ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    P:FMR NW

    ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 7 ค้างคาว

    • อัปเดตล่าสุด 17 ต.ค. 56


    เอเรีย 1  โกดังร้างนอกเขตตัวเมือง  เวลา  16.07 น.

           ณ โกดังร้างแห่งหนึ่งนอกเขตตัวเมืองของเอเรีย 1 ได้มีการต่อสู้กันระหว่างชายสองคนที่กำลังหนีการตามล่าของสัตว์ประหลาดที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับกิ้งก่าคาเมเลี่ยน หรือที่เรียกกันอีกชื่อนึงว่า ลอสท์ ด้วยพลังที่ต่างกันของมนุษย์และสัตว์ประหลาดนั้นทำให้นักวิทยาศาสตร์จำต้องเปิดรหัสกระเป๋าเอาของบางสิ่งมามอบให้กับเด็กหนุ่มอีกคน
           
    "โยชิอิ อากิฮิสะ เนื่องจากนี่เป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน ฉันจึงจะยอมให้นายใช้สิ่งนี้สู้กับมันได้!"

            "นี่พี่ชายไม่ใช่คนธรรมดาๆจริงสินะ กะแล้วเชียว!" อากิฮิสะรับของสิ่งนั้นมาอย่างมั่นใจ "วางใจเถอะ ผมจะจัดการเจ้านั่นเอง!"

         ตอนนั้นเองลอสท์คาเมเลี่ยนก็ตามเข้ามาในโกดังร้างพอดี
           "ปล่อยให้ตามซะนานเลยนะ แต่ว่าที่นี่จะเป็นที่ตายของแก...อุทาโฮชิ เคนโก แล้วก็เจ้าเด็กบ้านี่ด้วย!"


           "ฮะฮ้า คงจะไม่ได้หรอกนะ เพราะตอนนี้ฉันได้พลังที่จะเอาไว้จัดการนายมาอยู่ในมือแล้วไงล่ะ!" อากิฮิสะเดินเข้าไปพร้อมกับอุปกรณ์ในมือที่ได้มาจากเคนโก

           "หรือว่า...อุปกรณ์ที่มาจาก COSMIC ENERGY!" คาเมเลี่ยนเริ่มรู้สึกหวาดกลัวกับพลังที่เด็กหนุ่มผู้นี้ถือครองอยู่

           "อ้าวเรอะ...แล้วไม่รีบบอก!" ชายหนุ่มสวมเข็มขัดนั้น "เอาล่ะ!!"
           "ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงนี่!?"
     
           "กดสวิทซ์ที่ไดร์เวอร์ด้วยสิ!" เคนโกตะโกนบอก

           "อ้อเรอะ!" อากิฮิสะกดสวิทซ์ทั้งสี่ลงไป จากนั้นก็มีเสียงนับถอยหลังจากเข็มขัดดังขึ้น


    THREE

    TWO

    ONE


          "ก็ไม่เห็นมีอะไรออกมาเลยนะ เครื่องเสียรึเปล่า" อากิฮิสะหันกลับไปถามเคนโก
          "สับคันโยกที่ไดร์เวอร์ซะ แล้วก็ชูมือขึ้นฟ้า จากนั้นก็ตะโกนออกมาว่า แปลงร่าง เข้าใจมั้ย!?" เคนโกบอกทุกขั้นตอนที่เหลืออยู่ด้วยความเ็ซ็ง

          "อะ อา!" ชายหนุ่มสับคันโยกที่ไดร์เวอร์และชูมือขึ้นฟ้าพร้อมกับตะโกนออกมา "แปลงร่าง!!"
          ทันใดนั้นแสงประหลาดซึ่งเป็นพลังงานคอสมิคจากอวกาศ ถูกส่งตรงมาที่ร่างของเขา ทำให้ร่างกายของเขาเปลี่ยนไปในทันที


           ในระหว่างที่พวกเขาทั้งสองและสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งนั้นกำลังจะเข้าต่อสู้กัน ก็มีเงาของบุคคลหนึ่งที่แอบจ้องมองการต่อสู้ในครั้งนี้ "จะเริ่มแล้วสินะ"
           เพียงแต่ไม่มีใครรู้สึกถึงเขา

           
    "อวกาศมาแล้ว!!!" อากิฮิสะตะโกนดังลั่นไปทั้งโกดัง

           "กดใช้สวิทซ์ที่ไดร์เวอร์ซะสิ" เคนโกแนะนำ
           
           "บะ..แบบนี้เรอะ ?" อากิฮิสะกดใช้งานสวิทซ์สีส้มที่อยู่ทางขวาสุด


    ROCKET ON


           เมื่อกดใช้สวิทซ์ก็มีเสียงใช้งานทันที อนุภาคสีส้มได้ออกมาจากแขนขวาของโฟร์เซ่ สิ่งนั้นคือจรวดขนาดใหญ่
          "ว้าว..ท่าทางดูเจ๋ง...ดีแฮ~~~ะ!!" เมื่อใช้งานไอพ่นที่จรวดก็ทำงานทันที มันรุนแรงมากจนโฟร์เซ่พุ่งเข้าไปหาคาเมเลี่ยน

          หมัดจรวดต่อยเข้ากลางอกของลอสท์และนำพาทั้งคู่ลอยขึ้นไปบนฟ้าและพากลับลงมาที่พื้น


    ตูมม!!!

           "จะแรงไปแล้ว!" โฟร์เซ่รีบดึงสวิทซ์กลับเพื่อปิดการใช้งาน "ไหนๆ ขอลองอันต่อไปดูซิ!"
           เขากดใช้งานสวิทซ์อันต่อมาที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมสีน้ำเงิน "อะไรจะออกมานะ!"


    LAUNCHER ON

           เครื่องยิงจรวดปรากฏออกมาที่ขาขวาขิองโฟร์เซ่ "ว้าว เจ๋งดีแฮะ"
           "ยิงได้!!" อากิอฺสะกระทืบเท้าลงครั้งนึง มิซไซล์ห้าลูกก็ถูกปล่อยออกมา แต่ทั้งห้าลูกกลับยิงไม่โดนคาเมเลี่ยนที่เป็นเป้าหมายเลยสักลูก แต่กลับไประเบิดโกดังอย่างบ้าคลั่ง

           "ใช้สวิทซ์ที่อยู่ซ้ายสุดล็อคเป้าหมายมันไว้ก่อนสิ คิดจะทำลายโกดังรึไง!?" เคนโกตะโกนบอก

           "สวิทซ์ซ้ายสุด...นี่น่ะเหรอ ?" โฟร์เซ่กดสวิทซ์รูปสี่เหลี่ยมสีดำลงไป

    RADAR ON

           เมื่อกดใช้เรดาห์ก็ปรากฏออกมาที่แขนซ้ายของโฟร์เซ่
           "เอาล่ะ เท่านี้ก็ยิงโดนแล้ว!" เขาล็อคเป้าหมายไว้ที่ลอสท์กิ้งก่าตรงหน้า "ยิงได้!"

           มิซไซล์ทั้งห้าถูกปล่อยออกไปอีกครั้ง และคราวนี้มันพุ่งตรงเข้าระเบิดใส่คาเมเลี่ยนทุกลูก


    ตู้มม!!

           "ฮะฮ่า โดนแล้ว!!" อากิฮิสะดีใจกับการโจมตีที่เป็นผล
           "เจ้าบ้า อย่ามองทางอื่นสิ!" เคนโกตะโกนเตือน แต่ว่าไม่ทันเมื่อคาเมเลี่ยนหายตัวเข้ามาโจมตีโฟร์เซ่แบบไม่ทันตั้งตัว และขว้างกระเด็นชนกับลังไม้
           "อ้ากกก!!"

           "โยชิอิ อากิฮิสะ!!" เคนโกจะวิ่งเข้าไปช่วยโฟร์เซ่ แต่เขาก็ถูกคาเมเลี่ยนเล่นงานจนสลบไป


           "ถ้าแกอยากจะช่วยเจ้านี้มากล่ะก็ ให้มาที่ฟูโตะทาวเวอร์และพวกเราก็มาแลกของสิ่งนั้นกับเจ้าคนๆนี้กัน ข้าจะรออยู่ที่นั่น!" คาเมเลี่ยนแบกเคนโกกระโดดหายไป

           "เดี๋ยวเซ่!!" โฟร์เซ่จะตามไปแต่ว่าก็ไม่ทันเสียแล้ว...
           "โธ่เว้ย!" อากิฮิสะปัดสวิทซ์ทั้งหมดขึ้น นั่นทำให้เขากลับคืนร่างเป็นมนุษย์ตามเดิม "แบบนี้...ก็คงต้องไปเท่านั้น!"
           ชายผู้นั้นวิ่งออกไปจากโกดังแห่งนี้ทันที โดยที่ไม่ได้สังเกตความเสียหายที่ก่อไว้


           เมื่อไร้ซึ่งผู้คนแล้ว บุคคลปริศนาที่แอบอยู่ตลอดการต่อสู้ก็ออกมาตรวจดูความเสียหายที่เกิดขึ้น
           "เละเทะไปหมดจริงๆนะเนี่ย" พื้นที่รอบข้างนั้นถูกผลจากจรวดมิซไซล์ของโฟร์เซ่ทำลายจนเละเทะไปหมด ที่พื้นก็มีหลุมที่เกิดจากแรงกระแทกของหมัดจรวด ของโดยรอบกระจัดกระจาย
           "เอาเถอะ ยังไงที่นี่ก็แทบไม่มีใครใช้อยู่แล้วนี่นะ"

           "ยกมือขึ้น!" เสียงของชายคนหนึ่งดังมาจากด้านหลังของเด็กหนุ่ม พร้อมกับเสียงจ่อปืนตรงมาที่เขา
           "นี่เธอมาทำอะไรที่นี่ แล้วทำไม..." ตำรวจมองไปรอบๆสภาพของโกดังที่พังเละ "...ทำไมที่นี่ถึงเป็นแบบนี้ เป็นเพราะเธองั้นเรอะ หันกลับมาตอบเดี๋ยวนี้!"

           "ดะ...เดี๋ยวสิครับ" เขารีบหันหน้ากัลบไปหาตำรวจ "ผมแค่บังเอิญได้ยินเสียงระเบิดก็เลยเข้ามาดูเท่านั้น แต่พอผมเข้ามาก็ไม่มีใครอยู่แล้วน่ะครับ!" ชายหนุ่มรีบตอบแถๆไป
           "เชื่อผมเถอะคร้าบบบ ผมไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะ"

           "ฉันได้รับรายงานมาว่าที่นี่เกิดระเบิดขึ้นเช่นกัน เลยคิดว่าอาจจะเป็นฝีมือของผู้ก่อการร้ายที่ปรากฏขึ้นในช่วงนี้ก็ได้ ยังไงซะฉันก็คงต้องขอพาตัวเธอไปสอบปากคำที่โรงพักก่อน" ตำรวจเดินเข้ามาใกล้เด็กหนุ่ม "หันหลังไป!"

           "ครับๆ" เขาจำต้องทำตามหันหลังไปตามที่ตำรวจนายนี้สั่งและยังถูกใส่กุญแจมืออีกด้วย

           "จะว่าไปเธอชื่ออะไรน่ะ ?" นายตำรวจถาม

           "ผมชื่อฮิรากะ ไซโตะ" ชายหนุ่มบอก แต่เขาก็สังเกตความผิดปกติได้ "เดี๋ยวครับคุณตำรวจ ทำไมต้องถามชื่อผมด้วย ?" พอด็กหนุ่มหันหน้าย้อนกลับไปก็พบว่านายตำรวจคนนี้ได้กลายร่างไปเป็นสัตว์ประหลาดร่างม้าแล้ว
           "เฮ้ยย!!!" ไซโตะรีบถอยห่าง หลบการโจมตีของมันได้อย่างฉิวเฉียด

           "ที่ให้เจ้าบอกชื่อก็เพื่อที่จะจำชื่อของคนที่ข้าฆ่าไว้ยังไงล่ะ!" ลอสท์ฮอร์ส(ม้า) ชักดาบออกมาเพื่อที่จะไล่สังหารไซโตะโดยเฉพาะ "ข้าจะฆ่าเจ้าเพื่อปิดบังความลับของพวกเรา ลอสท์ ยังไงล่ะ!" มันเข้าไปและฟาดดาบลงใส่เขา ไซโตะรีบหมุนตัวกลับและยื่นกุญแจมือที่ล็อคเข้าอยู่ให้กับฮอร์สทำให้มันฟาดไปฟันโซ่กุญแจมือขาดแทน

           "ขอบใจนะ พี่ม้า" ฮิรากะ ไซโตะรีบใส่เกียร์หมาวิ่งหนีฮอร์สทันที "แล้วอย่าเจอกันใหม่น้า!!"

           "อย่าคิดเลยว่าจะหนีข้าพ้น!" ด้วยความสามารถของม้า ทำให้ฮอร์สที่ต้นแบบพลังมาจากสัตว์ชนิดนี้จำต้องวิ่งเร็วเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ไม่นานนักมันก็สามารถไล่ตามเด็กหนุ่มทันได้อย่างรวดเร็ว
    "ฮ่าสส์!" มันใช้มือตะปปไซโตะ เด็กหนุ่มสไลด์ตัวผ่านช่องไม้ด่านล่างหลบฮอร์สไปได้

           "ไม่ยอมให้จับได้หรอกน่า!" ไซโตะลุกขึ้นและรีบวิ่งไปต่อทันที

           "แกนะแก" ฮอร์สกระโดดข้ามลังไม้ไล่ตามไซโตะไปอีก และยังวิ่งตามเข้าไปใกล้เขาเรื่อยๆ

           "ทำไงดี ทำไงดี!?" ไซโตะพยายามคิดหาทางเอาตัวรอด ตอนนั้นเองก็มีรถที่พวกอากิฮิสะเช่าทำการขับอัตโนมัติมาทางนี้ "เฮ้ย ไหงงี้เล่า!" 
           "เป็นไงเป็นกัน" ชายหนุ่มกระโดดไต่ขึ้นรถและกระโดดข้ามรถขับอัตโนมัติไป "แบบนี้น่าจะถ่วงเวลาได้"

           "เกะกะน่า!" ฮอร์สใช้พลังดาบตัดระเบิดรถได้อย่างง่ายดาย
           "ขอถอนคำพูด" ไซโตะรีบลุกขึ้นและวิ่งไปที่รถเครน เขาขึ้นไปรถคันนั้น "ยังมีกุญแจอยู่ ดีล่ะ!" ชายหนุ่มจับพวงมาลัย ใช้เท้าเหยียบคันเร่ง ขับรถชนกับฮอร์สจนมันกระเด็นไปประตูโกดัง
           "เป็นไงเล่า!"

           "เจ้าเด็กบ้า!" ฮอร์สคำราม ปล่อยพลังจากดาบโจมตีใส่เด็กหนุ่มบนรถเครน


    ตู้มมม!!!

           "อ้ากกก!!"  รถเครนโดนพลังนั้นเข้าไปก็ระเบิด ส่วนไซโตะกระเด็นออกมาจากรถเข้ามากระแทกกับกระโปรงรถอีกคัน "เจ็บชะมัด..." เด็กหนุ่มกลิ้งลงที่พื้น เขามองไปที่สัตว์ประหลาดร่างม้าที่กำลังจะเดินเข้ามาปลิดชีวิตเขาในอีกไม่ช้า

           "โธ่เว้ย ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ดีแน่" ไซโตะใช้มือสองข้างยันพื้นไว้เพื่อที่จะลุกขึ้นอีกครั้ง "เจ้านั่นหายไปไหนนะ"
           "ดิ้นรนไปก็เท่านั้น เตรียมตัวตายซะเถอะ!" ฮอร์สเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ

           "คู่หู ฉันมาแล้ว ขอโทษที่ให้รอนาน!!" เสียงของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น 
    ไซโตะแอบยิ้มที่มุมปาก
           ฮอร์สประหลาดใจและมองไปรอบๆแต่ก็ไม่พบใคร "นั่นมันเสียงใครกัน!?"
     
           "กว่าจะมาได้นะเจ้าบ้า จะให้ฉันโดนมันเล่นงานจนปางตายก่อนรึไง" ไซโตะตะคอกขึ้นไปข้างบน
         
           "เอาน่าๆ ยังไงซะมาช้าก็ยังดีกว่าไม่มาใช่มั้ยล่ะ!" เสียงนั้นเริ่มเข้ามาใกล้เรื่อย ฮอร์สมองขึ้นไปตามไซโตะก็เห็นค้างคาวเหล็กตัวนึงกำลังบินลงมาหาไซโตะอย่างช้าๆ "อีกอย่างคู่หูก็เป็นพวกตายยากอยู่แล้วด้วย"
           "ถึงจะหนังเหนียว แต่ก็ตายเป็นนะเฟ้ย!" ไซโตะตะคอกใส่ค้างคาว

           "เจ้านั่นมันเป็นตัวอะไรกันแน่!?" ฮอร์สแปลกใจกับการที่เห็นค้างคาวเหล็กที่สามารถพูดได้นั้น

           "อ้อ เจ้านี้มันก็เป็นแค่ค้างคาวธรรมดา ที่น่ารำคาญน่ะ" ไซโตะตอบ
           "คู่หู ฉันน่ะมีค่ากว่าเจ้าพวกที่ใช้ชีวิตยามราตรีแบบนั้น เพรราะฉันเป็นถึง คิบัทรุ่นที่สาม ผู้สืบทอดพลังแห่งคิบะเชียวนะ!"

           "สำหรับฉัน ฉันคิดว่าเจ้าพวกค้างคาวพวกนั้นมันยังดูดีกว่านายเลยนะ" ไซโตะล้อ

           "เป็นพลังที่น่าสนใจจริงๆ สงสัยแบบนี้ข้าก็ควรที่จะจับเจ้านั่นไปให้ด๊อกเตอร์ตรวจสอบดูหน่อยซะแล้วสิ!" ฮอร์สพูดกับตัวเองและเดินตรงไปหาไซโตะ "เตรียมตัวตายได้แล้ว!"

           "คนที่จะโดนน่ะมันนายต่างหากเล่า!" ไซโตะชูมือขึ้นฟ้า "คิบัท!"
           "รับทราบ!" คิบัทบินไปอยู่ในมือของไซโตะ และเขาก็นำคิบัทมากัดที่ข้อมือเขาอีกข้าง


    BITE

           ทันทีที่ค้างประหลาดกัดไซโตะ ใบหน้าของชายหนุ่มก็มีรอยประหลาดปรากฏขึ้นบนใบหน้า โซ่เหล็กปรากฏออกมารัดรอบเอวของเขาและกลายสภาพเป็นเข็มขัดสวมให้เขา "คิบะ จะลุยล่ะนะ!" คิบัทตะโกน
           "แปลงร่าง!" เด็กหนุ่มนำคิบัทมาสวมที่ไดร์เวอร์

           ร่างของเขากลายร่างเป็นกระกระจก จากนั้นรูปร่างของเด็กหนุ่มก็เปลี่ยนไป และร่างกระจกนั้นก็แตกออก
           บัดนี้ร่างของเด็กธรรมดาๆตรงหน้าของฮอร์สได้เปลี่ยนไปสวมเกราะสีเลือด ดวงตาสีเหลืองของมันหยั่งกับดวงจันทรายามราตรี ทั่วตัวเต็มไปด้วยโซ่เหล็ก ที่แปรสภาพกลายเป็นเกราะเหล็กสวมที่ไหล่และข้างขวาของเขาอีกที


    KIVA


           "จะ..เจ้าบ้านี่มันอะไรกัน แกเป็นตัวอะไรกันแน่!?" ฮอร์สแผดเสียง

           "ฉันน่ะเหรอ...ก็เป็นผู้ผดุงความยุติธรรม คิบะ ยังไงล่ะ!" ไซโตะแนะนำตัวเอง
           "เอาล่ะ การต่อสู้ที่แท้จริงน่ะมันจะเริ่มจากนี้ล่ะ!" คิบะกล่าวพร้อมกับตั้งท่าพร้อมที่จะสู้กับฮอร์ส "เข้ามาเลย พี่ม้า!"

           "ผู้ผดุงความยุติธรรมงั้นเรอะ ความคิดแบบนั้นก็เป็นแค่เรื่องเพ้อฝันของเด็กน้อยเท่านั่นล่ะ บนโลกนี้มันไม่มีหรอกสิ่งที่เรียกว่าความยุติธรรมอะไรนั่น บนโลกนี้มนุษย์จะเอาแต่ชีวิตของตัวเองเป็นหลักเท่านั้น ไม่เคยคิดจะสนใจใครอื่น" ฮอร์สกล่าว

           "ไร้สาระน่า!" คิบะพูด "คนที่คิดแบบนี้น่ะก็มีแต่พวกลุงแก่อย่างลุงนั่นล่ะ"
           "อย่างเจ้ามันก็เป็นแค่เด็กที่สามารถเล่นกลได้ อย่าคิดว่าจะมาเอาชนะพลังจริงๆอย่างข้าได้ล่ะ" ลอสท์เข้าไปใกล้ตัวของคิบะและฟันดายลงใส่เขา แต่ว่าเด็กหนุ่มสามารถเคลื่อนหลบออกได้อย่างง่ายๆ

           "โทษทีนะ พอดีว่าผมน่ะมันของจริงน่ะ" คิบะใช้เข่ากระแทกเข้ากลางท้องของฮอร์สพอดี
           จากนั้นเขาก็หมุนตัวมาใช้ศอกกระแทกหน้าของฮอร์สซ้ำอีกเพื่อให้มันเสียหลัก ตามต่อด้วยใช้หมัดต่อยตรงไปที่กลางอก 

           "เร็ว!?" ฮอร์สถึงกลับไม่สามารถตั้งตัวได้ทัน
           คิบะกระโดดถอยหลังมาเล็กน้อย ตามด้วยยกเท้าขวาเตะใส่มัน "ย่าส์!!"

           "อ้ากกก!!" ฮอร์สกระเด็นไปชนกับซากรถเครนที่มันเป็นคนทำลายเอง "พะ..พลังของเจ้านี่เหนือกว่าที่คาดไว้"
           "เป็นอะไรไปเล่า จะยอมแพ้แล้วรึไง!?" ไซโตะเย้ยหยัน

           "หึ!" ลอสท์ลึกขึ้นแล้วปล่อยคลื่นพลังโจมตีใส่คิบะ เขาสามารถกลิ้งตัวหลบการโจมตีนั้นมาได้และวิ่งเข้าหามัน

           ฮอร์สพยายามล่อคิบะมาที่เทรล์เลอร์บบรทุกรถยนต์ที่อยู่ข้างๆ พร้อมกับปล่อยพลังโจมตีคิบะอยู่เนื่องๆ
           "อย่าคิดหนีเซ่ มาสู้กันแบบลูกผู้ชายหน่อย!" คิบะกระโดดไปดักด้านหน้าของฮอร์สและม้วนตัวกลับมาเตะใส่มัน จนมันถึงกับหมุนปลิวกลางอากาศ คิบะก็ซ้ำด้วยการเตะมันลงพื้น

           "ว้าาา!" ฮอร์สปล่อยพลังจากดาบอย่างบ้าคลั่ง คิบะกระโดดหลบและใช้ขาเกี่ยวกับเสาคั่นบนเทรล์เลอร์ขนรถ
           พอฮอร์สลุกขึ้นมาก็ถูกคิบะชกหน้าไปสองที ตามด้วยกระโดดลงมาอีกทางและจับคางของฮอร์สไว้ แต่ก็ถูกมันใช้ดาบฟันสวนจนต้องถอยออกมา

           ฮอร์สวิ่งขึ้นไปบนเทรล์เลอร์และผลักรถยนต์ให้ไหลลงไปชนคิบะ
           "เฮ้ย มันอันตรายนะ" คิบะกระโดดไปนอนอยู่กระโปรงรถเพื่อหลบหลีกการโดนชน แล้วรถคันนั้นก็ไหลมาชนกับรถอีกคันที่ไซโตะเคยกระแทกทำให้รถหยุดไหล เขาจึงค่อยกลิ้งตัวลงมา

           "หึๆๆ!" ฮอร์สสร้างดาบของมันขึ้นมาอีกเล่ม แล้วตามเข้าไปฟันคิบะ 
           เขากลิ้งตัวหลบมาด้านหลังแต่ก็ถูกฮอร์สที่ไหวตัวเร็วกว่ากลับมาฟันเกราะที่ไหล ฟันใส่เกราะที่ตัว และตามด้วยแทง "ตายซะ!"


    ตึง!

           "ฮะๆๆๆ...หา!?" แทนที่ดาบจะแทงทะลุคิบะไปแล้วแต่ผลว่าดาบทั้งสองเล่มถูกคิบัทกัดรับไว้ได้
           "แย่หน่อยน้า~" คิบัทพูด

           "ฮ่าส์!!" คิบะใช้มือทั้งสองข้างปัดดาบคู่ของฮอร์สออก เขาชกท้องของลอสท์อีกที จากนั้นก็ต่อยมันอย่างไม่ยั้งแล้วใช้หมัดขวาต่อยอัปเปอร์คัทจันลอยขึ้นไปบนอากาศ คิบะก็เตะซ้ำจนกระเด็นไปที่โล่ง
           "เอาล่ะๆ มาจัดการได้ซักทีล่ะ"

           "ฮะ..ฮะ..แฮ่!!" ฮอร์สฝืนลุกขึ้นมาอีกครั้ง

           "ยา......!" คิบะวิ่งไปแบบตรงๆ แล้วกระโดดเตะใส่มัน "....ย่าส์!!"
           "อึก...ว้ากก...!!" ด้วยพลังเตะที่รุนแรงของคิบะทำให้ลอสท์ฮอร์สถึงกับกระเด็นไปปลิวไปติดกับผนังกำแพง

           "ขอจัดการล่ะ" คิบะหยิบบางอย่างสีแดงที่อยู่ช่องข้างเข็มขัดขึ้นมา
           ตอนนั้นเองมีเข็มสีขาวพุ่งมาจากด้านหลังของเขา แต่ไซโตะสามารถไหวตัวได้ทันจึงหมุนกลับไปปัดเข็มเหล่านั้นออกไปได้ก่อน "ใครน่ะ!?"

           เพียงแต่ว่าเมื่อหันกลับไปก็ไม่พบใครแล้ว สวนลอสท์ฮอร์สเองก็หายไปเช่นกัน
           "หนีไปแล้วเรอะ ?" เมื่อไม่มีศัตรูให้สู้แล้ว คิบะก็ก็คืนร่างกลับเป็นไซโตะตามเดิม "โธ่เว้ย อีกนิดเดียวแท้ๆ!"

           "คู่หู นายยังอ่อนหัดอยู่นะที่ปล่อยให้ศัตรูหนีไปได้แบบนี้น่ะ" คิบัทต่อว่าไซโตะ

           "เงียบไปเลย ถ้านายมาเร็วกว่านี้ก็น่่าจะจัดการมันได้ไปนานแล้วล่ะ" ไซโตะเถียงกลับ และยังจับคิบัทมาปั่นหัวเล่น "ถ้านายช้าอีกนิดฉันอาจจะโดนฆ่าไปแล้วก็ได้รู้มั้ยหา"


           "เจ็บๆๆ พอแล้ว!" คิบัทสลัดตัวออกจากมือของไซโตะ "ขอโทษๆก็ที่นี่มันห่างจากบ้านนี่น่า จะให้มาในทันทีมันก็ไม่ได้หรอก"

           "งั้นเอางี้" ไซโตะหยิบถุงผ้าออกมา
           "ถุงผ้า เอามาทำอะไรน่ะคู่หู ?" คิบัทมองถุงผ้าด้วยความสงสัย ไซโตะยิ้มและทำการจับคิบัทยัดลงใส่ถุงผ้าและมัดปากถุงทันที "เฮ้ย คู่หูทำอะไรเนี่ย ปล่อยฉันออกไป!" 

           "เงียบไปเลย นายน่ะอยู่ในนั้นล่ะดีแล้ว จะได้เวลาที่ฉันต้องการนายจะได้หยิบมาใช้ได้ง่ายๆ" ไซโตะตะเบ่งเสียง
           "แต่ว่าในนี้มันอึดอัด!"

           "ลองคิดดีๆสิถ้านายอยู่ในนั้น ฉันจะได้ให้อาหารนายง่ายๆด้วยไงไม่คิดงั้นเรอะ เท่านี้นนายก็ไม่ต้องรอให้ฉันเอาอาหารกลับไปที่บ้านแล้วด้วย" ไซโตะพยายามล่อคิบัทด้วยข้อเสนอของเขา
           "อาหารงั้นเรอะ..." แค่ได้ยินค้างคาวเหล็กจอมตะกละก็น้ำลายไหลแล้ว "...ตกลง แต่ว่าต้องให้อาหารตามที่บอกด้วยนะ"
      
           "รู้แล้วน่า" ไซโตะตกลง "จะว่าไปยังไม่ได้ทานอะไรตั้งแต่เช้าเลยแฮะ ไปหาอะไรในเมืองทานดีกว่า"
           "เย้ คิบัทจะลุยล่ะนะ!!" คิบัทโฮ่ร้องด้วยความยินดี จากนั้นทั้งสองก็เดินตรงเข้าไปในเมือง โดยที่หารู้มั้ยว่า....ได้มีเงาดำของชายชุดสีขาวที่กำลังแอบจ้องมองเขาอยู่จากที่ที่ห่างไกล พร้อมกับลอสท์ฮอร์สที่อยู่ในสภาพที่บาดเจ็บ....


    .
    .
    .
    .


    เอเรีย 1  ใจกลางเมือง  เวลา 10.47 น.

           ย้อนกลับไปเมื่อ 6 ชั่วโมงก่อน ฮิรากะ ไซโตะ เด็กหนุ่มลึกลับผู้ได้รับพลังของคิบะ พลังเกราะปริศนา เหตุที่เขาได้รับพลังนี้มานั้นยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด เพียงแต่ว่าเขานั้นได้ใช้พลังนี้เพื่อที่จะผดุงความยุติธรรมในแบบของตัวเองอยู่เบื้องหลัง เขาเป็นคนที่รู้เรื่องของลอสท์มาเมื่อก่อนหน้านี้ แต่เราก็ยังไม่ทราบว่าเขานั้นไปรู้เรื่องนี้มาจากที่ใดกัน

           เด็กหนุ่มเดินอยู่ในเมืองตามปกติ บางทีมีการแอบมองไปยังผู้หญิงสวยๆหรือไม่ก็หน้าอกของพวกเธอ
           "เมืองนี้มันสวรรค์ชัดๆมีแต่ไซส์ใหญ่ๆทั้งนั้น ต้องขอบคุณคุณพ่อที่ส่งเรามาเมืองนี้จริงๆ" ไซโตะกำหมัดและมองขึ้นไปบนดวงตะวันที่ส่องสว่าง

           
         ไซโตะปลีกตัวออกมาจากบริเวณนั้น และมาเดินมองหาร้านอาหารไปทั่ว "วันนี้จะซื้ออะไรกลับไปบ้านให้เจ้านั่นกินดีนะ..เป้นแค่ค้างคาวคงไม่ต้องซื้ออะไรหรูๆก็ได้หรอกมั้ง..."
    พริบตาที่ชายหนุ่มเดินผ่านร้านหนังสือ ด้วยสายตาอันเฉียบคมของเขาก็ทำให้เขาสามารถมองเห็นหนังสือสมบัติเล่มใหม่ที่วางขายอยู่

          "ฮะฮ่า เล่มใหม่ออกแล้วงั้นเรอะ!" ไซโตะรีบหยิบหนังสือสมบัตินั้นขึ้นมาแล้วไปวางที่หน้าเคาน์เตอร์จ่ายเงิน "ลุงผมเอาเล่มนี้!"
     
           "เฮ้ย เจ้าหนูเด็กแค่นี้ริอาจจะมาอ่านหนังสือแบบนี้เนี่ยนะ!?" ลุงคนขายหนังสือทำหน้าโหดใส่ไซโตะ ชายหนุ่มเหงื่อตก รู้สึกกังวลว่าจะไม่สามารถซื้อได้
           "มันต้องอย่างงี้สิ เด็กผู้ชายมันก็ต้องทำอะไรแบบนี้นั่นล่ะ!" คุณตบไหล่ของไซโตะอย่างเป้นกันเองแทน

           "ใช่แล้วครับลุง งั้นผมขอซื้อล่ะนะครับ!" ไซโตะยื่นเงินให้
           "ในฐานะลูกผู้ชาย ลุงลดราคาให้ครึ่งนึงไปเลย!" และด้วยเหตุนี้ฮิรากะ ไซโตะจึงสามารถซื้อหนังสือสมบัติเล่มนี้มาด้วยครึ่งราคาเท่านั้น

           "เอาล่ะ เล่มนี้จะมีอะไรบ้างนะ" ไซโตะถือถุงหนังสือเดินออกมาอย่างภูมิใจ

           "เออ...นี่เธอ.." ผู้หญิงคนนึงอยู่ๆก็เดินมาหาไซโตะ โดยที่พวกเขาไม่เคยรู้จักกันมาก่อน สิ่งที่ทำให้ไซโตะยังคงมองค้างไปที่เธอก็เป็นเพราะหน้าอกของเธอที่มีขนาดไม่แพ้นางแบบในหนังสือสมบัติเลยแม้แต่น้อย
           "นี่ของจริงงั้นเหรอ..." ไซโตะมัวแต่หลงใหลจุดนั้นของเธอ

           "ใช่ ฮิรากะ ไซโตะรึเปล่า ?" หญิงสาวถามชายหนุ่ม
           ไซโตะรู้สึกตัวจากความเพ้อฝัน "ครับๆ ทำไมถึงรู้ชื่อผมล่ะครับ ?"

           "ใช่จริงด้วย ดีจังเลย" หญิงสาวนำมือทั้งสองข้างมาประกบกันและยิ้มด้วยความยินดี "นึกว่าจะหาลำบากแล้วซะอีกนะ"

           "เอ๋ ตามหาตัวผมอยู่เหรอครับ นี่ผมไปทำอะไรผิดงั้นเหรอ ?" ไซโตะถาม

           เธอส่ายมือทั้งสองไปมา "ไม่ใช่จ๊ะ ไม่ใช่ คือพวกเรารู้ว่าเธอน่ะมีพลังที่สุดยอดอยู่เลยอยากจะชวนเธอมากับพวกเราหน่อยน่ะ"
           สีหน้าของเด็กหนุ่มเปลี่ยนไปทันที เขาทำหน้าจริงจังทันทีที่เธอพูดถึงเรื่องนี้ "ทำไมถึง ?"

           "เอาเป็นว่าเราไปหาที่คุยกันจะดีกว่านะ มาคุยกันกลางถนนแบบนี้มันไม่น่าจะดีเท่าไหร่" หญิงสาวบอก
           "นั่นสินะครับ แต่ผมยังไม่รู้ว่าพี่สาวชื่ออะไรเลย พี่สาวชื่ออะไรน่ะครับ ?" ไซโตะถามเธอ

           "โอโตนาชิ โคโตริจ๊ะ เป็นเลขานุการของ 765 โปรดักชั่น ยินดีที่ได้รู้จักนะ" เธอแนะนำตัวพร้อมรอยยิ้ม


    ร้าน Cous Coussier  เวลา 11.17 น.

           ไซโตะและโคโตริมานั่งคุยกันที่ร้าน Cous Coussier ร้านอาหารชื่อดังของเอเรีย 1
           "เธออยากจะทานอะไรมั้ย เดี๋ยวฉันเลี้ยงให้เอง" โคโตริบอกกับไซโตะ

           "เออ....งั้นผมเอา ปลาดิบก็แล้วกันครับ" ไซโตะสั่งไปอย่างเดียวเพราะความเกรงใจ
           "แค่นี้เองเหรอตามใจนะ ฉันเอาสลัดซีซาร์และเนื้ออบค่ะ" โคโตริสั่งอาหารของตัวเอง

           "ค่ะ สามอย่างสินะคะ โปรดรอสักครู่นะคะ" บริกรหญิงรับรายการอาหารแล้วก็เดินกลับไปที่เข้าเคาน์เตอร์ ช่วงหลังของเธอนั้นทำให้ไซโตะอดที่จะแอบส่องไม่ได้

           "ไซโตะคุง เรามาเข้าเรื่องกันเลยมั้ย ?" โคโตริบอกกับไซโตะทำให้เขาได้สติ

           "ครับ ได้ครับ" ชายหนุ่มรีบดีดตัวขึ้มาทันที
           "จะว่าไป 765 โปรดักชั่น นี่เป็นบริษัทไอดอลไม่ใช่เหรอครับ หรือนี่คิดจะทาบทามให้ผมไปเป้นไอดอลใหม่น่ะครับ แบบนั้นมันก็ไม่เลวนะ"

           "ไม่ใช่จ๊ะ ไม่ใช่เรื่องเรื่องแบบนั้นหรอกนะ" โคโตริปฏิเสธ ไซโตะผิดหวังเล็กน้อย "คือว่าก็อย่างบอกไปตอนแรก พวกเราน่ะรู้เรื่องถึงพลังของเธอ เราคิดว่าพลังของเธอน่าจะสามารถสร้างประโยชน์และใช้ช่วยเหลือมนุษยชาติได้"

           "เดี๋ยวครับ" ไซโตะหยุดโคโตริไว้ "ผมขอถามก่อนว่า พวกเรา นี่เป็นใคร และทำไมถึงรู้พลังของผมได้ล่ะครับ ?" 

           "พวกเราไม่มีชื่อองค์กรที่แน่นอนหรอกจ้ะ คือพวกเราเป็นองค์กรหน่วยกลางที่เกิดมาจากการนำหลายๆองค์กรมารวมกัน พูดง่ายๆคือเป็นตัวกลางความสัมพันธ์ขององค์กรต่างๆ เป็นหน่วยงานที่จะคอยทำหน้าที่สืบข้อมูลและส่งมอบข้อมูนั้นให้กับองค์กรอื่นๆน่ะจ้ะ" โคโตริอธิบาย
           "และเธอเองก็น่าจะเคยเจอมาแล้วสินะ ลอสท์ น่ะ"

           "อืม...จะพูดอย่างงั้นก็ได้นะครับ แต่จริงๆที่ผมเคยสู้กับเจ้าพวกนั้นก็แค่ 3 ครั้งเอง และก็เป็นเมื่อสามเดือนที่แล้วด้วยเลยคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนี่ครับ" ไซโตะบอก

           "มันก็จริง ที่ลอสท์นั้นไม่เคยคิดที่จะกระทำแผนการของพวกมันอย่างจริงๆจังๆ หรือต่อหน้าสาธารณะเลย แต่ว่าเธอน่าจะเห็นข่าวในช่วงนี้นะ ว่ามีข่าวเหตุความวุ่นวายมาบ่อยขึ้นน่ะ เหตุการณ์ส่วนมากก็มีต้นเหตุมาจากพวกมันนี่ล่ะ" โคโตริชี้แจง "และองค์กรต่างๆก็ยังพยายามหาทางรับมือกับพวกมันอยู่ด้วย"
           "ส่วนเรื่องที่เรารู้ถึงพลังของเธอได้ก็เป็นเพราะทางศาสนจักรได้ทำการตรวจสอบเรื่องของเธอมาแล้ว และเธอก็เคยแปลงร่างให้พวกเราเห็นโดยบังเอิญด้วยน่ะจ้ะ"

           "แปลงร่างให้เห็นโดยบังเอิญ ?"

           "เมื่อตอนที่สู้ในเดือนกุมภาพันธ์เธออาจจะไม่ได้สังเกตนะ แต่ว่าจริงๆแล้วตอนนั้นมีกล้องวงจรปิดจับภาพเธอไว้ได้น่ะ" โคโตริบอกด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส กัลกันกับไซโตะที่ถึงกับเหว่อ

           "ถะ...ถ้าอย่างงั้นตัวตนของผมก็ถูกรู้ไปทั่วแล้วนี่ครับ!!"

          "ไม่ต้องเป็นห่วงจ้ะ เราได้บอกให้คนที่รู้เร่องนี้ก็แค่ยามคนเดียวปิดเป็นความลับเรียบร้อยแล้ว และก็ยังลบภาพนั้นไปแล้วด้วยดังนั้นไม่ต้องห่วงว่าบุคคลภายนอกจะรู้ถึงตัวเธอได้เลยจ๊ะ" โคโตริพูดเช่นนั้นก็ทำให้ชายหนุ่มเบาใจลงได้นิดหน่อย "เพียงแต่ว่าถ้าเป็นองค์กรต่างๆล่ะก็แทบจะรู้ว่าเธอเป็นใครหมดแล้วล่ะ" 
           แต่พอพูดประโยคหลังไซโตะก็อ้าปากค้างอีก

           "สรุปแล้วที่มาคุยกับผมนี่ก็คือคิดจะให้ผมไปร่วมทีมเดียวกับพวกคุณเพื่อพิทักษ์โลกจากพวกสัตว์ประหลาดสินะครับ" ไซโตะสรุปใจความ

           "ใช่จ๊ะ แต่ว่าก็ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของเธอด้วยนะ" โคโรริบอก

           "ของที่สั่งได้แล้วครับ 
    ขอให้มีความสุขกับการรับประทานอาหารนะครับ" บริกรชายนำอาหารมาเสิร์ฟที่โต๊ะของทั้งสองพอดี และเขาก็กลับไปทำหน้าที่ของเขาต่อที่โต๊ะข้างๆ

           "คือ...ขอเวลาให้ผมคิดก่อนจะได้มั้ยครับ" ไซโตะบอกกับโคโตริ
           "อยู่ๆมาบอกกันแบบนี้ผมเองก็ไม่มั่นใจว่าจะตอบยังไงดี"

           "จ๊ะ จะมาตอนไหนก็ได้เลยนะ" โคโตริยิ้ม "ฉันจะรอฟังคำตอบที่ 765 โปรดักชั่นนี่ล่ะ ถ้ามีอะไรก็มาที่สำนักงาน หรือไม่ก็.." เธอล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อและหยิบนามบัตรออกมา "โทรมาหาฉันก็ได้นะ"
           "ขะ..ขอบคุณครับ" 

           "อื้ม" หลังจากนั้นไซโตะก็รับประทานปลาดิบที่หญิงสาวคนนี้เลี้ยงให้จนหมด โดยที่เขาก็มีแอบๆมองไปที่หน้าอกของเธอเล็กน้อย ก่อนที่จะขอตัวออกมาและพอเดินไปเรื่อยก็เห็นเหตุการณ์ไม่ปกติก็เลยตามไปจนถึงโกดังร้างที่อยู่นอกเขตเมือง และก็เป็นอย่างที่รู้กันว่าเกิดเรื่องใดขึ้น.....



            จบการร่ำลึกอดีต



    เอเรีย 1  ย่านการค้า  เวลา 16.27 น.

          ไซโตะเดินกลับเข้ามาในย่านการค้าที่เต็มไปด้วยผู้คน เขายังคงตัดสินใจเรื่องที่โคโตริเสนอไม่ได้
           "เฮ้อ....เราควรจะเลือกยังไงดีนะ...จะสู้ หรือจะอยู่ไปวันๆแบบนี้น่ะ" ไซโตะพูดกับตัวเองพร้อมกับหม่ำข้าวปั้นที่เขาเพิ่งซื้อมา

           "คู่หู คู่หู ให้ฉันกินบ้างสิ!" คิบัทเรียกร้องจากในถุงผ้า

           "นายน่ะเป็นค้างคาวไม่ใช่เรอะ จะมากินอะไรแบบมนุษย์ได้ไงเล่า" ไซโตะยกเหตุผลแย้งคิบัท

           "ถึงฉันจะเป็นค้างคาว แต่ว่าฉันก็ไม่ได้เป็นแค่ค้างคาวทั่วไปนะจะบอกให้" คิบัทพูดอย่างภาคภูมิใจ

           "ครับๆ ก็เป็นค้างคาวพูดได้ที่กินทุกอย่างไม่เลือกหน้า และยังเป็นตัวที่สามารถทำให้ฉันแปลงร่างเป็นคิบะได้ เป็นเชื้อสายสือทอดจากคิบะ คิบัทรุ่นที่ 3 สินะ" ไซโตะพูดทุกอย่างแทนคิบัทหมด
           "ถูกต้อง เดี๋ยวสิไอ้ตอนแรกๆมันแหม่งๆนะ"

           "เอาเถอะน่า อย่าเรื่องมากนักเลย อย่างนายน่ะเอาแค่แท่งช็อคโกแลตนี่ไปเถอะ!" ชายหนุ่มยัดช็อคโกแลตเข้าไปในถุงผ้าให้คิบัทกิน
           "เจ้านี่อีกล่ะ ฉันเบื่อมันแล้วอ่ะ ไม่มีอะไรใหม่ๆที่มันอร่อยกว่านี้เลยเหรอ ?"

           "ก็บอกแล้วไงว่าอย่าบ่นมากเลยน่ะ กินอะไรก็กินไปเถอะน่า" ไซโตะยัดเยียดให้คิบัททำตาม จนมันต้องจำใจที่จะกิน "นายน่ะหัดเป็นตัวที่ว่านอนสอนง่ายหน่อยไม่ได้รึไง ฉันเองก็เหนื่อยเป็นนะ ที่ฉันต้องเสียเงินช่วงนี้มากกว่าปกติก็เพราะต้องมาเลี้ยงนายเนี่ยล่ะ"

           ระหว่างที่กำลังนั่งคุยกันกับคิบัทอยู่นั้นก็เกิดเรื่องที่ไม่ได้คาดคิด
           "ช่วยด้วยค่า มันขโมยกระเป๋าของฉันไปค่า!!!" เสียงขอความช่วยเหลือของผู้หญิงคนนึงดังขึ้น ชายหนุ่มรีบเปลี่ยนจุดสนใจไปทางนั้นทันที พบว่ามีชายคนนึงที่กำลังวิ่งมาทางเขาพร้อมกับกระเป๋าที่อยู่ในมือ พร้อมกับหญิงสาวคนนั้นก็อยู่ด้านหลังเขาคนนั้น 
           "แบบนี้คงต้องเขาไปช่วยแล้วล่ะ!" ไซโตะรีบตรงเข้าไปทันที

           "ไม่ยอมให้ผ่านไปได้หรอกครับ!" ก่อนหน้าไซดตะจะเข้าไปช่วยนั้นก็มีชายหนุ่มอีกครเข้าไปดักทางด้านหน้าของโจรวิ่งราวคนนั้นไว้


           "ถอยออกไปซะ!!" โจรวิ่งราวตะโกนไล่ฮายาเตะแต่เด็กหนุ่มก็ไม่ได้ขยับเลยแม้แต่น้อย เขาจึงเงื้อมมือเพื่อที่จะชกใส่เขา
           "ถ้างั้นก็หลบไปซ....!"  แต่ก่อนหน้าที่เขาจะทำเช่นนั้นมือของเขาถูกไซโตะหยุดไว้ก่อน "นะ...นี่นาย!?"

            "เป็นขโมยมันไม่ดีหรอกนะ!" ไซโตะบิดแขนของโจรวิ่งราวทำให้เขาเจ็บและเสียจังหวะไป เปิดโอกาสให้เด็กชายอีกคนใช้โอกาสนั้นพุ่งกระแทกทำให้โจรล้มลง

          "ออกไปซะ!!" โจรวิ่งราวสลัดชายหนุ่มออกไปชนกับแถวรถจักรยานด้วยแรงมหาศาสทำให้รถจักรยานล้มลงเป็นแถวยาว จากนั้นก็จับคอเสื้อของไซโตะเหวี่ยงไปทางเดียวกับชายคนก่อนหน้าก่อนที่เขาจะรีบวิ่งหนีไป
           "..เจ้านั่นแรงเยอะชะมัด!" ไซโตะพูดแล้วลุกขึ้นยืนหลังจากที่เพิ่งโดนเหวี่ยงให้ล้มลงที่รถจักรยาน

           ชายหนุ่มเกาหัวตัวเองด้วยท่าทางเซ็งๆ
           "แบบนี้เราก็ต้องไปตามหยุดเจ้านั่นอีกน่ะสิ กระเป๋าก็ยังไม่ได้คืนด้วย!"

           "คือว่าเรื่องกระเป๋าน่ะครับ" ชายอีกคนส่งเสียงให้ไซโตะหันมาหาเขา ซึ่งพบว่าเขานั้นก็กำลังถือกระเป๋าใบนั้นไว้อยู่ "ตอนที่เขาสลัดผมออก ผมก็ดึงแย่งมาได้ก่อนน่ะครับ"

           "โห...นายเนี่ยก็ไม่เลวเลยนี่" ไซโตะยื่นมือให้เขาและช่วยดึงเขาลุกขึ้นมา

           หญิงสาวที่ร้องขอความช่วยเหลือวิ่งมาหาพวกฮายาเตะพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
           "โจรคนนั้นไปไหน แล้วกระเป๋าของฉันล่ะ!?"


           "กระเป๋าอยู่นี่ครับ!" เด็กหนุ่มคืนกระเป๋าที่เขาถืออยู่ให้กับเจ้าของสร้างความยินดีให้กับเธอมาก
           "..แต่ว่าโจรคนนั้นเขาหนีไปได้ครับ"


           "ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ อย่างน้อยกระเป๋าก็เอาคืนมาได้ล่ะนะ ถ้าไม่ได้พวกเธอล่ะก็ฉันแย่จริงๆก็ได้" ผู้หญิงล้วงเข้าไปในกระเป๋าของเธอ หยิบกระเป๋าตังค์และหยิบแบงค์หนึ่งพันเยนให้เป็นของตอบแทนแก่ทั้งสอง "นี้ของตอบแทนเล็กๆน้อยๆนะจ้ะ ช่วยรับไว้ด้วยล่ะ!"

           ไซโตะรับเงินมาอย่างเต็มใจ "ขอบคุณนะครับ!"

           "เรื่องวิ่งราวให้พวกเราจัดการเองครับ คุณผู้หญิงกับพวกเธอไม่ต้องกังวล!" ตำรวจสองนายบอกกับพวกเขาทั้งสาม ก่อนที่พวกเขาสองคนจะวิ่งไปขึ้นรถตำรวจและออกตามหาโจรวิ่งราวผู้นั้นทันที ส่วนคุณผู้หญิงคนนั้นก็ลาพวกไซโตะไปเช่นกัน

           
    "เฮ่อ...ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนๆก็มีเรื่องที่ชวนปวดหัวได้เสมอสินะ!" ไซโตะรำพึงก่อนที่จะเก็บเงินหนึ่งพันที่เขาได้มาลงกระเป๋าเสื้อ "งั้นก็ลาล่ะ ฉันเองก็มีธุระต้องไปทำ โชคดี!"
           "ครับ โชคดีนะครับ!" ชายหนุ่มอำลาไซโตะที่ช่วยเหลือเขาไว้

           "นี่คู่หูรู้สึกเหมือนกันสินะ" คิบัทพูดกับไซโตะจากในถุงผ้า

           "อืม เจ้าโจรวิ่งราวนั่นไม่ใช่มนุษย์ปกติ" ไซโตะสามารถรู้ได้ในทันทีเพราะพลังแรงที่มากกว่ามนุษย์ทั่วไปแบบนั้น เป้นสิ่งที่พิสูจน์ได้แน่ชัดแล้วว่าคนๆนั้นไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นลอสท์ที่ปลอมเป็นมนุษย์
           "ตำรวจพวกนั้นกำลังตกอยู่ในอันตราย" ไซโตะรีบวิ่งตามรถตำรวจไปในทันที


    ตรอกซอกซอยแห่งหนึ่ง  เวลา 16.55 น.


           โจรวิ่งราวคนนั้นได้พยายามวิ่งหนีพวกตำรวจมาสุดชีวิตจนเข้ามาหลบซ่อนในซอกซอย
           "ชิ เจ้าพวกเด็กนั่น ถ้ามันไม่มาขัดขวางก็สำเร็จไปนานแล้ว!" มันพูดด้วยความแค้น และระบายลงกับถังขยะบริเวณนั้นโดยการเตะจนเกิดเป็นรอยบุบขนาดใหญ่

           "เดี๋ยวนี้ตกต่ำถึงขนาดที่ต้องมาเป็นโจรวิ่งราวเลยรึไง สไปเดอร์" เสียงของชายคนนึงพูดกับเขา

           "นายมาทำอะไรที่นี่นีเดิล วันนี้เป็นวันหยุดของฉันอย่ามายุ่งไม่เข้าเรื่อง" สไปเดอร์พูดกลับไป มันมองขึ้นไปบนกำแพงก็พบชายใส่ชุดขาวคนนึงกำลังยืนอยู่บนนั้นด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแต่รู้สึกได้ถึงความไม่น่าไว้วางใจอย่างเห็นได้ชัด
           "นายมาทำภารกิจที่นี่รึไง ?"

           "อันที่จริงก็นิดหน่อย แต่ว่าฉันมีเรื่องอยากจะมาบอกนายมากกว่า" นีเดิลกระโดดลงมาหาสไปเดอร์ "คือว่า..."
           "หยุดนะ ยกมือขึ้น!" ก่อนหน้าที่ชายที่ชื่อนีเดิลจะพูดอะไรตำรวจทั้งสองนายก็ตามมาถึงพร้อมกับจ่อปืนไปที่พวกเขา "ยอมมอบตััวซะ พวกเราได้ล้อมที่นี่ไว้หมดแล้ว!"

           "ครับๆ คุณทำรวจพวกเรายอมแล้วครับ" นีเดิลยอมยกมือขึ้น สไปเดอร์ก็เช่นกัน

          "พวกนายมีสิทธิที่จะไม่พูด เพราะคำพูดของพวกนายจะมีสามารถนำไปในชั้นศาสได้!" นายตำรวจทั้งสองเดินเข้ามาใกล้พวกมันเพื่อที่จะจับกุมทั้งสอง แต่ว่า....
    เพียงชั่วพริบตาตำรวจนายแรกก็ถูกฝูงแมงมุมที่พ่นออกมาจากสไปเดอร์รุมกัดกินทั้งหน้า ถูกทั้งกรดและคมเขี้ยวของปิศาจขนาดเล็กกัดจนไม่เรื่องเค้าเดิม ส่วนตำรวจอีกคนก็ถูกเข็มขนาดยาวเท่าหอกแทงหัวทะลุสิ้นใจในทันที

           "ฮึ เจ้าพวกไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง เป็นแค่มนุษย์แท้ๆ" สไปเดอร์เตะซ้ำไปที่ศพที่นอนกองอยู่

           "อย่างน้อยพวกมันก็มีค่าตรงที่หัวใจสามารถนำมาใช้เป็นยาสำหรับพวกเราได้นั่นล่ะ" นีเดิลดึงเส้นผมของเองออกมาสองเส้นและมันก็กลายเป็นเข็มยาวแทงใส่หัวใจทั้งสองดวงของนายตำรวจออกมาทันที
           "ถ้าเรากินสิ่งนี้บาดแผลของพวกเราก็จะหายดีล่ะนะ"

           "แต่ว่าต้องเป็นหัวใจที่เพิ่งออกมาจากคนที่เพิ่งตายไม่ถึง 1 นาทีเท่านั้น แล้วนายจะเอาไปทำอะไรได้" สไปเดอร์ถาม

          "ก็ฉันจะให้กับคนที่บาดเจ็บอยู่ตรงนั้นน่ะ!" นีเดิลโยนหัวใจไปให้ในจุดที่ลับตา หัวใจทั้งสองก็ถูกบางสิ่งกินเข้าไปในทันที

           "นั่นใคร ใครบาดเจ็บงั้นเรอะ ?" สไปเดอร์ถาม

           "ฮอร์สน่ะ เจ้านั่นเพิ่งถูกเล่นงานมาโดยพวกมนุษย์" นีเดิลตอบ

           "โดยมนุษย์งั้นเรอะ ใครกันที่มีพลังทำถึงขนาดนั้นน่ะ ไม่น่าจะมีมนุษย์ที่ไหนนะที่สามารถทำให้อยู่สภาพย่ำแย่แบบนั้นได้" สไปเดอร์ไม่ปักใจเชื่อที่นีเดิลบอก "บอกความจริงมา"

           "ก็บอกแล้วไงว่าเป็นมนุษย์น่ะ ส่วนคนที่ทำก็คือ...."
           ตอนนั้นเองฮิรากะ ไซโตะก็ตามมาถึงที่แห่งนี้พอดี "เจอตัวแล้ว!!"

           "....เจ้าเด็กนั่นไงล่ะ"

           "อย่ามาพูดบ้าๆน่า นีเดิลกะอีแค่เด็กเซ่อนี่คนเดียวแล้วจะทำให้ฮอร์สบาดเจ็บถึงขนาดนั้นได้ยังไงล่ะ" สไปเดอร์ก็ยังค้านหัวชนฝา ไม่ยอมเชื่อที่นีเดิลบอกเลยสักนิด
           "เดี๋ยวคอยดูละกัน" นีเดิลยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

           "คู่หู ท่าทางไม่ดีเลยนะ จากที่ฉันสัมผัสได้พวกมันมีถึง 3 ตัวเลยล่ะ" คิบัทเตือน

           "จากที่เห็นมีแค่สองแปลว่าอีกตัวซ่อนอยุ่งั้นเรอะ ?" ไซโตะกระซิบถาม
           "ไม่นะ พลังอ่อนมากเหมือนกับว่าบาดเจ็บอยู่อย่างงั้นน่ะ"

           "เจ้าหนู ฉันไม่รู้หรอกนะว่าแกจะเก่งแค่ไหน แต่ว่ายังไงฉันก็ต้องขอเอาคืนเรื่องเมื่อกี้ก่อนล่ะ" ร่างของชายตรงหน้าค่อยๆกลายเป็นลอสท์สไปเดอร์สัตว์หลาดรูปร่างคล้ายกับแมงมุม
           "เตรียมตัวตายได้"

           "คิบัท!" ไซโตะเปิดถุงผ้าออก
           "รับทราบ" คิบัทบินออกมาจากถุงผ้าและไปอยู่ในมือของไซโตะ "คิบะจะลุยล่ะนะ!"

           "นั่นมันตัวอะไร ?" สไปเดอร์แปลกใจกับค้างคาวร่างเหล็กที่พูดได้ตัวนั้น
           "ระวังตัวด้วยนะ เจ้านั่นล่ะที่ทำให้ฮอร์สเป็นสภาพนี้" นีเดิลเตือน

           "แก นีเดิล คงจะวางแผนอะไรไว้สินะ" สไปเดอร์หันกลับไปมองนีเดิลด้วยแววตาที่ดุดัน เขาก็เพียงแค่ยิ้มกลับมาเท่านั้น "เจ้าบ้านี่...สมควรไปตายซะ"


    BITE

           เมื่อนำคิบัทมากัดที่ข้อมือก็ปรากฏรอยประหลาดขึ้นมาบนหน้าของชายหนุ่ม พร้อมกับโซ่เหล็กที่ปรากฏขึ้นมาที่เอวของเขาและแปรสภาพกลายเป็นเข็มขัด "แปลงร่าง!!"
           ไซโตะนำคิบัทไปสวมที่ไดร์เวอร์

           ทันใดนั้นก็เกิดเสียงออกมาร่างของฮิรากะ ไซโตะได้เปลี่ยนไปเป็นกระจก และพอแตกออกก็กลายเป็นนักรบสวมเกราะสีเลือดผู้มีเกราะเหล็กสีเงินที่ไหล่และเท้าขวา คิบะ


    KIVA

           "นีเดิล แกอย่าเข้ามายุ่งนะ"สไปเดอร์บอกกับนีเดิลก่อนที่มันจะพุ่งเข้าไปสู้กับคิบะ
           "ขอทดสอบพลังแกหน่อยเถอะ เจ้าค้างคาว!" สไปเดอร์กางกรงเล็บออกและข่วนไปที่กลางลำตัวของคิบะทันที ซึ่งพลังของมันต่างจากฮอร์สจึงทำให้คิบะได้รับบาดเจ็บได้

           "เจ้านี้..เก่งกว่าเจ้าตัวก่อนหน้านี้!" คิบะตีลังกาใช้เท้าเตะเสยหน้าของลอสท์ขึ้นไป 
           จากนั้นก็จับขาของมันและตามด้วยจับมันทุ่มลงมา แล้วเหวี่ยงออก สไปเดอร์พลิกตัวใหม่กลางอากาศ อาศัยพื้นที่ที่แคบนี้ให้เป็นประโยชน์ต่อฝ่ายมัน กระโดดไต่เข้ามาข่วนคิบะอีกที จากนั้นก็เด้งไปอยู่บนกำแพงและก็ลงมาโจมตีซ้ำอีก

           "คู่หู ระวังข้างบน!" คิบัทเตือน
           "เข้าใจแล้ว" คิบะก้มตัวลงและใช้ขาข้างขวาที่มีเกราะเหล็กโดดขึ้นไปเตะใส่สไปเดอร์กลางอากาศ

           "อัก!!" สไปเดอร์กระเด็นตกลงมา 
           ไซโตะใช้โอกาสนั้นพุ่งตัวตามลงมาต่อยใส่มันซ้ำ และยังต่อยรัวซะจนมันตั้งตัวไม่ติด จากนั้นคิบะก็เตะให้ร่างของสไปเดอร์ลอยขึ้นไปค้างกลางอากาศ

           "เอาล่ะนะ!" คิบะกระโดดหมุนตัวตามขึนไปใช้ร่างของสไปเดอร์เป็นที่ดีดตัวขึ้นไปบนท้องฟ้า และพุ่งตัวลงมาเตะใส่ลอสท์ "ย้ากกก!!"
            แต่ก่อนที่คิบะจะพุ่งลงมาถึงเขาก็ถูกเข็มของนีเดิลโจมตีจนเสียจังหวะตกลงมา "อัก!"

           สไปเดอร์ตกลงมากระแทกพื้น มันลุกขึ้นและจ้องไปที่นีเดิลด้วยความโกรธ
           "นีเดิล...ขะ..ข้าบอกแล้วว่าไม่ต้องมาสอดไง!"

           "แต่ว่าถ้าท่านโดนท่านั้นเข้าไปท่านก็อาจจะมีสภาพเช่นเดียวกับฮอร์สก็ได้นะครับ" นีเดิลย้ำเตือน "อย่างน้อยก็ให้เจ้าตัวเขาได้แก้แค้นหน่อยเถอะครับ ถือว่าดีต่อตัวเขาด้วย" 
           ลอสท์ฮอร์สที่อยู่ในสภาพบาดเจ็บเดินออกมาจากที่ลับตาผู้คน และมันก็คำรามพุ่งเข้าโจมีคิบะในทันที

           "เจ้านี้ยังเคลื่อนไหวได้อีกเรอะ!?" คิบะตั้งรับแรงกระแทกจากฮอร์ส เขาสามารถต้านมันไว้ได้ แต่พอเขาทำเช่นนั้นเขาก็ถูกลอสท์สไปเดอร์ปล่อยแมงมุมโจมตีจากด้านหลัง ทำให้เสียจังหวะไปและถูกฮอร์สกระแทนจนล้มลง และถูกกระโดดเตะใส่หน้าไปอีกที

           "เอือกก!!" คิบะล้มลง แต่ก็ฝืนลุกขึ้นมาอีกครั้ง "สถาการณ์แย่สุดๆไปเลยแฮะ"
           "คู่หูถึงเวลาที่ต้องใช้เจ้านั้นแล้วล่ะ!" คิบัทบอก

           "อืม!" ไซโตะหยิบวัตถุบางอย่างที่อยู่ข้างเข็มขัด มีลักษณะเป็นเหมือนนกหวีดสีน้ำเงิน แฟซเซิล คือชื่อที่ใช้เรียกสิ่งนี้ คิบะนำแฟซเซิลนั้นมาเสียบที่ปากของคิบัทที่ไดร์้เวอร์


    GARURU SABER

           เสียงของนกหวัดดังก้องไปทั่วบริเวณโดยรอบ ทันใดนั้นท้องฟ้าก็ส่งของบางอย่างลงมาอย่างฉับพลัน
           คิบะยื่นมือซ้ายไปรับมันไว้ได้ทัน มันคือมีดดาบสีน้ำเงินที่มีหัวหมาป่าอยู่ที่ด้ามจับ และทันทีที่คิบะรับมีดดดาบนั้นมา เกราะแขนข้างซ้ายของเขาก็แตกออกเผยให้เห็นผิวหนังสีน้ำเงิน ตัวเกราะสีเลือดที่ตัวก็ถูกโซ่ซ้อนทับทำให้เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน ดวงตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน เสียงหอนของหมาป่าดังออกมาจากร่างของเขา

           "เอาล่ะ การต่อสู้ที่แท้จริงน่ะจะเริ่มจากนี้ล่ะ" คิบะควงดาบและย่อตัวลง ซึ่งเป็นท่าตั้งท่าของร่างนี้
           "เข้ามาได้เลย!"

           "เปลี่ยนร่างได้งั้นเรอะ ของแบบนั้น!" สไปเดอร์บุกเข้าไปพร้อมกับฮอร์ส 
           คิบะเปลี่ยนเป็นฝ่ายใช้ประโยชน์จากพื้นที่แคบๆเช่นนี้บ้าง เขากระโดดไต่ขึ้นไปบนกำแพงและอยุ่ระหว่างตรงกลางทั้งสอง

           "ฮ่าส์!!" คิบะหมุนฟันรอบตัวโจมตีโดนลอสท์ทั้งสองตัว ตามด้วยใช้มือซ้ายจับฮอร์สกระแทกกับผนัง
           หมุนตัวกลับไปใช้ดาบฟันโจมตีใส่สไปเดอร์ และกระโดดข้ามหัวของมันไปอีกฝั่ง แล้วหันกลับมาฟันซ้ำใส่มันอีกที ตามด้วยใช้ศอกกระแทกท้องของมันทำให้จุก และฟันดาบลงใส่ตัวมัน

           "ฮ่ากกก/ว้ากกก" สไปเดอร์และฮอร์สพ่นใยแมงมุมและคลื่นพลังออกมาโจมตีใส่คิบะ
           แต่เพียงแค่เขาใช้มีดดาบเล่มนั้นฟันเพียงครั้งเดียวก็ทำลายใยแมงมุมและสลายคลื่นพลังลงไปได้โดยที่ไม่ต้องเสียแรงอะไรมากเลย

           "โจมตีด้วยท่าไม้ตายเลยคู่หู" คิบัทตะโกนบอก
           "อา ได้เลย!" คิบะนำมีดดาบสีน้ำเงินนั้นมาให้คิบัทที่หัวเข็มขัดกัด


    GARURU BITE

           ยามนั้นท้องฟ้ายามอัสดงก็แปรเปลี่ยนไปเป็นท้องฟ้ายามราตรีในทันใด
           ดวงจันทราเต็มดวงปรากฏขึ้นบนฟากฟ้า ปากของคิบะเปิดออก เขาทำการคาบมีดดาบสีน้ำเงินนั้นไว้ แล้วกระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้าที่มืดมิด แล้วพุ่งลงมาด้วยความเร็วสูง "ฮู่วส์!!"


    GARURU HOWLING SLASH


           ทันทีที่คิบะลงมาเขาก็ใช้มีดดาบที่คาบอยู่นั้นฟันใส่ลอสท์ทั้งสองตัวจนร่างของมันมีไฟสีน้ำเงินลุกโชนขึ้นมา
            "จงหายไปซะ!" ไซโตะพูดคำปิดท้าย ร่างของฮอร์สดูดกลืนเปลวไฟสีน้ำเงินเข้าไปและก็กลายสภาพเป็นกระจกก่อนที่จะแตกสลายไป ส่วนลอสท์สไปเดอร์ได้รับบาดเจ็บเป็นอย่างมากแต่ยังไม่ถึงกับตาย

           "เอาล่ะจะมาสู้กันต่อมั้ย" เด็กหนุ่มท้าทาย

           "แกนะแก บังอาจมาทำกับคนอย่างฉัน!" สไปเดอร์ยังไม่ยอมแพ้คิดจะลุกขึ้นมาสู้อีก แต่ก็ถูกนีเดิลเข้ามาห้ามไว้
           "นีเดิล บอกแล้วไงว่าอย่ามายุ่ง!"

           "ตอนนี้ถอยกันก่อนเถอะ พลังของเจ้านี่มันมากกว่าที่คาดคิดไว้จริงๆ" นีเดิลจับพาสไปเดอร์หนีไปทันที 

           "หยุด...!" คิบะจะตามไปแต่ก็ไม่ได้เพราะเขาเองก็ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ไปมากเช่นกัน "...แฮ่ก..แฮ่ก..แบบนี้คงจะไล่ตามพวกมันไม่ไหวแล้วล่ะนะ"
           "คู่หูปล่อยไปแบบนี้จะดีเหรอ ?" คิบัทถาม

           "ถึงตามไปเราก็อาจจะไม่ชนะก็ได้ ปล่อยไปแบบนี้นั่นล่ะ" ไซโตะบอบช้ำและล้ามาจากการต่อสู้แล้วจึงไม่คิดที่จะตามพวกมันไป และสิ่งนี้ทำให้เขาเข้าใจว่า
    "การต่อสู้เพียงลำพังนั้นไม่อาจที่จะเอาชนะพวกมันได้ง่ายดายเหมือนเมื่อก่อนแล้ว...."


    .
    .
    .
    .


    สวนสาธารณะ  เวลา 17.17 น.


           นีเดิลได้พาสไปเดอร์ที่บาดเจ็บสาหัสอยู่นั้นมาพักรักษาตัวที่สวนสาธารณะ
           "ถ้าพลาดไปอีกนิดเดียว เจ้าอาจจะตายไปแล้วก็ได้นะสไปเดอร์ แต่ว่าที่รอดมาได้นี้ก็ถือว่าโชคช่วยจริงๆ" นีเดิลพูด

           "ไม่ว่ายังไง ข้าก็จะต้องแก้แค้นให้จงได้ เจ้าค้างคาวนั้นจะต้องถูกข้าจัดการ" สไปเดอร์ให้คำมั่น

           "ช่างอาญหาญจริงๆนะสไปเดอร์ แต่ว่าเจ้าควรจะดูสภาพของเจ้าเองในตอนนี้ก่อนที่จะไปคิดเรื่องแก้แค่นนะ" นีเดิลใช้เข็มที่ขยายขึ้นจนกลายเป็นหอกขนาดใหญ่แทงเข้าใส่ท้องของสไปเดอร์

           "จะ...เจ้า...นีเดิล!" 

           "ขอโทษด้วยนะ แต่ว่าข้าก็ไม่ได้ชอบหน้าท่านมาตั้งนานแล้วล่ะ ดังนั้นข้าจะกลับไปรายงานว่าท่านเป็นผู้ทรยศที่ถูกข้าลงโทษตามความเหมาะสม แบบนี้ก็คงจะไม่เลวนะ" นีเดิลดึงหอกออกจากร่างของสไปเดอร์ ร่างของปิศาจแมงมุมที่สูญเสียพลังไปมากแล้วก็ไม่เหลือแรงที่จะตอบโต้ชายชุดขาวที่ยืนยิ้มท่าทางมีความสุขคนนี้

           "คนอย่างแก...นี่มัน!" สไปเดอร์จ้องหน้าของนีเดิลด้วยความโกรธและความแค้น

           "อย่ามองข้าด้วยสายตาแบบนั้นสิ มันทำให้ข้าดูเหมือนเป็นคนชั่วไปเลยนะ" นีเดิลเตะซ้ำไปที่ร่างของลอสท์ที่ไร้พลัง "คนที่แข็งแกร่งก็จะอยู่รอด ส่วนคนอ่อนแอก็ต้องพบกับจุดจบ นั่นคือคติที่ท่านชอบไม่ใช่เหรอ.....งั้นหมายความว่าตอนนี้ข้านั้นแข็งแกร่ง แต่ท่านอ่อนแอยังไงล่ะ"

           "ข้าจะช่วยจบชีวิตนั้นให้เอง" นีเดิลจ่อหอกไปที่หน้าของสไปเดอร์

           "จะฆ่าก็รีบฆ่าเลย ไม่ต้องมามากความอะไร!" สไปเดอร์ตวาดนีเดิล

           "ไม่ล่ะ คิดดูอีกทีการปล่อยให้ท่านมีชีวิตอยู่ต่อไปแบบนี้น่าจะเป็นฝันร้ายมากกว่าการตาย" นีเดิลเก็บเข็มของตัวเองกลับไปและหันหลังให้กับลอสท์ตรงหน้า "เชิญอยู่ที่นี่และรับความตายไปอย่างทรมาณเถอะนะ"
    นีเดิลหยิบวัตถุกลมๆที่คล้ายกับที่ซารุมีขึ้นมา มันโยนขึ้นไปกลางอากาศแล้วพอสิ่งนั้นระเบิดออกก็เกิดเป็นช่องว่างของมิติขึ้น นีเดิลกระโดดหายไปในช่องว่างนั้น และไม่นานนักช่องว่างมิตินั้นก็หายไป

           สไปเดอร์กำต้นหญ้าและดึงออกด้วยความแค้น "แก...เจ้านีเดิล!!"
          "ข้าจะไม่ยอมให้เจ้ามาดูถูกข้าแบบนี้หรอก...ข้าจะต้องฆ่าเจ้าให้จงได้" ปิศาจแมงมุมนึกถึงคำพูดที่นีเดิลพูดก่อนหน้านี้ได้ ว่าหากลอสท์กินหัวใจมนุษย์ก็จะช่วยเป็นยารักษาบาดแผลได้ดีกว่ารักษาตัวเอง
           "มนุษย์เอ๋ย....ข้าคนนี้จะขอใช้พวกเจ้าเป็นเครื่องมือสำหรับแก้แค้นหน่อยล่ะ..."


    เอเรีย 1  โรงพยาบาล WINDY  เวลา 20.18 น.

           หลังจากที่วันนี้โอโตนาชิ โคโตริได้ออกเดินทางตามหาตัวเหล่าเด็กๆที่ได้รับพลังเกินกว่าที่มนุษย์จะคาดการณ์ไว้จนตอนนี้เธอนั้นได้รวบรวมพวกเขาเหล่านั้นมา 6 คนแล้ว และในบรรดาพวกเขาเหล่านั้นก็มีคนที่บาดเจ็บ เธอจึงพามารักษาตัวที่โรงพยาบาล และเธอก็ติดต่อรายงานความคืบหน้ากับหัวหน้าของเธอ

           
    "อา โอโตนาชิคุงเองเรอะ เป็นไงบ้างเรื่องที่ขอให้ช่วยนั่นไปถึงไหนแล้ว ?" หัวหน้าของโคโตริถาม โดยตอนนี้เขานั้นอยู่ที่สำนักงาน 765 โปรดักชั่น พร้อมกับหลานชายของเขา

           "ค่ะ ตอนนี้เราได้รวบรวมพวกเขามาทั้งหมด 6 คนแล้วค่ะ" โคโตริรายงาน

           "อืม 6 คนงั้นเรอะ...ไม่ใช่7คนตามที่บอกไปก่อนหน้านี้เรอะ ?" หัวหน้าถาม

           "คือว่าคนที่ 7 น่ะค่ะ ทางฉันได้ให้โอกาสเขาไปคิดว่าจะให้เขามาร่วมมือกับเรารึเปล่าน่ะค่ะ  ทางฉันเองก็เชื่อมั่นว่าเดี๋ยวเขาก็จะต้องมาอย่างแน่นอนค่ะ" โคโตริบอกไปตามจริง
           "และถ้าถึงตอนนั้นเขาก็อาจจะแข็งแกร่งกว่าตอนนี้ก็เป็นได้ค่ะ"

           "อย่างงั้นเรอะ ก็ตามแต่เธอก็แล้วกันนะโอโตนาชิคุง" หัวหน้ายอมตามที่โคโตริบอก
           "ฝากทางนั้นด้วยนะ แล้วฉันจะตามไปทีหลัง" จากนั้นเขาก็วางสายไป

           โคโตริเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋าเสื้อ และหันหลังกลับก็เจอกับไซโตะที่ยืนรออยู่แล้ว
           "ไซโตะคุง มาตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ ?"

           "ก็...เมื่อกี้เองนั่นล่ะครับ ไม่ได้ยินที่คุณโอโตนาชิคุยกับคนในโทรศัพท์หรอก" ไซโตะพูด เขาหลบหน้าและเขินหน้าแดงเล็กน้อย "คะ...คือว่า...ผมตัดสินใจได้แล้วว่า..."
           "ผะ...ผมจะร่วมด้วยครับ"
     
           "ทำไมถึงตัดสินใจเร็วแบบนี้ล่ะ ไปเจออะไรมางั้นเหรอ ?" โอโตนาชิเอียงหัวไปทางซ้าย

           "ก็นิดหน่อยล่ะนะ แบบว่าศัตรูมันมีมากเกินไปผมคนเดียวคงสู้ไม่ไหว ติดว่าบางทีมีคนช่วยสู้หน่อยก็ดีอะไรแบบนี้" ไซโตะบอกเหตุผล "และคุณโอโตนาชิก็ดูเป็นคนดีแล้วก็ท่าทางไม่ได้โกหกด้วยเลยลองมาสักหน่อยก็คงไม่เสียหายอะไร"

           "ขอบคุณนะ ที่เชื่อใจฉันน่ะ" โคโตริถึงกับน้ำตาคลอเบ้าและเข้าโอบกอดเด็กหนุ่ม
           หน้าอกของเธอจึงสัมผัสกับใบหน้าของเขาอย่างเต็มที่ "ขอบใจจริงๆนะ"

           "ผมเองก็ขอบคุณเช่นกันครับ..." หญิงสาวรู้สึกปลื้มปิติกับความเชื่อใจที่ไซโตะมีให้ ส่วนทางฝ่ายชายก็ได้รับความสุขจากเธอเต็มที่ ต่างฝ่ายต่างได้รับประโยชน์ซึ่งกันและกัน
           "จะว่าไป....นอกจากเราแล้ว....ยังมีคนอื่นอีกงั้นเรอะ ?" นั่นคือคำถามที่ไซโตะเพิ่งจะนึกออก

           ชะตากรรมของเด็กหนุ่มกับค้างคาว....พวกเขาทั้งสองจะต้องพบกับสิ่งใดที่รอคอยพวกเขาอยู่.....




    .................... TO BE CONTINUE ....................
     







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×