ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    P:FMR NW

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2 ชายหญิง

    • อัปเดตล่าสุด 28 พ.ค. 57


    วันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 1970 ประเทศญี่ปุ่น เมืองก่อตั้งพิเศษฟูโตะ 

         "ขณะนี้เวลา 23.50 น. ตามเวลาของญี่ปุ่น"
         รายงานประกาศข่าว จากหลายแห่งทั่วโลกกำลังให้ความสนใจแก่เมืองสำคัญแห่งใหม่ที่เพิ่งก่อสร้างได้สำเร็จ หลังจากที่ใช้เวลาในการพัฒนาเมืองแห่งนี้มาเป็นระยะเวลานาน ในที่สุดเมืองในฝันของเหล่าผู้คนทั่วโลกก็กำลังปรากฏให้เห็นสายตาของพวกเขาแล้ว
    "โลกใหม่ของแดนอาทิตย์อุทัยกำลังจะเริ่มต้นขึ้นใหม่ ณ เมืองแห่งใหม่นี้"

         ในเมืองฟูโตะ ตอนนี้เต็มไปด้วยแสงสีอลังตา อาคารทุกเรือนเปิดแสงหลากสีดูมหัศจรรย์ยิ่ง กังหันลมแหล่งผลิตพลังงานสำคัญของเมือง และ ฟูโตะทาวน์เวอร์ กังหันลมขนาดยักษ์ที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองแห่งสายลม 1 ใน 8 สิ่งมหัศจรรย์ของเมือง
    ผู้คนมากมายจากทั่วทุกมุมโลกต่างเผ้ารอคอยพิธีเปิดและเทศกาลวันปีใหม่ที่จะถือเป็นจุดเริ่มต้นของโลกใหม่นี้ในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า นักข่าวมากมายก็ให้ความสนใจกับเหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นอย่างมาก

    "คืนนี้จะต้องเป็นคืนที่ประวัติศาสตร์ของโลกจะต้องจดจำกับการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ ของเมืองแห่งฝันที่ได้รับการสนับสนุนจากนักวิทยาศาสตร์ สถาปานิก วิศวกร จากทั่วทุกมุมโลก และร่วมฉลองจุดเริ่มต้นของโลกใหม่นับแต่นี้เป็นต้นไป" กล้องจับภาพไปที่ลานพิธีขนาดใหญ่ที่จะให้นายกเทศมนตรีเมืองแห่งสายลมนี้มากล่าวสุนทรพจน์

    กล้องซูมเข้าไปใกล้ๆผู้ชายวัยกลางคนที่กำลังขึ้นไปบนแท่นพิธี และเริ่มปราศัย
    "สวัสดีประชาชนชาวโลกทุกท่าน ผมชื่อฟูโตะ โซโนซากิ วันนี้ขอขอบคุณท่านผู้มีเกียรติทุกท่านที่มาร่วมพิธีงานฉลองแห่งทศวรรษใหม่ รวมถึงทุกท่านที่กำลังนั่งชมอยู่ทางบ้าน ขอขอบคุณที่ทุกท่านช่วยมาเป็นสักขีพยานในวันนี้"

    "ผมอยากจะให้เมืองฟูโตะแห่งนี้ เป็นเมืองสัญลักษณ์แห่งสันติภาพและความปรองดอง ความเป็นมิตรซึ่งกันและกัน ความเป็นห่วงเป็นใยกัน นั่นคือสิ่งที่ผมปรารถนาจะให้เมืองแห่งนี้เป็น"
    ฟูโตะกล่าวปราศัยต่อ "ทุกๆท่านคงจะทราบดีว่าประวัติศาตร์ของมนุษยชาตินั้นล้วนเอาแต่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนมาโดยตลอด ทำให้พวกขัดแย้ง หันมาสร้างอาวุธเพื่อที่จะฆ่าล้าง และทำลายเหล่าเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเอง โดยที่พวกท่านก้น่าจะทราบดีจากเหตุการ์ณมหาสงครามทั้งสองครั้งที่พวกท่านก็น่าจะทราบดีอยู่แล้ว"

    "รวมถึงในปัจจุบันถึงจะไม่มีการรบกันอย่างจริงจัง แต่ก็ยังมีการเร่งผลิตพัฒนาอาวุธอยู่ไม่ขาด เพื่อที่จะขู่เข็ญและทำลายขวัญกำลังใจฝ่ายตรงข้าม แสดงถึงพลังอำนาจของตนเองว่ายิ่งใหญ่เหนือผู้อื่น จนลืมสิ่งสำคัญในฐานะมนุษย์ไป"

    "เมื่อปีที่แล้วมนุษย์เราอาจจะไปถึงดวงจันทร์ได้สำเร็จ อาจจะมีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ แต่สภาพในโลกในตอนนี้ก็ยังไม่ต่างไปจากเดิมเท่าไหร่นัก แต่นับจากนี้เป็นต้นไป..."
    พรึ่บ!

    แสงไฟสปอร์ตไลท์ด้านหลังของฟูโตะ โซโนซากิถูกเปิดขึ้นอย่างกระทันหัน ฉายให้เห็นอาคารขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ด้านหลังของเขา
    "...หลังจากที่มีมนุษย์ขึ้นไปสำรวจอวกาศ และขึ้นไปเหยียบบนต่างดาวได้สำเร็จ อีกหนึ่งสิ่งที่มนุษยชาติควรจะจดจำและรับรู้ไว้ก็คือสิ่งนี้"

    ไฟตามอาคารหอคอยสูงใหญ่นี้ค่อยๆไล่เปิดแสงไฟตามขึ้นไปที่ละชั้นทีละชั้น แต่ความสูงของมันนั้นเกินกว่าที่สายตาของมนุษย์อย่างเราจะมองเห็นยอดของมันได้ เพราะว่า...
    "ลิฟท์วงโคจรแห่งแรกของโลก สิ่งที่จะเป็นตัวสานต่อประวัติศาสตร์แห่งอวกาศ และจุดเริ่มต้นแห่งโลกใหม่ในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้ คาดว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าหอคอยแห่งนี้ก็จะเสร็จสมบูรณ์ได้ในที่สุด"

    "สาเหตุที่พวกเราสามารถพัฒนาสิ่งนี้ได้รวดเร็วโดยที่ใช้เวลาไม่นานนั้นเกิดมาจากสิ่งที่พวกเราเพื่อนมนุษย์ต่างเรียกกันว่า 'ความสามัคคี การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน' ซึ่งนี่ล่ะคือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ ผมไม่อาจที่จะสร้างเมืองแห่งนี้ให้สำเร็จได้ด้วยตัวเพียงคนเดียวได้ แต่เพราะผมได้รับการช่วยเหลือจากทุกๆท่านไม่ว่าจะเป็นเหล่าวิศวกรทุกๆคน นักวิทยาศาตร์ สถาปานิก และอีกมากมาย ผมต้องขอขอบคุรทุกๆท่านที่ช่วยให้พวกเรามีวันนี้" ฟูโตะโค้งตัวคำนับทุกท่านที่กล่าวมาต่อหน้ากล้องหลายพันตัวที่จับภาพเขาอยู่

    "เฮ้!!" ท่ามกลางเสียงร้องของผู้คนจำนวนมากที่อยู่ร่วมชมการปราศัยของเข

    เวลาในขณะนี้คือ 23.59 น. ฟูโตะ โซโนซากิเห็นว่าเป็นเวลาอันดีที่จะเริ่มพิธีแล้ว
    "เอาล่ะครับแขกผู้มีเกียรติทุกๆท่าน ผมจะขอเริ่ม.."

    "..ประกาศเปิดเมืองฟูโตะแห่งนี้ นับแต่นี้เป็นต้นไป..."
    เมื่อเข็มนาฬิกาชี้ที่เลข 12 พลุที่ติดตั้งเตรียมไว้ทั่วทุกที่ก็ถูกจุดขึ้น แสงไฟระเบิดออกบนท้องฟ้า เป็นสัญญาณแห่งการเริ่มต้นปีใหม่ และโลกใหม่...

    AREA 1 น่านฟ้าญี่ปุ่นเส้นทางสู่เมืองฟูโตะ เวลา 15.02 น.

    บนเครื่องบินสายจากประเทศฝรั่งเศสสู่เมืองฟูโตะ
    ผู้โดยสารจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นชาวฝรั่งเศสที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่เมืองฟูโตะ ชาวญี่ปุ่นที่เดินทางกลับมาจากการไปท่องเที่ยวที่ฝรั่งเศส แต่ละคนก็มีธุระ สิ่งที่ต้องทำ ต่างกันออกไป

    ในห้องพิเศษที่จะอยู่ในช่วงต้นๆของเครื่อง สำหรับบุคคลที่มีทรัพย์สินจำนวนมากหรือกลุ่มคนพิเศษที่จะได้นั่งในส่วนนี้ แอร์โฮสเตสญี่ปุ่นคนนึงได้เดินมาถามผู้โดยสารผมบลอนด์ที่หนังอยู่ที่ที่นั่งของเขา เพื่อสอบถาม ให้บริการตามหน้าที่ "จะรับอะไรหน่อยไหมคะ ?"

    ชายผมบลอนด์หันไปทางเธอ "คือว่าไม่ทราบว่าตอนนี้ ถ้านับเป็นเวลาญี่ปุ่นนี่กี่โมงแล้วเหรอครับ ?"

    "น่าจะราวๆบ่ายสามโมงน่ะค่ะ ตอนนี้เราก็เข้าเขตน่านฟ้าของเมืองแล้ว อีกไม่นานก็จะลงจอดแล้วล่ะค่ะ" แอร์โฮสเตสชาวญี่ปุ่นบอก "ถ้าไม่รับอะไรก็ขอตัวก่อนนะคะ" และเธอก็ไปหาที่นั่งอื่นเพื่อทำตามหน้าที่ของเธอ
    "ครับ"

    หลังจากที่แอร์โฮสเตสไปที่โต๊ะอื่น ชายหนุ่มผมบลอนด์มองไปที่โต๊ะรบข้าง ซึ่งพวกเขาบางคนกำลังคุยผ่านโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดกับลูกค้า ดูจากการแต่งตัวแล้วน่าจะเป็นนักธุรกิจที่สำคัญไม่น้อย หรืออีกคนที่เอาแต่นอนหลับเป็นตายไม่รู้เรื่องอะไร และอีกคนที่มัวแต่หลีแอร์โฮสเตสที่คุยกับเขาเมื่อกี้นี้ 
    "ปลอดภัย" เมื่อไม่มีใครที่มีท่าทางมีพิรุธ เขาจึงลุกออกไปจากที่นั่งพร้อมกับ...กระเป๋าที่ล็อคไว้กับข้อมือของเขา

    ชายชาวฝรั่งเศสเดินย้อนกลับไปที่กลางเครื่องที่ส่วนผู้โดยสารธรรมดา เขามองไปรอบๆอย่างละเอียดถี่ถ้วนเหมือนทุกที เมื่อเห็นว่าแต่ละคนก็มัวแต่กำลังยุ่งกับธุระอะไรก็ตามของตัวเองอยู่ เขาจึงได้โอกาสเดินผ่านผู้คนเหล่านั้นไปยังส่วนท้ายของเครื่อง
    แต่เขาไม่รู้เลยว่า มีชายปริศนาคนหนึ่งลุกขึ้นและเดินตามเธอไป

    ชาวฝรั่งเศสเดินลงมาที่ใต้ท้องเครื่องบิน ท่าทางมีพิรุธเล็กน้อย
    เขากดรหัสอะไรบางอย่างที่กำไลข้อมือซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่เป็นตัวไว้ล่ามโซ่ติดกระเป๋าของเขาไว้ เมื่อใส่รหัสลงไปมันก็ขึ้นหน้าจอภาพโฮโลแกรมสีฟ้าขึ้นมา แล้วขึ้นตัวเลขค่าสภาพอากาศ เวลาปัจจุบัน อุณหภูมิ พิกัดบนแผนที่ ฯลฯ

    "ยืนยันสถานะ ถึงที่หมายแล้ว คาดว่าอีกไม่เกิน 20 นาทีจะลงจอดที่ประเทศเป้าหมาย" เขารายงานลงกำไลข้อมือของเขา

    "ประเทศเป้าหมายอะไรงั้นเหรอ ?" เสียงชายคนหนึ่งดังมาจากข้างหลังทำให้ ชายชาวฝรั่งเศสหันกลับไปอย่างหวาดระแวง
    "ลงมาทำอะไรที่นี่..?"

    "..." ชาวฝรั่งเศสเงียบ และสังเกตดูท่าทางของชายตรงหน้าดีๆ โดยที่พยายามมองหาอาวุธเป็นอันดับแรก แต่เมื่อเขาคนนั้นไม่มีอาวุธ เขาก็ลดการป้องกันลง
    "เปล่าครับ แค่ลงมาสำรวจเครื่องบินนิดหน่อยก็เท่านั้นเอง"

    "ที่นี่เขาไม่ให้ผู้โดยสารเข้ามานะ รีบกลับขึ้นไปเถอะ" เขาชักชวน

    "นั่นสินะครับ" ชายผมบลอนด์ทำท่าทีปกติและเดินไปหาชายตรงหน้า

    "แต่ว่า...ขอเอากลับขึ้นไปแค่กระเป๋าก็พอล่ะมั้ง.." ชายผู้นั้นพูดออกมาอย่างแผ่วเบา และโจมตีใส่เขาทันที
    แต่ทางฝั่งชาวฝรั่งเศสนั้นสามารถกระโดดตีลังกาไหวตัวหลบการโจมตีด้วยหางพิษที่มีลักษณะคล้ายแมงป่องได้อย่างทันท่วงที

    "ลอสท์งั้นรึ ?" ชาวฝรั่งเศสเงยหน้าขึ้นและเห็นหางขอเจ้าปิศาจตรงหน้าพุ่งเข้าโจมตีเขาอีกครั้ง คราวนี้เขาจึงกลิ้งตัวหลบไปด้านข้างและหยิบปืนขนาดเล็กขึ้นมายิงใส่มัน
    ปังๆๆ

    กระสุนทั้งสามนัดเข้าเป้าใส่ร่างของชายผู้นี้ทั้งสามนัด แต่ว่ากระสุนปืนก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายอะไรมากให้กับเขาได้ และยังโจมตีสวนกลับอย่างต่อเนื่องอีก
    ทางฝั่งชาวฝรั่งเศสค่อนข้างเสียเปรียบ เขาจึงเล็งปืนไปที่ท่อที่อยู่ใกล้ๆกับลอสท์ตนนั้น และยิงกระสุนออกไปทำให้ท่อแตกและปล่อยก๊าซสีขาวออกมาปิดบังทัศนวิสัยของมันชั่วคราว

    เมื่อได้โอกาส ชาวฝรั่งเศสจึงรีบวิ่งหนีไปยังท้ายสุดของเครื่องบิน แต่ทางสุดท้ายที่ว่าั้นั้นก็เป็นทางตัน...

    "ไม่มีทางให้หนีอีกแล้ว..!" ลอสท์ตนนั้นเดินตามชาวฝรั่งเศสมาติดๆ เมื่อเขาออกมาจากก๊าซสีขาวนั้น ตอนนี้สภาพร่างกายของเขาได้เปลี่ยนไปจนหมด เขากลายร่างเป็นสัตว์ประหลาดคล้ายๆกับแมงป่อง และจ้องจะทำร้ายชาวฝรั่งเศสด้วยสายตาอำมหิต
    "จะยอมส่งกระเป๋ามาดีๆ หรือจะตายก่อนแล้วให้ฉันเอาไป"

    "งั้นผมขอเลือกทางเลือกที่สามก็แล้วกัน" ชายหนุ่มยื่นมือไปแตะที่ฝาเล็กข้างๆ

    "ทางเลือกที่สามคือหนีงั้นเรอะ...แต่เสียใจด้วยนะที่มันไม่มีทางเป็นไปได้!" ลอสท์แมงป่องใช้หางพิษของมันพุ่งโจมตีใส่เขา แต่ชายชาวฝรั่งเศสสามารถเคลื่อนหลบได้อย่างรวดเร็ว เป็นผลให้การโจมตีพลาดไปโดนฝาเหล็กที่ปิดคันโยกเปิดช่องท้ายสินค้าออกมา

    "ตอนนี่ล่ะ!" ชายชาวฝรั่งเศสรีบวิ่งเข้าไปจับคันโยกที่ว่าทันที
    "นี่แก..คิดจะฆ่าตัวตายรึไง!?" 

    "ก็ยังดีกว่าปล่อยให้พวกนายได้สิ่งนี้ไปก็แล้วกัน" เขาสับคันโยกลงทันที ช่องขนสินค้าจึงเปิดออก และด้วยแรงลมอันมหาศาสจากภายนอกจึงดูดพัดตัวของชายชาวฝรั่งเศสออกไปจากเครื่องพร้อมกับกระเป๋าใบสำคัญในทันที

    "บะ..บ้าที่สุด" ลอสท์ใช้หางของมันโจมตีคันโยกให้สับขึ้นอีกครั้ง ช่องขนถ่ายสินค้าจึงค่อยๆปิดและทุกอย่างก็กลับเป็นปกติ 
    ชายผู้ตามล่ากัดฟันด้วยความโกรธ "เล่นได้แสบมากนักนะ"

    เขาควบคุมความโกรธเอาไว้ก่อนและหันหลังกลับ "แล้วเราจะได้เห็นดีกัน"
    แล้วเขาก็เดินกลับไปยงที่นั่งของเขาอย่างไม่มีพิรุธที่สุด ปล่อยให้โชคชะตาเป็นตัวตัดสินว่า คนที่กระโดลงไปนั้นจะเป็นหรือตาย...

    AREA 1 โรงเรียนสอนพิเศษด้านกลไก เครื่องยนต์ Machina เวลา 15.12 น.

    โรงเรียนสอนพิเศษ Machina เป็นโรงเรียนที่เปิดในช่วงเปิดภาคเรียนปกติ แต่เปิดสอนพิเศษในช่วงปิดเทอมของโรงเรียนทั่วไปอีกด้วย โดยการเปิดในช่วงปิดเทอมจะเปิดให้นักเรียน นักศึกษา จากต่างโรงเรียนสามารถเข้ามาร่วมเรียนได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น (ยกเว้นบางกรณีที่เป็นอุปกรณ์สำคัญก็จำเป็นต้องจ่ายค่าบำรุงต่างหาก) เพราะทางโรงเรียนถือโอกาสเป็นการโปรโมทผลงานเพื่อเชิญชวนนักเรียนที่เพิ่งจบม.ต้นมา มาต่อที่โรงเรียนนี้

    Machina เป็นโรงเรียนด้านเครื่องยนต์ กลไกต่างๆที่คนที่จะทำงานเป็นนักวิศกรรม สถาปานิก หรืองานก่อสร้างต่างๆ ควรที่จะศึกษาต่อที่นี่ เพราะโรงเรียนนี้มีหลักสูตรการสอนให้ทดลองใช้เครื่องมือที่มีความทันสมัยที่สุด และมีหลายสาขากระจายอยู่เกือบทั่วทุกเอเรีย ทำให้สามารถสมัครเรียนได้ค่อนข้างง่าย

    "ชื่อของเจ้าหุ่นตัวนี้คือ Med"
    อาจารย์คุมสอนกำลังอธิบายการใช้งานหุ่นยนต์ที่ใช้ในการทำงานก่อสร้างในส่วนที่มนุษย์ธรรมดาไม่สามารถทำได้เช่นการยกของหนักๆ การบินขึ้นที่สูง ฯลฯ
    "...ด้วยระบบพลังงานที่สะอาดจึงทำให้ไม่สร้างมลภาวะแก่โลก และยังสามารถบังคับได้ง่ายถึงจะเพิ่งหัดขับก็ขับได้ไม่ยากเพราะในเครื่องก็มีตัวช่วยนักบินช่วยด้วยอยู่แล้ว แต่เราก็ควรจะศึกษาวิธีบังคับพื้นฐานไว้ด้วยเช่นกัน"

    "เดี๋ยวสำหรับคนที่จะเข้ามาเรียนในช่วงเปิดภาคเรียนนั้น พวกเราจะให้ทุกคนได้ลองทดสอบขับเจ้าเครื่องนี้กัน เพราะเจ้าหุ่นงานเครื่องนี้ถือเป็นหัวใจหลักสำคัญในการทำงานด้านต่างๆ หากขาดไปล่ะก็เมืองฟูโตะที่เราอยู่ในตอนนี้คงจะไม่สามารถพัฒนาได้ถึงขนาดนี้ได้อย่างแน่นอน"

    "ห้าวว!!" นักเรียนคนหนึ่งในชั้นหาว เพราะเบื่อกับการอธิบายของอาจารย์อ้วนกลมหน้าชั้น
    "ฉันล่ะเบื่อการเรียนภาคทฤษฎีจริงๆ ให้อาจารย์หมูอ้วนคนนี้มาพล่ามอยู่ได้ นึกว่า Machina จะมีอะไรน่าสนุกกว่านี้ซะอีก แบบนี้ไปเรียนต่อโรงเรียนอื่นที่มีผู้หญิงสวยๆเยอะดีกว่าว่ามั้ยอิจิกะ ?"

    "..." เพื่อนที่นั่งอยู่ริมหน้าต่างกลับไม่ได้สนใจที่เขาพูดเลยซักนิด

    "เฮ้ย อิจิกะนี่ฟังฉันอยู่รึเปล่า้นี่ย ?" โกทันดะพยายามเรียกอีกที
    "ฮะ!?" เด็กหนุ่มเพิ่งรู้สึกตัว "มีอะไรรึเปล่าโกทันดะ เมื่อกี้นายพูดว่าอะไรนะ ?"

    "เห้อ ช่างมันเถอะ ฉันพูดซะยาวยืดแต่นายกลับไม่ฟังฉันเลย เอาเป็นว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยสำคัญละกันนะ" โกทันดะบ่ายเบี่ยง

    "งั้นเรอะ" เด็กหนุ่มก็ไม่ใส่ใจเพื่อนเขานักและทั้งสองก็นั่งเรียนอยู่ในห้องเรียนที่มีทั้งนักเรียนที่ตั้งใจเรียนอย่างจริงจัง นักเรียนที่เบื่อกับการอธิบายของอาจารย์และแอบหลับ หรือก็พวกคนที่ไม่ได้สนใจอาจารย์อยู่แล้วเอาแต่คุยกันเรื่องอื่นๆ รวมๆแล้วเป็นห้องเรียนพิเศษที่ไม่มีความเป็นห้องเรียนเลยซักนิด

    ในขณะเดียวกันบนท้องฟ้าสีครามที่ใกล้จะเข้าสู่ท้องฟ้าสีส้มยามเย็น
    ร่างของชายผมบลอนด์ที่กำลังตกลงมาจากฟากฟ้านั้น ไม่ชะลอความเร็วลงเลย ร่างของเธอร่วงลงมาด้วยความเร็วที่สูงมากขึ้นเรื่อยๆ
    "..นะ..นี่เรา ?"

    เขาค่อยๆได้สติขึ้นมา "ตกลงไปด้วยความสูงขนาดนี้คงไม่มีทางรอดแล้วล่ะนะ"
    "แต่กระเป๋าใบนี้คงจะไม่เป็นอะไร เพราะทำมาด้วยวัสดุที่มีแรงทนทานมากนี่นะ" 

    "..ขอแค่ ทำภารกิจให้สำเร็จก็ดีแล้ว" เขาหลับตาปล่อยให้ร่างของตนองร่วงหล่นมาตามสายลม ถึงจิตใต้สำนึกของเขาเองก็อยากที่จะรอดจากสถานการณ์นี้ แต่ว่ามันก็คงเปล่าประโยชน์แล้ว...
    'ช่วยด้วย' นั่นคือคำที่เขาคิดอยู่ในใจ แต่ว่าถึงพูดไปก็ไม่มีใครได้ยิน

    "!!!"
    อิจิกะเหมือนรู้สึกถึงอะไรบางอย่างอยู่ข้างนอกนั้น เหมือนมีใครกำลังต้องการความช่วยเหลือ เขามองออกไปนอกหน้าต่างมองขึ้นไปบนท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ไม่มีที่สิ้นสุด เขาจ้องมองไปบนนั้นซักพักและเขาก็..

    "แย่แล้ว!" อยู่ๆชายหนุ่มชาวญี่ปุ่นก็ลุกพรวดพราดขึ้นมา ทำเอาทั้งห้องตกอยู่ในความงงงวย

    "นี่เธอมีอะไรรึเปล่า อยู่ๆก็พรวดพราดขึ้นมาแบบนั้นน่ะ ?" อาจารย์หน้าชั้นถาม

    "อิจิกะอยู่ๆเป็นอะไรอีกเนี่ย ?" โกทันดะกระซิบถาม

    "ขอโทษนะฉันมีธุระ ขอตัวก่อนล่ะ!" อิจิกะรีบเก็บของของตัวเองและรีบวิ่งออกไปทันที
    "เฮ้ยเดี๋ยวสิ อิจิกะ อิจิกะ!" ถึงโกทันดะจะพยายามเรียกแต่ว่าชายหนุ่มก็วิ่งหายไปเสียแล้ว

    โดยทีปล่อยให้นักเรียนในชั้นและอาจารย์ต่างยืนงง "อะ..อะไรน่ะ ?"

    อิจิกะรีบวิ่งออกมาจากห้องเรียและตรงออกไปข้างนอกอย่างรีบเร่ง
    "ต้องรีบหาทางทำอะไรสักอย่าง!?" เด็กหนุ่มหันซ้ายหันขวามองหาของที่เขาจะสามารถใช้งานได้รอบ และสิ่งที่เขาเห็นพอจะใช้ได้ก็คือ Med ที่จอดอยู่

    เขารีบวิ่งขึ้นไปบนหุ่นงานเครื่องนั้นทันที
    คนงานก่อสร้างบังเอิญเห็นอิจิกะขึ้นไปบนเคร่องจึงหันกลับมาว่า "นี่จะทำอะไรน่ะ หุ่นตัวนี้ไม่อนุญาตให้.."

    "เดี๋ยวผมค่อยมาคืนทีหลังครับ" อิจิกะไม่ฟังคำทัดทานของคนงานก่อสร้างและปิดฝาครอบเครื่องลงทันที จากนั้นก็เดินเครื่องขับบินออกไ
    "เฮ้ย หยุดนะ!" คนงานก่อสร้างตะโกนบอก แต่ Med ก็ถูกขับออกไปแล้ว

    คนงานคนอื่นรีบวิ่งเขามาดู "เครื่องนั้นยังไม่ได้ชาร์จพลังงานเลยนี่ ใครขับออกไปน่ะ ?"
    "รู้สึกจะเป็นนักเรียนที่มาเรียนพิเศษที่โรงเรียน อยู่ๆก็เข้ามาขโมย Med ไปเฉยๆ" คนงานผู้พบเห็นเหตุการณ์ตรงๆบอก

    ทางด้านอิจิกะก็ขับ Med ออกไปอย่างทุลักทุเล "ทำไมมันคุมยากกว่าที่คิดไว้ล่ะเนี่ย!?"
    ถึงจะพูดแบบนั้นแต่เด็กหนุ่มก็สามารถคุมให้หุ่นก่อสร้างตัวนี้ได้เป็นรูปเป็นร่างได้ในเวลาไม่นาน และบินขึ้นไปยังท้องฟ้าตามเสียงเรียกที่เขารู้สึกถึง

    "อยู่ที่ไหน!?" เด็กหนุ่มตามหาเจ้าของเสียงเรียกบนท้งฟ้า และไม่นานนักเขาก็สามารถจับภาพของเขาไว้ได้ "เจอแล้ว...แต่ว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปต้อง.."
    เขารีบสับคันโยกพุ่ง Med เข้าหาคนที่กำลังร่วงลงมาจากท้องฟ้าในทันที

    "นี่เรา..." ระหว่างที่ชาวฝรั่งเศสกำลังคิดอยู่นั้น เมื่อเขาได้เสียงเครื่องจักรที่กำลังพุ่งเข้ามาทางเขา ทำให้เขาหันหน้ากลับไปทางต้นเสียง และเขาก็พบกับหุ่นยนต์ Med ที่กำลังบินเข้ามา 
    ค็อกพิทของ Med เปิดออก ชายหนุ่มชาวญี่ปุ่นภายในหุ่นก็ยื่นมือมาหาเขาในทันที

    "ส่งมือมา..เร็วเข้า!" อิจิกะตะโกนบอก

    เขาไ่ม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยื่นมือไปหาผู้ชายที่ไม่รู้จักที่กำลังจะช่วยเขาอยู่ในตอนนี้
    ทั้งสองพยายามจับมือกันแต่พวกเขาก็พลาด แต่ฝั่งเด็กหนุ่มก็ไม่ยอมแพ้พยายามยื่นมือไปให้เต็มที่มากกว่านี้จนในที่สุดเขาก็สามารถจับมือของชายผมบลอนด์ได้สำเร็จ พร้อมกับดึงเข้ามาในค็อกพิท

    แต่ว่าปัญหาก็ยังไม่หมด เพราะตอนนี้อิจิกะต้องควบคุม Med ลงสู่พื้นอย่างปลอดภัยด้วย
    แต่เนื่องด้วยตอนที่เขาเอาหุ่นตัวนี้ออกมา มันเหลือพลังเพียงน้อยนิดและยังชาร์จพลังงานไม่เสร็จ จึงทำให้ตอนนี้พลังของมันใกล้จะหมดอยู่แล้ว
    "ต้องรีบหาทางลงจอดให้เร็วที่สุด"

    อิจิกะพยายามคุม Med ลงมาที่สะพานทางน้ำ และพวกเขาก็ลอดผ่านช่องระหว่างเสาใต้สะพานออกมา และกระแทกกับพื้นดินอย่างรุนแรง
    "จับไว้ให้แน่นๆล่ะ!" เด็กหนุ่มบอกกับคนที่อยู่ข้างๆเขา

    และไม่นาน Med ก็กระแทกเขากับผนังหินใต้สะพาน
    ถุงลมกันกระแทกในตัวเครื่องก็ทำงานทันที ลดแรงกระแทกของคนที่อยู่ในเครื่อง และสามารถลงจอดได้ในที่สุด...

    .
    .
    .
    .

    AREA 1 แถบชานเมืองเขตตะวันตก เวลา 15.36 น.

    Med ที่ตกลงมาตามทางน้ำ ด้วยผลจากความแรงและความเร็วของเครื่องจึงสร้างรอยผุพังแก่พื้นที่โดยรอบไม่น้อย เช่นริมผนังถูกไหม้เป็นสีดำจากการเสียดสีของหุ่น หรือจะรอยไถลจากที่หุ่นกระแทกกับพื้นและไถลไปชนกำแพง ส่วนคนข้างในทั้งสองคนก็ไม่เป็นอันตรายอะไรถึงชีวิต แค่สลบไปเท่านั้น

    "...คึ" อิจิกะค่อยลืมตาตื่นขึ้นอย่างช้าๆ และเขาก็พบว่าตัวเองสามารถลงมาได้อย่างปลอดภัย ถึงแม้จะลงไม่นิ่มหรือราบรื่นสักเท่าไหร่นัก
    พอได้สติขึ้นมาเด็กหนุ่มจึงหันไปมองคนที่อยู่ข้างๆที่เขาเพิ่งช่วยเอาไว้เมื่อกี้นี้จากบนท้องฟ้า เขาเองก็สลบและยังไม่ได้สติเช่นกัน

    "พลังงานของหุ่นล่ะ ?" เด็กหนุ่มชาวญี่ปุ่นรีบหันไปดูที่หลอดพลังหุ่นซึ่งมันขึ้นคำว่า EMPTY
    "ช่วยไม่ได้ล่ะนะ" เมื่อไม่สามารถขยับหุ่นได้อีกแล้ว เขาจึงเปิดค็อกพิทของหุ่นออกเพื่อที่จะออกไปจากยาน แต่พอเขาแค่ก้าวเท้าไปเหยียบที่ริมค็อกพิท ก็...

    ชายผมสีบลอนด์ที่เพิ่งได้สติรีบจับขาของเด็กหนุ่มที่เพิ่งช่วยเขาไว้ ทำให้เขาคนนั้นล้มลง
    "อะ..อ้า" อิจิกะกระแทกลงกับพื้น และชายผมบลอนด์ก็เข้ามาล็อคแขนของเขาเอาไว้ "เจ็บๆๆ เดี๋ยวสิคิดจะทำอะไรน่ะ ?"

    "Who are you ?" ชายผมบลอนด์ถาม

    "ฉันก็คนที่ช่วยนายไว้เมื่อกี้นี้ไง" อิจิกะตอบ "แล้วนี่นาย..ชาวต่างชาติเรอะ ?"

    "ชาวญี่ปุ่น พลเรือนเรอะ" ฝ่ายชาวฝรั่งเศสยอมปล่อยเด็กหนุ่ม เมื่อทราบสถานะของเขา
    ชายผมบลอนด์กดเช็คระบบที่กำไลข้อมือแต่กำไลข้อมือเสียหายทำให้ไม่สามารถใช้งานได้แล้ว จึงทำให้ไม่สามารถเช็คสถานะปัจจุบัน หรือสถานที่ที่ตนอยู่ในตอนนี้ได
    "นี่ นายรู้รึเปล่าว่าที่นี่ที่ไหน ?" 

    "ที่นี่น่ะเหรอ.." อิจิกะมองไปรอบๆเพื่อดูว่าที่นี่คุ้นกับตัวเองมั้ย
    "ถ้าจำไม่ผิดที่นี่คงเป็นแถบตะวันตกของเอเรีย 1 ล่ะมั้ง

    "แล้วรู้รึเปล่าว่าบริษัท 765 โปรดักชั่นอยู่ที่ไหน ?" เขาถาม

    "765 โปรดักชั่นเหรอ...ที่เป็นบริษัทที่เกี่ยวกับไอดอลสินะ" อิจิกะทำความเข้าใจ "ก็รู้อยู่ว่าอยู่ที่ไหนล่ะนะ แต่ว่ามีธุระอะไรกับบริษัทนั้นงั้นเหรอ คนที่ตกลงมาจากฟ้าคงไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะไปสมัครเป็นไอดอลที่นั่นแน่ๆ"

    "เอาเป็นว่าทางผมเองก็มีธุระสำคัญที่ต้องไปทำอยู่เหมือนกัน แค่นี้ได้ไหมล่ะครับ ?" เด็กหนุ่มผมสีบลอนด์ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง ทั้งสองสบตากันอยู่ครู่หนึ่งเมื่อเด็กหนุ่มชาวญี่ปุ่นมองดวงตาคู่นั้นแล้วทำให้เขาตัดสินใจได้

    อิจิกะแอบยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย "ก็ได้ จะพาไปก็ได้"

    "ขอบคุณนะ น.."
    "อิจิกะ ฉันชื่อโอริมูระ อิจิกะ แล้วนายล่ะ ?" เด็กหนุ่มแนะนำตัวและถามชาวต่างชาติกลับ

    "ผมชื่อ..." เขาทำท่าคิดอยู่ครู่หนึ่ง "ชาร์ล...ชาร์ล ดูนัวร์"

    "ชาร์ลยังงั้นเรอะ งั้นจากนี้ไปก็ฝากตัวด้วยล่ะ"
    พูดกันอยู่สักพักหนึ่งอิจิกะก็จำได้ว่าเขาขับ Med ตกลงมาจนเหลือในสภาพเช่นนี้ ไม่นานจะต้องมีคนมาเห็นแน่ๆ เขาจึงรีบจับมือของชาร์ลและวิ่งไปในทันที "ตอนนี้ยังไงก็รีบออกไปจากที่นี้กันก่อนเถอะ"

    "อะ..อืม" ชาร์ลที่ถูกอิจิกะก็เกิดอาการเขินแบบแปลกๆ
    และทั้งสองก็รีบออกจากพื้นที่เกิดเหตุในทันที โดยมีจุดมุ่งหมายไปยัง 765 โปรดักชั่นที่อยู่จากที่นี่ไม่มากนัก แค่ต้องใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงในการเดินทางไปที่นั่น

    AREA 1 ร้าน FJ Coffee shop เวลา 15.53 น.

    อิจิกะและชาร์ลเลือกที่จะมาที่ร้านกาแฟที่อยู่ใกล้ๆก่อน เพื่อรอให้เรื่อง Med สงบลงซักหน่อย
    พวกเขาจะได้สามารถเดินทางได้สะดวก

    "จะรับอะไรดีคะ ?" บริกรหญิงยิ้มต้อนรับทั้งสองที่เดินเข้ามาสั่งกาแฟที่เคาน์เตอร

    "ผมขอรับ เอสเพรสโซ 1 ทีละกันครับ" เด็กหนุ่มสั่งออเดอร์ แล้วหันไปหาเพื่อนผมบลอนด์ของเขา "ชาร์ล แล้วนายล่ะจะสั่งอะไรมั้ย ?"
    "เอ๊ะ แต่ว่าผม..ไม่มีเงินนะครับ" เด็กผู้ชายชาวต่างชาติทำหน้าสลด

    เด็กหนุ่มชาวญี่ปุ่นตบบ่าของเขาสองที "ไม่เป็นไรๆ ให้ฉันเลี้ยงเอง ถือซะว่าเป็นการต้อนรับจากเจ้าบ้านก็ได้"

    "แต่แบบนั้นมันจะดีเหรอครับ ?" ชาร์ลยังคงู้สึกเกรงใจ

    "ดีสิ ก็ดีกว่าให้นายดูฉันดื่มกาแฟคนเดียวโดยที่นายไม่ได้ทำอะไรเลยล่ะนะ สั่งเลยสิถ้าไม่แพงมากฉันก็จ่ายไหวอยู่" ด้วยมนุษสัมพันธ์ที่ดีของอิจิกะ จึงทำให้ชาร์ลยอมตกลง
    "งั้นผมขอสั่งลาเต้ 1 ที่ ก็ได้ครับ" ชาร์ลสั่งออเดอร์

    "ค่ะ ได้ค่ะ โปรดรอสักครู่นะคะ" บริกรสาวเริ่มทำกาแฟที่สั่งนั้น
    "จะไปหาที่นั่งรอก่อนก็ได้นะคะ ยังมีที่ว่างอยู่อีกหลายที"

    "ครับ ขอบคุณครับ" อิจิกะและชาร์ลเดินไปนั่งที่โต๊ะที่ว่าง
    เด็กหนุ่มชาวฝรั่งเศสนั้นกำลังหลงไหลในสไตล์การตกแต่งร้านกาแฟนี้ บรรยากาศรอบข้างดูสบายๆ สามารถไว้เป็นที่ผ่อนคลายได้ มีหนังสือให้อ่านฆ่าเวลาต่างๆมากมายเรียงอยู่บนชั้นหนังสือ ผนังห้องและเพดานห้องจัดตกแต่งด้วยดวงดาวระยิบระยับ ตอนกลางคืนคงดูสวยน่าดู

    "เจ้าของที่นี่เขาชอบเรื่องดวงดาวอย่างงั้นเหรอครับ แต่ละอย่างนี้ส่วนมากเป็นเกี่ยวกับเรื่องของดาราศาสตร์ทั้งนั้นเลย" ชาร์ลพูด พร้อมกับหันไปมองกล้องมองดูดาวขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในตู้กระจกด้วยความสงสัย

    "เรื่องนี้ฉันเองก็ไม่รู้เหมือน ฉันก็เพิ่งเคยที่ร้านนี้ครั้งแรกนี่ล่ะ" อิจิกะตอบ
    "แต่ก็เคยได้ยินว่ากาแฟที่นี่อร่อยมากเป็นพิเศษ จึงมีลูกค้าหลายคนมานั่งดื่มที่นี่บ่อยๆ" เด็กหนุ่มก็คิดว่าเรื่องข่าวลือนั้นเป็นจริง เพราะตอนนี้ร้านกาแฟก็มีลูกค้าเยอะอยู่ซักประมาณ 10 กว่าคนได้และส่วนมากเป็นผู้ชาย

    "แล้วทำไมต้องเป็นดวงดาวด้วย ?" ชาร์ลสงสัย

    "เพราะแสงแห่งดวงดาวคือแสงของสายสัมพันธ์ไงล่ะจ๊ะ" บริกรหญิงสาวคนเมื่อกี้เดินมาวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะของทั้งสอง พร้อมทั้งอธิบายถึงจุดประสงค์ที่เธอตกแต่งร้านเป็นเช่นนี้
    "แสงแห่งสายสัมพันธ์ ?" ชายทั้งสองทำหน้าสงสัย

    "หมู่ดาวน่ะนะ จะก่อเป็นรูปเป็นร่างอย่างที่พวกเรารู้จักกันอย่างในปัจจุบันไม่ได้หรอกนะหากมีเพียงดวงเดียวน่ะ" บริกรสาวหันขึ้นไปมองหมู่ดาราที่เธอติดไว้บนเพดานห้อง เสมือนดวงดาวบนท้องฟ้ายามค่ำคืนกำลังส่องแสงอย่างอ่อนโยน "แต่ว่าเมื่อเหล่าดวงดาวนั้นมารวมตัวกันก็จะเกิดรูปร่างขึ้น อย่างหมู่ดาวแคสสิโอเปียนั่น เมื่อนำดวงแสงเล็กที่อยู่บนท้องฟ้ามาขีดเชื่อมโยงกันก็จะเกิดเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา หรือก็เหมือนกับความสัมพันธ์ระหว่างมิตรภาพของเหล่าเพื่อนพ้อง หรือการเชื่อใจซึ่งกันและกันไงล่ะจ๊ะ"

    "คุณดูท่าทางจะชอบมากเลยสินะครับ" ชาร์ลบอก

    "อืม" บริกรสาวหันมายิ้มอย่างบริสุทธิ์ใจ

    "คุณไอริ ขอสั่งกาแฟหน่อยคร้าบบ!!" ลูกค้าผู้ชายที่ใส่เสื้อเหมือนพวกนักธุรกิจหน่อยตะโกนเรียกร้องบริกรสาว ทำให้เธอต้องกลับไปทำงานของเธอแล้ว
    "ค่ะ รอสักครู่นะคะ" ไอริบอกกลับไป "งั้นขอตัวก่อนนะ"

    "ครับ แค่นี้พวกผมก็รบกวนคุณมากแล้วเหมือนกัน" อิจิกะพูด ส่วนบริกรหญิงสาวคนนั้นก็กลับไปทำงานของเธอ

    "เป็นคนที่ใจดีมากๆเลยนะครับ เธอคนนั้น" ชาร์ลชม
    "นั่นสินะ"

    "...ต่อไปเป็นข่าวด่วนค่ะ" เสียงของโทรทัศน์ได้เปลี่ยนจุดสนใจของทั้งสองไปสนใจสิ่งนั้น "ที่พิพิธภัณฑ์ L.A.Museum เกิดคดีฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยมโดยฝีมือของฆาตกรผู้ไร้นาม ฆาตกรผู้นี้สภาพเหมือถูกแรงระเบิดที่รุนแรงใส่ในระยะประชิดทำให้ผิวหนังถูกไหม้เกรียม ร่างกายท่อนล่างกับท่องบนได้ถูกตัดขาดออกจากกันโดยสิ้นเชิง ซึ่งขณะนี้ทีมแพทย์ก็ยังไม่รู้ถึงสาเหตุที่ว่าทำไมเขาถึงกลายมาเป็นสภาพเช่นนี้ได้ ส่วนเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายอีกหลายท่านก็เสียชีวิตจากการถูกของมีคมแทง หรือตัดอวัยวะร่างกายออกไป โดยที่ทีมแพทย์และหน่วยงาน Anti - Skill เองก็ยังไม่สามารถบอกได้ว่าอาวุธที่คนร้ายในสภาพไหม้เกรียมนี้คืออะไรกันแน่"

    "เฮ้อ" อิจิกะถอนหายใจอย่างโล่งอก "ตอนแรกนึกว่าเป็นเรื่องที่เราขับ Med ตกลงมาซะอีกนะ เนอะชาร์ล ?"

    ทางฝั่งของชายชาวฝรั่งเศสกลับดูเหมือนจะให้ความสนใจกับข่าวคดีฆาตกรรมอย่างมาก สีหน้าของเขาดูเคร่งเครียดและจริงจังกับเรื่องนี้อย่างผิดปกติ
    "ชาร์ล...เป็นอะไรรึเปล่า ?"

    "..." เขายังไม่รู้สึกตัว

    "ชาร์ล!" เด็กหนุ่มเรียกอีกที

    "ครับ" ชาร์ลสะดุ้ง "มะ..มีอะไรเหรออิจิกะ ?"

    "ก็นายเหมือนจะสนใจข่าวในโทรทัศน์มากเลยนี่น่า ฉันเรียกเท่าไหร่ก็ไม่หันเลย เป็นอะไรรึเปล่า หรือข่าวเมื่อกี้เธอรู้อะไร ?" เด็กหนุ่มชาวญี่ปุ่นถาม

    "เปล่า ไม่มีอะไรหรอก แค่นิดหนอยน่ะ" ชาร์ลบ่ายเบี่ยงที่จะตอบคำตอบแก่อิจิกะ
    "เหรอ งั้นก็ไม่เป็นไร" ทางฝั่งอิจิกะเองก็ไม่ได้คิดอะไร ถึงแม้ว่าเขาจะรู้สึกว่าเพื่อนชาวต่างชาติของเขาจะปิดบังเรื่องบางอย่างไว้

    ทั้งสองคนพักกันจนเกินพอแล้ว จึงคิดว่าได้เวลาเดินทางต่อซะที
    พวกเขาจึงเดินไปจายเงินที่เคาน์เตอร์

    "งั้นผมไปก่อนนะครับ" ตอนนั้นเองก็มีเด็กผู้ชายคนหนึ่ง ที่เพิ่งคุยกับไอริ เจ้าของร้านกาแฟแห่งนีเสร็จ แล้วเขาก็วิ่งผ่านพวกอิจิกะไป

    อิจิกะหยิบกระเป๋าออกมาเพื่อที่จะจ่ายค่ากาแฟ
    "เมื่อกี้นี้ใครเหรอครับ ?" ชาร์ลถาม ในขณะที่อิจิกะจ่ายค่ากาแฟกับไอริ

    "อ้อ นั่นลูกของคนที่รู้จักน่ะ เขามักจะมาช่วยงานที่นี่บ่อยๆ เขากำลังเอาของที่เก็บได้ไปให้สถานีตำรวจน่ะ" ไอริบอก

    "อย่างงั้นเหรอครับ"
    "ถ้าอย่างนั้นพวกผมขอตัวก่อนะครับ" อิจิกะและชาร์ลอ่ำลาไอริและเดินออกจากร้านไป

    "แล้วกลับมาอุดหนุนอีกนะ" ไอริโบกมือและยิ้มส่งท้าย

    AREA 1 ตะวันตกของเมือง เวลา 16.12 น.

    ทั้งสองคนหลังจากออกมาจากร้าน FJ Coffe Shop ได้ซักพัก พวกเขาก็เดินทางมาถึงตัวเมืองฝั่งตะวันตก แต่จุดหมายทีพวกเขาจะต้องไปถึงนั้นยังอยู่ห่างไกลอีกมาก พวกเขาจึงต้องไปสถานีรถไฟใต้ดินเพื่อจะได้เดินทางไปถึงที่หมายโดยเร็ว และในระหว่างทางนั้น ชาร์ลได้สังเกตเห็นบางอย่างที่ตั้งอยุ่มากมายรอบเมืองฟูโตะ 

    "อิจิกะ ทำไมที่เมืองแห่งนี้ถึงมีกังหันลมตั้งอยู่หลายที่เลยล่ะ หรือว่าเป็นตัวผลิตกระแสไฟฟ้าของเมืองเหรอ ?" ชาร์ลถาม เพราะว่าไม่ว่าที่ไหนที่เขาเดินผ่านมาล้วนก็แต่มีกังหันลมตั้งอยู่ทั้งนั้น

    "ใช่ กังหันลมพวกนี้เป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้เลยก็ได้นะ" อิจิกะตอบ
    "เมืองนี้นั้นถือใช้พลังงานสะอาดมาเป็นตัวผลิตพลังงานไฟฟ้าน่ะ ไม่วาจะเป็นพลังงานลม พลังงานคลื่น พลังงานน้ำ และอื่นๆอีกมาก แต่โดยหลักแล้วจะใช้พลังงานจากลม ซึ่งก็ตามฉายาว่าเป็นเมืองแห่งสายลมล่ะนะ"

    "แล้วกังหันลมนี่มีทุกเอเรียเลยรึเปล่า จำได้ว่าที่เมืองแห่งนี้มีพื้นที่เขตอื่นอีกนี้ และแต่ละเอเรียก็จะมีจุดเด่นที่ต่างกันด้วย" 

    "แต่ละเอเรียก็จะมีจุดหลักการผลิตพลังงานที่ต่างกัน แต่ทุกเอเรียก็มีกังหันลมหมดนั่นล่ะ"
    เด็กหนุ่มยกนิ้วชี้ขึ้น "และก็สาเหตุที่เมืองนี้ได้รับฉายาว่าเมืองแห่งสายลมก็เป็นเพราะว่า เมืองนี้เป็นเมืองที่มีลมพัดเขาทุกเวลาไงล่ะ จึงเป็นเหตุที่ไม่ขาดแคลนพลังงานลมด้วย"

    "อิจิกะนี่มีความรู้เรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เมืองเยอะเหมือนกันนะ ผิดคาดเลย" ชาร์ลชมในแง่แบบแอบหลอกด่านิดๆ
    "ตามปกติเรื่องนี้มีให้เรียนในคาบวิชาประวัติศาสตร์ตอน ม.ต้น น่ะ"

    "นั่นมัน..!" อยู่เด็กหนุ่มผมสีบลอนด์ก็รีบวิ่งไปอย่างตื่นเต้น อย่างกับเด็กอนุบาลหรือเด็กประถมมาทัศนศึกษา เมื่อเขามาพบกับ 1 ใน 8 สิ่งมหัศจรรย์ของเมือง
    "ลิฟท์วงโคจรเพียงแห่งเดียวของโลก.."

    "ทำตื่นเต้นมากเกินไปรึเปล่า คนอื่นยังไม่ขนาดนี้เลยนะ" ทั้งสองคนมองไปรอบๆก็พบเห็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากมายกำลังยืนถ่ายภาพโดยมีลิฟท์วงโคจรแห่งนั้นเป็นฉากหลัง ซึ่งจากตรงนี้ห่างจากลิฟท์วงโคจรอยู่มากเหมือนกัน แต่จากตรงนี้ก็สามารถมองเห็นหอสูงตะหง่านที่สูงไปจนถึงอวกาศที่ตั้งอยู่ได้ (แต่มองไม่เห็นยอดหรือส่วนที่เลยท้องฟ้าไปแล้วนะ)

    "ถึงมันจะเป็นสถานที่สำคัญก็เถอะ แต่ฉันก็ไม่ค่อยเห็นว่ามันจะมีหน้าที่ไว้ทำอะไรเลย บางทีก็เห็นมีคนจัดงานแสดงบนนั้นแล้วก็เลยมีคนซื้อตั๋วเพื่อขึ้นไปดูโชว์นั้น แต่นอกจากนั้นแล้วก็ไม่เห็นจะมีอะไรแล้ว" อิจิกะกล่าววิจารณ์ถึงลิฟท์วงโคจร

    "ไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับ" ชาร์ลค้าน
    "ลิฟท์วงโคจรน่ะ นอกจากจะเป็นสถานที่ที่ไว้สำหรับด้านการบันเทิงแล้ว ก็ยังเป็นเสมือนดาวเทียมประจำของเมืองฟูโตะ และด้านบนสุดของหอคอยนั้นก็ยังมีแผงรับพลังงานแสงอาทิตย์ทำให้ถือว่าเป็นตัวผลิตพลังงานแสงอาทิตย์หลักของเมืองก็ได้นะครับ และยังเป็นศูนย์วิจัยพลังงานอวกาศอีกด้วย"

    "โห นายเองก็รู้เรื่องพวกนี้ดีเหมือนกันนี่" อิจิกะชม

    "ผมต้องเก็บข้อมูลก่อนมาทำ.." พูดถึงตรงนี้ชาร์ลก็รีบหยุด 
    "เก็บข้อมูลก่อนมาทำอะไรเรอะ ?" อิจิกะถาม

    "เปล่าๆ ไม่มีอะไร เก็บข้อมูลก่อนมาที่นี่น่ะ" ชาร์ลส่ายมือไปมาพยายามปัดเบี่ยงคำถามของเด็กหนุ่มชาวญี่ปุ่น

    ซึ่งนั่นทำให้อิจิกะสังเกตเห็นกระเป๋าที่ล็อคไว้กับข้อมือของเข
    "จะว่าไปฉันก็เห็นมานานแล้วล่ะนะ แต่ขอถามหน่อยว่า กระเป๋าใบนั้นมีไว้ทำอะไรอย่างงั้นเรอะ ทำไมต้องล็อคไว้กับมือด้วยล่ะ" ?"

    "อะ คือแบบมัน.." ชาร์ลลดมือลงและกอดกระเป๋าไว้ และดูท่าทางไม่กล้าจะบอกเท่าไหร
    "แบบว่าคือมัน.."เขาดูกดดันจากคำถามนี้เป็นอย่างมาก ถึงมันจะเป็นคำถามง่ายๆที่ไม่น่าจะตอบยากเลย

    อิจิกะวางมือบนไหล่ของเพื่อนของเขา "ไม่เป็นไร ถ้ามันเป็นเรื่องที่บอกไม่ได้ ก็ไม่ต้องบอกก็ได้"

    "อะ...อิจิกะ ขะ..ขอบคุณนะ" ชาร์ลทำท่าทางเขินอาย และรู้สึกขอบคุณอิจิกะในเวลาเดียวกัน "คือว่าจริงๆแล้วมันเป็นคำสั่งของทางบริษัทดูนัวร์น่ะ ให้มาส่งของนี้ที่ 765 โปรดักชั่น"

    "ดูนัวร์นี่ก็เป็นนามสกุลของนายนี่ ?" อิจิกะสังเกต
    "เป็นญาติกับทางบริษัทงั้นเรอะ ?"

    "เป็นลูกชายของประธานบริษัทน่ะ แต่เพราะของในนี้เป็นของที่สำคัญมากจึงต้องทำหน้าที่มาส่งเองน่ะ" ชาร์ลบอก

    "อย่างงี้นี้เอง เข้าใจละ" อิจิกะทำความเข้าใจ
    "เข้าใจอะไรงั้นเหรอ ?" ชาร์ลสงสัย

    "เพราะบรรยากาศรอบตัวนายมันูเหมือนลูกคุณหนูที่ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดียังไงอย่างงั้นเลยน่ะ ที่แท้ก็เป็นลูกของประธานบริษัทใหญ่นี่เอง เท่านี้ก็หมดข้อสงสัยแล้วล่ะ" อิจิกะพูด

    "..ลูกคุณหนูที่ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีเรอะ.." ชาร์ลกลับมีท่าทางสลดกับคำพูดเมื่อกี้ของอิจิกะ

    ตอนนั้นเองที่หน้าจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่ที่ติดอยู่บนห้างสรรพสินค้าได้ฉายภาพข่าวที่พวกเขารู้เป็นอย่างดีขึ้นมา "ข่าวด่วนค่ะ แถบชานเมืองของเมืองฟูโตะในช่วงบ่ายของวันนี้ พบซากที่เสียหายของหุ่นยนต์ก่อสร้าง Med คาดว่าเกิดจากแรงกระแทจากที่สูงลงมาที่พื้นอย่างรุนแรงทำให้ตัวหุ่นได้รับความเสียหาย รวมทั้งพื้นที่โดยรอบก็ได้รับความเสียหายเล็กน้อย ส่วนในตอนนี้ยังหาผู้ขับขี่หุ่นตัวนี้ไม่พบ คาดว่าคงจะออกไปจากเครื่องได้เกือบชั่วโมงแล้ว ทางหน่วยงานก่อสร้างได้ให้การณ์ว่าพบเด็กผู้ชายคนนึงขโมยหุ่นตัวนี้ในตอนที่ยังชาร์จพลังงานอยู่ ทำให้พลังงานไม่เพียงพอและตกลงมา ผู้เห็นเหตุการณ์ได้ให้การณ์ว่าพบเห็นหุ่นตัวนี้ตกลงมาแต่ไม่เห็นคนขับ..."

    "ในที่สุดก็มีข่าวแล้วอย่างงั้นเรอะ ถ้าเป็นแบบนี้คงต้องรีบกันหน่อยแล้วล่ะ" อิจิกะออกความเห็น

    "อืม เข้าใจแล้ว" ชาร์ลรีบวิ่งตามอิจิกะไป
    ตอนนั้นเองสิ่งที่ชาร์ลเพิ่งนึกขึ้นมาได้นั้นจริงๆน่าจะเป็นคำถามแรกเลยตั้งแต่ที่พบกันแบบนั้นว่า 'ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงขับหุ่นออกไปช่วย และเขารู้ได้ยังไง ?'

    AREA 1 แถบชานเมืองเมืองฟูโตะจุดที่ Med ตก เวลา 16.34 น.

    ณ จุดที่ Med หุ่นยนต์ก่อสร้างที่อิจิกะขับไปช่วยชาร์ลและทำให้ตกลงมาเสียหาย
    ในตอนนี้ผู้คนระแวกนั้นต่างเข้ามามุงดูการเก็บกู้สร้างของหุ่นตัวนั้นของทางหน่วยงานของรัฐ ผู้คนต่างหยิบโทรศัพท์ของพวกเขาออกมาถ่ายรูปกันอย่างไม่หยุดหย่อน มีบางคนอยากจะลงเข้าไปดูใกล้ๆแต่ดีที่ทางเจ้าหน้าที่กำลังกั้นเขตไม่ให้เข้าไปในพื้นที่ เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย

    และหนึ่งในผู้คนเหล่านั้นก็มีชายคนหนึ่งที่ทำท่าทีแปลกไปจากคนละแวกนั้น...

    "..ดูเหมือนว่าเป้าหมายจะหนีรอดไปได้นะ" เขาพูดกับใครบางคนผ่านหูฟังของเขา "..ตอนนี้ไม่รู้ว่าสถานภาพของฝั่งนั้นเป็นยังไงบ้าง"
    "ถ้าอย่างขอฝากให้นายช่วยทำหน้าที่ตามล่า และนำ ของ สิ่งนั้นกลับมาด้วยทีล่ะ" 

    "ได้สิ เพราะยังไงนี่ก็เป็นภารกิจของฉันตั้งแต่แรกอยู่แล้วล่ะนะ" ชายสูทสีดำบอก
    "งั้นก็ฝากด้วยล่ะ สกอร์เปี้ยน.."

    แล้วสายก็ตัดไป...

    "เอาล่ะ...ตอนนี้ไปอยู่ที่ไหนกันนะ คุณหนูคนนั้น.." สกอร์เปี้ยนเดินออกไปจากฝูงชนอย่างเงียบๆ โดยที่ไม่มีใครสังเกต...

    AREA 1 รถไฟใต้ดิน เวลา 17.02 น.

    เนื่องจากข่าวที่เพิ่งออกทางทีวีไำปไม่นานนี้จึงทำให้อิจิกะและชาร์ล ต้องรีบออกเดินทางไป 765 โปรดักชั่นโดยเร็วที่สุดก่อนที่จะมีใครรู้ว่าทั้งสองเป็นคนทำให้เกิดเหตุนั้นขึ้น ทั้งสองจึงต้องใช้วิธีเดินทางที่จะทำให้ถึงที่หมายโดยเร็วที่สุดในตอนนี้

    "อิจิกะ ขอโทษด้วยนะครับที่ให้จ่ายค่ารถแทนผมน่ะ" ชาร์ลรู้สึกเกรงใจ

    "เรื่องแค่นี้เองไม่เป็นไรหรอก นายเองก็ไม่มีเงินติดตัวเลยด้วยนี่" เด็กหนุ่มชาวญี่ปุ่นตอบไปอย่างไม่มีปัญหาใดๆ
    "แต่ถึงอย่างงั้น ผมเองก็ให้อิจิกะช่วยออกค่าใช้จ่ายทุกอย่างแทนผมจนหมด แบบนี้ผมก็ไม่รู้ว่าจะตอบแทนยังไงดี"

    "เรื่องตอบแทนอะไรนั่นน่ะไม่ต้องก็ได้" อิจิกะบอก "ถ้าทำเรื่องแค่นี้แล้วต้องการของตอบแทนมันฟังดูไม่เหมือนลูกผู้ชายเลยล่ะนะ"
    "..." ชาร์ลได้ยินแบบนี้ก็ไม่รู้จะตอบกลับไปยังไง

    เมื่อไม่มีใครพูดอะไร อิจิกะจึงถาม
    "แล้วพอนายไปถึงที่นั่นแล้วคิดจะทำอะไรต่อล่ะ ?"

    "เอ๋ ?"

    "ก็แบบว่า ถ้าชาร์ลไปทำธุระที่ 765 โปรดักชั่นเสร็จแล้ว แล้วต่อไปจะทำยังไงล่ะ ?" อิจิกะถามซ้ำ "ในเมื่อทำภารกิจเรียบร้อยก็จะกลับประเทศงั้นเรอะ ?"

    "ก็อาจจะเป็นแบบนั้นน่ะครับ..." เด็กหนุ่มชาวฝรั่งเศสกลับมาทำหน้าอมทุกข์อีกครั้ง

    "เอาน่า อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ" อิจิกะให้กำลังใจชาร์ล
    "ไม่ว่าจะมีอะไรรออยุ่ข้างหน้า หากยังไม่ลองทำดูก่อนเราก็ไม่มีทางรู้ได้หรอกว่าผลจะออกมาเป้นยังไง ใช่มั้ยล่ะ ?"

    "..อิจิกะ.." ชาร์ลยิ้มบางๆกับคำพูดของเขา "นั่นสินะครับ"

    ทันใดนั้นเองรถไฟขบวนนี้ก็หยุดจอกเพราะมาถึงสถานีอื่นแล้ว แต่ด้วยการหยุดอย่างกระทันหันอย่างไม่ทันตั้งตัวเป็นผลให้ชาร์ลล้มใส่อิจิกะแต่ดีที่ฝั่งเด็กหนุ่มสามารถจับเธอไว้ได้
    "อ้า!"

    "..เป็นอะไรรึเปล่า ?" อิจิกะถาม

    "เปล่า ไม่เป็นไร" ชาร์ลเงยหน้าขึ้น ทั้งสองคนต่างอยู่ใกล้ชิดกันระดับที่ริมฝีปากของทั้งคู่ใกล้จะสัมผัสกันอยู่แล้ว

    ทั้งสองคนหน้าแดงและรีบผละออกจากกันโดยทันที
    "ขอโทษ/ขอโทษครับ!"

    พวกเขาใช้เวลาตั้งสติอยู่ครู่หนึ่งแล้วค่อยกลับมามองหน้ากัน
    "อีกไม่นานก็จะถึงสถานนีที่ต้องลงแล้ว เตรียมตัวกันเถอะ" อิจิกะออกความเห็น
    "คะ..ครับ"

    และไม่นานนัก ทั้งสองคนก็ลงที่สถานีจุดหมายและรีบขึ้นกลับไปชั้นบน และออกเดินทางตรงไปที่ 765 โปรดักชั่น แต่เมื่อมาถึงทางเลียบคลอง อยู่ๆชาร์ลก็หยุดเดิน

    อิจิกะเห็นว่าชาร์ลหยุดเดินจึงหันกลับไปถาม "ชาร์ลเป็นอะไรรึเปล่า ?"

    "อิจิกะ..ผมคิดว่าพวกเราแยกทางกันตรงนี้เถอะครับ" อยู่เด็กหนุ่มผมสีบลอนด์ที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้า ท่ามกลางทองฟ้าสีส้มยามอาทิตย์อัสดง 
    "ผมคิดว่ามาส่งผมแค่นี้ก็คงจะพอแล้วล่ะครับ.."

    "หมายความว่ายังไงน่ะ...ชาร์ล ?" อิจิกะสงสัยว่าทำไมชาร์ลถึงพูดแบบนี้

    "ส่งแค่นี้ก็พอแล้วล่ะ อิจิกะน่ะไม่จำเป็นต้องมาแล้ว" ชาร์ลก้มหน้าลงและค่อยๆเดินผ่านเด็กหนุ่มชาวญี่ปุ่นที่กำลังงุนงงไปอย่างช้าๆ "ลาก่อนนะ"

    "เดี๋ยวสิ..!" อิจิกะยื่นมือออกไปจับเด็กหนุ่มชาวฝรั่งเศส แต่ว่า...
    อยู่ๆเสาไฟฟ้าที่อยู่ใกล้กับทั้งสองก็ค่อยๆเอนลงมา แต่อิจิกะเห็นซะก่อนจึงสามารถกระโดดจับตัวชาร์ลออกมาได้อย่างฉิวเฉียด "อันตราย!"

    ตูม!!

    แรงกระแทกของเสาไฟทำให้เกิดฝุ่นควันฟุ้งไปทั่ว ผ้ามัดผมของชาร์ลก็ปลิวออกไปตามสายลม แต่ทั้งสองก้ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร
    "เกิดอะไรขึ้น ทำไมมันถึงตกลงมาได้ล่ะ ?" อิจิกะรู้สึกสงสัย แต่ชาร์ลกลับ..

    "มันตามมาแล้วเรอะ..!?" เขาทำท่าทางเหมือนรู้ว่าบางอย่างกำลังมา
    "ตามมา..ใครอย่างงั้นเรอะ ?" อิจิกะหันกลับไปมองที่ต้นเสาไฟที่หักโค่นลงมา

    "อุตส่าห์จะทำให้เหมือนเป็นอุบัติเหตุก็ยังรอดมาได้อีก แต่ขนาดตกลงมาจากฟ้าก้ยังรอดมาได้แค่นี้คงไม่แปลกสินะ" เสียงที่คุ้นหูสำหรับชาร์ลดังมาจากข้างนอกฝุ่นควัน มันเป็นเสียงของคนที่ตามล่าเขามาตั้งแต่อยู่บนเครื่องบิน และยังเป็นคนที่ทำให้เขาตกตกอยู่ในสถานการณ์เฉียดตายเมื่อก่อนหน้านี้

    "จะ..เจ้านั่น!"
    เมื่อฝุ่นควันค่อยๆจางลง ชายใส่สูทสีดำที่อยุ่ตรงหน้าก็คือชายคนที่คิดไว้จริงๆ

    "นี่นายเป็นใคร!?" อิจิกะตะโกนถามใส่บุรุษตรงหน้า

    "เป็นใครน่ะเหรอ...นั่นเป็นสิ่งที่ฉันควรจะถามแกก่อนนะเจ้าหนุ่ม" เขาพูด
    "แกเป็นใครมาจากไหนถึงมาอยู่กับคุณหนูคนนี้ได้..แต่ว่าก็ช่างมันเถอะ เพราะถึงยังไงก็ต้องฆ่าให้หมดอยู่ดี"

    "อิจิกะรีบหนีกันเถอะ!" ชาร์ลรีบจับมือของอิจิกะและคิดที่จะหนี
    "แต่ว่า เจ้านั่น.."
    "พวกเราชนะมันไม่ได้หรอก เจ้านั่นมัน..ไม่ใช่มนุษย์" 

    "ไม่ใช่มนุษย์งั้นเรอะ ?" เด็กหนุ่มแปลกใจในคำบอกเล่าของชายผมบลอนด์
    แต่เขาก็รีบทำตามที่บอกและรีบวิ่งหนีไปในทันที

    "ยังไงก็ไม่ยอมให้หนีไ.."
    ตึง!!

    ก่อนที่ชายใส่สูทผู้นี้จะได้ตามไป เข้าก็ถูกรถจักรยานคันนึงกระแทกหน้าเข้าอย่างจัง
    "อัก!" ด้วยแรงกระแทกของจักรยานทำให้มันล้มไม่เป็นท่า ทำให้อิจิกะและชาร์ลสามารถหนีจนลับสายตาไปได้

    "ขอโทษครับ ผมกำลังรีบ" เด็กหนุ่มที่ขับจักรยานมาชนรีบขอโทษและขับออกไปในทันที

    ชายใส่สูทลุกขึ้นอย่างช้าๆ "เจ้าบ้านั่น...เอาเถอะ ปล่อยไปก่อน ตอนนี้ต้องรีบทำภารกิจให้เสร็จ" 

    สกอร์เปี้ยนเก็บความโกรธเอาไว้และออกตามล่าพวกอิจิกะอีกครั้ง...

    .
    .
    .
    .

    AREA 1 อาคารร้างแห่งหนึ่ง เวลา 17.59 น.

    อิจิกะและชาร์ลต่างรีบเข้ามาหลบในอาคารแห่งหนึ่ง เพื่อซ่อนตัวจากชายสูทดำนั้น
    "ถ้าเป็นที่นี่ก็คงซ่อนตัวได้ซักพักล่ะนะ" อิจิกะพิงกำแพงและค่อยลดตัวลงมานั่ง ทั้งสองคนอยู่ในซอกแคบเพื่อซ่อนตัว

    "อืม" ชาร์ลพยักหน้าตอบเงียบๆ

    "เหนื่อยรึเปล่า ถ้าเหนื่อยฉันจะ.." ทันทีที่เด็กหนุ่มชาวญี่ปุ่นได้หันกลับไปมองเพื่อนชาวฝรั่งเศสของเขาตอนปล่อยผม ผมสีบลอนด์ของเขาเหมือนกับสามารถเรืองแสงได้แม้ในที่มืดเช่นนี้ ทำเอาเขาตาค้างไปครู่หนึ่ง
    "ปะ..เปล่าไม่มีอะไร.." อิจิกะรีบตั้งสติแต่เขาก็ยังหน้าแดงอยู่

    ทั้งสองเงียบอยู่ครู่หนึ่ง...
    "เออ..คือว่า../ อิจิกะ..แบบว่า.." ทั้งสองคนพูดขึ้นพร้อมกัน

    "อะ..ชาร์ลนายพูดก่อนเถอะ" 
    "ไม่ล่ะ อิจิกะพูดก่อนเถอะ"

    "นายนั่นล่ะพูดก่อน มีเรื่องที่จะต้องบอกไม่ใช่เรอะ" อิจิกะใช้เหตุผลให้ชาร์ลยอมพูดก่อน

    "ก็ได้.." ชาร์ลเป็นฝ่ายเริ่มพูดก่อน
    "อิจิกะ ถึงจะไม่ค่อยมั่นใจแต่ก็คงจะรู้สึกว่าฉันไม่ใช่ผุ้ชายรึเปล่า ?"

    "อะ..ก็แบบว่า.." เด็กหนุ่มหน้าแดงเล็กน้อย "..ก็คงงั้น.."

    "ถ้าอย่างงั้นก็เดาถูกนั่นล่ะ จริงๆแล้วผมเป็นผู้หญิง"
    ชาร์ลยอมเปิดเผยตัวเอง "ผมถูกส่งมาที่นี่โดยที่ต้องปลอมตัวเป็นผู้ชายเพื่ออำพรางไม่ให้ฝั่งนั้นรู้ว่าพวกเราขนส่ง สิ่งนี้ โดยใช้เด็กผู้หญิงน่ะ "

    "แบบนั้นก็เลยต้องฝึกท่าทางและคำพูดแบบผู้ชายเพื่อไม่ให้ทางนั้นจำได้ แต่ดูเหมือนแผนนี้ก็จะเป็นไปได้ไม่ดีเท่าไหร่" ชาร์ลอธิบายเหตุผล

    "แต่ภารกิจอันตรายแบบนี้ พ่อกลับสั่งให้ลูกตัวเองมาส่งเนี่ยนะ เป็นพ่อแบบไหนกันเนี่ย ?" อิจิกะรู้สึกไม่สบอารมณ์ในตัวพ่อของชาร์ลที่ใช้งานลูกของเขาแบบนี้

    "นั่นเป็นเพราะถ้าหากใช้การขนส่งที่เปิดเผยมากเกินไป เปอร์เซ็นที่จะทำให้ถูกขโมยไปจึงมีมากขึ้นน่ะ เลยต้องใช้วิธีนี้ ทางคุณพ่อเขาไม่ผิดหรอกนะ" ชาร์ลพยายามบอก
    "และถึงผมเป็นอะไรไป ยังไงก็ไม่เป็นไร เพราะทันทีที่หัวใจผมหยุดเต้นเมื่อไหร่..."

    เด็กสาวมองไปที่กล่องที่ผูกติดไว้กับข้อมือของเธอ "ระเบิดที่กระเป๋าใบนี้ก็จะทำงานทันทีน่ะ..เท่านี้พวกนั้นก็จะเอาของในกระเป๋าใบนี้ไปไม่ได้แล้วล่ะ..."

    "เดี๋ยวสิแล้วแบบนั้น ก็เหมือนส่งนายมาตายไม่ใช่รึไง ?" เด็กหนุ่มรู้สึกร้อนใจกว่าเดิม

    "ยังไงถ้าทำภารกิจสำเร็จแค่ให้ประธานบริษัท 765 โปร ใส่รหัสลงไปกล่องนี้ก็จะเปิดออกและกระเป๋าก็จะไม่ระเบิดแล้วล่ะ" ชาร์ลบอกด้วยท่าทางที่เหมือนไม่เป็นไร แต่อิจิกะสามารถรู้สึกถึงความกลัวในจิตใจของเธอได้
    "ของสิ่งนี้เป็นของที่สำคัญมาก...จะปล่อยให้ตกไปอยู่ในมือของพวกนั้นไม่ได้เด็ดขาด.."

    "แบบนี้มันดีแล้วเรอะ ?" อิจิกะถาม
    "การที่พ่อนายสั่งให้นายมาทำหนาที่เสี่ยงตายแบบนี้ มันดีแล้วอย่างงั้นเรอะ ?"

    "ยังไงเขาก็เป็นพ่อ..คงจะขัดคำสั่งเขาไม่ได้หรอก" ชาร์ลบอก

    "ผิดแล้วล่ะชาร์ล ต่อให้เป็นผู้ให้กำเนิดก็เถอะ แต่ว่าจะมาชี้นิ้วสั่งให้ลูกของตนเองไปตายแบบนี้มันก็รับไม่ได้" อิจิกะคัดค้านอย่างสุดชีวิต
    "พ่อแบบนั้น...ฉันไม่ยอมรับหรอกนะ.."

    "ถึงจะพูดยังไง..ถ้าเรายังรอดไปจากลอสท์ตัวนั้นไม่ได้ก็ทำอะไรไม่ได้ล่ะนะ" ชาร์ลพูดเปลี่ยนเรื่อง 
    "ลอสท์ ? นั่นคือชื่อของเจ้านั่นงั้นเหรอ ?"

    "อืม" เธอพยักหน้า
    ถึงเด็กหนุ่มจะยังไม่เข้าใจในความหมายที่แท้จริงของคำนั้น แต่เขาก็พอจะรู้แล้วว่าเจ้าลอสทืคนนั้นไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน

    "แต่พวกเราก็หนีมาได้ไกลแล้ว มันอาจจะไม่..!!" ทันใดนั้นเด็กหนุ่มก็รู้สึกถึงบางอย่างที่เข้ามาในอาคารร้างแห่งนี้ ซึ่งคนๆนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน...

    "เจ้าหนุ่ม ฉันรู้ว่าพวกนายสองคนซ่อนตัวอยู่ในนี้ ถ้าไม่อยากตายล่ะก็จงส่งตัวคุณหนูพร้อมกับกระเป๋าใบนั้นมาให้ฉันซะดีๆ แล้วฉันก็จะไม่ทำอะไรเธอ" สกอร์เปี้ยนยื่นข้อเสนอให้กับอิจิกะ
    "ฉันให้เวลาคิด 10 วินาที ลองคิดดูดีๆล่ะ"

    "ออ แล้วถึงแม้จะซ่อนตัวอยู่แต่พวกแกก็ไม่มีทางรอดไปจากเข็มพิษของฉันได้หรอกนะ" ร่างของชายใส่สูทค่อยมีไอควันระเหยออกมา และแล้วร่างของเขาก็กลายเป็นสัตว์ประหลาดรูปร่างหน้าตาเหมือนกับแมงป่อง
    "เริ่มจับเวลาได้.."

    ทางอิจิกะและชาร์ลที่ซ่อนตัวอยู่ต่างก็รู้สึกกดดัน
    ชาร์ลที่ไม่อยากให้อิจิกะต้องมาพัวพันกับเรื่องนี้จึงตัดสินใจลุกขึ้น แต่ว่า..
    "ปล่อยนะ อิจิกะ ถ้าไม่ส่งผมออกไปมันจะฆ่าอิจิกะด้วยนะ" ชาร์ลบอกกับเด็กหนุ่มที่จับมือของเขาไม่ให้ออกไป

    "ถึงยังไงมันก็ไม่ยอมปล่อยฉันไปง่ายๆอยู่แล้วล่ะ และถ้าขืนนายออกไปล่ะก็นายจะถูกฆ่าเอานะ" อิจิกะพูดอย่างจริงจัง

    "ถ้าผมตาย เจ้านั่นเองก็จะถูกระเบิดในกระเป๋าระเบิดตายไปด้วย" ชาร์ลตอบกลับ "ผมเตรียมใจไว้พร้อมแล้วที่จะยอมสละชีวิตเพื่อให้อิจิกะปลอดภัยและปกป้องของในนี้ไว้"

    "อย่าพูดบ้าๆน่า" อิจิกะตะคอก ทำให้ชาร์ลตกใจ
    "อย่ามาทำเหมือนชีวิตคนเป็นของไร้ค่าแบบนั้นสิ พวกเราจะต้องรอดออกไปได้เชื่อฉันเถอะ"

    "อิจิกะ.."
    "ถ้าไม่ลองทำดูก่อน เราก็ไม่มีทางรู้ได้หรอกว่าผลจะออกมาเป็นยังไง..ใช่มั้ยล่ะ ?" อิจิกะพูดด้วยความมั่นใจ

    "0...หมดเวลาแล้ว เจ้าเด็กไม่มีหัวคิด" สกอร์เปี้ยนใช้หางพิษของมันโจมตีอย่างบ้าคลั่ง
    เป็นผลให้ผนังกำแพงโดยรอบพังยับเยิน รวมถึงจุดที่อิจิกะและชาร์ลซ่อนตัวอยู่ด้วย "อยู่ตรงนั้นเองสินะ.."

    "ชาร์ลรีบหนีเร็ว!" อิจิกะรีบจับมือชาร์ลและพาหนี
    "ไม่มีทางหรอกน่า!" สกอร์เปี้ยนพ่นกรดพิษใส่พื้นที่ตรงหน้าอิจิกะและชาร์ล พื้นคอนกรีตถูกกรดละลายไม่เหลือแม้แต่ซาก

    "โธ่เว้ย!" เด็กหนุ่มไม่มีทางเลือกจึงรีบหยิบท่อเหล็กรอบนั้นขึ้นมาเป็นอาวุธและวิ่งตรงเข้าไปสู้กับลอสท์
    "อิจิกะ อย่านะ!" ชาร์ลพยายามจะห้ามแต่ไม่ทันเสียแล้ว

    "ย้ากก!" อิจิกะฟาดท่อเหล็กใส่หน้าของสกอร์เปี้ยนอย่างเต็มแรง แต่มันกลับไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่นิดเดียว
    ลอสท์ค่อยยกมือขวาขึ้นพร้อม "คิดว่าของแบบนี้จะทำอะไรได้งั้นเรอะ!?" แล้วปล่อยหมัดขวาออกไป มือขวาของมันเป็นก้ามของแมงป่องเมื่อปะทะกับท่อเหล็กธรรมดาๆแล้ว ท่อเหล็กเปรียบเหมือนนุ่นบางๆเท่านั้นเอง

    ถึงจะเสียอาวุธไป อิจิกะก็ยังไม่แพ้อาศัยจังหวะกระโดดขึ้นไปบนไหล่มัน และกระโดดออกมาเตะใส่ต้นคอของลอสท์ "ฮ่าส์!"

    "เปล่าประโยชน์น่า!" สกอร์เปี้ยนใช้หางพิษของมันแทงไปยังเด็กหนุ่ม
    "อั่ก!!" อิจิกะโดนหางของมันเข้าไปเต็มๆ และถูกตีกระแทกตกลงมาที่พื้น

    "ตายซะเถอะ!" สกอร์เปี้ยนใช้หางของมันเหมือนแส้ฟาดตัวอิจิกะกระเด็นออกไปชนกับเสาค้ำ จนเสาหินแตกละเอียด

    "อิจิกะ...ไม่จริง.." ชาร์ลทรุดลง เมื่อเห็นเพื่อนของเธอถูกฆ่าไปต่อหน้าต่อตา

    "เอาล่ะ ที่เหลือก็แค่ธุระของพวกเราสองคนแล้วนะ..คุณหนู" สกอร์เปี้ยนค่อยๆหันไปหาชาร์ลที่หมดแรงที่จะทำอะไรต่อแล้ว มันค่อยๆเดินเข้าไปหา
    "ฉันจะฆ่าเธอก่อนแล้วค่อยเปิดกล่องนั้น จะได้ไม่ต้องมาเป็นภาระอะไรอีก"

    ลอสท์มาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ "เตรียมใจไว้รึยัง อีกไม่นานก็จะได้ตายตามเพื่อนของเธอไปแล้ว.." หางของแมงป่องเตรียมพร้อมที่จะจัดการฆ่าชาร์ลในไม่ช้า 

    "ไม่ยอมให้ทำได้หรอกน่า!" อิจิกะใช้แรงเฮือกสุดท้ายวิ่งเข้ามาชนกระแทกจนสกอร์เปี้ยน กระเด็นออกไป
    ชาร์ลเมื่อเห็นเด็กหนุ่มตรงหน้าอีกครั้งทำให้เธอกลับมามีกำลังใจอีกครั้ง "อะ..อิจิกะ"

    "ฉันไม่ยอมตายง่ายๆหรอกน่า!" เด็กหนุ่มเข้ามายืนตรงหน้าหญิงสาวผมสีบลอนด์เพื่อปกป้องเธอด้วยทุกอย่างที่เข้ามี

    ลอสท์สกอร์เปี้ยนค่อยๆลุกขึ้นยืนใหม่ และคราวนี้มันก็โกรธจริงๆแล้ว
    "ฉันจะ..ฆ่าพวกแกทั้งสองคนซะ!" มันพ่นกรดพิษโจมตีใส่ทั้งสองอีกครั้ง

    เด็กหนุ่มถอดเสื้อโค้ทของตัวเองออกมาเป็นผ้าป้องกันเอาไว้ และพาชาร์ลหนีออกมา

    ทั้งสองมาหลบที่หลังบันไดขึ้นไปชั้นสอง "พวกเราไม่มีที่จะชนะมันได้เลยรึไง ?"
    พวกเขาเริ่มหมดหนทางที่จะสู้กับเจ้าปิศาจตนนี้แล้ว การกระทำของพวกเขาทำได้เพียงแค่ให้มันเจ็บเพียงนิดหน่อยเท่านั้

    "ไม่หรอกครับ ยังเหลืออีกวิธีนึง.." จู่ๆชาร์ลก็พูดขึ้นทำให้อิจิกะหันไปหาเธอ
    "วิธีอะไรงั้นเหรอ ?"

    ชาร์ลวางกระเป๋าลงที่ขั้นบันไดและใส่รหัสลงไป ทำให้กระเป๋าเปิดออก
    "นี่คือสิ่งที่อาจจะทำให้เอาชนะมันได้ครับ" ของที่อยู่ข้างในกระเป๋าของชาร์ลคืออุปกรณ์บางอย่างที่มีลักษณะคล้ายกับแฟลชไดฟ์เพียงแต่ว่ามันมีขนาดใหญ่กว่ามากนัก พร้อมกับของบางอย่างที่คล้ายๆหัวเข็มขัด

    "ของพวกนี้มัน ?" อิจิกะดูประหลาดใจอย่างมากทันทีที่เห็นของที่อยู่ในกระเป๋า

    "ครอสไดร์เวอร์และไกอาเมมโมรี่ สองสิ่งนี้ล่ะที่จะทำให้เราสามารถเอาชนะลอสท์ได้ เพียงแต่ว่า...หากอัตราการซิงโครของพวกเราต่ำล่ะก็ ก้มีโอกาสที่พวกเราจะตายได้เหมือนกัน.." ชาร์ลบอกถึงข้ออันตรายของมันเพื่อย้ำเตือนอิจิกะ "อิจิกะ..นายมีความกล้าที่จะสู้ไปพร้อมกับปิศาจมั้ยล่ะ ?"

    "..." อิจิกะทำท่าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะตัดสินใจหยิบไกอาเมมโมรี่สีดำม่วงออกมา
    "ถึงจะมีโอกาสที่จะตายก็เถอะ แต่ว่าถ้าหากไม่ลองดูมันก็ไม่มีทางรู้สินะ"

    "อืม" ชาร์ลพยักหน้า พร้อมกับหยิบไกอาเมมโมรี่สีเขียว พร้อมกับครอสไดร์เวอร์เครื่องนึ
    ส่วนอิจิกะเองก็หยิบครอสไดร์เวอร์อีกเครื่องขึ้นมา
    ทั้งสองสวมครอสไดร์เวอร์ไว้ที่เอวแล้วมันก็มีสายเข็มขัดปรากฏขึ้นมาเป็นสายรัดเอวเอาไว้

    "ไปกันเถอะ อิจิกะ" ชาร์ลกดปุ่มที่เมมโมรี่

    CYCLONE

    อิจิกะกดปุ่มที่ไกอาเมมโมรี่ "อืม ไปกันเลย!"

    JOKER

    สกอร์เปี้ยนเห็นว่าทั้งสองกำลังจะทำอะไรบางอย่างจึงรีบขัดขวาง "ไม่ยอมให้ทำสำเร็จหรอก!" มันพ่นกรดพิษโจมตีทั้งสองอีกครั้ง

    "ฮ่าสส์!!!" ชาร์ลใส่เมมโมรี่ลงไดร์เวอร์ของตัวเอง และเมมโมรี่ของเธอก็ถูกย้ายไปยังไดร์เวอร์ของอิจิกะ อิจิกะกดเมมโมรี่นั้นซ้ำลงไปและตามด้วยใส่เมมโมรี่ของตัวเองลงไปอีกช่องจากนั้นก็สับไดร์เวอร์
    "แปลงร่าง!"

    CYCLONE JOKER

    ทันใดนั้นก็เกิดคลื่นสายลมอย่างรุนแรง มันรุนแรงมากจนกลายเป็นพายุขนาดย่อม
    กระแสลมนั้นได้ปัดเป่ากรดพิษของสกอร์เปี้ยนออกไป แม้แต่มันเองก็เกือบจะปลิวออกไปตามคลื่นพายุหมุนนี่อยู่แล้ว แต่มันสามารถเกาะพื้นไว้ได้ 

    "นะ..นี่มัน เกิดอะไรขึ้น!?" สกอร์เปี้ยนจ้องมองตรงไปที่ชายหญิงทั้งสองที่เพิ่งกระทำบางอย่างไป "นั่นมันอะไรกันแน่!?"

    และแล้วพายุก็ค่อยๆสงบลง...
    เผยให้เห็นร่างของคนผู้หนึ่งที่ปรากฏออกมาจากพายุนั้น ร่างกายของเขาไม่ใช่มนุษย์แต่ก้ไม่เหมือนกับพวกลอสท์ ร่างกายซีกขวาของเขาเป็นสีเขียวอ่อนดั่งลมพายุ ส่วนร่างกายซีกขวาของเขาเป็นสีดำม่วงดั่งพลังแห่งความลึกลับ

    "นี่ฉัน..กลายเป็นตัวอะไรไปแล้วล่ะเนี่ย ?" อิจิกะมองฝ่ามือของตัวเองที่ตอนนี้ได้กลายเป็นอะไรที่แปลกประหลาดไปแล้ว
    "นี่คือ W (ดับเบิ้ล)" เสียงของชาร์ลดังขึ้นมาจากภายในตัวของอิจิกะ

    "ชาร์ล ?" เด็กหนุ่มหันไปมองชาร์ลที่นอนสลบอยู่ "แต่ว่าทำไม ?"
    "ตอนนี้จิตใจของผมได้เข้ามารวมเป็นหนึ่งกับอิจิกะแล้ว พวกเราในตอนนี้จะต้องเอาชนะมันได้อย่างแน่นอน นี่ล่ะคือ W ล่ะ!"

    "นี่น่ะเหรอ W ?"

    สกอร์เปี้ยนที่เพิ่งตั้งหลักใหม่คำรามใส่พวกอิจิกะ "ต่อให้พวกแกใช้พลังของไกอาเมมโมรี่ของตามแต่แกก็ไม่มีทางที่จะชนะข้าคนนี้ได้หรอก!"
    มันโจมตีด้วยหางพิษของมันทันที

    "ฮะ!" อิจิกะตกใจจึงหาดมือขวาออกโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ด้วยพลังแห่งลมพายุ มือขวาของดับเบิ้ลจึงมีความคมเสมือนกับดาบ จึงสามารถตัดหางพิษของมันออกได้อย่าง่ายดาย
    "พะ..พลังอะไรกันเนี่ย ?"

    "นี่คือพลังของดับเบิ้ลยังไงล่ะ"
    "ถ้าเป็นอย่างงี้อาจะจะชนะ..ไม่สิ จะต้องชนะได้แน่!" อิจิกะและชาร์ลมีกำลังใจเพิ่มมากขึ้น

    "หนอยนะแก! บังอาจมาตัดหางของฉัน" สกอร์เปี้ยนเดือดดาลจึงเข้าไปโจมตีดับเบิ้ลอย่างบ้าคลั่ง แต่มันไม่อาจจะโจมตีโดนพวกเขาที่มีความรวดเร็วดั่งสายลมได้เลย

    "ขอคือล่ะนะ" ดับเบิ้ลถอยออกมาและกระโดดหมุนตัวเตะสกอร์เปี้ยน ทำให้มันปลิวตีลังกากระแทกลงกับพื้น
    ดับเบิ้ลเงื้อมมือซ้ายขึ้นและปล่อยหมัดตรงใส่ลอสท์อีกครั้ง

    สกอร์เปี้ยนตอบโต้กลับด้วยการใช้ก้ามของมันสวนกลับมา แต่พลังหมัดของดับเบิ้ลมีพลังทำลายมากกว่าของสกอร์เปี้ยนก้ามของมันจึงถูกต่อยพังเละไม่มีชิ้นด
    และยังกระโดดเตะจนมันกระเด็นออกไป "ฮ่าส์!"

    ดับเบิ้ลชี้นิ้วตรงไปที่ลอสท์ "เอาล่ะ จงนับความผิดของตัวเองซะ"

    สกอร์เปี้ยนยังไม่ยอมมันเริ่มโจมตีด้วยกระสุนปืนที่ซ่อนอยู่ที่เล็บมือข้างซ้ายของมัน
    "ฮ่าส์!" ดับเบิ้ลกระโดดหลบและเข้าอยุ่ใกล้ตัวลอสท์พร้อมกับปล่อยกระแสลมพัดมันลอยขึ้นไปกลางอากาศ

    และตามด้วยกระโดดขึ้นไปใช้ดาบมือตัดเกราะของสกอร์เปี้ยนออกเป็นเสี่ยงๆ

    ลอสท์ใช้หางที่ยังเหลืออยู่ของมันรัดขาของดับเบิ้ลเอาไว้และดึงลงมา แต่เขาไม่พลาดท่าและใช้เท้าซ้ายเตะซ้ำจนตกลงกระแทกพื้น ส่วนดับเบิ้ลลงมาอย่างไม่เป็นอะไรเลย
    ดับเบิ้ลใช้มือซ้ายจับหางของลอสท์ไว้และกระชากออกมาจากร่างของมันในทันที

    กรดพิษกระจายออกมาทำให้อิจิกะที่ประมาทไปเสียจังหวะไปครู่หนึ่ง และถูกลอสท์โจมตีกลับ "ฮ้ากก!"
    สกอร์เปี้ยนล้มทับดับบิ้ลและปล่อยให้กรดพิษจัดการเขาไปเรื่อยๆ
    "ตายซะ! ตายซะ! ตายซะ!" 

    "ไม่ยอมหรอกน่า!" ดับเบิ้ลชกหน้าของลอสท์จนหน้าของมันเละจนเห็นเนิ้อข้างใน
    และตามด้วยกระโดดตีลังกาเตะเสยสกอร์เปี้ยนจนมันพลาดท่า เลือดกรดพิษของมันกระจายออกไปทั่ว 

    ดับเบิ้ลใช้พลังลมป้องกันกรดพิษเหล่านั้นไว้ได้

    ลอสท์ที่เป็นฝ่ายถูกเล่นงานฝ่ายเดียวค่อยๆยืนขึ้นอีกครั้ง
    "เจ้าหนู แค่มีพลังแค่นิดหน่อยบังอาจมาทำตัวจองหองงั้นเรอะ แบบนี้ต้องสั่งสอนให้รู้สำนึก!" สกอร์เปี้ยนค่อยๆดูดกรดพิษในร่างกายของมันขึ้นมาเพื่อที่จะจัดการในครั้งเดียว
    "ว้ากกกก!!!"

    "ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้อาคารที่นี้มีหวังถล่มแน่ ต้องรีบจัดการมันในครั้งเดียว" อิจิกะคิด
    "อิจิกะ นำโจ๊กเกอร์เมมโมรี่ออกมาใส่ที่ช่องข้างๆเร็วเข้าสิ" ชาร์ลให้คำแนะนำ

    "ช่องข้างๆ ?" ดับเบิ้ลมองไปที่ช่องข้างๆที่อยู่ที่เอวด้านขวาของไดร์เวอร์ "นี่น่ะเหรอ ?"

    "หากเราทำการใช้แม็กซิมั่มไดฟ์ จะเป็นการปล่อยพลังของเมมโมรี่ออกมาถึงขีดสุด แต่ว่าพวกเราเองก็ต้องรับผลกระทบนั้นไปด้วยเหมือนกันเพราะอัตราการซิงโครของพวกเราอาจจะไปไม่ถึงจุดนั้นก็ได้" ชาร์ลบอก

    "ถึงอย่างงั้น มันก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลยนั่นล่ะ!" อิจิกะหยิบโจ๊กเกอร์เมมโมรี่ออกมาและใส่ลงที่ช่องข้างไดร์เวอร์

    JOKER MAXIMUMDRIVE

    ลมพายุสีเขียวปล่อยออกมาตัวของดับเบิ้ล และค่อยๆพาร่างของเขาลอยขึ้นไปบนอากาศ
    "อัตราการซิงโครสูงขึ้นเรื่อยๆ...นี่มันผิดกับที่คิดไว้เลย อิจิกะนี่คือพลังของนายอย่างงั้นเรอะ ?" ชาร์ลถามตัวเองเมื่อรู้สึกถึงพลังของดับเบิ้ลที่หลั่งไหลออกมาอย่างไม่เคยมีมาก่อน

    "กะ..แก!" สกอร์เปี้ยนมองไปที่ดับเบิ้ลด้วยความแค้น "ว้ากก!!"
    มันบ้าคลั่งและปล่อยกรดพิษเข้มข้นสูงโจมตีใส่ดับเบิ้ลอย่างไม่รีรอทันที

    "จบล่ะ!" เขากดลงไปที่ช่องซ้ำ
    ดับเบิ้ลตีลังกากลางอากาศและปล่อยตัวลงมาพร้อมสายลม ที่พัดเป่าเอากรดพิษของสกอร์เปี้ยนออกไปจนหมด

    JOKER EXTREME

    "ฮ่าส์!" ดับเบิ้ลแยกร่างออกเป็นสองซีก ซีกซ้ายพุ่งลงมาใส่สกอร์เปี้ยนก่อนแล้วค่อยตามด้วยซีกขวาจัดการด้วยพลังแห่งสายลม จนเกิดเป็นแรงระเบิด

    บรึ้มม!!

    ดับเบิ้ลตีลังกาออกมาจากแรงระเบิดลงสู่พื้น
    "นะ..นี้ฉัน..เป็นฝ่าย..แพ้งั้นเรอะ.." ร่างของสกอร์เปี้ยนค่อยสลายกลายเป็นของเหลวไปอย่างช้าๆ และสลายหายไปต่อหน้าต่อตาพวกเขา

    "นี่พวกเรา...ชนะแล้วอย่างงั้นเรอะ ?" อิจิกะถามชาร์ล
    "ใช่ พวกเราชนะแล้ว" ชาร์ลช่วยยืนยัน

    "เป็นพลังที่สุดยอดไปเลย" อิจิกะชื่นชมในพลังของดับเบิ้ล เขาหยิบไกอาเมมโมรี่โจ๊กเกอร์ขึ้นมา "นี่คือพลังเจ้าสิ่งนี้งั้นเรอะ ?"

    "อิจิกะ ขอบคุณนะ ที่ช่วยปกป้องผมน่ะ ผมขอบคุณจริงๆ" ชาร์ลขอบคุณจากใจจริงของเธอ
    "คนที่ปกป้องนายไม่ใช่ฉันหรอก...แต่เป็นเจ้าสิ่งนี้ต่างหาก" อิจิกะใส่เมมโมรี่กลับลงไปตามเดิม

    "ถึงอย่างงั้นแต่ก็ขอบคุณนะ" ชาร์ลยังคงยืนยันที่จะขอบคุณอิจิกะที่ช่วยเธอเอาไว้

    บรึ้มม!!

    จู่ๆก็เกิดระเบิดขึ้นมาจากด้านนอกของอาคารร้างโดยไม่ทราบสาเหตุ
    "นั่นมันอะไรน่ะ!?" อิจิกะและชาร์ลต่างสงสัยในสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น

    "รีบออกไปดูกันก่อนเถอะครับ" ชาร์ลออกความเห็น

    "นั่นสินะ" อิจิกะเห็นด้วย
    ดับเบิ้ลวิ่งกลับไปแบกชาร์ลขึ้นบ่าแล้ววิ่งออกไปนอกอาคารร้างเพื่อตรวจสอบว่าเกิดอะไรขึ้นข้างนอกนั้น

    พอพวกเขาออกมา พวกเขาก็พบกับประกายแสงที่เกิดขึ้นจากการระเบิดอย่างรุนแรงจากฝีมือของใครบางคน "นี่...ใครเป็นคนทำกันเนี่ย ?"

    "อิจิกะดูตรงนั้นสิ" ชาร์ลบอก
    ดับเบิ้ลหันไปมองภายในเปลวไฟก็เห็นเงาของบุรุษผู้หนึ่งที่ยืนอยู่ ณ กองเพลิงแห่งนั้น เพียงแต่ว่าเขานั้นไม่ใช่มนุษย์ และยังไม่ใช่ลอสท์แบบที่เคยเจอมา ดวงตาของเขาเป้นสีแดง มีร่างกายเป็นสีทองอร่าม รวมถึงเขาของเขาด้วย

    "นั่นมันตัวอะไรน่ะ...ลอสท์งั้นเรอะ ?" อิจิกะตกอยู่ในความสงสัย
    "ผมคิดว่าไม่ใช่นะครับ มันดูต่างออกไป" ชาร์ลออกความเห็น

    นักรบสีทองหันมามองพวกเขา ดับเบิ้ลไม่มีทางเลือกจะวางร่างชองชาร์ลลงพิงกำแพงข้างๆ และตั้งท่าพร้อมที่จะสู้กับบุคคลที่อยู่ตรงหน้า
    "ไม่รู้ล่ะนะว่าเป็นใครมาจากไหน..แต่ตอนนี้คงไม่มีทางเลือกอื่นสินะ"

    นักรบทั้งสองมายืนประจัญหน้ากันท่ามกลางกองเพลิงที่ลุกไหม้

         การพบกันของทั้งสองจะทำให้ชะตากรรมของพวกเขาเป็นเช่นไรต่อไป...


     .................... TO BE CONTINUE ....................
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×