คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : อารยธรรมตะวันตกสมัยโบราณ : ชนชาติเก่าแก่บางกลุ่มในเอเชียไมเนอร์และดินแดนใกล้เคียง
เอเชียไมเนอร์ หมายถึง ดินแดนที่อยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริเวณที่อยุ๋ระหว่างทะเลดำกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ในปัจจุบันได้แก่ ดินแดนปาเลสไตน์ ตุรกี และซีเรีย นอกจากแหล่งอารยธรรมเก่าแก่ในดินแดนเมโสโปเตเมียและอียิปต์แล้ว ชานชาติเก่าแก่บางกลุ่มในเอเชียไมเนอร์และดินแดนใกล็เครียงก็มีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างอารยธรรมตะวันตกเช่นเดียวกัน ชนชาติที่สำคัญได้แก่
ฟินิเชียน ฮีบรู และเปอร์เซีย
ฟินิเชียน
ชาวฟินิเชียน(Phoenicion) เป็นชนเผ่าเซมิติกเผ่าหนึ่ง มีชื่อดั้งเดิมว่าชาวแคนาไนต์(Canaanite) พวกนี้อาศัยอยู่ในบริเวณดินแดนกันอาน(Canaan) แถบซีเรีย ปาเลสไตน์ อารยธรรมของพวกแคนาไนต์มีรากฐานมากจากอารยธรรมเมโลโปเตเมียและอียิปต์ ในระหว่า1300-1000 ปีก่อน
คริสตศักราช ได้ถูกพวกอิสราเอลไลต์(Israelite) และฟิลิสติน(Philistine) เข้ารุกรานจนต้องเสียดินแดงเกือบทั้งหมด ยกเว้นแต่บริเวณแถบชายฝั่งทะเลแคบๆริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่เรียกว่า ฟินิเชีย เท่านั้น หลังจากนั้นเป็นต้นมาพวกแคนาไนต์ก็มีชื่อเรียกใหม่ว่า ฟินิเชียน
ชาวฟินิเชียนต้องดำรงชีวิตในสภาพแวดล้อม
ติดกับทะเล จึงให้พวกเขากลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเดินทะเลและการค้าอย่างมาก ชาวฟินิเชียนได้สร้างเรือใบขนาดใหญ่ใช้เดินทะเล และสามารถควบคุมการค้าในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้นานหลายร้อยปี ตลอดจนได้สร้างเมืองท่าขนาดใหญ่หลายแห่ง เช่น เมืองไทร์(Tyre) เมือไซดอน(Sidon) เมื่องบีบลอส(Byblos)
นอกจากนี้ชาวฟินิเชียนยังรับสินค้าอินเดียและเมโสโปเตเมียไปขายยังอียิปต์ เอเชียไมเนอร์ แอฟริกาเหนือ และชายฝั่งตะวันตกของทวีปยุโรป และยังเดินทางผ่านช่องแคบยิบรอลตาร์เข้าสู่มหาสมุทรแอตแลนติกเป็นพวกแรก การค้ากับหลายแห่งทำให้อารยธรรมจากที่หนึ่งเผยแพร่ไปสู่อีกที่หนึ่ง พ่อค้าฟินิเชียนสามารถนำเรือสินค้าไปค้าขายกับเกาะอังกฤษและได้นำเอาอารยธรรมตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไปเผยแพร่ทางตะวันตก จัดตั้งอาณานิคมบนเกาะซิซิลี และชายฝั่งตอนเหนือของแอฟริกา อันได้ก่เมืองคาร์เทจ (Carthage)อีกด้วย
เมื่อ 750ปีก่อนคริสตศักราช พวอัสซีเรียนได้เข้ายึดครองดินแดนสำคัญๆของพวกฟินิเชียนได้เกือบทั้งหมด ยกเว้นแต่เมืองคาร์เทจซึ่งเจริญรุ่งเรืองต่อมา จนถูกชาวโรมันทำลายเมื่อ 146ปีก่อนคริสตศักราช
เนื่องจากชาวฟินิเชียนได้เดินทางไปค้าขายในดินแดนต่างๆ จึงรับเอาวัฒนธรรมตัวอักษรจากที่ต่างๆมาปรับปรุงรูปตัวอักษรขึ้นใหม่
เมื่อประมาณ1000-900ปีก่อนคริสตศักราช พวกฟินีเชียนได้ดัดแปลงอักษรไฮแรติกของอียิปต์ และอักษรลิ่มหรือคูนิฟอร์มของชาวสุเมเรียน มาเป็นอักษรอัลฟาเบต ซึ่งสะดวกในการบันทึกเรื่องราวต่างๆ อักษรอัลฟาเบตของฟินิเชียนเป็นที่นิยมแพร่หลายทั่วไป และชาติต่างๆได้นำไปดัดแปลงเป็นตัวหนังสือของตน โดเฉพาะในภาษากรีกและละติน ดังนั้นอักษรของชาวฟินีเชียนจึงเป็นต้นตระกูลตัวอักษรแอลฟาเบตของชาติตะวันตกและตะวันออก
ฮีบรู
พวกฮีบรูหรือยิว เป็นชนเผ่าเซมิติกที่เดินทางร่อนเร่ในทะเลทราย เมื่อประมาณ1400ปีก่อนคริสตศักราช ได้อพยพเข้าไปอยู่ในอียิปต์และถูกจับเป็นทาส กล่าวกันว่า โมเสส(Moses) ผู้นำคนสำคัญได้ปลดแอกชาวฮีบรูจากการเป็นทาสของอียิปต์ และพาชาวฮีบรูทั้งหมดอพยพไปตั้งถิ่นฐานในดินแดนแห่งคำมั่นสัญญา(Promised Land) อันได้แก่ดินแดนปาเลสไตน์ หรือกันอาน(Canaan) ที่เชื่อกันว่าเป็นดินแดนที่พระเจ้าของบรรพบุรุษอับราฮัม หรือพระเยโฮวาห์(Jehovah)ทรงประทานให้
ต่อมาได้สถาปนาเป็นราชอาณาจักร มีนครหลวงอยู่ที่เยรุซาเลม และขยายเป็นจักรวรรดิอิสราเอล แต่ก็ไม่สามารถจะรักษาความเป็นปึกแผ่นไว้ได้นาน ก็เกิดแตกแยกเป็น2ส่วน คือ อาณาจักรอิสราเอลทางตอนเหนือ และยูดาห์ทางใต้ ต่อมาอาณาจักรอิสราเอลทางตอนเหนือได้ถูกทำลายโดยพวกอัสซีเรียน และยูดาห์ตกเป็นเมืองขึ้นของอาณาจักบาบิโลเนียใหม่ของพระเจ้าเนบูคัดเนซซาร์ ประชาชนถูกกวาดต้อนไปอยู่บาบิโลเนียใหม่หรือที่รู้จักกันในชื่อ การคุมขังแห่งบาบิโลเนีย(The Babylonian Captivity)
ในเวลาต่อมาพวกฮีบรูก็ตกอยู่ใต้การปกครองของเปอร์เชีย กรีก และโรมัน แต่ในคศ.70 พวกฮีบรูเป็นกบฏต่อจักรวรรดิโรมัน และดินแดนปาเลสไตน์ได้ถูกทหารโรมันเข้าทำลาย ชาวฮีบรูจึงกลายเป็นชนเผ่าเร่ร่อนและไม่มีดินแดนเป็นของตนเอง จนกระทั่งเมื่อสงครามโลกครั้งที่2สิ้นสุด ฝ่ายพันธมิตรจึงตกลงจัดตั้งประเทศอิสราเอลของชาวฮีบรูขึ้นเป็นประเทศอิสระ
มรดกที่สำคัญที่ชาวฮีบรูมอบไว้ให้อารยธรรมตะวันตก คือศาสนา ศาสนาของชาวฮีบรูเรียกว่าศาสนา ยูดาห์ หรือศาสนายิว (Judalism) เป็นศาสนาที่เน้นการบูชาพระเจ้าพระองค์เดียวคือ พระเยโฮวาห์ ความผูกพันระหว่างพระเยโฮวาห์และชาวฮีบรูได้ถูกบันทึกไว้ในพันธสัญญาเดิมหรือพระคัมภีร์เก่า ซึ่งถือว่าเป็นคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ที่ทุกคนต้องเคารพ
เปอร์เซีย
พวกเปอร์เซียเป็นเชื้อสายอินโด-ยูโรเปียน เดิมอยู่เหนือทะเลดำ อพยพมายังที่ราบสูงอิหร่าน ดำรงชีพด้วยการเลี้ยงสัตว์และเพาะปลูก ประมาณ550ปีก่อนคริสตศักราช พระเจ้าไซรัสมหาราช สถาปนาจักรวรรดิเปอร์เซียขึ้น และได้ยึดครองอาณาจักรคาลเดียและลิเดียไว้ในอำนาจ
พระเจ้าแคมบีซีส(Cambyses 529-521ปีก่อนคริสตศักราช) ซึ่งเป็นพระโอรสของพระเจ้าไซรัสมหาราช(Cyrus the Great 550-529ปีก่อนคริสตศักราช)ได้ขยายอำนาจไปปกครอง
ฟินิเชีย เกาะไซปรัส และตีได้อียิปต์
ในสมัยพระเจ้าดาริอัสมหาราช(Darius the Great 521-486 ปีก่อนคริสตศักราช) จักรวรรดิเปอร์เซียแบ่งการปกครองออกเป็น20มณฑล ผู้ปกครองมณฑลมีอำนาจเหมือนกษัตริย์แต่ขึ้นตรงต่อพระเจ้าดาริอัสมหาราช ซึ่งเฉลิมพระนามของพระองค์ว่า King of Kings ในสมัยนี้มีการสร้างถนนไปยังเมืองต่างๆในจักรวรรดิ เพื่อเป้นเส้นทางในการส่งพระราชสาส์น ขนส่งสินค้า ถนนสายสำคัญสร้างจากเมืองอีเฟซัส(Ephesus) ในเอเชียไมเนอร์ไปยังเมืองซูซา(Susa) ทางตะวันออกของแม่น้ำไทกริส ระยะทางประมาณ2500กิโลเมตร
อารยธรรมของเปอร์เซียส่วนใหญ่รับมาจากชาติอื่น เช่น รับการเขียนตัวอักษรคูนิฟอร์มจากบาบิโลเนีย การใช้เหรียญกษาปณ์จากลิเดีย การใช้ปฏิทินแบบสุริยคติและสถาปัตยกรรมการสร้างพระราชวังจากอียิปต์
ด้านศาสนา พวกเปอร์เซียนับถือเทพเจ้าหลายองค์ ตอนหลังหันมานับถือศาสนาโซโรอัสเตอร์(Zoroaster) ซึ่งมีโซโรอัสเตอร์(630-550ปีก่อนคริสตศักราช) ชาวเปอร์เซียเป็นศาสดา
ศาสนาโซโรอัสเตอร์สอนว่า โลกนี้มีทั้งฝ่ายดีและชั่วที่ต่อสู้เอาชนะกันตลอดเวลา เทพฝ่ายความดีชื่อ อหุระมาซดะ(Ahura Mazda) มีไฟเป็นเครื่องหมาย มารฝ่ายความชั่วชื่อ
อังคระไมนยุ(Ahgra Mainyu) มีความมืดเป็นเครื่องหมาย มนุษย์ต้องตัดสินใจว่าจะเลือกอยู่ฝ่ายไหน ปัจจุบันผู้นับถือศาสนานี้อพยพไปอยู่อินเดียทางใต้และเรียกชื่อศาสนานี้ใหม่ว่า ศาสนาปาร์ซี(Parsi)
หลังสมัยพระเจ้าดาริอัสมหาราช จักรวรรดิเปอร์เซียค่อยๆลดอำนาจลง ในที่สุดก็ถูกพระเจ้าอล์กซานเดอร์มหาราช(Alexander the Great 356-323ปีก่อนคริสตศักราช)แห่งมาซิโดเนียเข้ายึดครองเมื่อ 331 ปีก่อนคริสตศักราช
จัดทำโดย
นางสาวฉันชนก แซ่ลิ่ม ม.6.1 เลขที่ 7
นางสาวนวพร วัชราดิลกกุล ม.6.1 เลขที่ 19
ความคิดเห็น