ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My Own Path [ Fic : Eyesheild 21 ]

    ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 04 [...End...]

    • อัปเดตล่าสุด 29 ต.ค. 50










    Fanfiction

     

    Project : Eyesheild 21

     

    My Own Path

     

    Chapter 04

     

     

    เด็กหนุ่มร่างสูงผอมมองดูลาดเลาตรงทางออกเป็นครั้งสุดท้ายอย่างลุกลี้ลุกลน  เขาเองก็ไม่รู้ว่าอะไรทำให้สัญญาณเตือนภัยดังขึ้น  แต่มันก็คงจะไม่สำคัญเท่ากับการวิ่งผ่านประตูที่อยู่ตรงหน้านี้ออกไป

    ไม่รู้ว่าคุณฮิรุม่ากับคุณฮาบาชิระจะปลอดภัยรึเปล่า.......

    ถึงแม้ทางออกสู่อิสรภาพและโลกภายนอกจะน่าก้าวออกไปหามากมายขนาดไหน  ขาทั้งสองข้างมันกลับไม่ขยับ  เพราะการที่เขาหนีรอดปลอดภัยอยู่เพียงคนเดียวในขณะที่เพื่อนอีกสองคนเป็นตายยังไงก็ไม่รู้อยู่เบื้องหลัง  โดยเฉพาะคนที่เป็นเสมือนหัวหน้าทีม  มันใช้ได้เหรอ ?  ใจมันจะกล้าทิ้งไปได้ยังงั้นเหรอ ?  แต่ถ้าหากอยู่ที่นี่ต่อ  อย่างเขาจะทำอะไรได้ล่ะ ?  เพราะเขามันไม่มีความสามารถอะไรเลยไม่ใช่เหรอ  คนๆ นั้นถึงได้ส่งเขาออกมาข้างนอกเป็นคนแรกแบบนี้

    ไม่ ๆ ๆ ๆ  คิดแบบนั้นไม่ได้นะ  เพราะเขาเป็นห่วงเรากับคุณฮาบาชิระต่างหากถึงได้ให้พวกเราออกมาก่อนแบบนี้   เขาแทบอยากจะเขกหัวของตัวเองที่เกือบจะเผลอคิดถึงคนที่ว่าในแง่ไม่ดี  ไม่แน่ว่าตอนนี้เขาอาจจะตกอยู่ในอันตรายก็ได้.....  แต่ความคิดที่ตามมาก็ยังคงไม่ใช่แง่ดีอยู่ดี

    แล้วแกคิดจะวิ่งกลับไปช่วยมันรึไง ?

    เสียงทุ้มต่ำที่ฟังดูคุ้นหูกับมือใหญ่ยาวที่ยื่นเข้ามาจับไหล่ข้างซ้ายทำเอาเด็กหนุ่มสะดุ้งโหยงและเกือบร้องออกมาถ้ามืออีกข้างไม่เข้ามาปิดปากเขาเอาไว้ซะก่อน

    คะ....คุณฮาบาชิระ !!”  เขาร้องอย่างตกใจระคนดีใจขณะมองเจ้าของมือก้าวออกมาจากความมืดแล้วนั่งลงข้างๆ  เขา

    ทำไมไม่วิ่งออกไปวะ ?กัปตันทีมคาเมเลออนถามโดยที่ไม่ทันสังเกต  หรืออาจจะไม่ว่าอะไรก็ได้ที่อีกฝ่ายกำลังนั่งจ้องเขาอยู่อย่างอึ้ง ๆ  กับสภาพที่เหมือนกับเพิ่งเดินออกมาจากสนามรบ       

    มะ....ไม่เป็นไรนะครับคุณฮาบาชิระ.....?

    เออ....ยังไม่ตายหรอก......เขาตอบคำถามที่ได้แทนคำตอบอย่างลืมตัว  ก่อนจะหันมานึกได้และพูดอย่างหงุดหงิด แล้วแกคิดจะช่วยมันยังไง  ตัวเองยังเอาไม่รอด

    แต่ถึงยังงั้นผมก็ยังอยากไปช่วย  จะให้ผมทิ้งเขาแล้วหนีไปคนเดียวได้ยังไง ?  ใบหน้าและน้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น  ดีจังที่คุณฮาบาชิระเองก็เป็นห่วงถึงได้มานั่งข้างๆ ผมแบบนี้

    คะ....แค่บังเอิญเจอแกเท่านั้นแหละเว้ย !!”  เด็กหนุ่มหัวโจกแกล้งพูดกลบเกลื่อนแล้วหันไปมองทางอื่นเพื่อซ่อนใบหน้าที่แดงเรื่อเมื่อเดาความคิดจากรอยยิ้มของอีกฝ่ายได้  อย่ามาทำเป็นรู้ดีนะเฟ้ย !!”

    คะ....ครับ  จะทำเป็นไม่รู้ครับ......  ยูกิมิตสึว่าอย่างงง ๆ

    ชิ.....บางทีแกมันก็กวนจริงๆ เลยว่ะ

    เอ่อ.....ขอโทษครับ.....?โดนว่ามาแบบนี้  เจ้าตัวที่ยังไม่รู้เลยว่าไปกวนอีกฝ่ายที่ตรงไหนเลยไม่รู้จะพูดอะไรดี

    แกนี่มันน่ารำคาญจริง ๆ......  ถึงฮาบาชิระจะว่าแบบนั้น  แต่น้ำเสียงกลับฟังดูตรงกันข้าม

    หลังจากนั้นพวกเขาก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีก  และต่างตัดสินใจเหมือนกันว่าจะไม่หนีออกไปก่อน  และนั่งรออีกคนหนึ่งอยู่ที่นี่  แต่เสียงที่ดังขึ้นท่ามกลางเสียงเตือนภัยก็เรียกให้พวกเขาก้าวออกไปข้างนอกอย่างไม่ลังเล  ในใจต่างคิดเหมือนกันว่า

    ฮิรุม่า....!!’

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    แม้กระสุนที่พุ่งเฉี่ยวแขนกับหน้าไปจะเป็นการเตือน  แต่ร่างบางก็ยังคงไม่สนใจและหันมายิงกระสุนสองนัดที่พุ่งเข้ามาทิ้งไปก่อนที่จะสาวเท้าวิ่งต่อ

    ทำไมมันตามมาเร็วนักวะ ?  ฮิรุม่าคิดอย่างหงุดหงิด

    จังหวะของกระสุนปืนที่ยิงไล่หลังมาเงียบหายไป  ทำให้ต้องหันกลับไปมองด้วยความสงสัยและพบว่า  คนยิงถูกนักเรียนของโรงเรียนโซคุงาคุแท๊คเคิลให้ล้มลงกับพื้น  แต่เขาไม่ให้ความสนใจกับการช่วยเหลือนั้นมากนัก  เพราะยังมีอีกคนที่น่าเป็นห่วงมากกว่า

    มือของฮิรุม่ายื่นออกไปคว้าแขนยูกิมิตสึที่วิ่งเข้ามาหา  แล้วผลักออกไปเต็มแรงเพื่อให้วิ่งต่อไปโดยไม่ยอมให้เขามาเสียเวลาถามสารทุกข์สุขดิบ

    ทำไมถึงยังอยู่อีกวะไอ้เหม่งตูดหมึก !!  ชั้นบอกให้แกหนีไปแล้วนี่เว้ย !!”  เขาว่าอย่างหงุดหงิดอีกครั้งแล้วรีบหันมายิงลูกกระสุนที่พุ่งเข้ามาและปืนที่อยู่ในมือของชายวัยกลางคนที่กำลังจะฆ่าเพื่อนที่อยู่ข้างหลัง

    หนีไป !!”

    ฮาบาชิระรีบทำตามทันที  แต่ก็ถูกขัดขาให้ล้มลงซะก่อน  ร่างที่สูงกำยำกว่าขึ้นคร่อมร่างของเขาเอาไว้แล้วควักมีดพับออกมา  แต่ก่อนที่มันจะปาดคอร่างในกำมือ  อาวุธแบบเดียวกันก็เข้ามากันเอาไว้ก่อน

    อย่ามาดูถูกกันนะเว้ย !  คิดว่ามีแกคนเดียวที่พกรึไงวะ !!”

    แล้วคิดว่าฝีมืออย่างแกจะทำอะไรได้รึไง ?  คำพูดและรอยแสยะยิ้มทำให้เด็กหนุ่มเสียวสันหลังวาบ   

    อย่านะเฟ้ยไอ้แก่ตูดหมึก !!”

    เสียงที่เกรี้ยวกราดดังขึ้นพร้อมร่างเพรียวบางกระแทกชายวัยกลางคนออกไป  เด็กหนุ่มที่รู้จักฝีมือการใช้มีดของคนเป็นพ่อดีที่สุดนั้นไม่มีวันยอมให้อาวุธนั่นมันปักลงไปที่คอหอยของคนที่อยู่ข้างไต้แน่

    ไปสิเฟ้ย !!”

    เสียงตวาดของเขาผลักให้หัวโจกทีมคาเมเลออนรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งออกไป  แม้เดมอนแห่งเดวิลแบ็ทจะเสียหลักไปนิดกับมีดสั้นที่ปักลงบนสะบักซ้าย  แต่ขาก็ยังคงก้าวต่อไปข้างหน้าเพื่อหนีจากฝ่ามือหยาบใหญ่ที่พุ่งเข้ามา  กระสุนหนึ่งนัดที่พุ่งเฉี่ยวหน้าทำให้รู้ว่าคนข้างหลังได้หยิบปืนขึ้นมาอีกครั้ง 

    อีกเพียงแค่หนึ่ง  สอง  และสามนัดเท่านั้น  แล้วอาวุธนั่นก็จะไร้พิษสง  แต่เขากับเพื่อนอีกสองคนจะสามารถรักษาชีวิตเอาได้จนถึงตอนนั้นรึเปล่า ?  สิ่งที่ทำในห้องคอมพิวเตอร์นั่นมันจะใช้เวลาอีกสักเท่าไหร่ถึงจะเห็นผลกัน ?

    แกเนี่ยมันกัดไม่ปล่อยจริง ๆ ว่ะ !!  ถ้าเพียงแต่ชั้นจะมีค่าในสายตาแกในฐานะลูก  หรืออย่างน้อยก็เห็นค่าความเป็นคนเหมือนเจ้าพวกนี้ล่ะก็......  ความคิดผุดขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าโดยไม่รู้ตัวในวินาทีที่กระสุนฝังเข้าไปที่ขาขวา  แต่ร่างที่เจ็บปวดก็ยังวิ่งต่อไปแม้จะช้าลงบ้างก็ตาม

    คุณฮิรุม่า / ฮิรุม่า !!”

    แค่หนีไปเรื่องก็จบแล้ว  ยังจะเข้ามารนหาที่ตายกันอีก......

    สายตาเริ่มพร่ามัวเมื่อเลือดไหลทะลักออกมาจากบาดแผลทั้งหมดอย่างรวดเร็ว  แต่กระนั้นมือก็ยังคงหันไปยิงครั้งสุดท้าย  และหวังว่ามันจะช่วยคนโง่ที่กลับวิ่งเข้ามาช่วย  เขาไม่รู้เลยรึไงว่าอาวุธโลหะชิ้นเล็กๆ นั่นมันจะคร่าชีวิตที่มีค่าเพียงหนึ่งเดียวของเขาไปได้อย่างง่ายดาย

    กระสุนพุ่งเข้าไปกระทบปืนแล้วกระแทกอาวุธนั้นออกไปจากมือของเจ้าของ  แต่มันก็ยังช้าเกินไปที่จะหยุดโลหะทรงกระบอกปลายแหลมที่แล่นผ่านลำกล้องออกมาแล้ว 

    แม้เป้าหมายที่ควรจะหลบกลับเต็มใจที่จะยืนนิ่งเพื่อรับมันแทนคนที่อยู่ข้างหลังทั้งๆ ที่ไม่มีเวลาเหลือให้ขยับได้อีกแล้ว    แต่คนที่ถูกปกป้องกลับไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น 

    ในเสี้ยววินาทีที่ดูเหมือนยาวนานชั่วนิรันดร์   สายตาสามคู่จ้องมองร่างที่ค่อยๆ ล้มลงในอ้อมแขนของเด็กหนุ่มตัวสำรองทีมเดวิลแบ็ท  ท่ามกลางความเงียบมีเพียงเสียงร้องอย่างตื่นตระหนกเท่านั้นที่ดังก้อง

    คุณฮิรุม่า !!!”

     

    แกเคยถามว่าพวกสวะในทีมชั้นมันสำคัญขนาดไหน  มันก็มากพอที่จะทำให้ชั้นทำแบบนี้ไงล่ะ.......

     

    ริมฝีปากบางแสยะยิ้มก่อนที่กระสุนนัดสุดท้ายจะปิดฉากการไล่ล่าที่ไร้สาระนี่ลงอย่างถาวร

     

    FREEZE !!

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ภายในห้องผู้ป่วยสีขาวที่เงียบสนิทมีเพียงเสียงลมหายใจของเด็กหนุ่มที่ฟุบหลับอยู่ข้างเตียง  ดวงตาสีฟ้าเพียงแค่จ้องมองใบหน้าที่หลับใหลพลางคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน  ฝ่ามือเรียวข้างหนึ่งละจากงานทำความสะอาดปืนบนตักแล้ววางลงบนหัวของคนข้างๆ

    จะถ่อมานี่ทำไมฟะ  แผลก็ยังไม่หาย  หาเรื่องจริงๆ เลยนะแก  เขาคิดพลางถอนหายใจ  ในขณะที่สายตาเลื่อนลงมาจับจ้องอยู่ที่ผ้าพันแผลใต้อกเสื้อ

    เฮ้ย ! ไอ้คาเมลอนตูดหมึก  เสียสละที่ให้มันดิ๊

    คนที่นอนเหยียดบนโซฟาที่อยู่อีกฟากของห้องถอนหายใจที่หลอกคนป่วยบนเตียงไม่สำเร็จ  แล้วบิดขี้เกียจหนึ่งทีก่อนจะลุกขึ้นมาทำอย่างที่สั่ง

    แล้วทำไมแกไม่ให้พาเจ้านี่กลับไปนอนที่ห้องวะ ?  หัวโจกประจำโรงเรียนโซคุงาคุถามอย่างสงสัย

    เดี๋ยวไอ้หัวเหม่งนี่มันก็ต้องถ่อกลับมานี่อีก  แล้วจะเสียเวลาเอามันไปเก็บทำไม...... มันก็เหมือนแกนั่นแหละวะ........

    เขาว่าพลางหยิบหมากฝรั่งไร้น้ำตาลจากตะกร้าของเยี่ยมไข้บนโต๊ะข้างเตียงขึ้นมาเคี้ยว  เขาอดที่จะถอนหายใจกับจำนวนของของฝากที่สมาชิกในทีมเดวิลแบ็ทเอามาให้ไม่ได้  เพราะถึงมันจะน่าซาบซึ้งที่มีคนเป็นห่วงเป็นใย  แต่การที่ได้อยู่เงียบๆ โดยไม่มีใครมาถามนู่นถามนี่ให้วุ่นวาย  มันก็เรียกได้ว่าเป็นความสุขอย่างนึงของชีวิต

    ตั้งแต่รู้สึกตัวมานี่แกเอาแต่พูดถึงคนอื่นตลอดเลยนะ  ถามตัวแกจริง ๆ เหอะ  เป็นไงมั่ง ?

    ถึงฮาบาชิระจะไม่อยากจะยอมรับ  แต่เขาก็รู้สึกเป็นห่วงจริงๆ  เพราะนับตั้งแต่คนตรงหน้าได้สติก็เอาแต่พูดโน่นพูดนี่กับคนนู้นคนนี้ในทีมโดยที่ไม่พูดถึงเรื่องของตัวเองเลยแม้แต่คำเดียว  แม้แต่เรื่องการไล่ล่าอันดุเดือดและวีรกรรมอันยิ่งใหญ่เมื่อคืนก็ยังถูกเก็บเงียบเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่อย่างเดียว

    ก็เป็นอย่างที่เห็นนี่แหละ  จะถามทำไม ?   แกนั่นแหละ   ไม่กลับฮงกลับห้องไปนอนวะ   โดนมาเยอะไม่ใช่รึไง  ?   ควอเตอร์แบ็คแห่งทีมโรงเรียนเดมอนบอกปัดเสียงเรียบแล้วหันมาเช็ดปืนต่อ 

    ก็ยังไม่เท่าแกหรอกเว้ย  ทั้งมีด  ทั้งกระสุน มันโดนไปขนาดนั้นยังวิ่งได้อีก  ใช่คนเปล่าวะ ?   เขาแอบคิดขณะนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียง  มือใหญ่ยาวกระตุกคอเสื้อให้เปิดออกและเผยให้ให้เห็นผ้าพันแผลสีขาว ยังอุตส่าห์รอดมาได้อีกนะ  ทั้ง ๆ ที่เจอกระสุนนัดนั้นเข้าไปน่ะ.....

    หนักกว่านี้ก็เคยเจอมาแล้ว  แค่นี้ก็ต้องรอดได้ดิวะ   ชั้นต่างหากที่ต้องพูดประโยคนั้น  แกนั่นแหละที่เกือบไม่รอดเพราะไอ้กระสุนนัดสุดท้ายนั่น  จะเข้ามาแส่หาเรื่องตายทำไมฟะ ! ”

    ฮาบาชิระรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยกับน้ำเสียงที่แฝงความโกรธของฮิรุม่า  มือของเดมอนเข้ามากระชากเสื้อของเขาให้เปิดออกจนเห็นผ้าพันแผลบนไหล่เช่นเดียวกัน  

    คำถามพรรค์นี้ชั้นไม่ตอบหรอกเฟ้ย !”  เขาบอกปัดไปง่ายๆ  เพราะอย่าว่าแต่คนถาม  แม้แต่กับตัวเองก็ยังไม่รู้จะตอบยังไง  แต่อย่างน้อยก็รู้ว่าเขาไม่มีทางยอมให้ฮิรุม่ากับยูกิมิตสึตายแน่ ๆ 

    อีกฝ่ายเพียงแค่หัวเราะฮึเหมือนคาดเดาคำตอบเอาไว้แล้ว  แต่เขาทำเป็นไม่ได้ยินแล้วหันมาเปลี่ยนเรื่องคุย  ว่าแต่ตำรวจพวกนั้นมาได้ยังไง ?

    สัญญาณเตือนภัยนั่นมันก็แค่หลอกไอ้แก่ตูดหมึกนั่นเท่านั้นแหละ  รอให้ไอ้พวกข้างนอกมันโทรน่ะไม่ทันหรอกเว้ย  รอยแสยะยิ้มฉีกกว้าง  ตอนที่ชั้นแฮคเข้าระบบไปเปิดมัน  ชั้นก็แอบส่งข้อความไปหาพวกพนักงานกินเงินเดือนนั่นด้วย

    งั้นแกจะให้ชั้นไปตามเก็บไอ้พวกลิ่วล้อทำไมวะ ?  เขาชักรู้สึกโมโหกับสิ่งที่ได้ยิน

    ถ้าไม่จัดการซะ  พวกมันก็หนีกันไปก่อนน่ะสิ  โดยเฉพาะไอ้แก่นั่นมันต้องวิ่งเป็นคนแรก  จนกว่าตำรวจจะมาซิวมันไปชั้นเลยต้องให้แกกับไอ้เหม่งตูดหมึกนั่นไปถ่วงเวลาพวกมันเอาไว้

    แก !!!”

    ร่างสูงกระชากคอเสื้ออีกฝ่ายเข้ามาตะวาดใส่หน้าอย่างเกรี้ยวกราด  กำปั้นยกขึ้นพร้อมระบายความโกรธ   แต่ดวงตาสีฟ้ากลับมองอย่างเฉยชาเหมือนกับคนในกำมือยินดีที่จะรับและหยุดหมัดนั่นในเวลาเดียวกัน

    แกเห็นชั้นกับไอ้หมอนั่นเป็นอะไรวะ !!  ไอ้ขี้ก้างมันถึงกับลงทุนขอให้ชั้นมาช่วย แถมยังกระโดดเข้าไปบังกระสุนแทนแกเลยนะเฟ้ย !!”

    แล้วแกจะให้ชั้นทำยังไง......

    น้ำเสียงที่ตอบกลับมากลับเรียบเฉย  แต่ภายในดวงตาสีฟ้าสองข้างกลับลุกวาวไปด้วยความโกรธที่มีต่อผู้เป็นบิดา   และใจรู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งที่เลือดไหลรินบนร่างของคนตรงหน้าและสมาชิกในทีมของเขา

    ถึงชั้น  พวกแก  หรือพวกของไอ้แก่ตูดหมึกจะรอดไปได้  แล้วคิดเหรอว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกน่ะ  ถ้าไม่จบมันซะตอนนั้น  แล้วทุกอย่างที่ชั้นทำไป  เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น  มันจะมีความหมายอะไร....... 

    น้ำเสียงแผ่วเบาลงจนเกือบเป็นเสียงกระซิบ ชั้นไม่เคยขอให้พวกนายหรือใครมาช่วย   เพราะ..........‘….....มันไม่เคยมีใครมาตั้งแต่แรกแล้ว......

    เมื่อได้ยินแบบนั้น  ฮาบาชิระก็ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี  ความโกรธที่มีมันหายไปหมดเมื่อไหล่ของคนตรงหน้านั้นห่อเล็กลง  ฮิรุม่าเพียงแค่ก้มหน้าและนั่งเงียบจนทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ

    เอาเป็นว่าชั้นขอโทษที่แส่เข้ามายุ่งเองก็แล้วกัน......  อย่างน้อยมันก็ทำให้แน่ใจว่าชั้นกับไอ้แห้งนั่นรอดชัวร์...... 

    เขาอดไม่ได้ที่จะพูดขณะพยายามปลอบใจตัวเองไม่ได้   แต่ก็กลับอยากเตะตัวเองขึ้นมาตะหงิดๆ  เมื่อคำพูดของเขามันดันไปตกหนึ่งในหลุมพรางที่เดมอนขุดเอาไว้และทำให้รอยแยะยิ้มนั่นมันฉีกกว้างขึ้นอีก

    เรื่องชั้นไม่ต้องให้ใครมาแส่  แกน่ะต้องขอบใจชั้นนะที่ทำให้รอดตายมาได้น่ะ.....

    แกนี่มันจริงๆ เลยนะ.......  ถึงหัวโจกของโซคุงาคุจะรู้ว่าเดมอนที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่คนที่พูดอะไรออกมาตรงๆ  แต่ยังไงคำพูดมันก็ทำให้มีน้ำโหอยู่ดี หัดพูดอะไรออกมาตรงๆ สักครั้งดิวะ

    ขอโทษ......

    คำตอบที่ได้ยินก็ทำเอาอึ้งไปเหมือนกัน  เพราะใครจะคิดว่าจะได้คำตอบตรง ๆ  อย่างที่ขอจากปีศาจแห่งโรงเรียนเดมอน  ถึงน้ำเสียงที่ได้ยินจะมีความจริงใจในระดับหนึ่ง  แต่รอยแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์มันก็ยังคงทำให้เชื่อยากอยู่ดี  และเขาก็เลือกที่จะไม่เชื่อเพื่อความปลอดภัย

    ชั้นไม่เชื่อวะ.....

    เอาไงแน่วะ  บอกเองนี่ว่าให้พูดตรงๆ นี่ก็ตรงแล้วนี่ ?  ปีศาจทำเสียงงอนๆ  ทั้งๆ ที่รอยแสยะยิ้มยังคงอยู่

    แกนี่มันวอนโดนฟาดปากจริงๆ

    ฮึ  ก็มันสนุกนี่  แกเองก็เป็นพวกปากไม่ตรงกับใจเหมือนกันนี่หว่า

    เออ  แต่ไม่อยากเป็นเหมือนแกนักหรอก  มีกี่ชีวิตก็คงไม่พอ

    ริมฝีปากแสยะยิ้มบนใบหน้าที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจในฉายาของตนเอง 

    ก็ชั้นเป็นเดมอนแห่งเดวิลแบ๊ทนี่......

     

     

    …End…

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×