “นายบอกให้ฉันมาที่นี่โดยที่ยังไม่ได้บอกเพื่อนนายไว้ใช่มั้ย!

    เอ่อ.. คือ..แหะๆ พอดีว่าฉันไม่มีเบอร์มันอะคยองซู รู้แค่ที่อยู่ นี่โทรมากะว่าจะบอกมันอยู่เนี่ย

    เห็นมั้ย! ผมว่าแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ ทำอะไรไม่นึกถึงคนอื่นเลยให้ตายเถอะ

    นี่ถ้าเขาไม่โทรมา ป่านนี้ผมคงเสร็จหมอนั่นไปแล้ว!

    “ดีเลย! บอกหมอนี่ด้วยว่าฉันน่ะแฟนนายจริงๆ อ่อ แล้วก็ไม่ต้องมาคุยกันแล้วด้วย!

    เฮ้! คยองซู เดี๋ยว อย่าโกรธกันดิ คยองซู T^T’ พูดจบผมก็จัดแจงยื่นโทรศัพท์ไปให้เขาคุยต่อทันที ร่างสูงชี้มาที่ตัวเองอย่างงงๆก่อนจะรับมาคุยเองด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่าไม่ไว้วางใจสุดๆ

    ไม่รู้แหละ ผมจะไม่คุยกับคริสง่ายๆแน่ อย่างงี้มันต้องมีดัดนิสัยกันหน่อย ไม่อย่างนั้นก็จะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ

    แค่นึกถึงเหตุการณ์ไม่กี่นาทีแล้วผมก็จะบ้าตาย นี่ผมจะต้องอยู่ร่วมห้องกับคนแบบนี้งั้นเหรอ L

     

    ผมนั่งฟังเขาคุยโทรศัพท์กับคริสอย่างเงียบๆ ใจความก็ประมาณว่าตกใจนิดหน่อยที่อยู่ดีๆคริสก็มาขอความช่วยเหลือเขา แถมยังให้ผมมาแบบไม่บอกไม่กล่าว อ๋อ แต่เขาไม่ได้เล่าถึงเหตุการณ์เมื่อกี้หรอกนะ

    เมื่อวางสายเสร็จเขาก็เงยหน้ามายิ้มแห้งๆให้ผม

    “เอ่อ” ใบ้กินเลยสินะนาย หึ

    “ทีนี้เชื่อหรือยัง?”

    “ก็นะเอาเป็นว่าขอโทษเรื่องเมื่อกี้ด้วย ฉันก็คิดว่านายเป็น..เอ่อ”

    “เป็น?” ผมกอดอกมองเขาอย่างเอาเรื่อง

    “เป็นอะไรก็ช่างเหอะ ว่าแต่นายชื่ออะไร”

    พูดพลางเดินไปใส่กางเกงให้เรียบร้อย ความจริงผมว่าสมควรจะไปใส่ตั้งแต่แรกแล้วนะ

    “โด คยองซู”

    “ฉันชื่อ คิม จงอิน”

    “นายไม่ต้องมามองฉันด้วยสายตาแบบนั้นน่า ฉันไม่ใช่คนแบบนั้นซะหน่อย อย่างน้อยฉันก็ไม่ทำอะไรแฟนเพื่อนหรอก”

    เฮ้ สายตาผมมันดูออกง่ายขนาดนั้นเลยหรือไง

     

    “แล้วเมื่อกี้ใครมันจูบฉันหะ?”

    “อ๋อ พูดแบบนี้แสดงว่าอยากโดนอีกว่างั้น”

    “อ..ไอบ้า! ไม่ใช่ซะหน่อย”

    “หึๆ” จงอินยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆจนผมต้องถอยหนี

     

    “ถ้านายจะมาอยู่ที่นี่ ฉันมีกฎสามข้อให้นายทำตาม”

    “ก..กฏอะไร”

    “ข้อหนึ่ง อย่าให้ใครรู้ว่านายอยู่ที่นี่”

    “ข้อสอง ห้ามกวนฉันเวลาจะดูบอล”

    “ข้อสาม อย่าให้เกินเหตุการณ์แบบเมื่อกี้อีกเด็ดขาดเดี๋ยวฉันจะอดใจไม่ไหว”

     

    ..ว่ายังไงนะ! กฎบ้าอะไรของเขากันเนี่ย โดยเฉพาะไอข้อสองกับสาม มันดูไร้สาระชะมัด

    แล้วการเลียริมฝีปากหลังพูดข้อสามเสร็จนี่มันหมายความว่ายังไงหะ!

     

    ผมชักเริ่มอยากจะกลับบ้านแล้วสิ คริสส่งผมมาอยู่ที่นี่ทำไมกันนนนนน T___T

    ------------

     [Edit : แก้จากเซฮุนเป็นเสี่ยวลู่นะ ไรท์พลาดเอง ฮรึก T^T] 
     

    อ่านแล้วอ่านจะขัดๆ ยอมรับว่าไม่เคยแต่งอย่างงี้ ;__;

    คือเรื่องที่แล้วสยองขวัญสั่นประสาทมาก ไหงเรื่องนี้มันออกแนวหื่นๆ  5555

    ใครคิดว่าดราม่าทั้งเรื่องนี่ผิดถนัดเลยนะฮ้าบบ มันจะดราม่าตอนหลังจากคริสรู้ความจริงเฉยๆ

    ช่วงนี้เราต้องให้สองคนนี้รักกันก่อน ฮี่ๆ =w= แล้วพอคริสมาอยู่ละก็ มีเด็ดกว่านี้

     

    ปล. รู้สึกว่าแท๊กฟิคจะซ้ำ =_= จะให้คิดแท๊กว่าไรดี แนะนำโหน่ยย

     

    cinna mon
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×