เหล่าอัจฉริยะ คนดังของโลก

ลำดับตอนที่ #3 : ปีกัสโซ...จิตรกรอัจฉริยะ ผู้ชิงชังความตายและ...ผู้หญิง(3)

    

     Pablo Picasso หรือ ปีกัสโซ  ภายหลังการตายของ "อีวา"  มันนำพาความเศร้าโศกมาสู่ชีวิตของเขาเพียง 2 สัปดาห์  แล้วความเศร้านั้นก็มลายไปเมื่อเขาได้พบกับหญิงสาวคนใหม่ "โอลก้า"....
     
     แม้ว่า "โอลก้า" จะได้รับคำเตือนจากมารดาของปีกัสโซที่ว่า "ไม่มีผู้หญิงคนใด มีความสุขในการร่วมชีวิตกับลูกชายของฉัน"  แต่คำเตือนนั้นก็ไร้ผล...
     ความจริงอันโหดร้ายก็ดำเนินมาถึง เมื่อปีกัสโซ หมดความสนใจในตัว โอลก้า ในขณะที่เธอเริ่มขาดเขาไม่ได้...วัฏจักรนี้หมุนเวียนไป ปีกัสโซ ก็พบหญิงคนใหม่อีกจนได้ เธอคนนั้นคือ "มารี เตเรช".....

          ภาพ Les Noces de Pierrette โดยปีกัสโซเป็นภาพที่เขียนขึ้นเมื่อปี 1905 (Blue Period)
            เป็นภาพที่เขียนขึ้นจากการได้รับอิทธิพลจากเหตุการณ์ฆ่าตัวตายของเพื่อนของเขา
                                                          ราคาในปี 1999 อยู่ที่ 51 ล้านเหรียญสหรัฐ


     " มารี เตเรช" ...เธอคนนี้ แตกต่างจากหญิงสาวคนอื่นที่ผ่านมาเพราะเธอมีบุตรชายให้เขา   แต่ตัว ปีกัสโซ เองก็ไม่ได้ชื่นชอบบุตรชายของตนเองนัก เพียงเพราะบุตรชายของเขาเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา ไร้ซึ่งพรสวรรค์ใดๆ ไม่เหมือนตัวเขา...กาลเวลาได้ผ่านไป   ปีกัสโซก็เห็นว่า มารี ได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นผู้หญิงธรรมดาที่ไม่น่าสนใจ ก็เป็นสัญญาณให้เขาผละไปหาผู้หญิงคนใหม่..."ดอร่า มาร์"....


     "ดอร่า มาร์"....รักครั้งใหม่กับหญิงผู้นี้ ปีกัสโซให้ความรักเธออย่างท่วมท้น  ปีกัสโซได้เขียนภาพของเธอขึ้นที่ปี 1941  ซึ่งปัจจุบัน ภาพนี้กลายเป็นหนึ่งในเหล่าภาพที่ราคาแพงที่สุดในโลกไปแล้วครับ (One of The world's most expensive paintings) โดยในปี 2006 นี้เอง ที่ให้ราคาภาพนี้อยู่ที่ 95.2 ล้านเหรียญสหรัฐ

                             ภาพ Dora Maar au Chat ที่หมายถึง Dora Maar กับแมวของเธอ
                           (ในภาพจะมีแมวดำตัวเล็กๆ ด้านหลังของเธอ) ซึ่งปีกัสโซได้เขียนเมื่อปี 1941


     เรื่องราวเดิมๆ หลังจากที่เขาสามารถเปลี่ยน"ดอร่า มาร์"....เทพธิดาเป็นพรมเช็ดเท้าได้สมใจ เขาก็เบื่อเธอ...และ "ฟรังซัวต์ กีโลต์" ก็คือ ผู้หญิงคนต่อไป....



     "ฟรังซัวต์ กีโลต์" ..หลายคนรวมทั้งตัวเธอ ก็ได้แต่หวังว่าเธอจะเป็นหญิงคนสุดท้ายของเขา..แต่เมื่อหวังแล้วผิดหวัง เธอก็ต้องหาทางรับมือกับความผิดหวัง   ทั้งที่เธอรักเขามากขึ้น ..มากขึ้น ในขณะที่เขาดูห่างออกไปทุกที

     "ฟรังซัวต์ กีโลต์"เธอเลือกที่จะเดินจากเขาไป ...



      ปีกัสโซไม่คุ้นเคยนักกับสิ่งที่ควบคุมไม่ได้และไม่ดังหวัง หากแต่ เขาก็รู้จักการใช้อำนาจและอิทธิพลแห่งจิตรกรเอกแห่งยุคในการห้ามไม่ให้นายหน้าค้าศิลปะคนใดก็ตามซื้อผลงานศิลปะของ "ฟรังซัวต์"...แต่กาลเวลาก็ผ่านไป เมื่อ ฟรังซัวต์พบรักใหม่   และเขา ...ปีกัสโซก็พบรักใหม่กับเด็กสาวที่อ่อนกว่าเขาหลายสิบปี..."แจ๊คกอลีน"....


       ปีกัสโซ   แม้เขาจะเป็นชายแบบนั้น หากแต่ผู้หญิงทุกคนในชีวิตของเขาก็ต่างรักและลุ่มหลงในตัวเขาทั้งสิ้น...หญิงสาวคนหนึ่งได้กล่าวไว้ว่า "เขาเป็นดวงอาทิตย์ในตัวเขาเอง เขาจุดมันขึ้น เผาผลาญ ลามเลีย และทำให้ผู้คนที่ใกล้ชิดกลายเป็นเถ้าถ่าน ไม่เว้นแม้แต่ตัวเอง"....ใช่ครับ..ดูเหมือนคำพูดนี้จะเป็นจริง เมื่อ ปีกัสโซตาย เขาจึงไม่ได้ตายเพียงลำพัง  เพราะภายหลังการตายของเขา   หลายชายของเขาได้ฆ่าตัวตายเมื่อไม่ได้ไปเคารพศพ   ส่วนบุตรชายผู้ถูกเฉยเมยและสะสมความกดดันมาเป็นแรมปีก็ตายตามไปในเวลาต่อมา..."มารี เตเรช" แขวนคอตายหลังสิ้นภารกิจเรื่องมรดกของเขา..."แจ๊คกอลีน" ยิงตัวตายตามภายหลังจัดการดำเนินเรื่องจัดตั้งพิพิธภัณฑ์แด่ปีกัสโซได้สำเร็จ...ส่วน "โอลก้า" และ "ดอรา มาร์" สติสตังก็แทบไม่อยู่กับตัวหลังจากที่เขาทิ้งพวกเธอไป  

Picasso sculpture ใน ชิคาโก

     ปีกัสโซ   เราเรียนรู้อะไรจากชีวิตเขา บางท่านอาจเริ่มเกลียดในความไร้รับผิดชอบและไร้ความซื่อสัตย์ต่อหญิงที่รักเขา  ...แต่นั่นคือ  ชีวิตมนุษย์มิใช่หรือ!? 
       ปีกัสโซ   เรารู้จักเขาในด้านจิตรกรอัจฉริยะ , ราคาภาพผลงานของเขาที่ปัจจุบันก็มีมูลค่ามหาศาล  แต่ผลงานเขาที่ปรากฏ ที่บอกกล่าวเรื่องราวในชีวิตแต่ละช่วงที่เขาประสบ เขาก็ได้ถ่ายทอดออกมาเป็นงานภาพและก็ได้สร้างความสุขแก่ผู้คน...คุณค่าของคนอยู่ที่ผลงานมิใช่หรือ!?....