ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Under Lie [Fic : Hunter x Hunter]

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 03

    • อัปเดตล่าสุด 4 พ.ย. 50








    Fanfiction

    Project : Hunter x Hunter

    Under Lie

    Chapter 03

     

    ชายร่างสูงในชุดเสื้อคลุมยาวสีดำที่มีปกเป็นขนสัตว์สีขาว  และมีผมสั้นสีดำขลับเสยไปทางด้านหลังอย่างเรียบร้อย  ค่อยๆ เดินไปตามทางเดินของตึก  สายตาของเขาเหลือบมองไปตามร่างไร้วิญญาณและเลือดสดๆ ที่ไหลนองไปตามพื้นอย่างขำๆ 

    ช่วยไม่ได้นี่นะ  ก็เขายังเด็กอยู่นี่

    ใช่แล้ว  ถึงจะเป็นนักฆ่า  ไม่ใช่นักเก็บกวาด  แต่ก็ควรจะเก็บร่องรอยหลักฐานการฆ่าให้เรียบร้อยเพื่อไม่ให้คนสังเกตเห็น  ไม่เช่นนั้นมันจะไม่ต่างกับการประกาศให้คนอื่นรู้ว่าตัวเองนั้นยู่ที่ไหน  และอาจทำให้ถูกตามล่าได้ในภายหลังอีกด้วย

    แต่เจ้านั่นอาจจะจงใจก็ได้  ดูท่าจะโกรธชั้นน่าดู

    หัวหน้าแก๊งคิดพลางเดินต่อไปเรื่อยๆ ท่ามกลางซากศพที่ค่อยๆ เพิ่มจำนวนขึ้น  บาดแผลและสภาพของศพแสดงให้เห็นถึงสไตล์การฆ่าของเด็กชายและประกาศว่า  เขานั้นเป็นเหมือนสัตว์ร้ายที่มีกรงเล็บอันแหลมคม  ที่พร้อมจะฉีกกระฉากเหยื่อทุกตัวที่อยู่ตรงหน้าโดยสนใจเพียงแต่ความหฤหรรษ์ในการฆ่าเท่านั้น 

    เจ้าเครื่องนั่นมันกระตุ้นเจ้าเด็กนี่ได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ?  คุโรโร่คิดอย่างขำๆ พลางนึกถึงตอนที่เขาสั่งให้นักฆ่าวัยเยาว์ไปทำลายระบบรักษาความปลอดภัยและเครื่องสร้างม่านพลังไฟฟ้า

    หัวหน้า  ของยังอยู่  เจ้าเด็กนั่นมันรักษาคำพูดจริงด้วยแฮะ  โนบุนางะก็รู้สึกแบบเดียวกันในขณะหยิบของที่เป็นเป้าหมายออกมาจากตู้เซฟและโชว์ให้หัวหน้าของเขาดู  ส่วนสฟิงค์และเฟย์ตันก็พยักหน้าเห็นด้วย

    แต่ดูท่าหลังจากงานนี้  เขาคงไม่ชอบขี้หน้าชั้นแล้วล่ะหัวหน้าว่าพลางขำด้วยเสียงทุ้มต่ำ 

    ก็ดูท่าหัวหน้าจะไปกระตุกต่อมโกรธของเขาน่าดูเฟย์ตันว่าพลางยักไหล่  โดยที่แม้แต่เจ้าตัวอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำ

    ก็เขาเป็นลูกชายสายตรงของตระกูลนักฆ่านี่  มันก็เป็นธรรมดาที่จะตอกกลับเวลามีอะไรมากระตุ้นแบบนี้แหละหัวหน้าว่า

    ถ้าลงมือขนาดนี้ล่ะก็  แสดงว่าคงยังควบคุมตัวเองได้ไม่ดีเท่าไหร่  สฟิงค์ว่าพลางก้มลงมองดูศพร่างหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ

    แต่ก็ดีแล้วนี่  เพราะมันทำให้เราได้เห็นเกมส์การล่าที่น่าสนุก  นานแล้วไม่ใช่เหรอหัวหน้าที่พวกเราได้ออกไปมีปาร์ตี้เลือดกันน่ะ

    เสียงหัวเราะและรอยยิ้มที่ดูเรื่อยๆ สบายๆ แต่แฝงไปด้วยความอำมหิต  ความเย็นชา  และความสนุกนั้นเรียกให้คนทั้งสี่หันไปมองทางต้นเสียง  ร่างของชายหนุ่มที่มีผมตั้งสีแดงส้มในชุดมายากรสีขาวก้าวออกมาจากเงามืด   และเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าหัวหน้าที่เพียงแต่มองด้วยสายตาที่เย็นชา

    ไม่คิดว่านายจะมา  ไม่ใช่ว่ามันน่าเบื่อเลยปฏิเสธคำเรียกชั้นไปแล้วเรอะ?

    ก็ต้องขอโทษด้วยที่ต้องบอกว่าใช่สมาชิกหมายเลข 4  แกล้งก้มหัวขอโทษเล็กน้อย

    แล้วนายมาที่นี่ทำไม  หันมาสนใจแมวน้อยแทนลูกหมาแล้วเหรอ ?

    ก็มันเป็นโอกาสที่หาได้ยากนี่ครับ  การที่จะได้เห็นแมวน้อยออกมาเล่นสนุกโดยที่ไม่มีลูกหมาน้อยออกมาห้ามแบบนี้  แต่ก็ไม่รู้ว่าคุณเจ้าของจะว่าว่ามันเล่นมากเกินไปรึเปล่านัยน์ตาคมเหลือบลงมองยังร่างไร้วิญญาณที่อยู่รอบๆ ขณะแสยะยิ้ม

    นั่นสินะ

    ทั้งสองคนต่างหัวเราะหึๆ  ในขณะที่คนอื่นๆ ก็ได้แต่ถอนหายใจกับท่าทีของสมชิกหมายเลข  4  และหัวหน้าที่เป็นแบบนี้ประจำเมื่อเจอหน้ากัน

    งั้นเราก็ไปดูแมวน้อยกันหน่อยดีมั้ย ?  นักมายากรชวน   ท่านหัวหน้าและคนอื่น ๆ ไม่พูดอะไรและเดินไปตามทางเดินโดยไม่ใส่ใจว่าเขาจะตามมาหรือไม่ 

    ทุกคนต่างยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัวกับสิ่งที่รู้สึกได้จากอีกด้านของประตูไม้โอ๊คที่ปิดสนิท  กลิ่นเลือดที่คละคลุ้ง   บรรยากาศที่น่าอึดอัด  รังสีอำมหิตที่แผ่ซ่านออกมาบางๆ  และเน็นที่เคลื่อนไหวไปมาอย่างสนุกสนาน  ต่างบอกให้รู้ว่าการเล่นสนุกนั้นอาจจะยังไม่จบหรือจบลงไปแล้ว  และเมื่อบานประตูถูกผลักให้เปิดออก  คำตอบก็ถูกเผยให้เห็น

    ที่ตรงกลางห้อง  ฝ่ามือสองข้างที่งอเกร็งเหมือนกับกรงเล็กของสัตว์ป่านั้นกำลังฉีกข่วนกระชากเนื้ออ่อนนุ่มให้หลุดลุ่ยเหมือนกระดาษแผ่นบาง    มือไม้ต่างปัดป้องกรงเล็บนั้นอย่างสุดกำลังแต่ก็ไม่ได้ผล  ในขณะที่เลือดสดๆ สาดกระเซ็นไปทั่วจากร่างที่กำลังนอนกรีดร้องและดิ้นรนภายใต้นักฆ่าร่างเล็ก

    ดวงตาที่สั่นไหวได้แต่จ้องมองดวงตากลมโตสีเขียวที่ลุกวาวไปด้วยความสนุกอย่างหวดกลัว    ชีวิตของร่างที่กระเสือกกระสนดิ้นรนนั้นเหมือนกับถูกเสียงหัวเราะที่ค่อยๆ ดังขึ้นเรื่อยๆ นั้นดูดออกไป  แรงกดดันของบางสิ่งบางอย่างที่อยู่รอบตัวต่างทวีความรุนแรงขึ้นจนแทบทำให้หายใจไม่ออก  และผลักดันให้ยิ่งดิ้นรนมากขึ้นจนเสียงที่กรีดร้องออกมานั้นมาจากความหวาดกลัว  ไม่ใช่ความเจ็บปวด

    นายนี่เสียงร้องดังดีจริงๆ แต่มันฟังดูน่าเกลียดจนน่ารำคาญว่ะ

    ฝ่ามือเล็กๆ ปิดปากที่อ้ากว้างแน่นจนเสียงแทบจะเล็ดรอดออกมาไม่ได้  ใบหน้าอ่อนเยาว์โน้มลงมาจนริมฝีปากใกล้กับใบหูที่สั่นกลัวในสิ่งที่กำลังจะได้ยิน

    แบบนี้ค่อยดีขึ้นหน่อย  นายอยากจะให้ชั้นฆ่านายซะทีรึยังล่ะ?

    ดะ....ได้โปรด  ปล่อย....ปล่อยชั้นไปเถอะ...... เสียงหัวเราะที่ดังก้องและเย็นเชียบขัดจังหวะคำขอร้องก่อนที่จะได้พูดออกมาจนจบ

    คนอย่างนายนี่มันเป็นเหมือนกันหมดเลยแฮะ  คิดเหรอว่าชั้นจะสนใจเงินของแกน่ะ  เพราะสิ่งที่ชั้นต้องการน่ะมันอยู่นี่แล้วไงปลายเล็บที่เรียวแหลมกรีดลงบนใบหน้าที่หวาดกลัว

    อีกอย่าง  แน่ใจเหรอที่นายอยากให้ชั้นปล่อยน่ะ  นายอยากทรมานเล่นๆ ต่อไปอีก 2-3 ชั่วโมงก่อนตายรึไง ?”

    มะ.....หมายความว่าไง ?

    ก็นายไม่เหลืออะไรในร่างกายมากแล้วนี่

    เด็กชายยกขาข้างหนึ่งพาดบนตัวของชายแก่และท้าวคางในขณะที่มืออีกข้างหนึ่งล้วงผ่านผิวหนังอ่อนนุ่มลงไปหยิบกระเพาะสดๆ  ขึ้นมาและขยี้ให้เละคามือต่อหน้าต่อตาคนที่เป็นเจ้าของ  แต่ใบหน้าอ่อนเยาว์กลับเหยเกนิดหน่อยกับเสียงร้องที่แทบเรียกได้ว่าเป็นของคนสติแตก

    ก็แค่กระเพาะเอง  อย่าโวยวายไปหน่อยเลยน่า  ใช่ว่าเป็นหัวใจหรือปอดนายซะหน่อย  เนี่ยยังอยู่ได้อีกหลายสิบนาทีเลยนะ เขาพูดพร้อมรอยยิ้มเหมือนกับมันเป็นเรื่องธรรมดาที่สุดในโลกพลางควักไตออกมาข้างหนึ่ง  คนดูทั้งห้าคนต่างคิดเหมือนกันว่า 

    ก็แล้วถ้าไม่โวยตอนนี้แล้วจะให้โวยตอนไหน  เด็กนี่มันเหลือเชื่อจริงๆ

    แล้วนายอยากจะให้ชั้นฆ่านายจริงๆ  รึยังล่ะ  หรืออยากจะอยู่ต่ออีกซักหน่อย  ชั้นน่ะยังไงก็ได้    จะทำให้นายมีชีวิตอยู่ดูจนเครื่องในชิ้นสุดท้ายถูกควักออกไปชั้นก็ทำได้นะ  หรือจะแค่นั่งดูนายนอนทรมานจนตายไปเองก็โอเค

    ทะ.....ทำไมถึงทำ....ทำแบบนี้ ?

    ก็ชั้นถูกจ้างมาน่ะสิ  ตระกูลโซลดิกน่ะรู้จักมั้ย ? คนประเภทอย่างนายน่ะคงไปสร้างความแค้นให้ชาวบ้านเขาน่าดู  เพราะค่าหัวนายน่ะไม่ใช่น้อยๆ เลยนะ  เขากลับมาพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่เบื่อหน่าย

    คะ....ใคร ?

    ความลับทางธุรกิจ  เฮ้ ! จะนอกเรื่องทำไมฟะ !?  ตกลงแล้วอยากตายรึยังเนี่ย ?ท่าทีขึ้นเสียงและใบหน้าที่กลับมาหงุดหงิดทำให้คนดูฉงนกับคำพูดและท่าทางของเขาจนอดรู้สึกขำ ๆ ไม่ได้

    เด็กชายที่เบื่อกับการต่อล้อต่อเถียงกลับเข้าสู่โหมดนักฆ่าอีกครั้ง  กรงเล็บล้วงลงกระฉากตับออกมาและโยนทิ้งไปเหมือนขยะไร้ค่าและถือว่าเสียงกรีดร้องที่ได้ยินคือคำตอบ   ก่อนที่มันจะปักลงกลางอก  นัยน์ตาสีเขียวลุกวาวท่ามกลางความมืดอีกครั้ง

    นายตกลงก็จริง  แต่ไม่ใช่ว่าชั้นจะให้นายตายสบายหรอกนะ  จำคำพูดชั้นไปชาติหน้าด้วยล่ะว่า  คนทำชั่วน่ะ  มักจะถูกฆ่าตายอย่างน่าสมเพชเสมอ

    แล้วกรงเล็บก็กรีดกระชากผิวเนื้อ  ฝ่ามือเล็กๆ  ค่อยๆ แหวกเนื้อทั้งสองข้างให้แยกออก  ก่อนจะแกล้งควานหาอวัยวะที่ต้องการ  ใบหน้ายิ่งดูสดใสและนัยน์ตาสีเขียวเบิกกว้างจนกลมโตกับหยาดเลือดที่สาดกระเซ็นขึ้นมาย้อมร่างให้แดงฉาน

    ทั้งปอดและหัวใจต่างถูกบดขยี้ในฝ่ามือให้เห็นต่อหน้าต่อตาอีกครั้ง  ก่อนที่หูทั้งสองข้างของเด็กชายจะเพลิดเพลินกับเสียงกรีดร้องที่ดังไปจนถึงวินาทีที่ลมหายใจเฮือกสุดท้ายของชีวิตนั้นจบสิ้นลง

    ขอบใจสำหรับมื้อดึกนะ  สำหรับสวะอย่างแก  เลือดนี่ถือว่ารสดีไม่เลวเสียงขบขันดังขึ้นพร้อมกับริมฝีปากที่แสยะยิ้ม  ปลายลิ้นค่อยๆ เลียหยาดเลือดออกทีละนิ้ว

    ลองชิมมะ ? 

    คำชวนสั้นๆ และฝ่ามืออาบเลือดที่ยื่นออกมาเหมือนชวนให้มาร่วมกินโต๊ะอาหารทำเอาคนดูทั้งห้าทำหน้าฉงน  พวกเขาไม่คิดเลยว่าอยู่ๆ จะได้รับคำเชิญทั้งๆ ที่เด็กชายทำเหมือนกับพวกเขาไม่มีตัวตนอยู่ในห้องตั้งแต่แรก

    เป็นด้านที่น่าสนใจจริงๆ มิน่าล่ะอิรุมิถึงได้หวงนักหวงหนา 

    นักมายากรมองเด็กชายตระกูลนักฆ่าอย่างขบขัน  เพราะสิ่งที่เขาได้ทำลงไปนั้นมันแทบเรียกได้ว่าเป็นการฆ่าอย่างไร้เดียงสาและบริสุทธิ์  ไม่ว่าจะเป็นความคิดหรือการกระทำ  ทุกอย่างล้วนออกมาจากสัญชาตญาณดิบที่อยู่ภายในโดยไม่มีการเสแสร้ง  และแตกต่างจากเครื่องจักรสังหารที่ถูกเสี่ยมสอนให้ไร้ความรู้สึกอย่างสิ้นเชิง

     แบบนี้น่าจับแยกให้อยู่คนเดียวบ่อยๆ จริงๆ  นักมายากรรู้สึกเสียดายขึ้นมาเล็ก ๆ  ว่า  ตัวตนที่ดำมืดอันบริสุทธิ์นี้ต้องถูกกักขังเมื่ออยู่กับเด็กชายอีกคนหนึ่ง

     ไม่ล่ะเกรงใจ 

    คุโรโร่ตอบด้วยรอยยิ้มเย็นๆ  ในขณะที่คนอื่นๆ พยักหน้าเห็นด้วย  พวกเขาไม่แปลกใจกับเด็กผู้หญิงร่างเล็กๆ ในชุดกิโมโนสีแดงเดินออกมาจากเงามืดที่อยู่อีกฝากของมุมห้อง  และตรงมาหานักฆ่าที่ยังคงนั่งเลียเลือดอย่างสบายอารมณ์อยู่บนร่างไร้ชีวิตที่เย็นลงอย่างรวดเร็ว

    ท่านพี่คิรัวร์.......  น้ำเสียงเล็กๆ ที่ไร้อารมณ์เรียกให้เด็กชายหันมามอง 

    นัยน์ตาสีดำขลับของเธอจ้องมองยังนัยน์ตาสีเขียวกลมโตที่หรี่มองพร้อมกับแสยะยิ้ม  ถึงแม้ในใจและภาพเบื้องหน้ายังคงมืดสลัวไปด้วยสีแดงของหยาดเลือด  ความมืด  และความยินดีปรีดาที่ได้สัมผัสความตาย  เขาก็ยังมีสติมากพอที่จะรับรู้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้านั้นคือใคร

    ไงคัลโต  สนุกกับโชว์มั้ย?

    ชอบมากเลยล่ะค่ะ  ไม่ได้เห็นพี่คิรัวร์สนุกแบบนี้มาตั้งนานแล้ว   กลับกันเถอะค่ะท่านพี่คิรัวร์    ท่านพี่อิรุมิกำลังคอยอยู่ 

    เธอว่าพลางเข้าไปกอดคอพี่ชายด้วยความรู้สึกรักและหวงแหน  ดวงตาสีดำขลับเหลือบมองหัวหน้าที่ยืนอยู่ตรงประตูเป็นเชิงขออนุญาตและยิ้มขอบคุณเมื่อเขาพยักหน้าเป็นคำตอบ

    เหมือนชื่อที่ถูกเอ่ยถึงนั้นกระชากอะไรบางอย่างของเด็กชายให้กลับมา  และทำให้เขาหันมาทำหน้าเบื่อ ๆ เซ็ง ๆ  ในขณะที่บุคลิกดำมืดนั้นเลือนหายไป  เหลือไว้เพียงแค่ตัวตนของเด็กผู้ชายที่ขี้เล่น  เจ้าเล่ห์  และมีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวเท่านั้น 

     โทษทีนะที่ไม่มีเหยื่อเหลือให้พวกนายเล่นกันน่ะ  มือเปื้อนเลือดเลื่อนมากำมือของเด็กหญิงหลวมๆ ก่อนจะเดินจูงไปยังประตู  และไม่ลืมที่จะหันไปพูดกับเหล่าผู้ชมในขณะที่เดินผ่าน

    เป็นวิธีการแก้เผ็ดที่แปลกจริงๆท่านหัวหน้าแก๊งยอมรับหร้อมกับยิ้มและโบกมือเป็นเชิงไม่ถือสา  เพราะเขาถือว่าการฆ่าเป็นเพียงความสนุกที่ได้ระหว่างทำงานเท่านั้น

    งั้นเรื่องเงินก็โอนเข้าที่นี่ให้หน่อยก็แล้วกันคิรัวร์ว่าพลางยื่นกระดาษแผ่นเล็กๆ ให้ แล้วก็ขอบใจสำหรับข้อตกลงนะ  แล้วก็นี่เขาโยนของไปให้คุโรโร่ ของตอบแทนที่ให้ชั้นได้เล่นสนุแล้วก็เรื่องเงิน  บอกตามตรงชั้นรู้สึกโล่งแล้วก็ปรอดโปร่งมากเลยล่ะ  ไม่ได้เล่นมาตั้งนานแล้ว  เขาว่าพลางบิดขี้เกียจเล็กน้อย  แต่ส่วนหนึ่งก็รู้สึกเกร็งและกลับมาเครียดทันทีที่เห็นนักมายากรอยู่ในกลุ่มผู้ชมด้วย  รอยยิ้มของชายหนุ่มยังคงดูน่าขนลุกและหนาวสันหลังเหมือนเดิม

    ไม่เป็นไร  ชั้นถือว่าชั้นได้ของตอบแทนมาคุ้มแล้วเหมือนกัน 

    ท่านหัวหน้าบอกเป็นนัยๆ ถึงการฆาตกรรมโหดที่ได้ดูไปสักครู่  แม้การฆ่าที่ดิบเถื่อนนี้จะเป็นสิ่งที่คนซาดิสซ์โรคจิตที่ไหนก็ทำได้   แต่มันก็ยังดูน่าสนใจเมื่อนักฆ่าที่มีอายุเพียงแค่ 12  ปีนั้นโหดได้อย่างไร้เดียงสาและไร้ขอบเขตจนน่าตกใจ

    เอาไปเหอะน่า  ของดีหายากนะ  เนี่ย...... 

    แล้วเด็กชายก็สาธยายสรรพคุณอันเยี่ยมยอดของมีดยาวในฝักสีดำขลับอย่างละเอียด  ก่อนจะโบกมือให้เป็นเชิงบอกลากับท่านหัวหน้าและสมาชิกแก๊งก่อนจะหายไปในเงามืดพร้อมกับน้องสาว  คนที่ยืนอยู่ก็ได้แต่บอกลาสั้นๆ  อย่างเป็นกันเองก่อนที่จะถอนตัวหายเข้าไปในเงามืดเช่นเดียวกัน

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    จริงอยู่ว่ามันเป็นภารกิจแรกที่ทำให้ทายาทของตระกูลนักฆ่าชื่อดังที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวยาวจะรู้สึกสนุกและอารมณ์ดีอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน  แต่ความรู้สึกเหล่านั้นกลับเปลี่ยนมาเป็นความหงุดหงิด  หวาดระแวง  และกระวนกระวายจนแทบอยู่ไม่เป็นสุขตลอดเวลาอีกครั้ง    เพราะคนที่กำลังนั่งไขว้ห้างบนโซฟาเดี่ยวข้างๆ นั้นเป็นตัวอันตรายที่เชิญตัวเองเข้ามานั่งโดยที่ไม่สนใจเลยว่าเจ้าของห้องจะอนุญาตหรือไม่ 

    ใบหน้าและดวงตาสีดำขลับของเจ้าของห้องที่เปิดประตูเข้ามาจะเฉยชาและไร้อารมณ์  ในขณะที่ภายในกลับรู้สึกแปลกใจที่เห็นแขกไม่ได้รับเชิญ   แต่เขาก็ไม่ใส่ใจและเดินไปนั่งลงข้างๆ เด็กชายที่ยิ่งรู้สึกเกร็งเครียดมากขึ้น

    ได้ยินจากคัลโตว่านายรู้สึกสนุกไม่ใช่เหรอ ?  มันเป็นคำถาม  แต่น้ำเสียงกลับราบเรียบเหมือนกับเป็นการพูดชี้แจงข้อเท็จจริงเท่านั้น

    ก็ถ้าเจ้านี่มันไม่ดันทุรังตามมาล่ะก็นะ.....

    เด็กชายนั่งครุ่นคิดแทนที่จะตอบขณะเหลือบมองคนที่ว่าอย่างหงุดหงิด  เขาละไม่น่ายอมให้คัลโตขอปลีกตัวออกไปจากห้องเพื่อไปพักผ่อนตั้งแต่แรกเลย  เพราะการอยู่ใกล้ๆ นักมายากรลึกลับตามลำพังมันเกือบเรียกได้ว่าเป็นการฆ่าตัวตาย

     เหมือนกับจะอ่านความคิดที่สับสนออก  ชายหนุ่มผู้เป็นพี่ชายจึงกัดที่ปลายนิ้วชี้จนเลือดออกและยื่นมาทางเด็กชาย  และก็เป็นอย่างที่คิดเอาไว้  ใบหน้าอ่อนเยาว์เบนความสนใจมาหาน้ำสีแดงและกลิ่นอันหอมหวานของมันทันที  ปลายลิ้นแลบออกมาอย่างลืมตัว  แต่ปลายนิ้วกลับถอยห่างเหมือนเป็นการหยอกแกล้ง  ทำให้เด็กชายต้องขยับตามเข้าไปหาเพื่อให้ได้ลิ้มรสของเหลวนั้น  โดยที่ไม่ทันสังเกตเลยว่าเผลอเข้าไปนั่งอยู่บนตักของเจ้าของนิ้วเรียบร้อยแล้ว  สีหน้ากลับผ่อนคลายลงทันทีเมื่อนิ้วนั้นยอมอยู่นิ่งและปล่อยเขาได้ดูดเลียหยาดเลือดตามใจชอบ

    น้องชายนายนี่สุดยอดจริงๆ อิรุมิ

    คำพูดที่สื่อความหมายไปในทางอกุศลชี้บ่งถึงอวัยวะกลางลำตัวว่า  การกระทำนั้นมีผลทำให้มันเริ่มกระตุกและแข็งตัวขึ้นมา  ในขณะที่กำลังจินตนาการว่าสิ่งที่ริมฝีปากกำลังดูดดื่มนั้นมันเป็นของอย่างอื่นที่ไม่ใช่เพียงแค่นิ้วและเลือดสีแดงเท่านั้น

    เจ้านี่มันชอบเลือดขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ ?  ฮิโซกะว่าต่ออย่างขบขัน  ภาพของแมวสีเงินปรากฏขึ้นทาบทับร่างของเด็กชายที่ไม่ทันสังเกตหรือได้ยิน  เพราะมัวแต่สนใจอยู่แต่กับรสเลือดที่แผ่อยู่ในปาก

    ไม่หรอก  มันก็แค่ช่วยให้เขาใจเย็นและลืมสิ่งที่อยู่รอบตัวไปได้ซักพัก 

    นักมายากรไม่ต้องรอให้เขาบอกว่าสาเหตุที่ทำให้นักฆ่าวัยเยาว์เกิดอาการเครียดนั้นคืออะไร  ถึงใบหน้าจะไม่แสดงอารมณ์อะไร แต่น้ำเสียงที่ออกมากับคำพูดต่อมาก็บ่งบอกได้ชัดเจนว่าเจ้าตัวกำลังไม่พอใจ

    เลิกคิดอกุศลแล้วก็เลิกจ้องน้องชั้นด้วยสายตาแบบนั้นซะที  แน่นอนว่าน้องชายตัวเองกำลังถูกมองด้วยสายตาแทะโลมเหมือนหมาป่ากำลังจะขย้ำลูกแกะแบบนี้  พี่ชายที่ไหนก็ต้องโวยเพื่อสวัสดิภาพเวอร์จิ้นของน้องชายที่น่ารักของตัวเอง

    หลังจากที่ชั้นได้เห็นเขาละเลงมหกรรมเลือดซะนองไปทั่วทั้งตึกแบบนั้น  ชั้นก็เข้าใจแล้วล่ะว่าทำไมนายถึงหวงนักหวงหนา 

    คำพูดปนขำที่แฝงไปด้วยรังสีอำมหิตและเน็นที่แผ่ออกมาเมื่อตอนที่นึกถึงเลือดและซากศพ  ทำให้ใบหน้าที่ไร้อารมณ์ของอีกฝ่ายถึงกับกระตุกยิ้มเล็กน้อย

    เพราะงั้นเขาได้ถึงพิเศษในหมู่พวกเราไงล่ะ  และเขาเป็นน้องชายของชั้น  ของชั้นเพียงคนเดียว 

    ลงท้ายนี่เหมือนนักฆ่าผู้มีผมยาวตรงสีดำขลับพูดกับตัวเอง  และเป็นการย้ำถึงข้อตกลงที่มีให้กับนักมายากรที่ยังคงมองด้วยรอยยิ้มแสยะกว้าง  ใบหน้าและจมูกโด่งคมสันซุกไซ้ไปตามผมสั้นอ่อนนุ่มสีเงินและซอกคออย่างรักใคร่  ทำให้ลิ้นหยุดเลีย  และริมฝีปากปล่อยนิ้วให้เป็นอิสระ  ก่อนจะส่งเสียงครางออกมาเบา ๆ

    พี่ฮะ........

    คำเรียกเพียงสองคำที่หลุดออกมาอย่างลืมตัวนั้นเหมือนทำให้คนที่ถูกเรียกรู้สึกหวงแหนร่างบนตักมากขึ้น  แขนทั้งสองข้างโอบกอดร่างเล็กๆ เอาไว้แน่น  ริมฝีปากเอ่ยชื่อเหมือนเป็นการตอบรับคำเรียกนั้น

    คิล.......

    แล้วนายยังจะห้ามไม่ให้ชั้นมองน้องนายแบบนั้นอีกนะ  ทั้งๆ ที่นายก็รู้สึกแบบเดียวกัน  แถมทำอย่างที่ชั้นคิดอีกตังหาก  แบบนี้มันแกล้งกันนี่

    ใครจะวิปริตเหมือนนาย   ที่สำคัญเขาเป็นของชั้น  ไม่ใช่ของนาย   นักฆ่าที่เงียบขรึมก็แค่เหลือบมองด้วยสายตาเย็นชาและพูดเสียงเรียบเหมือนกับมันเป็นเรื่องธรรมดาที่ใครๆ ก็รู้กันทั้งนั้น

    แบบนี้ชั้นก็อดเล่นสนุกน่ะสิ  แน่นอนว่านัยน์ตาสีดำขลับมองเหมือนกับจะพูดว่า  แล้วใครอนุญาตให้นายเล่นไม่ทราบ ?

    นักมายากรแสยะยิ้มเย็นๆ พลางท้าวคางมองเพื่อนทางธุรกิจของเขาเล่นกับน้องชายอย่างขำๆ  เขาไม่คิดจะพูดอะไรอีกเพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้านั้นไม่มีช่องให้เขาแทรกเข้าไปได้เลย  แต่ถึงยังไง  แค่ได้นั่งมองก็รู้สึกสนุกและเพลิดเพลินพอแล้ว  เพราะความสัมพันธ์ของพี่น้องที่เพื่อนทางธุรกิจมีให้กับน้องชายนั้นมันช่างก้ำกึ่งจริงๆ

    คิดถูกจริงๆ ที่ตามมาด้วย  ได้เห็นอะไรน่าสนใจจริงๆ แฮะ เขาคิดเป็นนัยกับทั้งพี่ชายและน้องชาย  และสิ่งที่เขากำลังได้ยินได้เห็นก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกสนุกมากขึ้น

    ทำไมนายถึงไปสนิทสนมกับพวกแมงมุม ?

    ฝ่ามือบนท้ายทอยกำไหมผมสีเงินแน่นและกระชากลง ทำให้ใบหน้าเชิดขึ้นมามอง  นัยน์ตาสีเขียวกลมโตเบิกว้างเล็กน้อยและจ้องมองนัยน์ตาสีดำขลับที่หรี่ลงมองอย่างตกใจและเริ่มหวาดกลัว  เน็นที่ดำมืดค่อยๆ แผ่ออกมาจากร่างของชายหนุ่มผู้เรียกว่าเป็นพี่ชาย  มันทั้งกดดันและน่าอึดอัดจนร่างเล็กในอ้อมแขนแทบหายใจไม่ออก  น้ำลายถูกกลืนอย่างฝืดคอก่อนที่เสียงจะลอดริมฝีปากออกมา

    มะ...หมายความว่ายังไง?  เด็กชายยังไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ๆ พี่ชายของเขาถึงโกรธขึ้นมา

    นายไปสนิทสนมกับพวกนั้นเพราะจะทิ้งชั้นกับพ่อไปเข้าแก๊งเหมือนคัลโต  มันเป็นการคาดเดาที่เอ่ยออกมาอย่างเย็นชาและเฉียบคมจนทิ่มแทงให้คิรัวร์รู้สึกเจ็บปวด

    ผมเปล่านะ !!  หมายความว่าไงที่ว่าทิ้ง !!  พี่ต่างหากที่ทิ้งผมไป !!”  คำพูดตัดรอนของน้องชายทำให้พี่ชายอึ้ง  แต่ใบหน้ายังคงไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมา

    ไม่คิดว่าอย่างนายจะยังร้องหาพี่เป็นลูกแหง่แบบนี้

    ไม่ใช่นะ !!  พี่น่ะไม่รู้หรอกว่าผมรู้สึกยังไง.......พออยู่กับพวกนั้นผมถึงได้รู้......ถึงพวกเขาจะไม่ใช่ครอบครัว  แต่อย่างน้อยผมก็รู้สึกสนุกและมีความสุขมากกว่าตอนที่อยู่กับพ่อกับพี่อีก !!!!”

    เหมือนกับคำพูดตัดพ้อเหล่านั้นไปเสียดแทงและทำให้บางอย่างในตัวของพี่ชายขาดผึง  หลังมือตบฉาดเข้าที่แก้มขวาอย่างแรง  ฝ่ามืออีกข้างบีบลำคอขาวเอาไว้แน่นและจับกดลงกับโซฟา  ใบหน้าที่เฉยชาไร้อารมณ์โน้มลงมาใกล้พร้อมกับรังสีเน็นแผ่ซ่าน

    นายคิดยังงั้นจริง ๆ น่ะเหรอคิล ?  ฝ่ามือบีบแน่นขึ้นอีกจนร่างในกำมือแทบหายใจไม่ออก

    ก็จริงน่ะสิ !!  พ่อกับพี่น่ะเห็นผมเป็นแค่เครื่องมือฆ่าคนเท่านั้นแหละ  แล้วพี่จะสนใจทำไม  พี่จะกลับมาหาผมทำไมอีก  !!?”  เสียงที่ตะเบ็งออกมานั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความโศกเศร้าที่เก็บซ่อนเอาไว้มานานหลายปี

    ถ้าพ่อเห็นนายเป็นแค่นั้น  เขาคงไม่ให้ทำสัญญาแบบนั้นแล้วปล่อยให้ออกจากบ้านมาหรอก  และถ้าฉันคิดแค่นั้น......ใบหน้าคมเลื่อนลงมากระซิบคำพูดที่เหลือข้างหูแผ่วเบา ......มีเหรอที่นายจะได้วิ่งเล่นกับกอร์น  ฟรีคส์น่ะ  นายเองนั่นแหละที่คิดถึงแต่ตัวเองและไม่เคยรู้ว่าพ่อกับพี่รู้สึกยังไง

    ก็เพราะพ่อกับพี่ไม่อยากเสียเครื่องมือดีๆ ไปน่ะสิน้องชายยังคงไม่อยากยอมรับในสิ่งที่พี่ของเขาพูด

    อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย  ถ้านายเป็นแค่นั้นจริงๆ พ่อกับพี่หรือแม้แต่คุณตาเซโน่ก็ไม่เก็บเอาไว้ให้เปลืองหรอก  นายคิดเหรอว่ามีแต่นายที่ถูกเลี้ยงมาแบบนั้น  นายไม่รู้หรอกว่าตัวนายน่ะมีความสำคัญและถูกเลี้ยงมาพิเศษขนาดไหน ชั้นกับคนอื่น ๆ ต่างหากที่เป็นเพียงเครื่องจักรฆ่าคนในสายตาของพวกผู้ใหญ่.....

    คำพูดทั้งหมดที่ได้ยินทำให้เด็กชายไม่รู้จะพูดอะไรและไม่กล้าที่จะสบตาผู้เป็นพี่ชาย  ในใจส่วนหนึ่งรู้ดีว่าสิ่งที่ได้ยินนั้นถูก  แต่ส่วนอื่นก็ยังไม่อยากจะยอมรับ  เพราะมันล้วนขัดกับความเชื่อทั้งหมดที่ยึดถือมาหลายปี  และคำถามมากมายค่อย ๆ ผุดขึ้นมาในหัว  แต่กลับไม่มีความกล้าที่จะถามและไม่กล้าแม้แต่จะฟังคำตอบ

    แต่ผมไม่อยากเป็น  ผมไม่อยากจะพิเศษ......ผมแค่.........อยากเป็นเหมือนคนอื่นๆ

    ชั้นเคยบอกตอนสอบฮันเตอร์แล้วไงว่าเป็นไปไม่ได้.......งั้นนายรับข้อเสนอทำไม ?

    ไม่ใช่ !  ผมไม่ได้หมายถึงเรื่องฆ่าคน........เสียงของเขาเบาลงอีกเพราะไม่มีความกล้าที่จะพูดต่อมากนัก เรื่องนั้นน่ะ......ผมเข้าใจแล้วก็ยอมรับแล้ว.......

    งั้นนายก็กำลังขอในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้

    เพราะงั้นผมถึงอยู่บ้านไม่ได้ไงล่ะ.......

    นายก็แค่เอาแต่หนีเท่านั้น

    ก็จริง  ผมเป็นคนทิ้งทุกคนมา......แต่ผมไม่เสียใจหรอก........เพราะชั้นได้เป็นเพื่อนกับกอร์น......

    เขาไม่กล้าที่จะมองหน้าคนตรงหน้า  หรือแม้แต่จะอยากให้ใครมาเห็นหน้าเขาในตอนนี้   เขาไม่รู้จะทำยังไง   ไม่รู้จะพูดอะไร  ควรจะขอโทษหรือโต้เถียงและยึดมั่นในสิ่งที่เชื่อหรือไม่  แขนทั้งสองจึงยกขึ้นมาวางบนเปลือกตาที่ปิดสนิท  ในเวลานี้เขาอยากจะเป็นแค่เด็กน้อยที่อ่อนแอและร้องไห้ออกมา  แต่คำพูดที่ออกมาจากปากก็มีเพียงแค่ประโยคสั้นๆ ที่เต็มไปด้วยความเศร้าเท่านั้น

    พี่จะหาว่าผมโกหกก็ช่าง.......ขอผมอยู่คนเดียวเถอะ   ได้โปรด   พี่อิรุมิ......  เขาไม่สนใจที่จะเอ่ยชื่อของผู้ชมอารมณ์ดีที่อยู่ในห้อง  เพราะรู้ดีว่าถ้าพี่ชายยอมออกไป  เขาก็ต้องพาเพื่อนทางธุรกิจของเขาออกไปด้วย

    แต่พี่ชายกลับปฏิเสธและส่งซิกไล่เพื่อนให้ออกจากห้องไป  ถึงอีกฝ่ายจะยังรู้สึกเสียดายอยู่บ้างแต่ก็ยอมออกไปแต่โดยดีก่อนที่จะเจอเข็มพิฆาตปักหัว

    คิล.....

    น้ำเสียงที่เย็นเฉียบมาพร้อมกับกลิ่นเลือดที่ลอยมาเตะจมูกอีกครั้ง  เด็กชายรู้ดีว่ามันมาจากปลายนิ้วที่อยู่เหนือริมฝีปากของเขา  และรู้ดีว่าพี่ของเขากำลังทำอะไร เพียงแต่เขายังไม่อยากที่จะลิ้มรสมันตอนนี้ และลืมความรู้สึกที่มีให้กับคนที่อยู่ตรงหน้าไป   แม้มันจะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ก็ตาม

    คิล.....

    ชื่อถูกเรียกอีกครั้งกลับฟังดูไม่แข็งกระด้างและเย็นชาเหมือนครั้งแรก  มันทำให้ผู้เป็นน้องชายอดหวังเล็ก ๆ ไม่ได้ว่าเลือดที่พี่กำลังหยิบยื่นมาให้นั้นคือความปรารถนาที่ต้องการจะช่วย  มันคือความเป็นห่วงและความเห็นใจที่ไม่อยากให้เขาต้องคิดมากกับบทสนทนาอันเจ็บปวดที่ผ่านมา

    นายจะไม่เชื่อใจพ่อกับพี่ก็ตามใจ  แต่จำไว้ว่าพวกเราไม่มีวันหันหลังให้กับนายเด็ดขาดเสียงทุ้มต่ำดังขึ้นอีกครั้งเมื่อเด็กชายยังคงนอนนิ่งไม่ขยับ 

    คิรัวร์ใช้เวลาเกือบ  3  นาทีในการทำใจให้เชื่อคำพูดของผู้เป็นพี่ชาย  ความทรงจำเมื่อคนๆ นี้เคยดูแลและเสี่ยมสอนเขามาแต่จำความได้นั้นผุดขึ้นมาในหัว  ทำให้ความรู้สึกรักและนับถือพี่ชายที่เคยลืมเลือนไปค่อยๆ กลับคืนมาอีกครั้ง  

    ขอโทษฮะ.....พี่อิรุมิ.......... 

    จริงอยู่ที่ในใจไม่ได้รู้สึกเศร้าอะไรมากมายและเพียงแค่รู้สึกผิดกับสิ่งที่ตัวเองได้พูดออกไปแต่น้ำตากลับไหลออกมา   ปลายลิ้นค่อยๆ เลียหยาดเลือดเป็นการแสดงการยอมรับในตัวอีกฝ่าย  และเปิดโอกาสให้กับช่วงเวลาในความทรงจำนั้นอีกครั้ง 

    ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มกับการกระทำนั้น  ร่างสูงเอนลงนอนข้างๆ และใช้แขนทั้งสองข้างโอบน้องชายเข้ามาไว้ในอ้อมกอดเหมือนเมื่อสมัยที่เขายังเด็กเกินกว่าที่จะนอนคนเดียวได้  ใบหน้าคมและจมูกโด่งเลื่อนลงไซ้ซอกคอขาวเนียนและมองร่างเล็กๆ ผ่านดวงตาสีดำขลับที่ไร้อารมณ์อย่างเอ็นดู

    ไม่ใช่แค่นายหรอกคิล  ชั้นกำลังทำสิ่งที่ปู่กับพ่อห้ามเหมือนกัน

    นั่นสินะ  งั้นพี่ก็เหมือนผมแล้วสิ  น้องชายแกล้งหยอกพลางเอาแขนออกและพลิกตัวหันมาพาพี่ชายเหมือนกับแมวที่นอนขดอยู่ในอ้อมแขนของเจ้านาย

    แค่เฉพาะที่มีโอกาสเท่านั้นแหละ  คัลโตเองก็เหมือนกัน

    นั่นสิ  อยากเห็นจริงๆ ว่าแม่เป็นยังไงถ้าเกิดมาเห็นเข้า

    ถึงชั้นจะยอมให้นายเข้าไปยุ่งกับแก๊งโจรเงามายาได้เพราะมีคัลโตอยู่  แต่ถ้านายเป็นสมาชิกแก๊ง   ชั้นฆ่านายแน่คำพูดลงท้ายนั้นช่างเย็นเชียบและเต็มไปด้วยรังสีอำมหิตของเน็นที่แผ่ซ่านจนแทบทำให้ร่างในอ้อมแขนเหงื่อแตกพลั่กด้วยความอึดอัดและความกลัว

    ระ......รู้แล้วล่ะน่า !!”

    น้องชายรีบให้คำมั่นสัญญาและรู้สึกโล่งใจขึ้นมาเป็นกองเมื่อเน็นกับรังสีอาฆาตนั้นหายไป  เหลือไว้เพียงตัวตนของออร่าที่เรียบเฉยเหมือนสายน้ำที่ไหลเอื่อยเหมือนเดิม

    พักซะ  คืนนี้นายเหนื่อยมามากแล้ว  อิรุมิพูดด้วยเสียงราบเรียบและใบหน้าไร้อารมณ์  อีกฝ่ายก็หลับตาอย่างว่าง่าย  แต่ ก็ยังคงมีคำถามที่คาใจอยู่

    คืนนี้......ผมทำได้ดีรึเปล่า ?  และมันใช้เวลาเกือบ  1  นาทีกว่าที่พี่ชายจะตอบ

    นายสวยงามมากคืนนี้......คิล.......  ใบหน้าคมสันซุกลงสูดกลิ่นเหงื่อและเลือดเข้าเต็มปอดเหมือนกับสูดกลิ่นหอมของดอกไม้  เต็มไปด้วยเลือดและอยู่ท่ามกลางเสียงกรีดร้อง  ซากศพ  และความตาย.......พ่อกับพี่อยากเห็นนายเป็นแบบนี้มานานแล้ว  แล้วนายล่ะ  ได้ปลดปล่อยความกระสัน  ความกระหาย  และความอำมหิตทั้งหมดออกมาแล้วรู้สึกยังไงบ้าง ?  ใบหน้าคมเคลื่อนเข้ามาใกล้จนอีกฝ่ายรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆ บนริมฝีปาก  ฝ่ามือใหญ่เลื่อนเข้าไปใต้เสื้อผ้าที่เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดแล้วกอดเอาไว้แน่น

    ......ก็ดีฮะ......ผมว่า.........

     

     

    ...End Chapter 03…

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×