ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3 คำสาบานและเจ้าหญิงแห่งแวมไพร์
สวนเกษตรของชมรมเกษตรของโรงเรียน SMART BRAIN เวลา 12.30 น.
"มาเริ่มกันเลย!!" มาสค์ไรเดอร์คิบะเข้าสู้กับไนท์แมร์สแกร์โครว์ เขาใช้หมัดของเขาต่อยใส่มันอย่างเต็มแรงแล้วก็ตามด้วยการต่อรัวใส่มันอีกหลายครั้ง แล้วก็กระแทกให้มันกระเด็นถอยออก "เมื่อกี้แค่ลองเชิงเท่านั้น...ต่อไปนี้ล่ะจะเป็นของจริง!"
หญิงาสวผู้หนึ่งวิ่งเข้ามาดูการต่อสู้ของคิบะกับไนท์แมร์ตนนี้ โดยที่เธอแอบหลบอยู่หลังต้นไม้และคอยสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ "ท่าทางการต่อสู้จะเพิ่งเริ่มสินะ...ฝั่งนั้นเป็นไนท์แมร์ตามที่คาดเอาไว้ ส่วนคู่ต่อสู้ก็คือ..." เธอจ้องไปที่คิบะเหมือนกับว่าเคยรู้จักเขามาก่อน
"แฮ่!!!" ไนท์แมร์สแกร์โครว์งอกเคียวแหลมออกมาจากร่างของมันอีก พร้อมกับปล่อยเคียวออกมาเป็นบูมเมอร์แรงขว้างโจมตีใส่คิบะจำนวนมาก ซึ่งเขาก็ทำการตอบโต้ด้วยการใช้เท้าเหล็กข้างขวาปัดการโจมตีด้วยเคียวพวกนั้นออกซึ่งสแกร์โครว์ก็ใช้ช่วงจังหวะที่เขาทำเช่นนั้นเข้าไปโจมตีด้วยเคียวในระยะใกล้ มาสค์ไรเดอร์จึงต้องรีบถอยห่างอย่างรวดเร็ว
ฝ่ายคิบะนั้นถูกเทคนิคการโจมตีของไนท์แมร์สแกร์โครว์เป็นฝ่ายกดดันเขาจนทำให้มาสค์ไรเดอร์ตกอยู่ในสภาพเสียเปรียบ "หนอย..เจ้านี้เราจะจัดการมันยังไงล่ะเนี่ย!?" พอมันเข้ามาโจมตีซ้ำคิบะก็ทำได้เพียงกลิ้งหลบแล้วลุกขึ้นมาต่อยมัน ทำให้มันเสียหลักเล็กน้อย
"ฮ่าๆๆๆ!!" ไนท์แมร์สแกร์โครว์ปล่อยบูมเมอร์แรงออกมาโจมตีใส่คิบะอีกครั้ง ซึ่งในช่วงนั้นเองจะเป็นช่วงที่มันไม่สามารถขยับได้ ไซโตะจึงใช้โอกาสเพียงเสี้ยววินาทีนี้กลิ้งตัวเข้าไปใกล้มันเตะมันลอยขึ้นไปข้างบน แล้วตามด้วยใช้แฟซเซิลสีแดงที่คิบัท
WAKE UP!
"กำลังจะจัดการแล้วสินะ.." หญิงสาวมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่ค่อยๆแปรสภาพเป็นยามราตรี สามารถพบเห็นดวงจันทร์เสี้ยวดวงใหญ่ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าได้อย่างชัดเจน แล้วมาสค์ไรเดอร์คิบะก็กระโดดขึ้นไปเกราะเหล็กที่ขาได้แตกออกเผยให้เห็นเท้าสีเลือด แล้วมาสค์ไรเดอร์ก็พุ่งลงมาจากท้องฟ้าเข้าหาไนท์แมร์สแกร์โครว์
แต่ก่อนที่คิบะจะเตะใส่มันได้สำเร็จ จู่ๆร่างของไนท์แมร์ตนนี้ก็หายไปกลางคันโดยที่ไม่รู้สาเหตุทำให้ท่าเตะของคิบะนั้นเตะลงสู่พื้นแทนจนเกิดเป็นตราสัญลักษณ์ขนาดใหญ่บนพื้นสวน "เดี๋ยวสิ..เจ้านั้นหายไปได้ยังไง..?" ไซโตะพยายามมองไปรอบๆแต่ก็พบว่ามันไม่อยู่แล้วจริงๆ "กะ..เกิดอะไรขึ้น ?"
"ตื่นแล้วยังงั้นงั้นเรอะ!?" หญิงสาวแสดงสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะเดินออกไปจากตรงนั้น "การจะสามารถกำจัดไนท์แมร์ได้..จำเป็นต้องตามหาผู้ถูกลงตราประทับเสียก่อน มิเช่นนั้นก็ไม่อาจจะสามารถล้างคำสาปของไนท์แมร์ได้..."
ค้างคาวที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับคิบัทเพียงแต่เป็นสีน้ำเงินขาว ตัวเล็กกว่าและเป็นเพศหญิง บินขึ้นมาเกาะที่ไหล่ของหญิงสาว "เรื่องนั้นดิฉันก็ทราบค่ะเจ้าหญิง แต่ว่าขนาดพวกเราก็ยังไม่มีวิธีตามหาบุคคลที่ถูกประทับเลยนะเจ้าคะ การจะออกตามหาได้ต้องตามหาด้วยวิธีปกติเท่านั้นเจ้าค่ะ"
"แต่ว่าการออกมาที่ประเทศนี้ครั้งแรกก็ตื่นเต้นไม่น้อยเลยนะคะ ทางฝ่ายเราก็ขอเป็นฝ่ายออกมาเองด้วย ทางนั้นก็คงจะวุ่นวายไม่น้อยแต่ก็เพราะแบบนั้นถึงได้ทิ้งจดหมายไว้แล้ว ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรตามมานะ" หญิงสาวคุยกับคิบาร่า
"ตามที่คิดเลยนะว่าเธอจะต้องไม่ใช่คนปกติน่ะ ฮันเรียตต้า ทริสเทน" ฮินะงิคุและสึคาสะที่แอบมาดักเธอไว้อยู่แล้วเดินเข้ามาหาเธอ "เธอเป็นใครกันแน่!? ความรู้สึกที่สัมผัสจากตัวเธอมันไม่ใช่ความรู้สึกเหมือนมนุษย์ปกติและยิ่งเห็นเธอคุยกับค้างคาวที่คล้ายกับของฮิรากะคุงแบบนี้ ทำให้ฉันเริ่มจะเข้าใจถึงตัวตนของเธอแล้วล่ะ.."
"นังผู้หญิงคนนี้หัดระวังปากบ้างนะ พวกเจ้าไม่รู้เหรอว่ากำลังพูดกั..." คิบาร่าที่กำลังต่อว่าฮินะงิคุถูกฮันเรียตต้าจับแล้วเก็บลงไปในถุงผ้าของเธอ
"ขอโทษนะคะ ที่คิบาร่าเสียมารยาทเธอคนนี้จริงๆแล้วเป็นเด็กกีค่ะแต่ว่าเป็นคนที่ชอบทำตามใจตัวเองมากเกินไปหน่อย" ฮันเรียตต้าพูดอย่างเป็นกันเองกับทั้งสอง "ตอนแรกก็คิดว่าจะเป็นฝ่ายบอกเองนะคะ แต่ถ้าพวกคุณทั้งสองรู้แล้วแบบนี้ก็คงต้องแนะนำตัวอย่างเป็นทางการแล้วล่ะค่ะ"
"ดิฉันชื่อฮันเรียตต้า ทริสเทนเป็นผู้สืบสายเลือดจากแวมไพร์สายเลือดบริสุทธิ์หรือที่เรียกกันว่า ชินโซ ตามตำแหน่งของราชวงค์ดิฉันมีฐานะเป็นเจ้าหญิงของแวมไพร์ค่ะหรือจะเรียกตามภาษาของเมืองนี้ก็ควรจะเรียกชื่อของฉันว่า...มาสค์ไรเดอร์คิบาร่าค่ะ" เธอแนะนำตัวเอง
.
.
.
.
โรงเรียน SMART BRAIN เวลา 19.40 น.
ไซโตะ,ฮารุกะ,ฮินะงิคุ,สึคาสะและฮันเรียตต้า ต่างมารวมกันอยู่กันที่สวนของโรงเรียนที่ค่ำมืด มีเพียงดวงจันทร์สีฟ้าที่เป็นแสงสว่างนำทางให้กับพวกเขา ฮันเรียตต้าเริ่มอธิบายลักษณะของไนท์แมร์ระหว่างที่พวกเขาต้องออกตามหาผู้ถูกประทับตรา "ไนท์แมร์ เป็นสิ่งที่เกิดมาจากตราประทับแห่งความฝัน บุคคลที่ถูกสิ่งนั้นเข้าไปก็จะเป็นผู้ให้กำเนิดไนท์แมร์ออกมา ซึ่งรูปร่างลักษณะของมันก็จะขึ้นอยู่กับจินตนาการของคนๆนั้นด้วยค่ะ เป้าหมายเพียงอย่างเดียวของพวกมันคือการแย่งชิงความฝันของมนุษย์ไปให้กับหนังสือแห่งความมืด"
"หนังสือแห่งความมืด!?" ทั้งสี่ที่ฟังฮันเรียตต้าก็ให้ความนใจไปที่สิ่งนั้นมากที่สุด สึคาสะจึงเป็นคนเริ่มถาม "มันคืออะไรเหรอคะ ?"
"หนังสือแห่งความมืดเป็นหนังสือที่สร้างขึ้นมาจากการใช้ศาสตร์มืดซึ่งมีอยู่ด้วยกันสามเล่ม ทั้งสามสิ่งนั้นจะมีวิธีการในการกระทำที่ต่างกันแต่จะมีจุดประสงค์เหมือนกันคือ การเปลี่ยนจิตใจของมนุษย์และสิ่งมีชีวิตสายพันธ์อื่นๆให้ตกต่ำลง" จากที่ฮันเรียตต้าอธิบายทำเอาทุกคนอยุ่ในสภาพตรึงเครียด แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังที่จะเล่าต่อ "เล่มที่เราเจอในคราวนี้คือหนังแห่งความมืดเล่มที่ 2 ความฝัน เป็นเล่มที่มีความหมายตรงกับตามชื่อไนท์แมร์ พวกนั้นเปรียบเสมือนเป็นฝันร้ายของมนุษย์ค่ะ"
"การทำลายพวกมันด้วยวิธีการปกติไม่สามารถท่จะจัดการพวกมันลงได้ ต้องจัดการด้วยการใช้อัญมณีสีขาวไปทำลายตราประทับของผู้ถูกทำสัญญาก่อนถึงจะสามารถหยุดตราประทับนั้นได้ หากไม่ทำเช่นนี้ไม่ว่าจะกำจัดไนท์แมร์ไปซักกี่ครั้งก็ไม่มีความหมายค่ะ" ฮันเรียตต้าใช้มือเสยผมของเธอขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่จะเริ่มเล่าต่อ "และยิ่งปล่อยมันดูดพลังของคนอื่นไปมากเพียงใด พวกมันก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น เหมือนกับไนท์แมร์ที่เพิ่งสู้ไปเมื่อก่อนหน้านี้ค่ะ!"
ไซโตะที่ได้ยินคำพูดนั้นมาจากฮันเรียตต้าก็ทำให้เขารู้สึกเจ็บใจเล็กน้อย เพราะเขาไม่สามารถเอาชนะไนท์แมร์ที่สู้ด้วยเมื่อก่อนหน้านี้ได้ "คราวนี้ฉันจะเป็นคนจัดการกับมันให้ได้เลย!" สายตาของเขาดูน่ากลัวกว่าครั้งที่ผ่านๆมามาก
ฮารุกะซึ่งสังเกตเห็นไซโตะที่ดูเครียดและคิดจริงจังทำให้เธอรู้สึกเป็นห่วง "ไซโตะคุง...." หญิงสาวรวบรวมความกล้าจับมือกับเด็กหนุ่มเพื่อหาทางที่จะทำให้เขาใจเย็นลง "..คะ..คือ..ขอโทษนะ ฉันก็แค่...ไม่อยากเห็นไซโตะคุงทำหน้าแบบนั้นตลอดเวลา...มันรู้สึกไม่ดีเลย"
"ฮารุกะ..." ไซโตะเริ่มกลับมาคิดทีละนิดและเขาก็สูดหายใจเข้าและออกอย่างเบาๆ "เข้าใจแล้ว ฉันจะไม่รีบร้อนจนเกินไป คราวนี้ฉันจะต้องรอบคอบขึ้น ขอบใจมากเลยนะ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนที่สุด เพื่อที่จะทำให้ฮารุกะวางใจ
"ฮันเรียตต้า แล้วเธอมีวิธีตามหาตำแหน่งของคนที่ถูกลงตราประทับรึเปล่า หากมีวิธีล่ะก็ก็จะช่วยเหลือทางฝั่งนี้ได้มากเลย จะได้สามารถไปถึงตำแหน่งนั้นได้โดยไม่ต้องออกตามหาให้เสียเวลานานแบบนี้" ฮินะงิคุถามฮันเรียตต้า แต่จู่ๆคิบาร่าก็บินออกมาจากถุงผ้าของเธอ
"อย่ามาเรียกชื่อองค์หญิงห้วนๆแบบนั้นสิ ตำแหน่งของเธอกับท่านผู้นี้ต่างกันมากเลยนะ จะบอกใ...." ระหว่างที่คิบาร่าต่อว่าฮินะงิคุเธอก็ถูกฮันเรียตต้าเก็บใส่ถุงผ้าและคราวนี้ก็มัดไว้ เพื่อไม่ให้เธอออกมาโดยพลการอีก
"ต้องขอโทษจริงๆนะคะ เด็กคนนี้ชอบทำอะไรตามใจอยู่เรื่อยจริงๆ แต่จริงๆแล้วเธอเป็นคนดีนะคะอย่าโกรธเคืองเธอเลยค่ะ" ฮันเรียตต้าพูดขอโทษแทนคิบาร่า แล้วพวกเขาก็เดินออกตามหาผู้ทำสัญญาต่อ
ฮารุกะเกิดข้อสงสัยขึ้นมาหนึ่งอย่างเลยถามฮันเรียตต้า "ฮันเรียตต้าจังแล้วคิบาร่ากับคิบัทเนี่ยมีความเกี่ยวข้องกันรึเปล่า เป็นค้างคาวเหมือนกันด้วยแบบนี้ แถมฮันเรียตต้าก็ยังบอกว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงแห่งแวมไพร์หมายความว่าไซโตะคุงก็เป็นราชาใช่มั้ย ?"
"เป็นญาติกันจริงๆค่ะ ทั้งสองเป็นพี่ชายกับน้องสาวค่ะ" ฮันเรียตต้าตอบ
"จริงอย่างงั้นเรอะ คิบัท ?" ไซโตะถามคิบัทเพื่อเช็คคำตอบของฮันเรียตต้า
คิบัทหลบหน้าและแสดงท่าที่ไม่พอใจเล็กน้อย "จอมจุ้นจ้านอย่างผู้หญิงคนนั้นน่ะ ฉันไม่รับเป็นน้องสาวหรอก!" ท่าทางของทั้งสองเหมือนจะไม่ถูกกันเป็นอย่างมาก
"ส่วนเรื่องตำแหน่งราชาหรือราชินีนั้นดิฉันเองก็ไม่ทราบเรื่องมากหรอกค่ะ เห็นว่าพลังทั้งสองจะเป็นเปรียบเสมือนพลังของผู้ปกครองโลกในมุมมืด แต่พวกเขาก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่มากหรอกค่ะ ถ้าจะให้ยิ่งใหญ่ระดับสูงสุดจริงๆก็คงจะไม่พ้นผู้ปราบพระเจ้า หรือที่เรียกกันว่า campione หรอกค่ะ จำได้ว่าในหมู่มาสค์ไรเดอร์เองก็มีอยู่คนนึงนะคะ" ฮันเรียตต้าตอบคำถามของฮารุกะตามที่เธอรู้ แต่ก็สร้างความสงสัยเรื่องแคมปิโอเน่ให้กับเธอ
"Campione ในหมู่พวกเราอย่างงั้นเรอะ เป็นใครกันนะ ?" ฮารุกะมองขึ้นไปท้องฟ้าเพื่อพยายามนึกหาคำตอบ แต่ถึงแม้เธอจะทำเช่นนั้น เธอก็ไม่รู้อยู่ดีว่าเป็นใคร
ฐานทัพแรบบิทแฮทซ์ เวลา 20.00 น.
"ฮัดเช่ย!!" คุซานากิ โกโดเด็กหนุ่มผู้เป็นมาสค์ไรเดอร์เบลดผู้ครองพลังแห่งราชันย์ ซึ่งตอนนี้เขากำลังอยู่ที่ฐานทัพแรบบิทแฮทซ์พร้อมกับชาร์ล ฮายาเตะและลิเลียน่าครานจาห์ ผู้เป็นมาสค์ไรเดอร์คาลิซและยังเป็นองค์รักษ์ประจำตัวเขา ซึ่งในตอนนี้เขาก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีคนนินทาเขา "ก็ไม่ได้เป็นหวัดนะ...แล้วทำไมถึงจามล่ะเนี่ย ?"
"อาจจะเป็นเพราะช่วงนี้ท่านฝึกหนักมากจนเกิดไปทำให้ร่างกายท่านอ่อนแอลงก็เป็นได้ค่ะ" ลิเลียน่าเข้ามาเช็คอาการไข้ของโกโดแต่ก็ไม่พบอะไรผิดปกติ "..หรือไม่ก็ท่านแค่อาจจะสูดฝุ่นทำให้จามออกมาก็ได้นะคะ"
ฮายาเตะได้ยินเรื่องที่ทั้งสองคุยกันจึงหันกลับมาถาม "คุซานากิคุงฝึดกหนักอย่างงั้นเหรอครับ เพื่อที่จะพร้อมกับการต่อสู้ในภายหน้างั้นเหรอครับ ?"
"ช่วงนี้ยังไม่มีเรื่องอะไรที่รุนแรงเกิดขึ้น ดังนั้นฉันคิดว่าถ้าเราเตรียมตัวไว้ก่อนก็อาจจะทำให้เราพร้อมที่จะสู้กับศัตรูที่จะมาถึงได้" โกโดตอบ แต่พอเขามองไปที่จอมอนิเตอร์ที่มีข้อมูลสัญญาณประหลาดเต็มหน้าจอก็ทำให้เขารู้สึกไม่ดีนัก "แต่ว่าเรื่องร้ายๆอาจจะเกิดขึ้นก่อนที่เราจะรู้ตัวก็ได้..."
"นั่นสินะครับ" ฮายาเตะเห็นด้วยกับโกโด และก็รู้สึกสังหรณ์ไม่ดีเช่นกัน
"แล้วฮิรากะ ไซโตะกับอามามิ ฮารุกะออกไปจากที่นี้นานมากแล้วนะคะ ก็ยังไม่กลับมาซะที อาจจะเกิดเรื่องอะรขึ้นภายในโรงเรียนก็ได้นะคะ" ลิเลียน่าพูดถึงความเป็นไปได้ที่เธอคาดไว้ "ตอนนี้ทางโบสถ์กำลังหาทางร่วมมือกับทางฝ่ายต่างๆอยู่ ได้ยินมาว่าจะส่งคนมาด้วยแต่ก็ไม่ทราบว่าจะเป็นใครนะคะ"
ชาร์ลที่กำลังทำอะไรบางอย่างกับคอมพิวเตอร์อยู่นั้นเธอก็สามารถตรวจจับความผิดปกติของคลื่นสัญญาณขึ้นมาได้ "ทุกคนครับลองมาดูนี่สิครับ คิดว่ามันแปลกรึเปล่าที่คืนสัญญาณเป็นรูปแบบนี้..." เธอเปิดภาพขึ้นมาแต่ทุกคนก็ไม่พบความผิดปกติ
ในตอนนั้นลิเลียน่าก็พบจุดผิดสังเกตก่อนคนอื่น "คลื่นสัญญาณจะปรากฏอยู่ในรัศมีของภายในสวนผักของโรงเรียนเท่านั้น มีตำแหน่งข้างเคียงบ้างเล็กน้อยแต่ก็ไม่ห่างเกินรัศมี 500 เมตร แต่ว่านั่นก็ครอบคลุมพื้นที่สวนไร่แทบทั้งหมดแล้ว"
"ถ้าอย่างนั้นจุดศูนย์กลางก็น่าจะอยู่ที่..." โกโด,ลิเลีย่า,ฮายาเตะและชาร์ลตางคาดเดาไว้เหมือนกันและพบว่าก็เป็นตามที่คาดไว้ "...โรงฟาร์มของชมรมเกษตร!"
หน้าทางเข้าสวนชมรมเกษตร เวลา 20.30 น.
"คาดว่าเป็นที่นี่ล่ะค่ะ จากการสำรวจการปรากฏตัวของไนท์แมร์จะมีขอบเขตที่ไม่ห่างจากตำแหน่งของผู้ถูกประทับตราสัญลักษณ์มากนัก และที่นี่เองเมื่อในตอนเช้าก็เกิดเรื่องขึ้นที่นี่สินะคะ ?" ฮันเรียตต้าหันมาหาไซโตะเหมือนกับว่าเธออยากให้เขาเป็นตอบคำถามของเธอเอง
ไซโตะพยักหน้าแต่เขาก็ไม่อยากจะนึกถึงความพ่ายแพ้ของเขาต่อไนท์แมร์สแกร์โครว์ที่เกิดขึ้นมากนัก "แต่ว่าถ้าเป็นที่นี่จริงๆ แล้วตำแหน่งของผู้ถูกประทับตราจะไปอยู่ที่ไหนล่ะ ?" เขาถามเธอกลับ
"เรื่องนั้นดิฉันเองก็ไม่ทราบค่ะ แต่ว่าเราต้องออกตามหาเขาให้เจอก่อนที่ไนท์แมร์จะปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง ไม่เช่นนั้นการจะกำจัดพวกมันได้ในครั้งนี้นั้นก็ยากขึ้นมากกว่าครั้งก่อนๆด้วยค่ะ!" ฮันเรียตต้าพูดด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่จริงจัง ซึ่งทุกคนเองก็ตัดสินใจที่จะไม่ให้เสียเวลาไปมากกว่านี้แล้วจึงต้องรีบตัดสินใจเข้าไป
ก่อนที่ทุกคนจะเดินไปสึคาสะก็หยุดเดินแล้วเรียกทุกคนก่อน "ทุกคนคะฉันคิดว่าพวกเราควรแยกออกเป็นสองทางนะคะ เพราะสวนเกษตรนี้อาจจะไม่กว้างมากก็จริง แต่ว่าหากเราแยกกันฉันก็คิดว่าจะสามารถออกตามหาผู้ถูกประทับได้เร็วขึ้นด้วยนะคะ"
"นั่นสินะ ฉันเห็นด้วยกับความคิดของสึคาสะ ถ้าอย่างงั้นฉันกับฮันเรียตต้าจะไปทางนี้เอง ส่วนฮิรากะคุง สึคาสะและฮารุกะไปนั่นละกันนะ" ฮินะงิคุชี้ทางที่ให้พวกเขาไปคือโรงฟาร์ม ส่วนพวกเธอเองจะไปทางสวนไร่ "งั้นก็ระวังตัวด้วยล่ะ หาเจอผู้ประทับแล้วรีบติดต่ิมาทันทีเลยนะ!"
"ระวังตัวด้วยนะคะ ไนท์แมร์หากปรากฏออกมาแล้วหากไม่กำจัดก่อน เราก็จะไม่สามารถใช้อัญมณีแห่งแสงทำลายตราประทับได้ เพราะพลังของไนท์แมร์จะรุนแรงขึ้นดังนั้นหากเจอแล้วก็รีบหาทางทำลายตราสัญลักษ์ก่อน หรือว่ารวมพลังกันจัดการก่อนนะคะ" ฮันเรียตต้าเตือนพวกไซโตะก่อนที่เธอกับฮินะงิคุจะเดินไปสำรวจอีกทางนึง
"พวกเราเองก็ไปกันเถอะ!" ฮารุกะพูดชวนทั้งสองคน แล้วพวกเธอก็มุ่งหน้าไปยังโรงฟาร์มที่ตอนนี้กลายเป็นสถานที่ที่มืดมิดเพราะเนื่องจากไม่มีใครอยู่ในนี้อีกแล้ว ประตูทางเข้าและหน้าต่างถูกปิดล็อคหมดทุกบาน "แบบนี้เราก็เข้าไปในนี้ไม่ได้น่ะสิ คงต้องไปหาที่อื่นแล้วล่ะ"
"นั่นสินะคะ ที่นี่น่าจะไม่มีใครอยู่แล้วด้วย" สึคาสะเห็นด้วยกับฮารุกะและกำลังจะเดินไปจากที่นี้แต่คิบัทก็บินออกมาจากถุงผ้าของไซโตะ
"เดี๋ยวก่อนทุกคน ฉันรู้สึกบางอย่างมาจากภายในนั้นเป็นความรู้สึกที่เหมือนกับพวกไนท์แมร์มาก...แต่ว่ามันก็ให้ความรู้สึกที่ต่างออกไปด้วย" คิบัทพยายามตั้งสมาธิจับความรู้สึกนั้นให้ได้ "..ในนั้นมีคนอยู่...และยังให้ความรู้สึกเหมือนกับไนท์แมร์....คนที่ประทับตราอยู่ภายในนั้นแน่อน!"
"แต่ว่าเราจะเข้าไปยังไงล่ะ ทางเข้าก็โดนปิดหมดทุกทางเลยนะ" ฮารุกะพูดตามความจริง "และจะพังเข้าไปก็คงไม่ได้เพราะแต่ละบานก็ล็อคอย่างดีไว้ด้วย!"
ไซโตะมองขึ้นไปบนหลังคาแล้วเขาก็พบกับทางที่น่าจะสามารถทำให้เข้าไปข้างในได้ "..ถ้าเป็นทางบนนั้นก็น่าจะเข้าไปได้นะ แต่ว่าก็คงต้องออกแรงกันสักหน่อย!" เด็กหนุ่มปีนขึ้นไปบนถังไม้แล้วปีนขึ้นไปบนหลังคาของโรงฟาร์มจากนั้นเขาก็ลงมาทางปล่องไฟ แล้วไม่นานนักเขาก็ออกมาเปิดประตูให้ฮารุกะและสึคาสะ "เชิญคุณผู้หญิงทั้งสองครับ!"
"ขอบใจมากน้า!" ฮารุกะและสึคาสะเข้าไปในโรงฟาร์มตามที่ไซโตะเป็นผู้เปิดให้ แต่พอเข้ามาแล้วพวกเขาทั้งสามต่างก็ไม่พบเห็นความผิดปกติ หรือมีคนอยู่แม้แต่คนเดียว "ไม่เห็นมีอะไรเลย คิบัทนำทางมาถูกรึเปล่า ?"
"แปลกนะความรู้สึกมันยังคงค้างอยู่ในนี้น่ะ ตอนนี้ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงมันไม่น่าจะผิดพลาดได้นะ" คิบะพยายามบินเสาะหาไปรอบๆแต่มันก็ไม่พบเห็นใครอยู่ดี "หรือว่าความสามารถในการตรวจจับเราจะแย่ลง.."
"นายเนี่ยเดี๋ยวนี้ดีแต่ปากรึไง ?" ไซโตะพูดกวนคิบัทจนทำให้เขาโกรธเล็กน้อยจึงบินเข้าไปก่อกวน "คิบัทพอได้แล้ว ฉันพูดเล่นน่าอย่าโกรธกันจริงๆสิ!!"
สึคาสะเองก็ยังคงรู้สึกบางอย่างที่ผิดปกติได้เธอจึงยังคงมองไปรอบๆห้องเพื่อเสาะหาบางอย่างแบบไม่ย่อท้อ "มีบางอย่างที่นี่แปลกๆนะคะ...ฉันคิดว่าที่คิบัทพูดน่ะไม่ผิดหรอกค่ะ เขายังคงอยู่ที่นี่เพียงแต่เรามองไม่เห็นเพียงเท่านั้นค่ะ!" เธอคาดการณ์
"เอ๋..แล้วทำไมเราถึงมองไม่เห็นเขาล่ะ คนเราไม่น่าจะหายตัวได้นะ!" ฮารุกะทำท่าทีร้อนรน
"ถ้าสมมติว่าพวกระดับหัวหน้ามันใช้พลังที่ทำให้พวกเราไม่สามารถมองเห็นคนที่ถูกตราประทับล่ะก็ มันก็น่าจะมีความเป็นเหตุเป็นผลอยู่นะคะ" สึคาสะคาดเดาและมองไปรอบๆก็เห็นพื้นที่จุดนึงที่เห็นเสียมวางไว้แบบไม่เรียบร้อย เธอจึงคิดว่าเป็นจุดนั้น "ฮิากะคุงลองโจมตีไปที่ตรงนั้นดูสิคะ แล้วเรามาลองดูผลกัน"
"ว่าไงว่าตามกันล่ะนะ!" ไซโตะจับคิบัทมากัดที่ข้อมือของเขา แล้วรอยประหลาดก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาพร้อมกับโซ่เหล็กที่รัดที่เอวของเขาแล้วแปรสภาพกลายเป็นเข็มขัด จากนั้นเขาก็นับคิบัทมาใส่ที่เข็มขัด "แปลงร่าง!!"
KIVA
"เอาล่ะนะ!" คิบะต่อยอย่างเต็มแรงไปที่จุดที่สึคาสะบอก แต่ว่าเขาก็ถูกสะท้อนออกมาด้วยเกราะพลังบางอย่าง "เจ้านี่เองเรอะที่คอยบังพวกเราอยู่น่ะ!"
มาสค์ไรเดอร์ตั้งท่าพร้อมสู้ "ถ้าอย่างงั้นก็ต้องทำลายมันให้เสร็จก่อนสินะ!" แต่ก่อนที่เขาจะทำอะไรก็เกิดตราสัญลักษณ์เวทย์มนต์ที่คล้ายกับพวกไนท์แมร์ขึ้นมาโดยรอบ "อะไรน่ะ!?"
พวกโบนปรากฏตัวออกมาจากตราสัญลักษณ์นั้นเป็นจำนวนมากแล้วพวกมันก็รุมล้อมฮารุกะและสึคาสะไว้ "ฮ่าส์!!!"
"อย่าแตะต้องพวกเธอนะ!!" มาสค์ไรเดอร์คิบะกระโดดเตะใส่โบนกระเด็นออกไปตัวนึง แล้วก้เข้ามาคุ้มครองหญิงสาวทั้งสอง "ฮารุกะ สึคาสะพวกเธอรีบออกไปจากที่นี่ก่อน ตอนนี้ในนี้ไม่ปลอดภัย!"
"เข้าใจแล้ว!" สึคาสะจับมือของฮารุกะ "ไปกันเถอะฮารุกะ ถ้าขืนอยู่ต่อจะไปเป็นตัวถ่วงให้ฮิรากะคุงมากกว่า!" หัวหน้าห้องสาวพาฮารุกะออกไปจากโรงฟาร์มด้วยกัน ปล่อยให้มาสค์ไรเดอร์กับเหล่าโครงกระดูกสู้กันอยุ่ภายใน
คิบะต่อยต่อยใส่โบนแล้วเตะใส่อีกตัวจากนั้นก็โจมตีสวนอีกสองตัวที่เข้ามาโจมตีจากด้านหลังด้วยศอก จากนั้นก็กระโดดถอยออกมา "ทางด้านฮินะกับองค์หญิงจะเป็นอะไรรึเปล่านะ...ไม่สิ..ตอนนี้เราต้องสู้กับเจ้าพวกนี้ก่อน เข้ามาเลย!!!" เขาพูดท้าทายพร้อมกับวิ่งตรงเข้าไปหาพวกมัน
ทางด้านฮินะงิคุและฮันเรียตต้าที่เดินมาอีกทางของสวนก็ไม่พบอะไรจนพวกเธอเดินมาจนถึงสุดสวนแล้ว "ท่าทางทางนี้จะไม่มีอะไรแล้วนะ คงต้องย้อนกลับไปแล้วล่ะ" ฮินะงิคุพูดกับฮันเรียตต้า
"นั่นสินะคะ หวีงว่าทางของคุณไซโตะคงจะพบคนที่ถูกทำตราสัญลักษณ์นะคะ" ฮันเรียตต้าคิดในแง่ดีไว้ แต่เมื่อพวกเธอหันหลังกลับทั้งสองก็รู้สึกถึงจิตที่ไม่ดีนักมาจากทางข้างหน้า "ความรู้สึกแบบนี้.."
"ไม่ยอมให้พวกเรากลับไปหาพวกฮิรากะคุงอย่างงั้นเรอะ!?" สิ่งที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าทั้งสองคือไนท์แมร์สแกร์โครว์ที่คราวนี้มันได้พัฒนาร่างของมันไปถึงขั้นที่สามซึ่งเป็นร่างสุดท้ายของมันแล้ว "ถ้ามาขวางกันแบบนี้คงจะหมายความว่า พวกฮิรากะคุงคงจะเจอผู้ถูกประทับตราแล้วสินะ.."
"อย่างที่เคยบอกไปค่ะ หากว่าเราไม่กำจัดไนท์แมร์ก่อนถึงแม้จะใช้อัญมณีแห่งแสงก็ไม่สามารถทำลายตราสัญลักษณ์ได้ค่ะ" ฮันเรียตต้าย้ำให้ฮินะงิคุฟังอีกครั้ง "เราจึงต้องจัดการไนท์แมร์ตนนี้ เพื่อช่วยให้ทางนั้นสามารถทำลายตราสัญลักษณ์ให้ได้ค่ะ!"
"เป็นพวกที่ดูยุ่งยากจังเลยนะ!" กำไลข้อมือของฮินะงิคุเปล่งแสงสีชมพูออกมาแล้วก็ค่อยๆแปรสภาพเป็นดาบไม้มาซามุเนะ "แต่ว่าไม่ว่าศัตรูแบบไหนแันก็จะไม่มีทางออมมือให้หรอก! แปลงร่าง!!"
ANGEL METAMORPHOSE
"คิบาร่า!!" ฮันเรียตต้าเรียกคิบาร่าออกมาจากถุงผ้าของเธอ แล้วเจ้าหญิงก็จับเธอไว้แล้วนำมาไว้ตรงหน้า "แปลงร่าง!" คิบาร่าเปล่งแสงออกมาแล้วค่อยกลายร่างเป็นแสงไปกลายเป็นเกราะสวมให้กับฮันเรียตต้า
KIVARA
"แฮ่!!" ไนท์แมร์สแกร์โครว์ปล่อยโซ่เหล็กเข้าโจมตีเอนเจิลและคิบาร่าพร้อมกัน ซึ่งทั้งสองก็ใช้ดาบรับการโจมตีนั้นไว้แต่ไม่ทันไรดาบของทั้งสองก็ถูกโซ่ของมันรัดเอาไว้ "ฮ่าๆๆๆ!!" มันเหวี่ยงดาบของทั้งคู่ออกจากมือแล้วใช้โซ่ของมันฟาดโจมตีใส่ทั้งสอง
"คิดว่าถ้าพวกเราไม่มีดาบแล้วจะทำอะไรไม่ได้อย่างงั้นเรอะ!" เอนเจิลควบคุมมาซามุเนะที่ปักอยู่ที่พื้นให้ลอยขึ้นแล้วบินย้อนกลับมาโจมตีใส่สแกร์โครว์ ส่วนเธอก็เข้าไปรับดาบของเธอกลับมาฟันใส่ตัวของมัน "เป็นยังไงล่ะ!?"
"ฮาส์...!!" ไนท์แมร์สแกร์โครว์จับดาบของเอนเจิลไว้แล้วใช้โซ่รัดตัวของเธอ จากนั้นก็เหวี่ยงเธอไปชนกับต้นไม้ "ฮ่าส์!!"
"ฮินะงิคุ!!" คิบาร่าเห็นเอนเจิลถูกเหวี่ยงไปชนกับต้นไม้ เธอจึงวิ่งเข้าไปแล้วกระโดดข้ามหัวของมันเข้าไปเก็บดาบกลับขึ้นมาแล้วแทงดาบไปที่มัน แต่ว่าไนท์แมร์สแกร์โครว์ไม่สะทกสะท้านและยังจับเธอเหวี่ยงออก "กรี๊ดด!!!"
"ไม่ยอมหรอก!" ด้วยพลังของคิบาร่าทำให้เธอสามารถกลับมาตั้งหลักใหม่ได้ "เจ้าหญิงเป็นอะไรรึเปล่าเจ้าคะ ?" คิบาร่าถามอาการของฮันเรียตต้าทันทีที่เธอลงถึงพื้น
"ไม่เป็นไรมากหรอกค่ะ แต่ว่าการโจมตีด้วยวิธีทางกายภาพท่าทางจะไม่ได้ผลกับไนท์แมร์ตนนี้แล้วค่ะ ถ้าอย่างงั้น..!" มาสค์ไรเดอร์หยิบแฟซเซิลของเธอมาเสียบที่ด้ามดาบ เพื่อนปลดปล่อยพลังของดาบออกมาแล้วเธอก็พุ่งตัวเข้าหาไนท์แมร์ทันที "ฮ้ากกก!!!"
"ฮ่าส์!!!" ไนท์แมร์ใช้โซ๋เหวี่ยงโจมตีไปรอบๆ แต่คิบาร่าใช้วามคล่องตัวเคลื่อนหลบแล้วพุ่งเข้าหาไปในระยะประชิดแล้วใช้ดาบของเธอกระหน่ำแทงใส่มันจนทำให้เสียหลักเล็กน้อย แล้วก็ถูกดาบแทงทะลุหัวแต่มันก็ยังสามารถขยับได้
"โดนแบบนี้แล้วยังไม่ตาย..คงต้องใช้ไชน์นิ่งมูนเบรกเท่านั้นสินะ!" คิบาร่าดึงดาบออกมาจากหัวสแกร์โครว์แล้วใช้ดาบที่เรืองแสงสีฟ้าของเธอกระหน่ำแทงใส่มันจนเกิดกลายเป็นสัญลักษณ์คิบะขึ้นมา ตอนนั้นคิบาร่าก็ถอยห่างออกจากไนท์แมร์แล้วเกราะขาของเธอก็แตกออก แล้วเธอก็กระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้าที่มีดวงจันทร์สีน้ำเงินเป้นฉากหลัง
SHINING MOON BREAK
"ฮ่าส์!!!" คิบาร่าพุ่งลงมาจากบนท้องฟ้าเตะใส่ไนท์แมร์สแกร์โครว์ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรมันได้เพราะท่าเตะของเธอถูกโซ่เหล็กของมันที่เปลี่ยนรูปแบบเป็นเกราะเหล็กป้องกันไว้ "แบบนี้!?"
"ฮ่าๆๆๆ!!" ไนท์แมร์สแกร์โครว์ใช้โซ่เหล็กรัดตัวเธอไว้แล้วเหวี่ยงออกไปแล้วก็ทุ่มเธอลงพื้น
ตู้ม!!!
"ฮันเรียตต้า...ปล่อยนะ!!" พลังของเอนเจิลเพิ่มสูงขึ้นแล้วก็สามารถทำลายโซ่เหล็กที่พันธนาการเธอไว้ออกไปได้สำเร็จ แล้วร่างของมาสค์ไรเดอร์ก็เปลี่ยนเป้นแสงสีชมพูทั้งร่าง "SHOOTING STAR!" เธอพุ่งเข้าใส่สแกร์โครว์แต่ก็ได้เพียงเฉียดๆเท่านั้นเพราะว่ามันสามารถหลบออกได้ก่อน
"ฮ่าส์!!" ไนท์แมร์สแกร์โครว์ปล่อยโซ่ขึ้นมาจากใต้ดินทำให้เอนเจิลถูกโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัว แล้วก็ถูกโซ่เหล็กอีกสองสายฟาดซ้ำตกลงสู่พื้นอีก "ฮ่าๆๆๆ!!"
"แข็งแกร่งมาก พลังเพิ่มขึ้นมากกว่าก่าอนหน้านี้แบบเทียบไม่ติดเลย..." มาสค์ไรเดอร์คิบาร่าปักดาบลงพื้นแล้วค่อยยืนขึ้น "...ท่าทางจะดูดกลืนพลังความฝันของผู้คนไปเยอะสินะคะ..แต่ว่าพวกเราก็จะไม่มีทางยอมแพ้หรอกค่ะ!"
"ฮ่าส์!!" ไนท์แมร์สแกร์โครว์ปล่อยโซ่เหล็กสองสายพุ่งเข้าหาคิบาร่าอีกครั้ง....
โรงฟาร์ม เวลา 20.50 น.
ที่โรงฟาร์มนั้นมาสค์ไรเดอร์คิบะก็ต้องถูกโจมตีจากเหล่าโบนด้วยพลังต่อสู้ที่ไม่ธรรมดาของพวกมัน รวมกับจำนวนที่มากกว่าจึงทำให้ไซโตะตกอยู่ในสภาพเสียเปรียบ ถูกโจมตีล้มลุกคลุกคลานหลายครั้ง "ฉันไม่มีเวลามาเล่นกับพวกนายแล้ว ฉันจะขอให้พวกนายได้เจอกับของจริงเลยละกัน!"
ไซโตะหยิบแฟซเซิลรูปคิบัทไปเสียบที่คิบัท "คิบะจะลุยล่ะนะ!!" แล้วร่างของค้างคาวเหล็กก็ขยายร่างขึ้นแล้วกลายสภาพเป็นธนูขนาดใหญ่ให้กับคิบะ "คู่หู เรามาทำลายเกราะบาเรียนั่นไปพร้อมๆกันเลย!"
"อา...ฉันก็ต้องการแบบนั้นล่ะ!" คิบะดึงคันศรธนูจนถึงสุดแล้วก็ปล่อย "ไปเลย!!"
KIVA ARROW
ลูกศรสีแดงพุ่งออกมาจากธนูพุ่งตรงใส่เหล่าโบนและเกราะพลังของไนท์แมร์จนทำลายพวกมันลงไปทั้งหมด แล้วก็พบเจอร่างของบุคคลที่ถูกประทับตรากำลังนอนสลบอยู่ที่ปลายสุดห้อง "ต้องรีบใช้อัญมณีทำลายความมืดสินะ!"
คิบะรีบอุ้มเขาผู้นั้นออกมาจากโรงฟาร์มมาหาฮารุกะ "ฮารุกะรีบทำลายตราสัญลักษณ์เร็วเข้า!"
"อืม ไว้ใจได้เลย!!" หญิงสาวพยักหน้าตกลงแล้วเธอก็หยิบสร้อยคอของเธอมาแตะที่หน้าผากของชายผู้นี้ แล้วแสงสว่างก็บังเกิดขึ้นแต่จู่ๆแสงนั้นก็เลือนลางหายไปและไม่พบความเปลี่ยนแปลงใดๆเกิดขึ้น "เอ๋..ทำไมล่ะ ตามปกติมันน่าจะทำลายตราสัญลักษณ์ดาวนี้แล้วหนิ ?"
"ถ้าเป็นตามที่คุณทริสเทนบอกมา คาดว่าไนท์แมร์น่าจะถูกปลดปล่อยออกมาแล้วล่ะค่ะ เพระแบบนั้นเราจึงไม่สามารถทำลายตราสัญลักษณ์ได้ ก่อนอื่นพวกเราต้องหาทางกำจัดไนท์แมร์ลงให้ได้ก่อน!" สึคาสะพูดอธิบายให้ทั้งสองเข้าใจ
"หมายความว่าเจ้าไนท์แมร์หุ่นไล่กานั้นกำลังออกอาละวาดอยู่สินะ...หรือว่าทางด้านองค์หญิงกำลังสู้กับมันอยู่!" ไซโตะรู้สึกสังหรณ์ไม่ดีตัดสินใจจะออกตามหาไนท์แมร์ "พวกเธอรออยู่ที่นี่นะ ฉันจะออกตามหาไนท์แมร์เอง หากว่าเห็นแสงอ่อนแรงลงเมื่อไหร่ก็รีบทำลายตราประทับเลยนะ!"
"ระวังตัวด้วยนะ!" อารุกะเตือนด้วยความเป็นห่วง แล้วมาสค์ไรเดอร์คิบะก็พาชายหนุ่มร่างสูงกระโดดออกไป "คราวนี้ต้องชนะให้ได้ล่ะ ไซโตะคุง!" ฮารุกะพูดทิ้งท้ายก่อนที่เขาห่างออกไป
มาสค์ไรเดอร์คิบะวิ่งตรงมาเรื่อยๆแต่ก็ไม่พบวี่แววของไนท์แมร์แม้แต่ตัวเดียว "มันอยู่ทางไหนกันเนี่ย!?"
"คู่หูใจเย็นๆ ตอนนี้พวกนั้นกำลังสู้กันอยู่ที่ปลายสุดของสวนแต่ว่าเราต้องรีบไปแล้ว พลังของไนท์แมร์คราวนี้สูงกว่าที่ผ่านมามากๆเลย!" คิบัทบอกกับไซโตะ พวกเขาจึงเร่งฝีเท้าเต็มที่เพื่อที่จะไปถึงจุดหมายให้เร็วที่สุด
บรึ้มม!!!
คิบาร่าและเอนเจิลต่างถูกไนท์แมร์สแกร์โครว์โจมตีจนล้มลงทั้งคู่ ปิศาจหุ่นไล่กาใช้โซ่ของมันรัดคอของทั้งสองไว้ แล้วหัวดราะดยาะแบบสะใจ "ฮ่าๆๆๆๆ!!!"
"ฮ้ากกกก!!!!" มาสค์ไรเดอร์คิบะกระโดดเข้ามาเตะใส่มันจนโซ่ที่รัดคอทั้งสองหลุดออก จากนั้นมาสค์ไรเดอร์ก็กลับมาตั้งหลักใหม่ที่พื้น "ฉันมาแล้ว ขอชำระหนี้สองครั้งเลยล่ะนะ!"
"คุณไซโตะ/ฮิรากะคุง!" ทั้งสองต่างไมอยู่ในสภาพที่สู้ไหวจึงได้เพียงแค่นั่งมองการต่อสู้ของคิบะและไนท์แมร์ "พยายามเข้าล่ะ!"
"เอาล่ะ ของจริงน่ะมันจะเริ่มจากนี้ล่ะนะ!" คิบะกล่าวแล้วเขาก็เข้าสู้กับไนท์แมร์สแกร์โครว์ทันที มันโจมตีใส่เขาด้วยโซ่เหล็กของมันแต่ก็ถูกคิบะรับไว้แล้วกระโดดเตะสวนคืนไป "เป็นอะไรไปมีแค่นี้เรอะ!?"
"ฮ่าส์!!!" สแกร์โครว์ฟาดโซ่ใส่คิบะ เขาก็กระโดดขึ้นแล้วพุ่งลงมาเตะใส่มันจนเสียหลักเล็กน้อยแล้วก็ถูกเขาต่อยแล้วตามด้วยการต่อยรัวอีกหลายหมัด แล้วก็ถูกเตะกระเด็นไปชนกับต้นไม้และจับทุ่มลงพื้น "ฮาส์...ฮ่าส์!!" ไนท์แมร์พลิกตัวขึ้นแล้วใช้โซ่รัดตัวคิบะไว้แล้วยกขึ้นทุ่มลงใส่พื้น
ตู้ม!!
"ฮ่าๆๆๆ!!!" ไนท์แมร์สแกร์โครว์หัวเราะอย่างสะใจที่มันสามารถทำให้คิบะย่ำแย่ได้ถึงขนาดนี้
"หยุดหัวเราะได้แล้วน่าเจ้าตัวน่าเกลียด!" คิบะจับโซ่เหล็กของมันไว้แล้วกำไว้แน่นที่สุดเท่าที่ทำได้ "นายน่ะพลาดแล้วที่คิดจะจับฉันน่ะ!" มาสค์ไรเดอร์จับโซ๋เหล็กของไนท์แมร์สแกร์โครว์แล้วเหวี่ยงมันข้ามหัวมาทุ่มมันลงที่อีกฝั่งของสวน
ตู้ม!!
โซ่เหล็กของสแกร์โครว์หลุดออกจากตัวของคิบะ แล้วมาสค์ไรเดอร์ก็ถอยตัวออกห่างจากไนท์แมร์เล็กน้อย "ต่อไปจะเป็นการโจมตีครั้งสุดท้าย ฉันจะแสดงให้นายเห็นพลังที่แท้จริงของฉัน!" เขาหยิบแฟซเซิลสีแดงขึ้นมาแล้วสลับข้างของมันเป็นด้านหลัง จากนั้นก็เสียบที่คิบัท
WAKE UP!
ดวงจันทราสีน้ำเงินที่ล่องลอยอยู่บนท้องนภาที่มืดมิดค่อยถูกเงามืดบางอย่างเข้าบดบังจนเหลือเพียงครึ่งเสี้ยว พร้อมกับสภาพบรรยากาศที่ดูมืดครึ้มขึ้น จากนั้นคิบะก็กระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้า "ฮ่าส์!!!"
"แฮ่!!" ไนท์แมร์สแกร์โครว์ใช้โซ่เหล็กของมันขว้างขึ้นไปรัดมือซ้ายของคิบะไว้เพื่อไม่ให้เขากระโดดขึ้นไปสูงมาก
"เข้ามาเลย คราวนี้จะจัดการ..นายให้ได้!!" มาสค์ไรเดอร์ใช้แรงที่เขามีอยู่ดึงตัวของสแกร์โครว์ขึ้นมา แล้วหมัดขวาของคิบะก็เปล่งแสงสีแดงออกมา "ฮ้ากกกกก!!!!"
BLOODY PUNCH
ไซโตะใช้แรงทั้งหมดที่มีอยู่ต่อยใส่หน้าของไนท์แมร์แล้วก็พุ่งลงไปที่พื้นพร้อมกัน จนเกิดเป็นตราสัญลักษณ์คิบะขนาดใหญ่ขึ้นมาที่พื้น ร่างกายของไนท์แมร์สแกร์โครว์ค่อยแปรสภาพเป็นกระจก คิบะลุกขึ้นยืนแล้วหันหลังกลับพร้อมกับเดินออกจากตัวมัน "หายไปซะ!"
เพล้ง!!!
ทางด้านของฮารุกะและสึคาสะก็สังเกตเห้นว่าแสงสีดำที่หน้าผากของคาราสุได้อ่อนแรงลงเนื่องมาจากคิบะสามารถจัดการไนท์แมร์สแกร์โครว์ลงได้สำเร็แล้วนั่นเอง "เอาล่ะ ใช้นี้เลยนะ!" ฮารุกะใช้อัญมณีสีขาวไปแตะที่หน้าผากของเขาแล้วแสงสว่างก็ชำระล้างตราประทับนั้นออกไป
"สำเร็จแล้วนะคะ" สึคาสะบอกกับฮารุกะ พร้อมกับความรู้สึกโล่งใจ
"อืม.." ฮารุกะหันไปมองดวงจันทร์สีน้ำเงินที่อยู่บนท้องฟ้า "สำเร็จแล้วนะ ไซโตะคุง!"
แองเจินและคิบาร่าคืนร่างกลับเป็นฮินะงิคุและฮันเรียตต้า แล้วองค์เจ้าหญิงก็มองไปที่ร่างของนักรบสีแดงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ "ชนะได้จริงๆ นั้นคือพลังของ..คิบะ ?"
คิบะคืนร่างกลับเป็นไซโตะ "ชะ..ชนะแล้วสินะ...เห้นมั้ยล่ะว่าฉันก็ทำ..ได้" แล้วร่างของเด็กหนุ่มที่ไ้ร้เรี่ยวแรงก็ค่อยๆล้มลงแล้วหมดสติลงไปที่ใจกลางสวนแห่งนั้น.....
.
.
.
.
ฐานทัพแรบบิทแฮทซ์ เวลา 23.30 น.
ไซโตะลืมตาฟื้นขึ้นมาจากที่สลบไปยาวนาน "นี้เรา..สลบไปอย่างงั้นเรอะ...แล้วที่นี้..?" พอเขามองขึ้นไปข้างบนก็เห็นดวงดาวมากมายอย่างชัดเจนและไม่เห็นเมฆ เพียงแค่นั้นก็ทำให้เขาทราบว่าตัวเองอยู่ที่แบบิทแฮทซ์ "นี้เราหลับไปนานแค่ไหนเนี่ย ?"
"คุณไซโตะหลับไปประมาณสองชั่วโมงค่ะ คงจะไม่รู้เรื่องเลยสินะคะว่าตัวเองสลบไปได้ยังไง" เสียงของผู้หญิงที่มีลักษณะสำเนียงคล้ายกับผู้ดีเช่นนี้ทำให้ไซโตะถึงกับตกใจกับผู้ที่อยู่เฝ้าไข้เขา "แต่ฉันเองก็ตกใจเหมือนกันนะคะที่มีที่แบบนี้อยู่ด้วย"
"อะ..องค์หญิง..ทำไมท่านถึงมาเฝ้าผมล่ะครับ ?" ไซโตะถามตรงประเด็นซึ่งฮันเรียตต้าก็แอบอมยิ้มและกุมมือของตัวเองไว้ "แล้วไนท์แมร์ล่ะครับ จัดการได้แล้วสินะครับ"
"ค่ะ ฮารุกะใช้อัญมณีแห่งแสงทำลายตราประทับลงไปแล้วค่ะ เท่านี้ก็สามารถหยุดเรื่องเลวร้ายไว้ได้ช่วงระยะเวลาหนึ่งแล้วล่ะค่ะ" ฮันเรียตต้าพูดพร้อมกับยิ้มให้เด็กหนุ่มทำให้เขาออกอาการเขินเล็กน้อย บวกกับกลิ่นน้ำหอมจากตัวของเธอทำให้ไซดตะยิ่งรู้สึกหลงไหลเข้าไปอีก
"และสาเหตุที่ฉันมาอยู่กับคุณไซโตะสองต่อสองแบบนี้ก็เพราะฉันอยากขอบคุณที่ช่วยชีวิตของฉันไว้น่ะค่ะ" ฮันเรียตต้ากล่าวขอบคุณด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน พร้อมกับกุมมือของไซโตะไว้ "ถ้าไม่รังเกียจดิฉันก็ขอบางสิ่งกับคุณไซโตะจะได้มั้ยคะ ?"
ไซโตะหน้าแดงเพราะเขาคิดลึกไปถึงเกี่ยวกับเรื่องอื่นๆ "ขอ..จะขออะไรเหรอครับ หรือว่าจะ..."
ทันใดนั้นคิบาร่าที่ได้ยินองค์หญิงพูดแบบนั้นก็บินออกมาจากถุงผ้าแล้วอารมณ์เสียเล็กน้อย "องค์หญิงเจ้าคะ อย่ายื่นมือไปให้กับเจ้าสุนัขสกปรกนี้เลยค่ะ ตำแหน่งของพวกเราต่างชั้นกับมันนะคะ!"
"คิบาร่า เขาคนนี้ช่วยชีวิตพวกเราไว้นะ การให้เกียรติเขาเช่นนี้เป็นสิ่งที่พึ่งกระทำในราชวงค์ของพวกเรานะ!" ฮันเรียตต้าต่อว่าคิบาร่า เธอจึงจำต้องยอมแบบเลี่ยงไม่ได้
"แล้วจะขออะไรผมเหรอครับ ?" ไซโตะถามเธอซ้ำอีกครั้ง
"ฉันอยากจะขอให้คุณไซโตะช่วยมาเป็นองค์รักษ์ของฉันด้วยเถอะค่ะ เพราะพลังของฉันก็ยังไม่เข้มแข็งพอพลังของคิบะเป็นพลังแห่งราชันย์ดังนั้นพลังแห้งราชินีอย่างฉันก็ไม่ควรที่จะไปข้อร้องราชันย์แบบนี้ แต่ว่าที่นี่ฉันยังไม่มีใครที่สนิทสนมด้วย..ดังนั้นดิฉันจึงอยากจะขอให้คุณไซโตะที่ช่วยเหลือฉันไว้มารับตำแหน่งนี้น่ะค่ะ" ฮันเรียตต้าขอร้องไซโตะอย่างเต็มที่ทำเอาเขาลำบากใจ
"เรื่องนั้น..." ไซโตะเองก็ต้องคิดหนักกับคำตอบที่เขาจะตอบกลับไปเช่นกัน แต่ในที่สุดแววตาของเขาก็เปลี่ยนไปเหมือนกับว่าได้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้ว "...ตกลงครับ ผมจะเป็นองค์รักษ์ขององค์หญิงเอง จะปกป้ององค์หญิงด้วยพลังที่ผมมีทั้งหมด!"
"ขอบพระคุณมากค่ะ" ฮันเรียตต้ายืนขึ้นแล้วยื่นมือให้ไซโตะเล็กน้อย
"เอ๊ะ..ทำอะไรน่ะครับ ?" ไซโตะไม่เข้าใจถึงการกระทำของฮันเรียตต้าที่ทำแบบนี้
คิบาร่าบินเข้ามาอยู่ข้างไซโตะ "เจ้าทึ่มเขาให้จูบยังไงล่ะ แค่นี้ก็ดูไม่ออกเหรอ โง่ชะมัดเลยนะ!"
"จะ..จูบ!! ทำเรื่องแบบนั้นเนี่ยนะ..?" เด็กหนุ่มมองไปที่เจ้าหญิงที่ดูสง่างามและสวยแบบไร้ที่ติยิ่งทำให้เขาปฏิเสธไม่ได้ เจ้ากลืนน้ำลายลงหนึ่งครั้งเพื่อรวบรวมความกล้า
"ถ้าอย่างงั้นต้องขออภัยด้วยนะครับ!" ไซโตะเดินเข้าไปใกล้ฮันเรียตต้าแล้วก็จับมือของเธอแล้วดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขา จากนั้นก็ค่อยๆบรรจงจุมพิตไปที่เจ้าหญิงผู้เลอโฉมแต่การกระทำแบบนั้นกลับสร้างความแปลกใจให้ทั้งคิบาร่าและองค์หญิงเป็นอย่างมากจนเธอถึงกับสลบลงไปทำเอาชายหนุ่มสับสน "เอ๋!?"
"นะ..นะ..นะ..นี่..นี่แก..นี่แกทำอะไร...ทำอะไรกับองค์หญิงลงไป!!" คิบาร่าฉุนขาดถึงที่สุด "เจ้าหมาบ้า!!"
"เดี๋ยวนี้ฉันทำอะไรผิดล่ะ ก็จูบตามที่เธอบอกแล้วไงเล่า!" ไซโตะเถียงคิบาร่ากลับ
"ใครบอกให้จูบแบบนั้นกัน ฉันหมายถึงให้แกจูบลงที่ฝ่ามือของพระองค์ต่างหาก!!" คิบาร่าโมโหอย่างมากจึงบินเข้าจิกไซโตะ "เจ้าบ้าๆๆๆๆๆๆๆๆ!!"
ที่มุมห้องคิบัทและลาพิสต่างจับตามองการกระทำของทั้งสามอยู่ห่างๆ และคิบัทก็ต้องเหนื่อยใจกับการกระทำของไซโตะ "คู่หู นายนี้มันบื้อจริงๆ!"
"มาเริ่มกันเลย!!" มาสค์ไรเดอร์คิบะเข้าสู้กับไนท์แมร์สแกร์โครว์ เขาใช้หมัดของเขาต่อยใส่มันอย่างเต็มแรงแล้วก็ตามด้วยการต่อรัวใส่มันอีกหลายครั้ง แล้วก็กระแทกให้มันกระเด็นถอยออก "เมื่อกี้แค่ลองเชิงเท่านั้น...ต่อไปนี้ล่ะจะเป็นของจริง!"
หญิงาสวผู้หนึ่งวิ่งเข้ามาดูการต่อสู้ของคิบะกับไนท์แมร์ตนนี้ โดยที่เธอแอบหลบอยู่หลังต้นไม้และคอยสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ "ท่าทางการต่อสู้จะเพิ่งเริ่มสินะ...ฝั่งนั้นเป็นไนท์แมร์ตามที่คาดเอาไว้ ส่วนคู่ต่อสู้ก็คือ..." เธอจ้องไปที่คิบะเหมือนกับว่าเคยรู้จักเขามาก่อน
"แฮ่!!!" ไนท์แมร์สแกร์โครว์งอกเคียวแหลมออกมาจากร่างของมันอีก พร้อมกับปล่อยเคียวออกมาเป็นบูมเมอร์แรงขว้างโจมตีใส่คิบะจำนวนมาก ซึ่งเขาก็ทำการตอบโต้ด้วยการใช้เท้าเหล็กข้างขวาปัดการโจมตีด้วยเคียวพวกนั้นออกซึ่งสแกร์โครว์ก็ใช้ช่วงจังหวะที่เขาทำเช่นนั้นเข้าไปโจมตีด้วยเคียวในระยะใกล้ มาสค์ไรเดอร์จึงต้องรีบถอยห่างอย่างรวดเร็ว
ฝ่ายคิบะนั้นถูกเทคนิคการโจมตีของไนท์แมร์สแกร์โครว์เป็นฝ่ายกดดันเขาจนทำให้มาสค์ไรเดอร์ตกอยู่ในสภาพเสียเปรียบ "หนอย..เจ้านี้เราจะจัดการมันยังไงล่ะเนี่ย!?" พอมันเข้ามาโจมตีซ้ำคิบะก็ทำได้เพียงกลิ้งหลบแล้วลุกขึ้นมาต่อยมัน ทำให้มันเสียหลักเล็กน้อย
"ฮ่าๆๆๆ!!" ไนท์แมร์สแกร์โครว์ปล่อยบูมเมอร์แรงออกมาโจมตีใส่คิบะอีกครั้ง ซึ่งในช่วงนั้นเองจะเป็นช่วงที่มันไม่สามารถขยับได้ ไซโตะจึงใช้โอกาสเพียงเสี้ยววินาทีนี้กลิ้งตัวเข้าไปใกล้มันเตะมันลอยขึ้นไปข้างบน แล้วตามด้วยใช้แฟซเซิลสีแดงที่คิบัท
WAKE UP!
"กำลังจะจัดการแล้วสินะ.." หญิงสาวมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่ค่อยๆแปรสภาพเป็นยามราตรี สามารถพบเห็นดวงจันทร์เสี้ยวดวงใหญ่ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าได้อย่างชัดเจน แล้วมาสค์ไรเดอร์คิบะก็กระโดดขึ้นไปเกราะเหล็กที่ขาได้แตกออกเผยให้เห็นเท้าสีเลือด แล้วมาสค์ไรเดอร์ก็พุ่งลงมาจากท้องฟ้าเข้าหาไนท์แมร์สแกร์โครว์
แต่ก่อนที่คิบะจะเตะใส่มันได้สำเร็จ จู่ๆร่างของไนท์แมร์ตนนี้ก็หายไปกลางคันโดยที่ไม่รู้สาเหตุทำให้ท่าเตะของคิบะนั้นเตะลงสู่พื้นแทนจนเกิดเป็นตราสัญลักษณ์ขนาดใหญ่บนพื้นสวน "เดี๋ยวสิ..เจ้านั้นหายไปได้ยังไง..?" ไซโตะพยายามมองไปรอบๆแต่ก็พบว่ามันไม่อยู่แล้วจริงๆ "กะ..เกิดอะไรขึ้น ?"
"ตื่นแล้วยังงั้นงั้นเรอะ!?" หญิงสาวแสดงสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะเดินออกไปจากตรงนั้น "การจะสามารถกำจัดไนท์แมร์ได้..จำเป็นต้องตามหาผู้ถูกลงตราประทับเสียก่อน มิเช่นนั้นก็ไม่อาจจะสามารถล้างคำสาปของไนท์แมร์ได้..."
ค้างคาวที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับคิบัทเพียงแต่เป็นสีน้ำเงินขาว ตัวเล็กกว่าและเป็นเพศหญิง บินขึ้นมาเกาะที่ไหล่ของหญิงสาว "เรื่องนั้นดิฉันก็ทราบค่ะเจ้าหญิง แต่ว่าขนาดพวกเราก็ยังไม่มีวิธีตามหาบุคคลที่ถูกประทับเลยนะเจ้าคะ การจะออกตามหาได้ต้องตามหาด้วยวิธีปกติเท่านั้นเจ้าค่ะ"
"แต่ว่าการออกมาที่ประเทศนี้ครั้งแรกก็ตื่นเต้นไม่น้อยเลยนะคะ ทางฝ่ายเราก็ขอเป็นฝ่ายออกมาเองด้วย ทางนั้นก็คงจะวุ่นวายไม่น้อยแต่ก็เพราะแบบนั้นถึงได้ทิ้งจดหมายไว้แล้ว ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรตามมานะ" หญิงสาวคุยกับคิบาร่า
"ตามที่คิดเลยนะว่าเธอจะต้องไม่ใช่คนปกติน่ะ ฮันเรียตต้า ทริสเทน" ฮินะงิคุและสึคาสะที่แอบมาดักเธอไว้อยู่แล้วเดินเข้ามาหาเธอ "เธอเป็นใครกันแน่!? ความรู้สึกที่สัมผัสจากตัวเธอมันไม่ใช่ความรู้สึกเหมือนมนุษย์ปกติและยิ่งเห็นเธอคุยกับค้างคาวที่คล้ายกับของฮิรากะคุงแบบนี้ ทำให้ฉันเริ่มจะเข้าใจถึงตัวตนของเธอแล้วล่ะ.."
"นังผู้หญิงคนนี้หัดระวังปากบ้างนะ พวกเจ้าไม่รู้เหรอว่ากำลังพูดกั..." คิบาร่าที่กำลังต่อว่าฮินะงิคุถูกฮันเรียตต้าจับแล้วเก็บลงไปในถุงผ้าของเธอ
"ขอโทษนะคะ ที่คิบาร่าเสียมารยาทเธอคนนี้จริงๆแล้วเป็นเด็กกีค่ะแต่ว่าเป็นคนที่ชอบทำตามใจตัวเองมากเกินไปหน่อย" ฮันเรียตต้าพูดอย่างเป็นกันเองกับทั้งสอง "ตอนแรกก็คิดว่าจะเป็นฝ่ายบอกเองนะคะ แต่ถ้าพวกคุณทั้งสองรู้แล้วแบบนี้ก็คงต้องแนะนำตัวอย่างเป็นทางการแล้วล่ะค่ะ"
"ดิฉันชื่อฮันเรียตต้า ทริสเทนเป็นผู้สืบสายเลือดจากแวมไพร์สายเลือดบริสุทธิ์หรือที่เรียกกันว่า ชินโซ ตามตำแหน่งของราชวงค์ดิฉันมีฐานะเป็นเจ้าหญิงของแวมไพร์ค่ะหรือจะเรียกตามภาษาของเมืองนี้ก็ควรจะเรียกชื่อของฉันว่า...มาสค์ไรเดอร์คิบาร่าค่ะ" เธอแนะนำตัวเอง
.
.
.
.
โรงเรียน SMART BRAIN เวลา 19.40 น.
ไซโตะ,ฮารุกะ,ฮินะงิคุ,สึคาสะและฮันเรียตต้า ต่างมารวมกันอยู่กันที่สวนของโรงเรียนที่ค่ำมืด มีเพียงดวงจันทร์สีฟ้าที่เป็นแสงสว่างนำทางให้กับพวกเขา ฮันเรียตต้าเริ่มอธิบายลักษณะของไนท์แมร์ระหว่างที่พวกเขาต้องออกตามหาผู้ถูกประทับตรา "ไนท์แมร์ เป็นสิ่งที่เกิดมาจากตราประทับแห่งความฝัน บุคคลที่ถูกสิ่งนั้นเข้าไปก็จะเป็นผู้ให้กำเนิดไนท์แมร์ออกมา ซึ่งรูปร่างลักษณะของมันก็จะขึ้นอยู่กับจินตนาการของคนๆนั้นด้วยค่ะ เป้าหมายเพียงอย่างเดียวของพวกมันคือการแย่งชิงความฝันของมนุษย์ไปให้กับหนังสือแห่งความมืด"
"หนังสือแห่งความมืด!?" ทั้งสี่ที่ฟังฮันเรียตต้าก็ให้ความนใจไปที่สิ่งนั้นมากที่สุด สึคาสะจึงเป็นคนเริ่มถาม "มันคืออะไรเหรอคะ ?"
"หนังสือแห่งความมืดเป็นหนังสือที่สร้างขึ้นมาจากการใช้ศาสตร์มืดซึ่งมีอยู่ด้วยกันสามเล่ม ทั้งสามสิ่งนั้นจะมีวิธีการในการกระทำที่ต่างกันแต่จะมีจุดประสงค์เหมือนกันคือ การเปลี่ยนจิตใจของมนุษย์และสิ่งมีชีวิตสายพันธ์อื่นๆให้ตกต่ำลง" จากที่ฮันเรียตต้าอธิบายทำเอาทุกคนอยุ่ในสภาพตรึงเครียด แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังที่จะเล่าต่อ "เล่มที่เราเจอในคราวนี้คือหนังแห่งความมืดเล่มที่ 2 ความฝัน เป็นเล่มที่มีความหมายตรงกับตามชื่อไนท์แมร์ พวกนั้นเปรียบเสมือนเป็นฝันร้ายของมนุษย์ค่ะ"
"การทำลายพวกมันด้วยวิธีการปกติไม่สามารถท่จะจัดการพวกมันลงได้ ต้องจัดการด้วยการใช้อัญมณีสีขาวไปทำลายตราประทับของผู้ถูกทำสัญญาก่อนถึงจะสามารถหยุดตราประทับนั้นได้ หากไม่ทำเช่นนี้ไม่ว่าจะกำจัดไนท์แมร์ไปซักกี่ครั้งก็ไม่มีความหมายค่ะ" ฮันเรียตต้าใช้มือเสยผมของเธอขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่จะเริ่มเล่าต่อ "และยิ่งปล่อยมันดูดพลังของคนอื่นไปมากเพียงใด พวกมันก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น เหมือนกับไนท์แมร์ที่เพิ่งสู้ไปเมื่อก่อนหน้านี้ค่ะ!"
ไซโตะที่ได้ยินคำพูดนั้นมาจากฮันเรียตต้าก็ทำให้เขารู้สึกเจ็บใจเล็กน้อย เพราะเขาไม่สามารถเอาชนะไนท์แมร์ที่สู้ด้วยเมื่อก่อนหน้านี้ได้ "คราวนี้ฉันจะเป็นคนจัดการกับมันให้ได้เลย!" สายตาของเขาดูน่ากลัวกว่าครั้งที่ผ่านๆมามาก
ฮารุกะซึ่งสังเกตเห็นไซโตะที่ดูเครียดและคิดจริงจังทำให้เธอรู้สึกเป็นห่วง "ไซโตะคุง...." หญิงสาวรวบรวมความกล้าจับมือกับเด็กหนุ่มเพื่อหาทางที่จะทำให้เขาใจเย็นลง "..คะ..คือ..ขอโทษนะ ฉันก็แค่...ไม่อยากเห็นไซโตะคุงทำหน้าแบบนั้นตลอดเวลา...มันรู้สึกไม่ดีเลย"
"ฮารุกะ..." ไซโตะเริ่มกลับมาคิดทีละนิดและเขาก็สูดหายใจเข้าและออกอย่างเบาๆ "เข้าใจแล้ว ฉันจะไม่รีบร้อนจนเกินไป คราวนี้ฉันจะต้องรอบคอบขึ้น ขอบใจมากเลยนะ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนที่สุด เพื่อที่จะทำให้ฮารุกะวางใจ
"ฮันเรียตต้า แล้วเธอมีวิธีตามหาตำแหน่งของคนที่ถูกลงตราประทับรึเปล่า หากมีวิธีล่ะก็ก็จะช่วยเหลือทางฝั่งนี้ได้มากเลย จะได้สามารถไปถึงตำแหน่งนั้นได้โดยไม่ต้องออกตามหาให้เสียเวลานานแบบนี้" ฮินะงิคุถามฮันเรียตต้า แต่จู่ๆคิบาร่าก็บินออกมาจากถุงผ้าของเธอ
"อย่ามาเรียกชื่อองค์หญิงห้วนๆแบบนั้นสิ ตำแหน่งของเธอกับท่านผู้นี้ต่างกันมากเลยนะ จะบอกใ...." ระหว่างที่คิบาร่าต่อว่าฮินะงิคุเธอก็ถูกฮันเรียตต้าเก็บใส่ถุงผ้าและคราวนี้ก็มัดไว้ เพื่อไม่ให้เธอออกมาโดยพลการอีก
"ต้องขอโทษจริงๆนะคะ เด็กคนนี้ชอบทำอะไรตามใจอยู่เรื่อยจริงๆ แต่จริงๆแล้วเธอเป็นคนดีนะคะอย่าโกรธเคืองเธอเลยค่ะ" ฮันเรียตต้าพูดขอโทษแทนคิบาร่า แล้วพวกเขาก็เดินออกตามหาผู้ทำสัญญาต่อ
ฮารุกะเกิดข้อสงสัยขึ้นมาหนึ่งอย่างเลยถามฮันเรียตต้า "ฮันเรียตต้าจังแล้วคิบาร่ากับคิบัทเนี่ยมีความเกี่ยวข้องกันรึเปล่า เป็นค้างคาวเหมือนกันด้วยแบบนี้ แถมฮันเรียตต้าก็ยังบอกว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงแห่งแวมไพร์หมายความว่าไซโตะคุงก็เป็นราชาใช่มั้ย ?"
"เป็นญาติกันจริงๆค่ะ ทั้งสองเป็นพี่ชายกับน้องสาวค่ะ" ฮันเรียตต้าตอบ
"จริงอย่างงั้นเรอะ คิบัท ?" ไซโตะถามคิบัทเพื่อเช็คคำตอบของฮันเรียตต้า
คิบัทหลบหน้าและแสดงท่าที่ไม่พอใจเล็กน้อย "จอมจุ้นจ้านอย่างผู้หญิงคนนั้นน่ะ ฉันไม่รับเป็นน้องสาวหรอก!" ท่าทางของทั้งสองเหมือนจะไม่ถูกกันเป็นอย่างมาก
"ส่วนเรื่องตำแหน่งราชาหรือราชินีนั้นดิฉันเองก็ไม่ทราบเรื่องมากหรอกค่ะ เห็นว่าพลังทั้งสองจะเป็นเปรียบเสมือนพลังของผู้ปกครองโลกในมุมมืด แต่พวกเขาก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่มากหรอกค่ะ ถ้าจะให้ยิ่งใหญ่ระดับสูงสุดจริงๆก็คงจะไม่พ้นผู้ปราบพระเจ้า หรือที่เรียกกันว่า campione หรอกค่ะ จำได้ว่าในหมู่มาสค์ไรเดอร์เองก็มีอยู่คนนึงนะคะ" ฮันเรียตต้าตอบคำถามของฮารุกะตามที่เธอรู้ แต่ก็สร้างความสงสัยเรื่องแคมปิโอเน่ให้กับเธอ
"Campione ในหมู่พวกเราอย่างงั้นเรอะ เป็นใครกันนะ ?" ฮารุกะมองขึ้นไปท้องฟ้าเพื่อพยายามนึกหาคำตอบ แต่ถึงแม้เธอจะทำเช่นนั้น เธอก็ไม่รู้อยู่ดีว่าเป็นใคร
ฐานทัพแรบบิทแฮทซ์ เวลา 20.00 น.
"ฮัดเช่ย!!" คุซานากิ โกโดเด็กหนุ่มผู้เป็นมาสค์ไรเดอร์เบลดผู้ครองพลังแห่งราชันย์ ซึ่งตอนนี้เขากำลังอยู่ที่ฐานทัพแรบบิทแฮทซ์พร้อมกับชาร์ล ฮายาเตะและลิเลียน่าครานจาห์ ผู้เป็นมาสค์ไรเดอร์คาลิซและยังเป็นองค์รักษ์ประจำตัวเขา ซึ่งในตอนนี้เขาก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีคนนินทาเขา "ก็ไม่ได้เป็นหวัดนะ...แล้วทำไมถึงจามล่ะเนี่ย ?"
"อาจจะเป็นเพราะช่วงนี้ท่านฝึกหนักมากจนเกิดไปทำให้ร่างกายท่านอ่อนแอลงก็เป็นได้ค่ะ" ลิเลียน่าเข้ามาเช็คอาการไข้ของโกโดแต่ก็ไม่พบอะไรผิดปกติ "..หรือไม่ก็ท่านแค่อาจจะสูดฝุ่นทำให้จามออกมาก็ได้นะคะ"
ฮายาเตะได้ยินเรื่องที่ทั้งสองคุยกันจึงหันกลับมาถาม "คุซานากิคุงฝึดกหนักอย่างงั้นเหรอครับ เพื่อที่จะพร้อมกับการต่อสู้ในภายหน้างั้นเหรอครับ ?"
"ช่วงนี้ยังไม่มีเรื่องอะไรที่รุนแรงเกิดขึ้น ดังนั้นฉันคิดว่าถ้าเราเตรียมตัวไว้ก่อนก็อาจจะทำให้เราพร้อมที่จะสู้กับศัตรูที่จะมาถึงได้" โกโดตอบ แต่พอเขามองไปที่จอมอนิเตอร์ที่มีข้อมูลสัญญาณประหลาดเต็มหน้าจอก็ทำให้เขารู้สึกไม่ดีนัก "แต่ว่าเรื่องร้ายๆอาจจะเกิดขึ้นก่อนที่เราจะรู้ตัวก็ได้..."
"นั่นสินะครับ" ฮายาเตะเห็นด้วยกับโกโด และก็รู้สึกสังหรณ์ไม่ดีเช่นกัน
"แล้วฮิรากะ ไซโตะกับอามามิ ฮารุกะออกไปจากที่นี้นานมากแล้วนะคะ ก็ยังไม่กลับมาซะที อาจจะเกิดเรื่องอะรขึ้นภายในโรงเรียนก็ได้นะคะ" ลิเลียน่าพูดถึงความเป็นไปได้ที่เธอคาดไว้ "ตอนนี้ทางโบสถ์กำลังหาทางร่วมมือกับทางฝ่ายต่างๆอยู่ ได้ยินมาว่าจะส่งคนมาด้วยแต่ก็ไม่ทราบว่าจะเป็นใครนะคะ"
ชาร์ลที่กำลังทำอะไรบางอย่างกับคอมพิวเตอร์อยู่นั้นเธอก็สามารถตรวจจับความผิดปกติของคลื่นสัญญาณขึ้นมาได้ "ทุกคนครับลองมาดูนี่สิครับ คิดว่ามันแปลกรึเปล่าที่คืนสัญญาณเป็นรูปแบบนี้..." เธอเปิดภาพขึ้นมาแต่ทุกคนก็ไม่พบความผิดปกติ
ในตอนนั้นลิเลียน่าก็พบจุดผิดสังเกตก่อนคนอื่น "คลื่นสัญญาณจะปรากฏอยู่ในรัศมีของภายในสวนผักของโรงเรียนเท่านั้น มีตำแหน่งข้างเคียงบ้างเล็กน้อยแต่ก็ไม่ห่างเกินรัศมี 500 เมตร แต่ว่านั่นก็ครอบคลุมพื้นที่สวนไร่แทบทั้งหมดแล้ว"
"ถ้าอย่างนั้นจุดศูนย์กลางก็น่าจะอยู่ที่..." โกโด,ลิเลีย่า,ฮายาเตะและชาร์ลตางคาดเดาไว้เหมือนกันและพบว่าก็เป็นตามที่คาดไว้ "...โรงฟาร์มของชมรมเกษตร!"
หน้าทางเข้าสวนชมรมเกษตร เวลา 20.30 น.
"คาดว่าเป็นที่นี่ล่ะค่ะ จากการสำรวจการปรากฏตัวของไนท์แมร์จะมีขอบเขตที่ไม่ห่างจากตำแหน่งของผู้ถูกประทับตราสัญลักษณ์มากนัก และที่นี่เองเมื่อในตอนเช้าก็เกิดเรื่องขึ้นที่นี่สินะคะ ?" ฮันเรียตต้าหันมาหาไซโตะเหมือนกับว่าเธออยากให้เขาเป็นตอบคำถามของเธอเอง
ไซโตะพยักหน้าแต่เขาก็ไม่อยากจะนึกถึงความพ่ายแพ้ของเขาต่อไนท์แมร์สแกร์โครว์ที่เกิดขึ้นมากนัก "แต่ว่าถ้าเป็นที่นี่จริงๆ แล้วตำแหน่งของผู้ถูกประทับตราจะไปอยู่ที่ไหนล่ะ ?" เขาถามเธอกลับ
"เรื่องนั้นดิฉันเองก็ไม่ทราบค่ะ แต่ว่าเราต้องออกตามหาเขาให้เจอก่อนที่ไนท์แมร์จะปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง ไม่เช่นนั้นการจะกำจัดพวกมันได้ในครั้งนี้นั้นก็ยากขึ้นมากกว่าครั้งก่อนๆด้วยค่ะ!" ฮันเรียตต้าพูดด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่จริงจัง ซึ่งทุกคนเองก็ตัดสินใจที่จะไม่ให้เสียเวลาไปมากกว่านี้แล้วจึงต้องรีบตัดสินใจเข้าไป
ก่อนที่ทุกคนจะเดินไปสึคาสะก็หยุดเดินแล้วเรียกทุกคนก่อน "ทุกคนคะฉันคิดว่าพวกเราควรแยกออกเป็นสองทางนะคะ เพราะสวนเกษตรนี้อาจจะไม่กว้างมากก็จริง แต่ว่าหากเราแยกกันฉันก็คิดว่าจะสามารถออกตามหาผู้ถูกประทับได้เร็วขึ้นด้วยนะคะ"
"นั่นสินะ ฉันเห็นด้วยกับความคิดของสึคาสะ ถ้าอย่างงั้นฉันกับฮันเรียตต้าจะไปทางนี้เอง ส่วนฮิรากะคุง สึคาสะและฮารุกะไปนั่นละกันนะ" ฮินะงิคุชี้ทางที่ให้พวกเขาไปคือโรงฟาร์ม ส่วนพวกเธอเองจะไปทางสวนไร่ "งั้นก็ระวังตัวด้วยล่ะ หาเจอผู้ประทับแล้วรีบติดต่ิมาทันทีเลยนะ!"
"ระวังตัวด้วยนะคะ ไนท์แมร์หากปรากฏออกมาแล้วหากไม่กำจัดก่อน เราก็จะไม่สามารถใช้อัญมณีแห่งแสงทำลายตราประทับได้ เพราะพลังของไนท์แมร์จะรุนแรงขึ้นดังนั้นหากเจอแล้วก็รีบหาทางทำลายตราสัญลักษ์ก่อน หรือว่ารวมพลังกันจัดการก่อนนะคะ" ฮันเรียตต้าเตือนพวกไซโตะก่อนที่เธอกับฮินะงิคุจะเดินไปสำรวจอีกทางนึง
"พวกเราเองก็ไปกันเถอะ!" ฮารุกะพูดชวนทั้งสองคน แล้วพวกเธอก็มุ่งหน้าไปยังโรงฟาร์มที่ตอนนี้กลายเป็นสถานที่ที่มืดมิดเพราะเนื่องจากไม่มีใครอยู่ในนี้อีกแล้ว ประตูทางเข้าและหน้าต่างถูกปิดล็อคหมดทุกบาน "แบบนี้เราก็เข้าไปในนี้ไม่ได้น่ะสิ คงต้องไปหาที่อื่นแล้วล่ะ"
"นั่นสินะคะ ที่นี่น่าจะไม่มีใครอยู่แล้วด้วย" สึคาสะเห็นด้วยกับฮารุกะและกำลังจะเดินไปจากที่นี้แต่คิบัทก็บินออกมาจากถุงผ้าของไซโตะ
"เดี๋ยวก่อนทุกคน ฉันรู้สึกบางอย่างมาจากภายในนั้นเป็นความรู้สึกที่เหมือนกับพวกไนท์แมร์มาก...แต่ว่ามันก็ให้ความรู้สึกที่ต่างออกไปด้วย" คิบัทพยายามตั้งสมาธิจับความรู้สึกนั้นให้ได้ "..ในนั้นมีคนอยู่...และยังให้ความรู้สึกเหมือนกับไนท์แมร์....คนที่ประทับตราอยู่ภายในนั้นแน่อน!"
"แต่ว่าเราจะเข้าไปยังไงล่ะ ทางเข้าก็โดนปิดหมดทุกทางเลยนะ" ฮารุกะพูดตามความจริง "และจะพังเข้าไปก็คงไม่ได้เพราะแต่ละบานก็ล็อคอย่างดีไว้ด้วย!"
ไซโตะมองขึ้นไปบนหลังคาแล้วเขาก็พบกับทางที่น่าจะสามารถทำให้เข้าไปข้างในได้ "..ถ้าเป็นทางบนนั้นก็น่าจะเข้าไปได้นะ แต่ว่าก็คงต้องออกแรงกันสักหน่อย!" เด็กหนุ่มปีนขึ้นไปบนถังไม้แล้วปีนขึ้นไปบนหลังคาของโรงฟาร์มจากนั้นเขาก็ลงมาทางปล่องไฟ แล้วไม่นานนักเขาก็ออกมาเปิดประตูให้ฮารุกะและสึคาสะ "เชิญคุณผู้หญิงทั้งสองครับ!"
"ขอบใจมากน้า!" ฮารุกะและสึคาสะเข้าไปในโรงฟาร์มตามที่ไซโตะเป็นผู้เปิดให้ แต่พอเข้ามาแล้วพวกเขาทั้งสามต่างก็ไม่พบเห็นความผิดปกติ หรือมีคนอยู่แม้แต่คนเดียว "ไม่เห็นมีอะไรเลย คิบัทนำทางมาถูกรึเปล่า ?"
"แปลกนะความรู้สึกมันยังคงค้างอยู่ในนี้น่ะ ตอนนี้ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงมันไม่น่าจะผิดพลาดได้นะ" คิบะพยายามบินเสาะหาไปรอบๆแต่มันก็ไม่พบเห็นใครอยู่ดี "หรือว่าความสามารถในการตรวจจับเราจะแย่ลง.."
"นายเนี่ยเดี๋ยวนี้ดีแต่ปากรึไง ?" ไซโตะพูดกวนคิบัทจนทำให้เขาโกรธเล็กน้อยจึงบินเข้าไปก่อกวน "คิบัทพอได้แล้ว ฉันพูดเล่นน่าอย่าโกรธกันจริงๆสิ!!"
สึคาสะเองก็ยังคงรู้สึกบางอย่างที่ผิดปกติได้เธอจึงยังคงมองไปรอบๆห้องเพื่อเสาะหาบางอย่างแบบไม่ย่อท้อ "มีบางอย่างที่นี่แปลกๆนะคะ...ฉันคิดว่าที่คิบัทพูดน่ะไม่ผิดหรอกค่ะ เขายังคงอยู่ที่นี่เพียงแต่เรามองไม่เห็นเพียงเท่านั้นค่ะ!" เธอคาดการณ์
"เอ๋..แล้วทำไมเราถึงมองไม่เห็นเขาล่ะ คนเราไม่น่าจะหายตัวได้นะ!" ฮารุกะทำท่าทีร้อนรน
"ถ้าสมมติว่าพวกระดับหัวหน้ามันใช้พลังที่ทำให้พวกเราไม่สามารถมองเห็นคนที่ถูกตราประทับล่ะก็ มันก็น่าจะมีความเป็นเหตุเป็นผลอยู่นะคะ" สึคาสะคาดเดาและมองไปรอบๆก็เห็นพื้นที่จุดนึงที่เห็นเสียมวางไว้แบบไม่เรียบร้อย เธอจึงคิดว่าเป็นจุดนั้น "ฮิากะคุงลองโจมตีไปที่ตรงนั้นดูสิคะ แล้วเรามาลองดูผลกัน"
"ว่าไงว่าตามกันล่ะนะ!" ไซโตะจับคิบัทมากัดที่ข้อมือของเขา แล้วรอยประหลาดก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาพร้อมกับโซ่เหล็กที่รัดที่เอวของเขาแล้วแปรสภาพกลายเป็นเข็มขัด จากนั้นเขาก็นับคิบัทมาใส่ที่เข็มขัด "แปลงร่าง!!"
KIVA
"เอาล่ะนะ!" คิบะต่อยอย่างเต็มแรงไปที่จุดที่สึคาสะบอก แต่ว่าเขาก็ถูกสะท้อนออกมาด้วยเกราะพลังบางอย่าง "เจ้านี่เองเรอะที่คอยบังพวกเราอยู่น่ะ!"
มาสค์ไรเดอร์ตั้งท่าพร้อมสู้ "ถ้าอย่างงั้นก็ต้องทำลายมันให้เสร็จก่อนสินะ!" แต่ก่อนที่เขาจะทำอะไรก็เกิดตราสัญลักษณ์เวทย์มนต์ที่คล้ายกับพวกไนท์แมร์ขึ้นมาโดยรอบ "อะไรน่ะ!?"
พวกโบนปรากฏตัวออกมาจากตราสัญลักษณ์นั้นเป็นจำนวนมากแล้วพวกมันก็รุมล้อมฮารุกะและสึคาสะไว้ "ฮ่าส์!!!"
"อย่าแตะต้องพวกเธอนะ!!" มาสค์ไรเดอร์คิบะกระโดดเตะใส่โบนกระเด็นออกไปตัวนึง แล้วก้เข้ามาคุ้มครองหญิงสาวทั้งสอง "ฮารุกะ สึคาสะพวกเธอรีบออกไปจากที่นี่ก่อน ตอนนี้ในนี้ไม่ปลอดภัย!"
"เข้าใจแล้ว!" สึคาสะจับมือของฮารุกะ "ไปกันเถอะฮารุกะ ถ้าขืนอยู่ต่อจะไปเป็นตัวถ่วงให้ฮิรากะคุงมากกว่า!" หัวหน้าห้องสาวพาฮารุกะออกไปจากโรงฟาร์มด้วยกัน ปล่อยให้มาสค์ไรเดอร์กับเหล่าโครงกระดูกสู้กันอยุ่ภายใน
คิบะต่อยต่อยใส่โบนแล้วเตะใส่อีกตัวจากนั้นก็โจมตีสวนอีกสองตัวที่เข้ามาโจมตีจากด้านหลังด้วยศอก จากนั้นก็กระโดดถอยออกมา "ทางด้านฮินะกับองค์หญิงจะเป็นอะไรรึเปล่านะ...ไม่สิ..ตอนนี้เราต้องสู้กับเจ้าพวกนี้ก่อน เข้ามาเลย!!!" เขาพูดท้าทายพร้อมกับวิ่งตรงเข้าไปหาพวกมัน
ทางด้านฮินะงิคุและฮันเรียตต้าที่เดินมาอีกทางของสวนก็ไม่พบอะไรจนพวกเธอเดินมาจนถึงสุดสวนแล้ว "ท่าทางทางนี้จะไม่มีอะไรแล้วนะ คงต้องย้อนกลับไปแล้วล่ะ" ฮินะงิคุพูดกับฮันเรียตต้า
"นั่นสินะคะ หวีงว่าทางของคุณไซโตะคงจะพบคนที่ถูกทำตราสัญลักษณ์นะคะ" ฮันเรียตต้าคิดในแง่ดีไว้ แต่เมื่อพวกเธอหันหลังกลับทั้งสองก็รู้สึกถึงจิตที่ไม่ดีนักมาจากทางข้างหน้า "ความรู้สึกแบบนี้.."
"ไม่ยอมให้พวกเรากลับไปหาพวกฮิรากะคุงอย่างงั้นเรอะ!?" สิ่งที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าทั้งสองคือไนท์แมร์สแกร์โครว์ที่คราวนี้มันได้พัฒนาร่างของมันไปถึงขั้นที่สามซึ่งเป็นร่างสุดท้ายของมันแล้ว "ถ้ามาขวางกันแบบนี้คงจะหมายความว่า พวกฮิรากะคุงคงจะเจอผู้ถูกประทับตราแล้วสินะ.."
"อย่างที่เคยบอกไปค่ะ หากว่าเราไม่กำจัดไนท์แมร์ก่อนถึงแม้จะใช้อัญมณีแห่งแสงก็ไม่สามารถทำลายตราสัญลักษณ์ได้ค่ะ" ฮันเรียตต้าย้ำให้ฮินะงิคุฟังอีกครั้ง "เราจึงต้องจัดการไนท์แมร์ตนนี้ เพื่อช่วยให้ทางนั้นสามารถทำลายตราสัญลักษณ์ให้ได้ค่ะ!"
"เป็นพวกที่ดูยุ่งยากจังเลยนะ!" กำไลข้อมือของฮินะงิคุเปล่งแสงสีชมพูออกมาแล้วก็ค่อยๆแปรสภาพเป็นดาบไม้มาซามุเนะ "แต่ว่าไม่ว่าศัตรูแบบไหนแันก็จะไม่มีทางออมมือให้หรอก! แปลงร่าง!!"
ANGEL METAMORPHOSE
"คิบาร่า!!" ฮันเรียตต้าเรียกคิบาร่าออกมาจากถุงผ้าของเธอ แล้วเจ้าหญิงก็จับเธอไว้แล้วนำมาไว้ตรงหน้า "แปลงร่าง!" คิบาร่าเปล่งแสงออกมาแล้วค่อยกลายร่างเป็นแสงไปกลายเป็นเกราะสวมให้กับฮันเรียตต้า
KIVARA
"แฮ่!!" ไนท์แมร์สแกร์โครว์ปล่อยโซ่เหล็กเข้าโจมตีเอนเจิลและคิบาร่าพร้อมกัน ซึ่งทั้งสองก็ใช้ดาบรับการโจมตีนั้นไว้แต่ไม่ทันไรดาบของทั้งสองก็ถูกโซ่ของมันรัดเอาไว้ "ฮ่าๆๆๆ!!" มันเหวี่ยงดาบของทั้งคู่ออกจากมือแล้วใช้โซ่ของมันฟาดโจมตีใส่ทั้งสอง
"คิดว่าถ้าพวกเราไม่มีดาบแล้วจะทำอะไรไม่ได้อย่างงั้นเรอะ!" เอนเจิลควบคุมมาซามุเนะที่ปักอยู่ที่พื้นให้ลอยขึ้นแล้วบินย้อนกลับมาโจมตีใส่สแกร์โครว์ ส่วนเธอก็เข้าไปรับดาบของเธอกลับมาฟันใส่ตัวของมัน "เป็นยังไงล่ะ!?"
"ฮาส์...!!" ไนท์แมร์สแกร์โครว์จับดาบของเอนเจิลไว้แล้วใช้โซ่รัดตัวของเธอ จากนั้นก็เหวี่ยงเธอไปชนกับต้นไม้ "ฮ่าส์!!"
"ฮินะงิคุ!!" คิบาร่าเห็นเอนเจิลถูกเหวี่ยงไปชนกับต้นไม้ เธอจึงวิ่งเข้าไปแล้วกระโดดข้ามหัวของมันเข้าไปเก็บดาบกลับขึ้นมาแล้วแทงดาบไปที่มัน แต่ว่าไนท์แมร์สแกร์โครว์ไม่สะทกสะท้านและยังจับเธอเหวี่ยงออก "กรี๊ดด!!!"
"ไม่ยอมหรอก!" ด้วยพลังของคิบาร่าทำให้เธอสามารถกลับมาตั้งหลักใหม่ได้ "เจ้าหญิงเป็นอะไรรึเปล่าเจ้าคะ ?" คิบาร่าถามอาการของฮันเรียตต้าทันทีที่เธอลงถึงพื้น
"ไม่เป็นไรมากหรอกค่ะ แต่ว่าการโจมตีด้วยวิธีทางกายภาพท่าทางจะไม่ได้ผลกับไนท์แมร์ตนนี้แล้วค่ะ ถ้าอย่างงั้น..!" มาสค์ไรเดอร์หยิบแฟซเซิลของเธอมาเสียบที่ด้ามดาบ เพื่อนปลดปล่อยพลังของดาบออกมาแล้วเธอก็พุ่งตัวเข้าหาไนท์แมร์ทันที "ฮ้ากกก!!!"
"ฮ่าส์!!!" ไนท์แมร์ใช้โซ๋เหวี่ยงโจมตีไปรอบๆ แต่คิบาร่าใช้วามคล่องตัวเคลื่อนหลบแล้วพุ่งเข้าหาไปในระยะประชิดแล้วใช้ดาบของเธอกระหน่ำแทงใส่มันจนทำให้เสียหลักเล็กน้อย แล้วก็ถูกดาบแทงทะลุหัวแต่มันก็ยังสามารถขยับได้
"โดนแบบนี้แล้วยังไม่ตาย..คงต้องใช้ไชน์นิ่งมูนเบรกเท่านั้นสินะ!" คิบาร่าดึงดาบออกมาจากหัวสแกร์โครว์แล้วใช้ดาบที่เรืองแสงสีฟ้าของเธอกระหน่ำแทงใส่มันจนเกิดกลายเป็นสัญลักษณ์คิบะขึ้นมา ตอนนั้นคิบาร่าก็ถอยห่างออกจากไนท์แมร์แล้วเกราะขาของเธอก็แตกออก แล้วเธอก็กระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้าที่มีดวงจันทร์สีน้ำเงินเป้นฉากหลัง
SHINING MOON BREAK
"ฮ่าส์!!!" คิบาร่าพุ่งลงมาจากบนท้องฟ้าเตะใส่ไนท์แมร์สแกร์โครว์ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรมันได้เพราะท่าเตะของเธอถูกโซ่เหล็กของมันที่เปลี่ยนรูปแบบเป็นเกราะเหล็กป้องกันไว้ "แบบนี้!?"
"ฮ่าๆๆๆ!!" ไนท์แมร์สแกร์โครว์ใช้โซ่เหล็กรัดตัวเธอไว้แล้วเหวี่ยงออกไปแล้วก็ทุ่มเธอลงพื้น
ตู้ม!!!
"ฮันเรียตต้า...ปล่อยนะ!!" พลังของเอนเจิลเพิ่มสูงขึ้นแล้วก็สามารถทำลายโซ่เหล็กที่พันธนาการเธอไว้ออกไปได้สำเร็จ แล้วร่างของมาสค์ไรเดอร์ก็เปลี่ยนเป้นแสงสีชมพูทั้งร่าง "SHOOTING STAR!" เธอพุ่งเข้าใส่สแกร์โครว์แต่ก็ได้เพียงเฉียดๆเท่านั้นเพราะว่ามันสามารถหลบออกได้ก่อน
"ฮ่าส์!!" ไนท์แมร์สแกร์โครว์ปล่อยโซ่ขึ้นมาจากใต้ดินทำให้เอนเจิลถูกโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัว แล้วก็ถูกโซ่เหล็กอีกสองสายฟาดซ้ำตกลงสู่พื้นอีก "ฮ่าๆๆๆ!!"
"แข็งแกร่งมาก พลังเพิ่มขึ้นมากกว่าก่าอนหน้านี้แบบเทียบไม่ติดเลย..." มาสค์ไรเดอร์คิบาร่าปักดาบลงพื้นแล้วค่อยยืนขึ้น "...ท่าทางจะดูดกลืนพลังความฝันของผู้คนไปเยอะสินะคะ..แต่ว่าพวกเราก็จะไม่มีทางยอมแพ้หรอกค่ะ!"
"ฮ่าส์!!" ไนท์แมร์สแกร์โครว์ปล่อยโซ่เหล็กสองสายพุ่งเข้าหาคิบาร่าอีกครั้ง....
โรงฟาร์ม เวลา 20.50 น.
ที่โรงฟาร์มนั้นมาสค์ไรเดอร์คิบะก็ต้องถูกโจมตีจากเหล่าโบนด้วยพลังต่อสู้ที่ไม่ธรรมดาของพวกมัน รวมกับจำนวนที่มากกว่าจึงทำให้ไซโตะตกอยู่ในสภาพเสียเปรียบ ถูกโจมตีล้มลุกคลุกคลานหลายครั้ง "ฉันไม่มีเวลามาเล่นกับพวกนายแล้ว ฉันจะขอให้พวกนายได้เจอกับของจริงเลยละกัน!"
ไซโตะหยิบแฟซเซิลรูปคิบัทไปเสียบที่คิบัท "คิบะจะลุยล่ะนะ!!" แล้วร่างของค้างคาวเหล็กก็ขยายร่างขึ้นแล้วกลายสภาพเป็นธนูขนาดใหญ่ให้กับคิบะ "คู่หู เรามาทำลายเกราะบาเรียนั่นไปพร้อมๆกันเลย!"
"อา...ฉันก็ต้องการแบบนั้นล่ะ!" คิบะดึงคันศรธนูจนถึงสุดแล้วก็ปล่อย "ไปเลย!!"
KIVA ARROW
ลูกศรสีแดงพุ่งออกมาจากธนูพุ่งตรงใส่เหล่าโบนและเกราะพลังของไนท์แมร์จนทำลายพวกมันลงไปทั้งหมด แล้วก็พบเจอร่างของบุคคลที่ถูกประทับตรากำลังนอนสลบอยู่ที่ปลายสุดห้อง "ต้องรีบใช้อัญมณีทำลายความมืดสินะ!"
คิบะรีบอุ้มเขาผู้นั้นออกมาจากโรงฟาร์มมาหาฮารุกะ "ฮารุกะรีบทำลายตราสัญลักษณ์เร็วเข้า!"
"อืม ไว้ใจได้เลย!!" หญิงสาวพยักหน้าตกลงแล้วเธอก็หยิบสร้อยคอของเธอมาแตะที่หน้าผากของชายผู้นี้ แล้วแสงสว่างก็บังเกิดขึ้นแต่จู่ๆแสงนั้นก็เลือนลางหายไปและไม่พบความเปลี่ยนแปลงใดๆเกิดขึ้น "เอ๋..ทำไมล่ะ ตามปกติมันน่าจะทำลายตราสัญลักษณ์ดาวนี้แล้วหนิ ?"
"ถ้าเป็นตามที่คุณทริสเทนบอกมา คาดว่าไนท์แมร์น่าจะถูกปลดปล่อยออกมาแล้วล่ะค่ะ เพระแบบนั้นเราจึงไม่สามารถทำลายตราสัญลักษณ์ได้ ก่อนอื่นพวกเราต้องหาทางกำจัดไนท์แมร์ลงให้ได้ก่อน!" สึคาสะพูดอธิบายให้ทั้งสองเข้าใจ
"หมายความว่าเจ้าไนท์แมร์หุ่นไล่กานั้นกำลังออกอาละวาดอยู่สินะ...หรือว่าทางด้านองค์หญิงกำลังสู้กับมันอยู่!" ไซโตะรู้สึกสังหรณ์ไม่ดีตัดสินใจจะออกตามหาไนท์แมร์ "พวกเธอรออยู่ที่นี่นะ ฉันจะออกตามหาไนท์แมร์เอง หากว่าเห็นแสงอ่อนแรงลงเมื่อไหร่ก็รีบทำลายตราประทับเลยนะ!"
"ระวังตัวด้วยนะ!" อารุกะเตือนด้วยความเป็นห่วง แล้วมาสค์ไรเดอร์คิบะก็พาชายหนุ่มร่างสูงกระโดดออกไป "คราวนี้ต้องชนะให้ได้ล่ะ ไซโตะคุง!" ฮารุกะพูดทิ้งท้ายก่อนที่เขาห่างออกไป
มาสค์ไรเดอร์คิบะวิ่งตรงมาเรื่อยๆแต่ก็ไม่พบวี่แววของไนท์แมร์แม้แต่ตัวเดียว "มันอยู่ทางไหนกันเนี่ย!?"
"คู่หูใจเย็นๆ ตอนนี้พวกนั้นกำลังสู้กันอยู่ที่ปลายสุดของสวนแต่ว่าเราต้องรีบไปแล้ว พลังของไนท์แมร์คราวนี้สูงกว่าที่ผ่านมามากๆเลย!" คิบัทบอกกับไซโตะ พวกเขาจึงเร่งฝีเท้าเต็มที่เพื่อที่จะไปถึงจุดหมายให้เร็วที่สุด
บรึ้มม!!!
คิบาร่าและเอนเจิลต่างถูกไนท์แมร์สแกร์โครว์โจมตีจนล้มลงทั้งคู่ ปิศาจหุ่นไล่กาใช้โซ่ของมันรัดคอของทั้งสองไว้ แล้วหัวดราะดยาะแบบสะใจ "ฮ่าๆๆๆๆ!!!"
"ฮ้ากกกก!!!!" มาสค์ไรเดอร์คิบะกระโดดเข้ามาเตะใส่มันจนโซ่ที่รัดคอทั้งสองหลุดออก จากนั้นมาสค์ไรเดอร์ก็กลับมาตั้งหลักใหม่ที่พื้น "ฉันมาแล้ว ขอชำระหนี้สองครั้งเลยล่ะนะ!"
"คุณไซโตะ/ฮิรากะคุง!" ทั้งสองต่างไมอยู่ในสภาพที่สู้ไหวจึงได้เพียงแค่นั่งมองการต่อสู้ของคิบะและไนท์แมร์ "พยายามเข้าล่ะ!"
"เอาล่ะ ของจริงน่ะมันจะเริ่มจากนี้ล่ะนะ!" คิบะกล่าวแล้วเขาก็เข้าสู้กับไนท์แมร์สแกร์โครว์ทันที มันโจมตีใส่เขาด้วยโซ่เหล็กของมันแต่ก็ถูกคิบะรับไว้แล้วกระโดดเตะสวนคืนไป "เป็นอะไรไปมีแค่นี้เรอะ!?"
"ฮ่าส์!!!" สแกร์โครว์ฟาดโซ่ใส่คิบะ เขาก็กระโดดขึ้นแล้วพุ่งลงมาเตะใส่มันจนเสียหลักเล็กน้อยแล้วก็ถูกเขาต่อยแล้วตามด้วยการต่อยรัวอีกหลายหมัด แล้วก็ถูกเตะกระเด็นไปชนกับต้นไม้และจับทุ่มลงพื้น "ฮาส์...ฮ่าส์!!" ไนท์แมร์พลิกตัวขึ้นแล้วใช้โซ่รัดตัวคิบะไว้แล้วยกขึ้นทุ่มลงใส่พื้น
ตู้ม!!
"ฮ่าๆๆๆ!!!" ไนท์แมร์สแกร์โครว์หัวเราะอย่างสะใจที่มันสามารถทำให้คิบะย่ำแย่ได้ถึงขนาดนี้
"หยุดหัวเราะได้แล้วน่าเจ้าตัวน่าเกลียด!" คิบะจับโซ่เหล็กของมันไว้แล้วกำไว้แน่นที่สุดเท่าที่ทำได้ "นายน่ะพลาดแล้วที่คิดจะจับฉันน่ะ!" มาสค์ไรเดอร์จับโซ๋เหล็กของไนท์แมร์สแกร์โครว์แล้วเหวี่ยงมันข้ามหัวมาทุ่มมันลงที่อีกฝั่งของสวน
ตู้ม!!
โซ่เหล็กของสแกร์โครว์หลุดออกจากตัวของคิบะ แล้วมาสค์ไรเดอร์ก็ถอยตัวออกห่างจากไนท์แมร์เล็กน้อย "ต่อไปจะเป็นการโจมตีครั้งสุดท้าย ฉันจะแสดงให้นายเห็นพลังที่แท้จริงของฉัน!" เขาหยิบแฟซเซิลสีแดงขึ้นมาแล้วสลับข้างของมันเป็นด้านหลัง จากนั้นก็เสียบที่คิบัท
WAKE UP!
ดวงจันทราสีน้ำเงินที่ล่องลอยอยู่บนท้องนภาที่มืดมิดค่อยถูกเงามืดบางอย่างเข้าบดบังจนเหลือเพียงครึ่งเสี้ยว พร้อมกับสภาพบรรยากาศที่ดูมืดครึ้มขึ้น จากนั้นคิบะก็กระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้า "ฮ่าส์!!!"
"แฮ่!!" ไนท์แมร์สแกร์โครว์ใช้โซ่เหล็กของมันขว้างขึ้นไปรัดมือซ้ายของคิบะไว้เพื่อไม่ให้เขากระโดดขึ้นไปสูงมาก
"เข้ามาเลย คราวนี้จะจัดการ..นายให้ได้!!" มาสค์ไรเดอร์ใช้แรงที่เขามีอยู่ดึงตัวของสแกร์โครว์ขึ้นมา แล้วหมัดขวาของคิบะก็เปล่งแสงสีแดงออกมา "ฮ้ากกกกก!!!!"
BLOODY PUNCH
ไซโตะใช้แรงทั้งหมดที่มีอยู่ต่อยใส่หน้าของไนท์แมร์แล้วก็พุ่งลงไปที่พื้นพร้อมกัน จนเกิดเป็นตราสัญลักษณ์คิบะขนาดใหญ่ขึ้นมาที่พื้น ร่างกายของไนท์แมร์สแกร์โครว์ค่อยแปรสภาพเป็นกระจก คิบะลุกขึ้นยืนแล้วหันหลังกลับพร้อมกับเดินออกจากตัวมัน "หายไปซะ!"
เพล้ง!!!
ทางด้านของฮารุกะและสึคาสะก็สังเกตเห้นว่าแสงสีดำที่หน้าผากของคาราสุได้อ่อนแรงลงเนื่องมาจากคิบะสามารถจัดการไนท์แมร์สแกร์โครว์ลงได้สำเร็แล้วนั่นเอง "เอาล่ะ ใช้นี้เลยนะ!" ฮารุกะใช้อัญมณีสีขาวไปแตะที่หน้าผากของเขาแล้วแสงสว่างก็ชำระล้างตราประทับนั้นออกไป
"สำเร็จแล้วนะคะ" สึคาสะบอกกับฮารุกะ พร้อมกับความรู้สึกโล่งใจ
"อืม.." ฮารุกะหันไปมองดวงจันทร์สีน้ำเงินที่อยู่บนท้องฟ้า "สำเร็จแล้วนะ ไซโตะคุง!"
แองเจินและคิบาร่าคืนร่างกลับเป็นฮินะงิคุและฮันเรียตต้า แล้วองค์เจ้าหญิงก็มองไปที่ร่างของนักรบสีแดงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ "ชนะได้จริงๆ นั้นคือพลังของ..คิบะ ?"
คิบะคืนร่างกลับเป็นไซโตะ "ชะ..ชนะแล้วสินะ...เห้นมั้ยล่ะว่าฉันก็ทำ..ได้" แล้วร่างของเด็กหนุ่มที่ไ้ร้เรี่ยวแรงก็ค่อยๆล้มลงแล้วหมดสติลงไปที่ใจกลางสวนแห่งนั้น.....
.
.
.
.
ฐานทัพแรบบิทแฮทซ์ เวลา 23.30 น.
ไซโตะลืมตาฟื้นขึ้นมาจากที่สลบไปยาวนาน "นี้เรา..สลบไปอย่างงั้นเรอะ...แล้วที่นี้..?" พอเขามองขึ้นไปข้างบนก็เห็นดวงดาวมากมายอย่างชัดเจนและไม่เห็นเมฆ เพียงแค่นั้นก็ทำให้เขาทราบว่าตัวเองอยู่ที่แบบิทแฮทซ์ "นี้เราหลับไปนานแค่ไหนเนี่ย ?"
"คุณไซโตะหลับไปประมาณสองชั่วโมงค่ะ คงจะไม่รู้เรื่องเลยสินะคะว่าตัวเองสลบไปได้ยังไง" เสียงของผู้หญิงที่มีลักษณะสำเนียงคล้ายกับผู้ดีเช่นนี้ทำให้ไซโตะถึงกับตกใจกับผู้ที่อยู่เฝ้าไข้เขา "แต่ฉันเองก็ตกใจเหมือนกันนะคะที่มีที่แบบนี้อยู่ด้วย"
"อะ..องค์หญิง..ทำไมท่านถึงมาเฝ้าผมล่ะครับ ?" ไซโตะถามตรงประเด็นซึ่งฮันเรียตต้าก็แอบอมยิ้มและกุมมือของตัวเองไว้ "แล้วไนท์แมร์ล่ะครับ จัดการได้แล้วสินะครับ"
"ค่ะ ฮารุกะใช้อัญมณีแห่งแสงทำลายตราประทับลงไปแล้วค่ะ เท่านี้ก็สามารถหยุดเรื่องเลวร้ายไว้ได้ช่วงระยะเวลาหนึ่งแล้วล่ะค่ะ" ฮันเรียตต้าพูดพร้อมกับยิ้มให้เด็กหนุ่มทำให้เขาออกอาการเขินเล็กน้อย บวกกับกลิ่นน้ำหอมจากตัวของเธอทำให้ไซดตะยิ่งรู้สึกหลงไหลเข้าไปอีก
"และสาเหตุที่ฉันมาอยู่กับคุณไซโตะสองต่อสองแบบนี้ก็เพราะฉันอยากขอบคุณที่ช่วยชีวิตของฉันไว้น่ะค่ะ" ฮันเรียตต้ากล่าวขอบคุณด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน พร้อมกับกุมมือของไซโตะไว้ "ถ้าไม่รังเกียจดิฉันก็ขอบางสิ่งกับคุณไซโตะจะได้มั้ยคะ ?"
ไซโตะหน้าแดงเพราะเขาคิดลึกไปถึงเกี่ยวกับเรื่องอื่นๆ "ขอ..จะขออะไรเหรอครับ หรือว่าจะ..."
ทันใดนั้นคิบาร่าที่ได้ยินองค์หญิงพูดแบบนั้นก็บินออกมาจากถุงผ้าแล้วอารมณ์เสียเล็กน้อย "องค์หญิงเจ้าคะ อย่ายื่นมือไปให้กับเจ้าสุนัขสกปรกนี้เลยค่ะ ตำแหน่งของพวกเราต่างชั้นกับมันนะคะ!"
"คิบาร่า เขาคนนี้ช่วยชีวิตพวกเราไว้นะ การให้เกียรติเขาเช่นนี้เป็นสิ่งที่พึ่งกระทำในราชวงค์ของพวกเรานะ!" ฮันเรียตต้าต่อว่าคิบาร่า เธอจึงจำต้องยอมแบบเลี่ยงไม่ได้
"แล้วจะขออะไรผมเหรอครับ ?" ไซโตะถามเธอซ้ำอีกครั้ง
"ฉันอยากจะขอให้คุณไซโตะช่วยมาเป็นองค์รักษ์ของฉันด้วยเถอะค่ะ เพราะพลังของฉันก็ยังไม่เข้มแข็งพอพลังของคิบะเป็นพลังแห่งราชันย์ดังนั้นพลังแห้งราชินีอย่างฉันก็ไม่ควรที่จะไปข้อร้องราชันย์แบบนี้ แต่ว่าที่นี่ฉันยังไม่มีใครที่สนิทสนมด้วย..ดังนั้นดิฉันจึงอยากจะขอให้คุณไซโตะที่ช่วยเหลือฉันไว้มารับตำแหน่งนี้น่ะค่ะ" ฮันเรียตต้าขอร้องไซโตะอย่างเต็มที่ทำเอาเขาลำบากใจ
"เรื่องนั้น..." ไซโตะเองก็ต้องคิดหนักกับคำตอบที่เขาจะตอบกลับไปเช่นกัน แต่ในที่สุดแววตาของเขาก็เปลี่ยนไปเหมือนกับว่าได้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้ว "...ตกลงครับ ผมจะเป็นองค์รักษ์ขององค์หญิงเอง จะปกป้ององค์หญิงด้วยพลังที่ผมมีทั้งหมด!"
"ขอบพระคุณมากค่ะ" ฮันเรียตต้ายืนขึ้นแล้วยื่นมือให้ไซโตะเล็กน้อย
"เอ๊ะ..ทำอะไรน่ะครับ ?" ไซโตะไม่เข้าใจถึงการกระทำของฮันเรียตต้าที่ทำแบบนี้
คิบาร่าบินเข้ามาอยู่ข้างไซโตะ "เจ้าทึ่มเขาให้จูบยังไงล่ะ แค่นี้ก็ดูไม่ออกเหรอ โง่ชะมัดเลยนะ!"
"จะ..จูบ!! ทำเรื่องแบบนั้นเนี่ยนะ..?" เด็กหนุ่มมองไปที่เจ้าหญิงที่ดูสง่างามและสวยแบบไร้ที่ติยิ่งทำให้เขาปฏิเสธไม่ได้ เจ้ากลืนน้ำลายลงหนึ่งครั้งเพื่อรวบรวมความกล้า
"ถ้าอย่างงั้นต้องขออภัยด้วยนะครับ!" ไซโตะเดินเข้าไปใกล้ฮันเรียตต้าแล้วก็จับมือของเธอแล้วดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขา จากนั้นก็ค่อยๆบรรจงจุมพิตไปที่เจ้าหญิงผู้เลอโฉมแต่การกระทำแบบนั้นกลับสร้างความแปลกใจให้ทั้งคิบาร่าและองค์หญิงเป็นอย่างมากจนเธอถึงกับสลบลงไปทำเอาชายหนุ่มสับสน "เอ๋!?"
"นะ..นะ..นะ..นี่..นี่แก..นี่แกทำอะไร...ทำอะไรกับองค์หญิงลงไป!!" คิบาร่าฉุนขาดถึงที่สุด "เจ้าหมาบ้า!!"
"เดี๋ยวนี้ฉันทำอะไรผิดล่ะ ก็จูบตามที่เธอบอกแล้วไงเล่า!" ไซโตะเถียงคิบาร่ากลับ
"ใครบอกให้จูบแบบนั้นกัน ฉันหมายถึงให้แกจูบลงที่ฝ่ามือของพระองค์ต่างหาก!!" คิบาร่าโมโหอย่างมากจึงบินเข้าจิกไซโตะ "เจ้าบ้าๆๆๆๆๆๆๆๆ!!"
ที่มุมห้องคิบัทและลาพิสต่างจับตามองการกระทำของทั้งสามอยู่ห่างๆ และคิบัทก็ต้องเหนื่อยใจกับการกระทำของไซโตะ "คู่หู นายนี้มันบื้อจริงๆ!"
.................... TO BE CONTINUE ...................
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น