คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 03
Fanfiction
Project : Eyesheild 21
My Own Path
Chapter 03
การเปิดฉากตะลุมบอลกับหัวโจกของกลุ่มโจรไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เดมอนแห่งเดวิลแบ็ทจะจัดการไม่ได้ ยิ่งพวกลิ่วล้อเข้ามาร่วมวงมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้กัปตันทีมมีช่องว่างที่จะฉวยโอกาสได้มากขึ้นเท่านั้น
คิดซะว่าห้องนี่คือสนาม กุญแจคือลูกบอล หน้าต่างนี่คือทัชดาวน์ ถือซะว่าเจ้าพวกลิ่วล้อตูดหมึกที่เข้ามาคือไลน์แมน แล้วก็ใช้ฝีมือการเล่นอเมริกันฟุตบอลของพวกแกจัดการพวกมันซะ
นั่นคือคำพูดที่ผู้นำแห่งทีมเดวิลแบ็ทว่าเอาไว้ และตัวสำรองของเดมอนกับผู้นำทีมคาเมเลออนก็เฝ้าท่องเอาไว้ในใจขณะหลบหลีกและพุ่งเข้ากระแทกฝ่ายตรงข้ามด้วยเทคนิคและกำลังทั้งหมดที่มี
ความชุลมุนวุ่นวายของกลุ่มคนที่วิ่งไล่จับกลุ่มนักกีฬาอเมริกันฟุตบอลทั้ง 3 คน ทำให้ชายวัยกลางคนที่เป็นเป้าหมายเสียหลักไปหนึ่งก้าว ควอเตอร์แบ็คของเดวิลแบ็ทจึงฉวยโอกาสนั่นพุ่งเข้าไปกระแทกเป้าหมายเต็มแรง ฟันซี่แหลมทั้งหมดตามเข้ามาคว้ากระชากพวงกุญแจออกมาจากเข็มขัดแล้วเหวี่ยงไปให้ไลน์แบ็คเกอร์ของคาเมลอนที่กระโดดเหยียบหัวผู้เล่นฝั่งตรงข้ามเข้ามาใช้ปากรับได้อย่างแม่นยำ แต่เขาก็ทำได้แค่หลบคนที่พุ่งเข้ามาหา ตัวสำรองของทีมผู้แย่งกุญแจจึงใช้ลัคกี้เชนจ์ของตัวเองเข้ามาช่วยเบียดกระแทกฝ่ายศัตรูออกไป และเปิดโอกาสให้ผู้ถือครองกุญแจได้โยนแล้วรับมันเอาไว้ในมือเพื่อปลดล๊อคและเอาโซ่ที่พันธนาการออก
ทันทีที่ร่างกายเป็นอิสระ แขนที่ยาวกว่าคนทั่วไปเล็กน้อยและร่างสูงโปร่งแต่กำยำแข็งแรงก็พุ่งเข้าแท็คเคิลคนที่จะเข้ามาจับตัวสำรองได้ทัน ก่อนจะคว้าร่างนั้นขึ้นบ่าและเบี่ยงหลบทั้งหมัด ลูกเตะ รวมทั้งกระสุนปืน เพื่อมุ่งไปยังทางออกเพื่อทำทัชดาวน์ แต่ในวินาทีที่เข้ามายืนอยู่เบื้องหน้าประตูได้สำเร็จ ขาทั้งสองข้างกลับไม่ก้าวข้ามมันไป
“มัวทำอะไรอยู่ฟะ กระโดดออกไปสิเฟ้ย!!” เสียงตวาดที่ดังก้องจากควอเตอร์แบ็คทำลายความลังเลนั้น “แค่นี้ชั้นจัดการเองได้เว้ย!!”
“คุณฮิรุม่า!!!”
ตัวสำรองได้แต่ร้องเรียกผู้เล่นที่ยังคงอยู่ในสนามอย่างตื่นตระหนก ถึงแม้จะรู้อยู่แก่ใจว่ามันเป็นสิ่งที่จะต้องเกิดขึ้น แต่การที่จะต้องเห็นคนที่เปรียบเสมือนเป็นกัปตันของทีมเดวิลแบ็ทถูกทีมฝั่งตรงข้ามสกัดเอาไว้ มันอดที่จะร้องเรียกและหวังที่จะได้เห็นอีกฝ่ายกระโดดตามลงมาไม่ได้
“จะเรียกทำไมฟะ!! เจ้านั่นก็บอกแล้วไม่ใช่รึไงว่าจัดการได้น่ะ !!” ’มันเป็นจอมโฉดแห่งเดวิลแบ็ทก็ต้องเอาตัวรอดได้สิวะ’ ผู้เล่นตัวจริงว่าในขณะที่บังคับให้ขานั้นวิ่งต่อไปข้างหน้า แม้ใจจะอยากหันกลับไปช่วยหัวหน้าทีมในสนามก็ตาม
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
หนึ่งในห้องที่อยู่ภายในตึก
“นั่นมันเสียงอะไรน่ะ ?”
ฮาบาชิระถามอย่างเหนื่อยๆ หลังจากที่ได้นอนพักอยู่ในห้องๆ หนึ่งกับยูกิมิตสึและฮิรุม่าที่หนีรอดออกมาจากสนามได้แล้วตามมาสมทบในภายหลัง
“นะ....นั่นสิครับ....” ตัวสำรองทีมเดวิลแบ็ทว่าอย่างหวาดๆ และมองที่ประตูอย่างลุกลี้ลุกลน ร่างผอมสูงสั่นไปด้วยความกลัว แต่กระนั้นก็ยังมีความกล้าหลงเหลือมากพอที่จะขยับหากเกิดอะไรขึ้น
“เคี๊ยก ๆ ๆ ๆ จะอะไรซะอีก ก็หนูติดกับดักไง”
เสียงหัวเราะและใบหน้าโฉดของคนสุดท้ายที่ตื่นขึ้นกลับเผยให้เห็นอารมณ์ทุกอย่างที่ตรงกับข้ามกับอีกสองคนอย่างสิ้นเชิง ออร่าดำมืดที่แผ่ซ่านออกมาอย่างโจ่งแจ้งทำให้พวกเขาผงะถอยและรู้สึกหวาดๆ กับปีศาจที่อยู่ตรงหน้ามากกว่าแก๊งคนโฉดที่เพ่นพ่านอยู่นอกห้องซะอีก
“ไปวางเอาไว้ตอนไหนเนี่ย ?” ฮาบาชิระถามเหงื่อตก
“ก็ก่อนที่จะมาหาพวกแกไง ลำบากนิดหน่อยที่ต้องใช้ของแถวๆ นั้น แต่ดูเหมือนจะใช้การได้ดี” แล้วท่านก็หัวเราะตามแบบฉบับเป็นการปิดท้าย ทำให้คนฟังต่างเสียวสันหลังวาบและรู้ซึ้งถึงความน่ากลัวและความสามารถของเดมอน
“ประชุมเพลิง” ปีศาจแห่งเดวิลแบ็ทกระดิกนิ้วเรียก แล้วพูดพลางแสยะยิ้มกว้างจนเห็นฟันยาวแหลมเกือบหมดทุกซี่ “จะเริ่มแผนหนูไล่จับแมวกันแล้วนะเฟ้ย ฟังกันให้ดี ๆ ล่ะ......”
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
พวกเราจะแยกย้ายกันไป ทางออกนี่คือทัชดาวน์ เพราะงั้นต่อให้เสี่ยงตายยังไงก็ต้องไปให้ถึงให้ได้นะเฟ้ย แกน่ะถ้าเจอใครให้หลบใกล้ ๆ สัญลักษณ์นี่ แล้วก็อย่าสะเออะออกมาจนกว่าทางจะโล่งนะเฟ้ย
คำสั่งของควอเตอร์แบ็คที่ตัวสำรองในสนามได้มาฟังดูง่ายๆ แต่กลับโหดหินจนหืดขึ้นคอ เพราะร่างกายที่บาดเจ็บมันทำให้แทบจะเดินไปไม่ถึงไหน และถ้าสามารถหลบทีมฝั่งตรงข้ามได้ซักคนหรือเจอรอยขีดที่เป็นสัญลักษณ์ก็นับว่าโชคดีแล้ว
แม้ความเจ็บปวดยังคงรุมเร้าให้ขาหยุดเดินและบังคับให้ร่างที่อ่อนล้านั้นล้มลง แต่พวกมันก็ยังคงก้าวต่อไปด้วยความมุ่งมั่น ไม่ว่าจะต้องลำบากมากขนาดไหนก็ตาม แม้ความหมายที่แท้จริงของหน้าที่ในสนามคือ การเป็นตัวล่อพวกคนโฉด ใจมันก็ยังคงเชื่อมันในตัวของกัปตันทีมอยู่เสมอ
‘อย่างเราก็ทำได้แค่นี้ล่ะนะ แรงก็น้อย สู้ใครเขาก็ไม่ไหว มีดีก็แค่ความพยายาม แต่คุณฮิรุม่าก็ยังอุตส่าห์ให้เราช่วย......เขาช่วยเราเอาไว้หลายครั้ง.......ถ้าไม่มีเขาเราก็คงจะไม่ได้เข้าทีมเดวิลแบ็ทและได้ทำในสิ่งที่อยากทำร่วมกับทุกคน........เพราะงั้นเราจะยอมแพ้ไม่ได้ เราต้องทำให้ได้ !’
แม้มันจะเป็นเพียงความคิดที่วนเวียนอยู่ในหัว แต่มันก็เพียงพอแล้วที่จะผลักดันให้ขาก้าวออกไปเผชิญหน้ากับอันตรายที่รออยู่เบื้องหน้าทั้ง ๆ ที่ใจยังคงหวาดกลัว
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
พวกเราจะแยกย้ายกันไป ทางออกนี่คือทัชดาวน์ เพราะงั้นต่อให้เสี่ยงตายยังไงก็ต้องไปให้ถึงให้ได้นะเฟ้ย แกน่ะไปทางนี้แล้วเก็บไอ้พวกลิ่วล้อตูดหมึกระหว่างทางให้หมด สัญลักษณ์นี่คือตัวช่วยของแก ถ้าเจอมันล่ะก็ทำตามไพ่พวกนี้ซะ
‘มันยังจะไปมีเวลามานั่งทำไพ่พวกนี้ขึ้นมาอีก สุดๆ เลยว่ะ’
ผู้เล่นตัวช่วยคิดพลางมองไพ่หนึ่งสำรับในมือ ถึงแม้แผนมันจะเหมือนกับแค่สั่งให้วิ่งเข้าไปถล่มให้ราบยังไงยังงั้นก็เถอะ แต่เขาก็ต้องยอมรับว่ามันโดนใจ และเหมาะกับเด็กเกชอบหาเรื่องฟาดปากคนอย่างเขาที่สุดแล้ว
‘ถ้าเจอเจ้าพวกนั้นตรงหน้าให้วิ่งหันหลังกลับแล้วหลบไปทางซ้าย.....’
เขาอ่านข้อความบนไพ่ในใจพลางวิ่งไปตามนั้น และเมื่อเขาหยุดอยู่เบื้องหลังเส้นสีแดงที่ขีดอยู่บนเสาสี่เหลี่ยมต้นหนึ่ง เสียงร้องโวยวายกับอะไรบางอย่างล้มระเนระนาดก็ดังขึ้น ถึงแม้จะไม่เห็นว่าไอ้กับดักของจอมปีศาจนักวางแผนจะทำงานยังไง แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปดูผลของมัน
‘ดีนะที่อยู่ฝ่ายเดียวกับไอ้โฉดนั่น.....’ ในใจรู้สึกโล่งสุดๆ ที่ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของกับดักพวกนั้น
‘ถ้าเจอคนดักตีทางด้านหลังให้หมอบลงแล้วขัดขามัน จากนั้นก็.....คว้าก้อนหินแถวนั้นมาโยนไปทางด้านซ้าย ?’
ด้วยความที่ปฏิกิริยาตอบสนองนั้นคุ้นเคยกับการต่อยตีกับชาวบ้านเขาไปทั่ว ทำให้เขาแทบไม่ต้องละสายตาไปจากไพ่และทำตามข้อความที่อยู่บนนั้นอย่างใจเย็น
กับดักต่างๆ ที่โผล่ออกมาจัดการเหยื่อของมันกลับดูน่ากลัวและเป็นอันตรายมากกว่า เพราะมันทำงานได้อย่างแม่นยำและรับประกันผลได้ร้อยเปอร์เซนต์เหมือนยังกับว่าคนสร้างได้คิดคำนวนเอาไว้ถี่ถ้วนแล้วว่า ถ้าเป็นคนที่มีรูปร่าง ความสูง และน้ำหนักเท่านี้แล้วล่ะก็ ไม่มีทางหลบหรือหยุดกับดักได้ทันแน่ ๆ
‘โอ้หมอนั่นมันคิดล่วงหน้าไปกี่ขุมวะเนี่ย ? น่ากลัวจริง ๆ ใช้เวลาแค่ช่วงก่อนที่จะมาเจอชั้นกับไอ้ขี้ก้างนั่นทำทั้งหมดนี่จริง ๆ เรอะ ?’
แต่ในใจก็ไม่คิดที่จะถามออกมาจริง ๆ เพราะกับดักและคำแนะนำทั้งหมดที่อยู่ในมือได้พิสูจน์ความสามารถของเจ้าของแผนการให้เห็นเป็นที่ประจักษ์แล้ว
‘รอดออกไปให้ได้นะเฟ้ย พวกนาย 2 คนน่ะ’
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
บานประตูถูกเลื่อนเปิดออกและปิดล็อกแผ่วเบาหลังร่างสูงผอม ดวงตาสีฟ้าจับจ้องไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์เก่า ๆ ที่อยู่กลางห้องที่เคยใช้เป็นที่ทดลองอะไรบางอย่าง
‘อยู่ที่นี่ตามที่แบบแปลนนั่นบอกเป๊ะเลย’ เสียงหัวเราะเคี๊ยกๆ ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบภายในห้อง ‘ไอ้แก่ตูดหมึกมันประมาทเกินไปแล้วที่คิดว่าชั้นจะไม่มีปัญญาหามาแทนเครื่องที่แกพังไปน่ะ’
มือถือที่อยู่รอดปลอดภัยถูกหยิบออกมาเพื่อค้นหาสัญญาณ ถึงขีดบนหน้าจอจะไม่ปรากฏขึ้น รอยแสยะยิ้มก็ยังคงอยู่ และมือเรียวหยิบมือถือเกือบ 50 เครื่องที่ตามเก็บมาจากพวกแมวติดกับดักออกมาวางเพื่อเตรียมใช้แผน 2
ฝ่ามือทั้งสองข้างขยับอย่างคล่องแคล่วไปบนเครื่องจักรที่ใช้การไม่ได้ แล้วค่อยๆ ซ่อมแซมมันให้กลับมาใช้การได้ทีละส่วนอย่างรวดเร็ว และเมื่อสายเชื่อมต่อพลังงานแบตเตอร์รี่ต่อเข้ากับช่อง USB มันก็กลับมามีชีวิตอีกครั้ง
ปลายนิ้วเรียวกดไปตามแป้นคีย์บอร์อย่างรวดเร็วเพื่อสร้างโปรแกรมและเตรียมแฮคเข้าระบบของสถานที่เป้าหมาย
แต่อารมณ์ดีๆ รอยแสยะยิ้มกว้าง และเสียงหัวเราะกลับถูกขัดจังหวะด้วยเสียงปืน มือเรียวข้างหนึ่งรีบคว้าปืนยาวใกล้ตัวที่เก็บมาจากลูกน้องของคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าขึ้นมาส่องในขณะที่มืออีกข้างยังคงแตะอยู่ที่คีย์บอร์ด ดวงตาสีฟ้าเหลือบลงมองหน้าจอกระจกที่แตกกระจายอย่างหงุดหงิด แต่ในใจนั้นแอบกระตุกยิ้มเล็กน้อยที่ไฟคีย์บอร์ดยังติดอยู่
“ดูเหมือนแกจะชอบมาขัดความสนุกของชั้นอยู่เรื่อยเลยนะไอ้แก่ตูดหมึก” ริมฝีปากแสยะยิ้มกว้าง “นึกแล้วว่าแกจะต้องส่งลูกน้องออกมาหยั่งเชิงก่อนที่จะออกโรงเอง”
“เพราะชั้นรู้ว่าแกจะต้องวางกับดักเอาไว้ แล้วก็ส่งไอ้เด็กหน้ากิ้งก่านั่นมาตามเก็บพวกมันน่ะสิ”
“รู้ดีจริงนะไอ้แก่ตูดหมึก”
“หุบปาก ชั้นไม่ยอมให้แกส่งอะไรไปหาตำรวจที่ไหนได้หรอกเฟ้ย”
“ก็แล้วใครบอกว่าชั้นจะทำแบบนั้นล่ะ ?”
ทันทีที่นิ้วกดลงบนแป้นคีย์บอร์ด เสียงหัวเราะตามแบบฉบับของปีศาจแห่งเดวิลแบ๊ทก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงสัญญาณเตือนภัยที่ดังก้องไปทั่วทั้งตึก ไฟสีแดงกระพริบไปทั่วท่ามกลางความมืด
“ตัวช่วยน่ะไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นตำรวจก็ได้นี่หว่า จริงมั้ย ?” น้ำเสียงกับรอยแสยะยิ้มนั้นยียวนกวนประสาท “ต้องใช้เวลาเท่าไหร่กันน้า กว่าจะมีคนช่วยโทรไปเรียกตำรวจให้น่ะ ?”
“ไอ้ลูกเวรนี่ !! ชั้นน่าจะหักแขนหักขาแกแล้วจับมัดไว้ตั้งแต่แรก !!”
“ถึงงั้นชั้นก็จะหาทางหนีให้ได้เฟ้ย !! นี่มันชีวิตชั้น แล้วน้ำหน้าอย่างแกก็ไม่มีสิทธิมายุ่ง !!!!”
รองเท้าบู๊ทพุ่งเข้ามาถีบร่างบางลงกระแทกกับคอมพิวเตอร์แล้วเยียบกดเอาไว้แบบนั้นในชั่วพริบตา ปืนในมือถูกยิงกระเด็นไปก่อนจะทันได้เหนี่ยวไก กระสุนนัดแล้วนัดเล่ายิงอาวุธในมือของร่างบางที่ฮึดสู้หยิบออกมาจากที่ซ่อนทิ้งหมด และฟาดใบหน้าคมเต็มแรงด้วยตัวปืนเป็นการปิดท้าย
“ไอ้ลูกเนรคุณอย่างแกยังมีหน้ามาพูดว่าชั้นไม่มีสิทธิยุ่งทั้ง ๆ ที่ชั้นเป็นคนทำให้แกเกิดมาแล้วก็เสียเงินเสียทองเลี้ยงมา แล้วทีแกล่ะทำอะไรบ้าง แทนที่จะหาทางช่วยชั้นกับแม่แกออกมา แต่กลับมาวิ่งเล่นไร้สาระกับไอ้พวกเหลือขอนั่น !!! ชีวิตงี่เง่า ๆ ไร้สาระแบบนี้เนี่ยนะที่แกรักนักรักหนา ?”
“ฮึ เลี้ยง ? ใช่ ก็แค่ให้ข้าวให้น้ำกับสอนนู่นนี่ให้เหมือนเป็นหมาเอาไว้ใช้ตัวนึงจริงๆ นั่นแหละ งั้นชั้นก็ควรจะซาบซึ้งสินะ แต่แกน่ะลืมอะไรไปอย่างรึเปล่าว่า หมาน่ะ มันช่วยเจ้านายแหกคุกไม่เป็นหรอกนะ”
ใบหน้าคมและดวงตาสีฟ้าเงยขึ้นสบกับผู้เป็นพ่ออย่างท้าทาย ไม่ว่าร่างจะถูกอัดและถูกกระทืบซ้ำมากมายขนาดไหน ไม่ว่าลูกกระสุนจะพุ่งผ่านร่างไปอีกสักกี่นัดก็ตาม เขายังคงแสยะยิ้มได้เหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นและเยาะเย้ยชายที่โกรธจนขาดสติว่า น้ำหน้าอย่างเขาไม่มีวันที่จะชนะ เพราะสิ่งที่ชายคนนี้ทำได้ก็มีแค่การปลดปล่อยอารมณ์ที่เกรี้ยวกราดออกมาอย่างป่าเถื่อนเท่านั้น
“คนอย่างแกน่ะ ก็มีปัญญาทำได้แค่นี้แหละ” ริมฝีปากเผยอขึ้นเยาะเย้ยด้วยคำพูดเดิม “เทียบกันแล้ว ไอ้พวกสวะเหลือขอที่แกเรียกซ้ำ ๆ ซาก ๆ นั่นยังมีค่ามากกว่าแกเยอะ ดูสิ มันยังรู้จักกลับมาช่วยชั้น ไม่เหมือนกับแก”
ชายวัยกลางคนรีบหันไปมองทางประตู แต่ก็กลับเห็นแต่เพียงความว่างเปล่า และเมื่อหันกลับมามองที่เด็กหนุ่มอีกครั้ง ก็มีเพียงคอมพิวเตอร์กับมือถือนับห้าสิบกว่าเครื่องวางอยู่เป็นของดูต่างหน้าเท่านั้น
“ฮิรุม่า !!!”
เขาตะโกนอย่างเกรี้ยวกราดแล้วรีบวิ่งออกนอกห้อง ปืนสั้นกระบอกใหม่ถูกหยิบออกมาถือเอาไว้ในมือและพร้อมที่จะยิงเป้าหมายได้ทุกเมื่อ
“เอาสิ ถ้าแกคิดว่าจะหนีไปจากชั้นได้ก็ลองดู” รอยแสยะยิ้มปรากฏบนใบหน้า “อยากกลับไปหาพวกมันนักใช่มั้ย ก็เอาสิ ชั้นจะทำให้แกเห็นว่าพวกมันตายได้อย่างไร้ค่าขนาดไหน”
End Chapter 03
ความคิดเห็น