ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    P:FMR NM

    ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่ 8 นักดาบและยูนิคอร์น

    • อัปเดตล่าสุด 3 ส.ค. 56


    โรงเรียน SMART BRAIN  เวลา 09.11 น.

           "ยูทาโร่...ยูทาโร่...ยูทาโร่...ยูทาโร่...
    ยูทาโร่...ยูทาโร่..." เสียงเรียกของผู้หญิงที่ยูทาโร่คุ้นเคย ยังคงดังก้องอยู่ในหัวของเขา เป็นเสียงที่เขาไม่สามารถลืมไปได้ เป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุดสำหรับชายผู้นี้

           ทาคากิ ยูทาโร่ตื่นขึ้นมาจากความฝัน เขามานอนกลางวันอยู่ที่ม้านั่ง ซึ่งระยะนี้เขาก็มักจะทำแบบนี้เป็นประจำ "ทำไมเราถึงเอาแต่ฝันถึงเรื่องนี้กันนะ....เอริ..." ชายหนุ่มแสดงสีหน้าจริงจัง ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาได้ฝันถึงเรื่องผู้หญิงผู้นี้มาโดยตลอด โดยที่เขาก็ไม่ทราบสาเหตุ

           ชายหนุ่มมองไปที่หอนาฬิกาขนาดใหญ่ของโรงเรียนก็พบว่าตอนนี้เก้าโมงกว่าแล้ว แต่วันนี้เป็นวันหยุดจึงไม่จำเป็นที่จะต้องเข้าเรียนก็ได้ "ไปหาอะไรกินดีกว่า..." เขาตัดสินใจเช่นนั้น ยูทาโร่เดินไปที่ร้านโดนัทประจำของเขา

           "ไง ทัคคุงวันนี้ก็จะมากินโดนัทอีกแล้วเรอะ วันนี้จะเอาแบบไหนล่ะ ?" ผู้ชายออกแนวเพศที่สามนิดๆ เขาใส่วิคผมสีทองสลับชมพู สไตล์การแต่งตัวของเขาก็บ่งบอกให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเขาเป็นเช่นนั้น คนผู้นี้ทักทายยูทาโร่อย่างเป็นกันเอง นั่นก็เพราะว่ายูทาโร่เป็นลูกค้าประจำของเขา

           "วันนี้เอาช็อกโกแลตห้าชิ้น คงได้สินะ" ยุทาโร่ยื่นเงินให้กับเขา "ไม่ต้องถอน เดี๋ยวจะรอตรงที่นั่งนะ"

           "จ้า ทราบแล้วจะรีบทำให้เดี๋ยวนี้ล่ะ!" เขารีบไปปทำตามสิ่งที่ยูทาโร่สั่งทันที

           ยูทาโร่มานั่งพักรอสิ่งที่เขาสั่งไป ตอนนั้นเขาก็เหลือบไปเห็นการทำร้ายร่างกายของชมรมหนึ่งซึ่งมีลักษณะเหมือนกับชมรมเคนโ้ด้ เพราะคนบริเวณนั้นต่างใส่เกราะแบบชมรมเคนโด้ "เจ้าพวกนั้นมันทำอะไรกันน่ะ ?"

           ชายคนนึงถูกชายอีกสามคนใช้ดาบไม้ฟาดจนล้มลง "อ้ากกก!!" เขาปักดาบลงพื้นแล้วพยายามดึงตัวเองขึ้น "พวกแก...เล่นรุมแบบนี้คิดว่าตัวเองเก่งนักรึไง!?"

           "อาซึมามิยะ เจ้าเด็กกระจอกงอกง้อยอย่างแกน่ะ ต่อให้สู้กับหนึ่งในพวกเราสามคนแบบตัวต่อตัว แกก็ยังไม่มีโอกาสชนะเลย คนอ่อนแอน่ะยังไงมันก็เป็นได้แค่คนอ่อนแอเท่านั้นล่ะ" ชายที่ชื่อว่าซาเอกิพูดเย้ยหยันเขา

           "อย่างที่ซาเอกิพูด จะให้สู้กับคนที่อ่อนแอที่สุดในกลุ่มเราอย่างโอโคอุจิ แกก็ยังเทียบฝีมือไม่ได้เลย!!" ชายที่ชื่อว่าฮิมูโระ ฑูดหยามอาซึมามิยะอีกคน "ถ้าไม่เชื่อจะลองสู้ก็ได้นะ แต่ว่าถ้านายแพ้แกจะต้องจ่ายมาให้เราเพิ่มเป็นสองเท่า เข้าใจมั้ย!?"

           ดวงตาของอาซึมามิยะเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เขาลุกขึ้นยืนแล้วจ่อดาบไม้ไปที่ชายตัวเล็กที่สุดในกลุ่มนั้นที่ชื่อว่า
    โอโคอุจิ แล้วท้าทายเขาทันที "ได้ ฉันรับคำท้า!!"

           "ฉันจะแสดงให้เห็นความต่างชั้นระหว่างคนกระจอกอย่างนาย กับพวกฉันให้ดู!!" 
    โอโคอุจิและอาซึมามิยะตกลงที่จะประลองกัน ทั้งสองมาอยู่กันที่พื้นหญ้าซึ่งเป็นจุดที่อยู่ใกล้ชิดร้านโดนัทเป็นอย่างมาก

           "วันนี้จะมีการแสดงโชว์ด้วยอย่างงั้นเรอะ ขอลองดูหน่อยก็แล้วกัน" ส่วนยูทาโร่ก็นั่งดูการต่อสู้ครั้งนี้ไปพร้อมกับการกินขนมโดนัทของเขา

           "เอาล่ะจะเข้ามาทางไหนก็เข้ามาเลย!!" 
    โอโคอุจิตั้งท่าพร้อมแล้วท้าทายอาซึมามิยะให้เป็นฝ่ายบุกเข้ามา

           "ไม่ต้องมาบอกฉันก็จะบุกเข้าไปอยู่แล้ว เตรียมรับมือ!!" อาซึมามิยะพุ่งเข้าไปฟาดดาบลงใส่
    โอโคอุจิ แต่การโจมตีตรงๆแบบนั้นก็ถูกป้องกันได้อย่างง่ายดาย แต่เขาก็ถอยออกมาแล้วฟาดดาบลงซ้ำๆกันอีกหลายที "เป็นอะไรไปโอโคอุจิ นายฝีมือเพียงแค่นี้อย่างงั้นเรอะ!?"

           "พูดอะไรแบบนั้น นี้นายคิดว่าการเป็นฝ่ายบุกอยู่นั่นคือการเอาชนะที่ง่ายที่สุดสินะ  ถ้านายคิดอย่างงั้นล่ะก็..." 
    โอโคอุจิใช้แรงทั้งหมดโจมตีกลับไปภายในครั้งเดียวทำให้อาซึมามิยะนั้นกระเด็นออก "...แกมันก็แค่พวกกระจอกจริงนั่นล่ะ!" โอโคอุจิฟาดดาบลงใส่อาสึมามิยะ "ย้ากกก!!!"

           "อั่กก!!" อาซึมามิยะถูกฟาดลงเข้าที่หัวเต็มๆทำให้เขาเป็นฝ่ายแพ้ "อะ..อะไรเนี่ย นี่ฉันแพ้อย่างงั้นเรอะ!?"

           ซาเอกิเตะอาซึมามิยะซ้ำแล้วจ่อดาบไม้ไปที่หน้าของเขา "นายแพ้แล้ว ทำตามสัญญาซะดีๆ หรือว่าอยากจะเจ็บตัวอีก!?"

            "อย่ามาพูดบ้าๆน่า!!" อาซึมามิยะปัดดาบไม้ของซาเอกิออก "คิดว่าคนอย่างฉันจะยอมรับความพ่ายแพ้นี้งั้นเรอะ ถ้าคิดแบบนั้นพวกแกก็โคตรโง่เลย!"

           "แก!!...ปากดีนักนะ!!" ฮิมูโระที่อยู่ข้างๆทนฟังอาซึมามิยะไม่ไหวจึงใช้ดาบไม้ฟาดตีเขาที่ล้มลงอยู่ 
    โอโคอุจิก็เข้ามาร่วมตีด้วย ซาเอกิวิ่งไปเก็บดาบของตัวเองแล้วก็ตีฟาดใส่อาซึมามิยะซ้ำอีก "ไหนล่ะลองปากดีอีกเซ่!!"

            ซาเอกิเตะอาซึมามิยะซ้ำอีกทีทำให้กระเป๋าตังค์เขาร่วงลงมา ชายผู้นี้ได้โอกาสจึงเก็บกระเป๋าตังค์ใบนี้ขึ้นมา "ตอนแรกคิดว่าแค่จะเอาไปแค่สองเท่า แต่ค่าที่ทำให้พวกฉันโกรธแกจะต้องนำเงินทั้งหมดมาให้ฉันแทน แล้วไว้เจอกัน ไอ้กระจอก!!"

           ซาเอกิ,
    โอโคอุจิและฮิมูโระเดินจากไปพร้อมกับเสียงหัวเราะของผู้ชนะ ปล่อยให้อาซึมามิยะทุบพื้นด้วยความแค้นอยู่ข้างหลังเพียงคนเดียว "พวกแก..สักวันนึงฉันจะสั่งสอนให้พวกแกรู้ พวกแกจะต้องมาสยบแทบเท้าฉัน!!"

           "ถ้าอย่างงั้นก็แข็งแกร่งขึ้นสิ!" ยูทาโร่ที่นั่งดูอยู่นานแล้วให้คำแนะนำกับอาซึมามิยะ "ถ้านายสามารถแข็งแกร่งขึ้นได้ เจ้าพวกนั้นก็จะสู้กับนายไม่ได้แน่นอน พยายามฝึกเข้าล่ะ นั่นล่ะคือหนทางที่จะเหนือกว่าเจ้าพวกนั้นได้!" ทาคากิหลังจากที่พูดเสร็จเขาก็เดินจากไป

    วันต่อมาที่โรงฝึกเคนโด้  เวลา 05.44 น.

           "ฮ่าส์...ฮ่าส์...ฮ่าส์...ฮ้ากกก!!" อาซึมามิยะมาฝึกเคนโด้ตั้งแต่เช้า เขาคิดว่าการพยายามฝึกอย่างเอาเป็นเอาตายนั้นจะเป็นหนทางที่ทำให้เขานั้นแข็งแกร่งขึ้นได้อย่างรวดเร็วที่สุด "ตะต้องแข็งแกร่งขึ้น...แข็งแกร่งขึ้น..แล้วเอาชนะพวกนั้นให้ได้...ไม่ว่ายังไงก็ตาม..ก็ต้องชนะ!!"

           "แค้นมากเลยสินะ...ให้ข้าช่วยเอามั้ย!?" เสียงของผู้ชายลึกลับผู้หนึ่งดังก้องไปทั่วโรงฝึกเคนโด้ อาซึมามิยะมองไปรอบๆก็ไม่พบใครที่ไหน 

           "นายเป็นใคร นั่นเสียงใครน่ะ!?" อาซึมิยะตะโกนถามหาเจ้าของเสียงลึกลับนั้น

           "ข้าอยู่ตรงนี้ยังไงล่ะ!!" เงามืดได้ค่อยก่อร่างเป็นชายสวมเกราะสีดำ ที่มีลักษณะคล้ายโอเนย์รอส แต่ลักษณะของชายผู้นี้ดูน่ากลัวมากกว่าสง่างาม ถ้าให้เปรียบก็คือชายผู้นี้นั้นเหมือนกับปิศาจที่มาจากฝันร้ายของผู้คน "ถ้าแกยอมทำที่ข้าบอกเพียงอย่างเดียว แกก็จะสามารถแก้แค้นเจ้าพวกที่นายแค้นอยู่ได้...ว่าไงสนใจมั้ย ?"


           "นายจะ..นายจะทำให้ทำให้ฉันแข็งแกร่งได้จริงๆงั้นเหรอ!?" ชายหนุ่มตาลุกวาว เขารู้สึกเหมือนกับมีพระเจ้าประทานพรศักดิ์สิทธิ์มาให้ "ได้สิ..ไม่ว่าจะเป็นอะไรฉันก็ยอมทำ..ขอให้แกร่งขึ้นก็พอแล้ว!"

           "พูดง่ายดีนี่ ถ้าอย่างงั้นก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ไม้แข็งสินะ!" ชายเกราะสีดำสร้างบอลพลังงานบางอย่างออกมาจากมือของเขา มันค่อยๆเดินเข้ามาใกล้เด็กหนุ่มแล้วใส่ก้อนพลังงานนั้นลงในหัวของเขา แล้วก็เกิดเป็นตราประทับรูปดาวสีดำลงบนหน้าผากเขา "ขอให้สนุกกับสิ่งที่ได้ไปนะ.." ชายเกราะสีดำหายตัวไปพร้อมกับประตูมิติของมัน

           อาซึมามิยะสำรวจมองร่างกายตัวเองดีๆแต่เขาก็ไม่พบเห็นความแตกต่างจากภายนอกเลย "ก็ไม่เห็นจะเปลี่ยนแปลงอะไรเลยนี่น่า เจ้านั้นมันหลอกเราแล้วมายัดอะไรแปลกๆให้เราอีกงั้นเรอะ!?" ด้วยความโมโหอาซึมิยะก็คิดจะออกตามหาชายเกราะดำนั้น แต่ว่าก่อนที่เขาจะทำอะไรก็ก่อนสิ่งปกติขึ้นกับร่างกายเขา "อะ..อะไรกัน..รู้สึกเหมือนกับ...ร่างกายจะแตกเป็นเสี่ยงๆ!!"
     
           "อ๊ากกกก!!!!" ร่างกายของอาซึมามิยะค่อยแยกออก แล้วก็มีไนท์แมร์รูปร่างคล้ายกับม้ายูนิคอร์นออกมาจากร่างกายของเขา มันออกมายืนอยู่ตรงหน้าเขาแล้วร่างของชายหนุ่มก็คืนสภาพกลับเป็นปกติ แต่ก็ต้องตกใจกับสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า ณ ตอนนี้ "กะ..แกเป็นตัวอะไรน่ะ!?"

           "ฮา..." ไนท์แมร์ยูนิคอร์นหันมามองอาซึมามิยะแล้วค่อยเดินเข้ามาใกล้เขาอย่างช้าๆ

           "ดะ..เดี๋ยวสิ อย่าเข้ามานะ...ฉันยังไม่อยากตายนะ อย่าเข้ามา!!" อาซึมามิยะพยายามถอยห่างจากสัตว์ประหลาดตนนี้ จนเขาหนีไปถึงสุดห้องแต่ไนท์แมร์ตนนี้ก็ยังคงเดินเข้ามาใกล้เขาเรื่อยๆ "อย่านะ..อย่านะ!"

           แต่ว่าทันใดนั้นไนท์แมร์ตนนี้ก็นั่งคุกเข่าลงตราหน้าของอาสึมามิยะ เหมือนกับว่าเขาผู้นี้เป็นเจ้านายของมัน "นะ..นี้นาย..หรือว่าจะเป็นข้ารับใช้ของฉัน ที่จะมาช่วยให้ฉันแข็งแกร่งขึ้น!?" ชายหนุ่มถาม ปิศาจม้าพยักหน้า ชายผู้นี้ค่อยๆยื่นมือไปลูบหัวของสัตว์ประหลาดซึ่งก็สามารถทำให้มันเชื่องได้อย่าง่ายดาย

           ชายหนุ่มแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย "ใช่...เรามา...เรามาแก้แค้น..ทำให้พวกมันได้รู้สำนึกกัน!!" 

           ผู้ชายเกราะสีดำทมิฬ ยืนอยู่บนหอนาฬิกาของโรงเรียน มันจ้องมองลงมาที่โรงฝึกเคนโด้ที่อยู่ไม่ไกลมากนัก "เอาล่ะ ข้าขอดูหน่อยสิว่า...ความแค้นของเจ้ามันจะยิ่งใหญ่ถึงเพียงใด..และเจ้าจะทำประโยชน์ให้แก่พวกข้าได้แค่ไหน.."

    .
    .
    .
    .


    ฐานทัพลับแรบบิทแฮท์  เวลา 07.00 น.

           โคซากะ เคียวสุเกะเข้ามาในฐานทัพแรบบิทแฮทซ์ที่เขาไม่ได้มาถึงหลายวันแล้ว แต่วันนี้สาเหตุที่เขามาก็เพราะเรื่องไนท์แมร์ระยะนี้จะเกิดขึ้นค่อนข้างถี่ เขาจึงมาเพื่อที่เพื่อจะได้รับข่าวสารอะไรจากพวกมันบ้าง แต่เขานั้นก็มาเจอเพียงแค่ฮารุกะกับลาพิสอยู่เพียงสองคน้ท่านั้น "ฮารุกะ เธออยู่คนเดียวอย่างงั้นเรอะ นี้ยังไม่มีใครมาที่นี่เลยรึไง ?"

           "เปล่าหรอก ฉันไม่ได้อยู่คนเดียวนะ" ฮารุกะตอบปฏิเสธ

           ชายหนุ่มมองไปที่ลาพิส "เออ...งั้นเธอกับเด็กผู้หญิงคนนี้อยู่ที่นี่กันแค่สองคนอย่างงั้นเรอะ ?"

           "เปล่า นอกจากฉันกับลาพิสจัง อากิฮิสะคุงก็อยู่ที่นี่ด้วยนะ แต่ว่าตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในฐานทัพเท่านั้นล่ะ" ฮารุกะตอบ เคียวสุเกะงงเล็กน้อย เธอจึงเดินไปกดปุ่มตรงข้างหน้าต่าง แล้วหน้าต่างเหล็กก็เปิดออกทำให้เห็นมาสค์ไรเดอร์โฟร์เซ่กำลังเดินเล่นอยู่บนดวงจันทร์ "อากิฮิสะคุง!!" ฮารุกะโบกมือให้กับเขา

           โฟร์เซ่เห็นฮารุกะโบกมือมาให้ เขาก็โบกมือกลับ ส่วนเคียวสุเกะยังคงยืนอึ้ง "ดะ..ดะ..ดะ..เดี๋ยวสิ ข้างนอกมันอวกาศไม่ใช่เรอะ มันไม่มีอากาศหายใจนะ แล้วทำไมหมอนั่นถึงออกไปวิ่งเล่นได้สบายใจแบบนั้นล่ะ!?"

           "ก็ความสามารถของโฟร์เซ่นั้นเหมือนกับนักบินอวกาศน่ะสิ ไม่แปลกหรอกนะที่จะไปเดินเล่นบนดวงจันทร์ได้!" ฮารุกะอธิบายแล้วเดินไปที่ห้องข้างๆ เธอเปิดประตูห้องนั้นให้เคียวสุเกะเห็นว่ามีชุดนักบินอวกาศอยู่สักประมาณ 9-10 ชุด "จากที่อากิฮิสะคุงเล่ามา ตอนที่เขามาเป็นมาสค์ไรเดอร์น่ะ เขาได้เจอกับนักวิทยาศาสตร์ที่บอกว่าตัวเองศึกษาพลังงานคอสมิคซึ่งเป็นพลังงานลึกลับจากอวกาศ ไม่แน่ว่าที่นี่อาจจะเคยเป็นสถานที่ที่ไว้วิจัยพลังของโฟร์เซ่ก็ได้นะ"

            "อย่างงั้นเรอะ..." เคียวสุเกะทำความเข้าใจ เขามองออกไปข้างนอกเห็นมาสค์ไรเดอร์หัวจรวดคนนั้นกำลังกระโดดโลดเต้นอยู่บนดวงจันทร์ ทำให้เขารู้สึกอิจฉาเล็กน้อย "นี้ฮารุกะ คิดว่าเดน-โอจะสามารถไปอยู่บนผิวดวงจันทร์ได้มั้ย ?"

           "เอ๋!? เรื่องนั้นฉันก็ไม่รู้นะ เคียวสุเกะคุงต้องลองไปใช้จริงดูเอง...แต่ว่าอย่าลืมนะว่าบนอวกาศมันไม่มีอากาศหายใจ และยังมีรังสีอันตรายอีกมาก ดังนั้นระวังตัวด้วยล่ะถ้าจะออกไปน่ะ" ฮารุกะเตือน

           "ไม่ต้องห่วง ฉันคิดว่ามันจะต้องได้ผลอยู่แล้ว!" เคียวสุเกะหยิบไดร์เวอร์ของตัวเองขึ้นมาแล้วทำการสวมใส่มันซะ "เอาล่ะนะ แปลงร่..."

           "ว้าวที่นี่สุดยอดไปเลย!!!" ซาโอริ บีจีน่าเพื่อนร่วมชมรมเดียวกับเคียวสุเกะ ผู้เป็นประธานชมรมคนรักอนิเม เข้ามาในฐานทัพแห่งนี้และต้องตกตะลึงกับความยิ่งใหญ่ของที่นี่ เธอมองไปบนดวงดาวนอกหน้าต่างและก็มองเห็นโลกอยู่ที่นั้น "โลก...นี้หมายความว่าไงน่ะขอรับ  นี้เราอยู่ที่ไหนกัน!?"

           "ตอนนี้พวกเราอยู่บนฐานทัพบนดวงจันทร์ไง ก็เพิ่งบอกไปก้อนที่จะเข้ามาไม่ใช่เรอะ ?" ชิมาดะ มินามิเพื่อนร่มห้องของฮารุกะ ผู้ที่เพิ่งย้ายมาจากเยอรมันเมื่อต้นปีนี้ เธอเป็นคนที่พูดภาษาญี่ปุ่นและเขียนไม่เก่ง แต่เธอกำลังพยายามฝึกอยู่ "ฮารุกะ ลาพิสแล้วก็โคซากะ เคียวสุเกะอย่างงั้นเรอะ อยู่กันแค่นี้เรอะ ?"


           ฮารุกะยิ้ม "เปล่าหรอก ยังมีอากิฮิสะคุงอยู่ข้างนอกด้วยน่ะ!" ฮารุกะชี้ไปนอกหน้าต่างซึ่งเป็นจังหวะที่มาสค์ไรเดอร์โฟร์เซ่ กระโดดตีลังกาแล้วหันมามองพอดี เขาจึงโบกมือทักทายซักเล็กน้อย

           "ออกไปข้างนอกได้ด้วยอย่างงั้นเรอะ ที่นี่จะสุดยอดเกินไปแล้วนะขอรับ!!" ซาโอริรู้สึกตื่นเต้น "ข้าน้อยเองก็อยากลองออกไปสัมผัสความรู้สึกนอกอวกาศบ้างน่ะขอรับ!"

           "ถ้าอย่างงั้นก็ไปเปลี่ยนชุดเลยสิ เดี๋ยวฉันก็จะลองออกไปด้วย มาอวกาศทั้งทีแต่ไม่ได้ไปสัมผัสของจริงมันก็รู้สึกยัง..ยังไงอยู่นะ!" เคียวสุเกะยังคงยืนยันที่จะออกไป และตอนนี้ซาโอริก็จะออกไปด้วยอีกคนแล้ว

           "ฉันจะไปดูแลความปลอดภัยให้ก็แล้วกัน ฉันเคยออกไปข้างนอกนั้นสักสอง-สามรอบแล้ว ก็พอจะรู้ว่าต้องทำยังไงเวลาอยู่บนอวกาศล่ะนะ!" มินามิบอก แล้วเธอกับซาโอริก็เข้าไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ส่วนเคียวสุเกะมายืนรออยู่ที่ห้องเพื่อที่รอจะออกไปนอกอวกาศ

           "ท่านเคียวสุเกะ พวกข้าน้อยเสร็จแล้วขอรับ!!" เสียงของซาโอริดังมาแต่ไกล

           "ปล่อยให้รอซะนานเลยนะ!" เคียวสุเกะลุกขึ้นแล้วก็ทำการสวมไดร์เวอร์ของเขาทันที แต่พอเขามองไปที่ซาโอริเขาก็รู้สึกตะหงิดใจบางอย่างกับเธอ "ซาโอริ เธอไม่คิดจะถอดแว่นก้นหอยนั้นออกก่อนเรอะ ?"

           "ข้าน้อยขอใส่ไว้แบบนี้จะดีกว่านะขอรับ มันช่วยเพิ่มความกล้าให้กับข้าน้อยเวลาที่จะออกไปทำอะไรที่ไม่เคยทำมาก่อนน่ะขอรับ" ซาโอริบอก เคียวสุเกะก็พอจะเข้าใจคนที่เพิ่งจะออกไปนอกอวกาศครั้งแรกเป็นใครก็ต้องรู้สึกกังวลบ้าง เขาก็เช่นกันแต่ว่าการเอาชนะความกลัวนั้นก็จะช่วยเปิดประตูสู่หนทางใหม่ให้เราเช่นกัน


           "ถ้าพร้อมแล้ว ก็จะไปล่ะนะ!" เคียวสุเกะโยนพาสที่ไว้สำหรับในการแปลงร่างขึ้นแล้วรับไว้ เขากดปุ่มนสีแดงพร้อมกับนำพาสนั้นนำมาใช้ที่ไดร์เวอร์ของเขา "แปลงร่าง!"


    SWORD FORM

           เกราะสีขาวสวมทับร่างของเคียวสุเกะ จากนั้นก็มีเกราะสีแดงลอยมาสวมทับให้กับเขาคนนี้อีกชั้น จนกลายเป็นมาสค์ไรเดอร์เดนโอ ซอร์ดฟอร์มโดยสมบูรณ์ "พระเอกมาแล้ว!!" เขาประกาศคำประจำตัวออกมาอย่างไร้ความหมายในสถานการ์ณแบบนี้ "เอาล่ะ เปิดประตูได้!"

           ประตูสู่ผิวดวงจันทร์ได้เปิดออกมาสค์ไรเดอร์เดนโอและหญิงสาวอีกสองคนออกไปเดินอยู่บนผิวดวงจันทร์ ความรู้สึกครั้งแรกที่ได้เหยียบบนผิวดวงจันทร์แห่งนี้ของเคียวสุเกะและซาโอริ เป็นความรู้สึกที่จะทำให้พวกเขาทั้งสองลืมไม่ลงอย่างแน่นอน "ท่าทางเดน-โอเองก็จะอยู่บนอวกาศได้สินะ"


    RADAR ON

           "เฮ้! ทุกคนเป็นยังบ้าง!!" โฟร์เซ่กระโดดเข้ามาหาทั้งสาม สาเหตุที่เขาต้องใช้เรดาห์นั้นก็เป็นเพราะว่าการพูดคุยบนอวกาศ จำเป็นที่จะต้องใช้อุปกรณ์เพื่อที่จะสามารถพูดกับคนที่สวมชุดอวกาศได้อย่างสะดวก แต่ถ้าคุยกับมาสค์ไรเดอร์ด้วยกันอาจจะไม่จำเป็นก็ได้ "ที่นี่เห็นดาวได้ดีกว่าในเมืองเยอะ!"

           "มันก็ต้องแน่อยู่แล้วสิยะก็บนอวกาศหนิ จะให้เห็นเป็นเมฆเหมือนตอนอยู่บนโลกรึไง!?" มินามิพูดซะ ทำเอาอากิฮิสะรู้สึกเจ็บกับคำตอบของเธอ "แล้ว อากิ นี่นายอยู่ที่นี่มานานแค่ไหนแล้วเนี่ย!?" 

           "ก็อยู่มาประมาณ 20 นาทีกว่าแล้วล่ กำลังคิดจะกลับเข้าไปอยู่พอดี แต่ว่าพวกมินามิก็ออกมาก่อนก็เลยยังไม่คิดจะกลับ" อากิฮิสะตอบ เขาหันไปมองซาโอริแล้วรู้สึกสงสัยที่เธอสามารถสวมแว่นในสภาพไร้แรงโน้มถ่วงได้ "นี่เธอใช้วิธีอะไร แว่นนั่นถึงไม่ลอยล่ะ ?"

           "ข้าน้อยใช้เทปกาวทำให้มันติดกับข้าน้อยน่ะขอรับ ข้าน้อยรู้ดีว่าเขาไม่ให้สวมแว่นเวลาอยู่ในที่แบบนี้ แต่ว่าข้าน้อยเองก็ต้องการของช่วยเหมือนกันน่ะขอรับ!" ซาโอริตอบ

           เดนโอลองกระโดดตีลังกาบนผืนผิวดวงจันทร์ดู เขาก็สามารถทำได้อย่างง่ายดายเนื่องจากในสภาพไร้แรงโน้มถ่วงนี้ก็ช่วยลดสภาพน้ำหนักของเขาลงอย่างมากจนช่วยให้เหมือนกับลอยได้ชั่วขณะหนึ่ง "ที่นี่มันสุดยอดไปเลยแหะ คงจะใช้เงินสร้างเยอะมหาศาสแน่ ฐานทัพลับนี่น่ะ!"

           "เอ๋..ข้าน้อยก็สงสัยมานานแล้วนะขอรับ ว่าทำไมที่นี่ถึงไม่ถูกตรวจเจอโดยพวกนักบินอวกาศที่ทำงานอยู่บนดวงจันทร์ล่ะขอรับ ?" ซาโอริถาม เพราะถ้าเป็นที่บนดวงจันทร์แห่งนี้ก็ย่อมที่จะมีคนที่มาตรวจเจอบ้าง แต่ที่นี่ก็เก็บเป็นความลับ โดยที่มีเพียงแค่ผู้ที่เกี่ยวข้องเท่านั้นที่รู้

           "เรื่องนั้นจะเป็นยังไงก็ช่างมันเถอะน่า เราได้มาอยู่ที่ดีๆแบบนี้ก็พอแล้ว!" อากิฮิสะตอบซาโอริ 

           "แต่ว่าเรื่องที่ซาโอริพูดมันก็น่าคิดเหมือนกันนะ ที่ที่ใหญ่แบบนี้และยังมีอุปกรณ์ไฮเทคแบบนี้ ต้องเป็นหน่วยงานที่มีเงินทุนมหาศาสมากเลยจริงๆ ถึงทำได้ถึงขนาดนี้น่ะ!" เคียวสุเกะพูดตามสิ่งที่เขาเห็น

           ติ๊ดๆๆ!! สัญญาณดังขึ้นมาจากเรดาห์ของโฟร์เซ่ พอเขากดดูข้อมูลรายละเอียดก็พบว่ามีสัญญาณของไนท์แมร์อยู่ภายในโรงเรียน "ท่าทางจะมีงานเข้ามาแล้วสิ ขอออกไปยืดเส้นยืดสายหน่อยก็แล้วกัน!" 

           "ทำไมเครื่องนั่นถึงตรวจจับสัญญาณของพวกไนท์แมร์ได้ล่ะ ?" เคียวสุเกะถาม

           "รู้สึกว่าเจ้าเครื่องนี้มันจะเชื่อมต่อกับเรดาห์ของที่นี่ ก็เลยตรวจจับได้แบบนี้ล่ะมั้ง ?" อากิฮิสะตอบไปตามที่ตัวเองรู้ "ยังไงก็เถอะ ได้ฤกษ์ที่ฉันจะต้องออกโรงแล้ว!"

           "ฉันไปด้วยสิ ไนท์แมร์น่ะฉันไม่เคยสู้กับพวกมันมาก่อนเลย อยากจะรู้ว่ามันเก่งแค่ไหน" เคียวสุเกะเข้าร่วมกลุ่มเดียวกับอากิฮิสะ เพื่อที่จะลงไปสู้ด้วย

           "พวกฉันเองก็จะไปด้วยนะ อากิ!!" มินามิและซาโอริขอ และถึงแม้โยชิอิ อากิฮิสะผู้นี้จะตอบปฏิเสธ ยังไงก็คงไม่มีผล เขาจึงต้องพาทั้งสามนั้นลงไปบนโลกเพื่อที่จะจัดการไนท์แมร์ที่กำลังอยู่ที่โรงเรียน

           ฮารุกะนั่งมองทั้งสี่ออกไปจากฐานทัพปล่อยให้เธออยู่คนเดียวกับลาพิสที่ฐานทัพแห่งนี้ เธอจึงอวยพรให้พวกเขาก่อนที่พวกเขาจะไป"ไปดีมาดีนะ พยายามเข้าล่ะ ชนะให้ได้ด้วยนะ!"


    หน้าโรงยิมชองโรงเรียน SMART BRAIN  เวลา 07.45

           ไนท์แมร์ูนิคอร์นเดินำหน้าฝูงเหล่าสเกเลตัน(โครงกระดูก) ที่เดินตามมันมาติดๆเปรียบเหมือนกับลูกน้องของมัน พวกมันทั้งหลายเข้าทำร้ายนักเรียนโดยรอบนั้นแล้วดูดพลังความฝันของพวกเขามา สเกเลตันเองก็สามารถดูดพลังงานความฝันได้ แต่สามารถทำได้น้อยกว่าและก็ยังต้องนำกลับมาถ่ายพลังคืนให้กับยูนิคอร์นที่เป็นหัวหน้าด้วย "ฮี้!!"

           อากิฮิสะ,เคียวสุเกะ,ซาโอริและมินามิตามมาถึงจุดเกิดเหตุในครั้งนี้ "คราวนี้เป็นม้าอย่างงั้นเรอะ มาแปลกดีแฮะ!?"

           "ผิดแล้วขอรับ ท่านอากิฮิสะนั่นไม่ม้านะขอรับ!" ซาโอริขัดคำตอบของอากิฮิสะที่เขาคิดว่าถูกแล้ว

           "เดี๋ยวถ้ามันไม่ใช่ม้าแล้วเจ้านั่นมันตัวอะำไร ?" ชายหนุ่มถามหญิงสาวผู้สวมแว่นตาก้นหอยลาย

           เธอขยับแว่นครั้งนึงแล้วยิ้มอย่างภาคภูมิใจ "ไนท์แมร์ตัวนั้นไม่ใช่ม้าธรรมดา เพราะว่าเจ้านั่นคือม้ายูนิคอร์นต่างหากขอรับ!" 

           "หะ จริงด้วยไม่ได้สังเกตเลย!" อากิฮิสะตะลึงเมื่อเขาเพิ่งเห็นเขาของมัน 

           "จริงด้วยสิ ยูนิคอร์นจริงๆด้วย" มินามิก็คล้อยตามไปพร้อมกับซาโอริและอากิฮิสะ

           "ตอนนี้มันจะเป็นตัวอะไรก็ช่างมันก่อนเถอะน่า ยังไงก็มาจัดการเจ้าพวกนี้ก่อนเถอะ!!" เคียวสุเกะพูดเตือนสติทุกคนให้กลับมาสนใจศัตรูตรงหน้าก่อน เขาสวมไดร์เวอร์พร้อม "พร้อมนะโยชิอิ!"

           อากิฮิสะสวมไดร์เวอร์ของเขา "พร้อมต้องนานแล้วล่ะน่า!!" เขากดสวิทซ์ทั้งสี่ลงไปแล้วตั้งท่าแปลงร่าง

    3
    2
    1


           "แปลงร่าง!!" อากิฮิสะสับคันโยกที่ไดร์เวอร์ของเขาแล้วชูมือขึ้นฟ้า ก็เกิดเป็นคลื่นพลังงานคอสมิคถูกส่งลงมาจากฟ้าเปลี่ยนร่างของเขาให้กลายเป็นมาสค์ไรเดอร์โฟร์เซ่ ส่วนเคียวสุเะกดปุ่มสีน้ำเงินที่ไดร์เวอร์ซึ่งมันอยู่ล่างลงมาจากปุ่มสีแดง เขาใช้พาสไปที่ไดร์เวอร์นั้นแล้วเกราะสีเงินก็มาสวมร่างเขาก่อน จากนั้นเกราะเหล็กสีน้ำเงินก็เข้ามาวมทับเขาอีกชั้นนึง


    ROD FORM

           "อวกาศมาแล้ว!!!" โฟร์เซ่ตะโกนสุดเสียง แล้วยื่นหมัดตรงไปที่ไนท์แมร์ที่อยู่ตรงหน้าเขา "มาสค์ไรเดอร์โฟร์เซ่มาตัดสินกันแบบตัวต่อตัวเลย!"

           "นี่นายจะมาลองตกฉันดูไหมล่ะ ?" เดนโอมีคำพูดที่ต่างออกไปจากร่างซอร์ดฟอร์มเมื่อเช้า

           อากิฮิสะรู้สึกตะหงิดใจกับคำพูดเปิดตัวของเดนโอ "คำพูดเมื่อกี้มันอะไรน่ะ จะมาลองตกฉันดูไหมล่ะ ?" 

           "ไม่ต้องคิดมากหรอก ฉันก็แค่พูดไปอย่างงั้นล่ะ!" เดนโอหยิบอุปกรณ์ที่เอวทั้งสองข้างของเขามาประกอบกัน แล้วเมื่อประกอบเสร็จมันก็เปลี่ยนเป็นอาวุธเหมือนกับหอก "เดี๋ยวฉันจัดการพวกโครงกระดูกให้ อากิฮิสะนายจัดการยูนิคอร์นล่ะกัน!"


    ROCKET ON

           "ได้เลยพวก!!" โฟร์เซ่กดใช้งานสวิทซ์ จรวดสีส้ทจึงปรากฏขึ้นมาที่แขนขวาของเขาแล้วพุ่งเข้าต่อยไนท์แมร์ยูนิคอร์นพามันออกไปจากวงของสเกเลตัน "คู่ต่อสู้ของนายคือฉันคนนี้!!"

           สเกเลตันต่างมองภาพที่หัวหน้าของพวกมันถูกโจมตีไปต่อหน้าต่อตาพวกมันจึงหันหลังกลับเพื่อทีจะกลับไปช่วย แต่เดนโอก็ใช้หอกซึ่งมีอาวุธบางอย่างคล้ายกับเบ็ดตกปลาออกมาเหล่าพวกมันไว้ "ไม่ยอมให้ไปไหนหรอก!"

           "แฮ่!!!" สเกเลตันร่วมแรงกันทำลายเบ็ดนั้นออก แล้วเปลี่ยนป้าหมายไปที่มาสค์ไรเดอร์เดนโอ

           "เข้ามาเลย!!" เดนโอใช้หอกตีฟาดใส่พวกมัน โจมแบบที่ทำให้พวกมันไม่สามารถเข้าใกล้ตัวเขาได้เลย เขาโจมตีตัวนึงกระแทกล้มลงไป แล้วก็หมุนตัวไปโจมตีอีกสามตัวข้างหลัง ใช้ศอกตีใส่ตัวที่อยู่ข้างๆ แล้วใช้ไม้พลองควงหมุนตีไปรอบๆตีใส่ไนท์แมร์ที่ล้อมอยู่ทั้งหมด


    SCISSORS ON

           "ฮ้ากกก!" โฟร์เซ่ที่พายูนิคอร์นไปพร้อมกับตัวเอง ได้พากลับมาส่งมันที่เดิมแล้วดขาก็ปิดการใช้งานจรวดลงไป แต่กดใช้งานสวิทซ์ใหม่ ซึ่งมีกรรไกรปรากฏขึ้นมาที่แขนซ้ายแทนแล้วเข้าโจมตีใส่มันอย่างต่อเนื่องด้วยกรรไกรนี้ "เอาไปๆๆๆ!"

           "ฮี้!!" ไนท์แมร์รำคาญจึงกระโดดเตะสองเท้าใส่โฟร์เซ่จนกระเด็นออก แต่เขาสามารถพลิกตัวกลับได้ด้วยไอพ่นที่อยู่ที่หลัง เขาปิดสวิทซ์กรรไกรลงไปแล้วกดใช้งานสวิทซ์อีกสองสวิทซ์แทน


    MAGICHAND ON

    BEAT ON

           "ฮ่าส์!!" โฟร์เซ่ใช้ลำโพงที่ขาขวาของเขาปล่อยคลื่นเสียงความถี่สูงใส่ไนท์แมร์ยูนิคอร์นจนทำให้มันขยับไม่ได้เพราะเสียงที่ดัง แล้วตามด้วยใช้มือกลที่แขนขวาจับขาของมันไว้แล้วยกมันขึ้นมาทุ่มลงที่พื้นอีกด้านหนึ่งแล้วขว้างไปที่ผนังโรงยิม

           ไนท์แมร์พลิกตัวกลับแล้วใช้ผนังโรงยิมเป็นตัวกระโดดกลับมาโจมตีใส่โฟร์เซ่ด้วยเขาแทน "อ้ากก!!"

           โฟร์เซ่กระเด็นมาอยู่ตรงหน้าของมินามิและซาโอริ "อากิ สู้ให้ดีๆหน่อย อย่่าแพ้แบบหมดรูปแบบนี้สิ!"

            มาสค์ไรเดอร์พลิกตัวกลับขึ้นมา "รู้แล้วล่ะน่า งั้น...!!" โฟร์เซ่หยิบสวิทซ์สีทองซึ่งมีเลข 10 ไว้บนสวิทซ์นั้นขึ้นมา "..เรามาลองใช้เจ้าสวิทซ์ใหม่นี้กันเลย!" เขาหยิบสวิทซ์ที่อยู่ด้านขวาสุดออกแล้วใส่สวิทซ์สีทองนี้ลงไปแล้วกดใช้


    ELECTRIC ON

           มือขวาของโฟร์เซ่ปรากฏสายฟ้าขึ้นมาแล้วอาวุธที่มีลักษณะคล้ายกระบองไฟฟ้าก็ปรากฏออกมาเป็นอาวุธให้กับเขา "นี่มันอะไรเนี่ย..กระบองไฟฟ้าเรอะ ?" อากิฮิสะลองหยิบปลั๊กที่อยู่ที่อาวุธนี้มาเสียบที่ตลับของมันซึ่งมีอยู่ถึงสามตลับ เขาจึงเลือกเสียบที่ตลับซ้ายสุดก่อน "จะเกิดอะไรขึ้น ?" 

           "ฮี้!!" ไนท์แมร์ยูนิคอร์นเห็นโฟร์เซ่ยืนอยู่นานจึงเข้าเป็นฝ่ายบุกเอง แต่ตอนที่บุกเข้าไปนั้นเป็นจังหวะที่โฟร์เซ่ยื่นกระบองไฟฟ้าไปโดนมันอย่างไม่ได้ตั้งใจ ทำให้มันถูกไฟฟ้าช็อต

           "โฮ่...เจ้านี้มันก็ไม่เลวเลยแฮะ เอาล่ะ!" โฟร์เซ่วิ่งเข้าไปโจมตีใส่ยูนิคอร์นด้วยกระบองไฟฟ้านี้ แต่เมื่อโจมตีใส่มันเขาก็ถูกสายฟ้าจากอาวุธนี้ช็อตกลับมาด้วย "อะ..อะไรเนี่ย" มาสค์ไรเดอร์ถอยออกมาแล้วกลับเข้าไปฟันใหม่เขาก็ยังถูกช็อตด้วยอยู่ดี

           มินามิสังเกตท่าทางของอากิฮิสะแล้วรู้สึกมีบางอย่างผิดปกติ "อากิ ท่าทางแปลกๆนะ เหมือนกับว่าถูกสายฟ้าของตัวเองเล่นงานยังไงอย่างงั้น ?" 

           "หรือว่าอาวุธชิ้นนั้นนอกจกาจะปล่อยสายฟ้าใส่ศัตรูได้แล้ว มันก็ยังปล่อยสายฟ้าคืนสู่เจ้าของด้วยรึเปล่าขอรับ" ซาโอริคาดคะเนตามที่เห็น "ถ้าเป็นแบบนั้นท่านอากิฮิสะจะทนได้นานแค่ไหนกันขอรับ ?"

           "อากิ..." มินามิรู้สึกเป็นห่วง

           "ย้ากกก!!!" โฟร์เซ่ใช้กระบองไฟฟ้าฟาดใส่ไนท์แมร์ เขาก็ถูกสายฟ้าจากกระบองไฟฟ้าของตัวเองสะท้อนกลับคืนมาช็อตตัวเอง "ระ..ร่างกาย..มันชะ..ชาไปหมดแล้ว..." โฟร์เซ่ถอยมาพิงกำแพง "ขะ..ขยับไม่ไหวแล้ว.."

           "อากิฮิสะ ไม่เป็นไรนะ!?" เดนโอใช้พาสแตะที่ไดร์เวอร์ของตัวเอง


    FULL CHARGE

           หอกของเดนโอเรืองแสงสีฟ้าขึ้น มาสค์ไรเดอร์ก็ใช้หอกหมุนควงโจมตีไนท์แมร์สเกเลตันที่อยู่โดยรอบตัวเขาลงไปทั้งหมด แล้วก็ขว้างหอกใส่ยูนิคอร์นเกิดเป็นตัวผนึกการเคลื่อนไหวของมันไว้ เขาจึงกระโดดเตะใส่มัน "ฮ่าส์ส์!!!"

           ตึง!!  ไนท์แมร์ถูกท่าเตะเข้าไป มันล้มลงแล้วระเบิดไป

    ตู้มม!!!!

           "แฮ่ก..แฮ่ก..แฮ่ก.." โฟร์เซ่คืนร่างกลับเป็นร่างมนุษย์ อากิฮิสะล้มลงถอนหายใจแบบคนที่เหนื่อยมากๆ เขาหยิบสวิทซ์สีทองนี้ขึ้นมา "เจ้านี่..เหมือนกับว่ามันต้องการจะกลืนกินตัวเราเลย...มัน..น่ากลัว..กว่าที่คิดไว้จริงๆ.."

           "อากิ เป็นอะไรรึเปล่า" มินามิถามอาการของอากิฮิสะ เพราะเธอก็รู้สึกเป็นห่วงเขาไม่น้อย "ใช้สวิทซ์นั้นแล้วดูเหมือนว่านายจะไม่มีแรงเลยนะ.."

           "เจ้าสวิทซ์นี่ มันอันตรายสุดๆไปเลยล่ะ!" อากิฮิสะรู้สึกหวั่นเกรงในพลังของอิเล็คทริคขึ้นมา

           "แต่ถึงยังไงก็จัดการไนท์แมร์ไปได้แล้วล่ะนะ แต่ว่าเท่าที่จำได้หากว่าพวกเราไม่ทำลายตราสัญลักษณ์ของคนที่ถูกประทับตรานั่นลงไปซะก่อน ไนท์แมร์ก็จะยังไม่ถูกกำจัดไปสินะ ?" เคียวสุเกะถาม

           "ใช่" มินามิตอบ "แต่ว่าตอนนี้....เราไม่รู้ว่าใครเป็นคนถูกทำตราประทับน่ะสิ"

           "เป็นใครกันนะขอรับ...คนที่ถูกลงตราประทับนั่นน่ะ!?" ซาโอริทำท่าทางสงสัย ซึ่งไม่ใช่แค่เธอแต่ตอนนี้ก็เป็นทุกคนที่อยู่ ณ ที่นี่ต่างก็ไม่ทราบว่าคนผู้นั้นเป็นใคร...


    หลังอาคารเรียนเก่า  เวลา 09.04 น.

           โอโคอุจิหนึ่งในสามผู้ที่แกล้งอาซึมามิยะ เขาโดดเรียนมาสูบบุหรี่อยู่ที่หลังอาคารเรียนเก่า เพราะที่โรงเรียนนี้ค่อนข้างที่จะเข็มงวดเรื่องสารเสพติดที่ไม่ดีต่อเยาวชน แต่ก็ยังมีนักเรียนบางกลุ่มที่สามารถนำของพวกนี้เข้าโรงเรียนได้โดยที่ไม่มีใครจับผิดได้ ส่วนสถานที่ที่ไว้ใช้สูบนั้นก็ต้องเป็นที่ที่ไม่มีใครเดินเผ่นผ่านอย่างที่นี่ถึงจะเหมาะสมที่สุด

           "โอโคอุจิ ทำไมไม่เข้าเรียนล่ะ...นี้มันได้เวลาเรียนมานานแล้วนะ.." อาสึมามิยะเดินเข้าทักทาย
    โอโคอุจิในสภาพชุดเคนโด้พร้อมกับดาบไม้สองเล่ม "..สูบบุหรี่แบบนี้ก็ยิ่งผิดกฏของโรงเรียนเข้าไปใหญ่เลยน้า.."

           "อาซึมามิยะงั้นเรอะ..แล้วยังไงล่ะ ถึงจะบอกอาจารย์ไปฉันก็วิธีที่จะซ่อนของๆฉัน ไม่มีใครที่หาเจอได้หรอก!" โอโคอุจิพูดอย่างมั่นใจ

           "อย่างงั้นเหรอ...แล้วนี่มันคืออะไรกันนะ.." อาซึมามิยะหยิบซองบุหรี่แบบเดียวกันกับของโอโคอุจิ และยังมีรอยแกะแล้วด้วย "ฉันพบมันอยู่ในโรงฝึกเคนโด้ตรงจุดที่ลึกที่สุด นายน่ะซ่อนได้ดีมาก...แต่ว่ามันก็ไม่คณามือฉันเลยสักนิด!"

           "นี่แกต้องการอะไร..หรือว่าคิดจะแก้แค้น..ฮ่าๆๆๆโอโคอุจิหัวเราะเยาะอาซึมามิยะ "น่าหัวเราะ อย่างแกคิดว่าจะมีน้ำยามาเอาชนะฉันได้อย่างงั้นเรอะ ฝันหวานไปห่อยแล้วนะ ฮ่าๆๆๆ!"

           "หัวเราะไปก่อนเถอะ เพราะว่าคนที่หัวเราะทีหลังน่ะมันจะดังกว่าเสมออยู่แล้ว!" อาซึมามิยะย้อนดาบไม้ให้กับ
    โอโคอุจิซึ่งเขาก็รับไว้ "มาสู้ตัดสินกันเลย ขอเอาคืนเมื่อตอนเช้าล่ะนะ!"

           "อย่าคิดว่าตัวเองจะมาเทียบชั้นกับข้าได้สิ แกมันยังเก่งไม่ได้ถึงครึ่งเลย!!" โอโคอุจิพุ่งเข้าใส่อาซึมามิยะแล้วใช้ดาบฟันโจมตีใส่เขา แต่คราวนี้กับมีสิ่งที่เปลี่ยนไปคือโอโคอุจิเป็นฝ่ายรุก ส่วนอาซึมามิยะเอาแต่หลบหลีกซึ่งผิดจากการต่อสู้แบบตัวเขา "เป็นอะไรไป ไม่คิดจะบุกเหมือนเมื่อเช้าแล้วรึไง!?"

           "นายเป็นคนสอนฉันเอง ว่าจะต้องไม่บุกจน...!!" อาซึมามิยะใช้การโจมตีเพียงชั่วพริบตา ตีใส่แขนของ
    โอโคอุจิจนทำให้ดาบของเขาหลุดออกจากมือ "นายน่ะแพ้แล้วล่ะ ไอ้กระจอก!!" เขาฟาดหัวของโอโคอุจิจนร่วงลงไป "เสร็จไปหนึ่ง.."

           อาซึมามิยะกำลังจะเดินหันหลังกลับ โอโคอุจิก็ลุกขึ้นมาแล้วคิดจะต่อยเขาจากด้านหลังแต่อาซึมามิยะรู้ทัน เขาหันกลับมาและใช้ดาบไม้ตีหน้าของโอโคอุจิ ตามด้วยที่ขาข้างซ้ายและข้างขวาทำให้เขาต้องเปลี่ยนเป้นนั่งคุกเข่า ชายหนุ่มผู้ทำสัญญากับไนท์แมร์เงื้อมดาบขึ้นแล้วฟาดลงใส่หัวของเขาจนคราวนี้แน่นิ่งลงไปจริงๆ "อย่าคิดว่าจะมาชนะฉันได้ล่ะ.."

           ชายหนุ่มกำลังเดินออกจากอาคารเรียนเก่าแห่งนี้แต่ก่อนหน้านั้น เขาก็รู้สึกถึงบางอย่างกำลังจ้องมองมาที่เขา พอเขาหันกลับไปบนหน้าต่างชั้นบนสุดของอาคารเรียนเก่านั้น ก็ไม่พบความผิดปกติใดๆหรือสิ่งมีชีวิตอะไรเขาจึงเดินออกไปจากที่แห่งนี้ โดยที่เขาไม่รู้เลยว่า...จริงๆแล้วข้างบนนั้นมีคนผู้หนึ่ง...ที่แอบจ้องมองเขาอยู่จริงๆ...


    ถนนทางเดินระหว่างที่จะไปยังโรงฝึกเคนโด้  เวลา 12.17 น.

           ซาเอกิและฮิมูโระที่กำลังเดินไปที่โรงฝึกเคนโด้พวกเขาทั้งสองก็ต้องมาเจอกับอาซึมามิยะที่มาดักรอพวกเขาไว้พร้อมแล้ว ซึ่งทั้งสองยังไม่รู้ว่าอาซึมามิยะตอนนี้แข็งแกร่งระดับที่พวกเขาไม่อาจจะสู้ได้ "ไงเ จ้าไก่อ่อนยังไม่กลับไปร้องไห้หาแม่อีกเรอะ ฮ่าๆๆๆ!!"

           "หัวเราะกันเข้าไป...หัวเราะให้พอใจกันไปเถอะ...ก่อนที่พวกแกทั้งสองคนจะไม่มีโอกาสได้หัวเราะอีก!!" แววตาของอาซึมามิยะที่เต็มไปด้วยความแค้น ลัักษณะของเขาในตอนนี้เปรียบเสมือนปิศาจเข้าไปทุกที 

           "เดี๋ยวฉันจัดการเอง ฮิมูโระนายดูอยู่เฉยๆเถอะ!" ซาเอกิอาสาที่จะสู้กับอาซึมามิยะเอง เข้ารับดาบที่ชายหนุ่มโยนมาให้แล้วตั้งท่าพร้อมที่จะสู้ "ไก่อ่อนอย่างนายฉันจะต่อให้เป็นกรณีพิเศษ โดยที่ฉันนี่ล่ะจะไม่ใช้มือซ้ายดายเลบตกลงมั้ย ?"

           "จะทำอะไรก็เรื่องของแก เพราะไม่ว่าจะยังไงผู้ชนะก็ต้องเป็นฉันอย่างแน่นอน!!" อาซึมามิยะกล่าว แล้วเขาก็พุ่งเข้าโจมตีใส่ซาเอกิที่ใช้มือเดียวจับดาบแล้วป้องกันเขาไว้ แต่ว่าแรงของอาซึมามิยะที่มากขึ้น มือเดียวของซาเอกิจึงไม่อาจต้านไหว ตึงเปลี่ยนไปเป็นสองมือแต่ก็ไม่อาจต้านแรงของเขาไว้ได้ "ในบอกว่าจะไม่ใช่สองมือไงล่ะ...ไม่รักษาคำพูดนี่น่า!"

           "จะ..เจ้าบ้านี่!!" ซาเอกิฉุนขาดแล้วเขาก็ฟาดดาบลงใส่อาซึมามิยะ แต่ก็ถูกตีสวนกลับจนทำให้เขาสลบลงไปเอง

           "ต่อไปก็เหลือแค่นายแล้วล่ะนะ...ฮิมูโระ" อาซึมามิยะมองไปที่ฮิมูโระด้วยสายตาที่แค้นเคือง ทำเอาฮิมูโระถึงกับวิ่งหนีไปทันที "ไม่ยอมให้หนีหรอก!!" เขาปล่อยไนท์แมร์ยูนิคอร์นออกมาจากร่างของเขาแล้วให้มันไล่ตามเขาไป

           "ชะ..ช่วยด้วย..ช่วยฉันด้วย!!" ฮิมูโระหนีอย่างสุดชีวิต เขาวิ่งอย่างที่ไม่ลืมหูตา พยายามหนีไนท์แมร์ที่กำลังไล่ตามเขาอย่างสุดชีวิต
    ในตอนนั้นยูทาโร่บังเอิญเดินผ่านมาพอดี เขาจึงไปขอความช่วยเหลือจาดเขา "ขอร่องล่ะ ช่วยฉันที เจ้านั้นมันตามมาแล้ว!"

           "เจ้านั้น ?" ยูทาโร่มองไปที่ตัวประหลาดที่กำลังไล่ตามชายคนนี้ก็รู้ทันทีว่านั่นคือไนท์แมร์ "อย่างงั้นเรอะ ไนท์แมร์กำลังไล่ตามนายอยู่สินะ หลบไปก่อนสิเดี๋ยวตรงนี้จัดการให้"

           "เดี๋ยวสินายจะจัดการมันยังไง ?" ฮิมูโระถาม เขาสังเกตเห็นว่าคนที่เขาเพิ่งมาขอความช่วยเหลือนั้นท่าทางแปลกๆ ดูเหมือนกับว่ารู้เรื่องประหลาดแบบนี้มาตั้งนานแล้ว "นายเป็นใคร ?"


    DRIVER ON

           "ฉันจะจัดการยังไงขอให้นายน่ะอย่าไปสนใจเลย ส่วนเรื่องที่ฉันเป็นใครก็คงต้องตอบว่า..จอมเวทย์ยังไงล่ะ!"  เขาใช้แหวนวงสีแดงทาบที่ไดร์เวอร์รูปมือของเขา "แปลงร่าง!!"

    HURRICANE

           วงเวทลมสีเขียวปรากฏออกมาแล้วค่อยๆเคลื่อนตัวผ่านร่างของยูทาโร่ เปลี่ยนร่างเขากลายเป็นมาสค์ไรเดอร์จอมเวทแห่งสายลม มาสค์ไรเดอร์วิซาร์ดเฮอร์ริเคนสไตล์ "เอาล่ัะ โชว์ไทม์!"

           "น่ะ...นี่นายเป็นตัวประหลาดอย่างงั้นเรอะ ?" ฮิมูโระถอยห่างจากยูทาโร่

           "เป็นจอมเวทย์ผู้ผดุงความยุติธรรมต่างหากเล่า ถ้ายังไม่อยากโดนมันทำร้ายล่ะก็ ก็หนีไปซะหรือไม่ก็ไปหาที่ซ่อนซะเถอะนี่เป็นคำเตือนนะ!" วิซาร์ดพูดเสร็จก็ใช้พลังลมหมุนบินสู้กับไนท์แมร์ยูนิคอร์น

           ฮิมูโระวิ่งมาหลบอยู่หลังก้อนหิน "เจ้าพวกนี้มันบ้าอะไรน่ะ!?"


    CONNECT

           วิซาร์ดสร้างวงเวทย์สีเขียวขึ้นมาแล้วเขาก็ล้วงมือเข้าไปในนั้นแล้วหยิบปืนวิซาร์ดซอร์ดกันออกมา "เอาไปกินซะ!!" เขาหมุนตัวยิงกระสุนเวทใส่ไนท์แมร์ แล้วตามด้วยเปลี่ยนโหมดเป็นดาบเข้าฟันโจมตีใส่มัน "ฮ่าส์!!"

           อากิฮิสะ,เคียวสุเกะ,มินามิและซาโอริมาพบสถานการณ์นี้พอดี "ทาคากิกำลังสู้อยู่งั้นเรอะ งั้นฉันก็ขอรวมด้วยเซ่!!" อากิฮิสะสวมไดร์เวอร์กดสวิทซ์ทั้งสี่แล้วสับคันโยกที่ไดร์เวอร์ ชูมือขึ้นฟ้าเพื่อรับพลังคอสมิคจากอวกาศ"แปลงร่าง!!"


    FOURZE

           โฟร์เซ่ใช้ไอพ่นบินพุ่งเข้าไปเตะใส่ไนท์แมร์ "อวกาศมาแล้ว!!!"

           "ถ้าฉันขอร่วมวงด้วยคงไม่ว่ากันสินะ" อากิฮิสะพูดกับยูทาโร่ เขาไม่ตอบอะไรแค่พยักหน้า "มาสค์ไรเดอร์โฟร์เซ่มาต่อสู้กันแบบตัวต่อตัวกันเลย!!"

           "เจ้าพวกนี้มันเป็นตัวอะไรกันแน่!?" ฮิมูโระยังคงงงกับเรื่องประหลาดที่เกิดขึ้นตรงหน้าเขา "มาสค์ไรเดอร์ ?"
     
           "ฮ้ากกก!!/ย้ากกก!!" โฟร์เซ่และวิซาร์ดช่วยกันโจมตีใส่ไนท์แมร์ยูนิคอร์นพร้อมกัน พวกเขาเป็นฝ่ายได้เปรียบทั้งเรื่องฝีมือและจำนวนจนตอนนี้ไนท์แมร์กำลังจะเป็นฝ่ายแพ้

           "แบบนี้ก็หมดสนุกน่ะสิ!!" ชายเกราะดำที่อยู่บนหอนาฬิกาเห็นว่าไนท์แมร์ฝ่ายตัวเองกำลังแย่มันจึงหายตัวปรากฏออกมารับการโจมตีของโฟร์เซ่และวิซาร์ดไว้ 

           "อะไรน่ะ!?" ทั้งโฟร์เซ่และวิซาร์ดต้องตกใจกับการปรากฏตัวแบบฉับพลันของชายเกราะสีดำผู้นี้ พวกเขาทั้งสองถูกมันเหวี่ยงออกไปทั้งคู่วิซาร์ดใช้สายลมประคองร่างของตัวเองลงมา ส่วนโฟร์เซ่ใช้ไอพ่นบินลงมา "นายเป็นใคร!?"       
           "กลับไปหาร่างต้นก่อนไป!" ชายเกราะดำพูดกับไนท์แมร์ยูนิคอร์นแล้วมันก็ทำตามกระโดดหายไปทันที ส่วนชายเกราะดำก็หันมาหามาสค์ไรเดอร์ทั้งสองที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขา "ยินดีที่ได้รู้จัก พวกแกคือมาสค์ไรเดอร์ที่ว่าสินะ...ร้ากยาจกว่าที่คิดจริงๆ"

           วิซาร์ดยิงกระสุนปืนใส่มัน "นายเป็นใคร!?"

           มันใช้เกราะเหล็กป้องกันกระสุนไว้ "เวลาถามมันต้องโจมตีใส่ด้วยเรอะ เป็นมารยาทที่ไม่ได้เรื่องเลยนะ.." มันพูด "ข้ามีชื่อว่าอิเครอส เป็นหนึ่งในสี่จตุรเทพแห่งความฝัน โดยที่ข้านั้นคอยดูแลส่วนของฝันร้าย และตอนนี้พวกเจ้าทั้งสองก็กำลังจะได้พบกับฝันร้ายของจริงแล้ว!"

           "ถ้าทำได้ก็ลองดูสิ!!" วิซาร์ดเปลี่ยนไปสวมแหวนสีแดงแล้วใช้ทาบที่ไดร์เวอร์


    FLAME

           "ฮ่าส์!!" วิซาร์ดกระโดดผ่านวงเวทย์สีแดงแห่งเปลวไฟเปลี่ยนร่างเป้นเฟลมสไตล์ แล้วเข้าไปใช้ดาบฟันโจมตีใส่อิเครอส แต่ก็ถูกมันปล่อยคลื่นพลังสีดำออกมา มาสค์ไรเดอร์กระโดดตีลังกาหลบมาข้างหลังมันแล้วยิงปืนใส่มัน อิเครอสรับกระสุนปืนนั้นไว้แล้วบีบทิ้งลงอย่างง่ายดาย

           "อย่าเพิ่งลืมฉันไปเซ่!!" มาสค์ไรเดอร์โฟร์เซ่กระโดดเข้ามาเตะอิเครอสจากด้านหลัง แต่ก็ไม่สามารถทำให้มันสะเทือนได้เลยสักนิด "โธ่เว้ย เกราะจะแข็งไปไหนกันนะ!?"

           "มาสค์ไรเดอร์มีฝีมือกันแค่นี้รึ น่าผิดหวังจริงๆ!" อิเครอสระเบิดพลังผลักมาสค์ไรเดอร์ทั้งสองกระเด็นออกมา วิซาร์ดจึงใช้แหวนทาบที่ปืน ส่วนโฟร์เซ่กดใช้สวิทซ์สองปุ่มพร้อมกัน


    RADAR ON

    LAUNCHER ON     SHOOTING STRIKE

           "ฮ้ากกก!!" โฟร์เซ่ยิงจรวดมิซไซล์ วิซาร์ดยิงกระสุนไฟ ทั้งสองโจมตีใส่อิเครอสพร้อมกัน

           "กระจอกน่า!!" อิเครอสสร้างประตูมิติลึกลับบางอย่างขึ้นมา พอกระสุนไฟและจรวดมิซไซล์ยิงเข้ามาก็หายเข้าไปในประตูมิตินั้น แล้วมันก็ปรากฏขึ้นมาบนท้องฟ้าข้างบนหัวของอิเครอสพร้อมกับปล่อยการโจมตีทั้งหมดคืนกลับไปหาวิซาร์ดและโฟร์เซ่

           มาสค์ไรเดอร์ทั้งสองถูกจรวดมิซไซล์และกระสุนไฟของตัวเองเข้าไปทั้งคู่ "อ้ากกกก!!!"



    .................... TO BE CONTINUE ....................
     





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×