คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 02
Fanfic
Project : Full Metal Alchemist / D.Gray Man
Philosopher Stone’s Stage
..Chapter 02
..
“ ว่าไงนะ !? ”
“ พวกเราต้องการให้เธอมาเป็น Exorcist ” ชายหนุ่มในชุดเสื้อคลุมสีขาวย้ำ
“ นั่นน่ะได้ยินแล้ว แต่ที่ฉันจะว่าน่ะมันทำไม อะไร เพราะอะไรเทือกนั้นต่างหาก คงไม่ต้องบอกนะว่าฉันยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าไอ้ศาสนจักรของพวกนายมันอะไร ! ”
“นั่นสิครับ ทำไมถึงต้องเป็นพี่ด้วย?”
น้องชายร่างเกราะเหล็กถามด้วยความเป็นห่วง เขาไม่อยากให้ผู้พันถีบส่งพี่ชาย หรือแม้ปล่อยให้เจ้าตัวที่แสนจะใจร้อนกระโดดเข้าไปหาเรื่องเดือดร้อนมากไปกว่าสิ่งที่พบเจออยู่ทุกวัน ซึ่งส่วนมากจะเป็นการเล่นกับโฮมุนครุส
“เลิกเถอะ Komui แบบนี้มันชักช้าเสียเวลา ถ้าจะต้องมาสาธยายตั้งกะต้นเหง่าศักราชแบบนี้ สู้ฉันออกไปลุยเองคนเดียวดีกว่า” หญิงสาวร่างสูงที่มีผมดำยาวเหมือนกับเสื้อคลุมขัดขึ้นมาด้วยความหงุดหงิด
“แต่ถ้านายจะยังดันทุรัง ชั้นขอบายตรงนี้ล่ะ ส่งภารกิจตามมาให้ก็แล้วกัน” เขาว่าแล้วเดินออกจากห้องไปโดยไม่เว้นช่องให้ท่านหัวหน้าได้ทัดทาน
“ด....เดี๋ยว Kanda” Allen รีบตามไปทันที ส่วนท่านหัวหน้าก็แค่โบกมือให้กำลังใจอย่างไม่ทุกข์ร้อน
“จ้า พา Kanda-kun กลับมาให้ได้น้า เอาล่ะกลับมาต่อกันเถอะ หน้าที่ของพวกเราก็คือตามล่าสิ่งที่เรียกว่า Akuma รายละเอียดอ่านเอาเอง และเราค้นพบว่า หินนักปราชญ์ที่พวกเธอกำลังหาอยู่นั้นก็คือ Innocence รายละเอียดของมันก็อ่านเอาเองและศัตรูของพวกเราก็คือ ท่านเคาน์ทพันปี นี่ก็หาอ่านเองนะจ้ะ เพราะงั้น--”
“ท่านเคาน์ทที่ว่าของพวกนายก็เลยจ้องมาที่พวกเรางั้นสิ ?” Ed พูดอย่างเหนื่อยหน่ายแต่น้ำเสียงแฝงไปด้วยความซีเรียส “แต่นั่นก็ยังไม่อธิบายว่าทำไมฉันถึงต้องเป็นไปเป็น Exorcist อะไรนั่น”
“หน้าที่ของพวกเราคือการรวบรวม Innocence”
“แต่เพราะงั้นฉันก็ไม่กลายเป็นคู่แข่งเรอะ?”
“ก็ไม่เชิง จริงๆ แล้วยังมี--”
ดูเหมือนภารกิจจะเป็นฝ่ายวิ่งเข้าหาเจ้าของดาบศาตรากำราบปีศาจซะเอง เมื่ออยู่ดีๆ Akuma ขั้นที่หนึ่งที่มีรูปร่างครึ่งคนครึ่งลูกบอลกลิ้งถล่มฝากำแพงห้องคนไข้เข้ามา
“ ดูเหมือนเราต้องเก็บไว้ไปนั่งจิบชาคุยกันทีหลังซะแล้ว” Komui พูดด้วยรอยยิ้มก่อนจะก้มหลบแขนยาวอัปลักษณ์ที่กวาดผ่านหัวไปทำลายข้าวของไปเป็นแถบ
“ หมอบลงค่ะผู้พัน !! ” เสียงเรียบเฉียบขาดดังขึ้นพร้อมกับกระสุนที่สาดเข้าใส่สัตว์ประหลาดจากด้านหลัง
คนที่ถูกเรียกกลับมาตั้งหลักใหม่ ประกายไฟพุ่งออกไปจากปลายนิ้วทุกครั้งที่ดีดติดต่อกัน เพื่อไล่ฆ่าเจ้าปีศาจให้ถอยออกไปจากห้อง
“ ผู้กอง Hawkeye พา Komui-san ไปหลบในที่ปลอดภัย Alphonse ตามไปคุ้มกันด้วย ”
“ เอ๊ !? แล้วพี่ล่ะฮะ !!? ”
“Full Metal นายอยู่นี่แหละ”
“ ได้ทีล่ะสั่งใหญ่เลยนะ (ไอ้) ท่านผู้พัน ฉันยังเป็นคนป่วยอยู่นะเฟ้ย ! ”
ถึงปากจะโวยวายอย่างหงุดหงิด แขนออโต้เมล์ถูกเปลี่ยนให้มีปลายดาบงอกออกมาจากหลังข้อมือ แล้วเข้าไปช่วยฟันเจ้าสัตว์ประหลาด แต่มันก็ไม่ยอมถอยแล้วขู่คำรามหมายจะเข้ามาขย้ำพวกเขา
“ ในที่ๆ ปิดล้อมแบบนี้เราจะเสียเปรียบ Full Metal เอามันออกไปข้างนอกซิ ”
“ มือไม่ว่าง ทำเองสิฟระ !! ”
เด็กหนุ่มตะโกนกลับในขณะที่แขนออโต้เมล์กำลังยันปากกระบอกปืนให้ออกห่างตัว เพราะขืนโดนปากกระบอกปืนใหญ่กว่าหัวเป่ามีหวังจัดงานศพไม่ต้องเปลืองแรงเผากันพอดี
“ ได้เลย ”
นายทหารยศสูงกว่าเอ่ยด้วยรอยยิ้มเย็น ๆ พร้อมกับดีดนิ้ว ไฟลูกใหญ่พุ่งเข้าไปกระแทกและเผาเจ้าปีศาจให้กระเด็นออกนอกห้องไปเหมือนกับใช้น้ำแรงดันสูงสาด นักเล่นแร่แปรธาตุทั้งสองรู้ว่าแค่นั้นไม่มีทางฆ่ามันได้จึงรีบกระโดด (!?) ตามลงไป
ในขณะที่ Ed กำลังลอยอยู่กลางอากาศก็ประกบมือบนกำแพง กรงขนาดใหญ่พุ่งขึ้นมาจากพื้นดินเบื้อล่างแล้วรอรับเครื่องจักรฆ่าคนเอาไว้ แต่มันกลับฉีกกระชากซี่กรงออกมาได้อย่างง่ายดาย ทำให้เด็กหนุ่มอึ้งไปหลายวินาที และไม่ทันหลบหลบแขนยาวเหยียดที่พุ่งเข้ามาฟาดเข้าเต็มแรงที่หน้าอก นายทหารผู้อวุโสกว่ารีบวิ่งเข้าไปดูอาการของเขาทันที
“ฮี่ๆๆ ตาย !” ปากกระบอกปืนขนาดใหญ่กับคมมีดที่คมกริบปรากฏอยู่เบื้องหน้าของนักเล่นแร่แปรธาตุทั้งสอง แต่สิ่งที่พวกเขาได้ยินเป็นสิ่งสุดท้ายคือ........
“ มัง !! ” และ ตูม !!!
ทั้งสองคนค่อยๆ ลืมขึ้นดูว่าเกิดอะไรขึ้น และต่างอึ้งกับฆ้อนขนาดเท่ากับตึกชั้นเดียวเบื้องหน้า ร่างคนที่เห็นลิบ ๆ อยู่ด้านบนนั้นกำลังยิ้มอย่างขำ ๆ กับใบหน้าของพวกเขา
“พวกนายไม่เป็นไรนะ?” คนแปลกหน้าถาม
“ก็ยังอยู่ดี ขอบใจที่ช่วยเอ่อ......” Ed ถามอย่างลังเล
“Ravi ฉันชื่อ
“
พวกเขาหันไปมองเด็กหนุ่มผมเงินที่วิ่งเข้ามาด้วยใบหน้าประหลาดใจระคนดีใจ ส่วนคนร่างสูงผมดำยาวยังคงทำหน้าหงุดหงิดไม่สบอารมณ์
“ ไง Allen ฉันก็ตามเจ้านี่มานั่นแหละ ” เขาว่าพลางชี้ไปยังซากของ Akuma “ ตอนแรกก็กะให้พวกนายจัดการให้ แต่เห็นใช้เวลานานเลยช่วย มันขั้นหนึ่งเองไม่ใช่เรอะ ?”
“คือว่า....”
เขาว่าพลางเหลือบไปมองต้นเหตุที่ยืนกอดอกทำหน้าหงิกอยู่ข้างหลัง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเจ้าตัวไม่สบอารมณ์กับอะไรบางอย่างมา ทำให้หนุ่มหัวส้มอดที่จะยิ้มและเข้าไปกอดคอหยอกเล่นกับเขาไม่ได้
“ เข้าใจละ แหม Yuu-chan นี่ล่ะก็ ปล่อยให้ Allen-kun สู้อยู่คนเดียวได้ไง ”
“ บอกว่าอย่าเรียกชื่อ !! อยากตายรึไง เพราะฆ้อนแกนั่นแหละฟาดมายังกะจะเก็บฝังพร้อมสวดกันหมดเลยใช่มั้ย ถ้าฉันไม่ใช้มุเก็นเบี่ยงฆ้อนแกออกไป มีหวังเจ้าคู่เฉื่อยนี่ดับไปนานแล้ว ! ” เด็กหนุ่มหัวเสียตวาดแล้วชี้ไปยังคู่หูนักเล่นแร่แปรธาตุ
“แค่กะพลาดไปหน่อยเดียวเอง ทำเป็นโกรธไปได้”
รอยยิ้มแหยๆ และท่าทีสบายๆ ของเจ้าตัวมีแต่จะทำให้คนตวาดยิ่งรู้สึกโมโหมากขึ้น ทำให้ Exorcist คนกลางที่ยืนฟังต้องเข้ามาขวางก่อนที่พ่อนักดาบจะเข้าไปลับคมดาบกับร่างของคู่กรณี เสียงกระแอมไอเข้ามาช่วยอีกแรง และทำให้พวกเขาหันมาสังเกตเห็นว่ายังมีคนฟังคนอื่นอยู่ด้วย
“ อะไรเจ้าหัวลูกชิ้น ? ”
ประโยคแรกที่นักดาบผอมสูงหลุดออกมาก่อนใครเพื่อนนั้นทำให้เจ้าของฉายารู้สึกอยากดีดนิ้วเผาให้ดับคาทีไปเลย นี่ยังจะมีใครหน้าไหนกล้าบังอาจเห็นลักษณะเด่นอันซ่อนเร้นของเขาขึ้นมาได้อย่างชัดเจนเหมือนกับเจ้าถั่วนี่อีก ขอบอกไว้เลยว่าแม้จะตาตี่และหน้ากลมเป็นลูกชิ้นจริง แต่สาวก็ติดตรึมเพราะจุดเด่นพวกนี้นี่แหละ แม้ในใจจะรู้สึกภาคภูมิใจเช่นนั้น แต่ก็ยังคงสงสัยอยู่ว่าทำไมถึงไม้ได้ผลกับหญิงร่างสูงปากดีคนนี้
“ถ้าไม่รังเกียจจะช่วยเล่าต้นสายปลายเหตุของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อตะกี้ให้พวกเราเข้าใจได้มั้ย อย่างน้อยฉันก็จะได้มีรายงานการถล่มโรงพยาบาลไปให้ท่านผบ.”
“ก่อนอื่นนายคือ Edward Elric รึเปล่า?” เด็กหนุ่มหัวตั้งถามพลางก้มลงมองเจ้าตัวอย่างพิจารณา “ นาย.....อายุ 15 ? ”
“ ถ้าใช่แล้วจะทำไม ? ”
“ เอ๋ !! จริงน่ะ !? เท่ากับ Allen เลยน่ะสิ ตัวเล็กกว่าที่คิดนะเนี่ย ”
“ว่าใครตัวเล็กกระจิริดมองไม่เห็นหัว !!? แกไอ้หัวไม้กวาด !! ” อีกฝ่ายได้แต่หัวเราะกับอารมณ์โกรธและการอาละวาดตามแบบฉบับของ Edward ที่เห็นกันจนชินตา ทำเอาผู้พันก็อดที่จะขำและเข้าตบหัวแกล้งไม่ได้
“พี่ครับ !! ไม่เป็นไรนะครับ !?”
“Al !” ว่าแล้วเม็ดถั่วก็เบนความสนใจวิ่งไปหาน้องชายร่างชุดเกราะที่วิ่งเข้ามาพร้อมกับผู้กอง Hawkeye และ Komui
“ Edwand-kun ปลอดภัยดีน้า โดน Kan-chan แกล้งรึป่าว ! ” นี่ก็อีกคนที่ไม่เคยเข็ดที่จะหาเรื่องโดนปลายดาบจ่อคอพร้อมรังสีอำมหิตและน้ำเสียงทุ้มต่ำน่ากลัว
“ฉันชื่อ Kanda ! ห้ามเรียกยังงั้นนะ !! แล้วหมายความว่าไงที่ฉันแกล้งฮะ !? เจ้าเตี้ยนั่นตังหากดีแต่เฉื่อยจนเกือบได้ตายคาไอ้เจ้าค้อนบ้าของเจ้าหัวแดงนั่น !!”
“ อ้าว ? มาด้วยเหรอตะเอง หวัดดีจ้า Ravi-kun !! ”
“ ไม่ต้องมาจ้าเลย แกส่งเจ้านี่มาแต่แรกแล้วใช่มั้ย แล้วเงียบหาหกไมฟะ !! ” เด็กหนุ่มว่าพร้อมกับจับคอเสื้อนักวิทยาศาสตร์หน้าระรื่นมาเขย่า
“ กะ...ก็เค้าส่งมาแบบภารกิจลับนิตะเอง ”
“ Kan-chan นี่ฉลาดจัง ” Exorcist ผมแดงไม่วายหยิบชื่อใหม่มาใช้ “แล้วรางวัลของคนเก่งต้องนี่” น้ำเสียงและรอยยิ้มกลับดูอ่อนโยนลงอย่างแปลกๆ ทำให้เจ้าตัวที่ถูกลากรู้สึกไม่ไว้วางใจ
“พวกนายนี่ตลกชะมัด” Ed อดไม่ได้ที่จะพูด
“Full Metal ชั้นต้องกลับล่ะ Havoc มารับแล้ว เขียนรายงานมาส่งตอนนายกลับมาด้วย” แล้วท่านผู้พันก็ชิ่งหนีหายขึ้นรถไปทันที
“บอส พยายามเข้านะ” สารถียังอุตส่าห์เลื่อนกระจกลงมาทักและอวยพร
“ ขอบใจ แกเจ้าผู้พันเอาง่ายๆ งี้เลยเหรอฟระ !? ทิ้งชั้นไว้กับคนแปลก (ประหลาด) หน้าพวกนี้น่ะนะ ” เมื่อรถขับไปไกลจนลับสายตา เขาจึงกล้าพูดไล่หลังตามไปอีกว่า “ ถ้าอยากได้รายงานนักล่ะก็ ฉันจะให้อ่านเป็นตั้งสามวันสามคืนยังไม่จบเลยคอยดู ว่าแต่ที่ฉันพูดเมื่อกี้น่ะ ”
“ เอ๊ะ ! อ้อ.....ต้องขอโทษด้วยครับที่วุ่นวายไปหน่อย” Allen ที่ดูเหมือนจะเป็นคน (ปกติ) ดีที่สุดในกลุ่ม Exorcist ได้แต่หัวเราะแหะๆตอบ
“Yu !! นี่โดนขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย !? โทษที ๆๆ”
เสียงตื่นตระหนกของเจ้าของฆ้อนที่นั่งข้างๆ คนเจ็บขอโทษปลกๆ เรียกให้ทุกคนหันไปมองและวิ่งเข้าไปดู รอยแผลถลอกและหนังชั้นนอกของผิวบนต้นแขนข้างขวาและสีข้างๆ เดียวกันที่ถูกเสียดสีจนถลอกและแดงเถือกจนเลือดไหลซิบออกมาเป็นทาง ทุกคนถึงกับอึ้งกับเด็กหนุ่มที่ยังมานั่งโวยวายเรื่องนู้นเรื่องนี้ทั้ง ๆ ที่บาดเจ็บขนาดนี้อยู่ได้เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาไม่รู้สึกเจ็บบ้างรึไงนะ
“ด....ได้แผลพวกนี้มาเมื่อไหร่ครับ ?”
ทุกคนเงียบและรอคำตอบเมื่อ Allen ถามด้วยความเป็นห่วงและพยายามไม่กระโดดเข้าไปช่วย
“ ใจดีจังเลยนะ Kan-chan ”
“หุบปาก แล้วก็เลิกเรียกแบบนั้นซะที”
Allen ถึงกับโล่งใจที่เมื่อเห็นว่าในที่สุดคนเจ็บก็ยอมอยู่เฉย และหันไปมองทางอื่นด้วยอารมณ์ที่ดูเหมือนจะหงุดหงิดน้อยลง
“แล้วตกลงคุณ Kanda ได้แผลนี่มายังไงล่ะครับ คงไม่ใช่ฝีมือพี่ใช่มั้ยครับ?”
“Al !! ” เจ้าตัวรีบขัดขึ้นมาทันที
“ตอนที่ชั้นทุ่มฆ้อนลงมาน่ะ เจ้านี่ก็ใช้มุเก็นเบี่ยงมันออกไปทางอื่นอย่างที่พวกนายรู้น่ะแหละ ซึ่งก็กะให้มันลงในตำแหน่งที่จะทำให้กรงเล็บที่พุ่งเข้ามาหา Allen นั่นเปลี่ยนทิศทางไปพร้อมกับปากกระบอกปืนขนาดเล็ก แล้วเป้าหมายที่มันเบี่ยงมาก็ดันโชคร้ายเป็นYu เลยโดนเข้าไปเต็มๆ ตอนที่ฆ้อนแตะพื้นพอดี จากนั้นแรงกระแทกก็ส่งผลให้ปืนที่เล็งอยู่ข้างหลังฉันยิงพลาดไปด้วย จบการอธิบายแต่เพียงเท่านี้ ขอบคุณ”
ทุกคนต่างนั่งปรบมือให้กับการบรรยายของเด็กหนุ่มในคราบของนักวิชาการสวมแว่นที่โค้งหลังจากอธิบายเสร็จ
ก่อนที่จะมีใครได้พักหายใจหายคอหลังจากนั้น มือประหลาดนับไม่ถ้วนก็โผล่ขึ้นมาจากพื้นแล้วจับขาข้างขวาของ Ed เอาไว้ เขารีบแปรธาตุให้ดินแยกตัวแล้วกระโดดหนีออกมาทันที Exorcist ทั้งสาม (ยกเว้น Komui ที่กลับไปนั่งโบกผ้าเช็ดหน้าให้กำลังใจอยู่วงนอก) เรียกศาสตรากำราบ Akuma ขึ้นมาเตรียม Allen เปิดฉากยิงแขนพวกนั้น แต่พวกมันกลับหายไปพร้อมกับควัน แล้วโผล่ขึ้นมาใหม่ข้างหลัง Full Metal
“พี่ !!”
“Al !!” น้องชายรีบวิ่งเข้าไปช่วยพี่ชายที่ถูก Akuma กลืนเข้าไปอยู่ในลำตัวที่เป็นดินของมัน
‘ ไอ้เจ้าสัตว์ประหลาดบ้านี่ ไม่สิเจ้าพวกนั้นก็ด้วย ไม่มีปกติซักคน’ เด็กหนุ่มคิด
โชคดีที่ดินไม่แข็งมากนัก ทำให้เขาพอยกแขนขึ้นมาประกบมือเข้าด้วยกัน เพื่อแยกโมเลกุลของดิน เขารีบกระโดดออกมาเมื่อดินแยกตัวออกจนกลายเป็นช่องว่างขนาดใหญ่
“Al ถอยไป ! อย่างนายน่ะต้องมัวเสียเวลาเขียนวงเวทย์”
“แต่ว่า....”
“บอกให้ถอยก็ถอยสิ !!”
แต่น้องชายยังคงดื้อดึงและพุ่งเข้ามาคว้าตัวพี่ชายจากแส้ที่ฟาดมาทางด้านหลังได้ทันเวลา
“Ed Al ระวัง !!” Allen เตือนแต่เสียงกลับถูกเสียงระเบิดที่ดังขึ้นในเสี้ยววินาทีที่แสงปรากฏขึ้นบนพื้น
“Ed Al แอ๊ฟ--”
ไม่ทันที่ Allen จะวิ่งฝ่าหมอกเข้าไปหา เขาก็ถูกใครบางคนจับเหวี่ยงข้ามหัว
“Kanda !!” ทั้งสองคนเรียก
“Edward-kun ระวังครับ !! ยังมีพวกมันเหลืออยู่อีก !!” Allen รีบวิ่งเข้าไปช่วย แต่เสาเข็มขาดเล็กสามต้นพุ่งลงมาขวางทางเขาเอาไว้ “ E
Edward-kun ?”
เขายืนมองนักเล่นแร่แปรธาตุด้วยความงุนงง และสงสัยว่าทำไมอีกฝ่ายจึงไม่ต้องการให้เขาช่วย เขาจึงได้แต่ยืนมองเด็กหนุ่มสร้างเสาปลายแหลมพุ่งขึ้นไปเสียบ Akumaที่เหลืออยู่ทั้งหมด ก่อนจะทิ้งแผ่นหินขนาดใหญ่เท่าสนามเทนนิสที่เต็มไปด้วยเสาเข็มเรียงเป็นตับลงมากทับพวกมันซ้ำ
“วิ้ว...สุดยอดเลยแฮะ นั่นมันพลังอะไรกันน่ะ ?”
“ Kanda ไม่เป็นไรนะครับ ? ” Allen ตะโกนถาม
“ตาบอดรึไงเจ้าถั่วงอก !! เห็นเหมือนฉันสบายดีนักรึไง ?! แล้วก็แก ถ้ายังไม่หยุดอีกล่ะก็.....” เขาว่าอย่างหงุดหงิดกับเด็กหนุ่มผมขาว แล้วหันไปแยกเขี้ยวขู่หัวหน้าแผนกก่อนที่เครื่องมือหน้าตาแปลก ๆ จะเข้ามาใกล้
‘แล้วใครบอกให้ท่านทำตัวดีเป็นศรีแก่สังคมช่วยชาวประชาเขาไปทั่วละครับ’ ทั้งสองคนได้แต่คิด
“นายไปหาแผ่นหินด้านบนมาจากไหนน่ะ ?”
“ก็เสาหินชุดแรกที่พุ่งขึ้นไปนั่นแหละ”
“พี่นี่มากับแผนอันตรายแบนี้ทุกทีเลยสิน่า” คนน้องอดไม่ได้ที่จะว่า ทั้งที่รู้ว่าคนๆนี้พูดไปก็เท่านั้น
“รู้สึกจะกำจัดได้หมดทุกตัวเลยสินะครับ” Allen ว่า
“ใครว่า ยังไม่หมดซะหน่อย”
“Al ?---!!!”
ฉัวะ !!!
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็น