ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My Own Path [ Fic : Eyesheild 21 ]

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 03

    • อัปเดตล่าสุด 29 ต.ค. 50










    Fanfiction

     

    Project : Eyesheild 21

     

    My Own Path

     

    Chapter 03

     

     

    การเปิดฉากตะลุมบอลกับหัวโจกของกลุ่มโจรไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ  แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เดมอนแห่งเดวิลแบ็ทจะจัดการไม่ได้  ยิ่งพวกลิ่วล้อเข้ามาร่วมวงมากเท่าไหร่  ก็ยิ่งทำให้กัปตันทีมมีช่องว่างที่จะฉวยโอกาสได้มากขึ้นเท่านั้น

    คิดซะว่าห้องนี่คือสนาม  กุญแจคือลูกบอล  หน้าต่างนี่คือทัชดาวน์  ถือซะว่าเจ้าพวกลิ่วล้อตูดหมึกที่เข้ามาคือไลน์แมน แล้วก็ใช้ฝีมือการเล่นอเมริกันฟุตบอลของพวกแกจัดการพวกมันซะ

    นั่นคือคำพูดที่ผู้นำแห่งทีมเดวิลแบ็ทว่าเอาไว้  และตัวสำรองของเดมอนกับผู้นำทีมคาเมเลออนก็เฝ้าท่องเอาไว้ในใจขณะหลบหลีกและพุ่งเข้ากระแทกฝ่ายตรงข้ามด้วยเทคนิคและกำลังทั้งหมดที่มี

    ความชุลมุนวุ่นวายของกลุ่มคนที่วิ่งไล่จับกลุ่มนักกีฬาอเมริกันฟุตบอลทั้ง 3 คน  ทำให้ชายวัยกลางคนที่เป็นเป้าหมายเสียหลักไปหนึ่งก้าว  ควอเตอร์แบ็คของเดวิลแบ็ทจึงฉวยโอกาสนั่นพุ่งเข้าไปกระแทกเป้าหมายเต็มแรง   ฟันซี่แหลมทั้งหมดตามเข้ามาคว้ากระชากพวงกุญแจออกมาจากเข็มขัดแล้วเหวี่ยงไปให้ไลน์แบ็คเกอร์ของคาเมลอนที่กระโดดเหยียบหัวผู้เล่นฝั่งตรงข้ามเข้ามาใช้ปากรับได้อย่างแม่นยำ   แต่เขาก็ทำได้แค่หลบคนที่พุ่งเข้ามาหา   ตัวสำรองของทีมผู้แย่งกุญแจจึงใช้ลัคกี้เชนจ์ของตัวเองเข้ามาช่วยเบียดกระแทกฝ่ายศัตรูออกไป  และเปิดโอกาสให้ผู้ถือครองกุญแจได้โยนแล้วรับมันเอาไว้ในมือเพื่อปลดล๊อคและเอาโซ่ที่พันธนาการออก

    ทันทีที่ร่างกายเป็นอิสระ  แขนที่ยาวกว่าคนทั่วไปเล็กน้อยและร่างสูงโปร่งแต่กำยำแข็งแรงก็พุ่งเข้าแท็คเคิลคนที่จะเข้ามาจับตัวสำรองได้ทัน  ก่อนจะคว้าร่างนั้นขึ้นบ่าและเบี่ยงหลบทั้งหมัด  ลูกเตะ  รวมทั้งกระสุนปืน  เพื่อมุ่งไปยังทางออกเพื่อทำทัชดาวน์   แต่ในวินาทีที่เข้ามายืนอยู่เบื้องหน้าประตูได้สำเร็จ  ขาทั้งสองข้างกลับไม่ก้าวข้ามมันไป

    มัวทำอะไรอยู่ฟะ  กระโดดออกไปสิเฟ้ย!!” เสียงตวาดที่ดังก้องจากควอเตอร์แบ็คทำลายความลังเลนั้น  แค่นี้ชั้นจัดการเองได้เว้ย!!”

    คุณฮิรุม่า!!!”

    ตัวสำรองได้แต่ร้องเรียกผู้เล่นที่ยังคงอยู่ในสนามอย่างตื่นตระหนก  ถึงแม้จะรู้อยู่แก่ใจว่ามันเป็นสิ่งที่จะต้องเกิดขึ้น  แต่การที่จะต้องเห็นคนที่เปรียบเสมือนเป็นกัปตันของทีมเดวิลแบ็ทถูกทีมฝั่งตรงข้ามสกัดเอาไว้  มันอดที่จะร้องเรียกและหวังที่จะได้เห็นอีกฝ่ายกระโดดตามลงมาไม่ได้

    จะเรียกทำไมฟะ!!  เจ้านั่นก็บอกแล้วไม่ใช่รึไงว่าจัดการได้น่ะ !!” มันเป็นจอมโฉดแห่งเดวิลแบ็ทก็ต้องเอาตัวรอดได้สิวะ   ผู้เล่นตัวจริงว่าในขณะที่บังคับให้ขานั้นวิ่งต่อไปข้างหน้า  แม้ใจจะอยากหันกลับไปช่วยหัวหน้าทีมในสนามก็ตาม   

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    หนึ่งในห้องที่อยู่ภายในตึก

     นั่นมันเสียงอะไรน่ะ ? 

    ฮาบาชิระถามอย่างเหนื่อยๆ  หลังจากที่ได้นอนพักอยู่ในห้องๆ หนึ่งกับยูกิมิตสึและฮิรุม่าที่หนีรอดออกมาจากสนามได้แล้วตามมาสมทบในภายหลัง

    นะ....นั่นสิครับ.... ตัวสำรองทีมเดวิลแบ็ทว่าอย่างหวาดๆ  และมองที่ประตูอย่างลุกลี้ลุกลน  ร่างผอมสูงสั่นไปด้วยความกลัว  แต่กระนั้นก็ยังมีความกล้าหลงเหลือมากพอที่จะขยับหากเกิดอะไรขึ้น

    เคี๊ยก ๆ ๆ ๆ จะอะไรซะอีก  ก็หนูติดกับดักไง 

    เสียงหัวเราะและใบหน้าโฉดของคนสุดท้ายที่ตื่นขึ้นกลับเผยให้เห็นอารมณ์ทุกอย่างที่ตรงกับข้ามกับอีกสองคนอย่างสิ้นเชิง   ออร่าดำมืดที่แผ่ซ่านออกมาอย่างโจ่งแจ้งทำให้พวกเขาผงะถอยและรู้สึกหวาดๆ  กับปีศาจที่อยู่ตรงหน้ามากกว่าแก๊งคนโฉดที่เพ่นพ่านอยู่นอกห้องซะอีก

    ไปวางเอาไว้ตอนไหนเนี่ย ?  ฮาบาชิระถามเหงื่อตก

    ก็ก่อนที่จะมาหาพวกแกไง  ลำบากนิดหน่อยที่ต้องใช้ของแถวๆ นั้น  แต่ดูเหมือนจะใช้การได้ดี  แล้วท่านก็หัวเราะตามแบบฉบับเป็นการปิดท้าย  ทำให้คนฟังต่างเสียวสันหลังวาบและรู้ซึ้งถึงความน่ากลัวและความสามารถของเดมอน

    ประชุมเพลิง   ปีศาจแห่งเดวิลแบ็ทกระดิกนิ้วเรียก  แล้วพูดพลางแสยะยิ้มกว้างจนเห็นฟันยาวแหลมเกือบหมดทุกซี่  จะเริ่มแผนหนูไล่จับแมวกันแล้วนะเฟ้ย  ฟังกันให้ดี ๆ ล่ะ......    

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    พวกเราจะแยกย้ายกันไป  ทางออกนี่คือทัชดาวน์  เพราะงั้นต่อให้เสี่ยงตายยังไงก็ต้องไปให้ถึงให้ได้นะเฟ้ย  แกน่ะถ้าเจอใครให้หลบใกล้ ๆ สัญลักษณ์นี่  แล้วก็อย่าสะเออะออกมาจนกว่าทางจะโล่งนะเฟ้ย

    คำสั่งของควอเตอร์แบ็คที่ตัวสำรองในสนามได้มาฟังดูง่ายๆ  แต่กลับโหดหินจนหืดขึ้นคอ  เพราะร่างกายที่บาดเจ็บมันทำให้แทบจะเดินไปไม่ถึงไหน   และถ้าสามารถหลบทีมฝั่งตรงข้ามได้ซักคนหรือเจอรอยขีดที่เป็นสัญลักษณ์ก็นับว่าโชคดีแล้ว

    แม้ความเจ็บปวดยังคงรุมเร้าให้ขาหยุดเดินและบังคับให้ร่างที่อ่อนล้านั้นล้มลง   แต่พวกมันก็ยังคงก้าวต่อไปด้วยความมุ่งมั่น  ไม่ว่าจะต้องลำบากมากขนาดไหนก็ตาม  แม้ความหมายที่แท้จริงของหน้าที่ในสนามคือ  การเป็นตัวล่อพวกคนโฉด    ใจมันก็ยังคงเชื่อมันในตัวของกัปตันทีมอยู่เสมอ

    อย่างเราก็ทำได้แค่นี้ล่ะนะ  แรงก็น้อย  สู้ใครเขาก็ไม่ไหว  มีดีก็แค่ความพยายาม  แต่คุณฮิรุม่าก็ยังอุตส่าห์ให้เราช่วย......เขาช่วยเราเอาไว้หลายครั้ง.......ถ้าไม่มีเขาเราก็คงจะไม่ได้เข้าทีมเดวิลแบ็ทและได้ทำในสิ่งที่อยากทำร่วมกับทุกคน........เพราะงั้นเราจะยอมแพ้ไม่ได้   เราต้องทำให้ได้ !’

    แม้มันจะเป็นเพียงความคิดที่วนเวียนอยู่ในหัว  แต่มันก็เพียงพอแล้วที่จะผลักดันให้ขาก้าวออกไปเผชิญหน้ากับอันตรายที่รออยู่เบื้องหน้าทั้ง ๆ ที่ใจยังคงหวาดกลัว   

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    พวกเราจะแยกย้ายกันไป ทางออกนี่คือทัชดาวน์  เพราะงั้นต่อให้เสี่ยงตายยังไงก็ต้องไปให้ถึงให้ได้นะเฟ้ย  แกน่ะไปทางนี้แล้วเก็บไอ้พวกลิ่วล้อตูดหมึกระหว่างทางให้หมด   สัญลักษณ์นี่คือตัวช่วยของแก   ถ้าเจอมันล่ะก็ทำตามไพ่พวกนี้ซะ

    มันยังจะไปมีเวลามานั่งทำไพ่พวกนี้ขึ้นมาอีก  สุดๆ เลยว่ะ

    ผู้เล่นตัวช่วยคิดพลางมองไพ่หนึ่งสำรับในมือ  ถึงแม้แผนมันจะเหมือนกับแค่สั่งให้วิ่งเข้าไปถล่มให้ราบยังไงยังงั้นก็เถอะ   แต่เขาก็ต้องยอมรับว่ามันโดนใจ  และเหมาะกับเด็กเกชอบหาเรื่องฟาดปากคนอย่างเขาที่สุดแล้ว   

    ถ้าเจอเจ้าพวกนั้นตรงหน้าให้วิ่งหันหลังกลับแล้วหลบไปทางซ้าย.....

    เขาอ่านข้อความบนไพ่ในใจพลางวิ่งไปตามนั้น  และเมื่อเขาหยุดอยู่เบื้องหลังเส้นสีแดงที่ขีดอยู่บนเสาสี่เหลี่ยมต้นหนึ่ง  เสียงร้องโวยวายกับอะไรบางอย่างล้มระเนระนาดก็ดังขึ้น  ถึงแม้จะไม่เห็นว่าไอ้กับดักของจอมปีศาจนักวางแผนจะทำงานยังไง  แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปดูผลของมัน

    ดีนะที่อยู่ฝ่ายเดียวกับไอ้โฉดนั่น..... ในใจรู้สึกโล่งสุดๆ ที่ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของกับดักพวกนั้น

    ถ้าเจอคนดักตีทางด้านหลังให้หมอบลงแล้วขัดขามัน  จากนั้นก็.....คว้าก้อนหินแถวนั้นมาโยนไปทางด้านซ้าย ?’

    ด้วยความที่ปฏิกิริยาตอบสนองนั้นคุ้นเคยกับการต่อยตีกับชาวบ้านเขาไปทั่ว  ทำให้เขาแทบไม่ต้องละสายตาไปจากไพ่และทำตามข้อความที่อยู่บนนั้นอย่างใจเย็น 

    กับดักต่างๆ ที่โผล่ออกมาจัดการเหยื่อของมันกลับดูน่ากลัวและเป็นอันตรายมากกว่า  เพราะมันทำงานได้อย่างแม่นยำและรับประกันผลได้ร้อยเปอร์เซนต์เหมือนยังกับว่าคนสร้างได้คิดคำนวนเอาไว้ถี่ถ้วนแล้วว่า  ถ้าเป็นคนที่มีรูปร่าง  ความสูง  และน้ำหนักเท่านี้แล้วล่ะก็  ไม่มีทางหลบหรือหยุดกับดักได้ทันแน่ ๆ

    โอ้หมอนั่นมันคิดล่วงหน้าไปกี่ขุมวะเนี่ย ?  น่ากลัวจริง ๆ  ใช้เวลาแค่ช่วงก่อนที่จะมาเจอชั้นกับไอ้ขี้ก้างนั่นทำทั้งหมดนี่จริง ๆ เรอะ ?

    แต่ในใจก็ไม่คิดที่จะถามออกมาจริง ๆ เพราะกับดักและคำแนะนำทั้งหมดที่อยู่ในมือได้พิสูจน์ความสามารถของเจ้าของแผนการให้เห็นเป็นที่ประจักษ์แล้ว

    รอดออกไปให้ได้นะเฟ้ย  พวกนาย  2  คนน่ะ 

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    บานประตูถูกเลื่อนเปิดออกและปิดล็อกแผ่วเบาหลังร่างสูงผอม  ดวงตาสีฟ้าจับจ้องไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์เก่า ๆ  ที่อยู่กลางห้องที่เคยใช้เป็นที่ทดลองอะไรบางอย่าง

    อยู่ที่นี่ตามที่แบบแปลนนั่นบอกเป๊ะเลย  เสียงหัวเราะเคี๊ยกๆ ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบภายในห้อง   ไอ้แก่ตูดหมึกมันประมาทเกินไปแล้วที่คิดว่าชั้นจะไม่มีปัญญาหามาแทนเครื่องที่แกพังไปน่ะ

    มือถือที่อยู่รอดปลอดภัยถูกหยิบออกมาเพื่อค้นหาสัญญาณ  ถึงขีดบนหน้าจอจะไม่ปรากฏขึ้น  รอยแสยะยิ้มก็ยังคงอยู่  และมือเรียวหยิบมือถือเกือบ 50  เครื่องที่ตามเก็บมาจากพวกแมวติดกับดักออกมาวางเพื่อเตรียมใช้แผน 2

    ฝ่ามือทั้งสองข้างขยับอย่างคล่องแคล่วไปบนเครื่องจักรที่ใช้การไม่ได้  แล้วค่อยๆ  ซ่อมแซมมันให้กลับมาใช้การได้ทีละส่วนอย่างรวดเร็ว  และเมื่อสายเชื่อมต่อพลังงานแบตเตอร์รี่ต่อเข้ากับช่อง USB  มันก็กลับมามีชีวิตอีกครั้ง 

    ปลายนิ้วเรียวกดไปตามแป้นคีย์บอร์อย่างรวดเร็วเพื่อสร้างโปรแกรมและเตรียมแฮคเข้าระบบของสถานที่เป้าหมาย

    แต่อารมณ์ดีๆ  รอยแสยะยิ้มกว้าง  และเสียงหัวเราะกลับถูกขัดจังหวะด้วยเสียงปืน  มือเรียวข้างหนึ่งรีบคว้าปืนยาวใกล้ตัวที่เก็บมาจากลูกน้องของคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าขึ้นมาส่องในขณะที่มืออีกข้างยังคงแตะอยู่ที่คีย์บอร์ด  ดวงตาสีฟ้าเหลือบลงมองหน้าจอกระจกที่แตกกระจายอย่างหงุดหงิด  แต่ในใจนั้นแอบกระตุกยิ้มเล็กน้อยที่ไฟคีย์บอร์ดยังติดอยู่

    ดูเหมือนแกจะชอบมาขัดความสนุกของชั้นอยู่เรื่อยเลยนะไอ้แก่ตูดหมึก  ริมฝีปากแสยะยิ้มกว้าง  นึกแล้วว่าแกจะต้องส่งลูกน้องออกมาหยั่งเชิงก่อนที่จะออกโรงเอง

    เพราะชั้นรู้ว่าแกจะต้องวางกับดักเอาไว้  แล้วก็ส่งไอ้เด็กหน้ากิ้งก่านั่นมาตามเก็บพวกมันน่ะสิ

    รู้ดีจริงนะไอ้แก่ตูดหมึก  

    หุบปาก  ชั้นไม่ยอมให้แกส่งอะไรไปหาตำรวจที่ไหนได้หรอกเฟ้ย

    ก็แล้วใครบอกว่าชั้นจะทำแบบนั้นล่ะ ?

    ทันทีที่นิ้วกดลงบนแป้นคีย์บอร์ด  เสียงหัวเราะตามแบบฉบับของปีศาจแห่งเดวิลแบ๊ทก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงสัญญาณเตือนภัยที่ดังก้องไปทั่วทั้งตึก  ไฟสีแดงกระพริบไปทั่วท่ามกลางความมืด

    ตัวช่วยน่ะไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นตำรวจก็ได้นี่หว่า  จริงมั้ย ?  น้ำเสียงกับรอยแสยะยิ้มนั้นยียวนกวนประสาท  ต้องใช้เวลาเท่าไหร่กันน้า  กว่าจะมีคนช่วยโทรไปเรียกตำรวจให้น่ะ ?

    ไอ้ลูกเวรนี่ !!  ชั้นน่าจะหักแขนหักขาแกแล้วจับมัดไว้ตั้งแต่แรก !!”

    ถึงงั้นชั้นก็จะหาทางหนีให้ได้เฟ้ย !!  นี่มันชีวิตชั้น  แล้วน้ำหน้าอย่างแกก็ไม่มีสิทธิมายุ่ง  !!!!”

    รองเท้าบู๊ทพุ่งเข้ามาถีบร่างบางลงกระแทกกับคอมพิวเตอร์แล้วเยียบกดเอาไว้แบบนั้นในชั่วพริบตา   ปืนในมือถูกยิงกระเด็นไปก่อนจะทันได้เหนี่ยวไก  กระสุนนัดแล้วนัดเล่ายิงอาวุธในมือของร่างบางที่ฮึดสู้หยิบออกมาจากที่ซ่อนทิ้งหมด   และฟาดใบหน้าคมเต็มแรงด้วยตัวปืนเป็นการปิดท้าย

    ไอ้ลูกเนรคุณอย่างแกยังมีหน้ามาพูดว่าชั้นไม่มีสิทธิยุ่งทั้ง ๆ ที่ชั้นเป็นคนทำให้แกเกิดมาแล้วก็เสียเงินเสียทองเลี้ยงมา  แล้วทีแกล่ะทำอะไรบ้าง   แทนที่จะหาทางช่วยชั้นกับแม่แกออกมา   แต่กลับมาวิ่งเล่นไร้สาระกับไอ้พวกเหลือขอนั่น  !!!    ชีวิตงี่เง่า ๆ  ไร้สาระแบบนี้เนี่ยนะที่แกรักนักรักหนา ?

    ฮึ  เลี้ยง ? ใช่  ก็แค่ให้ข้าวให้น้ำกับสอนนู่นนี่ให้เหมือนเป็นหมาเอาไว้ใช้ตัวนึงจริงๆ  นั่นแหละ  งั้นชั้นก็ควรจะซาบซึ้งสินะ  แต่แกน่ะลืมอะไรไปอย่างรึเปล่าว่า  หมาน่ะ  มันช่วยเจ้านายแหกคุกไม่เป็นหรอกนะ

    ใบหน้าคมและดวงตาสีฟ้าเงยขึ้นสบกับผู้เป็นพ่ออย่างท้าทาย  ไม่ว่าร่างจะถูกอัดและถูกกระทืบซ้ำมากมายขนาดไหน  ไม่ว่าลูกกระสุนจะพุ่งผ่านร่างไปอีกสักกี่นัดก็ตาม  เขายังคงแสยะยิ้มได้เหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นและเยาะเย้ยชายที่โกรธจนขาดสติว่า  น้ำหน้าอย่างเขาไม่มีวันที่จะชนะ  เพราะสิ่งที่ชายคนนี้ทำได้ก็มีแค่การปลดปล่อยอารมณ์ที่เกรี้ยวกราดออกมาอย่างป่าเถื่อนเท่านั้น

    คนอย่างแกน่ะ  ก็มีปัญญาทำได้แค่นี้แหละ  ริมฝีปากเผยอขึ้นเยาะเย้ยด้วยคำพูดเดิม เทียบกันแล้ว  ไอ้พวกสวะเหลือขอที่แกเรียกซ้ำ ๆ ซาก ๆ นั่นยังมีค่ามากกว่าแกเยอะ  ดูสิ  มันยังรู้จักกลับมาช่วยชั้น  ไม่เหมือนกับแก

    ชายวัยกลางคนรีบหันไปมองทางประตู  แต่ก็กลับเห็นแต่เพียงความว่างเปล่า  และเมื่อหันกลับมามองที่เด็กหนุ่มอีกครั้ง  ก็มีเพียงคอมพิวเตอร์กับมือถือนับห้าสิบกว่าเครื่องวางอยู่เป็นของดูต่างหน้าเท่านั้น

    ฮิรุม่า !!!”

    เขาตะโกนอย่างเกรี้ยวกราดแล้วรีบวิ่งออกนอกห้อง  ปืนสั้นกระบอกใหม่ถูกหยิบออกมาถือเอาไว้ในมือและพร้อมที่จะยิงเป้าหมายได้ทุกเมื่อ

    เอาสิ  ถ้าแกคิดว่าจะหนีไปจากชั้นได้ก็ลองดู  รอยแสยะยิ้มปรากฏบนใบหน้า อยากกลับไปหาพวกมันนักใช่มั้ย  ก็เอาสิ  ชั้นจะทำให้แกเห็นว่าพวกมันตายได้อย่างไร้ค่าขนาดไหน

     

    …End Chapter 03…

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×