ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Under Lie [Fic : Hunter x Hunter]

    ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 04 [...End...]

    • อัปเดตล่าสุด 4 พ.ย. 50








    Fanfiction

    Project : Hunter x Hunter

    Under Lie

    Chapter 04

     

     

    เช้าวันต่อมา  ห้องนอนของอิรุมิในโรงแรม

    ร่างเล็กๆ ใต้ผ้าห่มค่อยๆ ขยับหนีแสงยามเช้าที่สาดส่องและลอดผ่านบานหน้าต่างเข้ามา  ถึงจะรู้ว่ามันได้เวลาที่จะลุกจากเตียงที่แสนนุ่มสบาย  เขาก็ยังคงตั้งใจที่จะหลับต่อไปให้ได้นานที่สุด  แต่ร่างกายก็กลับกระโดดออกจากเตียงและไปเกาะติดอยู่บนมุมเพดานเหมือนกับแมงมุมทันทีที่รู้สึกว่ามีอะไรอยู่ด้านหลัง  นัยน์ตาสีเขียวหรี่ลงจ้องผู้บุกรุกบนเตียงอย่างไม่ไว้วางใจ  ในขณะที่พยายามไม่หวั่นไหวกับแรงกดดันของเน็นที่ดำมืดและมหาศาลจนทำให้เหงื่อแตกพลั่กไปด้วยความอึดอัด

    นายมาทำอะไรบนเตียงชั้นฮิโซกะ ?

    แหม....ก็เห็นกันอยู่แล้วว่าทำไมไม่ใช่เหรอคิลจัง ?

    หน้าของเด็กชายขึ้นสีทันทีกับคำพูดที่ไม่ต้องให้อธิบายเลยว่าจริงๆ แล้วคำตอบของมันคืออะไร  เพราะการที่ชายหนุ่มร่างกำยำแข็งแรงมานอนเปลือยอกอยู่ข้างๆ อย่างเงียบเชียบพร้อมสายตาของหมาป่าที่กำลังจะขย้ำลูกแกะแบบนั้น  มันก็ส่อเจตนาอันไม่บริสุทธิ์ต่อเวอร์จิ้นของเด็กน้อยอายุ 12 ปีให้เห็นกันชัดๆ  อยู่แล้ว

    ถ้าเป็นไปได้ชั้นก็ไม่อยากจะรู้หรอกนะ.....คิรัวร์ประชดก่อนจะกระโดดลงมายืนบนพื้นและมองด้วยสายตาคมกริบ  ในขณะที่ไม่ยอมเข้าไปใกล้นักมายากรแม้แต่มิลเดียว

    แหม....พูดจาใจร้ายจังเลยนะคิลจัง  ชั้นก็แค่มาปลุกแค่นั้นเอง  สายตาที่ปรือมองและสำรวจส่วนโค้งเว้าของร่างเด็กชายตั้งแต่หัวจรดเท้า  บวกกับรอยยิ้มที่แสยะกว้างทำให้เจ้าตัวรู้สึกขนลุกและหนาวสันหลังจนร่างกายเกือบสั่นไปหมด จะไม่มาเล่นกันหน่อยเหรอ ?

    มาปลุกแล้วมันเกี่ยว ไรกะเล่นฟะ !?’

    ลูกชายตระกูลนักฆ่าคิดพลางเริ่มเหลือบมองหาทางหนีและปฏิเสธคำเชิญชวนนั้นโดยไม่ต้องคิดให้เสียเวลา  แต่ความคิดก็หายไปทันที  เมื่ออยู่ดีๆ ร่างสูงกำยำก็มายืนอยู่ตรงหน้า  และก่อนที่จะได้ทำอะไร  เขาก็ถูกจับเหวี่ยงลงกับพื้น  ข้อมือทั้งสองข้างถูกมัดเอาไว้ด้วยกัน และถูกตรึงเอาไว้กับพื้นเหมือนกับข้อเท้าทั้งสองข้าง

    ปล่อยนะ !!”

    กระแสไฟฟ้าถูกปล่อยออกมาพร้อมกับพลังเน็นเพื่อผลักร่างที่หนาหนักออกไปก่อนที่มันจะลงมาทาบทับและเริ่มทำกิจกรรมอันไม่พึงประสงค์  กระแสไฟฟ้าถูกเร่งและกดดันพลังงานเข้าด้วยกันจนได้พลังความร้อนสูงเกินจุดเดือดและเผาละลายพันธนาการก่อนจะรีบวิ่งไปที่ประตู  แต่ไม่ทันที่จะไปได้เกินสามก้าว  บันจี้กัมก็เข้ามาฉุดให้หงายหลังและล้มลงนอนกับพื้นอีกครั้ง 

    ให้ชั้นได้สนุกมากกว่านี้สิคิลจัง  ชั้นน่ะตื่นเต้นจนทนไม่ไหวแล้วนะ

    รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของคนที่เกือบเรียกได้ว่าวิปริตทำเอาเด็กชายหนาวสันหลังวาบ  เพราะไอ้ความตื่นเต้นที่ว่ามันจะพาไปสู่การกระทำที่เป็นอันตรายต่อเวอร์จิ้นของผู้เยาว์ที่อายุยังไม่ถึง 15 ปีด้วยซ้ำ 

    ไม่ต้องมาตื่นเต้นแถวนี้เลยไอ้วิปริต !!”

    คิรัวร์รีบลุกขึ้นกระโดดหลบไพ่ที่ห่อหุ้มด้วยพลังเน็นที่พุ่งเข้ามาหา  ถึงพลังเน็นที่ห่อหุ้มไพ่จะมีพลังมากกว่าจนสามารถทะลุผ่านเน็นที่รวบรวมเอาไว้แล้วเฉือนฝ่ามือด้วยขอบที่คมกริบ    เขาก็ยังสามารถคว้าและเขวี้ยงมันกลับไปหาเจ้าของได้   แต่นักมายากรก็แค่เอียงคอหลบก่อนจะพุ่งเข้ามาประชิดตัวและต่อยเข้าที่ท้องเต็มๆ

    ฮิโซกะผิวปากและรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาอีกนิดหน่อยเมื่อเหยื่อของเขายังคงลุกขึ้นมายืนได้และกระอักเลือดแค่เล็กน้อยเท่านั้น  เพราะมันแสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายมีปฏิกิริยาตอบสนองเร็วพอที่จะใช้เท็ตสึป้องกันหมัดเอาไว้ได้ในเสี้ยววินาทีก่อนที่มันจะสัมผัสลำตัว  และฝากรอยข่วนเอาไว้ที่กำปั้นก่อนจะกระเด็นไปด้วยแรงกระแทก

    มันต้องให้ได้ยังงี้สิคิลจัง  ไม่งั้นมันก็ไม่สนุกใช่มั้ยล่ะ?ด้วยความเร็วระดับนี้  ยังไหวตัวทันอีก  น่าสนุกจริงๆ

    ถึงอีกฝ่ายจะทำเป็นเล่น  ยืนยิ้มและหัวเราะเหมือนกำลังเล่นสนุก  แต่สายตาที่หรี่มองนั้นกลับจับจ้องอยู่ที่เหยื่อร่างเล็กเหมือนกับพร้อมที่จะฆ่าเต็มที่แล้ว  คิรัวร์จึงไม่มีอารมณ์มาตีฝีปากและกลับเข้าสู่โหมดนักฆ่าเต็มตัวด้วยสัญชาตญาณการดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด   

    หัวสมองที่เคยสรรหากลยุทธและวิธีการต่อสู้มากมายกลับเริ่มว่างเปล่าเหมือนกับสายตาที่มองคู่ต่อสู้   แต่ร่างกายและประสาทสัมผัสกลับเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วและมีความแม่นยำเหมือนกับการทำงานของเครื่องจักร

    แหม....เล่นตัวแบบนี้ชั้นก็มีอารมณ์แย่สิ

    นักฆ่าระดับเซียนพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียกได้ว่าแทบจะเคลิ้มไปกับการเปลี่ยนแปลงทางบุคลิกของเหยื่อที่อยู่ตรงหน้า  เพราะมันคือสิ่งที่จะไม่มีวันได้เห็นตราบใดที่นักฆ่ารุ่นเยาว์นี้มีเพื่อนคอยเดินตามไปไหนมาไหนด้วย 

    ในขณะที่นักมายากรกำลังคิดเพลินๆ อยู่ ๆ ร่างของเด็กชายก็มาปรากฏตรงหน้าพร้อมกับกรงเล็บที่ห่อหุ้มไปด้วยพลังเน็นที่อัดแน่นและถูกแปลงสภาพให้คมกริบซะยิ่งกว่าดาบ  เขาเพียงแค่เอียงตัวหลบกรงเล็บนั้นได้อย่างไม่ยากเย็นและเขวี้ยงไพ่ออกไป  อีกฝ่ายก็หลบด้วยความเร็วที่มากกว่าปกติหลายสิบเท่าจนดูเหมือนเขาหายตัวและแวบโผล่ออกมาเหมือนกับไฟเปิดปิด

    แม้ฮิโซกะจะได้รอยข่วนเป็นแผลบาดลึกมาอีกสองบนแขนข้างซ้ายแต่ก็ไม่ใส่ใจ  รอยยิ้มและเสียงหัวเราะทุ้มต่ำยังคงอยู่เหมือนกับไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด  และเพิ่มความเร็วกับพลังในการโจมตีเพื่อที่จะผลักและกระตุ้นให้เหยื่อของเขาถลำลึกเข้าไปในความมืดมืดมากขึ้นและถูกกลืนกินให้เข้าสู่โลกของเลือดและการฆ่าฟันจนกลายเป็นเครื่องจักรสังหารที่สมบูรณ์แบบในที่สุด

    แต่ตราบใดที่เด็กชายยังคงทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าฝากรอยข่วนไปทั่ว  มันก็ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมและคู่ควรที่นักมายากรนี้จะลงมือ  เพราะเหยื่อตรงหน้ายังไม่สามารถทำให้รู้สึกพึงพอใจและหฤหรรษ์ไปกับความตายของมันได้   แม้ใจจะคิดแบบนั้น  แต่ความกระสันที่อยู่ตรงอวัยวะกลางลำตัวก็ยังคงเร้ากระตุ้น  และชี้ให้เห็นอีกหนทางที่จะเล่นสนุกกับเหยื่อที่ไร้สิ้นหนทางที่จะหนี 

    นัยน์ตาสีเขียวที่เบิกกว้างได้แต่จ้องมองอย่างหวดกลัวและเดือดดาล  เสียงขู่ดังรอดฟันซี่ขาวที่กัดแน่นเหมือนกับแมวที่กำลังขู่ศัตรู  กรงเล็บพยายามฉุดดึงให้หลุดออกจากฝ่ามือใหญ่ที่จับเอาไว้แน่นเหมือนกับโซ่เหล็กกล้า  โดยหารู้ไม่ว่าการดิ้นรนเหล่านั้นยิ่งเร้ากระตุ้นความหื่นกระหายของร่างกำยำที่อยู่เบื้องหน้าให้เพิ่มมากขึ้น

    ใช่  น่าสนใจจริง ๆ  จะฆ่าตอนนี้ก็น่าเสียดาย  ต้องอดกลั้นเอาไว้........

    นักมายากรพึมพำกับตัวเองและพยายามสะกดกลั้นความหื่นกระหายที่จะทิ่มแทงมือเข้าไปในร่างที่กำลังคร่อมอยู่บนพื้น  เพื่อที่จะได้ลิ้มรสเลือดและความตายอันบริสุทธิ์   แต่หันมาเพลิดเพลินและเสพสุขกับร่างผอมบางในกำมือแทน 

    นัยน์ตาจ้องมองร่างที่ดิ้นรนเหมือนสัตว์ป่าที่บ้าคลั่งอย่างขำๆ  ในขณะที่ร่างหนาหนักทาบทับและทำให้ร่างข้างใต้หยุดดิ้นรนได้อย่างง่ายดาย  ใบหน้าคมซุกไซ้ไปตามซอกคอขาวและเม้มกัดแผ่วเบาเหมือนค่อยๆ ละเลียดลิ้มรสผิวเนื้ออันอ่อนนุ่ม  ฝ่ามือใหญ่แทรกเข้าไปใต้เสื้อบางและไล้สัมผัสผิวอกและหน้าท้อง  เสียงหัวเราะทุ้มต่ำดังขึ้นเมื่อมันรู้สึกถึงกล้ามเนื้อที่เกร็งกระตุก

    สัมผัสที่รุกล้ำและเร้ากระตุ้นทำให้ร่างที่ถูกแตะต้องเป็นครั้งแรกนั้นเผลอขยับไปตามความรู้สึกและสัญชาตญาณ  และส่งเสียงครางที่ฟังลื่นหูออกมาโดยไม่รู้ตัว  ตัวตนที่ถลำเข้าไปในความมืดค่อย ๆ ถูกดึงให้กลับมาพร้อม ๆ  กับสติที่ค่อย ๆ  รับรู้สิ่งที่อยู่รอบตัวทีละนิด  แต่มันก็ยังไม่มากพอที่จะรู้สึกต่อต้านหรือผลักไสคนที่กำลังเพลิดเพลินกับการลิ้มรสความบริสุทธิ์อยู่

    เป็นเด็กดีนะคิลจัง......

    เด็กชายไม่เข้าใจว่าคนตรงหน้าพูดเพื่ออะไร  ทำไมเขาจะต้องเป็นเด็กดี  แต่เขาก็ไม่มีเวลามากพอที่จะคิดหาคำตอบเมื่อสติหลุดลอยไปอีกครั้งเมื่อหยาดเลือดอันหอมหวานจากปลายนิ้วสัมผัสริมฝีปากที่ปล่อยให้มันล้วงผ่านเข้าไปอย่างว่าง่าย    ปลายลิ้นเกี่ยวกระหวัดและไล้เลียทุกหยาดหยดของน้ำสีแดงที่แผ่ซ่านไปทั่วเหมือนกับกำลังเลียดื่มน้ำผึ้งแสนหวาน

    น่ารักจริง ๆ

    น้ำเสียงกลั้วหัวเราะดังรอดริมฝีปากที่แสยะยิ้มกับท่าทางเย้ายวนที่เผลอไผลของเด็กชาย  ใบหน้าอ่อนเยาว์ปรือตามองอย่างสงสัยและทำให้อารมณ์ของร่างสูงกำยำเตลิดขึ้นจนอวัยวะกลางลำตัวเกร็งตัวและแข็งขึ้นอย่างรวดเร็ว   ความคิดที่อยากให้ริมฝีปากนั่นดูดดื่มมันแทนนิ้วแล่นเข้ามาในหัว

    อืม....พี่อิรุมิ........

    ถึงเสียงครางและชื่อที่ได้ยินจะทำให้ฮิโซกะแปลกใจ  แต่เขาก็แทบจะไม่สนใจ  เพราะความปรารถนาเบื้องลึกที่มีให้กับใครมันไม่สำคัญ  ขอเพียงเขาได้สุขสมและได้ปลดปล่อยความหื่นกระหายนี้ออกไปได้ก็พอ

    ต้องโทษพี่ชายของนายนะที่ให้ชั้นได้เห็นวิธีกล่อมแมวน่ะ.....

    นักมายากรว่าอย่างขำๆ แล้วซุกไซ้ซอกคอขาวอีกครั้งในขณะที่มือเริ่มเล้าโลมหนักขึ้น  และจดจำทุกส่วนเว้าส่วนโค้งของร่างกายที่ยังเติบโตไม่เต็มที่เอาไว้อย่างละเอียด  ปลายนิ้วหยอกบีบเคล้นยอดอกข้างหนึ่งแผ่วเบา   ในขณะที่อีกข้างถูกกัดเม้มและไล้เลียเพื่อเร้ากระตุ้นร่างข้างใต้ให้ร้องครางดังขึ้นและแอ่นตัวรับสัมผัสที่ค่อยๆ ปลุกอวัยวะกลางลำตัวให้ตื่นขึ้นอย่างรวดเร็ว 

    ยะ....อย่า......

    ปลายนิ้วที่ดึงออกมาจากริมฝีปากและไล่ลงไล้วนบนท้องน้อย  ทำให้สติของร่างผอมบางเริ่มกลับมาอีกครั้ง  แต่ร่างกำยำที่หนาหนักก็ไม่สนใจและยิ่งรู้สึกกระสันมากขึ้นกับเสียงที่แหบพร่าที่ได้ยิน  แต่ความสุขสมที่กำลังจะได้รับจากการแทรกอวัยวะเข้าไปในร่างข้างใต้กลับถูกขัดขวางด้วยบานประตูที่ถูกกระแทกเปิดเข้ามา  และเข็มนับสิบที่อัดแน่นไปด้วยพลังเน็นกับความโกรธของคนขว้างที่ไม่เคยแสดงออกมาให้เห็นบนใบหน้าที่เฉยชา

    ถึงแม้นักฆ่าที่มีใบหน้าเหมือนตุ๊กตาไร้ชีวิตจะไม่พูดอะไรและเพียงแค่ยืนจ้องพร้อมกับเข็มชุดใหม่ในมือ  ดวงตาสีดำขลับที่จ้องมองมาก็สื่อได้ชัดเจนซะยิ่งกว่าการพูดว่า  อย่าอยู่ให้รกโลกเลยแก  บังอาจแตะต้องน้องชายชั้น  แต่อีกฝ่ายแค่หัวเราะและยังคงยิ้มเหมือนกับไม่รู้สึกถึงสายตาและพลังเน็นที่แผ่ซ่านไปทั่ว

    แหม....ใจร้ายจังอิรุมิเพื่อนรัก  ชั้นกำลังเล่นสนุกอยู่กับคิลจังเลยน้า.....เขาแกล้งทำเสียงยานลงท้ายเป็นการล้อเลียน

    นักฆ่ายังคงไม่พูดอะไรและจ้องนักมายากรตัวดีตาไม่กระพริบจนอีกฝ่ายต้องยอมถอนหายใจและถอยแต่โดยดี  ก่อนที่การเล่นสนุกของเขาจะทำให้ไม่มีคำว่า เพื่อนทางธุรกิจ  อีกต่อไป 

    ก็ได้ๆ ชั้นไม่ทำอะไรแล้วหรอกน่า  แค่เล่นสนุกนิดหน่อยเอง  ไม่เห็นต้องโกรธเลยนี่  อิรุมิเพื่อนรัก

    ถึงสีหน้าของคนตระกูลโซลดิกจะไม่เปลี่ยน  แต่เขาก็สามารถเดาได้ว่าเจ้าตัวกำลังคิดว่า ก็คงจะไม่ถ้ามันไม่ใช่น้องชายชั้นที่นายกำลังเล่นด้วยน่ะ และเขาก็แค่ยักไหล่ไม่สนใจอะไรเท่าไหร่กับมันนัก

    มานี่คิล.....

    ถึงจะถูกเรียก  แต่น้องชายที่ได้สตินั้นก็รู้สึกอายและโกรธชายหนุ่มที่ยังคงยิ้มน่าหมั่นไส้ตรงหน้าเกินกว่าที่จะทำตามและวิ่งออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว  ผู้เป็นพี่ชายมองตามหลังน้องชายและยืนนิ่งเงียบอยู่สักพักก่อนจะเหลือบมองเพื่อนทางธุรกิจด้วยสายตาคมบาดลึกและใบหน้าที่เย็นชาจนติดลบองศา  แต่อีกฝ่ายยังคงยิ้มอย่างไม่สะทกสะท้านด้วยความเคยชินและพยักหน้าโบกมือข้างหนึ่งเป็นเชิงสัญญาว่าจะไม่ตามน้องชายของเขาไปแน่นอน  อย่างน้อยก็ไม่ใช่ตอนที่นักฆ่าคนนี้อยู่ 

    ถึงเขาจะขึ้นชื่อว่าเป็นคนชอบโกหกเป็นเรื่องปกติ  แต่ครั้งนี้อิรุมิรู้ว่ามายากรตัวแสบนี่ยอมทำตามข้อตกลงแต่โดยดี   เขาจึงแอบรู้สึกโล่งใจนิดหน่อยที่อีกฝ่ายยอมถอยง่ายๆ  เพื่อรักษาความสัมพันธ์ฉันท์ เพื่อนทางธุรกิจ ต่อไป  ไม่เช่นนั้นอาจจะต้องมีการนองเลือดโดยไม่จำเป็นก็ได้

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ในห้องของคัลโตที่อยู่ฝั่งตรงข้ามและถัดไปอีกสองห้อง

    บานประตูถูกกระแทกเปิดและปิดอย่างแรงด้วยฝ่ามือเล็กๆ ที่สามารถเปิดประประตูเหล็กหนัก  16   ตันได้สบาย  โชคดีที่คนในห้องไม่อยู่แล้ว  ไม่งั้นการกระทำของเขาคงทำให้เน็นพุ่งเข้ามาฆ่าเขาตายเพราะความตกใจแน่ 

    โชคดีที่คัลโตออกไปแล้วนะเนี่ย.....

    เขาคิดพลางถอนหายใจ   ร่างกลับหมดเรี่ยวแรงและเอนพิงบานประตู   สายตาจับจ้องบนเพดานที่ว่างเปล่า   ใบหน้ายังคงมีเลือดฝาด  มือสองข้างกระชับเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ยแนบร่างที่ยังคงสั่นเทาไม่หายแน่น 

    จริงอยู่ที่เขาไม่ได้อายอะไรจนถึงขั้นที่ต้องวิ่งหนีมาซ่อนเหมือนกับเด็กสาวไฮสคูลที่เพิ่งถูกขโมยจูบหรือทำเรื่องน่าอายมาหยกๆ  แต่การที่ต้องเผชิญหน้ากับคนที่เข้ามาช่วยนั้นน่ากลัวซะจนไม่อยากจะคิดถึง  เพราะแค่เจ้านักมายากรก็ทำให้เขาหัวเสียมากเกินพอแล้วสำหรับเช้านี้  ถ้ายังต้องมาเจอกับคำดุด่าของพี่ชายอีกคงระเบิดแน่ 

    บ้าเอ๊ย!  ทำไมพี่ต้องให้เจ้าบ้านั่นอยู่ด้วยนะ?เขาอดที่จะบ่นในใจไม่ได้ ไม่สิ  ทำไมเราถึงโดนกล่อมได้ง่ายแบบนั้นฟะ  มันก็แค่เลือดธรรมดา  แต่ดันเคลิ้มจนไร้สติไปกับมันยังกะคนติดยา  น่าสมเพชชะมัด !!  พี่ต้องโกรธที่ชั้นยอม.....แน่ ๆเขาแทบไม่กล้าแม้แต่จะคิดคำตรงที่ว่างออกมาเป็นคำพูดในหัว  และไม่อยากจะยอมรับในสิ่งที่ตนเองได้ทำลงไป 

    ถ้าชั้นแข็งแกร่งแล้วควบคุมตัวเองได้มากกว่านี้ล่ะก็......ชิ !!  เลิกคิดแล้วไปอาบน้ำให้ใจเย็นลงดีกว่า.......  

    เขาตัดบทตัวเองเอาดื้อ ๆ  แล้วเดินเข้าห้องน้ำที่อยู่ด้านข้างไปพร้อมกับผ้าขนหนูสีขาวที่เขารื้อออกมาจากในตู้    และเริ่มที่จะทำใจเตรียมรับหน้าพี่ชายที่ต้องมาแน่ๆ 

    ชิ! เวลาพี่โกรธน่ากลัวจะตาย......เขาอดยอมรับไม่ได้

    เสื้อผ้าถูกถอดออกและแขวนบนราวก่อนที่ร่างเล็กจะเดินเข้าไปใต้ฝักบัว  ถึงน้ำเย็นเฉียบจะช่วยให้ร่างกายของเขาผ่อนคลายลง  แต่ในใจกลับยังคงว้าวุ่นและกระวนกระวายกับสิ่งที่สังเกตเห็นบนกระจกขณะที่เดินผ่านมันเมื่อสักครู่  ฝ่ามือข้างขวายกขึ้นปิดซอกคอทางด้านซ้ายทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่ามันช่วยทำให้รอยกัดและรอยจูบที่ฟกช้ำเหล่านั้นหายไปไม่ได้

    ไอ้หื่นนั่นมันเล่นแรงจริงๆ  กี่วันถึงจะหายล่ะเนี่ย? เขาคิดอย่างกระวนกระวายใจ จะให้พี่อิรุมิเห็นไม่ได้เด็ดขาด  ไม่งั้นตายแน่ร่างแทบจะสั่นกลัวไปกับภาพของพี่ชายและเน็นดำมืดที่ผุดขึ้นมาในหัว

    ชั้นก็ควรจะฆ่านายจริงๆ นั่นแหละ

    ทั่วร่างเย็นวาบไปกับความรู้สึกของอีกร่างที่ยืนอยู่ที่ด้านหลัง  ฝ่ามือใหญ่วางอยู่บนกำแพงกระเบื้องข้าง ๆ  เหมือนกับจะปิดกั้นทางหนีของร่างเล็กที่สั่นกลัว  ริมฝีปากโน้มลงและกระซิบที่ข้างหูด้วยน้ำเสียงที่เย็นเฉียบจนร่างไม่อาจขยับไปไหนได้

    ทำไมถึงปล่อยให้เจ้านั่นมันแตะต้อง ?  รู้สึกดีมากเลยรึไงที่โดนมันสัมผัสน่ะ ?

    ใบหน้าที่ไร้อารมณ์  พลังเน็นที่มีพลังกดดันมหาศาล  และถ้อยคำที่ฟังดูเชือดเฉือนมากกว่าจะเป็นเพียงคำถามธรรมดาต่างสาปร่างให้นิ่งเงียบ  ไม่กล้าแม้แต่จะหันไปมอง   และได้แต่ยืนสั่นกลัวอยู่แบบนั้น

    ตอบคำถามชั้น

    เสียงทุ้มต่ำและเย็นเชียบจนองศาติดลบนั้นบีบคั้นอีกครั้ง  ฝ่ามือจับร่างเล็กให้หันมาแล้วกำรอบคอขาวเอาไว้แน่น  แล้วยกร่างให้ลอยขึ้นจากพื้นและกดเอาไว้บนกำแพงอย่างง่ายดาย

    คิล.... 

    ชื่อที่ถูกเรียกนั้นเหมือนกับเป็นการคาดคั้นครั้งสุดท้ายก่อนที่ผู้เป็นพี่ชายจะหันไปใช้วิธีรุนแรง  และเขาจะไม่มีวันหยุดจนกว่าร่างในกำมือจะตอบคำถามหรือหมดลมหายใจไป  เพราะบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ข้างในมันขาดผึงในวินาทีที่ร่างในกำมือยอมนอนทอดกายให้กับชายหนุ่มคนนั้น

    ปะ....เปล่า........ชะ....ชั้นพยายามหนีแล้ว แต่......

    ยังไม่มากพอสินะ......ฝ่ามือบีบแน่นขึ้นอีก

    นัยน์ตาสีเขียวเสมองไปทางอื่นอย่างละอายใจ  ถึงแม้เขาจะรู้ว่าพี่ของเขาจะต้องพูดแบบนี้  แต่มันก็ยังคงเจ็บปวดเมื่อได้ยินกับหูของตัวเอง  ในหัวไม่มีข้อแก้ตัวอะไรจะมาพูด  เพราะหลักฐานของความอ่อนแอมันโชว์หราอยู่บนซอกคอ 

    นายต้องแข็งแกร่งมากกว่านี้คิล.....อย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก

    ผะ....ผมขอโทษ......มะ.....มัน.......

    เหมือนกับพี่ชายจะรู้ว่าน้องชายของเขาอยากจะบอกอะไรแต่ไม่กล้า  เขาจึงวางนิ้วชี้บนริมฝีปากที่สั่นเทา  เพื่อเป็นบอกให้เงียบ  ก่อนที่เข้ามาสวมกอดแล้วกระซิบที่ข้างหูแผ่วเบา

    พี่รู้  เพราะพี่กับพ่อเลี้ยงนายให้เป็นแบบนี้   ความกระหายเลือดกับการฆ่ามันเป็นเรื่องธรรมดาของนักฆ่า  แค่พยายามควบคุมตัวเองให้ได้ก็พอ  นายยังเด็กเพราะงั้นพี่จะยอมให้ไปก่อน  แต่เฉพาะครั้งนี้เท่านั้นนะ  ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาอีกล่ะก็.......

    ฝ่ามือรอบคอขาวเกร็งจนเส้นเลือดปูดโปนและบังคับให้เล็บงอกยาวแหลม  ก่อนจะจิกและกรีดผิวเนื้ออ่อนนุ่มเหมือนเป็นการย้ำถึงคำพูดที่จะพูดต่อ

    ชั้นจะฆ่านายซะ  นายเป็นของตระกูลโซลดิก  ไม่ใช่ของใครทั้งนั้น  เข้าใจมั้ย ?  นายเป็นของชั้น......มองหน้าชั้นคิล....

    น้องชายค่อยๆ หันมาสบตาอย่างกล้าๆ กลัวๆ พร้อมกับพยักหน้า  เขารู้สึกตื่นกลัวมากขึ้นเมื่อเน็นที่ดำมืดแผ่ขยายและอัดแน่นไปด้วยแรงกดดันที่เพิ่มมากขึ้นจนแทบจะกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างของเขาเข้าไป  และปล่อยให้วนเวียนอยู่ในนั้นอย่างไร้ซึ่งทางออก  ร่างกายจึงเริ่มดิ้นรนตามสัญชาตญาณเพื่อหนีไปจากพลังที่น่ากลัวและชายที่อยู่ตรงหน้าให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้  แต่มันกลับถูกแช่แข็งด้วยน้ำเสียงที่เย็นเฉียบ

    อยู่เฉยๆ

    นัยน์ตาสีเขียวที่เบิกกว้างและสั่นกลัวจึงได้แต่เหลือบมองใบหน้าคมสันที่เคลื่อนเข้ามาใกล้  ริมฝีปากและลิ้นอุ่นค่อยๆ จูบและไล้เลียไปตามรอยแผลบนซอกคอ  ก่อนจะกัดและฝังเขี้ยวลึกเข้าไปในเนื้อบางจนเลือดสีแดงสดไหลทะลักออกมา     เพื่อเป็นการตรีตราความเป็นเจ้าของทับรอยเดิมและพันธนาการร่างนั้นให้เป็นของคนในตระกูลโซดิกตลอดไป

    อย่าร้อง

    คำสั่งที่สองห้ามปรามร่างในกำมือก่อนที่มันจะดิ้นรนและร้องด้วยความเจ็บปวดอีกครั้ง  ในขณะที่การตีตราค่อย ๆ ไล่ไปตามรอยแผลที่มีอยู่มากมายและทรมานร่างที่สั่นเทิ้มให้กัดฟันทนกับความเจ็บปวดไปเรื่อย ๆ   แต่ใจก็ยังยอมรับมันเป็นการลงโทษโทษฐานที่ปล่อยให้เรื่องมันเกิดขึ้นตั้งแต่แรก  และมันไม่สามารถที่จะโทษใครได้นอกจากความอ่อนแอของตัวเอง

    ขอโทษฮะพี่อิรุมิ.....

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ร่างเด็กชายสวมเสื้อแขนสั้นสีขาวที่มีปกตั้งและกางเกงยินส์ขายาวสีน้ำเงินเดินผ่านผู้คนไปตามทางฟุตบาทอย่างเหนื่อยอ่อน  เพราะเขาไม่มีเวลาที่จะได้พักก่อนจะถูกไล่ให้ออกมาเดินโต๋เต๋ข้างนอกพร้อมกับงานฆ่าคนงานใหม่ในมือ  แต่ในใจก็ไม่คิดจะบ่นอะไรและเข้าใจว่ามันเป็นเพราะพี่ของเขาโกรธ

    ก็เพราะเงี้ยถึงได้ไม่อยากให้พี่เห็น  พี่อิรุมินี่กัดแรงยิ่งกว่าไอ้มายากรหื่นนั่นซะอีก  อยู่ห่างๆ มันไว้ท่าจะดีที่สุด

    แหม ใจร้ายจังนะคิลจัง  ทั้งๆ ที่พวกเราเพิ่งจะเล่นสนุกันเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาเอง

    เหมือนกับร่างสูงกำยำในชุดมายากรสีขาวที่ดูคุ้นตาจะได้ยินความคิดของเขา  จึงก้าวออกมาและลากเจ้าตัวเข้าไปในตรอกเพื่อหลบสายตาผู้คน  ก่อนจะบังคับให้ยืนพิงกำแพงตึกอยู่เฉยๆ แล้วก้มลงกระซิบข้างหูเบา ๆ

    ไม่คิดเลยว่านายจะคิดถึงชั้นขนาดนี้

    ใครคิดถึงแกไอ้วิปริต  มีธุระอะไร ? 

    นักฆ่ารุ่นเยาว์ประชดเสียงแข็ง  และสะดุ้งเล็กน้อยกับเสียงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงยีนส์  เขาเหลือบมองนักมายากรที่ยังคงยิ้มน่ากลัวอยู่ข้างๆ เหมือนกับจะขู่ด้วยสายตาว่าให้เจ้าตัวอยู่เงียบๆ ไม่งั้นจะฆ่าทิ้งซะ

    ชายหนุ่มก็เพียงแค่ยักไหล่ขณะหัวเราะเสียงต่ำก่อนจะไล้เลียและขบใบหูเล่น  แต่คิรัวร์แกล้งทำเป็นไม่รู้สึกอะไรและเหลือบมองนักฉวยโอกาสอย่างรำคาญ  ก่อนจะหันไปรับโทรศัพท์และสนใจแต่กับคนที่อยู่ปลายสาย  เพราะรู้ดีว่าขัดขืนคนตรงหน้าไปก็ไม่มีประโยชน์ 

     

    คิรัวร์  เป็นไงบ้าง ?  ตอนนี้อยู่ที่ไหน ? คัลโตจังล่ะ ?

     

    ก็ดี  ชั้นเพิ่งกลับจากไปส่งคัลโตที่สนามบินมา  ตอนนี้อยู่ในเมืองใกล้กับที่ชั้นเจอคัลโตเมื่อวานแหละ  เย็นๆ คงกลับไปถึงโรงแรม  นายรออยู่นั่นแหละ  ตอนนี้มือชั้นไม่ค่อยว่าง  ขอวางสายก่อนนะ  ถ้ามีอะไรแล้วจะโทรกลับไป  แล้วเจอกัน

     

    อืม  แล้วเจอกันนะ

     

    มือก็ไม่ว่างจริงๆ นั่นแหละ  นักมายากรว่าอย่างขำ ๆ  พี่ชายที่น่ารักของนายนี่ขี้หวงจริงๆ เลยนะ  นัยน์ตาหรี่มองรอยตีตราบนซอกคอขาวเนียนใต้ปกคอเสื้อ แล้วแบบนี้จะปิดไหวเหรอ ?

    นั่นมันเรื่องของชั้น  แกน่ะมีอะไรก็รีบๆ ว่ามา  ชั้นไม่มีเวลาทั้งวันนะ 

    ถึงจะแอบกลัวอยู่บ้างแต่เด็กชายก็ยังคงตีฝีปากและเก็บซ่อนความรู้สึกเอาไว้ได้อย่างแนบเนียน  ในใจแอบรู้สึกโล่งอยู่บ้างที่เจ้ามายากรไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะเล่นเหมือนเมื่อก่อนหน้านี้ 

    ใจร้อนจัง  ชั้นก็แค่ถูกขอให้เอานี่มาคืนนายน่ะ  เมื่อเช้าสนุกมากไปหน่อยเลยลืมน่ะ

    มีดล้ำค่าของบรรดาเหล่านักฆ่าที่ชอบเก็บสะสมถูกยื่นให้มือเล็กๆ ทั้งสองข้างที่รับมาอย่างงงๆ  นัยน์ตาสีเขียวเงยขึ้นมองคนให้ด้วยอารมณ์แบบเดียวกัน  เพราะในเมื่อเขาเป็นคนให้มันกับหัวหน้าแก๊งแมงมุมเองแล้วทำไมเจ้าตัวจะต้องเอามาคืนเขาด้วย

    ไม่ใช่ว่านายไปขโมยมาเป็นข้ออ้างที่จะเข้าใกล้ชั้นหรอกเหรอ ?เขาว่าอย่างสงสัยและไม่ไว้ใจ

    แล้วชั้นจะลงทุนทำอะไรที่มันยุ่งยากแบบนั้นทำไมล่ะ ?

    ก็จริงอย่างที่นักมายากรพูด  และคิรัวร์อดที่จะหงุดหงิดไม่ได้กับสิ่งซ่อนเอาไว้ในประโยคนั้นว่า  เหยื่ออย่างนายน่ะ  ชั้นจะมาหาที่ไหนเมื่อไหร่หรือเล่นด้วยตอนไหนก็ได้

    คอยดูเถอะ ซักวันจะเหนือกว่ามันให้ได้  งั้นก็ไม่มี ไรแล้วใช่มะ  ชั้นไปล่ะ

    เดี๋ยวสิคิลจัง  จะไม่มีคำขอบคุณซะหน่อยเหรอ ?  มือไวเท่าคำพูดและคว้าแขนของเด็กหนุ่มเอาไว้ก่อนที่เขาจะเดินจากไป

    ปล่อย 

    น้ำเสียง  สีหน้าและแววตากลับเย็นชาและปราศจากการตีฝีปากเหมือนอย่างเคย  เน็นและกระแสไฟฟ้าถูกปล่อยออกมา และบีบอัดรวมกันเข้าจนกลายเป็นพลังงานที่มีความร้อนสูงก่อนจะระเบิดออก  เมื่อควันจางหายไป   ก็ไร้วี่แววของร่างของแมวน้อยสีเงิน  ชายหนุ่มจึงได้หัวเราะด้วยเสียงทุ้มต่ำและเลียเลือดที่ไหลออกมาจากแผลข่วนบาดลึกบนมือซ้าย  ในขณะที่นัยน์ตาลุกวาวขึ้นมานิดหน่อยด้วยความตื่นเต้น 

    ลูกแมวน้อยของนายนี่ไวขึ้นอีกหน่อยแล้วนะอิรุมิ

    ชายหนุ่มที่นิ่งเงียบอยู่ในเงามืดก้าวออกมาและยืนมองเขาด้วยใบหน้าและสายตาที่ไร้อารมณ์เหมือนเช่นเคย  จริงอยู่ที่เขารู้สึกไม่พอใจอยู่ข้างในที่เพื่อนทางธุรกิจแอบมาทำมิดีมิร้ายกับน้องชาย  แต่หากมองในทางกลับกัน  เขาก็ต้องยอมรับว่าการมีอยู่ของนักมายากรจอมปลิ้นปล่อนนี่ช่วยผลักดันและกระตุ้นให้น้องชายถลำลึกเข้าไปในโลกแห่งความมืดมิดของการฆ่า  และพัฒนาฝีมือได้อย่างก้าวกระโดดจริงๆ

    แต่ไม่ว่าจะยังไง  ก็ปล่อยให้มันอยู่ตามลำพังกับคิลไม่ได้

    ไม่ต้องห่วงหรอกน่า  หลังจากนี้ชั้นมีงานใหม่เข้ามา  เพราะงั้นไม่ว่างไปเล่นกับแมวน้อยของนายซักพัก

    ขอให้จริงเถอะ  อิรุมิทิ้งคำพูดเอาไว้เพียงแค่นั้นก่อนจะหายเข้าไปในเงามืดและทิ้งให้อีกฝ่ายได้แต่ยืนยิ้มอยู่คนเดียว

     

     

    …END…

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×