ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Under Lie [Fic : Hunter x Hunter]

    ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 01

    • อัปเดตล่าสุด 4 พ.ย. 50






    Fanfiction

    Project : Hunter x Hunter

    Under Lie

    Chapter 01

     

     

    ท้องฟ้าที่มืดมิดเต็มไปด้วยดวงดาวล้อมรอบดวงจันทร์ที่ส่องแสงสีขาวนวล   เมฆสีครามหม่นค่อยๆ ลอยไปตามสายลม เหมือนดังเช่นคืนอื่น ๆ   แต่มีเพียงคืนนี้เท่านั้นที่ฟากฟ้ากลับมีสีแดงสลัวของดวงจันทร์สีแดงฉาน  มันฉายฉาดไปทั่วพื้นเบื้องล่างและรอดผ่านกระจกหน้าต่างลงบนร่างของเด็กผู้ชายอายุประมาณสิบสองปีที่ยืนนิ่งอยู่กลางห้องมืดมิดแห่งหนึ่ง

    นัยน์ตากลมสีเขียวหม่นซีดหรี่ลงและจ้องมองร่างของชายหนุ่มที่กำลังหลับสนิทอยู่ใต้ผ้าห่ม  นิ้วเล็กๆ เกร็งจนเส้นเลือดปูดโปนและบังคับให้เล็บงอกยาวออกมาจนเรียวแหลม  พวกมันค่อยๆ ทิ่มทะลุผ่านผ้าห่มผืนบางและผิวเนื้อที่อ่อนนุ่มอย่างช้าๆ  จนเหมือนกับว่าร่างนั้นเป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น

    เด็กชายได้แต่ยืนนิ่งมองสิ่งที่ตนควักออกมากับมือด้วยใบหน้าที่ไม่ต่างกับตุ๊กตาไร้ชีวิต   เขายังคงยืนนิ่งแม้จะถูกแขนสองข้างที่โผล่ออกมาจากความมืดทางด้านนั้นกอดรอบคอเอาไว้  และไม่ตอบสนองกับเสียงเย็นชาแต่แฝงไปด้วยอารมณ์ขันที่ฟังดูคุ้นหู

    ทำได้ดีมากคิล  แปลกนะที่เห็นนายใช้ยากับเป้าหมาย  นิ้วเรียวยาวยกขึ้นไล้ผิวหน้าขาวเนียนของเด็กชาย

    ชั้นก็แค่ไม่อยากได้ยินเสียงหรือออกแรงมากก็แค่นั้นแหละ

    มือเล็กๆ ปล่อยให้หัวใจร่วงหล่นลงพื้นและเคลื่อนเข้ามาใกล้ริมฝีปาก  ปลายลิ้นค่อยๆ เลียหยาดเลือดสีแดงสดออกทีละนิ้วๆ  นัยน์ตาที่ยังคงซ่อนอยู่ในความมืดมองการกระทำนั้นอย่างมีความสุข  ใช่  ความสุขอย่างหนึ่งที่ได้เห็นน้องชายเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดและยินดีปรีดากับการฆ่าคน 

    คงยังไม่ลืมนะว่าถ้าไม่ทำแบบนี้  นายจะไม่ได้อยู่กับกอร์นเพื่อนของนายอีกผู้อยู่ในเงามืดพูดอย่างขำๆ

    รู้แล้วน่าพี่อิรุมิ  แค่ฆ่าก็พอใช่มั้ยล่ะ

    น้องชายตีสีหน้างอนๆ  นิดหน่อยกับคำพูดของคนที่เรียกว่าพี่ชาย  เขาอดหงุดหงิดไม่ได้ที่จะต้องมาต่อรองกับเรื่องไม่เป็นเรื่องอย่างการที่จะได้อยู่กับเพื่อนสนิท  แต่ก็ต้องยอมรับว่าข้อเสนอนี้ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว  เพราะนับแต่ออกจากบ้านมาอยู่กับเพื่อนสนิท  เขาก็ได้แต่อดกลั้นไม่ฆ่าคนมาหลายต่อหลายครั้งทั้งๆ ที่มีโอกาส 

    พูดแบบนั้นชั้นก็กลายเป็นคนไม่ดีสิ  นายน่ะเป็นคนตกลงเองนะ  ชั้นไม่ได้บังคับ

    เฮอะ  คงจะจริงหร๊อก  เล่นมากับข้อเสนอพร้อมเน็นแบบนั้นเด็กชายยังคงพูดประชดและกอดอกหันหน้าหนี  ภาพตอนที่เจอกันยังทำให้เขาขนลุกไม่หาย

    ไม่งั้นนายจะยอมอยู่ฟังดีๆ เหรอ  จะจับสัตว์เลี้ยงให้อยู่ก็ต้องทำให้มันกลัวจนไม่กล้าหนีก่อนสิ

    งั้นถ้าไม่ได้เป็นสัตว์เลี้ยงก็ไม่ต้องกลัวสินะ

    ยังชอบต่อปากต่อคำไม่เคยเปลี่ยน  เพราะแบบเนี้ยน่ะสิมิลกี้ถึงไม่ชอบนาย

    ผมก็ไม่ได้อยากให้เจ้าหมูตอนนั่นมาชอบผม

    แต่พี่กับพ่อชอบนะ.....ทุกอย่างที่เป็นนาย  ตราบใดที่นายยังเป็นแมวน้อยแสนเชื่องของชั้นกับพ่อ

    คิรัวร์ถอนหายใจแล้วปล่อยให้พี่ชายดึงเขาเข้าไปกอดแน่นแล้วไซ้ใบหน้าของเขา  ถึงแม้จะไม่รู้ว่าทำไมบางครั้งคนอื่นๆ โดยเฉพาะพี่ชายคนนี้ถึงชอบทำแบบนั้นแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรกับการแสดงความรักแปลกๆ ที่เห็นได้ยากของคนตระกูลโซลดิก

    นี่เป็นภารกิจครั้งต่อไป  พี่กระซิบที่ข้างหูของน้องชายอีกครั้งพร้อมกับยื่นกระดาษแผ่นเล็กๆ ให้   ชั้นจะเอานี่ไปให้นายจ้างเอง  นายน่ะกลับไปได้แล้ว  ไม่งั้นเพื่อนจะสงสัย

    อิรุมิว่าพลางยกแผ่นดิสก์ข้อมูลให้คิรัวร์ดู  เล็บยาวแหลมของนิ้วชี้และนิ้วกลางกรีดใบหน้าเด็กชายที่ยืนนิ่งเหมือนไม่รู้สึกอะไร บวกกับทิ้งรอยข่วนบาดลึกเอาไว้ที่แขนขวาไว้เป็นของที่ระลึกก่อนที่เด็กหนุ่มจะปล่อยร่างในอ้อมกอดให้เป็นอิสระ  เขาทิ้งคำพูดสุดท้ายเอาไว้ก่อนจะออกจากห้องไป

    ชั้นช่วยแล้วนะ  นายก็หาข้อแก้ตัวดีๆ ก็แล้วกัน

    ชิ!  เจ้าพี่บ้านั่น  ชอบทำอะไรตามใจตัวเองชะมัด  ช่วยบ้าอะไร  ทำให้มันยุ่งกว่าเดิมสิไม่ว่า  คิรัวร์ว่าพลางถอนหายใจขณะจับแผลบนหน้าที่เลือดยังคงไหลซิบ

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    เช้าวันรุ่งขึ้น

    อากาศยามเช้าช่างสดใส  แต่ร่างบนเตียงยังคงนอนคุดคู้อยู่ใต้ผ้าห่มไม่ยอมไปไหน  ทำให้อีกคนที่อยู่ในห้องต้องออกแรงมากพอดูกว่าจะลากร่างนั้นออกจากเตียงได้  ถึงเจ้าตัวจะรู้สึกหงุดหงิด  แต่พอเจอของหวานที่โปรดปรานก็อารมณ์ดีขึ้นทันที 

    นี่คิรัวร์  หน้าไปโดนอะไรมาเหรอ?  เด็กชายผมตั้งถามเมื่อสังเกตเห็นพลาสเตอร์ที่ปิดอยู่บนหน้าของเพื่อนขณะที่พวกเขากำลังนั่งกินไอติมในร้าน

    แมวข่วนน่ะ  พอดีเมื่อวานตอนออกไปหาน้ำกินกลางดึกไปจับมันเล่นผิดที่ผิดทางไปหน่อย 

    เด็กชายเจ้าของแผลก็ลื่นไหลไปได้หน้าตาย  และเพื่อนผู้ใสซื่อของเขาก็เชื่อสนิทโดยไม่สงสัยอะไรเลย  ถึงแม้เขาจะสังเกตเห็นว่าเจ้าตัวออกจากห้องไปเมื่อกลางดึกจริงก็ตาม

    ว่าแต่เรามาเมืองยอร์คชินซิตี้ได้เกือบอาทิตย์แล้วยังไม่ค่อยเห็นอะไรเลย  ไปสำรวจกันดีกว่านะกอร์นชวนด้วยน้ำเสียงเริงร่า

    ได้  ยังไงพวกเราก็ไม่มีอะไรทำระหว่างรอเลโอลีโออยู่แล้ว  อีกอย่างจะได้ไปหาเงินใช้ด้วย

    ไม่ได้นะคิรัวร์!! ห้ามเล่นพนันเด็ดขาดเลยนะ!  นายน่ะเล่นทีไรเสียทุกที!”

    ไม่ใช่ซะหน่อย!  นั่นมันแค่ดวงไม่ดีเท่านั้นเอง  ชั้นไม่เสียแบบนั้นอีกหรอกน่า!!”  ยังไงชั้นก็รู้ทริคที่พวกเจ้าของคาสิโนมันใช้หมดแล้ว  แค่ตลบหลังพวกมันซะก็เรียบร้อย

    ไม่ได้!” กอร์นยังคงปฏิเสธเสียงแข็งจนคิรัวร์ยอมเพราะขี้เกียจเถียง

    ชิ!  ก็ได้.....

    เย้!! งั้นไปสำรวจในเมืองกัน!!  เร็วเข้าคิรัวร์!”

    เด็กชายที่ถูกเร่งได้แต่ส่ายหัว  และยังคงลุกขึ้นเดินตามเพื่อนไฮเปอร์ของเขาไปด้วยความเร็วปกติ  แต่สายตาก็เหลือบขึ้นไปมองร่างที่หลบอยู่บนยอดตึกสูงแวบหนึ่งก่อนจะวิ่งตามเพื่อนไป  คนที่ถูกพบก็เพียงแค่มองตามหลังของเขาที่ห่างออกไปจนลับสายตา

    นายนี่ขี้กังวลจังนะ  ลูกแมวน้อยซนขนาดนั้นเลยเหรอ?  ชายหนุ่มอีกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นนักมายากรที่อันตรายที่สุดเดินเข้ามายืนข้างๆ  เสื้อผ้าสีขาว และผมตั้งสีแดงออกส้มของเขาดูเด่นท่ามกลางเงามืดในห้องที่ถูกทิ้งร้าง

    ชั้นก็แค่ไม่ชอบเท่านั้น

    ขอบของไพ่จ่ออยู่ที่คอของเหมือนกับว่าคนที่มาเยือนนั้นไม่พอใจกับคำตอบเท่าไหร่นัก  แต่กระนั้นรอยยิ้มเย็นๆ แต่แฝงไว้ด้วยความน่ากลัวก็ยังคงอยู่บนใบหน้าเหมือนเดิม

    ชั้นบอกแล้วนะว่าอย่าแตะต้องเหยื่อของชั้น

    งั้นนายก็เลิกยุ่งกับแมวน้อยของชั้นซะทีสิ  ก็แค่เด็กตระกูลฟรีกค์เท่านั้นที่สนใจไม่ใช่รึไง 

    เด็กหนุ่มเพียงแค่ผลักไพ่นั้นออกแล้วหันไปจ้องอีกฝ่ายด้วยนัยน์ตาสีดำขลับ  ใบหน้าของเขานั้นไร้อารมณ์แต่กลับแฝงไว้ด้วยความไม่พอใจอยู่ข้างในเช่นเดียวกัน  คำสัญญาที่หากฝ่ายใดละเมิดข้อตกลงจะถูกฆ่าทิ้งนั้นถูกแลกเปลี่ยนผ่านการสบตาอย่างเงียบๆ  แต่กระนั้นต่างฝ่ายต่างก็ยังคงมีการท้าทายข้อตกลงเพราะไม่อยากให้เหยื่อของตนหลุดมือไป

    ผลไม้ดีๆ น่ะมันก็ให้รสชาติที่แตกต่างกันนะ  อย่างลูกที่มันอยู่ตรงนี้ก็น่าลอง

    เสียงที่นุ่มลึกแกล้งแหย่  ใบหน้าคมสันเคลื่อนเข้ามาใกล้แต่ก็ถูกหยุดเอาไว้ด้วยฝ่ามือของคนที่เหมือนจะถูกรุกด้วยคำพูดและการกระทำที่อันตรายในหลายๆ แบบ

    ชั้นเคยบอกแล้วนะว่าให้เลิกล้อเล่นแบบนี้  ชั้นไม่เคยอยู่ในสายตานายซะหน่อย  เรามันก็แค่เพื่อนทางธุรกิจเท่านั้น

    แหม  ใจร้ายจัง  เรารู้จักกันมา 2 ปีกว่าแล้วนะอิรุมิเพื่อนรัก

    ฝ่ายที่ถูกเรียกว่าเพื่อนยักไหล่เหมือนกับจะบอกว่า  2  ปีแล้วไง  และมองอีกฝ่ายอย่างเอือมระอากับน้ำเสียงตัดพ้อที่เจ้าตัวชอบแกล้งทำทั้งๆ ที่รอยยิ้มบนใบหน้ามันไม่ไปกับการพูดนั้นเลยซักนิด     

     ชั้นไปล่ะ

    ด้วยความที่ไม่อยากจะอยู่ต่อปากต่อคำไร้สาระ  ทำให้ชายหนุ่มตระกูลโซลดิกพูดตัดบทเอาดื้อๆ แล้วเดินจากไป โดยไม่สนใจคนข้างหลังที่ย้ำให้รักษาข้อตกลงอีกครั้ง 

    นายจะว่าชั้นไม่ได้หรอกอิรุมิ   มันเป็นความผิดของนายเองที่จงใจให้เป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับแก๊งโจรเงามายาไปแบบนั้น   เพราะงั้นถ้าชั้นจะมีโอกาสได้เล่นกับแมวน้อยของนาย  มันก็ช่วยไม่ได้  ขอแค่ไม่ตาย  แหย่นิดแหย่หน่อยจะเป็นไรไป

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    เวลาเดินเที่ยวในตลาดนั้นผ่านไปอย่างรวดเร็ว  เด็กผู้ชายสองคนสนุกกับการได้ใช้เวลาร่วมกัน  และต่างได้ติดไม้ติดมือมาคนละอย่างสองอย่าง  แต่ก่อนที่จะเดินไปยังร้านอาหารที่เป็นที่นัดหมาย  เด็กผู้หญิงผมสั้นสีดำใส่ชุดกิโมโนสีเดียวกันเดินมาหยุดยืนตรงหน้าพวกเขา

    คัลโต!?  มาทำอะไรที่นี่เนี่ย!?” เด็กชายหนึ่งในสองคนถามด้วยความแปลกใจ  แต่เด็กผู้หญิงกลับแค่เรียกชื่อของเขาเบาๆ

    ท่านพี่คิรัวร์.....

    เฮ้อ....อีกทีนะ  ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะคัลโต ? 

    คิรัวร์ว่าพลางถอนหายใจกับท่าทีของน้องสาวที่ไม่ต่างกับตุ๊กตาไร้ชีวิตที่สามารถเดินและพูดได้  มือของเขาลูบผมสั้นตรงสีดำอย่างเอ็นดู  ส่วนกอร์นยังคงยืนงงอยู่เงียบๆ  โดยที่ไม่รู้จะพูดอะไรกับสายตาของเธอที่ยังคงมองเขาเป็นศัตรู   และแทบถอนหายใจออกมาเมื่อเธอหันกลับไปมองพี่ชาย

    คัลโตมากับท่านแม่

    อะไรนะ !?  แม่มาที่นี่งั้นเหรอ !!?”  ผู้เป็นพี่ชายสะดุ้งโหยงและรีบมองซ้ายมองขวาอย่างร้อนลน   เพราะแน่นอนว่าคนที่เรียกว่าแม่  ไม่ใช่คนที่อยากเจอที่สุดในโลก

    เปล่าค่ะ  ท่านออกไปทำงานเลยทิ้งคัลโตไว้ที่เมืองนี้

    แล้วคัลโตหาพี่เจอได้ยังไง?  นี่ล่ะที่เขาสงสัย  ใช่ว่าเขามีสปายคอยสะกดรอยตามเหมือนเมื่อก่อน

    คัลโตเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะตอบ ท่านแม่บอกว่าท่านพี่อยู่ที่เมืองนี้  เพราะงั้นระหว่างรอถ้าอยากเจอก็ให้ลองตามหาดู  แล้วสายตาของเธอก็เลื่อนมามองกอร์นอีกครั้งและทำให้เขาสะดุ้งโหยงก่อนที่เธอจะพูดต่อ .....แค่ท่านพี่ 

    พอได้ยินแบบนั้น  ลูกชายตระกูลนักฆ่าก็อดที่จะถอนหายใจไม่ได้   เพราะดูเหมือนน้องสาวจะยังคงไม่ชอบเพื่อนสนิทของเขาเหมือนเดิม  อีกทั้งจะว่าเห็นใจเพื่อนที่รู้สึกอึดอัดกับการถูกเกลียดโดยไม่มีเหตุผลมันก็ใช่  แต่การที่จะไล่น้องสาวตัวเองไปเพื่อเพื่อนมันก็ทำไม่ได้ 

    จริงๆ นะคัลโต กอร์นเขา--” เขาคิดจะพูดให้น้องสาวเปลี่ยนความคิด  แต่ก็ถูกเธอขัดขึ้นมาก่อน

    คัลโตมีเรื่องอยากคุยกับท่านพี่ค่ะ

    อืม.....ตรงนี้ไม่ได้เหรอ ? 

    เขาถามด้วยความไม่แน่ใจ  เพราะรู้สึกว่าสายตาที่ว่างเปล่าของอีกฝ่ายจะจ้องมองมาเหมือนกับจะขอให้แยกไปคุยกันตามลำพัง  บางทีการที่เธอมาอยู่ที่นี่อาจจะไม่ใช่ความบังเอิญอย่างที่เห็น 

    งั้นก็ได้....ไหนๆ ก็ ได้เจอกันทั้งที  คัลโตคงอยากอยู่คุยกับพี่ล่ะสิ  คิรัวร์ว่าพลางลูบหัวน้องสาว  และตัดสินใจลองเล่นไปตามน้ำเพื่อดูว่าจริงๆ แล้วน้องสาวที่น่ารักมีอะไรซ่อนอยู่กันแน่

    คิ....คิรัวร์ ?

    กอร์นเรียกด้วยความสงสัย  และรู้สึกแปลกใจที่อยู่ๆ เพื่อนก็ตกลงไปง่ายๆ ทั้งๆ ที่เมื่อวินาทีก่อนยังลังเลใจ   แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปเมื่อเพื่อนแอบพยักหน้าเป็นเชิงส่งสัญญาณให้เขาเออออตามไปก่อน  แต่จะให้เออออกับอะไรล่ะ

    กอร์น  นายไปหาเลโอลีโอแล้วก็กลับไปที่โรงแรมก่อนก็แล้วกัน  ถ้ามีอะไรแล้วชั้นจะโทรไป  ไม่ต้องห่วง

    สัญญานะ...ถึงจะไม่แน่ใจว่ามีอะไรเกิดขึ้น  แต่เด็กชายที่ปกติจะใสซื่อก็ชักจะสังเกตเห็นแล้วว่าน่าจะมีอะไรไม่ชอบมาพากลอยู่เบื้องหลังการปรากฏตัวของน้องสาวเพื่อนสนิท

    เออน่า  เบอร์นายอยู่ในเครื่องชั้นแล้วไง  เด็กชายตระกูลโซลดิกแกล้งหยอก

    งั้นเดี๋ยวเจอกันที่โรงแรมนะคิรัวร์  บาย  คัลโตจัง

    คิรัวร์แทบจะรู้สึกขอบคุณที่กอร์นยอมจากไปและไหวตัวทันกับซิกที่เขาส่งไปให้  ไม่งั้นเขาคงจะหาข้ออ้างมากลบเกลื่อนไม่ทันและหนีไม่พ้นที่จะต้องยอมให้เพื่อนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแน่ๆ  เพราะการมาของคัลโตที่น่าจะมีพี่ชายตัวดีป็นคนจัดการอยู่เบื้องหลัง  ก็คงจะทำให้เรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้นไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก

    พี่อิรุมิขอให้มางั้นเหรอ ?  เขาถามพลางเดินตามน้องสาวไปบนถนนที่เต็มไปด้วยผู้คนและแสงไฟ

    ใช่ค่ะ  เพราะท่านพี่อิรุมิบอกว่าหนูจะช่วยให่ท่านพี่คิรัวร์ทำงานได้สะดวกขึ้น

    ต้องขอบใจสินะ  เฮ้อ....พี่พวกเรานี่แผนสูงไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ  แต่ยังไงกอร์นเขาก็สงสัยอยู่ดีนั่นแหละ

    เพราะท่านพี่อิรุมิรักท่านพี่คิรัวร์  ส่วนเรื่องของกอร์น  ฟรีกค์  ท่านพี่อิรุมิบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง  เพราะท่านพี่คิรัวร์จะทำให้เป็นแบบนั้นเธอหันมามองพี่ชายพร้อมกับรอยยิ้มบางๆ บนริมฝีปาก ใช่มั้ยค่ะ ?

    ชิ !  คัลโตก็เป็นไปกับเขาด้วยเหรอเนี่ย

    เพราะคัลโตรักท่านพี่คิรัวร์  จึงเกลียดกอร์น  ฟรีกค์ที่จะมาแย่งท่านพี่ไปจากพวกเรา 

    คิรัวร์รู้สึกแปลกใจนิดหน่อยเมื่อน้องสาวหันมากอดเขาแน่น   พอได้เห็นได้ยินน้องสาวพูดออกมาตรงๆ แบบนี้แล้ว  เขาก็ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงเพราะเข้าใจดีว่าทำไม   ในเมื่อเขาเป็นคนทำให้บางอย่างในตัวเธอนั้นหายไปด้วยการหนีออกจากบ้านมา   โลกของเธอจึงกลับมาสู่ความว่างเปล่าที่เงียบเหงาเหมือนตอนที่เธอยังไม่รู้ว่ามีเขาและอิรุมิเป็นพี่ชาย  และมันจะยังคงเป็นแบบนั้นตราบใดที่เขายังคงเอาแต่ดื้อดึงที่จะอยู่กับเพื่อนสนิทแบบนี้

    คัลโต.....ขอโทษนะ

    อือๆ  ท่านพี่คิรัวร์ไม่ผิด  คัลโตดีใจที่ได้เจอท่านพี่อีก  เด็กน้อยส่ายหน้าและยิ้มกว้างขึ้นอีกนิดให้กับผู้เป็นพี่ชาย  โดยหารู้ไม่ว่ามันยิ่งทำให้เจ้าตัวยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้น

    อือ....เรื่องที่จะพูดน่ะรีบรึเปล่า ?เธอส่ายหน้า งั้นอยากกินอะไรมั้ย  พี่เลี้ยงเอง 

    คำพูดในเชิงที่เป็นของหายากในตระกูลโซลดิกทำให้อีกฝ่ายอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้  เพราะต่อให้คนอื่นในตระกูลรักเธอมากแค่ไหน  แต่ก็จะมีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่ยอมพูดอะไรแบบนี้ออกมา

    ถ้ามันไม่เป็นการรบกวนท่านพี่เกินไปล่ะก็…..”  เธอหันไปมองร้านค้ารอบๆ  และสายตาก็ไปสะดุดอยู่ที่ร้านๆ  หนึ่งที่แม่เธอสั่งนักสั่งหนาว่าห้ามเข้าไปใกล้เพราะมันจะทำให้อ้วนน่าเกลียด   แต่ในเวลานี้ใครจะสนในเมื่อคนห้ามไม่อยู่  อืม.....นั่นเรียกว่าไอติมใช่มั้ยค่ะ?

    ได้เลย  คัลโตไม่เคยกินเพราะแม่ห้ามตลอดเลยนี่นะ 

    พี่ชายว่าอย่างขำๆ และพาน้องสาวเข้าไปซื้อ  พอได้กันมาคนละอันก็ออกเดินต่อ  ทั้งสองคนค่อยๆ เดินออกห่างจากเมืองมาเรื่อยๆ และเข้าสู่เขตก่อสร้างตึกที่ถูกทิ้งร้าง

    ดูท่าเพื่อนของคัลโตจะไม่ชอบที่ๆ มีคนนะ

    คิรัวร์ว่าลอยๆ กับบรรยากาศร้างผู้คน ออร่าของพลังเน็นที่เคยสัมผัสมาแล้ว  ทำให้เขาพอคาดเดาได้ถึงจุดประสงค์ของพี่ชาย  และเบื้องหลังของการมาของน้องสาว 

    ร่างเล็กกระโดดหลบหมัดและดาบที่พุ่งเข้ามาได้อย่างเฉียดฉิวหลังจากก้าวเข้าไปในตึกได้เพียงก้าวเดียว   ฝีเท้าก้าวหลบการโจมตีครั้งต่อไปด้วยวิชาเท้ามายา  แล้วปล่อยพลังเน็นออกมาเพื่อใช้ป้องกันและต้านกับพลังของฝ่ายศัตรู   แต่การหลบหลีกนั้นก็ทำได้ยากขึ้นเมื่อด้ายพุ่งเข้ามาร่วมผสมโรง 

    เฮ้ !  ชั้นยังกินไม่หมดเลยนะ ! นั่นน่ะรสโปรดของชั้นด้วย !!”

    คำทักท้วงที่ผิดคาดหลังจากไอติมรสโปรดร่วงหล่นลงพื้นทำให้การจู่โจมหยุดชะงัก  เจ้าของดาบและกำปั้นอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้  ในขณะที่เจ้าของด้ายยืนมองด้วยใบหน้านิ่งเฉยขณะเก็บอาวุธเข้าที่ซ่อน  ลูกชายตระกูลโซลดิกจึงถือว่าอีกฝ่ายไม่คิดจะต่อสู้  และปล่อยให้แขนของนักดาบในคราบซามูไรถือวิสาสะเข้ามาโอบไหล่

    ขำจริงๆ เลยให้ตายสิ  เนี่ยนะคำพูดของคนกำลังจะถูกฆ่า  ถามจริงเหอะว่าพูดจริงหรือเล่นมุขเนี่ย

    ก็พูดจริงน่ะสิ  นั่นน่ะรสหายากด้วยนะ  มีขายไม่กี่ที่เอง  ยิ่งเด็กชายแกล้งทำสีหน้าจริงจังตอบ  อีกฝ่ายก็ยิ่งขำ

    เรื่องนั้นน่ะช่างเหอะ ว่าแต่นายเปลี่ยนใจที่จะมาเข้ากลุ่มกับเราแล้วสิท่า  ไหน?  เพื่อนอีกคนไปไหนล่ะ?

    เปล่าซักหน่อย  ถ้ารู้ว่าต้องมาเจอพวกนายอีกล่ะก็  ไม่มาให้โง่หรอก

    งั้นนายก็เป็นพี่ชายของคัลโตที่ว่าสินะ....  ชายหนุ่มเจ้าของกำปั้นที่มีผมสั้นสีบลอนด์และสวมชุดวอร์มสีดำเดินเข้ามาถาม

    ใช่  เล่นโผล่หน้ามาให้ชั้นเห็นแถมต้อนรับกันอบอุ่นขนาดนี้  ไม่กลัวชั้นเอาไปป่าวประกาศรึไงว่าพวกนายซ่อนตัวกันอยู่นี่น่ะ?

    ไม่หรอก  เพราะตอนนี้นายรู้แล้วนี่ว่าน้องสาวเข้าร่วมกับพวกเรา  หัวหน้าแก๊งเดินเข้ามาพร้อมกับมองเด็กชายตระกูลนักฆ่าอย่างรู้ดี  โนบุนางะ  ต้องให้บอกอีกกี่รอบว่าเจ้าตัวเขาไม่สนใจน่ะ  นายกับสฟิงค์แล้วก็มาจิไปพักตามสบาย  คนอื่นๆ คงจะกลับมาประมาณเที่ยงคืน  ส่วนแขกของเราและคัลโตจังเชิญทางนี้

    นักดาบจำใจเดินจากไปพร้อมกับเพื่อนอีกสองคน  ส่วนหัวหน้านั้นเดินนำขึ้นไปบนชั้นสามของตึกที่ไม่มีอะไรนอกจากหน้าต่างไม่มีกระจกสองบาน  และโซฟาเก่าๆ ขาดๆ  2  ตัว  หัวหน้าแก๊งเดินไปนั่งที่โซฟาตัวหนึ่ง  ในขณะที่คัลโตเข้าไปนั่งอีกตัวและแขกพิเศษขึ้นไปนั่งบนขอบหน้าต่าง

    ถึงจะบอกว่าเป้าหมายของชั้นมันเกี่ยวกับแก๊งของนาย  แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าชั้นต้องมาเจอหน้าหัวหน้าแก๊งที่รังเลยนี่

    ทำไมถึงมาพูดกับชั้นล่ะ  ชั้นไม่ใช่คนพานายมานะ  ท่านหัวหน้าถามพร้อมกับยิ้มเย็นๆ

    ก็นายบอกเองว่าคัลโตเข้าแก๊งกับพวกนาย  เพราะงั้นถ้าแค่พี่อิรุมิบอกน่ะ  เธอคงไม่ถึงกับพาชั้นมาที่นี่หรอก  เพราะงั้นมันก็ต้องนายสิที่บอกเหตุผลมาว่าทำไมถึงสั่ง

    นายรู้ได้ไงว่าเป้าหมายของนายเกี่ยวกับแก๊งของชั้น

    ง่ายจะตาย  ก็พี่อิรุมิเป็นคนให้งานนี้มา  ขอให้คัลโตมาช่วย  แล้วคัลโตก็เป็นสมาชิกแก๊ง  และเธอก็พาชั้นมาที่นี่  มันก็เกี่ยวกันเป็นทอดๆ อยู่แล้ว

    รู้อยู่แล้วอย่างที่คัลโตจังบอกเลยจริงๆ  แถมยังเหลี่ยมจัดอีกตังหาก  ไม่ยอมพลาดโอกาสเลยจริงๆ นะชายหนุ่มว่าพลางแสยะยิ้มและยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาให้เห็น  พอกดปุ่มทั้งสองคนก็รู้ว่าภาพที่แอบถ่ายทั้งหมดถูกลบออกไปหมด คงคิดจะเอาไปขึ้นเน็ตเรียกค่าข้อมูลข่าวสารล่ะสิ

    เฮ้! เอาคืนมานะ  ชั้นมีเครื่องนั้นเครื่องเดียว  เขารับมันมาเก็บใส่กระเป๋าก่อนจะพูดต่อด้วยรอยยิ้มที่ทำให้อีกสองคนแปลกใจ ก็จริงอยู่ที่ชั้นจะทำแบบนั้น  แต่มีเงื่อนไข  และมันเป็นเรื่องระหว่างชั้นกับนาย  แต่นายคงรู้อยู่แล้วล่ะมั้ง  ถึงได้ให้คัลโตพาชั้นมาที่นี่

    คนอย่างนายยังไงก็ต้องมีการต่อรองข้อเสนอ  เพราะงั้นจะให้ปลอดภัยที่สุดก็ต้องเจอกันต่อหน้า   ลองเสนอมาสิ

    ก็นายกับชั้นดูเหมือนจะมีเป้าหมายเดียวกัน  และจากความสนใจที่แตกต่างกันทำให้ชั้นรู้ว่าโจรอย่างนาย  เป้าหมายต้องเป็นอะไรที่ไม่ใช่ชีวิตของเหยื่อเหมือนชั้นแน่ๆ  เพราะงั้นประเด็นของข้อต่อรองมันจึงอยู่ที่ราคาค่างวดของสิ่งที่พวกเราจะได้

    ในเมื่อทำธุรกิจร่วมกัน  ก็ต้องมีการแบ่งหุ้นส่วนงั้นสินะ

    เพราะงั้นค่ารูปก็เหมือนกับเป็นโบนัสที่ชั้นจะเรียกเป็นค่าเหนื่อยเพิ่มจากงานไงล่ะ

    ลืมไปแล้วเหรอว่าของต่อรองน่ะไม่มีแล้ว

    ชั้นก็ใช้อย่างอื่นสิ  ข่าวสารน่ะมันมีหลายรูปแบบไม่ใช่เหรอ  นายก็รู้  และถึงจะรู้   นายนั่นแหละยังทำตัวแปลกคืนโทรศัพท์ให้ชั้นง่ายๆ อีก  อยากถูกตามล่าแก้เซ็งรึไง?

    ฉลาดเป็นกรดจริงๆ แถมยังกล้ามากที่มาเรียกเงินจากชั้นแบบนี้  ไม่กลัวถูกฆ่ารึไง?  ถึงนายจะเป็นพี่ชายของคัลโต  แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าชั้นจะฆ่านายไม่ได้นะ

    ถ้านายจะทำก็ทำไปนานแล้ว  ชั้นรู้น่ะว่าสู้นายไม่ได้ถึงได้เลือกมานั่งต่อรองแทนการปะทะกันตรง ๆ ตอนลงมือไงล่ะ

    เป็นความคิดที่ฉลาดเหมือนกันนิ

    ก็มันเป็นเรื่องจริงนิ  ถึงจะน่าเจ็บใจก็เถอะ  แต่ถึงนายจะไม่เซย์เยสชั้นก็ไม่ว่าอะไรหรอกก็แค่ทำงานฟรีในขณะที่เงินค่าจ้างไปอยู่ที่พี่อิรุมิเท่านั้นแหละ......

    เพื่อความสนุกกับประสบการณ์สินะ?

    เฮ้  ใช่ว่าโอกาสที่จะต่อรองกับหัวหน้าแก๊งโจรเงามายาชื่อดังที่แสนจะเก่งกาจมีทุกวันนิ  ของที่มีค่าถึงขนาดทำให้แก๊งแมงมุมหันมาสนใจได้มันน่าสนใจออก

    นายนี่เป็นคนที่ดูยากจริงๆ เหมือนจะสนใจอย่างหนึ่ง  แต่ก็กลับหันไปหาอย่างอื่นในขณะเดียวกัน   จนดูเหมือนกับว่าไม่มีอะไรที่สนใจจริงๆ  แม้แต่ข้อเสนอของนายชั้นก็ชักไม่แน่ใจแล้วสิว่าพูดจริงรึเปล่า

    นายก็ฉลาดนี่  ลองเดาดูสิ  เด็กชายตระกูลนักฆ่าท้าทายนิดๆ อย่างไม่กลัวเกรงพร้อมรอยยิ้มเย็นๆ ที่มุมปาก 

    เรื่องอะไรที่ชั้นจะต้องมาเสียเวลาทำยังงั้นด้วยหัวหน้าแก๊งว่าพลางยักไหล่

    ใครบอก  ก็นายเป็นคนรับข้อเสนอนี่  เพราะฉะนั้นข้อเสนอของชั้นจะมีจริงหรือไม่ก็ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนาย

    คำตอบตรงๆ แต่แฝงหลายความหมายที่แล้วแต่คนจะตีความทำให้ท่านหัวหน้ากลับมาคิดว่าก็จริงอย่างที่เด็กชายบอก  เพราะถ้าข้อเสนอไม่มีใครเอา  มันก็ไม่มีความหมายและไม่ต่างกับสิ่งที่ไม่มีมาตั้งแต่แรก 

    เด็กจากตระกูลโซลดิกนี่มีเล่ห์เหลี่ยมในการต่อรองที่แปลก  เพราะทุกคำพูดจะไม่ชี้นำหรือโน้มน้าวคนรับข้อเสนออะไรเลย  แต่จะปล่อยให้คนฟังเป็นผู้ตีความคำพูดที่มีหลายความหมายเอาเอง   และจุดสุดท้ายของข้อเสนอกลับแทบจะไม่หวังผลอะไรเลย

    กับนาย  ชั้นจะหวังอะไรล่ะ?  สำหรับนายเหตุผลอะไรมันก็ไม่มีประโยชน์ทั้งนั้นแหละ  เพราะนายดูออกหมดแล้ว    เพราะงั้นข้อเสนอของชั้นมันก็แค่ว่า  นายสนใจหรือไม่เท่านั้นเอง  หลังจากนี้ไปนายจะรับหรือไม่  ในเมื่อชั้นโผล่หน้ามาให้เห็นแล้ว  อย่างน้อยเราก็จะได้ไม่ปะทะกันตอนลงมือ  คิรัวร์เดาออกว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่

    เป็นคนที่แปลกจริงๆ  ชั้นชักเริ่มจะสนใจนายขึ้นมาแล้วสิ

    นั่น.....ขอบใจ  แต่หวังว่าจะไม่ใช่แบบเจ้าฮิโซกะนั่นนะ 

    คิรัวร์ว่าพลางรู้สึกหนาวสันหลังเมื่อนึกถึงใบหน้าคมสันที่แสยะยิ้มและมองมาด้วยสายตารุกล้ำที่ดูน่าอันตรายในหลาย ๆ  แบบ  คำพูดของเขาทำให้ทั้งสองคนอดขำไม่ได้  เพราะพวกเขาก็เคยได้ยินมาบ้างเหมือนกันว่านักมายากรนั่นกำลังสนใจเหยื่อเด็กๆ สองคนอยู่

    “’งั้นเป็นอันว่าชั้นรับข้อเสนอ  แต่เปอร์เซนต์การแบ่ง  20/70”

    โหย  ไหงงกงั้นล่ะ? 40”

    “20  นี่ชั้นอุตส่าห์ตกลงทั้งๆ ที่ชั้นไม่ต่อรองขอส่วนแบ่งจากค่าจ้างนายเลยนะ  นายต้องขอบคุณชั้นที่อุตส่าห์ยอมเสีย 20 ไปให้นายฟรีๆ สิถึงจะถูก ไม่ต้องห่วงยังไงชั้นก็ได้กำไรอยู่ดีค่าดูฝีมือการฆ่าของคนตระกูลโซลดิก  แค่นี้คงพอแล้วมั้ง ฮึ ๆ ๆ ๆ

    ชิ  งั้นก็ได้  งกชะมัด‘100  %   ของมันคงสูงน่าดูจน  20  มันกลายเป็นแค่เศษเงินเลยล่ะมั้ง  แล้วทำไมมันมายกเงินให้ฟรี ๆ วะ ? ชั้นเสนอให้เป็นหุ้นส่วนไม่ใช่เรอะ ?

    ความเครียด  มาดการค้า   และรอยยิ้มนักธุรกิจหายไปจากใบหน้าอ่อนเยาว์ของเด็กชายที่หันมาทำหน้ามุ่ยกอดอก  จริงอยู่ว่าเขาไม่ได้หวังว่าจะได้ส่วนแบ่ง  50  แต่ก็ไม่คิดว่าจะถูกกดให้ต่ำถึง  20  และถ้าขืนต่อมากกว่านี้ก็อาจจะถูกยกเลิกข้อเสนอหรือถูกกดให้ต่ำกว่านี้อีกก็ได้  นอกจากนี้การที่แก๊งหัวหน้าโจรมายกเงินให้ฟรีๆ มันดูน่าสงสัย  เพราะงั้นจนกว่าจะแน่ใจว่าอีกฝ่ายซ่อนอะไรเอาไว้   เขาก็ควรที่จะปิดปากเงียบไปก่อนที่คำพูดใดๆ จะเผลอไปชี้นำให้ตัวเองเสียประโยชน์

    เอาล่ะ  เสร็จเรื่องแล้วชั้นก็ขอตัว  นายจะอยู่ที่นี่กับคัลโตก็ได้ชั้นไม่ว่าอะไร  เพียงแต่ระวังคนในแก๊งหน่อยล่ะ   ชั้นขี้เกียจเก็บศพนายทีหลัง

    รู้แล้วล่ะน่า  ทำเหมือนชั้นเป็นเด็กๆ ไปได้

    เด็กชายตระกูลนักฆ่าประชดพร้อมกับเชิดใส่นิดๆ อีกฝ่ายก็ได้แต่หัวเราะเล็กๆ กับท่าทางที่ดูเหมือนจะน่ารักของเขาก่อนจะเดินออกจากห้องไป  ทิ้งให้พี่น้องอยู่คุยกันตามลำพัง

     

     

    …End Chapter 01…

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×