ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ประวัติศาสตร์

    ลำดับตอนที่ #21 : ผลกระทบของการขยายอิทธิพลของประเทศในยุโรป : ทวีปอเมริกา

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.21K
      0
      11 พ.ย. 56

    ผลกระทบต่อทวีปอเมริกา
     
         


    การเมืองการปกครอง
                 หลังจากประกาศอิสรภาพ อดีตอาณานิคมอเมริกาใช้รัฐธรรมนูญแห่งสมาพันธรัฐ(Articles of Confederation) ในการปกครองดินแดนทั้ง13แห่งแต่รัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็มีความบกพร่อง ทำให้ผู้นำทางการเมืองของมลรัฐต่างๆคิดที่จะปรับปรุงแก้ไข ที่ประชุมจึงได้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นมา เรียกว่า รัฐธรรมนูญแห่งสหรัฐอเมริกา(Constitution of the United States) โดยผู้แทนของมลรัฐต่างๆได้ร่วมลงนามเมื่อวันที่ 17 กันยายน ค.ศ.1787 และทั้ง 13มลรัฐ ได้ให้สัตยาบันครบถ้วน เมื่อวันที่ 21 กันยายน  ค.ศ.1788 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่นั้นมาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน
                 บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ส่วนใหญ่เป็นข้อเขียนของผู้นำทางการเมือง 3 คน ได้แก่ อเล็กซานเดอร์ แฮมิลตัน (Alexander Hamiltion ค.ศ.1757-1804) เจมส์ เมดิสัน (James Madison ค.ศ.1751-1836) และจอห์น เจย์ (John Jay  ค.ศ. 1745-1829) ซึ่งตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ที่ออกจำหน่ายในนิวยอร์กหลายฉบับ และนำทางการเมืองดังกล่าวนี้ได้แนวคิดมาจากนักปราชญาชาวยุโรปและชาวอเมริกันหลายคน โดยแบ่งอำนาจการปกครองออกเป็น 3 ฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหารและฝ่ายตุลาการ 
     
     
     
    เศรษฐกิจ
    ความสำเร็จของการปฏิวัติอุตสาหกรรมของอังกฤษในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 18 ได้กลายเป็นแรงผลักดันให้ประเทศในยุโรป อเมริกา รวมทั้งดินแดนอื่นๆ ของโลกเห็นความสำคัญของระบบอุตสาหกรรม กระทั่งปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 สหรัฐอเมริกากลายเป็นประเทศหนึ่งที่มีการเจริญเติบโตทางอุตสาหกรรมทัดเทียมกับประเทศอังกฤษพื้นฐานที่เอื้อประโยชน์ต่อความก้าวหน้าของอุตสาหกรรม คือ การคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆของชาวอเมริกัน
    การคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆของชาวอเมริกันที่สำคัญ ได้แก่
     +เรือกลไฟ โดยรอเบิร์ต ฟูลตัน (Robert Fulton ค.ศ. 1765-1815)
     +โทรศัพท์ โดยอเล็กซานเดอร์ แกรแฮม เบลล์ (Alexander Graham Bell ค.ศ.1847-1922) 
     +หลอดไฟและเครื่องกำเนิดไฟฟ้า โดยทอมัส แอลวา เอดิสัน (Thomas Alva Edison ค.ศ.1847-1931) 
     +รถยนต์ที่ใช้น้ำมัน โดยเฮนรี ฟอร์ด (Herry Ford ค.ศ. 1863-1947)    
    เรือกลไฟ โดยรอเบิร์ต ฟูลตัน
     (Robert Fulton ค.ศ. 1765-1815)


                                    

     
    โทรศัพท์ โดยอเล็กซานเดอร์ แกรแฮม เบลล์
     (Alexander Graham Bell ค.ศ.1847-1922) 


     
    เครื่องส่งสัญญาณถูกออกแบบโดยใช้อุปกรณ์แบบเก่า 
    ซึ่งถูกเรียกว่า lovers telephone
     โดยมีวงจรสองวงจรถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน



                                                        
     
    หลอดไฟและเครื่องกำเนิดไฟฟ้า โดยทอมัส แอลวา เอดิสัน (Thomas Alva Edison ค.ศ.1847-1931)
     
    รถยนต์ที่ใช้น้ำมัน โดยเฮนรี ฟอร์ด 
    (Herry Ford ค.ศ. 1863-1947)
     
    นอกจากนี้ยังมีเครื่องจักรกลทางการเกษตร เช่น รถไถ รถเก็บเกี่ยว ช่วยให้เกษตรกรทุ่นแรง เพิ่มปริมาณการผลิต รวมทั้งขยายพื้นที่เพาะปลูกได้อย่างกว้างขวาง
    สิ่งประดิษฐ์จากยุโรปถูกนำมาปรับใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในสหรัฐอเมริกาเมื่อ ค.ศ.1825 การประดิษฐ์หัวรถไฟไอน้ำของจอร์จ สตีเฟรนสัน (George Stephenson ค.ศ.1781-1948) ชาวอังกฤษนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการคมนาคมขนส่ง 
     
    หัวรถไฟไอน้ำ
    George Stephenson 
     
    นอกจากนี้สหรัฐอเมริกายังพัฒนาอุตสาหกรรมขนาดใหญ่อย่างการทำเหมืองแร่เหล็กและเหล็กกล้า เมื่อมีการค้นพบแหล่งแร่เหล็กที่สำคัญในเทือกเขาเมซาบิ (Mesabi Range) มลรัฐมินนิโซตา และมลรัฐมิชิแกน ซึ่งเป็นแหล่งแร่เหล็กที่มีปริมาณมากและเป็นเหล็กชั้นดี เพื่อส่งป้อนไปยังเตาหลอมที่เมืองพิตต์สเบิร์ก มลรัฐเพนชิลเวเนีย และเมืองชิคาโก มลรัฐอิลลินอยส์และต่อมายังค้นพบ แหล่งแร่เหล็กคุณภาพสูงในบริเวณอื่นอีกหลายแห่ง 
     
     
    สังคม
    การปฏิวัติอุตสาหกรรมทำให้ชุมชนเมืองขยายตัวอย่างมาก เนื่องจากเมืองเป็นแหล่งที่ตั้งโรงงานอุตสาหกรรม และชาวอเมริกันสามารถหางานทำได้สะดวกขึ้น ทำให้ชาวชนบทและชาวต่างประเทศอพยพมาตั้งถิ่นฐานในเมือง เพราะมีโอกาสในการหารายได้และมีความสะดวกสบายกว่า เมื่อจำนวนประชากรในเมืองเพิ่มขึ้นทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย จึงมีการสร้างที่พักอาศัยเป็นอาคารเช่าหรือห้องชุดขึ้นจำนวนมาก เมืองบางแห่งในสหรัฐอเมริกา เช่น ชิคาโก นิวยอร์ก ได้แก้ปัญหาที่อยู่อาศัยโดยสร้างอาคารสูงๆหรือตึกระฟ้า
    การที่มีประชากรอพยพมาจากทวีปยุโรปซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาวที่มีการศึกษาและมีความกระตือรือร้น ทำให้สหรัฐอเมริกาพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจและด้านอื่นๆ จนมีความก้าวหน้ามากที่สุดประเทศหนึ่งของโลกในระยะต่อมา  ซึ่งคนกลุ่มนี้ได้วางรากฐานการศึกษาที่มั่นคงให้แก่ประเทศด้วย โดยการก่อตั้งมหาวิทยาลัยและโรงเรียนต่างๆ ในทุกมลรัฐ มหาวิทยาลัยที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงของสหรัฐอเมริกา เช่น มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด  มหาวิทลัยเยล
    Harvard University
    Yale University
     

    ศิลปกรรม
    •จิตรกรรม 
    จิตรกรรมสมัยใหม่ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 จากยุโรปโดยเฉพาะฝรั่งเศสส่งอิทธิพลต่อศิลปิน    
    ลัทธิทางศิลปะที่เผยแพร่เข้ามาในสหรัฐอเมริกาในช่วงเวลานี้คือ  ศิลปะลักธิอิมเพรสชันนิสต์  ที่มักมีเนื้อหาเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของชนชั้นกลางและภาพทิวทัศน์
    ต่อมาช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20  ศิลปะลักธิเอ็กซเพรสชันนิสต์ได้รับความนิยม  กลุ่มศิลปินอเมริกันได้รวมตัวกับศิลปินจากชาติอื่น ๆ เช่น  รัสเซีย  สวิส  เยอรมันสร้างผลงานที่ใช้สีอย่างอิสระและลดทอนการสร้างรูปทรง  แรงบันดาลใจใหม่ ๆ ที่ศิลปินอเมริกันมี  คือ  สังคมเมือง

    •สถาปัตยกรรม
          ผลของการปฏิวัติอุตสาหกรรมได้แสดงให้เห็นอีกรูปแบบหนึ่งในการสร้างสถาปัตยกรรม  วัสดุที่สำคัญในการก่อสร้างในยุคนี้คือ เหล็ก  ประกอบกับความสามารถทางวิศวกรรม  ทำให้สิ่งก่อสร้างต่างๆ  มีขนาดสูงใหญ่และมีโครงสร้างแข็งแรง  เช่น  สะพานโกลเดนเกด  ที่เมืองแซนแฟรมซิโก ตึกระฟ้าหลายหลังในเมืองชิคาโก  เช่น  อาคารไล้เดอร์  อาคารโฮมอินชัวรันช์  อาคารชิคาโกทริบูนทาวน์เวอร์
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×