ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 5 จอมเวท
เอเรีย 1 สเตเดี่ยมคอนเสิร์ตการแสดงของ 765 โปรดักชั่น เวลา 19.00 น.
"เฮ้!!!" เสียงโฮ่ร้องของผู้คนนับหมื่นดังขึ้น แสง สี เสียง ที่ถูกปรับให้สว่างและฉายไปบนเวทีขนาดใหญ่ ที่ซึ่งมีผู้หญิงกลุ่มนึงกำลังแสดงอยู่บนเวทีนั้น ผู้คนมากมายที่นี่ยอมเสียทุนทรัพย์มหาศาสเพื่อที่จะได้ที่นั่งดีๆเพื่อชมการแสดงในครั้งนี้ การแสดงที่ว่านี้เป็นการแสดงของไอดอลสังกัด 765 โปรดักชั่น ที่เคยสร้างผลงานไอดอลชื่อดังมาแล้วมากมาย และการแสดงครั้งนี้จะเป็นการแสดงเปิดตัวกลุ่มไอดอลใหม่ของพวกเขา ทำให้ได้รับความสนใจจากแฟนๆเป็นพิเศษ
ที่เมืองฟูโตะแห่งนี้นอกจากจะเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและวัฒนธรรมที่สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุขแล้ว ก็ยังมีสื่อบันเทิงที่ไม่แพ้ประเทศอื่นอีกด้วย โดยที่เมืองนี้จะให้ความสำคัญกับไอดอลมากกว่าที่อื่น ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นหัวใจหลักและจุดเด่นของเมืองนี้เลยก็ได้
ในบรรดาผู้ชมนับร้อยนับพันนี้ มีชายคนหนึ่งที่กำลังนั่งรับประทานโดนัทขนมรูปวงแหวนที่ทำจากแป้งและน้ำตาลที่ใครๆก็รู้จักดีอยู่ที่ที่นั่งแถวหน้าของเวที เขาเป็นชายคนเดียวที่ไม่ได้ใส่ใจกับการแสดงบนเวทีเลยแม้แต่น้อย ซึ่งทำให้บัตรที่แพงที่สุดสำหรับที่นั่งด้านหน้าดูถูกไปเลยทันที ทั้งๆที่ที่นั่งตรงนี้ถือว่ามีราคาแพงที่สุดในบรรดาที่นั่งทั้งหมดในสเตเดี่ยมนี้
พริบตานึงชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นไปบนเวที เขาก็ได้สบตากับไอดอลผู้หญิงคนนึงบนเวทีนั้น เธอเองก็มองมาที่เขา
หญิงสาวส่งสายตาและยิ้มให้เขาก่อนที่เธอจะกลับไปตั้งใจแสดงบนเวทีต่อ
"เมื่อกี้เธอมองมาที่เรางั้นเรอะ ?" ชายหนุ่มยังคงนั่งงง แต่เขาก็เลิกที่จะสนใจเรื่องนั้นและกลับไปทานโดนัทต่อ
"เฮ้ย ยูทาโร่ มัวเหม่ออะไรอยู่น่ะ การแสดงออกจะสนุก" เพื่อนของชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆสะกิด แต่เขาก็ไม่ได้มีอะไรตอบโต้กลับเลย
"อะไรเนี่ยเพื่อน มาที่แบบนี้ทั้งทีมาสนุกกันให้เต็มที่เถอะน่า!"
ยูทาโร่สลัดมือของเพื่อนเขาออกอย่างเย็นชา "ฉันไม่สนใจอะไรพวกนี้อยู่แล้ว นายก็รู้ไม่ใช่เรอะ"
"ครับ บนโลกนี้นายคงจะไม่สนใจอะไรอย่างอื่นนอกจาก อัญมณีและโดนัทแล้วสินะ" เพื่อนของเขาพูดประชด
"เรียวยะ นายเองก็ไม่เคยจีบใครติดสักคนเหมือนกันนั่นล่ะน่า" ยูทาโร่ด่ากลับ เป็นคำพูดที่แทงใจดำเพื่อนของเขาอย่างที่สุด "ฉันน่ะจะดูหรือไม่ดูก็ไม่มีปัญหาเพราะยังไงฉันก็ไม่ได้เป็นคนออกเงินค่าตั๋วนี่อยู่แล้ว"
เรียวยะเพื่อนของยูทาโร่ทำหน้าไม่พอใจเล็กน้อยแต่เขาก็ตีหน้ากลับไปยิ้มได้เหมือนเดิม "คร้าบๆ คุณหลานชายบริษัทด้านการบันเทิงชั้นนำของเมืองนี้ คุณทาคากิ ยูทาโร่~"
"ฉันก็ไม่ได้ดีใจอะไรที่ได้เกิดมาเป็นแบบนี้หรอกนะ" ยูทาโร่หยิบโดนัทอีกชิ้นเข้าปาก และพวกเขาก็นั่งชมการแสดงต่อไปจนจบ...
หลังจากที่การแสดงจบลงผู้ชมทั้งหลายก็ค่อยๆทยอยออกมาจากสเตเดี่ยม ยุทาโร่กับเรียวยะก็ออกมาพร้อมกับคนเหล่านั้นด้วย และทั้งสองก็พบกับแถวต่อที่ยาวเหยียดเพื่อที่จะซื้ออะไรบางอย่าง
"คนพวกนี้ต่อแถวกันทำไมน่ะ ?" ยูทาโร่สงสัย
"อ้าว นายไม่รู้เหรอ ก็เขาขายแผ่นเพลงของไอดอลที่พวกเราเพิ่งดูไปน่ะสิ" เรียวยะบอก
"เป็นถึงหลานชายของประธานบริษัทไอดอล แต่กลับไม่รู้เรื่องบบนี้เนี่ยนะ"
"ก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่สนเรื่องแบบนี้" ยูทาโร่เถียงกลับ "และถึงแม้ฉันจะไม่รู้เรื่องแบบนี้ แต่ว่าเรื่องเรียนและเรื่องกีฬาฉันก็เหนือกว่านายนั่นล่ะน่า"
คำพูดนั้นทำเอาเรียวยะเกือบหงายหลัง "เอาล่ะ ยอมครับยอม มีเพื่อนแบบนายเนี่ยเหนื่อยจริงๆ"
"ถ้ารู้ตัวก็ดีแล้วนี่" ยูทาโร่ตอกย้ำ
"แต่ถึงอย่างงั้น...เพราะมีเพื่อนอย่างนายนี่ล่ะก็เลยทำให้ฉันได้มาดูคอนเสิร์ตนี้ ขอบใจจริงๆนะเพื่อน!" เรียวยะโอบไหล่เพื่อนของเขา
ยูทาโร่จับมือดึงแขนเพื่อนของเขาออก "พอแล้ว ทำเป็นพวกไม้ป่าเดียวกันไปได้"
"ครับๆ เข้าใจแล้วครับ" เรียวยะมองนาฬิกาข้อมือของตัวเองก็พบว่าตอนนี้ก็เกิอบจะ 2 ทุ่มแล้ว "สงสัยฉันคงจะต้องกลับแล้วล่ะ ไว้เจอกันใหม่นะเพื่อน!"
"เออ...โชคดี" ยูทาโร่อำลาเพื่อนของเขา เรียวยะขึ้นรถแท๊กซี่และขับออกไปไกลเรื่อยๆ...ก่อนที่จะลับสายตาของเขาไป
"เราเองก็ไม่มีอะไรจะทำแล้วสินะ.." ยูทาโร่เอามือล้วงกระเป๋ากางเกงและจะเดินออกไปจากที่แห่งนี้ แต่ว่า...
"นั่น ยูทาโร่ใช่มั้ย ?" เสียงของชายแก่คนหนึ่งเรียกชื่อของชายหนุ่มทำให้เขาหยุดและหันกลับไป "ใช่จริงๆด้วย หลานเองก็มาดูด้วยสินะ"
"คุณตาเองเรอะครับ" ยูทาโร่หันกลับไปพูดแบบไม่ได้ใส่ใจ
"ไม่ได้เจอหน้ากันตั้งนาน หลานโตขึ้นเยอะเลยนะ" คุณตากล่าว
"ผมจำได้ว่าครั้งล่าสุดที่เราเจอกันคือเมื่อเช้านี้นะครับ คุณตาอย่าเล่นมุขเลยจะดีกว่านะครับ" ยูทาโร่ตอบกลับไปแบบเย็นชา
"ยังเป็นคนชอบพูดแทงใจดำคนอื่นไม่เปลี่ยนเลยนะ ระวังแบบนี้จะไม่มีเพื่อนและจะหาแฟนไม่ได้เอาน้า~" คุณตาล้อยูทาโร่ แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจ
"ไม่รู้ว่าเธอได้นิสัยนี้มาจากใครหรอกนะ เพราะแม่ของเธอก็เป็นคนที่ไม่ได้พูดอะไรแบบนี้ พ่อของเธอเองก็เป็นคนว่านอนสอนง่ายกว่านี้เยอะ ตาเอง ทาคากิ โซอิจิโร่นี้ก็ไม่ได้เป็นคนแบบนี้เมื่อสมัยเด็กๆด้วย"
"ผมก็เป็นของผมแบบนี้ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพ่อหรือแม่สักหน่อยครับ" ยูทาโร่ยังตอบแบบเดิมๆ
"เฮ้อ...เอาเถอะ วันนี้หลานคิดจะไปไหนต่อล่ะ ?" โซอิจิโร่ถาม
"ก็ไม่รู้สิิครับ คงจะกลับบ้าน" ยูทาโร่ตอบ
"เหรอ จะกลับไปอ่านหนังสือติวข้อสอบเพื่อเข้า SMART BRAIN สินะ ?" โซอิจิโร่ถาม
"เปล่าครับ เรื่องเรียนน่ะต่อให้ไม่อ่านหนังสือเลยก็สบายมาก แต่ที่กลับไปบ้านเพราะไม่รู้ว่าจะไปทำอะไรที่ไหนแล้วต่างหาก" ยุทาโร่ยืนกอดอกมองหน้าตาของเขาอย่างสงสัย "ที่คุณตามาหาผมนี่คงจะมีเรื่องอะไรที่อยากคุยสินะครับ ?"
"ดูออกจริงๆสินะ สมกับที่เป็นหลานของตา" โซอิจิโร่กล่าวชมเชยแต่ยูทาโร่ก็ไม่ได้รู้สึกดีใจอะไร
"แล้วจะคุยเรื่องอะไรน่ะครับ ?" ยูทาโร่รีบตัดบทถามทันที
"คือจริงๆแล้วตามีคนที่อยากจะให้หลานไปพบอยู่น่ะ มากับตาหน่อยจะได้มั้ยล่ะ ?" คุณตาชักชวนชายหนุ่ม
"อืม...." ยูทาโร่ครุ่นคิดก่อนที่จะตัดสินใจ เพราะตอนนี้ถึงกลับไปที่บ้านเขาก็ไม่มีอะไรทำ "ก็ได้ครับ จะไปก็ได้"
"ที่จริงตาก็ไม่ได้จะให้ไปพบอะไรหรอกนะ แต่ว่าบ้านของเธออยู่ไกลมากและตอนนี้ก็ดึกแล้ว รถไฟที่จะให้เธอเดินทางกลับก็น่าจะไม่มีแล้ว จะให้ผู้หญิงกลับบ้านคนเดียวยามค่ำคืนมันก็ไม่ดีใช่มั้ยล่ะ" โซอิจิโร่อธิบาย
"ยังไงซะ ไปส่งซะก็ยังดีกว่า"
"ครับๆผมเข้าใจแล้วครับ แล้วจะให้ไปรับเธอคนนั้นที่ไหนล่ะครับ ?" ยูทาโร่ถามสถานที่
"ก็ที่ทำงานตาไงล่ะ" โซอิจิโร่ตอบ เขาทั้งสองก็เดินไปยังที่แห่งนั้นที่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่ทันที
ค่ำคืนยามราตรีที่ยังคงมีเสียงของผู้คนมากมาย และแสงไฟของร้านค้าต่างๆ
ขนนกสีดำที่ร่วงลงมาตามสายลม พร้อมกับร่างของชายผู้หนึ่งผู้มีปีกสีดำที่หลัง
กำลังจ้องมองชายแก่และหลานชายของเขาอยู่ห่างๆ โดยที่พวกเขาทั้งสองไม่รู้สึกถึงสายตาที่จ้องมองพวกเขาเลย
"นั่นคือเป้าหมายสินะ" ชายปีกสีดำกระโดดหายไปท่ามกลางท้องฟ้าที่มืดมิด
และนี่ก็คือ...จุดเริ่มต้นของชะตากรรม...ของชายหนุ่มผู้เป็นหลานชายของชายแก่ผู้นั้น....
.
.
.
.
หน้าทางเข้าบริษัท 765 โปรดักชั่น เวลา 20.15 น.
คุณตาของยูทาโร่พาเขามายังบริษัทของเขาที่ดูใหญ่กว่าที่เด็กหนุ่มคิดไว้มากและมีป้าย 765 เขียนไว้ด้านบน
"ที่นี่คือบริษัทของตายังไงล่ะ เป็นยังไงบ้าง ?" โซอิจิโร่ถามความเห็นจากหลานชายเขา
"ก็ดูดีกว่าที่คิดนะครับ แต่ว่าก็ยังดูขาดอะไรไปหลายอย่างเลย" ยูทาโร่วิจารณ์ตามความคิดของเขา
"นี่ตาก็พยายามทำเต็มที่แล้วนะ ถึงจะดูไม่ค่อยมีอะไรมาก แต่ที่นี่ก็เป็นที่ที่ดีนะ" โซอิจิโร่บอกกับเขา
"ครับ ก็อาจจะจริงอย่างที่คุณตาบอก" ยูทาโร่มองขึ้นไปบนบริษัท 765 ที่นี่อาจจะไม่ได้สวยหรูอะไรมากมายแต่ว่าสำหรับคนที่ทำงานที่แล้ว ก็อาจจะเป็นที่ที่ให้ทุกคนทำงานร่วมกันอย่างมีความสุขได้
"แล้วเมื่อไหร่เราจะเข้าไปข้างในล่ะครับ ?"
"ฮะๆ งั้นก็เข้าไปกันเลย" โซอิจิโร่เดินนำเข้าไปข้างในก่อน ยูทาโร่เดินตามเข้าไป
ทั้งสองเดินมาที่ลิฟท์และกดลิฟท์ขึ้นไปชั้นบนเพื่อไปที่ห้องทำงานของโซอิจิโร่ "ห้องตาอยู่ข้างบนนี้ล่ะ ก็ตาเป็นประธานบริษัทนี่นะ ฮ่าๆๆๆ"
"ที่นี่เป็นลิฟท์แก้วงั้นเรอะ" ลิฟท์เคลื่อนตัวขึ้นไป กระจกของลิฟท์สามารถมองออกไปข้างนอกเพื่อที่จะชมิวข้างนอกได้อีกด้วย
"ทุกคนที่นี่ทำงานกันดีมั้ยครับ ?" ยูทาโร่ถามเรื่องภายในบริษัท
"ทุกๆคนก็พยายามกันอย่างเต็มที่นั่นล่ะ ทั้งทีมงานของตา ทั้งไอดอลทั้งหลาย พวกเขาทำไม่ใช่เพราะทำเพืื่อบริษัทของตา...แต่พวกเขาทำเพื่อความฝันของพวกเขาเอง ตาเชื่อว่าสิ่งนั้นจะช่วยเป็นแรงผลักดันให้พวกเธอเหล่านั้นก้าวไปข้างหน้าได้" โซอิจิโร่พูดขณะที่เขาำลังมองออกไปนอกกระจกแก้ว ชมทัศนวิสัยของเมืองยามค่ำคืน
"ความฝันอย่างงั้นเรอะครับ...ก็อาจจะเป็นเรื่องที่ดีนะครับ" ชายหนุ่มออกความเห็น
เขากุมของบางอย่างไว้ในกระเป๋ากางเกงเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ โซอิจิโร่เองก็สังเกตเห็นแต่ว่าก็ไม่ได้เอ่ยปากถามอะไร
"แล้วเรื่องเรียนเป็นยังไงบ้างล่ะ ?" โซอิจิโร่เปลี่ยนเรื่องคุย
"ก็ดีครับ เดี๋ยวนี้วิชาอะไรๆมันก็ง่ายไปหมด" ยูทาโร่ตอบแบบหน้าตาเฉย
"ตาจำได้ว่ามีนักเรียนหลายคนบอกว่าการเรียนของที่นี่ยากสุดไปเลยนะ" ชายแก่แย้ง
"ก็อาจจริง แต่สำหรับผมมันก็แค่เรื่องง่ายๆ" ชายหนุ่มตอบ
ไม่นานนักลิฟท์ก็เคลื่อนมาถึงชั้นบน ทั้งสองก็เดินเข้ามาในห้องทำงานของโซอิจิโร่
ประธานเดินไปเช็คของที่วางอยู่บนโต๊ะ ชายหนุ่มเดินสำรวจดูของรอบๆ จนเขาเดินไปพบกับภาพของเขาที่ถ่ายกับแม่ตั้งอยู่ในกรอบรูปตั้งอยู่บนชั้นวางหนังสือ ยูทาโร่ก็หยิบขึ้นมารำลึกถึงเรื่องเก่าๆ
โซอิจิโร่สังเกตเห็นหลานชายเขากำลังมองรูปภาพนั้นอยุ่ เขาเลยไม่เข้าไปยุ่งอะไร
ตอนนั้นเองโทรศัพท์บนโต๊ะของเขาก็ดังขึ้น ทำให้ท่านประธานต้องไปรับสาย "ครับ ทาคากิ โซอิจิโร่ประธานบริษัท 765 โปรดักชั่นพูดครับ"
"อา โอโตนาชิคุงเองเรอะ เป็นไงบ้างเรื่องที่ขอให้ช่วยนั่นไปถึงไหนแล้ว ?" โซอิจิโร่คุยธุระกับคนในสาย
ยูทาโร่ที่รำลึกเรื่องเก่าๆเสร็จแล้วก็วางภาพไว้ที่เดิม ตอนนั้นเองที่เขาสังเกตเห็นอัญมณีสีแเงที่ถูกสลักลงกับแหวน ด้วยนิสัยที่ชื่นชอบอัญมณีของยูทาโร่ ทำให้เขาอดที่จะเก็บมันไว้ในกระเป๋าเสื้อก่อนที่จะเดินกลับไปหาคุณตา
"เข้าใจแล้ว ฝากทางนั้นด้วยนะ แล้วฉันจะตามไปทีหลัง" โซอิจิโร่พูดเสร็จก็วางสายไป
"ใครเหรอครับ ที่คุยด้วยนั่นน่ะ ?" ยูทาโร่ถาม
"ไม่มีอะไรหรอกก็แค่เลขาของตาน่ะ ตาวานให้เธอไปทำอะไรให้อยุ่น่ะ และดูท่าตอนนี้ก็เสร็จแล้วล่ะ" โซอิจิโร่ตอบ "เท่านี้งานวันนี้ก็เสร็จแล้วล่ะ"
"คุณตาจะไม่ไปดูงานทางนั้นเหรอครับ ?" ยูทาโร่ถาม
"เดี๋ยวหลังจากเสร็จตรงนี้แล้วถึงจะไปน่ะ"
โซอิจิโร่ไปนั่งที่โต๊ะพร้อมกับหยิบบัตรประจำตัวของชายผู้ที่มาส่งของเมื่อบ่ายขึ้นมา ทำให้เขานึกเรื่องนี้ออก
"รู้มั้ยว่าวันนี้น่ะที่บริษัทเกิดเรื่องที่เกือบที่จะทำให้ไม่ได้แสดงแล้วน่ะ"
"เกิดเรื่องอะไรขึ้นงั้นเหรอครับ ?" ชายหนุ่มถามพร้อมกับเดินสำรวจห้องของตาเขาอีกครั้ง
"คือทางทีมงานของตาน่ะ ลืมเอกสารสำคัญที่จำเป็นในการแสดงสดครั้งนี้ไว้ที่อื่นน่ะ เป็นเอกสารที่สำคัญมาก เรียกได้ว่าหากขาดเอกสารนั้นไปการแสดงในครั้งนี้จะต้องถูกยกเลิกในทันที ตอนแรกตาก็คิดว่าจะต้องล้มเลิกแล้วจริงๆ" โซอิจิโร่เล่า
"แต่ว่าก็จัดแสดงได้หนิครับ หรือว่ามีคนไปเอาเอกสารนั้นมา ?" ยูทาโร่ถามพร้อมกับตรวจดูหนังสือในตู้ของโซอิจิโร่ ซึ่งแต่ละเรื่องจะต้องเป้นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับศาสตร์เวทมนต์ บางเล่มมีลักษณะเหมือนกับคัมภีร์เวทมนต์จริงๆ บางเล่มก็เป็นแค่นวนิยายที่เป็นเรื่องเล่าของเวทมนต์เท่านั้น
"เลขาของตาได้ไปจ้างให้คนจากบริษัทส่งของให้มาช่วยส่งของที่นี่น่ะ เลยรอดไปได้อย่างหวุดหวิดเลย"
ชายแก่เล่าเรื่อง "แล้วหลานก็มาดูคอนเสิร์ตด้วยสินะ คิดว่าเป็นยังไงบ้างล่ะ ไอดอลของตาสวยและน่ารักทุกคนใช่มั้ย ?"
"ไม่รู้สิครับ ผมไม่ได้สนใจบนเวทีเลย คนที่ดูน่ะคือเพื่อนผม" ยูทาโร่ตอบไปตามความจริง
"อุตส่าห์ให้ตั๋วที่นั่งที่แพงที่สุด 2 ใบแล้วนะ ไม่คิดถึงคุณค่าของมันบ้างเลยเรอะ ?" คุณตาถาม
"ก็ไม่ได้คิดอะไรนะครับ ก็แค่คิดว่าเป็นตั๋วบัตรชมทั่วไปเท่านั้นเอง" ยูทาโร่ตอบพร้อมกับปิดตู้หนังสือของโซอิจิโร่ หลังจากที่สำรวจจนพอใจแล้ว "จะว่าไปเมื่อไหร่คนที่ตาบอกจะมาซักทีครับ นี่ก็นานมากแล้วนะครับ"
"จริงด้วยสิ.." โซอิจิโร่มองนาฬิกาพบว่าเกิน 2 ทุ่ม ครึ่งแล้ว "...นี่ก็นานผิดปกติแล้วนะ"
"เดี๋ยวผมจะออกไปดู..." ยูทาโร่เดินไปที่ประตูทางออกจากห้องของโซอิจิโร่
"ขอโทษที่มาช้าค่ะ!" เสียงของหญิงสาวคนนึงดังขึ้นและเธอก็เปิดประตูเข้ามา "พอดีต้องกลับไปเอาขอ...!!"
"ว้ายยย!!!/โอ้ยย!"
เพราะความรีบเร่งของหญิงสาวทำให้เธอไม่ทันระวังจึงชนกับชายหนุ่มและทำให้ล้มลงทั้งคู่
"นี่เธอน่ะ...เวลาวิ่งก็หัดดูทางให้ดีๆก่อนสิ!" ยูทาโร่ต่อว่าหญิงสาวกลับไป
"ขะ..ขอโทษนะ..." หญิงสาวบอกขอโทษด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวาน
"นี่เธอ...!?" พอชายหนุ่มได้เห็นหน้าของหญิงสาวที่เขากำลังทับอยู่ดีๆก็ทำให้เขานึกออกว่า จริงๆแล้วเธอคือผู้หญิงที่เป็นไอดอลบนเวทีก่อนหน้านี้ ที่มองและส่งสายตามาที่เขาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้
"....." ทั้งคู่สบตากันอีกครั้งและต่างเงียบไม่พูดไม่จาอะไร
"แหม แค่เพิ่งเคยเจอกัน ก็จะแต่งงานกันแล้วเหรอ ?" โซอิจิโร่ล้อหลานชายและหญิงสาว เพราะตอนนี้พวกเขาทั้งสองใกล้ชิดกันมาก ฝ่ายชายเป็นฝ่ายล้มคว่ำทับฝ่ายหญิง ฝ่ายหญิงนอนหงายและถูกฝ่ายชายจับไว้
"ท่านประธานคะอย่าพูดเล่นแบบนี้สิคะ!" หญิงสาวรีบโต้แย้งขึ้นมาทันที
ยูทาโร่ลุกขึ้นและช่วยจับมือของหญิงสาวให้ลุกขึ้นมาพร้อมกัน "นั่นสิครับ คุณตา เรื่องแบบนี้เอามาพูดเล่นมันก็เกินไปนะครับ"
"น่าๆก็ขอโทษด้วยละกัน" โซอิจิโร่พยายามกล่อมทั้งสองให้ใจเย็นลง "เอาล่ะ ในที่สุดก็มาแล้วล่ะนะ"
"คนนี้เหรอครับ ที่คุณตาจะต้องไปส่ง ?" ยูทาโร่ถามอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ
"ใช่แล้วล่ะ แนะนำตัวให้หลานชายฉันรู้จักหน่อยสิ อามามิคุง" โซอิจิโร่บอกกับหญิงสาวที่ยืนข้างๆชายหนุ่ม
"ค่ะ ท่านประธาน" หญิงสาวหันไปหายูทาโร่และแนะนำตัวกับเขา "ฉันชื่ออามามิ ฮารุกะ เป้นไอดอลของ 765 โปรดักชั่นน่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะ คุณหลานชายของท่านประธาน"
"อะ..อืม ทางนี้ก็เช่นกัน" ยูทาโร่จับมือกับฮารุกะ "ฉันทาคากิ ยูทาโร่ ยินดีที่ได้รู้จัก คะ..คุณอามามิ.."
"เรียกฉันว่าฮารุกะก็ได้ แบบนั้นฟังดูเป็นเพื่อนกันมากกว่านะ ยูทาโร่คุง!" ฮารุกะยิ้มให้กับเขา
"เข้าใจแล้ว แบบนั้นก็ได้...ฮารุกะ..จัง"
"เอาล่ะ รู้จักกันแล้วก็ไปกันได้แล้วล่ะ นี่มันก็มืดมากแล้ว" โซอิจิโร่บอก
"ครับ/ค่ะ!" ทั้งสองตอบรับพร้อมกัน
"แล้วต้องไปไหนงั้นเหรอครับ ?" ยูทาโร่ถามก่อนที่จะเดินออกไปจากห้อง
"ก็แน่อยู่แล้ว ต้องไปส่งอามามิคุงที่บ้านของเธอยังไงล่ะ" โซอิจิโร่ตอบ
"งั้นเหรอครับ" ยูทาโร่ยอมเข้าใจและตามดซอิจิโร่ไป
บนรถของโซอิจิโร่ ถนนเส้นทางจากเอเรีย 1 สู่เอเรีย 9 เวลา 20.50 น.
โซอิจิโร่ขับรถไปตามถนนเส้นทางจากเอเรีย 1 สู่เอเรีย 9 พร้อมกับยูทาโร่และฮารุกะที่นั่งอยู่เบาะหลัง
"ฮารุกะจัง บ้านอยู่ที่เอเรีย 9 เลยเรอะ มันไกลมากเลยนะ แล้วเวลามาทำงานที่นี่มายังไงล่ะ ?" ยูทาโร่ถามขณะที่นั่งอยู่ในรถ
"ก็ต้องขึ้นรถไฟตั้งแต่ตี 6 แล้วก็จะมาถึงที่นี่ประมาณ 8 โมงน่ะ เวลาที่ไปโรงเรียนก็อาจจะต้องขึ้นสายที่เช้ากว่านั้นเช่น ตี 5 น่ะนะ" ฮารุกะบอก "ส่วนขากลับก็ต้องกลับก่อน 1 ทุ่ม ไม่งั้นจะไม่มีรถไฟขากลับน่ะ เพราะรถไฟที่จะมาจากเอเรีย 1 ไป 9 น่ะแทบจะไม่มีเลย มีแต่ 9 มา 1 เท่านั้นล่ะ"
"แบบนั้นมันต้องตื่นเช้ามากเลยไม่ใช่เรอะ แล้วแบบนี้จะไม่ลำบากเรอะ ?" ยูทาโร่ถาม
"ก็นะ อาจจะลำบากอยู่นิดนึง แต่ว่าฉันน่ะชอบฟังเพลงและซ้อมร้องเพลงขณะที่อยู่บนรถน่ะก็เลยไม่เคยเบื่อเลย และบางทีน้องชายก็จะมาด้วย ทำให้บางทีก็มีเพื่อนคุยด้วยล่ะนะ" ฮารุกะตอบ
"อามามิคุงน่ะเป็นคนที่ขยันที่สุดในบริษัทเลยก็ว่าได้นะ เธอน่ะพยายามอย่างเต็มที่ตลอดทุกครั้งเลย แบบนี้ก็อาจจะอนาคตไกลก็ได้นะ" โซอิจิโร่เสริม
"ท่านประธานก็ชมเกินไปแล้วล่ะค่ะ หนูเองก็ยังอ่อนหัดอยู่ แต่ว่าหนูก็ตั้งใจพยายามให้ถึงที่สุดค่ะ!" ฮารุกะตั้งมั่น
"แต่ถึงอย่างงั้นก็ซุ่มซ่ามอยู่ดี หกล้มตลอดเลย" โซอิจิโร่ล้อ
"แหม ท่านประธานล่ะก็.." ฮารุกะทำหน้าบูด
"ฮ่ะๆๆ แล้วทำไมฮารุกะจังถึงมาเป็นไอดอลล่ะ หมายถึงเหตุผลที่ทำให้อยากมาทำงานนี้น่ะ" ยูทาโร่ถาม
"เหตุผลที่อยากให้มาเป็นไอดอลเหรอ" ฮารุกะเอานิ้วชี้ป้องปากและคิดถึงเหตุผลที่เธอมาทำงานนี้
"เพราะเมื่อก่อนเมื่อตอนเด็กๆ ฉันน่ะได้ไปดูคอนเสิร์ตกับคุณพ่อสองคน และพอฉันได้ดูการแสดงบนเวทีครั้งนั้น ก็ทำให้ฉันรู้สึกอยากจะเป็นแบบพวกเธอบ้าง แบบนั้นน่ะ"
"หลังจากนั้นฉันก็พบว่าตัวเองก็มีความปรารถนาที่ตัวเองต้องการจริงๆ จึงได้มาเป็นไอดอลน่ะ" อารุกะบอก
"ความปรารถนานั่นคืออะไร ?" ยูทาโร่ถาม
"นั่นก็คือ....ฉันน่ะอยากให้ทุกๆคนมีความสุข อยากสร้างรอยยิ้มให้กับทุกๆคน" ฮารุกะตอบด้วยแววตาที่ใสซื่อ เหมือนดั่งสาวบริสุทธิ์ที่หลงเข้าไปในดินแดนมหัศจรรย์ สิ่งนั้นทำให้เธอดูเปล่งประกาย และเป็นตัวของตัวเองอย่างถึงที่สุด
"ฮึๆๆ ฮ่าๆๆๆๆๆ" แต่ว่าคำตอบนั้นก็ชวนให้ไม่ขำไม่ได้เช่นกัน
"สร้างรอยยิ้มให้ทุกคนเหรอ เป็นความคิดที่ดูเพ้อฝันจังเลยนะ และเรื่องแบบนั้นไม่น่าจะทำได้หรอก มันไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่ายๆเลยด้วย!"
"ถึงจะเป็นเรื่องที่ยากจนฉันอาจจะทำไม่ได้ก็ตามที แต่ว่าฉันก็ยังเชื่อนะ..ยังเชื่อว่าซักวันนึง ฉันจะต้องทำตามความฝันนั้นให้สำเร็จให้ได้!" ฮารุกะพูดด้วยความมั่นใจ ทำเอายูทาโร่อึ้งเงียบไปเลย
"ฉันล่ะยอมเธอจริงๆ เธอเป็นคนแรกนะที่ทำเอาฉันพูดไม่ออกได้น่ะ" ยูทาโร่บอก
"เอ๊ะ จริงเรอะ แบบนี้ก็เป็นเรื่องน่ายินดีสินะ" ฮารุกะยิ้มดีใจ
"เชื่อเลย เพิ่งเคยเจอผู้หญืงที่เหมือนหลงไปอยู่ในโลกแห่งความฝันอย่างเธอเป็นคนแรกนี่ล่ะ"
ยูทาโร่ชมฮารุกะจากใจจริงของเขา
"แล้วพ่อกับแม่ของฮารุกะจังทำงานอะไรล่ะ ?" ยูทาโร่เปลี่ยนคำถาม
"คุณพ่อของฉันน่ะทำงานเป็นหัวหน้ากรมตำรวจของเอเรีย 9 น่ะ ดำรงตำแหน่งสูงสุดเลยล่ะนะ ส่วนคุณแม่เป็นหนึ่งในคณะกรรมการผู้ดูแลเอเรีย 9 น่ะ ส่วนน้องชายของฉันก็อ่อนกว่าฉันแค่ปีเดียว ตอนนี้ฉันกำลังจะขึ้น ม.4 แล้ว แต่ยังหาที่เรียนไม่ได้เลย และถ้าเป็นไปได้พ่อกับแม่ก็อยากให้เราสองคนเรียนที่เดียวกันน่ะ" ฮารุกะบอก
"ถ้าอย่างงั้นก็มาเรียนที่ SMART BRAIN สิ" ยูทาโร่แนะนำ
"ที่นั่นน่ะเป็นโรงเรียนประจำที่มีขนาดกว้างใหญ่ที่สุดในเอเรีย 2 หรือจะพูดให้ถูกก็คือทั้งเอเรียนั้นเป็นเขตของโงเรียนเลยก็ได้ล่ะนะ แต่ว่าถ้าไปเรียนที่นั่นก็จะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้เพราะจะต้องพักที่หอพักที่นั่น และที่นั่นก็ยังเปิดสอนตั้งแต่อนุบาลยันไปถึงมหาวิทลัยเลยด้วย แบบนั้นน่าจะสะดวกกว่านะ"
"เหรอ อืม....เดี๋ยวจะลองไปปรึกษากับพ่อแม่และน้องชายดูก่อนนะ" ฮารุกะบอก
"อืม ก็แล้วแต่นะ"
"แล้วพ่อและแม่ของยูทาโร่คุงทำงานอะไรงั้นเหรอ ?" ฮารุกะเป็นฝ่ายถามกลับบ้าง
"แม่ของฉันเปิดร้านขายอัญมณีอยู่ที่บราซิลน่ะ ท่านค่อนข้างจะชอบออกผจญภัยไปตามล่าอัญมณีหายากด้วย ส่วนพ่อของฉัน...." พอยูทาโร่พูดถึงพ่อของเขา เขาก็แสดงสีหน้าไม่ดีนักและเงียบไป
"คือว่า..."
แต่ว่าจู่ฮารุกะก็กุมมือทั้งสองข้างของชายหนุ่มไว้ "....ฮารุกะจัง..?"
"ถ้าไม่อยากพูดก็ไม่เป็นไรหรอก ฉันก็ขอโทษที่ถามเรื่องนี้นะ" ฮารุกะเข้าใจความรู้สึกของยูทาโร่ได้อย่างรวดเร็ว และปลอบโยนเขา โดยที่เธอไม่ต้องเอ่ยคำพูดใดๆออกมา
"ฉันเองก็ขอโทษนะ" ยูทาโร่ปล่อยมือจากหญิงสาว
ทาคากิ โซอิจิโร่มองภาพทั้งสองคนในกระจกมองหลังและแอบอมยิ้มเล็กน้อย
ตู้มมม!!!!
"ฮะ!?" เกิดระเบิดขึ้นตรงถนนด้านหน้าทำให้โซอิจิโร่ต้องเลี้ยวหักหลบอย่างกระทันหัน ส่งผลให้รถไปชนกับต้นไม้ข้างทางเข้าอย่างจัง
"พวกเธอสองคนไม่เป็นไรนะ!?" ทาคากิห่วงความปลอดภัยของเด็กๆทั้งสองก่อน
"ผมไม่เป็นไรครับ!" ยูทาโร่บอก
"หนูเองก็ไม่เป็นไรค่ะ" ฮารุกะบอก
"ทั้งสองคนรีบลงจากรถเร็วเข้า!" โซอิจิโร่ตะโกน จากนั้นก็รีบปลดเข็มขัดนิรภัยและกระโดออกทางหน้าต่างรถทันที
"เร็วเข้าเถอะ ฮารุกะจัง!" ยูทาโร่บอกกับฮารุกะ หญิงสาวรีบเปิดประตูรถและรีบวิ่งลงจากรถ ส่วนชายหนุ่มก็รีบวิ่งตามไปติดๆ
ทันทีที่ออกมาหมดนั้นก็มีขนนกสีดำพุ่งแทงใส่รถของโซอิจิโร่ ทำให้เกิดระเบิดขึ้น กระแทกยูทาโร่กระเด็นไปชนกับโซอิจิโร่ "อ้ากกก!!"
"ยูทาโร่ไม่เป็นไรนะ" โซอิจิโร่ถามอาการของหลานชายของเขา
"ครับ คะ..แค่โดนแรงกระแทกนิดหน่อย" ยูทาโร่บอก
"ฮ่าๆๆๆๆ ยังรอดมาได้อีกเรอะ ทาคากิ โซอิจิโร่!" ชายปีกสีดำบินลงมายืนอยู่บนเสาไฟ
เขาคือตัวการผู้ลอบโจมตีโซอิจิโร่ในครั้งนี้ "แกนี้มันหนังเหนียวจริงๆ แต่ว่าวันนี้จะเป้นวันตายของแก"
"คุณตา...เจ้านั่นมัน!?" ยูทาโร่ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองว่าสิ่งทีเขาเห็นอยู่นั้นคือมนุษย์ที่มีปีกที่หลังจริงๆ แต่เขาก็รู้ตัวดีว่านี่ไม่ใช่ความฝัน แต่เป็นความจริง
"แกเป็..." ก่อนที่ยุทาโร่จะพูดอะไรก็ถูกโซอิจิโร่หยุดไว้
"อามามิคุง รีบพายูทาโร่หนีไปเดี๋ยวนี้!" โซอิิจิโร่สั่งฮารุกะ
"เดี๋ยวครับ หมายความว่ายังไงแล้วคุณตาล่ะ ?" ยูทาโร่ลุกขึ้นถามอย่างร้อนรน
"ตาจะถ่วงเวลามันไว้เอง พวกเธอสองคนรีบหนีไปให้เร็วและไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ เข้าใจมั้ย" ชายแก่สั่ง
ถึงโซอิจิโร่จะสั่งแล้วก็ตามแต่ยูทาโร่ก็ยังคงดื้อดึงไม่ยอมทำตาม "ใครจะไปทำแบบนั้นกันล่ะครับ ผมจะอยู่กับคุณตา!"
หมัดซ้ายของชายแก่พุ่งเข้าใส่หน้าของชายหนุ่มเต็มๆ ทำให้ตัวเขาล้มลงไม่เป็นท่า "ทำไมถึงต้อยผมล่ะครับ!?"
"ก็บอกว่าให้รีบไปไง พวกเธอน่ะอยู่ที่นี่ก็เป็นได้แค่ตัวถ่วงเปล่าๆ" โซอิจิโร่ตวาดใส่หลานชายของเขา แต่ยูทาโร่ก็ยังคงไม่ยอมไปไหน "อามามิคุง รีบพายูทาโร่ไป เดี๋ยวนี้!!"
"ค่ะ!" ฮารุกะรับคำสั่งของโซอิจิโร่และจับแขนยูทาโร่พาวิ่งหนีทันที
"ไม่ ฮารุกะจังฉันจะต้องช่วยคุณตาก่อน!" ยูทาโร่บอกกับฮารุกะ
"พวกเราทำอะไรสัตว์ประหลาดนั่นไม่ได้หรอกนะ" ฮารุกะบอกกับยูทาโร่ด้วยสายตาที่จริงจัง เธอดูไม่ตื่นกลัวกับเหตุการณ์ประหลาดในครั้งนี้เลย แถมยังดูเหมือนเธอเคยผ่านเรื่องแบบนี้มานับครั้งไม่ถ้วนแล้วด้วย
"ถึงเราจะอยากทำอะไร...แต่ว่าสำหรับคนที่ไร้พลังอย่างพวกเราแล้วน่ะ...มันก็ทำอะไรไม่ได้หรอกนะ"
จริงอย่างที่ฮารุกะพูด ยูทาโร่ก้มหน้าลงและจำใจวิ่งหนีไปพร้อมกับเธอ
"ไม่ยอมให้หนีหรอก!!" ชายปีกดำกลายร่างไปเป็นปิศาจอีกาและปล่อยขนนกสีดำโจมตีใส่ทั้งสอง
WALL,now
กำแพงอิฐผุดขึ้นมาจากพื้นดินกลายเป็นเกราะป้องกันพวกยูทาโร่ไว้ ทำให้ขนนกสีดำระเบิดใส่กำแพงนั้นแทน
"ไม่ยอมให้ไปทำอะไรหลานชายและไอดอลของฉันหรอก!"
"โห นี่สินะเวทมนต์น่ะ!" ลอสท์โครว์(อีกา) บินลงมาจากเสาไฟฟ้าลงมายืนที่พื้น
"ถ้าอย่างงั้นจะขอจัดการกับแกก่อนที่จะตามไปจัดการสองคนนั้นก็แล้วกัน" มันกางปีกสีดำและบินขึ้นไปบนท้องฟ้าอีกครั้ง
"แกจะไม่มีทางที่จะผ่านตรงนี้ไปได้!" โซอิจิโร่สวมแหวนรูปร่างประหลาดใส่นิ้วกลางข้างขวาของเขา จากนั้นก็เผยให้เห็นเหัวเข็มขัดรูปมือที่อยู่ที่เอวของเขา จากนั้นเขาก็นำมือข้างที่สวมแหวนทาบไปที่เข็มขัด
CONNECT,now
เขาสร้างวงเวทย์สีทองออกมา แล้วเขาก็หยิบปืนออกมาจากวงเวทย์นั้น
"เอาล่ะ ได้เวลาเริ่มแล้ว!" โซอิจิโร่ยิงกระสุนปืนจำนวนมากภายในการยิงครั้งเดียวใส่ลอสท์กลางอากาศ
"ของแบบนั้นคิดจะเอามาสู้กับข้างั้นเรอะ ช่างโงเขลานัก!" โครว์บินหลบกระสุนเหล่านั้นได้อย่างสบายๆและพุ่งลงมาโจมตีด้วยกรงเล็บที่เท้าใส่โซอิจิโร่ด้านล่าง
"หึ่ม!!" โซอิจิโร่ชักปืนของตัวเองและยืดออกทำให้อาวุธเปลี่ยนเป็นดาบ และรับการโจมตีของโครว์ไว้
"ไม่เลวนี่ แต่จะต้านไปได้สักกี่นาน" โครว์บินวนกลับขึ้นไปบนฟ้าและปล่อยขนนกสีดำโจมตีใส่จำนวนมาก
"ไม่ได้ผลหรอก!" โซอิจิโร่ฟันตัดทำลายขนนกสีดำที่โครว์ปล่อยออกมาทั้งหมดลงได้ "การโจมตีแบบนั้นใช้กับฉันไม่ได้!"
"โอ๊ะโอ่ คิดแบบนั้นเหรอ" โครว์ดีดนิ้ว ทันใดนั้นขนนกที่ปักอยู่ที่พื้นด้านหลังของโซอิจิโร่ก็ระเบิดขึ้นทำให้ชายแก่รับแรงกระแทกของระเบิดไปทำให้เสียหลักล้มลงมาข้างหน้า
"ฮ่าๆๆๆ เจอนี้อีกเป็นไง!"
ขนนกสีดำนับสิบปักลงที่พื้นด้านหน้าของโซอิจิโร่และมันก็ระเบิดในทันที
ตู้มมม!!!
"อ้ากกก!!!" โซอิจิโร่รับแรงระเบิดนั้นเข้าไปเต็มๆ
.
.
.
.
บนถนนเส้นทางจากเอเรีย 1 สู่เอเรีย 9 ห่างจากจุดที่โซอิจิโร่อยู่ไม่มากนัก เวลา 21.20 น.
ทาคากิ ยูทาโร่และอามามิ ฮารุกะวิ่งหนีออกมาจากจุดที่โซอิจิโร่อยู่ไม่มากนัก
เมื่อได้ยินเสียงระเบิดก็ต้องหยุดหันกลับไปทางนั้น ชายหนุ่มรู้สึกเป็นห่วงคุณตาของเขาเป็นอย่างมาก "คุณตา..."
"ยูทาโร่คุง ท่านประธานบอกให้เรารีบหนีนะ!" ฮารุกะบอกกับยูทาโร่
"ฮารุกะจัง...ฉันขอโทษ ฉันทำแบบนั้นไม่ได้" ยุทาโร่ตอบและหันหลังกลับไปยังจุดที่ตัวเองเพิ่งวิ่งมา
"ฉัน...จะต้องกลับไปช่วยคุณตาของฉัน ต้องกลับไปช่วยเขา!"
"แต่ว่ายูทาโร่คุงไม่มีพลังที่จะสามารถไปทำอะไรลอสท์ตัวนั้นได้เลยนะ!" ฮารุกะเตือนและจับแขนของชายหนุ่มไว้ "และถ้าเธอกลับไปเธอจะสามารถทำอะไรได้ล่ะ จะให้การเสียสละของท่านประธานสูญเปล่างั้นเรอะ ?"
"ฉะ..ฉันก็ไม่รู้ รู้แค่ว่าตอนนี้ ฉันจะต้องกลับไปเท่านั้น" ยูทาโร่สลัดมือของฮารุกะออก และรีบวิ่งกลับไปทันที
"ยูทาโร่คุง!!" ฮารุกะตะโกนไล่หลังของเขา แต่เขาก็วิ่งกลับไปโดยที่ไม่หันกลับมาเลย "ถ้ายูสุเกะอยู่ด้วยล่ะก็..."
หญิงสาวตัดสินใจที่จะวิ่งตามชายหนุ่มกลับไป ถึงแม้จะรู้ดีว่าถ้ากลับไปแล้วตัวเองจะไม่สามารถทำอะไรได้เลยก็ตาม
"รอก่อนนะครับ คุณตา ผมกำลังจะไปช่วยแล้ว!!" ยูทาโร่ตัดสินใจอย่างแน่วแน่และรีบวิ่งย้อนกลับไปโดยเร็วที่สุด
กลับมาที่โซอิจิโร่ ผลจากแรงระเบิดทำให้ร่างกายของเขาบอบช้ำ มีบาดแผลไปทั่วร่าง
"แค่ก..แค่ก!" ชายแก่ไอเพราะร่างกายของเขามาถึงขีดสุดแล้ว ไม่สามารถที่จะฝืนสังขารไปมากกว่านี้ได้
ลอสท์โครว์บินลงมาที่พื้น มายืนอยู่ตรงหน้าของเขา "แกน่ะมันแก่แล้วโซอิจิโร่ ยอมตายซะดีๆเถอะน่า!"
"ฉะ..ฉัน จะไม่ยอมให้แกไปทำร้ายสองคนนั้นเด็ดขาด!" โซอิจิโร่ใช้แรงเฮือกสุดท้ายฝืนพยายามลุกขึ้นยืนใหม่ "ถ้าจะไป...ก็ต้องข้ามศพฉันไปก่อน"
"พอดีฉันก็คิดจะทำแบบนั้นตั้งแต่แรกอยู่แล้วล่ะนะ!" โครว์กางปีกออกและตั้งท่าพร้อมจะพุ่งชน "ตายซะเถอะ!"
ทันทีที่ปีกสีดำของปิศาจอีกาตรงหน้าพุ่งเข้ามาด้วยความเร็ว ชายแก่ที่ไม่เหลือแรงที่จะขยับไปไหนแล้วก็ยืนรอรับความตายอยุ่นิ่งๆ
"ยูทาโร่...ตาคงจะมาได้แค่นี้...ที่เหลือของฝากหลานด้วยนะ.." โซอิจิโร่พูดสั่งเสียและหลับตาลงรอรับความตาย
"อย่ามาพูดบ้าๆแบบนั้นน้า!!!" ชายหนุ่มวิ่งเข้ามากระโดดผลักชายแก่หลบการการโจมตีของโครว์ไปได้อย่างฉิวเฉียด
ทั้งสองล้มลง โซอิจิโร่พบว่าคนที่มาช่วยเขาไว้ก็คือหลานชายของเขาเอง
"ยูทาโร่ทำไมถึงกลับมา บอกไปแล้วว่าให้หนีไปไม่ใช่เรอะ!?"
ยูทาโร่กำหมัดแน่น กัดฟันกรอดและตอบโซอิจิโร่กลับไป
"เรื่องบ้าๆแบบนั้นจะให้ทำได้ยังไง คุณตาเป็นคนสำคัญของผม ผมก็ต้องปกป้องสิถึงจะถูก แก่แล้วยังทำเท่ พอสู้ไม่ได้ก็เอะอะว่าจะตงจะตาย นี่มันไม่ใช่เกมนะครับที่ตายแล้วจะกดเริ่มใหม่ได้!"
"ยะ..ยูทาโร่.." โซอิจิโร่อึ้งที่หลานชายของเขามาพูดกับเขาแบบนี้
"โห น่าเสียดายจริงๆไม่คิดเลยว่าจะกลับมาช่วยได้ทัน" โครว์บินวนกลับมายืนตรงหน้าทั้งสอง "แต่ว่าคราวนี้ฉันจะฆ่าพวกแกไปพร้อมๆกันเลย"
"ไม่ยอมให้ทำอะไรคุณตาหรอก!" ชายหนุ่มยืนขึ้นและมาบังตัวตาของเขาไว้
"ถอยออกไปยูทาโร่ หลานสู้กับมันไม่ได้หรอก!" ชายแก่พยายามตะโกนเตือนหลานชายของเขาแต่เขาก็ไม่ยอมทำตาม
"ความรักของตากับหลานงั้นเรอะ ช่างน่าดูชมจริงๆนะ!" โครว์กางปีกอีกครั้งพร้อมที่จะพุ่งชนใส่ยูทาโร่
"ปีกสีดำโสโครกของแกน่ะ ดูยังไงก็ไม่เห็นน่าจะทำอะไรใครได้เลยนะ" ยูทาโร่พูดเยาะเย้ยโครว์ทำให้มันโกรธมากกว่าเดิม
"ตายซะเถอะ!" โครว์พุ่งตรงเข้าหายูทาโร่อย่างรวดเร็ว
ตอนนั้นเองฮารุกะก็ตามมาถึงและมาพบเห็นเหตุการณ์นี้พอดี ปิศาจปีกสีดำพุ่งแทงอกของชายหนุ่ม
"ยูทาโร่คุง/ยูทาโร่!!" ทั้งหญิงสาวและชายแก่ต่างตะโกนชื่อของเขาออกมาพร้อมกัน
DRIVER ON,please
เสียงประหลาดดังมาจากชายหนุ่มและปิศาจอีกา เกิดวงเวทสีแดงกระแทกร่างของโครว์ออกไป
"มะ..เมื่อกี้นี้มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมเจ้านั่นถึง!?" โครว์ถอยห่างและตะลึงกับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า
"เกิดอะไรขึ้น ?" ฮารุกะยืนมองวงเวทสีแดงที่ออกมาจากตัวของชายหนุ่ม "วงเวท ?"
"หรือว่า!?" โซอิจิโร่หันกลับไปมองที่แหวนของตัวเองที่มีอยู่พบว่าแหวนของเขาหายไปวงนึง
"ยูทาโร่หรือว่าหลานจะเอาไป..!?"
"ก็วิธีที่จะสู้กับเจ้านี้ได้ ก็คงมีแค่วิธีนี้น่ะสิครับ!" เข็มขัดรูปมือแบบเดียวกับโซอิจิโร่ปรากฏขึ้นที่เอวของยูทาโร่ "ผมไม่สนว่าจะต้องใช้วิธีอะไร..ไม่สนว่าจะต้องกลายเป็นตัวอะไร..ผมขอแค่สามารถปกป้องคนสำคัญของผมได้ก็เพียงพอแล้ว!"
ชายหนุ่มหยิบแหวนสีแดงออกมาจากกระเป๋าเสื้อและทำการสวมแหวนที่นิ้วกลางข้างซ้ายทันที
"หลานเอาแหวนนั่นมาจากไหนกันน่ะ ?" โซอิจิโร่ถาม
"ขอโทษด้วยนะครับ พอดีว่าเห็นอัญมณีสวยๆแล้วมือมันอดที่จะหยิบไม่ได้ และอีกอย่างผมก็รู้สึกถูกชะตากับมันตั้งแต่ที่เห็นมันครั้งแรกเลยด้วย!" ยูทาโร่นำมือข้างที่สวมแหวนสีแดงนั้นมาทาบที่ไดร์เวอร์รูปมือ
"ขอพลัง....ให้กับฉันด้วย!"
FLAME,please
"ไม่ยอมให้ทำได้หรอก!!" โครว์ปล่อยขนนกใส่ยูทาโร่ "ตายซะเถอะ!"
และขนนกนั้นก็ระเบิดในทันที
ตู้มมม!!!!
"ฮะ!!" ฮารุกะและโซอิจิโร่ร้องออกมาเมื่อเห็นชายหนุ่มถูกระเบิดไปต่อหน้าต่อตา
"ฮ่าๆๆๆๆ" เสียงหัวเราะของปิศาจปีกสีดำดังก้องไปทั้งถนนเส้นทางที่เงียบสงัด แสงจากกองเพลิงที่เกิดขึ้นจากแรงระเบิด มันช่างสว่างไสวยิ่งกว่าแสงไฟตามเสาไฟฟ้ายิ่งนัก
"เท่านี้พวกแกก็ไม่มีอะไรเหลือแล้ว ฮ่าๆๆๆ" โครว์ค่อยๆเดินตรงไปหาโซอิจิโร่ "ข้าจะจัดการกับ..!?"
แต่ว่ามันต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นกองเพลิงที่กำลังลุกไหม้อยู่นั้น ค่อยๆถูกดูดเข้าไปในใจกลางของกองเพลิงอย่างน่าประหลาด พร้อมกับมีเงาของบุรุษผู้หนึ่งอยู่ในเปลวไฟนั้น "บ้าน่า!"
Fire Fire Fire Fire Fire
เสียงที่ดังออกมาจากเปลวเพลิง เปลวอัคคีที่ค่อยถูกดูดเข้าไปวงเวทสีแดง ร่างของจอมเวทสีแดงที่ยืนอยู่ตรงหน้าของพวกเขาทั้งสาม ในที่สุดจอมเวทคนใหม่ก็ถือกำเนิดขึ้นมาแล้ว
"เอาล่ะ โชว์ไทม์!" เปลวไฟทั้งหมดถูกดูดหายไปในวงเวทเหลือเพียงจอมเวทสีแดงที่ยืนอยุ่ตรหงน้าเท่านั้น
"นะ..นายคือ..ยูทาโร่งั้นเรอะ ?" โซอิจิโร่ถามเพื่อความแน่ใจว่าคนที่อยู่ตรงหน้าใช่หลานชายของเขารึเปล่า
"แน่อยู่แล้วสิครับ จะให้เป็นใครอื่นอีกล่ะ" คำตอบชวนน่าถีบแบบนี้ทำให้โซอิจิโร่รู้ในทันทีว่านี่เป็นหลานชายของเขาแน่นอน
"ตอนนี้ผมก็คือ Wizard หรือจะให้เรียกอีกอย่างหนึ่งก็คือจอมเวท ล่ะนะ"
"ถึงแกจะเป็นตัวอะไรก็ช่าง ข้าจะจัดการแกซะ!" โครว์ปล่อยขนนกโจมตีใส่ยูทาโร่
จอมเวทหนุ่มสวมแหวนอีกวงที่นิ้วกลางข้างขวา จากนั้นก็สับด้านทิศของมือที่ไดร์เวอร์กลับมาอีกด้านหนึ่ง จากนั้นก็นำมือไปทาบที่ไดร์เวอร์นั้น
DEFEND,please
วิซาร์ดหมุนตัวก็บังเกิดพายุไฟขึ้นมา เผาผลาญทำลายขนนกสีดำของโครว์ไปจนหมดสิ้น
"โจมตีอยู่แต่ท่าเดิมๆอยู่ได้ ฉันน่ะรู้การเคลื่อนไหวของแกหมดแล้วล่ะ!"
"แกนะแก อย่ามาทำอวดเก่งไปหน่อยเลย!" โครว์บินโฉบเฉี่ยวลงมาโจมตีใส่จอมเวท แต่เพียงชั่วพริบตามันก็ถูกเขาจำล็อคไว้ได้และถูกจับทุ่มลงกับพื้น
"บอกแล้วไงว่า ฉันมองการเคลื่อนไหวของแกออกหมดแล้วน่ะ" วิซาร์ดเตะโครว์ซ้ำให้มันกระเด็นออกไปชนกับต้นไม้
"ยูทาโร่ เอานี่ไป!" โซอิจิโร่โยนแหวนของตัวเองให้กับหลานชายของเขา
จอมเวทหนุ่มรับแหวนวงนั้นมาและเปลี่ยนแหวนที่สวมมือขวากับแหวนวงนี้ "ขอลองดูหน่อยละกัน!"
เขาสับทิศมือที่เข็มขัดไปยังด้านซ้าย และก็สับกลับมาที่ด้านขวาอีกที จากนั้นก็ใช้แหวนวงนั้นทาบที่ไดร์เวอร์
CONNECT,please
วิซาร์ดสร้างวงเวทสีแดงขึ้นมาข้างๆตัวเขาและยื่นมือเข้าไปหยิบปืนของโซอิจิโร่ออกมา
"เอาล่ะนะ!" จอมเวทสีแดงหมุนตัวและเหนี่ยวไกยิงกระสุนเวทมนต์ใส่ลอสท์
"อยากจะบอกว่าท่านั้นมันทำอะไรฉันไม่ได้!" โครว์บินขึ้นไปบนฟ้าเพื่อที่จะหลบกระสุนปืนของเขา
"ไม่รู้หรอกนะว่าจะบินขึ้นไปทำไม แต่หลบแบบนั้นมันไม่ได้ผลหรอกนะ!" กระสุนปืนทั้งหมดที่วิซาร์ดเป็นคนยิงออกมาค่อยๆเลี้ยวขึ้นไปข้างบนและโจมตีใส่โครว์ที่อยู่บนฟ้าทุกนัด
"อะไรกัน!?" ปิศาจอีกาปีกสีดำร่วงลงมาจากท้องฟ้า
วิซาร์ดชักปืนออกและยืดกลายเป็นดาบและตามเข้าไปฟันใส่โครว์ที่กำลังร่วงลงมา "ฮ่าส์!"
"อ้ากกก!!" ปีกสีดำทั้งสองข้างของโครว์ถูกตัดออก ทำให้มันกลายเป็นนกไร้ปีกไปในทันที
วิซาร์ดหมุนตัวกลับมา "เอาล่ะ เจอท่านี้ต่อ!"
เขาเปลี่ยนแหวนที่มือขวาออกและใส่แหวนวงใหม่ไปแทน จากนั้นก็สับเปลี่ยนทิศของมือที่ไดร์เวอร์ไปด้านซ้ายและก็เปลี่ยนกลับไปด้านขวาอีกที แล้วก็นำแหวนวงนั้นทาบที่ไดร์เวอร์
BIG,please
จอมเวทสร้างวงเวทสีแดงขึ้นมา จากนั้นก็ใช้มือผ่านวงเวทนั้นไปทำให้แขนของเขาขยายใหญ่ขึ้น
"ฉะ..ฉันยังไม่ยอมแพ้หรอก" โครว์ลุกขึ้นยืนขึ้นมาอีกที แต่พอมันลุกขึ้นมาก็ต้องตะลึงกับมือที่ขยายยักษ์ของวิซาร์ด "อะ..อะไรกัน!?"
"ฮ่ะ!" วิซาร์ดตบลงไปที่โครว์ทำให้มันล้มลงติดไปกับพื้น
"เอาล่ะคงได้เวลา ที่จะผิดม่านซักทีล่ะนะ!" วิซาร์ดเปลี่ยนแหวนที่ตัวเองสวมที่มือขวาไปเป็นอีกวงนึง
จากนั้นเขาก็สับเปลี่ยนทิศของมือที่เข็มขัดไปด้านซ้าย และก็สับเปลี่ยนกลับมาที่ด้านขวาอีกที จากนั้นก็นำมือไปทาบตรงนั้นอีกครั้ง "finale"
very nice ,KICK STRIKE!
Fabulous!!!
จอมเวทแดงหมุนตัวรอบหนึ่งก่อนที่จะเกิดวงเวทสีแดงใต้เท้าของเขา นั่นทำให้เกิดพลังไฟขึ้นมาที่เท้าของเขา
"ฮาาาา..." วิซาร์ดกระโดดตีลังกาเข้าไปใกล้โครว์ จากนั้นก็ดีดตัวกระโดดขึ้นไปบนฟ้า และพุ่งลงมาเตะใส่มัน "ฮ่าส์!!"
"อัก...อะ..อะ!" โครว์ถูกท่าเตะนั้นเข้าไป ร่างของมันเกิดวงเวทสีแดงขนาดใหญ่ขึ้นมา แล้วก็ระเบิดไปในที่สุด
บรึ้มมม!!!!
วิซาร์ดลงมาที่พื้น หันกลับไปมองเปลวไฟที่เกิดจากแรงระเบิดที่เขาทำเอาไว้
"ก็คง..ประมาณนี้ล่ะนะ" ร่างของจอมเวทสีแดงคืนกลับเป็นร่างของชายหนุ่มตามเดิม
ยูทาโร่ย้อนกลับไปดูอาการบาดเจ็บของโซอิจิโร่ แต่พบว่าตอนนี้บาดแผลทั้งหมดของเขากลับมาหายดีเป็นปกติหมดแล้ว โดยมีฮารุกะคอยดูแล "คุณตาทำอะไรไปน่ะ แล้วแผลล่ะ ?"
"ก็แค่ใช้แหวนรักษาเท่านั้นล่ะ อย่างน้อยก็ทำให้บาดแผลภายนอกหายดีได้ล่ะนะ" โซอิจิโร่บอก
"ยูทาโร่...หลานทำได้ดีมากเลย เพียงแค่ใช้ครั้งแรก หลานก็สามารถใช้พลังนั้นได้อย่างเชี่ยวชาญ แต่ว่า...นี่ก็เป็นสิ่งที่ตากลัวว่าจะเกิดขึ้นมากที่สุดเช่นกัน.."
"หมายความว่ายังไงครับ ?" ยูทาโร่ถาม
"หลานต้องเข้ามาพัวพันกับชะตากรรมที่โหดร้ายนี้ และจะไม่สามารถถอยหลังกลับได้อีกแล้ว" โซอิจิโร่บอกกับยูทาโร่ เขารู้สึกผิดมากที่ทำให้หลานชายของตัวเองต้องมาอยู่ในสภาพเช่นนี้
"ตาต้อง..ขอโทษด้วยจริงๆ"
"เงยหน้าขึ้นเถอะครับ คุณตา" ยูทาโร่ปลอบใจคุณตาของเขา "ผมไม่ได้เป็นสิ่งนี้เพราะถูกใครบังคับ เพราะเลือกที่จะเป็นของผมเอง ตั้งแต่นี้ไปผมจะใช้พลังนี้เพื่อที่จะปกป้องคุณตาเองครับ"
"ยูทาโร่...." โซอิจิโร่ได้รับคำปลอบโยนจากหลานของตัวเองแล้วทำให้เขารู้ซึ้งใจเป็นอย่างมาก
"แต่ว่านี่มันเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น สิ่งที่หลานต้องพบเจอในอนาคตยังมีอยู่อีกมาก หลานจะยอมรับมันได้อย่างงั้นเรอะ ?"
"ครับ ผมพร้อมเสมอนั่นล่ะครับ!" ยูทาโร่ตอบอย่างมั่นใจ
"ถ้าอย่างงั้นเราก็ต้องกลับไปกันแล้วล่ะ!" โซอิจิโร่ลุกขึ้น
"กลับไป ? กลับไปที่ไหนครับ ?" ยูทาโร่ถาม
"ตาอยากจะให้เธอทั้งสองรู้ไว้อย่างนึงว่า...ที่นี่ไม่ใช่ทีเดียวที่เกิดเรื่องประหลาดแบบนี้ขึ้นมาหรอกนะ แต่ว่าที่อื่นๆก็มีเหตุการณ์ที่เหมือนกับเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไปทั่วเมืองเลยล่ะ" คำพูดของของโซอิจิโร่ทำเอายูทาโร่นิ่งอึ้งไปสักพักใหญ่
"หมายความว่ามีคนที่มาเป็นจอมเวทแบบผมอีกยังงั้นเรอะ ?"
โซอิจิโร่ส่ายหน้า้ "ไม่ใช่หรอก พวกเขาต่างออกไป"
"แต่ว่าพวกเขา...ก็เป็นเพียงแค่คนที่ถูกชะตากรรมชักพาเท่านั้น...."
สายลมที่พัดผ่านมายามค่ำคืนนี้ วันเวลาที่ผ่านพ้นไป ชะตากรรมของพวกเขาทั้งหลายเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น....
"เฮ้!!!" เสียงโฮ่ร้องของผู้คนนับหมื่นดังขึ้น แสง สี เสียง ที่ถูกปรับให้สว่างและฉายไปบนเวทีขนาดใหญ่ ที่ซึ่งมีผู้หญิงกลุ่มนึงกำลังแสดงอยู่บนเวทีนั้น ผู้คนมากมายที่นี่ยอมเสียทุนทรัพย์มหาศาสเพื่อที่จะได้ที่นั่งดีๆเพื่อชมการแสดงในครั้งนี้ การแสดงที่ว่านี้เป็นการแสดงของไอดอลสังกัด 765 โปรดักชั่น ที่เคยสร้างผลงานไอดอลชื่อดังมาแล้วมากมาย และการแสดงครั้งนี้จะเป็นการแสดงเปิดตัวกลุ่มไอดอลใหม่ของพวกเขา ทำให้ได้รับความสนใจจากแฟนๆเป็นพิเศษ
ที่เมืองฟูโตะแห่งนี้นอกจากจะเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและวัฒนธรรมที่สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุขแล้ว ก็ยังมีสื่อบันเทิงที่ไม่แพ้ประเทศอื่นอีกด้วย โดยที่เมืองนี้จะให้ความสำคัญกับไอดอลมากกว่าที่อื่น ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นหัวใจหลักและจุดเด่นของเมืองนี้เลยก็ได้
ในบรรดาผู้ชมนับร้อยนับพันนี้ มีชายคนหนึ่งที่กำลังนั่งรับประทานโดนัทขนมรูปวงแหวนที่ทำจากแป้งและน้ำตาลที่ใครๆก็รู้จักดีอยู่ที่ที่นั่งแถวหน้าของเวที เขาเป็นชายคนเดียวที่ไม่ได้ใส่ใจกับการแสดงบนเวทีเลยแม้แต่น้อย ซึ่งทำให้บัตรที่แพงที่สุดสำหรับที่นั่งด้านหน้าดูถูกไปเลยทันที ทั้งๆที่ที่นั่งตรงนี้ถือว่ามีราคาแพงที่สุดในบรรดาที่นั่งทั้งหมดในสเตเดี่ยมนี้
พริบตานึงชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นไปบนเวที เขาก็ได้สบตากับไอดอลผู้หญิงคนนึงบนเวทีนั้น เธอเองก็มองมาที่เขา
หญิงสาวส่งสายตาและยิ้มให้เขาก่อนที่เธอจะกลับไปตั้งใจแสดงบนเวทีต่อ
"เมื่อกี้เธอมองมาที่เรางั้นเรอะ ?" ชายหนุ่มยังคงนั่งงง แต่เขาก็เลิกที่จะสนใจเรื่องนั้นและกลับไปทานโดนัทต่อ
"เฮ้ย ยูทาโร่ มัวเหม่ออะไรอยู่น่ะ การแสดงออกจะสนุก" เพื่อนของชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆสะกิด แต่เขาก็ไม่ได้มีอะไรตอบโต้กลับเลย
"อะไรเนี่ยเพื่อน มาที่แบบนี้ทั้งทีมาสนุกกันให้เต็มที่เถอะน่า!"
ยูทาโร่สลัดมือของเพื่อนเขาออกอย่างเย็นชา "ฉันไม่สนใจอะไรพวกนี้อยู่แล้ว นายก็รู้ไม่ใช่เรอะ"
"ครับ บนโลกนี้นายคงจะไม่สนใจอะไรอย่างอื่นนอกจาก อัญมณีและโดนัทแล้วสินะ" เพื่อนของเขาพูดประชด
"เรียวยะ นายเองก็ไม่เคยจีบใครติดสักคนเหมือนกันนั่นล่ะน่า" ยูทาโร่ด่ากลับ เป็นคำพูดที่แทงใจดำเพื่อนของเขาอย่างที่สุด "ฉันน่ะจะดูหรือไม่ดูก็ไม่มีปัญหาเพราะยังไงฉันก็ไม่ได้เป็นคนออกเงินค่าตั๋วนี่อยู่แล้ว"
เรียวยะเพื่อนของยูทาโร่ทำหน้าไม่พอใจเล็กน้อยแต่เขาก็ตีหน้ากลับไปยิ้มได้เหมือนเดิม "คร้าบๆ คุณหลานชายบริษัทด้านการบันเทิงชั้นนำของเมืองนี้ คุณทาคากิ ยูทาโร่~"
"ฉันก็ไม่ได้ดีใจอะไรที่ได้เกิดมาเป็นแบบนี้หรอกนะ" ยูทาโร่หยิบโดนัทอีกชิ้นเข้าปาก และพวกเขาก็นั่งชมการแสดงต่อไปจนจบ...
หลังจากที่การแสดงจบลงผู้ชมทั้งหลายก็ค่อยๆทยอยออกมาจากสเตเดี่ยม ยุทาโร่กับเรียวยะก็ออกมาพร้อมกับคนเหล่านั้นด้วย และทั้งสองก็พบกับแถวต่อที่ยาวเหยียดเพื่อที่จะซื้ออะไรบางอย่าง
"คนพวกนี้ต่อแถวกันทำไมน่ะ ?" ยูทาโร่สงสัย
"อ้าว นายไม่รู้เหรอ ก็เขาขายแผ่นเพลงของไอดอลที่พวกเราเพิ่งดูไปน่ะสิ" เรียวยะบอก
"เป็นถึงหลานชายของประธานบริษัทไอดอล แต่กลับไม่รู้เรื่องบบนี้เนี่ยนะ"
"ก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่สนเรื่องแบบนี้" ยูทาโร่เถียงกลับ "และถึงแม้ฉันจะไม่รู้เรื่องแบบนี้ แต่ว่าเรื่องเรียนและเรื่องกีฬาฉันก็เหนือกว่านายนั่นล่ะน่า"
คำพูดนั้นทำเอาเรียวยะเกือบหงายหลัง "เอาล่ะ ยอมครับยอม มีเพื่อนแบบนายเนี่ยเหนื่อยจริงๆ"
"ถ้ารู้ตัวก็ดีแล้วนี่" ยูทาโร่ตอกย้ำ
"แต่ถึงอย่างงั้น...เพราะมีเพื่อนอย่างนายนี่ล่ะก็เลยทำให้ฉันได้มาดูคอนเสิร์ตนี้ ขอบใจจริงๆนะเพื่อน!" เรียวยะโอบไหล่เพื่อนของเขา
ยูทาโร่จับมือดึงแขนเพื่อนของเขาออก "พอแล้ว ทำเป็นพวกไม้ป่าเดียวกันไปได้"
"ครับๆ เข้าใจแล้วครับ" เรียวยะมองนาฬิกาข้อมือของตัวเองก็พบว่าตอนนี้ก็เกิอบจะ 2 ทุ่มแล้ว "สงสัยฉันคงจะต้องกลับแล้วล่ะ ไว้เจอกันใหม่นะเพื่อน!"
"เออ...โชคดี" ยูทาโร่อำลาเพื่อนของเขา เรียวยะขึ้นรถแท๊กซี่และขับออกไปไกลเรื่อยๆ...ก่อนที่จะลับสายตาของเขาไป
"เราเองก็ไม่มีอะไรจะทำแล้วสินะ.." ยูทาโร่เอามือล้วงกระเป๋ากางเกงและจะเดินออกไปจากที่แห่งนี้ แต่ว่า...
"นั่น ยูทาโร่ใช่มั้ย ?" เสียงของชายแก่คนหนึ่งเรียกชื่อของชายหนุ่มทำให้เขาหยุดและหันกลับไป "ใช่จริงๆด้วย หลานเองก็มาดูด้วยสินะ"
"คุณตาเองเรอะครับ" ยูทาโร่หันกลับไปพูดแบบไม่ได้ใส่ใจ
"ไม่ได้เจอหน้ากันตั้งนาน หลานโตขึ้นเยอะเลยนะ" คุณตากล่าว
"ผมจำได้ว่าครั้งล่าสุดที่เราเจอกันคือเมื่อเช้านี้นะครับ คุณตาอย่าเล่นมุขเลยจะดีกว่านะครับ" ยูทาโร่ตอบกลับไปแบบเย็นชา
"ยังเป็นคนชอบพูดแทงใจดำคนอื่นไม่เปลี่ยนเลยนะ ระวังแบบนี้จะไม่มีเพื่อนและจะหาแฟนไม่ได้เอาน้า~" คุณตาล้อยูทาโร่ แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจ
"ไม่รู้ว่าเธอได้นิสัยนี้มาจากใครหรอกนะ เพราะแม่ของเธอก็เป็นคนที่ไม่ได้พูดอะไรแบบนี้ พ่อของเธอเองก็เป็นคนว่านอนสอนง่ายกว่านี้เยอะ ตาเอง ทาคากิ โซอิจิโร่นี้ก็ไม่ได้เป็นคนแบบนี้เมื่อสมัยเด็กๆด้วย"
"ผมก็เป็นของผมแบบนี้ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพ่อหรือแม่สักหน่อยครับ" ยูทาโร่ยังตอบแบบเดิมๆ
"เฮ้อ...เอาเถอะ วันนี้หลานคิดจะไปไหนต่อล่ะ ?" โซอิจิโร่ถาม
"ก็ไม่รู้สิิครับ คงจะกลับบ้าน" ยูทาโร่ตอบ
"เหรอ จะกลับไปอ่านหนังสือติวข้อสอบเพื่อเข้า SMART BRAIN สินะ ?" โซอิจิโร่ถาม
"เปล่าครับ เรื่องเรียนน่ะต่อให้ไม่อ่านหนังสือเลยก็สบายมาก แต่ที่กลับไปบ้านเพราะไม่รู้ว่าจะไปทำอะไรที่ไหนแล้วต่างหาก" ยุทาโร่ยืนกอดอกมองหน้าตาของเขาอย่างสงสัย "ที่คุณตามาหาผมนี่คงจะมีเรื่องอะไรที่อยากคุยสินะครับ ?"
"ดูออกจริงๆสินะ สมกับที่เป็นหลานของตา" โซอิจิโร่กล่าวชมเชยแต่ยูทาโร่ก็ไม่ได้รู้สึกดีใจอะไร
"แล้วจะคุยเรื่องอะไรน่ะครับ ?" ยูทาโร่รีบตัดบทถามทันที
"คือจริงๆแล้วตามีคนที่อยากจะให้หลานไปพบอยู่น่ะ มากับตาหน่อยจะได้มั้ยล่ะ ?" คุณตาชักชวนชายหนุ่ม
"อืม...." ยูทาโร่ครุ่นคิดก่อนที่จะตัดสินใจ เพราะตอนนี้ถึงกลับไปที่บ้านเขาก็ไม่มีอะไรทำ "ก็ได้ครับ จะไปก็ได้"
"ที่จริงตาก็ไม่ได้จะให้ไปพบอะไรหรอกนะ แต่ว่าบ้านของเธออยู่ไกลมากและตอนนี้ก็ดึกแล้ว รถไฟที่จะให้เธอเดินทางกลับก็น่าจะไม่มีแล้ว จะให้ผู้หญิงกลับบ้านคนเดียวยามค่ำคืนมันก็ไม่ดีใช่มั้ยล่ะ" โซอิจิโร่อธิบาย
"ยังไงซะ ไปส่งซะก็ยังดีกว่า"
"ครับๆผมเข้าใจแล้วครับ แล้วจะให้ไปรับเธอคนนั้นที่ไหนล่ะครับ ?" ยูทาโร่ถามสถานที่
"ก็ที่ทำงานตาไงล่ะ" โซอิจิโร่ตอบ เขาทั้งสองก็เดินไปยังที่แห่งนั้นที่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่ทันที
ค่ำคืนยามราตรีที่ยังคงมีเสียงของผู้คนมากมาย และแสงไฟของร้านค้าต่างๆ
ขนนกสีดำที่ร่วงลงมาตามสายลม พร้อมกับร่างของชายผู้หนึ่งผู้มีปีกสีดำที่หลัง
กำลังจ้องมองชายแก่และหลานชายของเขาอยู่ห่างๆ โดยที่พวกเขาทั้งสองไม่รู้สึกถึงสายตาที่จ้องมองพวกเขาเลย
"นั่นคือเป้าหมายสินะ" ชายปีกสีดำกระโดดหายไปท่ามกลางท้องฟ้าที่มืดมิด
และนี่ก็คือ...จุดเริ่มต้นของชะตากรรม...ของชายหนุ่มผู้เป็นหลานชายของชายแก่ผู้นั้น....
.
.
.
.
หน้าทางเข้าบริษัท 765 โปรดักชั่น เวลา 20.15 น.
คุณตาของยูทาโร่พาเขามายังบริษัทของเขาที่ดูใหญ่กว่าที่เด็กหนุ่มคิดไว้มากและมีป้าย 765 เขียนไว้ด้านบน
"ที่นี่คือบริษัทของตายังไงล่ะ เป็นยังไงบ้าง ?" โซอิจิโร่ถามความเห็นจากหลานชายเขา
"ก็ดูดีกว่าที่คิดนะครับ แต่ว่าก็ยังดูขาดอะไรไปหลายอย่างเลย" ยูทาโร่วิจารณ์ตามความคิดของเขา
"นี่ตาก็พยายามทำเต็มที่แล้วนะ ถึงจะดูไม่ค่อยมีอะไรมาก แต่ที่นี่ก็เป็นที่ที่ดีนะ" โซอิจิโร่บอกกับเขา
"ครับ ก็อาจจะจริงอย่างที่คุณตาบอก" ยูทาโร่มองขึ้นไปบนบริษัท 765 ที่นี่อาจจะไม่ได้สวยหรูอะไรมากมายแต่ว่าสำหรับคนที่ทำงานที่แล้ว ก็อาจจะเป็นที่ที่ให้ทุกคนทำงานร่วมกันอย่างมีความสุขได้
"แล้วเมื่อไหร่เราจะเข้าไปข้างในล่ะครับ ?"
"ฮะๆ งั้นก็เข้าไปกันเลย" โซอิจิโร่เดินนำเข้าไปข้างในก่อน ยูทาโร่เดินตามเข้าไป
ทั้งสองเดินมาที่ลิฟท์และกดลิฟท์ขึ้นไปชั้นบนเพื่อไปที่ห้องทำงานของโซอิจิโร่ "ห้องตาอยู่ข้างบนนี้ล่ะ ก็ตาเป็นประธานบริษัทนี่นะ ฮ่าๆๆๆ"
"ที่นี่เป็นลิฟท์แก้วงั้นเรอะ" ลิฟท์เคลื่อนตัวขึ้นไป กระจกของลิฟท์สามารถมองออกไปข้างนอกเพื่อที่จะชมิวข้างนอกได้อีกด้วย
"ทุกคนที่นี่ทำงานกันดีมั้ยครับ ?" ยูทาโร่ถามเรื่องภายในบริษัท
"ทุกๆคนก็พยายามกันอย่างเต็มที่นั่นล่ะ ทั้งทีมงานของตา ทั้งไอดอลทั้งหลาย พวกเขาทำไม่ใช่เพราะทำเพืื่อบริษัทของตา...แต่พวกเขาทำเพื่อความฝันของพวกเขาเอง ตาเชื่อว่าสิ่งนั้นจะช่วยเป็นแรงผลักดันให้พวกเธอเหล่านั้นก้าวไปข้างหน้าได้" โซอิจิโร่พูดขณะที่เขาำลังมองออกไปนอกกระจกแก้ว ชมทัศนวิสัยของเมืองยามค่ำคืน
"ความฝันอย่างงั้นเรอะครับ...ก็อาจจะเป็นเรื่องที่ดีนะครับ" ชายหนุ่มออกความเห็น
เขากุมของบางอย่างไว้ในกระเป๋ากางเกงเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ โซอิจิโร่เองก็สังเกตเห็นแต่ว่าก็ไม่ได้เอ่ยปากถามอะไร
"แล้วเรื่องเรียนเป็นยังไงบ้างล่ะ ?" โซอิจิโร่เปลี่ยนเรื่องคุย
"ก็ดีครับ เดี๋ยวนี้วิชาอะไรๆมันก็ง่ายไปหมด" ยูทาโร่ตอบแบบหน้าตาเฉย
"ตาจำได้ว่ามีนักเรียนหลายคนบอกว่าการเรียนของที่นี่ยากสุดไปเลยนะ" ชายแก่แย้ง
"ก็อาจจริง แต่สำหรับผมมันก็แค่เรื่องง่ายๆ" ชายหนุ่มตอบ
ไม่นานนักลิฟท์ก็เคลื่อนมาถึงชั้นบน ทั้งสองก็เดินเข้ามาในห้องทำงานของโซอิจิโร่
ประธานเดินไปเช็คของที่วางอยู่บนโต๊ะ ชายหนุ่มเดินสำรวจดูของรอบๆ จนเขาเดินไปพบกับภาพของเขาที่ถ่ายกับแม่ตั้งอยู่ในกรอบรูปตั้งอยู่บนชั้นวางหนังสือ ยูทาโร่ก็หยิบขึ้นมารำลึกถึงเรื่องเก่าๆ
โซอิจิโร่สังเกตเห็นหลานชายเขากำลังมองรูปภาพนั้นอยุ่ เขาเลยไม่เข้าไปยุ่งอะไร
ตอนนั้นเองโทรศัพท์บนโต๊ะของเขาก็ดังขึ้น ทำให้ท่านประธานต้องไปรับสาย "ครับ ทาคากิ โซอิจิโร่ประธานบริษัท 765 โปรดักชั่นพูดครับ"
"อา โอโตนาชิคุงเองเรอะ เป็นไงบ้างเรื่องที่ขอให้ช่วยนั่นไปถึงไหนแล้ว ?" โซอิจิโร่คุยธุระกับคนในสาย
ยูทาโร่ที่รำลึกเรื่องเก่าๆเสร็จแล้วก็วางภาพไว้ที่เดิม ตอนนั้นเองที่เขาสังเกตเห็นอัญมณีสีแเงที่ถูกสลักลงกับแหวน ด้วยนิสัยที่ชื่นชอบอัญมณีของยูทาโร่ ทำให้เขาอดที่จะเก็บมันไว้ในกระเป๋าเสื้อก่อนที่จะเดินกลับไปหาคุณตา
"เข้าใจแล้ว ฝากทางนั้นด้วยนะ แล้วฉันจะตามไปทีหลัง" โซอิจิโร่พูดเสร็จก็วางสายไป
"ใครเหรอครับ ที่คุยด้วยนั่นน่ะ ?" ยูทาโร่ถาม
"ไม่มีอะไรหรอกก็แค่เลขาของตาน่ะ ตาวานให้เธอไปทำอะไรให้อยุ่น่ะ และดูท่าตอนนี้ก็เสร็จแล้วล่ะ" โซอิจิโร่ตอบ "เท่านี้งานวันนี้ก็เสร็จแล้วล่ะ"
"คุณตาจะไม่ไปดูงานทางนั้นเหรอครับ ?" ยูทาโร่ถาม
"เดี๋ยวหลังจากเสร็จตรงนี้แล้วถึงจะไปน่ะ"
โซอิจิโร่ไปนั่งที่โต๊ะพร้อมกับหยิบบัตรประจำตัวของชายผู้ที่มาส่งของเมื่อบ่ายขึ้นมา ทำให้เขานึกเรื่องนี้ออก
"รู้มั้ยว่าวันนี้น่ะที่บริษัทเกิดเรื่องที่เกือบที่จะทำให้ไม่ได้แสดงแล้วน่ะ"
"เกิดเรื่องอะไรขึ้นงั้นเหรอครับ ?" ชายหนุ่มถามพร้อมกับเดินสำรวจห้องของตาเขาอีกครั้ง
"คือทางทีมงานของตาน่ะ ลืมเอกสารสำคัญที่จำเป็นในการแสดงสดครั้งนี้ไว้ที่อื่นน่ะ เป็นเอกสารที่สำคัญมาก เรียกได้ว่าหากขาดเอกสารนั้นไปการแสดงในครั้งนี้จะต้องถูกยกเลิกในทันที ตอนแรกตาก็คิดว่าจะต้องล้มเลิกแล้วจริงๆ" โซอิจิโร่เล่า
"แต่ว่าก็จัดแสดงได้หนิครับ หรือว่ามีคนไปเอาเอกสารนั้นมา ?" ยูทาโร่ถามพร้อมกับตรวจดูหนังสือในตู้ของโซอิจิโร่ ซึ่งแต่ละเรื่องจะต้องเป้นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับศาสตร์เวทมนต์ บางเล่มมีลักษณะเหมือนกับคัมภีร์เวทมนต์จริงๆ บางเล่มก็เป็นแค่นวนิยายที่เป็นเรื่องเล่าของเวทมนต์เท่านั้น
"เลขาของตาได้ไปจ้างให้คนจากบริษัทส่งของให้มาช่วยส่งของที่นี่น่ะ เลยรอดไปได้อย่างหวุดหวิดเลย"
ชายแก่เล่าเรื่อง "แล้วหลานก็มาดูคอนเสิร์ตด้วยสินะ คิดว่าเป็นยังไงบ้างล่ะ ไอดอลของตาสวยและน่ารักทุกคนใช่มั้ย ?"
"ไม่รู้สิครับ ผมไม่ได้สนใจบนเวทีเลย คนที่ดูน่ะคือเพื่อนผม" ยูทาโร่ตอบไปตามความจริง
"อุตส่าห์ให้ตั๋วที่นั่งที่แพงที่สุด 2 ใบแล้วนะ ไม่คิดถึงคุณค่าของมันบ้างเลยเรอะ ?" คุณตาถาม
"ก็ไม่ได้คิดอะไรนะครับ ก็แค่คิดว่าเป็นตั๋วบัตรชมทั่วไปเท่านั้นเอง" ยูทาโร่ตอบพร้อมกับปิดตู้หนังสือของโซอิจิโร่ หลังจากที่สำรวจจนพอใจแล้ว "จะว่าไปเมื่อไหร่คนที่ตาบอกจะมาซักทีครับ นี่ก็นานมากแล้วนะครับ"
"จริงด้วยสิ.." โซอิจิโร่มองนาฬิกาพบว่าเกิน 2 ทุ่ม ครึ่งแล้ว "...นี่ก็นานผิดปกติแล้วนะ"
"เดี๋ยวผมจะออกไปดู..." ยูทาโร่เดินไปที่ประตูทางออกจากห้องของโซอิจิโร่
"ขอโทษที่มาช้าค่ะ!" เสียงของหญิงสาวคนนึงดังขึ้นและเธอก็เปิดประตูเข้ามา "พอดีต้องกลับไปเอาขอ...!!"
"ว้ายยย!!!/โอ้ยย!"
เพราะความรีบเร่งของหญิงสาวทำให้เธอไม่ทันระวังจึงชนกับชายหนุ่มและทำให้ล้มลงทั้งคู่
"นี่เธอน่ะ...เวลาวิ่งก็หัดดูทางให้ดีๆก่อนสิ!" ยูทาโร่ต่อว่าหญิงสาวกลับไป
"ขะ..ขอโทษนะ..." หญิงสาวบอกขอโทษด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวาน
"นี่เธอ...!?" พอชายหนุ่มได้เห็นหน้าของหญิงสาวที่เขากำลังทับอยู่ดีๆก็ทำให้เขานึกออกว่า จริงๆแล้วเธอคือผู้หญิงที่เป็นไอดอลบนเวทีก่อนหน้านี้ ที่มองและส่งสายตามาที่เขาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้
"....." ทั้งคู่สบตากันอีกครั้งและต่างเงียบไม่พูดไม่จาอะไร
"แหม แค่เพิ่งเคยเจอกัน ก็จะแต่งงานกันแล้วเหรอ ?" โซอิจิโร่ล้อหลานชายและหญิงสาว เพราะตอนนี้พวกเขาทั้งสองใกล้ชิดกันมาก ฝ่ายชายเป็นฝ่ายล้มคว่ำทับฝ่ายหญิง ฝ่ายหญิงนอนหงายและถูกฝ่ายชายจับไว้
"ท่านประธานคะอย่าพูดเล่นแบบนี้สิคะ!" หญิงสาวรีบโต้แย้งขึ้นมาทันที
ยูทาโร่ลุกขึ้นและช่วยจับมือของหญิงสาวให้ลุกขึ้นมาพร้อมกัน "นั่นสิครับ คุณตา เรื่องแบบนี้เอามาพูดเล่นมันก็เกินไปนะครับ"
"น่าๆก็ขอโทษด้วยละกัน" โซอิจิโร่พยายามกล่อมทั้งสองให้ใจเย็นลง "เอาล่ะ ในที่สุดก็มาแล้วล่ะนะ"
"คนนี้เหรอครับ ที่คุณตาจะต้องไปส่ง ?" ยูทาโร่ถามอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ
"ใช่แล้วล่ะ แนะนำตัวให้หลานชายฉันรู้จักหน่อยสิ อามามิคุง" โซอิจิโร่บอกกับหญิงสาวที่ยืนข้างๆชายหนุ่ม
"ค่ะ ท่านประธาน" หญิงสาวหันไปหายูทาโร่และแนะนำตัวกับเขา "ฉันชื่ออามามิ ฮารุกะ เป้นไอดอลของ 765 โปรดักชั่นน่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะ คุณหลานชายของท่านประธาน"
"อะ..อืม ทางนี้ก็เช่นกัน" ยูทาโร่จับมือกับฮารุกะ "ฉันทาคากิ ยูทาโร่ ยินดีที่ได้รู้จัก คะ..คุณอามามิ.."
"เรียกฉันว่าฮารุกะก็ได้ แบบนั้นฟังดูเป็นเพื่อนกันมากกว่านะ ยูทาโร่คุง!" ฮารุกะยิ้มให้กับเขา
"เข้าใจแล้ว แบบนั้นก็ได้...ฮารุกะ..จัง"
"เอาล่ะ รู้จักกันแล้วก็ไปกันได้แล้วล่ะ นี่มันก็มืดมากแล้ว" โซอิจิโร่บอก
"ครับ/ค่ะ!" ทั้งสองตอบรับพร้อมกัน
"แล้วต้องไปไหนงั้นเหรอครับ ?" ยูทาโร่ถามก่อนที่จะเดินออกไปจากห้อง
"ก็แน่อยู่แล้ว ต้องไปส่งอามามิคุงที่บ้านของเธอยังไงล่ะ" โซอิจิโร่ตอบ
"งั้นเหรอครับ" ยูทาโร่ยอมเข้าใจและตามดซอิจิโร่ไป
บนรถของโซอิจิโร่ ถนนเส้นทางจากเอเรีย 1 สู่เอเรีย 9 เวลา 20.50 น.
โซอิจิโร่ขับรถไปตามถนนเส้นทางจากเอเรีย 1 สู่เอเรีย 9 พร้อมกับยูทาโร่และฮารุกะที่นั่งอยู่เบาะหลัง
"ฮารุกะจัง บ้านอยู่ที่เอเรีย 9 เลยเรอะ มันไกลมากเลยนะ แล้วเวลามาทำงานที่นี่มายังไงล่ะ ?" ยูทาโร่ถามขณะที่นั่งอยู่ในรถ
"ก็ต้องขึ้นรถไฟตั้งแต่ตี 6 แล้วก็จะมาถึงที่นี่ประมาณ 8 โมงน่ะ เวลาที่ไปโรงเรียนก็อาจจะต้องขึ้นสายที่เช้ากว่านั้นเช่น ตี 5 น่ะนะ" ฮารุกะบอก "ส่วนขากลับก็ต้องกลับก่อน 1 ทุ่ม ไม่งั้นจะไม่มีรถไฟขากลับน่ะ เพราะรถไฟที่จะมาจากเอเรีย 1 ไป 9 น่ะแทบจะไม่มีเลย มีแต่ 9 มา 1 เท่านั้นล่ะ"
"แบบนั้นมันต้องตื่นเช้ามากเลยไม่ใช่เรอะ แล้วแบบนี้จะไม่ลำบากเรอะ ?" ยูทาโร่ถาม
"ก็นะ อาจจะลำบากอยู่นิดนึง แต่ว่าฉันน่ะชอบฟังเพลงและซ้อมร้องเพลงขณะที่อยู่บนรถน่ะก็เลยไม่เคยเบื่อเลย และบางทีน้องชายก็จะมาด้วย ทำให้บางทีก็มีเพื่อนคุยด้วยล่ะนะ" ฮารุกะตอบ
"อามามิคุงน่ะเป็นคนที่ขยันที่สุดในบริษัทเลยก็ว่าได้นะ เธอน่ะพยายามอย่างเต็มที่ตลอดทุกครั้งเลย แบบนี้ก็อาจจะอนาคตไกลก็ได้นะ" โซอิจิโร่เสริม
"ท่านประธานก็ชมเกินไปแล้วล่ะค่ะ หนูเองก็ยังอ่อนหัดอยู่ แต่ว่าหนูก็ตั้งใจพยายามให้ถึงที่สุดค่ะ!" ฮารุกะตั้งมั่น
"แต่ถึงอย่างงั้นก็ซุ่มซ่ามอยู่ดี หกล้มตลอดเลย" โซอิจิโร่ล้อ
"แหม ท่านประธานล่ะก็.." ฮารุกะทำหน้าบูด
"ฮ่ะๆๆ แล้วทำไมฮารุกะจังถึงมาเป็นไอดอลล่ะ หมายถึงเหตุผลที่ทำให้อยากมาทำงานนี้น่ะ" ยูทาโร่ถาม
"เหตุผลที่อยากให้มาเป็นไอดอลเหรอ" ฮารุกะเอานิ้วชี้ป้องปากและคิดถึงเหตุผลที่เธอมาทำงานนี้
"เพราะเมื่อก่อนเมื่อตอนเด็กๆ ฉันน่ะได้ไปดูคอนเสิร์ตกับคุณพ่อสองคน และพอฉันได้ดูการแสดงบนเวทีครั้งนั้น ก็ทำให้ฉันรู้สึกอยากจะเป็นแบบพวกเธอบ้าง แบบนั้นน่ะ"
"หลังจากนั้นฉันก็พบว่าตัวเองก็มีความปรารถนาที่ตัวเองต้องการจริงๆ จึงได้มาเป็นไอดอลน่ะ" อารุกะบอก
"ความปรารถนานั่นคืออะไร ?" ยูทาโร่ถาม
"นั่นก็คือ....ฉันน่ะอยากให้ทุกๆคนมีความสุข อยากสร้างรอยยิ้มให้กับทุกๆคน" ฮารุกะตอบด้วยแววตาที่ใสซื่อ เหมือนดั่งสาวบริสุทธิ์ที่หลงเข้าไปในดินแดนมหัศจรรย์ สิ่งนั้นทำให้เธอดูเปล่งประกาย และเป็นตัวของตัวเองอย่างถึงที่สุด
"ฮึๆๆ ฮ่าๆๆๆๆๆ" แต่ว่าคำตอบนั้นก็ชวนให้ไม่ขำไม่ได้เช่นกัน
"สร้างรอยยิ้มให้ทุกคนเหรอ เป็นความคิดที่ดูเพ้อฝันจังเลยนะ และเรื่องแบบนั้นไม่น่าจะทำได้หรอก มันไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่ายๆเลยด้วย!"
"ถึงจะเป็นเรื่องที่ยากจนฉันอาจจะทำไม่ได้ก็ตามที แต่ว่าฉันก็ยังเชื่อนะ..ยังเชื่อว่าซักวันนึง ฉันจะต้องทำตามความฝันนั้นให้สำเร็จให้ได้!" ฮารุกะพูดด้วยความมั่นใจ ทำเอายูทาโร่อึ้งเงียบไปเลย
"ฉันล่ะยอมเธอจริงๆ เธอเป็นคนแรกนะที่ทำเอาฉันพูดไม่ออกได้น่ะ" ยูทาโร่บอก
"เอ๊ะ จริงเรอะ แบบนี้ก็เป็นเรื่องน่ายินดีสินะ" ฮารุกะยิ้มดีใจ
"เชื่อเลย เพิ่งเคยเจอผู้หญืงที่เหมือนหลงไปอยู่ในโลกแห่งความฝันอย่างเธอเป็นคนแรกนี่ล่ะ"
ยูทาโร่ชมฮารุกะจากใจจริงของเขา
"แล้วพ่อกับแม่ของฮารุกะจังทำงานอะไรล่ะ ?" ยูทาโร่เปลี่ยนคำถาม
"คุณพ่อของฉันน่ะทำงานเป็นหัวหน้ากรมตำรวจของเอเรีย 9 น่ะ ดำรงตำแหน่งสูงสุดเลยล่ะนะ ส่วนคุณแม่เป็นหนึ่งในคณะกรรมการผู้ดูแลเอเรีย 9 น่ะ ส่วนน้องชายของฉันก็อ่อนกว่าฉันแค่ปีเดียว ตอนนี้ฉันกำลังจะขึ้น ม.4 แล้ว แต่ยังหาที่เรียนไม่ได้เลย และถ้าเป็นไปได้พ่อกับแม่ก็อยากให้เราสองคนเรียนที่เดียวกันน่ะ" ฮารุกะบอก
"ถ้าอย่างงั้นก็มาเรียนที่ SMART BRAIN สิ" ยูทาโร่แนะนำ
"ที่นั่นน่ะเป็นโรงเรียนประจำที่มีขนาดกว้างใหญ่ที่สุดในเอเรีย 2 หรือจะพูดให้ถูกก็คือทั้งเอเรียนั้นเป็นเขตของโงเรียนเลยก็ได้ล่ะนะ แต่ว่าถ้าไปเรียนที่นั่นก็จะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้เพราะจะต้องพักที่หอพักที่นั่น และที่นั่นก็ยังเปิดสอนตั้งแต่อนุบาลยันไปถึงมหาวิทลัยเลยด้วย แบบนั้นน่าจะสะดวกกว่านะ"
"เหรอ อืม....เดี๋ยวจะลองไปปรึกษากับพ่อแม่และน้องชายดูก่อนนะ" ฮารุกะบอก
"อืม ก็แล้วแต่นะ"
"แล้วพ่อและแม่ของยูทาโร่คุงทำงานอะไรงั้นเหรอ ?" ฮารุกะเป็นฝ่ายถามกลับบ้าง
"แม่ของฉันเปิดร้านขายอัญมณีอยู่ที่บราซิลน่ะ ท่านค่อนข้างจะชอบออกผจญภัยไปตามล่าอัญมณีหายากด้วย ส่วนพ่อของฉัน...." พอยูทาโร่พูดถึงพ่อของเขา เขาก็แสดงสีหน้าไม่ดีนักและเงียบไป
"คือว่า..."
แต่ว่าจู่ฮารุกะก็กุมมือทั้งสองข้างของชายหนุ่มไว้ "....ฮารุกะจัง..?"
"ถ้าไม่อยากพูดก็ไม่เป็นไรหรอก ฉันก็ขอโทษที่ถามเรื่องนี้นะ" ฮารุกะเข้าใจความรู้สึกของยูทาโร่ได้อย่างรวดเร็ว และปลอบโยนเขา โดยที่เธอไม่ต้องเอ่ยคำพูดใดๆออกมา
"ฉันเองก็ขอโทษนะ" ยูทาโร่ปล่อยมือจากหญิงสาว
ทาคากิ โซอิจิโร่มองภาพทั้งสองคนในกระจกมองหลังและแอบอมยิ้มเล็กน้อย
ตู้มมม!!!!
"ฮะ!?" เกิดระเบิดขึ้นตรงถนนด้านหน้าทำให้โซอิจิโร่ต้องเลี้ยวหักหลบอย่างกระทันหัน ส่งผลให้รถไปชนกับต้นไม้ข้างทางเข้าอย่างจัง
"พวกเธอสองคนไม่เป็นไรนะ!?" ทาคากิห่วงความปลอดภัยของเด็กๆทั้งสองก่อน
"ผมไม่เป็นไรครับ!" ยูทาโร่บอก
"หนูเองก็ไม่เป็นไรค่ะ" ฮารุกะบอก
"ทั้งสองคนรีบลงจากรถเร็วเข้า!" โซอิจิโร่ตะโกน จากนั้นก็รีบปลดเข็มขัดนิรภัยและกระโดออกทางหน้าต่างรถทันที
"เร็วเข้าเถอะ ฮารุกะจัง!" ยูทาโร่บอกกับฮารุกะ หญิงสาวรีบเปิดประตูรถและรีบวิ่งลงจากรถ ส่วนชายหนุ่มก็รีบวิ่งตามไปติดๆ
ทันทีที่ออกมาหมดนั้นก็มีขนนกสีดำพุ่งแทงใส่รถของโซอิจิโร่ ทำให้เกิดระเบิดขึ้น กระแทกยูทาโร่กระเด็นไปชนกับโซอิจิโร่ "อ้ากกก!!"
"ยูทาโร่ไม่เป็นไรนะ" โซอิจิโร่ถามอาการของหลานชายของเขา
"ครับ คะ..แค่โดนแรงกระแทกนิดหน่อย" ยูทาโร่บอก
"ฮ่าๆๆๆๆ ยังรอดมาได้อีกเรอะ ทาคากิ โซอิจิโร่!" ชายปีกสีดำบินลงมายืนอยู่บนเสาไฟ
เขาคือตัวการผู้ลอบโจมตีโซอิจิโร่ในครั้งนี้ "แกนี้มันหนังเหนียวจริงๆ แต่ว่าวันนี้จะเป้นวันตายของแก"
"คุณตา...เจ้านั่นมัน!?" ยูทาโร่ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองว่าสิ่งทีเขาเห็นอยู่นั้นคือมนุษย์ที่มีปีกที่หลังจริงๆ แต่เขาก็รู้ตัวดีว่านี่ไม่ใช่ความฝัน แต่เป็นความจริง
"แกเป็..." ก่อนที่ยุทาโร่จะพูดอะไรก็ถูกโซอิจิโร่หยุดไว้
"อามามิคุง รีบพายูทาโร่หนีไปเดี๋ยวนี้!" โซอิิจิโร่สั่งฮารุกะ
"เดี๋ยวครับ หมายความว่ายังไงแล้วคุณตาล่ะ ?" ยูทาโร่ลุกขึ้นถามอย่างร้อนรน
"ตาจะถ่วงเวลามันไว้เอง พวกเธอสองคนรีบหนีไปให้เร็วและไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ เข้าใจมั้ย" ชายแก่สั่ง
ถึงโซอิจิโร่จะสั่งแล้วก็ตามแต่ยูทาโร่ก็ยังคงดื้อดึงไม่ยอมทำตาม "ใครจะไปทำแบบนั้นกันล่ะครับ ผมจะอยู่กับคุณตา!"
หมัดซ้ายของชายแก่พุ่งเข้าใส่หน้าของชายหนุ่มเต็มๆ ทำให้ตัวเขาล้มลงไม่เป็นท่า "ทำไมถึงต้อยผมล่ะครับ!?"
"ก็บอกว่าให้รีบไปไง พวกเธอน่ะอยู่ที่นี่ก็เป็นได้แค่ตัวถ่วงเปล่าๆ" โซอิจิโร่ตวาดใส่หลานชายของเขา แต่ยูทาโร่ก็ยังคงไม่ยอมไปไหน "อามามิคุง รีบพายูทาโร่ไป เดี๋ยวนี้!!"
"ค่ะ!" ฮารุกะรับคำสั่งของโซอิจิโร่และจับแขนยูทาโร่พาวิ่งหนีทันที
"ไม่ ฮารุกะจังฉันจะต้องช่วยคุณตาก่อน!" ยูทาโร่บอกกับฮารุกะ
"พวกเราทำอะไรสัตว์ประหลาดนั่นไม่ได้หรอกนะ" ฮารุกะบอกกับยูทาโร่ด้วยสายตาที่จริงจัง เธอดูไม่ตื่นกลัวกับเหตุการณ์ประหลาดในครั้งนี้เลย แถมยังดูเหมือนเธอเคยผ่านเรื่องแบบนี้มานับครั้งไม่ถ้วนแล้วด้วย
"ถึงเราจะอยากทำอะไร...แต่ว่าสำหรับคนที่ไร้พลังอย่างพวกเราแล้วน่ะ...มันก็ทำอะไรไม่ได้หรอกนะ"
จริงอย่างที่ฮารุกะพูด ยูทาโร่ก้มหน้าลงและจำใจวิ่งหนีไปพร้อมกับเธอ
"ไม่ยอมให้หนีหรอก!!" ชายปีกดำกลายร่างไปเป็นปิศาจอีกาและปล่อยขนนกสีดำโจมตีใส่ทั้งสอง
WALL,now
กำแพงอิฐผุดขึ้นมาจากพื้นดินกลายเป็นเกราะป้องกันพวกยูทาโร่ไว้ ทำให้ขนนกสีดำระเบิดใส่กำแพงนั้นแทน
"ไม่ยอมให้ไปทำอะไรหลานชายและไอดอลของฉันหรอก!"
"โห นี่สินะเวทมนต์น่ะ!" ลอสท์โครว์(อีกา) บินลงมาจากเสาไฟฟ้าลงมายืนที่พื้น
"ถ้าอย่างงั้นจะขอจัดการกับแกก่อนที่จะตามไปจัดการสองคนนั้นก็แล้วกัน" มันกางปีกสีดำและบินขึ้นไปบนท้องฟ้าอีกครั้ง
"แกจะไม่มีทางที่จะผ่านตรงนี้ไปได้!" โซอิจิโร่สวมแหวนรูปร่างประหลาดใส่นิ้วกลางข้างขวาของเขา จากนั้นก็เผยให้เห็นเหัวเข็มขัดรูปมือที่อยู่ที่เอวของเขา จากนั้นเขาก็นำมือข้างที่สวมแหวนทาบไปที่เข็มขัด
CONNECT,now
เขาสร้างวงเวทย์สีทองออกมา แล้วเขาก็หยิบปืนออกมาจากวงเวทย์นั้น
"เอาล่ะ ได้เวลาเริ่มแล้ว!" โซอิจิโร่ยิงกระสุนปืนจำนวนมากภายในการยิงครั้งเดียวใส่ลอสท์กลางอากาศ
"ของแบบนั้นคิดจะเอามาสู้กับข้างั้นเรอะ ช่างโงเขลานัก!" โครว์บินหลบกระสุนเหล่านั้นได้อย่างสบายๆและพุ่งลงมาโจมตีด้วยกรงเล็บที่เท้าใส่โซอิจิโร่ด้านล่าง
"หึ่ม!!" โซอิจิโร่ชักปืนของตัวเองและยืดออกทำให้อาวุธเปลี่ยนเป็นดาบ และรับการโจมตีของโครว์ไว้
"ไม่เลวนี่ แต่จะต้านไปได้สักกี่นาน" โครว์บินวนกลับขึ้นไปบนฟ้าและปล่อยขนนกสีดำโจมตีใส่จำนวนมาก
"ไม่ได้ผลหรอก!" โซอิจิโร่ฟันตัดทำลายขนนกสีดำที่โครว์ปล่อยออกมาทั้งหมดลงได้ "การโจมตีแบบนั้นใช้กับฉันไม่ได้!"
"โอ๊ะโอ่ คิดแบบนั้นเหรอ" โครว์ดีดนิ้ว ทันใดนั้นขนนกที่ปักอยู่ที่พื้นด้านหลังของโซอิจิโร่ก็ระเบิดขึ้นทำให้ชายแก่รับแรงกระแทกของระเบิดไปทำให้เสียหลักล้มลงมาข้างหน้า
"ฮ่าๆๆๆ เจอนี้อีกเป็นไง!"
ขนนกสีดำนับสิบปักลงที่พื้นด้านหน้าของโซอิจิโร่และมันก็ระเบิดในทันที
ตู้มมม!!!
"อ้ากกก!!!" โซอิจิโร่รับแรงระเบิดนั้นเข้าไปเต็มๆ
.
.
.
.
บนถนนเส้นทางจากเอเรีย 1 สู่เอเรีย 9 ห่างจากจุดที่โซอิจิโร่อยู่ไม่มากนัก เวลา 21.20 น.
ทาคากิ ยูทาโร่และอามามิ ฮารุกะวิ่งหนีออกมาจากจุดที่โซอิจิโร่อยู่ไม่มากนัก
เมื่อได้ยินเสียงระเบิดก็ต้องหยุดหันกลับไปทางนั้น ชายหนุ่มรู้สึกเป็นห่วงคุณตาของเขาเป็นอย่างมาก "คุณตา..."
"ยูทาโร่คุง ท่านประธานบอกให้เรารีบหนีนะ!" ฮารุกะบอกกับยูทาโร่
"ฮารุกะจัง...ฉันขอโทษ ฉันทำแบบนั้นไม่ได้" ยุทาโร่ตอบและหันหลังกลับไปยังจุดที่ตัวเองเพิ่งวิ่งมา
"ฉัน...จะต้องกลับไปช่วยคุณตาของฉัน ต้องกลับไปช่วยเขา!"
"แต่ว่ายูทาโร่คุงไม่มีพลังที่จะสามารถไปทำอะไรลอสท์ตัวนั้นได้เลยนะ!" ฮารุกะเตือนและจับแขนของชายหนุ่มไว้ "และถ้าเธอกลับไปเธอจะสามารถทำอะไรได้ล่ะ จะให้การเสียสละของท่านประธานสูญเปล่างั้นเรอะ ?"
"ฉะ..ฉันก็ไม่รู้ รู้แค่ว่าตอนนี้ ฉันจะต้องกลับไปเท่านั้น" ยูทาโร่สลัดมือของฮารุกะออก และรีบวิ่งกลับไปทันที
"ยูทาโร่คุง!!" ฮารุกะตะโกนไล่หลังของเขา แต่เขาก็วิ่งกลับไปโดยที่ไม่หันกลับมาเลย "ถ้ายูสุเกะอยู่ด้วยล่ะก็..."
หญิงสาวตัดสินใจที่จะวิ่งตามชายหนุ่มกลับไป ถึงแม้จะรู้ดีว่าถ้ากลับไปแล้วตัวเองจะไม่สามารถทำอะไรได้เลยก็ตาม
"รอก่อนนะครับ คุณตา ผมกำลังจะไปช่วยแล้ว!!" ยูทาโร่ตัดสินใจอย่างแน่วแน่และรีบวิ่งย้อนกลับไปโดยเร็วที่สุด
กลับมาที่โซอิจิโร่ ผลจากแรงระเบิดทำให้ร่างกายของเขาบอบช้ำ มีบาดแผลไปทั่วร่าง
"แค่ก..แค่ก!" ชายแก่ไอเพราะร่างกายของเขามาถึงขีดสุดแล้ว ไม่สามารถที่จะฝืนสังขารไปมากกว่านี้ได้
ลอสท์โครว์บินลงมาที่พื้น มายืนอยู่ตรงหน้าของเขา "แกน่ะมันแก่แล้วโซอิจิโร่ ยอมตายซะดีๆเถอะน่า!"
"ฉะ..ฉัน จะไม่ยอมให้แกไปทำร้ายสองคนนั้นเด็ดขาด!" โซอิจิโร่ใช้แรงเฮือกสุดท้ายฝืนพยายามลุกขึ้นยืนใหม่ "ถ้าจะไป...ก็ต้องข้ามศพฉันไปก่อน"
"พอดีฉันก็คิดจะทำแบบนั้นตั้งแต่แรกอยู่แล้วล่ะนะ!" โครว์กางปีกออกและตั้งท่าพร้อมจะพุ่งชน "ตายซะเถอะ!"
ทันทีที่ปีกสีดำของปิศาจอีกาตรงหน้าพุ่งเข้ามาด้วยความเร็ว ชายแก่ที่ไม่เหลือแรงที่จะขยับไปไหนแล้วก็ยืนรอรับความตายอยุ่นิ่งๆ
"ยูทาโร่...ตาคงจะมาได้แค่นี้...ที่เหลือของฝากหลานด้วยนะ.." โซอิจิโร่พูดสั่งเสียและหลับตาลงรอรับความตาย
"อย่ามาพูดบ้าๆแบบนั้นน้า!!!" ชายหนุ่มวิ่งเข้ามากระโดดผลักชายแก่หลบการการโจมตีของโครว์ไปได้อย่างฉิวเฉียด
ทั้งสองล้มลง โซอิจิโร่พบว่าคนที่มาช่วยเขาไว้ก็คือหลานชายของเขาเอง
"ยูทาโร่ทำไมถึงกลับมา บอกไปแล้วว่าให้หนีไปไม่ใช่เรอะ!?"
ยูทาโร่กำหมัดแน่น กัดฟันกรอดและตอบโซอิจิโร่กลับไป
"เรื่องบ้าๆแบบนั้นจะให้ทำได้ยังไง คุณตาเป็นคนสำคัญของผม ผมก็ต้องปกป้องสิถึงจะถูก แก่แล้วยังทำเท่ พอสู้ไม่ได้ก็เอะอะว่าจะตงจะตาย นี่มันไม่ใช่เกมนะครับที่ตายแล้วจะกดเริ่มใหม่ได้!"
"ยะ..ยูทาโร่.." โซอิจิโร่อึ้งที่หลานชายของเขามาพูดกับเขาแบบนี้
"โห น่าเสียดายจริงๆไม่คิดเลยว่าจะกลับมาช่วยได้ทัน" โครว์บินวนกลับมายืนตรงหน้าทั้งสอง "แต่ว่าคราวนี้ฉันจะฆ่าพวกแกไปพร้อมๆกันเลย"
"ไม่ยอมให้ทำอะไรคุณตาหรอก!" ชายหนุ่มยืนขึ้นและมาบังตัวตาของเขาไว้
"ถอยออกไปยูทาโร่ หลานสู้กับมันไม่ได้หรอก!" ชายแก่พยายามตะโกนเตือนหลานชายของเขาแต่เขาก็ไม่ยอมทำตาม
"ความรักของตากับหลานงั้นเรอะ ช่างน่าดูชมจริงๆนะ!" โครว์กางปีกอีกครั้งพร้อมที่จะพุ่งชนใส่ยูทาโร่
"ปีกสีดำโสโครกของแกน่ะ ดูยังไงก็ไม่เห็นน่าจะทำอะไรใครได้เลยนะ" ยูทาโร่พูดเยาะเย้ยโครว์ทำให้มันโกรธมากกว่าเดิม
"ตายซะเถอะ!" โครว์พุ่งตรงเข้าหายูทาโร่อย่างรวดเร็ว
ตอนนั้นเองฮารุกะก็ตามมาถึงและมาพบเห็นเหตุการณ์นี้พอดี ปิศาจปีกสีดำพุ่งแทงอกของชายหนุ่ม
"ยูทาโร่คุง/ยูทาโร่!!" ทั้งหญิงสาวและชายแก่ต่างตะโกนชื่อของเขาออกมาพร้อมกัน
DRIVER ON,please
เสียงประหลาดดังมาจากชายหนุ่มและปิศาจอีกา เกิดวงเวทสีแดงกระแทกร่างของโครว์ออกไป
"มะ..เมื่อกี้นี้มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมเจ้านั่นถึง!?" โครว์ถอยห่างและตะลึงกับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า
"เกิดอะไรขึ้น ?" ฮารุกะยืนมองวงเวทสีแดงที่ออกมาจากตัวของชายหนุ่ม "วงเวท ?"
"หรือว่า!?" โซอิจิโร่หันกลับไปมองที่แหวนของตัวเองที่มีอยู่พบว่าแหวนของเขาหายไปวงนึง
"ยูทาโร่หรือว่าหลานจะเอาไป..!?"
"ก็วิธีที่จะสู้กับเจ้านี้ได้ ก็คงมีแค่วิธีนี้น่ะสิครับ!" เข็มขัดรูปมือแบบเดียวกับโซอิจิโร่ปรากฏขึ้นที่เอวของยูทาโร่ "ผมไม่สนว่าจะต้องใช้วิธีอะไร..ไม่สนว่าจะต้องกลายเป็นตัวอะไร..ผมขอแค่สามารถปกป้องคนสำคัญของผมได้ก็เพียงพอแล้ว!"
ชายหนุ่มหยิบแหวนสีแดงออกมาจากกระเป๋าเสื้อและทำการสวมแหวนที่นิ้วกลางข้างซ้ายทันที
"หลานเอาแหวนนั่นมาจากไหนกันน่ะ ?" โซอิจิโร่ถาม
"ขอโทษด้วยนะครับ พอดีว่าเห็นอัญมณีสวยๆแล้วมือมันอดที่จะหยิบไม่ได้ และอีกอย่างผมก็รู้สึกถูกชะตากับมันตั้งแต่ที่เห็นมันครั้งแรกเลยด้วย!" ยูทาโร่นำมือข้างที่สวมแหวนสีแดงนั้นมาทาบที่ไดร์เวอร์รูปมือ
"ขอพลัง....ให้กับฉันด้วย!"
FLAME,please
"ไม่ยอมให้ทำได้หรอก!!" โครว์ปล่อยขนนกใส่ยูทาโร่ "ตายซะเถอะ!"
และขนนกนั้นก็ระเบิดในทันที
ตู้มมม!!!!
"ฮะ!!" ฮารุกะและโซอิจิโร่ร้องออกมาเมื่อเห็นชายหนุ่มถูกระเบิดไปต่อหน้าต่อตา
"ฮ่าๆๆๆๆ" เสียงหัวเราะของปิศาจปีกสีดำดังก้องไปทั้งถนนเส้นทางที่เงียบสงัด แสงจากกองเพลิงที่เกิดขึ้นจากแรงระเบิด มันช่างสว่างไสวยิ่งกว่าแสงไฟตามเสาไฟฟ้ายิ่งนัก
"เท่านี้พวกแกก็ไม่มีอะไรเหลือแล้ว ฮ่าๆๆๆ" โครว์ค่อยๆเดินตรงไปหาโซอิจิโร่ "ข้าจะจัดการกับ..!?"
แต่ว่ามันต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นกองเพลิงที่กำลังลุกไหม้อยู่นั้น ค่อยๆถูกดูดเข้าไปในใจกลางของกองเพลิงอย่างน่าประหลาด พร้อมกับมีเงาของบุรุษผู้หนึ่งอยู่ในเปลวไฟนั้น "บ้าน่า!"
Fire Fire Fire Fire Fire
เสียงที่ดังออกมาจากเปลวเพลิง เปลวอัคคีที่ค่อยถูกดูดเข้าไปวงเวทสีแดง ร่างของจอมเวทสีแดงที่ยืนอยู่ตรงหน้าของพวกเขาทั้งสาม ในที่สุดจอมเวทคนใหม่ก็ถือกำเนิดขึ้นมาแล้ว
"เอาล่ะ โชว์ไทม์!" เปลวไฟทั้งหมดถูกดูดหายไปในวงเวทเหลือเพียงจอมเวทสีแดงที่ยืนอยุ่ตรหงน้าเท่านั้น
"นะ..นายคือ..ยูทาโร่งั้นเรอะ ?" โซอิจิโร่ถามเพื่อความแน่ใจว่าคนที่อยู่ตรงหน้าใช่หลานชายของเขารึเปล่า
"แน่อยู่แล้วสิครับ จะให้เป็นใครอื่นอีกล่ะ" คำตอบชวนน่าถีบแบบนี้ทำให้โซอิจิโร่รู้ในทันทีว่านี่เป็นหลานชายของเขาแน่นอน
"ตอนนี้ผมก็คือ Wizard หรือจะให้เรียกอีกอย่างหนึ่งก็คือจอมเวท ล่ะนะ"
"ถึงแกจะเป็นตัวอะไรก็ช่าง ข้าจะจัดการแกซะ!" โครว์ปล่อยขนนกโจมตีใส่ยูทาโร่
จอมเวทหนุ่มสวมแหวนอีกวงที่นิ้วกลางข้างขวา จากนั้นก็สับด้านทิศของมือที่ไดร์เวอร์กลับมาอีกด้านหนึ่ง จากนั้นก็นำมือไปทาบที่ไดร์เวอร์นั้น
DEFEND,please
วิซาร์ดหมุนตัวก็บังเกิดพายุไฟขึ้นมา เผาผลาญทำลายขนนกสีดำของโครว์ไปจนหมดสิ้น
"โจมตีอยู่แต่ท่าเดิมๆอยู่ได้ ฉันน่ะรู้การเคลื่อนไหวของแกหมดแล้วล่ะ!"
"แกนะแก อย่ามาทำอวดเก่งไปหน่อยเลย!" โครว์บินโฉบเฉี่ยวลงมาโจมตีใส่จอมเวท แต่เพียงชั่วพริบตามันก็ถูกเขาจำล็อคไว้ได้และถูกจับทุ่มลงกับพื้น
"บอกแล้วไงว่า ฉันมองการเคลื่อนไหวของแกออกหมดแล้วน่ะ" วิซาร์ดเตะโครว์ซ้ำให้มันกระเด็นออกไปชนกับต้นไม้
"ยูทาโร่ เอานี่ไป!" โซอิจิโร่โยนแหวนของตัวเองให้กับหลานชายของเขา
จอมเวทหนุ่มรับแหวนวงนั้นมาและเปลี่ยนแหวนที่สวมมือขวากับแหวนวงนี้ "ขอลองดูหน่อยละกัน!"
เขาสับทิศมือที่เข็มขัดไปยังด้านซ้าย และก็สับกลับมาที่ด้านขวาอีกที จากนั้นก็ใช้แหวนวงนั้นทาบที่ไดร์เวอร์
CONNECT,please
วิซาร์ดสร้างวงเวทสีแดงขึ้นมาข้างๆตัวเขาและยื่นมือเข้าไปหยิบปืนของโซอิจิโร่ออกมา
"เอาล่ะนะ!" จอมเวทสีแดงหมุนตัวและเหนี่ยวไกยิงกระสุนเวทมนต์ใส่ลอสท์
"อยากจะบอกว่าท่านั้นมันทำอะไรฉันไม่ได้!" โครว์บินขึ้นไปบนฟ้าเพื่อที่จะหลบกระสุนปืนของเขา
"ไม่รู้หรอกนะว่าจะบินขึ้นไปทำไม แต่หลบแบบนั้นมันไม่ได้ผลหรอกนะ!" กระสุนปืนทั้งหมดที่วิซาร์ดเป็นคนยิงออกมาค่อยๆเลี้ยวขึ้นไปข้างบนและโจมตีใส่โครว์ที่อยู่บนฟ้าทุกนัด
"อะไรกัน!?" ปิศาจอีกาปีกสีดำร่วงลงมาจากท้องฟ้า
วิซาร์ดชักปืนออกและยืดกลายเป็นดาบและตามเข้าไปฟันใส่โครว์ที่กำลังร่วงลงมา "ฮ่าส์!"
"อ้ากกก!!" ปีกสีดำทั้งสองข้างของโครว์ถูกตัดออก ทำให้มันกลายเป็นนกไร้ปีกไปในทันที
วิซาร์ดหมุนตัวกลับมา "เอาล่ะ เจอท่านี้ต่อ!"
เขาเปลี่ยนแหวนที่มือขวาออกและใส่แหวนวงใหม่ไปแทน จากนั้นก็สับเปลี่ยนทิศของมือที่ไดร์เวอร์ไปด้านซ้ายและก็เปลี่ยนกลับไปด้านขวาอีกที แล้วก็นำแหวนวงนั้นทาบที่ไดร์เวอร์
BIG,please
จอมเวทสร้างวงเวทสีแดงขึ้นมา จากนั้นก็ใช้มือผ่านวงเวทนั้นไปทำให้แขนของเขาขยายใหญ่ขึ้น
"ฉะ..ฉันยังไม่ยอมแพ้หรอก" โครว์ลุกขึ้นยืนขึ้นมาอีกที แต่พอมันลุกขึ้นมาก็ต้องตะลึงกับมือที่ขยายยักษ์ของวิซาร์ด "อะ..อะไรกัน!?"
"ฮ่ะ!" วิซาร์ดตบลงไปที่โครว์ทำให้มันล้มลงติดไปกับพื้น
"เอาล่ะคงได้เวลา ที่จะผิดม่านซักทีล่ะนะ!" วิซาร์ดเปลี่ยนแหวนที่ตัวเองสวมที่มือขวาไปเป็นอีกวงนึง
จากนั้นเขาก็สับเปลี่ยนทิศของมือที่เข็มขัดไปด้านซ้าย และก็สับเปลี่ยนกลับมาที่ด้านขวาอีกที จากนั้นก็นำมือไปทาบตรงนั้นอีกครั้ง "finale"
very nice ,KICK STRIKE!
Fabulous!!!
จอมเวทแดงหมุนตัวรอบหนึ่งก่อนที่จะเกิดวงเวทสีแดงใต้เท้าของเขา นั่นทำให้เกิดพลังไฟขึ้นมาที่เท้าของเขา
"ฮาาาา..." วิซาร์ดกระโดดตีลังกาเข้าไปใกล้โครว์ จากนั้นก็ดีดตัวกระโดดขึ้นไปบนฟ้า และพุ่งลงมาเตะใส่มัน "ฮ่าส์!!"
"อัก...อะ..อะ!" โครว์ถูกท่าเตะนั้นเข้าไป ร่างของมันเกิดวงเวทสีแดงขนาดใหญ่ขึ้นมา แล้วก็ระเบิดไปในที่สุด
บรึ้มมม!!!!
วิซาร์ดลงมาที่พื้น หันกลับไปมองเปลวไฟที่เกิดจากแรงระเบิดที่เขาทำเอาไว้
"ก็คง..ประมาณนี้ล่ะนะ" ร่างของจอมเวทสีแดงคืนกลับเป็นร่างของชายหนุ่มตามเดิม
ยูทาโร่ย้อนกลับไปดูอาการบาดเจ็บของโซอิจิโร่ แต่พบว่าตอนนี้บาดแผลทั้งหมดของเขากลับมาหายดีเป็นปกติหมดแล้ว โดยมีฮารุกะคอยดูแล "คุณตาทำอะไรไปน่ะ แล้วแผลล่ะ ?"
"ก็แค่ใช้แหวนรักษาเท่านั้นล่ะ อย่างน้อยก็ทำให้บาดแผลภายนอกหายดีได้ล่ะนะ" โซอิจิโร่บอก
"ยูทาโร่...หลานทำได้ดีมากเลย เพียงแค่ใช้ครั้งแรก หลานก็สามารถใช้พลังนั้นได้อย่างเชี่ยวชาญ แต่ว่า...นี่ก็เป็นสิ่งที่ตากลัวว่าจะเกิดขึ้นมากที่สุดเช่นกัน.."
"หมายความว่ายังไงครับ ?" ยูทาโร่ถาม
"หลานต้องเข้ามาพัวพันกับชะตากรรมที่โหดร้ายนี้ และจะไม่สามารถถอยหลังกลับได้อีกแล้ว" โซอิจิโร่บอกกับยูทาโร่ เขารู้สึกผิดมากที่ทำให้หลานชายของตัวเองต้องมาอยู่ในสภาพเช่นนี้
"ตาต้อง..ขอโทษด้วยจริงๆ"
"เงยหน้าขึ้นเถอะครับ คุณตา" ยูทาโร่ปลอบใจคุณตาของเขา "ผมไม่ได้เป็นสิ่งนี้เพราะถูกใครบังคับ เพราะเลือกที่จะเป็นของผมเอง ตั้งแต่นี้ไปผมจะใช้พลังนี้เพื่อที่จะปกป้องคุณตาเองครับ"
"ยูทาโร่...." โซอิจิโร่ได้รับคำปลอบโยนจากหลานของตัวเองแล้วทำให้เขารู้ซึ้งใจเป็นอย่างมาก
"แต่ว่านี่มันเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น สิ่งที่หลานต้องพบเจอในอนาคตยังมีอยู่อีกมาก หลานจะยอมรับมันได้อย่างงั้นเรอะ ?"
"ครับ ผมพร้อมเสมอนั่นล่ะครับ!" ยูทาโร่ตอบอย่างมั่นใจ
"ถ้าอย่างงั้นเราก็ต้องกลับไปกันแล้วล่ะ!" โซอิจิโร่ลุกขึ้น
"กลับไป ? กลับไปที่ไหนครับ ?" ยูทาโร่ถาม
"ตาอยากจะให้เธอทั้งสองรู้ไว้อย่างนึงว่า...ที่นี่ไม่ใช่ทีเดียวที่เกิดเรื่องประหลาดแบบนี้ขึ้นมาหรอกนะ แต่ว่าที่อื่นๆก็มีเหตุการณ์ที่เหมือนกับเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไปทั่วเมืองเลยล่ะ" คำพูดของของโซอิจิโร่ทำเอายูทาโร่นิ่งอึ้งไปสักพักใหญ่
"หมายความว่ามีคนที่มาเป็นจอมเวทแบบผมอีกยังงั้นเรอะ ?"
โซอิจิโร่ส่ายหน้า้ "ไม่ใช่หรอก พวกเขาต่างออกไป"
"แต่ว่าพวกเขา...ก็เป็นเพียงแค่คนที่ถูกชะตากรรมชักพาเท่านั้น...."
สายลมที่พัดผ่านมายามค่ำคืนนี้ วันเวลาที่ผ่านพ้นไป ชะตากรรมของพวกเขาทั้งหลายเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น....
.................... TO BE CONTINUE ....................
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น