ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    WhispeR OF MarbaL

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 เสียงที่ได้ยินอีกครั้ง(เพิ่มรุป)

    • อัปเดตล่าสุด 19 มี.ค. 51


    บทที่ 1

    เสียงที่ได้ยินอีกครั้ง

     

                    ...แสงไฟจากคบเพลิงจุดขึ้นรอบๆ เด็กหนุ่มสาวต่างเต้นรำตามจังหวะดนตรี ไปรอบๆลานอย่างสนุกสนาน เงาที่ทอดผ่านเคลื่อนไหวสั่นระริกตามแสงไฟ

                    เทศกาลประจำปีแห่งดินแดนสายหมอก มิสท์แลนด์ ซึ่งมีเพียงปีละครั้ง ที่หมอกหนาปกคลุมโดยรอบจะจางหาย รับแสงตะวันจากฟ้ากว้างได้เต็มที่ วันและคืนเพียงหนเดียวที่ทุกคนเฝ้ารอ.. งานถูกจัดขึ้นตั้งแต่ฟ้าสาง ยันตะวันตกครบรอบรับอาทิตย์ขึ้นอีกครา...

                    เด็กสาวผมสั้น แต่งกายด้วยชุดพื้นเมือง เดินถือแก้วเครื่องดื่มมาสองใบ ตรงไปยังเพื่อนสาวที่นั่งรออยู่มุมหนึ่ง

                    เดนิส เธอเป็นคนชวนฉันมามิสท์แลนด์เองนะ ทำไมดูไม่สนุกเลยล่ะ? เธอส่งแก้วหนึ่งให้ก่อนจะนั่งลงข้างๆ

                    ฉันไม่ได้อยากมาเทศกาล ออร์เน่ เธอพูดเรียบๆก่อนจะยกแก้วขึ้นดื่ม

                    อ้าว!? แล้วไหนเธอบอกอยากมา..น้าเอเรนเอาฉันตายแน่!! นี่เธอ..ทำอย่างนี้ได้ยังไง!! ” เดนิสลดแก้วลง พลางขมวดคิ้วน้อยๆ ต่อสายตาวาวอย่างอยากรู้อยากเห็นของเพื่อนสาว

                    อะไรของเธอ?

                    ไม่เอาน่า! มาถึงนี่แล้ว บอกมาเถอะ เธอไปปิ้งหนุ่มคนไหน ถึงขนาดให้ฉันโกหกแม่ให้ ว่าฉันชวนมาเที่ยวบ้านญาติน่ะ!! ” น้ำเสียงกระตือรือร้นอย่างปิดไม่มิด

                    เดนิสกรอกตา ก่อนจะบอกเสียงเนื่อยๆ

                    เธออย่าเหมาฉันเป็นพวกเดียวกับเธอได้ไหม ฉันแค่... เธอเว้นช่วง ก่อนจะกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงลอยๆ

                    มี..ลางสังหร..บางอย่าง...

                    อ๊า~ ลางสังหรณ์ของผู้หญิงที่เฝ้ารอรักแท้ จากหนุ่มหล่อแห่งเมืองสายหมอก...

                    เดนิสจิบเครื่องดื่มอีกครั้ง ปล่อยให้เพื่อนสาว เพ้อละเมอต่อไปโดยไม่ขัดจังหวะ พลางกวาดสายตามองไปรอบๆลานเต้นรำ

                    พลันสายตาก็ไปสะดุดกับกลุ่มเด็กสาวกลุ่มหนึ่ง   

                    พวกเธอยืนรุมล้อมรอบเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ยามเขาหัวเราะ พวกเธอก็หัวเราะตามด้วยเสียงเล็กๆดังคิกคัก เดนิสรู้สึกว่าเสียงหัวเราะแบบนั้นมันช่างเสแสร้งจริงๆ ทันทีที่คิดแบบนั้น เด็กหนุ่มหันมาสบตาเธอเข้าพอดี เขาส่งยิ้มให้ และเธอยิ้มตอบตามมารยาท แต่ยิ้มนั้นก็เจื่อนลง เมื่อสายตาของเหล่าเด็กสาวกลุ่มนั้นจับจ้องมาที่เธอทันที

                    เป็นอะไรไปเดน? ออร์เน่ที่เพิ่งหลุดจากโลกส่วนตัวถาม พลางมองตามสายตาไป ก่อนจะหัวเราะเบาๆ

                    นั่นแน่ ไหนว่าไม่สนใจไง เข้าใจเลือกนะจ๊ะ แต่ท่าทางจะเจอศึกหนักหน่อยล่ะเพื่อนเอ๋ย

                    ฉันจัดการแม่พวกนั้นให้มะ เธอเสริม พลางมองเดนิสด้วยสายตาลุกวาว

                    เหอๆ กลับห้องเถอะออร์ พลางลากเพื่อนสาวที่อิดออดอยากทำตัวเป็นเพื่อนแสนดีโดยที่ไม่จำเป็นกลับที่พัก

    --------------------------------------

                    ..ที่นี่

                    เด็กสาวหยุดกึก ออร์เน่ยิ้มเอ่ยอย่างลิงโลด

                    อยากกลับไปทวงสิทธ์ชิงเจ้าชายแล้วล่ะสิ งั้นไปกัน พวกสาวบ้านๆทั้งหลายเดี๋ยวฉัน... คำที่เหลือถูกกลืนลงคอ เมื่อเดนิสยกมือขึ้นป้องปาก

                    อะไร..มีอะไรหรือเดน?

                    ฉันได้ยินเสียง

                    ..ข้า..อยู่ที่นี่

                    ได้ยินอีกแล้ว! ” ออร์เน่มองเธออย่างฉงน คิ้วเรียวย่นเข้าหากัน

                    ฉันไม่ได้ยินอะไรเลย เธอบอก แต่ก็ลองเงี่ยงหูฟังดู

                    กลับมาเถิด...

                    นั่นไงออร์ ไม่ได้ยินหรือไง! ” มีแต่เพียงเสียงลมพัดผ่านใบไม้ที่เธอได้ยิน

                    เสียงเพราะมากเลย เหมือนกับ..เคยได้ยินที่ไหนมาก่อน... เดนิสหลับตานิ่งฟัง แต่พอลืมตาขึ้น ออร์เน่กลับมองเธออย่างแปลกประหลาด

                    อะไร?

                    คราวนี้น้าเอเรนเอาฉันตายจริงๆแน่!!   ออร์เน่ร้องอย่างประสาทเสีย พลางคว้ามือเดนิส แล้วจ้ำเดินไปอย่างรวดเร็ว

                    อ...ออร์เน่! เดี๋ยว! ช้าๆหน่อย..

                    เธอต้องนอนพัก เดนิส!! ”

                    หา!? ”

                    ให้ตาย!! ฉันไม่คิดเลยว่าเธอจะคออ่อนขนาดนี้ ฉันไม่น่าให้เธอดื่มเหล้าแอปเปิลนั่นเลย!! มันทำเธอเมาจนเพ้อไปแล้ว!!! ”

                    เฮ้! ” เดนิสร้องพลางฉุดมือกลับให้ออกจากการเกาะกุม ก่อนจะเสริมเสียงเข้ม

                    ฉันไม่ได้เมาออร์! แล้วนั่นมันก็ไม่ใช่เหล้า แค่ไวน์แอปเปิลหวานๆ...

                    เด็กน้อย...ของข้าเอ๋ย..กลับมาเถิด...

                    คราวนี้เสียงที่ได้ยินชัดเจนมาก โดยไม่รอคำห้ามจากเพื่อนสาว เดนิสออกวิ่งไปตามเสียง กลับไปยังลานเต้นรำ เด็กหนุ่มคนเดิมยังคงอยู่ที่นั่น เด็กสาวสองคนควงแขนคนละข้าง ท่าทางกำลังชักชวนให้เขาไปเต้นรำกับตน เขามีสีหน้าลำบากใจ พลันมองเห็นเดนิสที่วิ่งอ้อมลานเต้นรำไป ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำซึ่งมุ่งตรงเข้าสู่ป่า...

    --------------------------------------

                    เดนิสวิ่งลัดเลาะเข้าไปในป่า ต้นไม้ขึ้นหนาทึบบดบังแสงจันทร์เสียหมดสิ้น แต่มันก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับเธอ เพราะตั้งแต่เด็กแล้ว..เธอไม่เคยกลัวความมืด ความมืดเปรียบเหมือนเพื่อนของเธอ ยิ่งมืดเท่าไหร่เธอก็ยิ่งอบอุ่นใจมากขึ้น ทั้งดวงตาเธอก็มองรอบด้านได้อย่างแจ่มชัด...

                    กลับมาเถิด..เด็กน้อย...

                    เดนิสยังคงวิ่งตามเสียงไปราวกับถูกชักชวน เธอพุ่งผ่านพุ่มไม้เล็กๆ ก่อนจะทะลุออกมายังทะเลสาบกว้าง...

                    ท้องน้ำเป็นระลอกคลื่นเบาๆ ส่องแสงแวววาวเล่นแสงจันทร์กระจ่าง...

                    เดนิสเดินเรียบทะเลสาบ ทั้งที่ไม่รู้ว่าต้องทำอะไรหรือไปที่ไหน แต่ดูเหมือนขาของเธอทั้งสองจะรู้ดี มันนำเธอเดินไป..สู่ถ้ำมืดซึ่งอยู่อีกฟากของทะเลสาบ ด้านหลังพุ่มไม้หนา

                    เด็กสาวหรี่ตาฝ่าความมืดเข้าไป...

                    ทันทีที่เธอก้าวเท้าเข้าสู่ปากถ้ำ มีพลังบางอย่างฉุดรั้งข้อมือเธอไว้ เดนิสหันไปมอง ..ไม่มีใครหรืออะไรอยู่ตรงนั้น เธอก้มลงมองข้อมือ สร้อยถักคล้องลูกแก้วสีเหลืองซึ่งเอเรน..แม่ของเธอให้ใส่ติดตัวมาตลอด มันกำลังส่องแสงกระพริบ พร้อมกับเกิดเส้นสายฟ้าวิ่งไปมารอบๆ

                    อ..อะไรน่ะ!! ” เธอร้องน้ำเสียงตกใจ พลางสะบัดแขนไปมา จนลูกแก้วนั้นไปกระทบกับผนังถ้ำอย่างแรงจนแตกกระจายไป

                    ข้า..อยู่ที่นี่...

                    เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับประกายแสงมากระทบตา เดนิสย่อตัวลง ก่อนจะมองเห็นลูกแก้วสีดำเล็กๆฝังอยู่กับผนังถ้ำ ทันทีที่นิ้วเรียวแตะถูกมัน...

                    แสงสีดำเป็นสายพวยพุ่งจากลูกแก้วตรงเข้ากลืนเด็กสาวหายไป...

     

     

                   


    ชุดในงานเลี้ยงน่ะ ปกติเดนิสมะแต่งแบบนี้หรอก=w=~

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×