ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Philosopher Stone's Stage [Fanfic : D.Gray Man]

    ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 01

    • อัปเดตล่าสุด 2 พ.ค. 51


    Fanfic

    Project : Full Matal Alchemist / D.Gray Man

    Philosopher Stone's Stage

    …..Chapter 01…..

     

    ความมืด.....

    ใครกัน.....

    ที่ไหน.......

    ความเงียบ......

    ทำไม.......

    อะไร.......

    แสงสว่างค่อยๆ ลอดผ่านเข้ามาเปิดโลกอันมืดมนเบื้องหน้าดวงตาสีทองที่ขุ่นมัว เขาไม่รู้ว่าเขาหลับไปนานแค่ไหนและไม่รู้ว่าทำไม สิ่งสุดท้ายที่อยู่ในความจำอันเลือนรางของเขาคือ โลกที่หมุนติ้วและความมืดที่เข้ามาในหัวอย่างรวดเร็ว  เขาปัดปอยผมสีทองที่หลุดลุ่ยออกจากใบหน้าแล้วมองไปรอบๆ และมาหยุดชะงักที่ชายหนุ่มแปลกหน้าที่มีผมหยักศกสีดำ  และสวมเสื้อคลุมยาวสีขาวที่มีตราสัญลักษณ์บางอย่างปักอยู่

    คุณเป็นใครหรือครับ?

    เด็กหนุ่มถามด้วยความสงสัย แต่อีกฝ่ายกลับโพล่งขึ้นมาด้วยความตื่นตระหนกและโวยวายด้วยความเร็วเหมือนรถไฟฟ้าสายด่วนนรก แต่เด็กหนุ่มก็ยังอุตส่าห์สามารถจับความคำพูดไม่ได้ศัพท์นั้นได้ประมาณว่า ลืมชั้นงั้นเหรอ!?’ และ ชั้นอุตส่าห์ช่วยซึ่งข้อมูลเหล่านั้นก็ไม่ได้ช่วยยืนยันเลยว่าเขาเคยรู้จักรึเคยเจอชายคนนี้มาก่อน  มันมีความเป็นไปได้ที่เขาอาจจะเสียความทรงจำไปในบางช่วงแล้วถูกพามานอนรักษาที่โรงพยาบาล  แต่ถ้าเป็นเช่นนั้น  ทำไมเขาถึงยังจำออโต้เมล์ของตัวเอง  รูปหน้าของ Al   Winry   ผู้พันหัวลูกชิ้น   ผู้กองฮอคอาย และก็สารพัดญาติสนิทมิตรสหายอีกหลายคนที่กองทัพได้อีก 

    แต่ก่อนที่เขาจะทันหุบปากชายบ่อน้ำตาแตกนี่ด้วยความรำคาญ  ประตูห้องก็ถูกเปิดออก  เด็กหนุ่มในชุดเสื้อคลุมสีดำที่ดูไม่คุ้นตาเดินตามหลังผู้พันเข้ามา

    ก่อนที่นายจะพูดอะไร หุบปากเจ้านี่ก่อนเลย

    คนป่วยพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงรำคาญเต็มที ส่วนผู้พันนั่นก็ได้แต่ส่งยิ้มหวานมัดใจสาวมาให้ ในขณะที่ไม่มีสาวคนใดในห้องจะมาเห็น ไม่สิ  สาวผมยาวสีดำที่ยืนอยู่ข้างหลังอาจจะประทับใจก็ได้  แต่เขากลับเป็นคนรู้สึกเช่นนั้น  เพราะยังมีคนที่ไม่ตาบอดหน้ามืดตามัวเหมือนกับผู้กองฮอคอาย  แล้วส่งสายตาอาฆาตคมกริบมาให้แทนที่จะเป็นรอยยิ้มเคลิบเคลิ้มของสาวคลั่งรัก 

    ขอบใจนะ

    เด็กหนุ่มขอบคุณสาวผมดำที่ช่วยเอาดาบญี่ปุ่นเล่มยาวขู่ให้คนโวยวายเงียบ  ก่อนจะหันไปหาผู้พันที่ยังคงยืนอยู่เงียบ ๆ ข้างเตียง

    โอเค...นี่มันอะไรกันแล้วคนพวกนี้เป็นใคร?เขาถามพลางมองคนแปลกหน้าอย่างสงสัย

    ผู้พันทำหน้าแปลกใจที่เขาสามารถลืมเรื่องอย่างการเล่นปาระเบิดและการต่อสู้ด้วยพลังอภินิหารเหนือมนุษย์ของเหล่านักเล่นแร่แปรธาตุของกองทัพกลางห้องประชุมของฐานบัญชาการกลางไปได้  ทั้ง ๆ ที่เขาเข้าร่วมวงและได้รับบาดเจ็บมาเป็นของแถมแบบนี้

    เอาง่ายๆ สั้นๆ เลยละกัน Full Metal คนพวกนี้มาจากศาสนจักรแห่งความมืด และเข้าร่วมประชุมกับทางกองทัพ ไม่ต้องถามว่าเรื่องอะไรเพราะฉันเองก็ยังไม่รู้ ตอนที่การประชุมเริ่มไปได้ประมาณสิบกว่านาทีก็เกิดมีตัว--”

    อย่างงี้จ้า !!” อยู่ดีๆ ชายผมยาวหางงอนก็โพล่งขึ้นมาพร้อมกับรูปวาดสุดไก่เขี่ยของสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งแปะเป้งเข้าเต็มหน้าของ Ed ทุกคนต่างเหงื่อตกและนิ่งเงียบ สันดาบญี่ปุ่นสับเป้งเข้ากลางหัวคนวาดลงไปนอน ผู้พันจึงได้โอกาสอธิบายต่อ

    นั่นแหละโผล่ออกมาและอาละวาดซะห้องเละไปหมด ทหารคนอื่นๆ ใช่รวมทั้ง Al ที่รออยู่ข้างนอกก็เข้ามาช่วยสู้เหมือนกับคนพวกนี้  ยกเว้นนายที่ท่าจะมัวแต่ใจลอยน่ะสิถึงได้โดนฟาดทีเดียวจอดและมานอนเดี้ยงอยู่นี่

    คนป่วยได้แต่มองอย่างหงุดหงิดเพราะเถียงไม่ออก ซักวันเขาต้องเอาคืนคำพูดสบประมาทนั่นให้ได้  แต่ไม่ใช่ตอนนี้  เขารีบหันไปถามหาน้องชายก่อนที่จะอยากซัดหน้าลูกชิ้นขี้เก๊กด้วยความหมั่นไส้ 

    พี่ไม่เป็นไรนะฮะ!! ผมเป็นห่วงแทบแย่น่ะ กลัวว่าพี่จะตายซะแล้ว!!”  น้องชายเปิดประตูห้องวิ่งเข้ามากอดพี่ชายแน่นเหมือนกับนัดแนะคิวเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว

    เขาจะตายก็เพราะนายน่ะแหละ Alphonse Elric” เจ้าตัวที่ได้ยินรีบคลายวงแขนทันทีแล้วหันมามองพี่ชายและคนอื่นอย่างเขินๆ

    เอาล่ะ ทีนี้ตัวละครก็ครบซะที

    หมายความว่าไงผู้พัน?” Ed ถามด้วยน้ำเสียงไม่ไว้วางใจ

    เพราะการประชุมถูกยกเลิกกะทันหัน  ท่านผบ.จึงสั่งให้ฉันมาบอกรายละเอียดกับนายที่ยังไม่รู้เรื่องรู้ราวเอง

    เฮ้ ! ใช่ว่าความผิดชั้นซะหน่อย !! แล้วตกลงเป็นไงมาไงกันแน่?

    ก่อนอื่นคนพวกนี้คือ Exorcist จากศาสนจักรแห่งความมืดผู้บังคับบัญชาแนะนำอีกครั้ง

    หืม? อะไรน่ะ ? ไม่เห็นเคยได้ยิน ลัทธิศาสนาลับเรอะ?

    พี่ครับ อย่าหยาบคาบสิฮะ ฟังให้จบก่อน

    อย่างที่ฉันพูดไปเมื่อกี้  ฉันเองก็ไม่รู้รายละเอียดมากนัก เพราะงั้นฟังเจ้าตัวอธิบายจะดีกว่า

    หะ? แล้วไหนบอกว่าจะเป็นคนบอกรายละเอียด  แบบนี้มันโบ้ยกันชัด ๆ นักเล่นแร่แปรธาตุเหล็กไหลแอบบ่น  เขาหันมามองเหงื่อตกเหมือนคนอื่น ๆ ที่คนที่ถูกโบ้ยนั้นนอนขดอยู่บนปลายเตียงแทนที่จะนอนอยู่บนพื้น 

    เด็กหนุ่มผมสั้นสีเงินซีดจนเกือบขาว ที่ดูเหมือนจะอายุเท่ากับ Ed นั้นพยามเรียกและสะกิดหลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ  แต่คำพูดธรรมดาอย่าง เดี๋ยวพลาดงานแต่งงานของน้องสาวนะครับกลับได้ผลชะงัด  เมื่อเจ้าตัวสะดุ้งตื่นแล้วโวยวายสักพัก

    “Komui-san  เขาต้องการรู้เรื่องของพวกเราน่ะครับคนปลุกเข้ามากระซิบ

    ง่ายมาก Allen !! อ่านนี่ซะ!!” คำพูดสั้นๆ (มัก) ง่ายๆ อย่างได้ใจความพร้อมเอกสารกองโตที่ไม่สามารถระบุที่มาได้นั้นวางป้าบบนเตียงที่คนไข้นั้นหลบแทบไม่ทัน

    “OK !! ทีนี้ก็มาแนะนำตัวกัน ฉัน Komui Lee ผู้บริหารและหัวหน้าแผนกวิทยาศาสตร์ของศาสนจักรแห่งความมืด มีน้องสาวสวยสุดสวิงริงโก้ชื่อ--”

    ดาบเล่มยาวและแววตาอำมหิตจ่อที่ท้ายทอยอีกครั้ง ทำให้ชายหนุ่มต้องรีบยกมือยอมแพ้แล้วเปลี่ยนเรื่องทันที

    จ้า ! เลิกแล้วจ้า ! Kanda-kun นี่ไม่มีอารมณ์ขันเอาซะเลยนะตัวเอง

    เพราะมัวแต่เล่นอยู่นั่นแหละ ปาเข้าไปครึ่งชั่วโมงแล้วนะ  จะรอยันวันพรุ่งนี้เลยรึงไงถึงจะรู้เรื่องกันน่ะหา ! น่ารำคาญ ฉันพูดเอง นี่หัวหน้าแผนกวิจัยและหัวหน้าผู้บริหารที่ทำหน้าที่จ่ายงานให้ Exorcist  ซึ่งก็คือพวกชั้น ชั้นชื่อ Kanda แล้วก็นี่.........เจ้าถั่วงอก

    “Allen Walker ยินดีที่ได้รู้จักครับ !!” เจ้าตัวรีบแทรกซะก่อนจะถูกเรียกไปจนตายด้วยชื่อนั้นจริง ๆ

    ส่วนทางนี้ ฉันผู้พัน Roy Mustang นี่พี่น้อง Elric”

    Alphonse ครับ ยินดีที่ได้รู้จัก ส่วนนี่--น้องชายในร่างชุดเกราะขนาดใหญ่พูดพร้อมกับก้มหัวเล็กน้อยอย่างสุภาพ  ก่อนจะหันไปหาพี่ชาย

    “Edward Elric นักเล่นแร่แปรธาตุและสุนัขรับใช้ของกองทัพที่พยายามตามหาศิลานักปราชญ์เพื่อเอาร่างของน้องชายกลับมา ถูกมั้ยครับ?

    คำพูดและรอยยิ้มที่ดูแอบแฝงและเหมือนกับจะมองทุกอย่างได้ทะลุปรุโปร่งของหัวหน้าแผนกวิจัยนั้นทำให้พี่น้องทั้งสองถึงกับอึ้งพูดอะไรไม่ออก

    แกเจ้าผู้พันหน้าหม้อ!! เล่าเรื่องฉันให้คนแปลกหน้าฟังเรอะ !?”

    เสียมารยาทเจ้าถั่ว ใครหน้าหม้อ !! นั่นถือเป็นข้อตกลงและความลับทางทหาร รึพูดให้ถูกคือ พวกของฉันกับนาย แล้วฉันจะปูดหาอะไรล่ะ

    ใจเย็นเจ้าเตี้ยชายหนุ่มร่างสูงเสียดขึ้นมาด้วยความรำคาญ ซึ่ง 2 คำสุดท้ายก็ไปกระทบเด็กหนุ่มผมขาวที่ยืนอยู่ข้างๆ ด้วย  เพราะถึงจะสูงตามมาตรฐาน แต่ยังไงเขาก็เตี้ยกว่าจริง ๆ อยู่ดี

    ว่าไงนะ !!?”

    ใจเย็น อย่านะครับพี่ !!” น้องเข้ามารั้งพี่ชายสุดชีวิต เมื่อเจ้าตัวเห็นว่าอาละวาดยังไงก็ไม่หลุดจึงหยุดและหันมาถามต่อด้วยน้ำเสียงเดือดๆ กับหัวหน้าแผนกวิจัยแทน

    ถ้าไม่ใช่เพราะผู้พัน  พวกนายรู้ได้ยังไง ?

    เป็นเรื่องที่พวกเราต้องทำการตรวจสอบอยู่แล้ว เพราะเธอสองคนจะมาเป็นหนึ่งในพวกเรา

    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------

            

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×