ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    World War I+II ,UN & องค์กรสันนิบาตชาติ

    ลำดับตอนที่ #2 : สงครามโลกครั้งที่ 2 (World War II)

    • อัปเดตล่าสุด 12 ม.ค. 55





    สาเหตุ
                        เกี่ยวเนื่องจากสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่เยอรมนีพ่ายแพ้ศึกและต้องยอมลงนามในสนธิสัญญาแวร์ซายส์ ซึ่งทำให้เยอรมันเสียเปรียบและถูกบีบให้จนตรอก ผู้นำสงครามครั้งใหม่นี้ แบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายแรกคือฝ่ายอักษะ ประกอบด้วยหัวหน้าทีมคือ เยอรมนี อิตาลี และญี่ปุ่น ส่วนอีกฝ่ายคือฝ่ายสัมพันธมิตร มีหัวหน้าทีมคืออังกฤษ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส รัสเซีย และจีน
                       

                         ในฝั่งเอเชียคือญี่ปุ่น[แมนจูเรีย ตามนโยบายรุกรานจีนซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปีค.ศ.
    1920 เพื่อขยายอิทธิพลในภูมิภาคเอเชีย ญี่ปุ่นตั้งรัฐบาลแมนจูกัวจากราชวงศ์แมนจูหรือชิงซึ่งถูกโค่นอำนาจในจีน ขึ้นเป็นรัฐบาลหุ่น จากนั้นค่อยๆรุกรานดินแดนส่วนอื่นๆ ของจีน ขณะที่องค์การสันนิบาตแห่งชาติ ซึ่งเป็นองค์การกลางของโลก (เทียบกับปัจจุบันจะคล้ายกับสหประชาชาติ) ลงโทษอะไรญี่ปุ่นไม่ได้


                        เหตุการณ์สำคัญต่อมาคือการที่เยอรมนี ซึ่งมีรัฐบาลเป็นกลุ่มนิยมนาซีเริ่มสะสมอาวุธขึ้นมาใหม่อีกรอบ โดยใช้ข้ออ้างว่าป้องกันตัวเอง ทำให้ทะเลาะกับฝรั่งเศสและอังกฤษ ซึ่งในช่วงที่อังกฤษกับฝรั่งเศสมั่วแต่ฮึ่มๆ อยู่กับเยอรมนี อิตาลีก็ฉวยโอกาสรุกรานเอธิโอเปียในปี 1935 ชนิดไม่สนหน้าใครทั้งนั้น
                        จังหวะเดียวกันกับที่ประชาคมโลกหันไปสนใจศึกอิตาลี-เอธิโอเปีย ในปี 1936 เยอรมนีก็ฉวยโอกาสกลับเข้าไปยึดแคว้นไรน์กลับคืนจากฝรั่งเศส โดยไม่สนว่าจะละเมิดสนธิสัญญาแวร์ซายส์ ด้านอังกฤษที่มัวแต่กังวลกับเอธิโอเปียก็ไม่ค่อยใส่ใจกับเสียงโวยวายของ ฝรั่งเศส จึงปล่อยให้เหตุการณ์บานปลายไปเรื่อยๆระหว่างที่สัมพันธมิตรมัวแต่แตกคอ เยอรมนีกับอิตาลีก็ขยายอิทธิพลเข้าไปแทรกแซงในสงครามกลางเมืองของสเปน และช่วยให้ฝ่ายทหารของนายพลฟรังโกได้รับชัยชนะ ในบรรยากาศแห่งความฮึกเหิมนี้ เยอรมนีได้ใจมากเลยรุกรานเข้าไปในออสเตรียและแทรกซึมกิจการภายในของเชโกสโลวะเกีย







    ผลกระทบจากสงคราม
                         เมื่อสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ในเดือนกันยายน 1945 ก็นับได้ว่าโลกได้เผชิญกับสงครามใหม่คือสงครามเย็นในเกือบจะทันที
                        
    เป็นจุดเริ่มต้นให้หลาย ๆ ประเทศเริ่มที่จะสะสมอาวุธนิวเคลียร์อำนาจทำลายล้างสูง ประเทศไหนมีอาวุธก็อ้างว่ามีไว้เพื่อป้องกันตัวเอง ส่วนที่ไม่มีก็ต้องคอยระแวงว่าประเทศที่มีอำนาจจะของขึ้น จับอาวุธขึ้นมาทำลายกันตอนไหน
                        
    สงครามโลกครั้งที่ 2 นั้นมหาอำนาจทุนนิยม กับมหาอำนาจสังคมนิยม มีศัตรูร่วมกันคือลัทธิฟาสซิสม์ มหาอำนาจทั้ง 2 ค่ายก็เลยเป็นผู้ชนะสงครามร่วมกัน สหประชาชาติที่โดยแท้จริงคือองค์กรของผุ้ชนะสงครามก็เลยมีแกนกลางที่ได้ดุลโดยอัตโนมัติ
                        ลดบทบาทความสำคัญของมหาอำนาจเดิม ยุโรปลง ไม่ว่าจะเป็นเยอรมนี ฝรั่งเศส หรืออังกฤษ เมื่อสิ้นสุดสงครามจึงมีการประกาศตัวเป็นเอกราชของประเทศที่เคยเป็นอาณานิคม ของมหาอำนาจสิ้นลายเหล่านี้หลายประเทศส่วนใหญ่อยู่ในทวีปเอเชียและแอฟริกา
                        ญี่ปุ่นต้องโดนปลดอาวุธและตกอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของสหรัฐฯช่วงระหว่างนั้นได้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในญี่ปุ่นอย่างมหาศาล สหรัฐฯบังคับให้ญึ่ปุ่นเปลี่ยนระบอบการปกครองมาใช้ประชาธิปไตยแบบตะวันตกบังคับให้ตราข้อความไว้ในรัฐธรรมนูญว่าญี่ปุ่นจะไม่ทำสงครามกับใครอีก จะไม่สร้างกองทัพขึ้นมาอีก
                        ญี่ปุ่นต้องแยกศาสนจักรออกจากอาณาจักรอย่างเด็ดขาด ศาสนาจะมายุ่งกับการปกครอง เหมือนแต่ก่อนไม่ได้ ห้ามให้เงินบำรุงศาสนา และห้ามให้ช่วยเหลือศาสนาอย่างเด็ดขาด เพราะกลัวว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะอาศัยศาสนามาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×