ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่ 10 มาสค์ไรเดอร์
เกาะร้างแห่งใดแห่งหนึ่งบนโลก เวลา ??.?? น.
ภายในห้องประชุมลับที่เป็นสถานที่ในการรายงานผลความเป็นไปและผลสำเร็จของแผนการของกลุ่มมนุษย์ดัดแปลงพันธุกรรม หรือที่เรียกอีกชื่อนึงว่า 'ลอสท์' นีเดิลทีี่กลับมาที่นี่เพียงคนเดียวได้กลับมารายงานความสูญเสียและการปรากฏตัวของบางสิ่งที่พวกเขาคาดไม่ถึง สิ่งที่ทำให้แผนการของพวกเขาล้มเหลวและยังต้องสูญเสียเหล่าลอสท์ไปมากมาย ชายชุดขาวยืนอยู่ ณ กลางห้องที่มืดมิด มีเพียงแสงไฟจากสปอตไลท์ที่ส่องมาจุดที่เขายืนอยู่กลางห้องเพียงเท่านั้น
ภาพโฮโลแกรมด้านหน้าถูกฉายขึ้นเป็นภาพของงูเห่า มีคำเขียนอยู่บนภาพนั้นว่า COBRA
"นีเดิลดูเหมือนว่าแผนการแย่งชิงไกอาเมมโมรี่และคอสมิคเอเนจี่จะล้มเหลวสินะ ได้ยินมาว่าล๊อคซีดเองก็ถูกขโมยออกไปจากที่นี่เจ้าก็ได้ส่งปิรันย่าออกไปโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตแบบนี้ เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่" เสียงของชายจากโฮโลแกรมพูด
ภายในห้องประชุมลับที่เป็นสถานที่ในการรายงานผลความเป็นไปและผลสำเร็จของแผนการของกลุ่มมนุษย์ดัดแปลงพันธุกรรม หรือที่เรียกอีกชื่อนึงว่า 'ลอสท์' นีเดิลทีี่กลับมาที่นี่เพียงคนเดียวได้กลับมารายงานความสูญเสียและการปรากฏตัวของบางสิ่งที่พวกเขาคาดไม่ถึง สิ่งที่ทำให้แผนการของพวกเขาล้มเหลวและยังต้องสูญเสียเหล่าลอสท์ไปมากมาย ชายชุดขาวยืนอยู่ ณ กลางห้องที่มืดมิด มีเพียงแสงไฟจากสปอตไลท์ที่ส่องมาจุดที่เขายืนอยู่กลางห้องเพียงเท่านั้น
ภาพโฮโลแกรมด้านหน้าถูกฉายขึ้นเป็นภาพของงูเห่า มีคำเขียนอยู่บนภาพนั้นว่า COBRA
"นีเดิลดูเหมือนว่าแผนการแย่งชิงไกอาเมมโมรี่และคอสมิคเอเนจี่จะล้มเหลวสินะ ได้ยินมาว่าล๊อคซีดเองก็ถูกขโมยออกไปจากที่นี่เจ้าก็ได้ส่งปิรันย่าออกไปโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตแบบนี้ เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่" เสียงของชายจากโฮโลแกรมพูด
"ท่านคอบร้า ที่ข้าได้ให้ปิรันย่าไปด้วยนั้นเพราะล็อคซีดเป็นสิ่งด๊อกเตอร์กำลังวิจัยหาถึงความลับของมันอยู่ ข้าจึงคิดว่าการหาทางนำมันกลับมาโดยเร็วน่าจะเป็นผลดีต่อเรามากกว่า และคนทรยศอย่างมังกี้เอง ปิรันย่าก็มีความแค้นส่วนตัวกับทางนั้นอยู่แล้ว ข้าจึงให้โอกาสเธอในโอกาสที่จะแก้แค้นและสร้างผลงาน" นีเดิลรายงาน แต่สิ่งที่เขาพูดไปนั้นจะมีความจริงอยู่สักกี่คำ...
"...ข้าต้องขอชื่นชมที่เจ้านั้นทำผลงานดีมาโดยตลอดจนได้รับตำแหน่งเป็นหัวหน้าของเหล่าลอสท์ด้วยกัน เพียงแต่ว่าเพราะเหตุการณ์ที่พวกเราคาดไม่ถึงในครั้งนี้มันได้สร้างเสียหายให้กับพวกเราอย่างมาก แผนการของพวกเราผิดพลาดและยังต้องสูญเสียลอสท์ไปมากภายในวันเดียว" คอบร้ากล่าว จากนั้นภาพโฮโลแกรมก็ถูกฉายใหม่กลายเป็นภาพของลอสท์ที่เสียชีวิตลงไปในวันนี้ซึ่งประกอบไปด้วย สไปเดอร์,สกอร์เปี้ยน,เมนทิส,คาเมเลี่ยน,โครว์,ปิรันย่า,ฮอร์ส และจากัวร์
"พวกเขาได้เสียชีวิตลงด้วยฝีมือของพวกเด็กๆที่อยู่ๆก็ได้รับพลังลึกลับมา พวกเราไม่ได้คิดเตรียมการถึงเรื่องนี้ไว้จึงไม่ได้วางแผนรับมือ อีกอย่างพลังของเด็กพวกนั้นก็สูงกว่าที่พวกเราคาดไว้" นีเดิลพูด
"แต่ว่าการเสียสละของพวกเขาจะไม่เสียเปล่า เพราะมันทำให้เราได้รับข้อมูลของพลังลึกลับเหล่านั้นมาแล้ว"
"นีเดิล เจ้าทราบสาเหตุที่เด็กพวกนั้นได้รับพลังมารึไม่ ?" คอบร้าถาม
นีเดิลส่ายหน้า "ข้าเองก็ไม่อาจทราบได้ พลังที่ข้าทราบมีเพียงแค่ไกอาเมมโมรี่ ล๊อคซีดและคอสมิคเอเนจี่ที่เป็นผู้สังหารสกอร์เปี้ยน ปิรันย่าและคาเมเลี่ยนเพียงเท่านั้น ส่วนพลังที่ใช้สังหารโครว์จากที่ได้รับข้อมูลมาน่าจะเป็นพลังของศาสตร์เวทมนต์ที่ทาคากิ โซอิจิโร่ถนัด ที่เหลือเป็นพลังที่เราไม่เคยพบมาก่อน"
"เจ้าเคยได้ปะมือกับพลังที่เจ้าไม่รู้จักนั่นหรือไม่" คอบร้าสอบถาม
"เคยครับ แต่ว่าข้าไม่ได้เป็นคนสู้โดยตรงแต่สังเกตการณ์พลังนั้นจากระยะห่าง นั่นเป็นพลังของผู้ที่สังหารฮอร์สและทำให้สไปเดอร์บาดเจ็บสาหัส" นีเดิลเปิดภาพรูปของคิบะ ออกมาด้านหลังของเขา
"ดูจากรูปแบบพลังแล้ว ถ้าให้ข้าเดาคงจะเป็นพลังของพวกสิ่งมีชีวิตในตำนานฝั่งตะวันตก"
"แม้แต่เจ้าพวกนั้นก็ยังคิดจะมาขัดขวางพวกเรางั้นรึ ท่าทางจะเกิดเรื่อยุ่งยากขึ้นเยอะเลยสินะ" คอบร้าทำความเข้าใจ "นีเดิลข้าจะให้โอกาสเจ้าแก้ตัว เจ้าจงกลับไปยังฟูโตะและจงจับเป็นหนึ่งในแปดของเหล่าผู้ได้รับพลังนี้มา พวกเราจะได้ทำการตรวจสอบพลังของพวกมัน และไม่แน่ว่าพลังของพวกมันจะสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการพัฒนาสายพันธ์ในก้าวไปอีกขั้นก็เป็นได้" คอบร้าสั่ง
"ได้ตามที่บัญชาครับ" นีเดิลโค้งคำนับรับคำสั่ง
"เพียงแต่ว่าจากการสูญเสียในครั้งนี้ทำให้ข้าต้องหาลอสท์ฝีมือดีๆไปช่วยทำให้แผนการนี้สำเร็จให้ได้"
"ไม่ต้องห่วงข้าได้จัดลอสท์ที่จะไปกับเจ้าไว้เรียบร้อยแล้ว" คอบร้าพูด
"บีทเทิล แสต็กออกมาได้!" ทันทีที่คอบร้าสั่งลอสท์รูปแบบด้วงเขา(บีทเทิล) และด้วงกวาง(แสต็ก) ก็ออกมาจากเงามืดพร้อมที่รับคำสั่งจากคอบร้าทันที
"สองพี่น้องบีทเทิลและแสต็ก ลอสท์สวมเกราะที่ได้รับขนานนามว่าเป็นคู่ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาลอสท์ทั้งหลาย จะให้ใช้พวกเขาสองคนในการจับตัวเจ้าพวกเด็กนั่นเรอะครับ ?" นีเดิลถามเพื่อความแน่ใจ
"จากตัวเลขความสูญเสียที่คาดไม่ถึงในครั้งนี้ทำให้พวกเราจำต้องระมัดระวังในพวกมันมากขึ้น การใช้พวกเขาก็เพื่อที่แผนการของเราจะสำเร็จได้โดยง่าย และเพื่อป้องกันไม่ให้มีความสูญเสียไปมากกว่านี้" คอบร้าพูด
"ข้าจะปฏิบัติตามที่ท่านประสงค์ ท่านคอบร้า" นีเดิลโค้งคำนับ แล้วเดินออกจากห้องนี้ไปพร้อมกับลอสท์ทั้งสองตัว
นีเดิลเดินมาที่เครื่องวงแหวนวงกลมบางอย่าง ดูเหมือนว่าจะเป็นประตูข้ามมิติที่พวกลอสท์มี คล้ายกับระเบิดสั่นสะเทือนคลื่นมิติเวลาที่เป็นขนาดพกพาที่พวกมันเคยใช้
"เอาล่ะ แผนการจับเป็นเจ้าพวกนั้น คงจะลงมือสุ่มหี่สุ่มห้าไม่ได้ต้องเตรียมตัวและแผนไว้รับมือกับพวกมันโดยเฉพาะ"
"แค่จับเด็กคนนึงมันจำเป็นที่จะต้องทำอะไรถึงเพียงนั้นเลยงั้นรึ" บีทเทิลสงสัย
"แค่เด็กอมมือไม่เอาไหนพวกนั้นคิดว่าจะมาสู้ลอสท์อย่างพวกเราได้เรอะ ไร้เหตุผลสิ้นดี" แสต็กดูถูกความเก่งกาจของพวกเขา
"พวกท่านทั้งสองพวกท่านก็น่าจะทราบดีเรื่องความสูญเสียที่เกิดขึ้นแล้วนี่ ระดับพวกนั้นข้าไม่คิดว่าพวกเราจะจัดการได้ง่ายอย่างที่คิด แต่ว่ายังไงพวกมันก็เพิ่งได้เริ่มต่อสู้ได้เพียงวันเดียว เรื่องกลยุทธ์หรือวิธีต่อสู้ก็คงแค่เป็นไปตามสัญชาตญาณของพวกเขาเท่านั้น ถ้าเป็นอย่างที่ข้าคิดการที่จะเอาชนะพวกมันก็คงไม่ใช่เรื่องยาก" นีเดิลตาดคะเน
"เดี๋ยวพวกเราจะเป็นคนทำหน้าที่นั้นเอง นีเดิลเจ้าคอยยืนอยู่เฉยๆด้านหลังไปเถอะ" บีทเทิลบอก
"ใช่ๆ เจ้าอยู่ที่นี่ก็เป็นได้แค่ตัวถ่วงพวกเราเปล่าๆ ให้พวกเราสองคนลุยกันเองเท่านี้ก็จะไม่มีช่องโหว่ต่อให้พวกมันทั้งแปดเข้ามาพร้อมๆกันก็ชนะพวกเราไม่ได้!" แสต็กเชื่อมั่นในความเก่งกาจของพวกมันทั้งสองมาก
"ถ้าพวกท่านต้องการเช่นนั้นข้าก็จะทำตามที่พวกท่านต้องการ ข้าจะทำหน้าที่เป็นคนสนับสนุนพวกท่านเอง แต่ต้องขอให้พวกท่านเป็นคนสู้กับเจ้าพวกนั้นซึ่งๆหน้าด้วยล่ะ" นีเดิลทำตัวเป็นอ่อนน้อทถ่อมตน
"วางใจเถอะ พวกเราน่ะแข็งแกร่งที่สุดใช่มั้ยพี่!" แสต็กพูดกับพี่ชายคนของตัวเอง
"ถึงจะแข็งแกร่งแต่ว่าพพวกเราเองก็ต้องการกำลังสนับสนุน นีเดิลหากเจ้าเห็นพวกเราย่ำแย่เมื่อไหร่ก็ต้องขอให้เจ้ามาช่วยเหลือพวกเราในยามนั้นด้วย....เพียงแต่ว่า โอกาสนั้นอาจจะไม่มี เพราะพวกข้านั้นจะล้มพวกมันก่อนที่พวกมันจะได้ทำอะไรเสียอีก!" บีทเทิลประกาศ
"ถ้าเช่นนั้นก็ขอให้พวกท่านทำตามที่พวกท่านต้องการเถอะครับ" นีเดิลยิ้มอย่างเป็นมิตร แต่จริงๆแล้วรอยยิ้มของปิศาจร้ายได้ซ่อนอยู่ภายในความมิตรนี้อีกที
"คงจะได้เวลาที่พวกเราจะต้องไปบ้างแล้ว" นีเดิลสั่งสัญญาณให้เหล่านักวิทยาศาสตร์ชุดขาวของลอสท์เปิดเครื่องวงกลมตรงหน้า
"สถานที่ที่จะไปคือทวีปเอเชียตะวันออก ประเทศญี่ปุ่น เมืองฟูโตะ พื้นที่ขอบเขตการปกครองเอเรีย 1 ภูมิภาคกลาง หาสถานที่ที่คาดว่าจะมีประชาชนน้อยที่สุดและทำการส่งพวกเราไปที่นั่น" นีเดิลบอกรายละเอียดสถานที่ นักวิทยาศาสตร์ของลอสท์ก็ใส่ข้อมูลดังกล่าวลงไปในเครื่องและเริ่มหาจุดที่เหมาะในการลงไป
"กำหนดสถานที่ได้แล้วครับ บนชั้นดาดฟ้าของตึกของบริษัท Tormenta(ภาษาสเปน = พายุ)"
"เข้าใจแล้ว" ทันทีที่เดินเครื่องสั่นสะเทือนมิติวลาก็เกิดเป็นช่องว่างมิติสีดำขึ้นมา
นีเดิล บีทเทิลและแสต็ก ลอสท์ทั้งสามเดินเข้าไปในช่องว่างมิตินั้นอย่าไม่มีความกลัวเกรง และส่งพวกเขาไปยังที่แห่งนั้นภายในทันที
โรงพยาบาล WINDY เวลา 20.30 น.
ที่โรงพยาบาลที่โอโตนาชิ โคโตริเลขานุการของ 765 โปรดักชั่น ได้พาเหล่าเด็กหนุ่มผู้ถูกเลือกโดยชะตากรรมนั้นมายังที่แห่งนี้เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บได้รับมาจากการต่อสู้ แต่ในบรรดาพวกเขาทั้งเจ็ดคนนั้นมีเพียงแค่สามคนเท่านั้นที่สามารถกลับไปที่บ้านได้เพราะไม่ได้รับอาการบาดเจ็บถึงขนาดที่ต้องนอนโรงพยาบาลซึ่งประกอบไปด้วย จุนอิจิ อากิฮิสะ และไซโตะ และพวกเขาก็ถูกนัดหมายให้มายังสำนักงานในวันรุ่งขึ้น
ส่วนโอริมูระ อิจิกะที่ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้กับสกอร์เปี้ยนในร่างมนุษย์จนได้รับบาดเจ็บไปเกือบทั่วทั้งร่างกาย และยังต่อสู้ในโดยการเป็นดับเบิ้ล ทั้งๆที่ร่างกายเองก็ยังเจ็บอยู่ เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บให้หายจึงถูกบังคับในนอนที่โรงพยาบาล โดยมีชารล์ ดูนัวร์หญิงสาวที่เขาช่วยไว้อยู่เคียงข้าง
ทางซาการะ โยชิฮารุที่ได้รับผลจากแรงระเบิดที่ลอสท์ปิรันย่าทำไว้ ทำให้เขาเองก็ได้รับบาดเจ็บไม่แพ้กัน
เพียงแต่ว่าอาการโดยรวมแล้วตัวโยชิฮารุถือว่าอาการดีกว่าอิจิกะเพราะบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่เพื่อป้องกันการเกิดอันตรายอื่นจึงถูกบังคับในนอนที่โรงพยาบาลเพื่อดูอาการให้แน่นอน โดยมีโอโตนาชิ ดคโตริเลขานุการของ 765 โปรดักชั่น ผู้นำพาพวกเขาเจ็ดคนมารวมกัน
และทาคากิ ยูทาโร่ได้ไปนอนค้างอยู่ที่บริษัทพร้อมกับคุณตาและอามามิ ฮารุกะไปดอลของ 765 โปร
และคนต่อมา....
"แฮ่ก...แฮ่ก!" ซาเต็น รุยโกะรีบมายังโรงพยาบาล WINDY ในทันทีหลังจากที่เธอได้รับโทรศัพท์จากผู้หญิงที่เธอไม่รู้จัก และบอกว่าตอนนี้พี่ชายของเธออยู่ที่โรงพยาบาล เธอรีบวิ่งไปที่เคาน์เตอร์ของโรงพยาบาล
"คุณพยาบาลคะ ทราบมั้ยคะว่าตอนนี้คามิโจว โทวมะอยู่ที่ห้องอะไรน่ะค่ะ ?"
"โปรดรอสักครู่นะคะ" พยาบาลกดเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์หาห้องที่โทวมะพักรักษาตัวอยุ่
"ค่ะ เจอแล้วแล้วค่ะ ห้อง 108 ค่ะอยู่ชั้นบนค่ะ ไม่ทราบว่าคุณเป็นญาติของเขาเหรอคะ ?"
"น้องสาวค่ะ ขอบคุณมากนะคะ!" เมื่อรุ้ห้องที่โทวมะอยู่แล้ว รุยโกะก็รีบวิ่งขึ้นบันไดแล้วตรงไปที่ห้อง 108 ทันที
เธอจับลูกบิดประตูแล้วเปิดประตูเข้าไปในห้องในทันที "พี่โทวมะ!!"
"รุยโกะ มีอะไรทำไมวิ่งมาขนาดนั้นล่ะ ?" โทวมะที่นอนพักอยุ่ที่เตียงถึงกับสะดุ้งเมื่อน้องสาวบุญธรรมเข้ามาอย่างรีบเร่งแบบนี้
"คนที่ควรถามน่ะหนูต่างหากล่ะ" รุยโกะขมวดคิ้ว เธอเลื่อนเก้าอี้ไปอยู่ข้างเตียงของโทวมะและนั่งลงอย่างอารมณ์เสีย "พี่โทวมะนี่ชอบทำให้คนอื่นเป็นห่วงอยู่เรื่อยเลย ชอบไปหาเรื่องใส่ตัวแล้วก็ไปเจ็บตัวมาทุกที่สิน่า หนูก็อุตส่าห์ออกมาจากบ้านเพื่อตามหาพี่ในเมืองแต่ก็หาไม่เจอ จนได้รับโทรศัพท์จากพี่สาวที่บอกว่าเป็นเลขาของ 765 นี่ล่ะถึงได้มาถูก"
"ขอโทษนะที่ทำให้เป็นห่วงน่ะ" โทวมะขอโทษ
"แต่ที่ต้องมานอนโรงพยาบาลเนี่ยไม่ใช่เพราะโดนรุมอัดมาหรอกนะ"
"ไม่ได้โดนรุมอัดมา แล้วไปโดนอะไรมาล่ะคะถึงเป็นแบบนี้ ?" รุยโกะเกิดความสงสัยแต่เมื่อเธอมองหน้าโทวมะ เธอก็เข้าใจในทันที "ปะ...ไปสู้มางั้นเหรอคะ ทำไม...ถึงต้องแปลงร่างด้วยล่ะ ศัตรูมันเป็นตัวอะไรถึงกับต้องใช้พลัง ?"
"ก็ไม่รู้รายละเอียดนักหรอก รู้แค่ว่ามันเรียกตัวเองว่าลอสท์น่ะ" โทวมะเล่าเรื่องที่ตัวเองพอรู้ให้รุยโกะฟัง
"ฉันคิดว่าถ้าปล่อยมันไว้คงจะต้องเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นตามมาอีกแน่ ก็เลยสู้กลับไปและก็เอาชนะมันมาได้ ร่างกายก็ไม่ได้บาดเจ็บอะไรนะ แต่ดูเหมือนพวกหมอเขาเช็คว่าเป็นโรคร้ายอะไรเนี่ยล่ะ"
"โรคร้าย โรคอะไรงั้นเหรอคะ ?" รุยโกะรีบถามด้วยความเป็นห่วง
"เออ...จริงๆแล้วพวกเขาตรวจผิดน่ะ จริงๆแล้วไม่ได้มีอาการอะไรเลย ดูเหมือนเครื่องมันจะมาเจ๋งตอนตาฉันพอดีน่ะ" โทวมะเล่าความจริง
รุยโกะถอนหายใจ "..ค่อยเบาใจลงหน่อย คิดว่าพี่โทวมะจะเป็นอะไรไปซะแล้ว"
"หึ ร่างกายของคุณคามิโจวน่ะมันฟื้นตัวเร็วยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้นล่ะ ต่อให้โดนระเบิดมาก็ไม่เป็นไร" โทวมะอวด รุยโกะจึงหยิบไม้เบสบอลมาตีหัวด้วยความหมั่นไส้ "รุยโกะมันเจ็บนะ และตีคนที่ป่วยอยู่มันไม่ดีนะ"
"พี่โทวมะพูดได้ซะขนาดนั้นหนูคิดว่าคงไม่ตายหรือไม่เป็นอะไรแน่ค่ะ" รุยโกะบอก
"ถ้าอย่างงั้นดูเหมือนว่าพี่ยังไงก็ต้องนอนที่นี่สินะคะ ถ้าอย่างงั้นหนูจะโทรไปบอกพ่อกับแม่ว่าวันนี้หนูและพี่โทวมะจะไม่กลับละกันนะคะ"
"อ้าว รุยโกะจะนอนที่นี่ทำไมล่ะ ก็ไม่ได้ป่วยไม่ใช่เหรอ ?" โทวมะงง
ซาเต็นหันกลับมาพร้อมกับออกอาการเขินเล็กน้อย "กะ..ก็น่าจะดูดีอยู่แล้วนี่"
"ก็จะเฝ้าดูอาการพี่โทวมะไง เวลามีคนเจ็บก็ต้องมีคนเฝ้าสิ อีกอย่างจะให้เด็กผู้หญิงออกไปเดินคนเดียวในเมืองยามค่ำคืนแบบนี้มันอันตรายนะคะ"
"อา จริงด้วย ขอบคุณนะรุยโกะ งั้นฉันขอนอนก่อนล่ะ" โทวมะขอบคุณและพลิกตัวไปอีกข้างแล้วหลับลงนอน
และคนสุดท้ายที่ต้องนอนที่โรงพยาบาลเช่นกัน โดยเขานั้นยังเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน และเขาก็ยังไม่รู้สึกตัว เขายังเป็นคนที่ได้รับบาดเจ็บที่ในบรรดาทุกคน ถึงแม้ว่าอาการของเขาจะดีขึ้นแล้ว แต่ก็ยังไม่ทราบว่า อะยาซากิ ฮายาเตะ....เขาจะตื่นขึ้นมาเมื่อใด.....
และแล้ววันแห่งการเริ่มต้นนี้ผ่านพ้นไป เข้าสู่วันใหม่....
.
.
.
.
??? เวลา ??.?? น.
ภายในความมืดมิดที่ไร้ซึ่งแสงสว่าง ทุกๆอย่างรอบข้างล้วนเป็นสีดำ ความมืดมิดที่ปกคลุมไปทั่วทุกที่ ไร้ซึ่งจุดสิ้นสุด ไร้ซึ่งจุดเริ่มต้น ไร้ซึ่งเสียง ไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิต มีเพียงความว่างเปล่า แต่ว่าเมื่อมีแสงไฟสีฟ้าดวงเล็กๆเกิดขึ้น บางสิ่งที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดก็รีบเข้าหาแสงนั้นทันที
ดวงแสงนั้นได้ก่อร่างเป็นมนุษย์ เขาคืออะยาซากิ ฮายาเตะ ชายหนุ่มที่ประสบกับชะตากรรมที่โหดร้ายกว่าใครอื่น ทั้งเรื่องที่พ่อแม่ของเขาทิ้งเขาไว้พร้อมกับหนี้ 156,804,000 เยน เรื่องที่เขาเกือบเอาตัวไม่รอดจากการตามล่าของเหล่ายากูซ่า เรื่องที่เขาเกือบต้องมาตายด้วยฝีมือของสัตว์ประหลาดแมงมุม และเรื่องที่เขาได้ไคว่ขว้าดวงแสงสีฟ้าดวงนึงไว้สิ่งนั้นมันทำให้ชีวิตของเด็กหนุ่มคนนึงเปลี่ยนไป
ฮายาเตะรีบวิ่งหนีบางอย่างที่มาจากเงามืด ถึงจะมองไม่เห็นมันแต่ว่าเสียงร้องคำราม เสียงร้องโหยหวน เสียงของความตายก็ดังมาจากทั่วทุกสารทิศ ภายในความืดมิดที่ไม่มีสิ้นสุดนั้น เด็กหนุ่มทำได้เพียงวิ่งไปข้างหน้าเท่านั้นโดยที่ไม่รู้เลยว่าข้างหน้าของเขาจะมีอะไรรออยู่
"ทำไมเราถึงมาที่นี่ได้...ที่นี่มันที่ไหน!?" เด็กหนุ่มถามตัวเอง
เขาวิ่งตรงไปเรื่อยแต่เมื่อมาถึงจุดหนึ่งเขาก็ชนเข้ากับกำแพงสีดำ ทำให้เขาไปต่อไม่ได้ "แย่แล้วแบบนี้จะทำยังไงดี!" ฮายาเตะพยายามคลำหาทางออกไปเรื่อยๆแต่ว่าไม่ว่าจะพยายามไปมากเท่าไหร่ก็ไม่สามารถหาทางออกไปจากความมืดมิดนี้ได้ จนเสียงร้องของปิศาจที่ดังมาจากด้านหลังดังขึ้นเรื่อยทำให้เขารู้ว่าต้องรีบเข้าแล้ว
"อยู่ที่ไหน ทางออกอยุ่ที่ไหน!?"
ทันใดนั้นใยแมงมุมได้ถูกพ่นออกมารัดแขนของเด็กหนุ่มไว้ "นะ...นี่มัน"
เขาหันกลับไปก็พบว่าเงามืดค่อยรวมตัวกันและค่อยๆเปลี่ยนตัวเองเป็นลอสท์สไปเดอร์ "แกต้องตาย ข้าจะต้องชำระแค้นเรื่องที่แกทำกับข้าไว้!"
เงาดำอื่นๆเองก็ค่อยๆก่อร่างสร้างตัวเป็นลอสท์ที่ตายไปแล้ว "ชำระแค้น...ชำระแค้น...ชำระแค้น"
ความืดมิดทั้งหลายเดินเข้าไปใกล้ฮายาเตะและเขารุมล้อมเขาจนแสงสว่างหายไป
"อย่าเข้ามานะ...อย่าเข้ามา!!" เด็กหนุ่มตะโกน แสงสว่างสีฟ้าจากร่างของเขาถูกปลดปล่อยออกมา ทำลายเหล่าเงาสีดำและเปลี่ยนความมืดมิดให้กลับเป็นแสงสว่างสีเขียวอมฟ้า
"นี่มัน...เกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย!?" เด็กหนุ่มมองฝ่ามือของตัวเอง
ฮายาเตะเงยหน้าขึ้นเขาก็พบเห็นเด็กผู้หญิงที่ถูกขังอยู่ในกรงสีทอง แต่ว่ามันเป็นที่ที่ไกลมาก ไกลมากถึงขนาดที่วิ่งไปภายในวันนี้เขาก็ไม่มีทางที่จะถึงจุดหมายอย่างแน่นอน แต่สำหรับมนุษย์ที่ตอนนี้ไม่รู้จะไปมีที่พึ่งที่ไหนแล้วเขาก็ทำได้เพียงวิ่งตามเธอคนนั้นไป และถึงแม้จะอยู่ห่างไกลแต่เด็กหนุ่มก็สามารถมองเห็นหยดน้ำตาของเธอที่ร่วงลงสู่พื้นสีขาวได้อย่างชัดเจน และน้ำตาหยดนั้นก็ได้ทำให้แสงสีฟ้านี้เปล่งประกายจ้ามากขึ้นจนทำให้เด็กหนุ่มหายไปในแสงนั้น....
โรงพยาบาล WINDY เวลา 06.10 น.
"ว้าา!!" ฮายาเตะสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากความฝัน "ความฝัน...อย่างงั้นเรอะ..."
เด็กหนุ่มเมื่อฟื้นมายังโลกแห่งความจริงแล้ว เขาหันไปมองรอบๆพบว่าตัวเองอยู่ในที่ที่ไม่คุ้นเคย และไม่น่าจะเป็นบ้านของเขา "ที่นี่ที่ไหน..โรงพยาบาลงั้นเรอะ ?"
ฮายาเตะหันไปมองป้ายที่ติดอยู่ข้างๆที่เขียนว่า 'โรงพยาบาล WINDY' ก็ทำให้เขาทราบถึงที่ที่เขาอยู่ตอนนี้แล้ว
"ทำไมเราถึงมาอยู่ที่นี่ได้ เมื่อวานนี้จำได้ว่า..."
ภาพของเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นได้กลับมาในความทรงจำของเด็กหนุ่มอีกครั้งทำให้เขารู้ถึงสาเหตุที่ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ "...เราสู้กับสัตว์ประหลาดแมงมุมตัวนั้นแล้วก็ล้มลงไป แต่ว่าหลังจากนั้นเราก็จำอะไรไม่ได้เลย"
ตอนนั้นเองทาคากิ โซอิจิโร่ประธานบริษัท 765 โปรดักชั่น และเป็นคุณตาของยูทาโร่ ชายผู้เป็นหัวหน้าของโคโตริผู้สั่งให้เธอรวบรวมเหล่าเด็กหนุ่มผู้ได้รับพลังลึกลับ ได้เปิดประตูเข้ามาในห้องของฮายาเตะและเห็นว่าเขาได้ฟื้นจากอาการบาดเจ็บแล้ว "อา...ในที่สุดก็รู้สึกตัวแล้วสินะ อะยาซากิ ฮายาเตะคุง"
"คุณคือ...ทำไมรู้ชื่อผมล่ะครับ ?" ฮายาเตะแปลกใจกับชายแก่ที่เขาไม่รู้จักทำไมถึงรู้จักชื่อของเขา
"เมื่อวานตอนบ่ายเธอได้มาส่งเอกสารสำคัญเกี่ยวกับการจัดแสดงงานคอนเสิร์ตให้ฉัน และตอนที่เธอขี่จักรยานตกลงไปในชั้นรถไฟใต้ดินเธอได้ทำนี่ตกไว้น่ะ" โซอิจิโร่หยิบบัตรประจำตัวของฮายาเตะขึ้นมา
"นั่นมันของผมนี่...นึกออกแล้วคุณคือคนที่ผมมาส่งเอกสารให้เมื่อวานนี่"
"อืม ไม่คิดเลยนะว่าจะได้เจอเธออีกในสภาพนี้น่ะ" โซอิจิโร่นั่งลงบนโซฟาข้างๆเตียงผู้ป่วย
"ว่าไงหลังจากที่ผ่านเหตุการณ์ที่เลวร้ายเมื่อวานมา ตอนนี้รู้สึกเป็นไงบ้างล่ะ ?"
"คุณรู้เหรอครับ ?" ฮายาเตะไม่ตอบคำถามของโซอิจิโร่แต่กลับเป็นถามเพราะดูเหมือนว่าชายชราคนนี้จะรู้เรื่องต่างๆอย่างดีมากกว่าตัวเขาเองเสียอีก
"รู้สิ รู้ว่าเธอต้องเจอกับสัตว์ประหลาดนั่น รู้ว่าเธอได้รับพลังที่คาดไม่ถึงมา และก็รู่ว่าเธอใช้พลังนั้นจัดการมันลงได้" โซอิจิโร่บอก
"เรื่องนั้นมันไม่ใช่ความฝันจริงๆสินะครับ" ฮายาเตะรำพึง
"ต้องบอกว่าโชคร้ายน่ะนะที่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อวานคือความจริง และเธอเองก็เกือบเอาชีวิตไม่รอดแล้วด้วย ถ้าเกิดไม่ได้พลังนั่นมา"
เมื่อนึกถึงเมื่อวานฮายาเตะก็นึกออกว่าตัวเองได้รับบาดเจ็บไปทั่วทั้งตัวแน่นอน เพราะเขาถูกสไปเดอร์ทำร้ายจนร่างกายบอบช้ำไปหมด แต่พอเขาสำรวจร่างกายตัวเองอีกทีก็พบว่าไม่มีบาดแผล ไม่มีรอยแผลเป็น ขนาดแผลที่โดนแทงทะลุก็ยังหายเหมือนกับว่าไม่เคยเป็นอะไร
"คุณบอกให้หมอของที่นี่รักษาผมงั้นเหรอครับ ?"
"ก็ไม่เชิง บาดแผลทั้งหมดที่เธอน่าจะเป็นพอเลขาของฉันที่เป็นคนไปรับเธอไปถึงก็บอกว่าเธอนอนกองนองเลือดอยู่ที่สวนสาธารณะพร้อมเศษอวัยวะและซากศพของกลุ่มคนที่คาดว่าน่าจะเป็นพวกแก๊งอะไรซักอย่าง แต่ไม่มีร่องรอยของลอสท์แม้แต่น้อย ถึงแม้จะมีร่องรอยจากการต่อสู้อยุ่มากก็ตามล่ะนะ" โซอิจิโร่เล่า
"เมื่อวานเกิดอะไรขึ้นแล้วเจ้าสัตวืประหลาดนั้นเธอปล่อยให้มันหนีไปได้งั้นเหรอ ?"
"เปล่าครับ" ฮายาเตะส่ายหน้า
"ผมเป็นคนจัดการกับเขาเอง และเขาก็สลายหายไปต่อต่อตาผมจากนั้นผมก็จำอะไรไม่ได้ต่อจากนั้น"
"อืม อย่างงั้นเรอะ" โซอิจิโร่ทำความเข้าใจ
ฮายาเตะหันไปมองที่ของสัมภาระของเขาที่วางอยู่บนโต๊ะข้างๆก็เห็นมี ไดร์เวอร์และไรด์บุ๊คอุปกรณ์ที่เขาใช้ต่อสู้เมื่อวานวางอยู่ตรงนั้นด้วย "คุณรู้มั้ยครับว่าพลังนั้นคือพลังอะไร ?"
โซอิจิโร่ส่ายหน้า "พลังที่เธอมีเป็นพลังที่ดูแปลกที่สุดในบรรดาพวกเธอทุกคน มันไม่ใช่พลังของฝั่งวิทย์หรือฝั่งเวท และดูเหมือนว่าจะไม่ใกล้เคียงกับรูปแบบพลังใดบนโลกเลยแม้แต่น้อยด้วย"
ตอนที่โซอิจิโณ่พูดนั้นฮายาเตะก็รู้สึกตะหงิดใจกับคำๆนึง "บรรดาพวกเธอทุกคน...หมายความว่ายังไงครับ ?"
"อ้อ จริงด้วยเธอยังไม่รู้สินะ"
"รู้เรื่องอะไรเหรอครับ ?" ฮายาเตะถาม
"เธอน่ะไม่ใช่คนเดียวที่ได้พลังลึกลับที่คล้ายๆแบบนี้มาน่ะสิ ยังมีคนอื่นๆที่พบกับชะตากรรมเดียวกันกับเธออยู่ด้วย" โซอิจิโร่ชี้แจง ฮายาเตะถึงกับพูดอะไรไม่ออกเมื่อได้ยินสิ่งที่เขาบอก
"แต่ว่าทุกคนดูเหมือนจะมีรูปแบบพลังที่ต่างกันออกไป และไม่มีใครที่มีพลังเหมือนเธอเลยสักคนน่ะนะ"
"อย่างงั้นเหรอครับ ถ้าแบบนั้นตอนนี้คนอื่นๆเขาเป็นยังไงบ้างครับ ปลอดภัยดีรึเปล่า ?" ฮายาเตะห่วงความปลอดภัยของคนที่เขาไม่รู้จักก่อนทำให้โซอิจิโร่รู้สึกแปลกใจไม่น้อย
"ตอนนี้ทุกคนปลอดภัยดี โดยรวมแล้วก็ดีกว่าเธอน่ะนะ อะยาซากิคุง ก่อนที่จะห่วงคนอื่นห่วงตัวเองก่อนก็ดีนะ" โซอิจิโร่แนะนำ เด็กหนุ่มอมยิ้มและก้มหน้าลงเล็กน้อย
"ถ้าเกิดมีคนที่มีพลังแบบผมอยู่จริงๆ พวกเขาก็อาจจะต้องพบกับเรื่องน่ากลัวแบบนี้เหมือนกับผม ผมจึงเป็นห่วงพวกเขาน่ะครับว่าจะทำใจรับมือกับเรื่องได้รึเปล่า"
"แปลกคนดีนะเธอเนี่ย" โซอิจิโร่ชม เขามองนาฬิกาข้อมือของตัวเองก็ทำให้เขารู้ว่าถึงเวลาต้องไปแล้ว
"ถ้าเธออยากจะรู้ความจริงของเรื่องที่เกิดขึ้น่ละก็ก็ขอให้ไปที่ 765 โปรดักชั่นตอนเที่ยงนี้นะ ที่นั่นฉันจะเป็นคนให้คำตอบเธอเอง และเธอเองก็อาจจะได้พบกับคนที่เดินบนชะตากรรมเส้นทางเดียวกันกับเธอก็ได้"
"ครับ ขอบคุณนะครับสำหรับทุกอย่าง" ฮายาเตะกล่าวขอบคุณ
ชายวัยกลางคนเปิดประตูและเดินออกไปจากห้อง
หลังจากที่ได้อยุ่คนเดียวแล้ว ฮายาเตะได้เอื้อมมือไปหยิบไดร์เวอรืและไรด์บุ๊คของเขาดูใกล้ๆ
"นี่ก็คือ...พลังของเรา ?"
หน้าบริษัท 765 โปรดักชั่น เวลา 11.07 น.
หลังจากนั้นฮายาเตะได้ขอออกจากโรงพยาบาลซึ่งก็สามารถออกได้โดยง่ายเพราะดูเหมือนทางโซอิจิโร่จะทำเรื่องทุกอย่างไว้แล้ว เขาก็ตัดสินใจที่จะรู้ความจริงจึงไปยัง 765 โปรดักชั่น ที่ที่เด็กหนุ่มคิดว่าเขาจะได้คำตอบของทุกอย่าง
"ที่นี่สินะ 765 โปรดักชั่น" เด็กหนุ่มมายืนอยุ่หน้าตึกสูงภายในเมืองใหญ่ ที่มั่นใจได้ว่าเป็นบริษัทที่ว่าเพราะว่ามีป้าย 765 เขียนเด่นสง่าอยู่บนอาคาร
"ยังไงก็ลองเข้าไปก่อนดีกว่า" เด็กหนุ่มกำลังจะก้าวเท้าเข้าไปในบริษัท
"เฮ้ นายน่ะ!" เสียงของชายคนึงดังขึ้นทำให้ฮายาเตะต้องหยุดและหันกลับมาตามเสียง
"ครับ ?"
ชายผู้ที่เรียกฮายาเตะก็คือฮิรากะ ไซโตะ ชายผู้ใช้พลังจากคิบัทค้างคาวพูดได้แปลงร่างเป็นคิบะ นักรบสวมเกราะสีเลือด "หน้าตานายคุ้นๆนะ เราเคยเจอที่ไหนมาก่อนรึเปล่า ?"
"อืม...นั่นสินะครับ" ฮายาเตะมองหน้าของไซโตะและพยายามนึกเช่นกัน
"อ้อ...เจ้าคนที่ช่วยจับขโมยเมื่อวาน/คนที่ช่วยผมจับโจรวิ่งราวเมื่อตอนนั้น" ทั้งสองนึกออกพร้อมกัน
"ไงสบายดีสินะ แล้วนายมาที่นี่ทำไม ?" ไซโตะถาม "จะมาสมัครเป็นไอดอลเรอะ ?"
"ไม่ใช่ครับ คือผมมีธุระที่สำคัญที่ต้องมาคุยกับประธานของที่นี่น่ะครับ" ฮายาเตะบอก "เป็นเรื่องสำคัญที่ผมต้องการจะรู้ให้ได้น่ะครับ"
ไซโตะได้ยินฮายาเตะเล่าแบบนี้แล้วทำไมเขารู้สึกบางอย่าง "เดี๋ยวนะหรือว่านายก็ด้วย ?"
"ผมก็ด้วย.." ฮายาเตะงงกับสิ่งที่ไซโตะบอก แต่ว่าเมื่อเขาลองคิดดีๆเขาก็เข้าใจ
"หรือว่าคุณเองก็....เป็นเหมือนกับผม ?"
"ถูกต้องแล้วล่ะ แต่ว่าคู่หูของฉันเขาเป็นพลังที่เรียกว่าคิบะยังไงล่ะ" คิบัทพูดมาจากถุงผ้าของไซโตะ
"เมื่อกี้เสียงมาจากไหนน่ะครับ ?" ฮายาเตะสงสัยกับเสียงที่เขาได้ยิน
"อะ...เปล่าๆไม่มีอะไร ไม่มีเสียงอะไรทั่งนั่นล่ะ" ไซโตะพยายามกลบเกลื่อนและเขย่าคิบัทที่อยู่ในถุงผ้าเพื่อทำให้มันเงียบ "ถะ...ถ้าอย่างงั้นเดี๋ยวฉันขอตัวเข้าไปก่อนนะ ต้องรีบเข้าไปก่อนน่ะ"
ไซโตะรีบเข้าไปในบริษัทก่อนทันที ทิ้งฮายาเตะให้ยืนอยู่ข้างนอกแบบงงๆ
"เราเองก็คงต้องเข้าไปสินะ" ฮายาเตะตัดสินใจเดินตามไซดตะเข้าไปในบริษัท
ทันทีที่เขาเข้าไปภายในนั้นเขาก็ตามหาประชาสัมพันธ์เพื่อที่จะถามถึงห้องของโซอิจิโร่ "เออ คือว่าห้องของประธานของที่นี่อยู่ทีไหนเหรอครับ ?"
"ค่ะ โปรดแจ้งชื่อของท่านก่อนค่ะ" ประชาสัมพันธ์บอก
"ผมชื่ออะยาซากิ อายาเตะครับ ท่านประธานของทีนี่เขานัดผมไว้" ฮายาเตะตอบ
"รอสักครู่นะคะ" ประชาสัมพันธ์หญิงรีบกดเครื่องคอมพิวเตอร์และเช้คตารางของประธานทันที
"ค่ะ ท่านประธานรออยู่ที่ห้องประชุมชั้นบนสุดค่ะ"
"ครับขอบคุณมากนะครับ" ฮายาเตะเสร็จแล้วก็เดินไปที่ลิฟท์เพื่อที่จะขึ้นลิฟท์ไปยังชั้นบน
ตอนที่เขาเดินมาถึงนั้นเขาก็เจอผู้หญิงคนนึงเพิ่งสะดุดตรงหน้าลิฟท์พอดี เขาจึงวิ่งไปดูอาการของเธอ "คุณครับ เป็นอะไรรึเปล่า ?"
"แฮะๆ ลื่นล้มจนได้ ไม่เป็นไรๆฉันลื่นล้มเป็นประจำอยุ่แล้วน่ะ" เธอคืออามามิ ฮารุกะ ไอดอลของ 765 โปรดักชั่น และยังเป็นเพื่อนสมัยเด็กของทาจิบานะ จุนอิจิ
ฮายาเตะยื่นมือช่วยดึงเธอยืนขึ้น "ขอบใจนะ"
"ไม่เป็นไรครับ เออ...คุณคือ ?"
"อ้อ ฉันชื่ออามามิ ฮารุกะเป็นไอดอลที่ทำงานที่นี่น่ะ" ฮารุกะแนะนำตัว "ยินดีที่ได้รู้จักนะ...เออ..."
"ขอโทษครับ ผมอะยาซากิ ฮายาเตะครับ คือวันนี้ท่านประธานของที่นี่เขานัดผมไว้ผมจึงจะไปพบน่ะครับ"
"เอ๋ หรือว่าเธอจะเป็นคนที่แปดน่ะ" ดวงตาของฮารุกะเปล่งประกาย
ฮายาเตะตกใจที่ฮารุกะแสดงท่าทีแบบนี้เมื่อเธอรู้ว่าเขาเป็นอะไร "คะ...ครับ" และตอนนั้นเองประตูลิฟท์ก็เปิดออก ทั้งสองจึงเข้าไปในลิฟท์แก้วนั้นเพื่อขึ้นไปชั้นบน พร้อมกับคุยกันระหว่างนั้น
"คุณอามามิ คือว่าคุ-" ระหว่างที่ฮายาเตะกำลังพูด ฮารุกะก็ตั้งนิ้วชี้ป้องปากชายหนุ่มไว้
"เรียกแันว่าฮารุกะดีกว่านะ แบบนั้นมันฟังดูสนิทสนมมากกว่าน่ะ พวกเราเองก็เป็นเพื่อนกันด้วยไม่ต้องทำตัวห่างเหินแบบนั้นหรอก" ฮารุกะขยิบตาให้ฮายาเตะ
"คะ...ครับ คุณฮารุกะ" ฮายาเตะตกลงตามที่ฮารุกะบอก
"แล้วคุณฮารุกะทำไมถึงรู้เรื่องของพวกผมได้ล่ะครับ ?"
"อืม พูดยังไงดีล่ะ แบบว่าฉันน่ะรู้เรื่องพวกนี้มาตั้งแต่ปีที่แล้วแล้วน่ะ หลังจากนั้นมาก็รู้เรื่องทางนี้เรื่อยๆจนถึงเมื่อวานก็มารู้ว่ามีคนที่ได้รับพลังพิเศษมากถึงแปดคนในวันเดียว ก็เลยรุ้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษด้วย" ฮารุกะบอก
"และในบรรดาแปดคนตอนนี้ฉันเองก็เจอแค่ 3 คนเองนะ"
"มีผมแล้วก็คนอื่นอีกสองคนสินะครับ"
"พอดีว่ามีอยู่คนนึงที่คุยกันเป็นปกติอยู่แล้วน่ะ ส่วนอีกคนเพิ่งรู้จักกันเมื่อวานน่ะ" ฮารุกะอธิบาย
"แต่ไม่คิดเลยนะว่าในบรรดาทั้งแปดคนจะมีคนหน้าตาหน้ารักอย่างฮายาเตะคุงอยู่ด้วยน่ะ"
"งะ..งั้นเหรอครับ" ฮายาเตะรุ้สึกเขินและอายที่ได้รับคำชมแปลกๆ
"เอาล่ะ ถึงแล้ว!" ลิฟท์แก้วเลื่อนจนไปถึงชั้นบนสุด ทันทีที่ประตูลิฟท์เปิดออกทั้งสองเดินออกมาจากลิฟท์ แล้วฮารุกะก็เดินนำไปห้องประชุมของโซอิจิโร่
"ท่านประธานน่าจะอยู่ในนี้ล่ะ พร้อมกับคนอื่นๆน่ะ" ฮารุกะเปิดประตูเข้าไปในห้องประชุมก็พบว่าทุกคนอยุ่ข้างในกันหมดแล้ว
"อามามิคุง อะยาซากิคุงมาจนได้นะ นั่งก่อนสิ เท่านี้ก็ครบแล้วจะได้เริ่มคุยกันซักที" โซอิจิโร่บอก
"ฮารุกะ ?" จุนอิจิแปลกใจทันทีที่เห็นเพื่อนสมัยเด็กของตัวเองเข้ามาในห้องหน้าตาเฉย
"สวัสดีจุนอิจิ ไม่คิดเลยนะว่าจุนอิจิเองก็จะมาเกี่ยวด้วยเนี่ย" ฮารุกะคุยกับจุนอิจิอย่างกับไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
"ดะ..เดี๋ยวสิทำไมเธอถึงมาอยู่นี่ล่ะ ?" จุนอิจิถาม
"ฮะๆๆ เรื่องมันยาวน่ะ" ฮารุกะนั่งลงข้างๆจุนอิจิ
ฮายาเตะที่ไม่รู้จักใคร แต่พอเห็นไซโตะก็เลยไปนั่งข้างๆเขาทันที โดยที่ทางด้านซ้ายของเขานั้นคืออิจิกะ ถัดไปคือชาร์ล
"ผมขอนั่งด้วยนะครับ" ฮายาเตะบอกกับอิจิกะและไซโตะก่อนที่จะนั่ง
"เชิญตามสบายเลย" อิจิกะบอก
"นั่งไปเถอะ ไม่มีใครว่าหรอก" ไซโตะพูด
ทุกคนในห้องนั่งเป็นรุปตัวยู ไล่จากขวาไปซ้ายได้แก่ อากิฮิสะ,ฮารุกะ,จุนอิจิ,ไซโตะ,ฮายาเตะ,อิจิกะ,ชาร์ล,รุยโกะ,โทวมะ และสุดท้ายคือโยชิฮารุ
ส่วนโคโตริและยูทาโร่ยืนอยู่หลังห้อง ส่วนโซอิจิโร่อยู่หน้าห้อง
"ถ้าพร้อมแล้วก็จะเริ่มล่ะนะ" โซอิจิโร่พยักหน้าบอกโคโตริเธอก็เปิดภาพของลอสท์ขึ้นมา
"พวกเธอทุกคนคงจะรู้ดีกันอยู่แล้วสินะว่ามาที่นี่ทำไม องค์กรของพวกเราได้ค้นพบว่าพวกเธอทั้ง 8 คนนั้นได้รับพลังที่ยิ่งใหญ่มา และพลังเหล่านั้นก็ได้ทำให้พวกเธอผ่านช่วงเวลาวิกฤติจากการโจมตีของสิ่งมีชิวิตดัดแปลงพันธุกรรม หรืออีกชื่อนึง ลอสท์ มาได้"
"เออ...คือว่าอะไรคือลอสท์อย่างงั้นเหรอครับ ?" อิจิกะถาม
"คือก็เข้าใจอยู่ว่าพวกนั้นเป็นมนุษย์ที่กลายร่างเป็นสัตว์ชนิดต่างๆได้ แต่ว่าทำไมพวกนั้นต้องทำร้ายมนุษย์หรือต้องฆ่าพวกเขาเพื่อให้ได้พลังยิ่งใหญ่มา"
"จะอธิบายให้ ลอสท์นั้นจริงๆแล้วก็คือมนุษย์ธรรมดาเดินดินเหมือนพวกเรา เพียงแต่ว่าพวกเขานั้นได้ถูกดัดแปลงผ่าตัดปรับเปลี่ยนโครงสร้างพันธุกรรมไป จากนั้นก็ทำการใส่เครื่องจักรหรือเทคโนโลยีชีวภาพเข้าไปเร่งความสามารถของร่างกายพร้อมกับฉีดยาชนิดหนึ่งที่จะให้ร่างกายมนุษย์สามารถหลอมรวมเข้ากับ DNA ของสัตว์ได้" โซอิจิโร่อธิบาย ซึ่งแน่นอนว่าคนที่อยู่ในห้องกว่าครึ่งแถบจะไม่เข้าใจที่เขาพูดเลย
"คุณตาครับเรื่องเกินจริงแบบนั้นมันจะทำได้เรอะ หาก DNA มารวมกันจริงๆมันจะไม่ทำให้คนๆนั้นตายหรือเกิดอะไรผิดปกติก่อนเหรอครับ ?" ยูทาโร่ยืนกอดอกถาม
"ก็ถ้าคนที่ทำไม่ใช่เขาก็คงทำเรื่องที่ดูเกินจริงแบบนี้ไม่ได้หรอก"
"ใคร? พวกองค์กรร้ายเรอะ ?" ไซโตะพูดขึ้น
"อันที่จริงก็หวังจะให้เป็นแบบนั้น แต่ว่าคนที่จะทำเรื่องแบบนี้ได้ ก็คงจะต้องเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่เก่งอยู่มากอย่างที่เธอน่าจะเดาออกนะ คนๆนั้นคือด๊อกเตอร์โมจิซึกิ ฮิโรชิ" ภาพบนหน้าจอฉายภายประวัติและหน้าตาของเขา
"เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้ถนัดเรื่องพันธุกรรมศาสตร์ และถนัดเรื่องการนำสัตว์หลากหลายชนิดมาผสมข้ามพันธ์กับชนิดอื่น มันอาจจะฟังดูเป็นไปไม่ได้ในหลายๆเรื่องแต่เขาก็ทำสำเร็จ แต่ว่าการผสมสัตว์แบบนี้มันเป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรม และอีกอย่างเขาก็คิดจะใช้ศาสตร์นี้กับมนุษย์เช่นกัน นั้นทำให้เขาถูกไล่ออกจากหน่วยงาน"
"แต่ว่าก็แค่ลุงแก่คนเดียวทำไมถึงสร้างกองทัพมนุษย์ดัดแปลงอะไรนั่นได้เยอะขนาดนั้นล่ะ ?" อากิฮิสะถาม
"อันที่จริงดูเหมือนว่าเขาจะได้รับการช่วยเหลือจากองค์กรอื่นด้วย จึงทำให้พวกมันถึงมีได้ถึงขนาดนี้" โซอิจิโร่เปิดภาพต่อไปซึ่งเป็นภาพของลอสท์ที่ถูกจับได้ แต่ว่าไม่มีตัวใดที่สามารถจับเป็นได้เลยมีแต่ลอสท์ที่ถูกกำจัดเท่านั้น
"ลอสท์มีพลังมากขึ้นเรื่อยๆ ลำพังหน่วยงานลับทั่วโลกก็คงจะรับมือไม่ไหว พวกเขาจึงคิดหาทางรับมือพวกมันอยู่ แต่ว่าต่อให้เป็นสายเวทกับสายวิทย์ร่วมมือกันก็ยังไม่สามารถรับมือกับลอสท์ที่มีจำนวนมากกว่าได้ จึงทำให้พวกมันเริ่มได้เปรียบมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ว่าสถานการณ์ก็ยังอยู่ในสภาพคงตัวไม่ได้เลวร้ายอะไรถึงขนาดที่คิดกันหรอกนะ"
"เออ...แล้วที่พวกลอสท์ต้องทำอะไรแบบนี้ เป็นเพราะอะไรน่ะ ครองโลกเรอะ ?" โยชิฮารุเดา
"ในแง่คิดของเด็กนั่นก็เป็นความคิดที่ดูดีนะ แต่ว่าลอสท์นั้นมีเป้าหมายต่างจากนั้นเล็กน้อย มันไม่ได้คิดจะครอบครองโลกแต่พวกมันคิดจะเปลี่ยนมนุษย์ทุกคนให้กลายเป็นลอสท์เพื่อที่จะก้าวให้มนุษย์ไปสู่การวิวัฒนาการขั้นใหม่ที่สูงกว่าเดิม" โซอิจิโร่ชี้แจงให้ทราบ "มนุษย์ที่ถูกเปลี่ยนให้กลายเป้นลอสท์โดยที่ไม่ได้สมัครใจ หลายคนจะถูกลบความทรงจำและถูกใส่ความทรงจำปลอมให้รับใช้พวกมัน หรือคนที่เห็นด้วยอยู่แล้วก็จะกลายเป็นลอสท์ระดับสูงที่มีหน้าที่สั่งการและมีพลังเหนือกว่าลอสท์ทั่วไป"
"เรื่องแบบนี้มัน.." โทวมะรู้สึกเวทนากับสิ่งที่เกิดขึ้น
"ลอสท์นั้นไม่เคยคิดอ่อนข้อให้ใคร หากใครที่มีประโยชน์มันก็จะทำการรวบรวมคนเหล่านั้นมาเป็นขุมกำลังให้กับพวกมัน หากใครเป็นได้แค่ขยะในสายตาของพวกมันก็จะถูกทำลายทิ้งในทันที และผู้ที่คิดต่อต้านพวกมันก็ต้องกับจุดจบ" โซอิโร่พูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
"โหดร้าย..." รุยโกะรู้สึกหวั่นๆขึ้นมานิดๆ
"แล้วพวกเราจะทำอะไรได้บ้างครับ ?" จุนอิจิพูดขึ้นทำให้ทุกคนรอบข้างถึงกับหันไปมอง
"เอ๊ะ..ก็แบบว่าพวกเราน่ะได้รับพลังที่มนุษย์ธรรมดาไม่มี ถ้าสมมุติว่าพวกเราใช้พลังนี้ต่อสู้กับพวกลอสท์ คอยปกป้องผู้คนล่ะก็ นี่ก็อาจจะเป็นประโยชน์ก็ได้นะ ยังไงพวกเราก็มีสิ่งนี้อยุ่แล้ว" จุนอิจิหยิบโอสไดร์เวอร์ของตัวเองขึ้นมา ทุกคนเองก็ต่างหยิบไดร์เวอร์ตัวเองขึ้นมา ส่วนโทวมะกับยูทาโร่แค่มองลงที่เอวตัวเอง ไซโตะก็แค่มองไปที่ถุงผ้าที่ใส่คิบัทอยู่
"แต่ว่าฉันก็ไม่ได้คิดจะมาเป็นฮีโร่อะไรแบบนี้ด้วยน่ะสิ" อากิฮิสะพูดในเชิงไม่อยากร่วมด้วย
"เหอะ พวกขี้ขลาดก็เป็นซะแบบนี้ล่ะ ถึงจะมีพลังอะไรอยู่แต่มีไปก็เป็นได้แค่ของประดับ" ยูทาโร่พูดเหยียดหยามอากิฮิสะตรงๆ ทำเอาชายผู้มีพลังแห่งอวกาศลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธทันที
"เฮ้ย นี่จะหาว่าฉันขี้ขลาดรึไง!?"
"ก็รู้ตัวดีนี่ อีกอย่างฉันไม่อยากจะไปสู้ร่วมกับพวกมือสมัครเล่นอย่างพวกนายด้วยล่ะนะ" ยูทาโร่พูดหยามอีกแต่คราวนี้มันกระทบไปถึงทุกคน โยชิฮารุและไซโตะที่ทนไม่ไหวก็ลุกขึ้นยืน
"พูดแบบนี้นาคิดว่ามีนายคนเดียวเรอะที่ผ่านเรื่องร้ายๆมาน่ะ!" โยชิฮารุตะคอก
"ถ้านายไม่ชอบการร่วมสู้กับมือสมัครเล่นล่ะก็ฉันเองก็ไม่คิดจะร่วมมือกับนายเหมือนกันนั่นล่ะ เรื่องไร้สาระแบบนี้" ไซโตะพูด
"งั้นก็ดีเลยนี่จะได้ไม่ต้องมีคนมาถ่วงฉัน" ยูทาโร่พูดจนทั้งสามทนไม่ไหว
แต่จุนอิจิรีบลุกขึ้นมาจับอากิฮิสะไว้ อิจิกะรีบหยุดไซโตะ ส่วนโทวมะก็หยุดโยชิฮารุไว้ "พวกนายใจเย็นๆกันก่อนเถอะน่า"
"นี่นายเองก็เงียบได้แล้วคิดจะให้บรรยากาศมันแย่ไปถึงไหนน่ะ" อิจิกะตะโกนบอกยูทาโร่
"จริงอย่างที่บอกนะ พวกเราทุกคนเองก็เจอเรื่องที่แย่ๆมาเหมือนกัน และนายคนเดียวคิดว่าจะสู้กับพวกมันได้รึไง" โทวมะบอก
"อิจิกะ/พี่โทวมะ" ผู้หญิงสองคนรู้สึกกังวลใจในสภาพสถานการณ์เช่นนี้
"แล้วพวกนายน่ะเตรียมใจที่จะตายกันรึเปล่าล่ะ!?" ยูทาโร่พูดเสียงดัง สิ่งนั้นทำให้ทั้งห้องตกลงสู่ในความเงียบ อากิฮิสะ ไซโตะและโยชิฮารุถึงขีดสุดรีบสลัดคนที่จับตัวเองอยู่แล้วคิดจะเข้าไปชกยูทาโร่ให้ได้
"ทุกคนช่วยสงบสติอารมณ์ลงหน่อยเถอะครับ!!" ฮายาเตะที่ฟังมานานลุกขึ้นตะโกน ทำให้ทุกคนหยุดนิ่ง
"ขะ..ขอโทษครับ" ฮายาเตะนั่งกลับลงไปอย่างเงียบๆ
จุนอิจิเห็นว่าตอนนี้ทุกคนเริ่มเงียบจึงใช้โอกาสนี้พูด
"อืม ใช่อย่างที่เขาพูดนั่นล่ะ ตอนนี้พวกเราทุกคนควรสงบสติอารมณ์ลงก่อนนะ อีกอย่างพวกเราเองก็ไม่ใช่ศัตรูกัน ถ้ามาสู้กันเองก่อน พวกเราไม่มีทางชนะลอสท์ได้แน่ แต่ว่าถ้าหากพวกเราร่วมมือกันฉันเชื่อว่าจะต้องผ่านมันไปได้" คำพูดของจุนอิจิทำให้อากิฮิสะ โยชิฮารุและไซโตะใจเย็นลง
"เอางั้นก็ได้" ทั้งสามยอมกลับมานั่งที่
"ฉันชื่อทาจิบานะ จุนอิจิ ชื่อเวลาที่เป็นสิ่งนี้คือ OOO (โอส) ยินดีที่ได้รู้จัก" จุนอิจิแนะนำตัวแก่ทุกคน
อิจิกะเห็นจุนอิจิทำแบบนั้น เขาจึงลุกขึ้นตาม
"ฉันชื่อโอริมูระ อิจิกะ เวลาที่แปลงร่างชื่อ W (ดับเบิ้ล) ยินดีที่ได้รู้จัก แล้วก็..."
ชาร์ลลุกขึ้นยืนตาม "ผมชื่อชาร์ล ดูนัวร์ครับ เป็นส่วนนึงของ W (ดับเบิ้ล) ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะครับ"
โทวมะลุกขึ้นยืนแนะนำตัว
"ฉันคามิโจว โทวมะ เวลาที่เป็นนักรบสีทองมีคนเรียกฉันว่า AGITO (อากิโตะ) ดังนั้นก็ขอใช้ชื่อนั้นก็แล้วกัน"
"ฉันฮิรากะ ไซโตะ" ไซโตะลุกขึ้นยืน พร้อมกับปล่อยคิบัทที่อยู่ในถุงผ้าออกมา "ส่วนเจ้านี่..."
"สวัสดียินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะฉันชื่อ คิบัทรุ่นที่สาม เป็นผู้ที่ทำให้คู่หูแปลงร่างเป็น KIVA (คิบะ) ได้" คิบัทแนะนำตัว
"คะ...ค้างคาวพูดได้!?" เกือบทั้งห้องตกใจทันทีที่เห็นคิบัทพูดได้
"น่ารักจังเลย!" ส่วนฮารุกะกลับคิดต่างจากคนอื่น
ต่อมาโยชิฮารุเป็นคนแนะนำตัว "ฉันซาการะ โยชิฮารุ หรืออีกชื่อนึง...!!" ชายหนุ่มชูมือขึ้นฟ้าและทำท่าแปลงร่างของของเขา โดยทำเหมิอนใส่ล็อคซีดลงเซ็นโกคุไดร์เวอร์ และตั้งท่าเหมือนตอนถือดาบคู่
"GAIMU (ไกมุ)!!"
"นักรบ...สวมเกราะ ?" รุยโกะงงกับชื่อของโยชิฮารุ
"งั้นก็ตาฉันบ้าง!!" อากิฮิสะลุกขึ้นและทำท่ากดสวิทซ์ทั้งสี่ จากนั้นก็ชูมือทั้งสองข้างขึ้นฟ้าและตะโกนว่า "อวกาศมาแล้ว!!!"
"โยชิอิ อากิฮิสะ หรือชื่อนั้นก็คือ FOURZE (โฟร์เซ่) ยินดีที่ได้รู้จักนะทุกๆคน"
"ทาคากิ ยูทาโร่ WIZARD(วิซาร์ด)" ยูทาโร่แนะนำตัวเงียบไม่มีท่าอะไรเหมือนโยชิฮารุหรืออากิฮิสะ
ฮายาเตะหันซ้ายหันขวาเห็นว่าทุกๆคนแนะนำตัวกันหมดแล้วเหลือเพียงแค่เขาคนเดียว เขาจึงลุกขึ้นแนะนำตัว "ผมอะยาซากิ ฮายาเตะครับ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะครับ พวกเรามาพยายามด้วยกันเถอะครับ"
"ชื่อของผมคือ DECADE (ดีเคท) ไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นชื่อนี้นะครับ แต่ว่ามันคือชื่อที่อยู่ๆก็เหมือนรู้ขึ้นมาเอง ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ" ฮายาเตะโค้งคำนับ
โซอิจิโร่ยืนมองสถานการณ์ และสภาพบรรยากาศที่ดีขึ้นเพราะฮายาเะและจุนอิจิ
"ทุกคน ต้องขอขอบคุณสำหรับน้ำใจของพวกเธอนะ แต่ว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่อันตรายมาก ฉันกลัวว่า..."
"ไม่เป็นไรครับ พวกเราตกลงที่จะใช้พลังนี้เพื่อปกป้องมวลมนุษย์ ขอให้พวกเราได้ช่วยเถอะครับ" จุนอิจิขอร้อง
"ผมเองก็คิดแบบเดียวกันครับ" ฮายาเตะ และคนอื่นๆต่างก็เห็นด้วยกับจุนอิจิ แม้แต่ยูทาโร่เองก็เช่นกัน
โซอิจิโร่เห็นพวกเขาทั้งแปดต่างพร้อมใจกันเช่นนี้ทำให้เขาไม่กล้าที่จะหักห้าม
"ถ้าอย่างงั้นชะตากรรมของโลกใบนี้ ฉันขอฝากให้กับพวกเธอ ปกป้องโลกใบนี้ให้ได้ล่ะ"
"เอาล่ะ เท่านี้กลุ่มฮีโร่กลุ่มใหม่ก็ถือกำเนิดขึ้นแล้ว!" อากิฮิสะตะโกน
"แต่ว่าถ้าทุกคนเรียกชื่อนำหน้าเหมือนกันก็น่าจะทำให้พวกเราฟังดูเหมือนเป็นกลุ่มเดียวกันมากกว่านะ" ฮารุกะแนะนำ "เอาเป็นชื่อมาสค์ไรเดอร์เป็นไง ชื่อนี่ฉันคิดว่าเป็นชื่อที่ดูดีนะ"
"มาสค์ไรเดอร์...ข่าวลือเรื่องบุรุษสวมหน้ากากแล้วคอยปกป้องชาวโลกจากความชั่วร้ายนั่นสินะคะ" รุยโกะทำความเข้าใจ
ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงแค่เรื่องที่พูดกันเองขึ้นมาแต่ทุกคนต่างก็ยอมรับในชื่อนี้
"มาสค์ไรเดอร์....งั้นเรอะ..."
.
.
.
.
บริษัท 765 โปรดักชั่น เวลา 13.02 น.
หลังจากที่ทุกคนได้ตกลงคุยกันเรื่องความเป็นไปต่อจากนี้และเรื่องลอสท์แล้ว ทุกๆคนต่างก็แยกย้ายไปใช้ชีวิตตามแบบของตัวเองจนกว่าจะเกิดเรื่องขึ้นมาอีก พวกเขาในยามนี้ก็เป็นเพียงแค่มนุษย์ธรรมดา แต่มีเพียงหนึ่งที่แอบเข้าหาโซอิจิโร่โดยที่แอบปิดเป็นความลับกับทุกคน เธอคือคนที่ดึงชายชาวญี่ปุ่นคนนึงเข้ามาเกี่ยวข้องกับการต่อสู้ในครั้งนี้
ชาร์ลวางกระเป๋าที่ใส่อุปกรณ์ที่มีลักษณธคล้ายแฟลชไดฟ์ หรือที่เรียกว่าไกอาเมมโมรี่
ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่พวกเธอใช้ในการแปลงร่างเป็น W ลงบนโต๊ะของโซอิจิโร่เพื่อส่งมอบมันให้ถึงเขา ตามที่ถูกสั่งมา "ไกอาเมมโมรี่ 6 ชนิด และครอสไดร์เวอร์ 2 เครื่อง ได้นำมาส่งตามที่กำหนดแล้วครับ"
"อืม" โซอิจิโร่พินิจมองมันอย่างรอบคอบ "นี่คือสิ่งที่ทำให้เธอกับโอริมูระ อิจิกะคุงแปลงร่างเป็น W ได้สินะ"
"แล้วแบบนี้เอามาส่งมอบให้ทางเรามันจะดีเรอะ ท่าทางเธอ...ไม่สิ...พวกเธอเองก็น่าจะมีความผูกผันกับของสิ่งนี้แล้วหนิ"
"ผมน่ะ..ไม่อยากดึงอิจิกะเข้ามาพัวพันกับเรื่องนี้ครับ มันเป็นเส้นทางที่อันตรายเกินไป" ชาร์ลบอกจากใจจริงของเธอ "อิจิกะต่างจากคนอื่น เพราะว่าถ้าผมไม่ได้ไปเจอกับเขา และไม่ได้ขอให้เขาช่วย อิจิกะก็คงไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกับโลกทางนี้เลยสักนิด คงจะไ้ใช้ชีวิตแบบมนุษย์ปกติเหมือนเดิม ผมจึงคิดว่าการส่งมอบไกอาเมมโมรี่ให้พวกคุณน่าจะเป็นทางเลือกที่ถูกครับ"
"แล้วตัวเธอล่ะจะทำยังไงต่อ ?" โซอิจิโร่ถาม "หลังจากที่เธอส่งไกอาเมมโมรี่ให้พวกเราแล้ว หน้าที่ของเธอก็จะหมดลง แล้วเธอก็จะกลับฝรั่งเศสอย่างงั้นรึ"
"ครับ ผมตัดสินใจแล้ว ผมไม่อยากสร้างปัญหาให้อิจิกะอีกแล้ว"
ชายวัยกลางคนหลับตาคิดอยุ่ครู่นึง แล้วเขาก็ปิดกระเป๋าไกอาเมมโมรี่ลงและยื่นคืนให้กับชาร์ล
"ทำไมล่ะครับ ?" ชาร์ลสงสัยกับการกระทำของโซอิจิโร่
"ตอนนี้เจ้าของของมันไม่ใช่ฉัน แต่ว่าเป็นตัวเธอและโอริมูระ อิจิกะ ฉันไม่มีสิทธิที่จะรับมันไว้ได้หรอก จะต้องขออนุญาตจากทางโอริมูระคุงด้วย" โซอิจิโร่ให้เหตุผลเพื่อที่จะให้ชาร์ลกลับไปคุยกับเขา
"ไปปรึกษากับเขาก่อนว่าเอายังไงต่อไป แล้วค่อยกลับมาหาฉัน เข้าใจนะ"
"ครับ" ชาร์ลตอบแบบไม่ค่อยเต็มใจนัก
ร้านเมดคาเฟ่ เวลา 13.22 น.
"น้ำผลไม้รวมได้แล้วค่ะ" เมดสาวมาเสิร์ฟน้ำผลไม้ให้กับฮายาเตะที่โต๊ะด้านนอกร้าน
ฮายาเตะ อิจิกะและไซโตะต่างมาเปิดใจคุยกันครั้งแรก พวกเขาเลือกมาที่ร้านเมดคาเฟ่ตามคำแนะนำของอิจิกะ เพราะเขารู้จักกับคนของร้านนี้
"เฮ้อ เจ้าทาคากินั่น อยากจะชกมันสักหมัดจริงๆ!" ไซโตะบ่น เขายังแค้นเรื่องที่ยูทาโร่พูดหยามพวกเขาไม่ได้อยู่ "คนอย่างงั้นไม่อยากจะไปร่วมต่อสู้ด้วยเลยแฮะ"
"เรื่องนั้นฉันก็คิดแบบนั้นนะ แต่ว่าถ้าพวกเรามีพวกเยอะเข้าไว้ก็น่าจะดีกว่าไม่ใช่เรอะ อีกอย่างที่หมอนั้นพูดถึงแม้จะไม่น่าฟังก็ตามแต่ว่าที่บอกว่าเราเตรียมใจที่จะตายรึเปล่านั่นก็เป็นเรื่องจริงนะ" อิจิกะบอก
"ถ้าต่อสู้จริงๆ พวกเราก็อาจจะมาตายโดยที่ไม่รู้ตัวก็ได้นะ"
"อย่าพูดเรื่องที่ฟังดูน่าหดหู่แบบนั้นสิ" ไซโตะว่า "อะยาซากินายว่าไงล่ะ ?"
"ผมคิดว่าเหล่าไม่ควรจะมองอะไรที่แย่ๆแบบนั้นนะครับ" ฮายาเตะออกความเห็นที่ต่างไปจากทั้งสองคน
"ผมคิดว่าสาเหตุที่พวกเราสู้ไม่ใช่เพื่อที่จะจัดการกับศัตรู ไม่ใช่เพื่อที่จะสู้เพื่อเอาชีวิตรอดเพียงคนเดียว แต่การต่อสุ้ของพวกเราคิดว่าน่าจะเป็นเพื่อการปกป้องผู้คนที่ไร้ซึ่งพลังจะดีกว่านะครับ หากทำแบบนั้นแล้วผมเชื่อว่าไม่ว่าศัตรูจะมาแบบไหนพวกเราก็ต้องเอาชนะพวกมันได้อย่างแน่นอนครับ!"
เมื่อฮายาเตะพูดเช่นนั้นอิจิกะกับไซโตะก็อดที่จะขำไม่ได้ "ขะ..ขอโทษครับที่พูดอะไรแปลกๆ"
"ไม่ใช่แบบนั้นฉันคิดว่าเป็นความที่ดีมากเลยนะเรื่องนั้นน่ะ" อิจิกะเห็นด้วยกับฮายาเตะ "อย่างที่นายบอกพวกเรานั้นต่อสู้เพื่อปกป้องทุกๆคน" อิจิกะเห็นด้วย
"ถึงแม้มันจะดูฝันหวานไปหน่อยก็เถอะนะ แต่แบบนั้นก็อาจจะดีจริงก็ได้" ไซโตะเสริม
"ขอบคุณครับ" ฮายาเตะสังเกตมองอิจิกะดีๆแล้วเขาก็รู้สึกเหมือนบางอย่างขาดหายไป
"โอริมูระคุง แล้วคุณดูนัวร์ล่ะครับ เมื่อก่อนหน้านี้ยังเห็นอยู่ด้วยกันอยู่เลยหนิครับ"
"จะว่าไปก็จริงแฮะ" ไซโตะพูด
"ถ้าชาร์ลล่ะก็ ตอนนี้ฉันคิดว่าคงจะเอาไกอาเมมโมรี่และครอสไดร์เวอร์ไปให้กับประธานทาคากิน่ะ" อิจิกะบอก
"ทำไมคุณดูนัวร์ต้องทำแบบนั้นล่ะครับ ?" ฮายาเตะถาม
"ชาร์ลน่ะถึงจะรู้จักกันได้แค่วันเดียวฉันก็รู้ได้ในทันทีเลยว่า เธอน่ะเป็นคนที่ไม่ค่อยอยากจะไปพึ่งพาใคร อยากที่จะทำอะไรด้วยตัวเองเพราะไม่อยากจะไปสร้างปัญหาให้กับคนอื่น สาเหตุที่ฉันมาพัวพันกับเรื่องนี้ เธอคงจะคิดว่าเป็นเพราะตัวเธอเองนั่นล่ะ"
"แบบนี้ก็มีด้วยเหรอเนี่ย" ไซโตะเอามือทาบที่คาง
"แล้วถ้าเป็นแบบนี้ นายก็จะสู้ไม่ได้แล้วน่ะสิ ถ้าไกอาเมมโมรี่ถูกส่งมอบให้ทางนั้นตอนนี้นายก็เหมือนกับเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาแล้วสินะ"
"จะพูดแบบนั้นก็คงได้ แต่ว่าจริงๆแล้วฉันก็ไม่เชิงว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ตั้งแต่แรกซะทีเดียวนะ" อิจิกะบอก
"หมายความว่ายังไงครับ ?" ในตอนที่ฮายาเตะกำลังถามอยู่นั้น ชาร์ลที่เดินออกจตามหาพวกเขาอยู่ก็มาเจอเข้าพอดี แต่เธอแอบหลบอยู่หลังต้นไม้ไม่ให้พวกเขารู้ตัว
"เรื่องมันนานแล้วล่ะนะ ตั้งแต่สมัยที่ฉันเด็กๆเมื่อก่อนน่ะด้วยสาเหตุอะไรก็ไม่รู้ล่ะนะ แต่ว่าฉันสูญเสียครอบครัวไปเมื่อตอนเด็กๆด้วยอุบัติเหตุ แต่พอมาตรวจสอบอย่างละเอียดจริงๆดูแล้วก็ได้รับการยืนยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นอุบัติเหตุ แต่มีคนจงใจให้เกิดเรื่องนี้ขึ้น และสิ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุในครั้งนั้นก็ไม่ใช่อะไรอื่น แต่ว่าเป็นไกอาเมมโมรี่นี่ล่ะ" สิ่งที่อิจิกะเล่าทำเอาทั้งสามถึงกับช็อคไปพร้อมๆกัน
"คนที่เป็นคนทำยังหาตัวไม่ได้ แต่เบาะแสคือ ไกอาเมมโมรี่นั้นเป็น ไกอาเมมโมรี่ W"
"W เหมือนกับดับเบิ้ล(W) ที่นายเป็นอยุ่ตอนนี้เลยสินะ" ไซโตะพูด
"นั่นสิครับ" ฮายาเตะเห็นด้วย
"เหมือนประชดเลยนะ ฉันสูญเสียครอบครัวไปเหลือเพียงแค่พี่สาวเพราะไกอาเมมโมรี่ แต่ว่าตอนนี้ฉันกลับกลายมาเป็นผู้ใช้ไกอาเมมโมรี่ซะเอง ท่าทางชะตากรรมของฉันคงจะผูกพันกับมันจริงๆนั่นล่ะ" อิจิกะพูด
"แต่ว่าถ้าชาร์ลจะไปแล้วแบบนี้คงจะไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับมันแล้วล่ะ"
"ถ้าอย่างงั้นก็คุยกับเจ้าตัวเองเลยจะไม่ดีกว่าเรอะ ?" เสียงของคิบัทพูดขึ้น และมันก็แอบโผล่ออกมาจากถุงผ้า "นายเองก็อยากคุยให้รู้เรื่องใช่มั้ยล่ะคนที่หลบอยู่ตรงนั้นน่ะ"
คิบัทที่รู้ว่าชาร์ลซ่อนอยุ่หลังต้นไม้รีบตะโกนบอกให้เธอออกมา
ซึ่งหญิงสาวในชุดผู้ชายชาวฝรั่งเศสก็ยอมออกมาตามคำเรียกร้อง
"ชาร์ล/อิจิกะ..." ทั้งสองเมื่อเจอหน้ากันก็พูดกันไม่ออก ยิ่งหลังจากที่ได้ยินเรื่องอดีตของเขาไปแล้ว
ฝ่ายหญิงหลบหน้าฝั่งชายและหันกลับมาพูดเพียงว่า "อิจิกะคืนนี้ผมจะกลับไปฝรั่งเศสแล้วนะ"
"งั้นเรอะ...ถ้าอย่างงั้นก็รักษาตัวด้วยนะ" ฝ่ายชายก็ตอบเธอกลับไปเพียงแค่นั้น ชาร์ลที่กำลังจะเดินจากไป แต่เธอก็ถูกฮายาเตะจับมือหยุดไว้ก่อน
"เดี๋ยวก่อนสิครับทั้งสองคน ถ้าเอาแต่ทำแบบนี้กันจะไม่ได้เรื่องกันนะครับ มาคุยกันให้รู้เรื่องไปเลยดีกว่านะครับ" ฮายาเตะแนะนำ ซึ่งทั้งสองก็คิดเช่นนั้นแต่ว่าพวกเขามีปัญหาเกินกว่าที่จะคุยได้ตามปกติในตอนนี้
"ฮิรากะคุง พวกเราไปซื้อของแถวนี้กันก่อนเถอะครับ" ฮายาเตะรีบเข้าไปผลักไซโตะ
"เดี๋ยวสิอะยาซากิ จะทำอะไร เดี๋ยว!" ไซโตะถูกฮายาเตะพาตัวออกไปเพื่อปล่อยให้ทั้งสองคนได้อยู่เพียงสองต่อสอง
"อิจิกะเรื่องที่ครอบครัวอิจิกะถูกฆ่าโดคนใช้ไกอาเมมโมรี่นั่นเป็นความจริงเหรอครับ ?"
ชาร์ลถามอิจิกะก็ตอบเพียงแค่พยักหน้าเอาๆเท่านั้น "ถ้าอย่างงั้นผมคิดว่าเลือกทางนี้น่าจะดีแล้วนะครับ เท่านี้อิจิกะก็จะไม่ต้องมายุ่งกับไกอาเมมโมรี่อีก และจะได้กลับไป-"
ก่อนหน้าที่ชาร์ลจะพูดอะไรมากกว่านี้อิจิกะก็จับไหล่ทั้งสองข้างของเธอไว้
"ชาร์ล เรื่องนั้นจะเป็นยังไงน่ะก็ช่างมันเถอะ เมื่อวานที่ฉันช่วยเธอเพราะฉันรู้สึกว่ามีบางอย่างที่ต้องทำ ฉันอาจจะเลือกที่จะหนีไปก็ได้ตอนนั้นแต่ฉันไม่ทำ ฉันก็ำไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงคิดแบบนั้นแต่ว่านี้อาจจะเป็นสิ่งที่อะยาซากิบอกกับฉัน ความรู้สึกในการการปกป้องคนอื่น มันทำให้ฉันแข็งแกร่งขึ้น"
"แต่ว่าถ้าเป็นแบบนี้อิจิกะก็ต้อง..."
"ฉันไม่เป็นไร ฉันไม่ได้อยู่คนเดียวนี่ ฉันยังมีนาย และยังมีพวกคนอื่นๆที่จะร่วมต่อสู้ไปพร้อมกัน เพราะฉะนั้นนายก็ไม่ต้องกังวล ให้ฉันน่ะร่วมต่อสู้ร่วมปกป้องคนอื่นๆเหมือนกับที่ปกป้องนายเถอะ" อิจิกะบอกกับหญิงสาวในชุดผู้ชาย
ชาร์ลอมยิ้ม "อิจิกะนี่จริงๆเลยนะ ขนาดรู้จักกันแค่วันเดียวก็ทำให้ผมใจอ่อนได้"
"ถ้าอย่างงั้น!"
"แต่ไม่ว่ายังไงผมก็คงต้องกลับไปฝรั่งเศส แต่ก่อนหน้าผม..."
ตู้มมม!!!
ก่อนหน้าที่พวกเขาจะคุยกันเรียบร้อยก็มีการขัดจังหวะมาจากฝีมือของลอสท์เพชรฆาตทั้งสองที่ถูกสั่งให้มาจัดการกับพวกเขานั่นก็คือบีทเทิลและแสต็ก ผู้คนที่อยู่ในร้านเมดคาเฟ่ต่างรีบวิ่งหนีทันทีเมื่อเห็นสัตว์ประหลาดเดินเข้ามา
"มีอยู่สองคนงั้นก็แปลว่าเป็นคนที่จัดการสกอร์เปี้ยนสินะ แล้วต้องจำคนไหนไปล่ะพี่ ?" แสต็กถาม
"จับไปทั้งสองคน เพราะพวกมันจะต้องเป็นประโยชน์ต่อด๊อกเตอร์ได้แน่" บีทเทิลบอก
"ถ้าอย่างงั้นก็จัดให้ตามที่ขอเลยพี่!" แสต็กสร้างดาบที่มือซ้ายและโล่ที่มือขวาขึ้นมา แล้ววิ่งเจ้าไปโจมตีอิจิกะกับชาร์ลในทันที "ฮ่าส์!!"
ทั้งสองหมุนตัวหลบและถอยออกมาตั้งหลัก ชาร์ลเปิดกระเป๋าออกและให้ครอสไดร์เวอร์แก่ชายหนุ่มพร้อมไกอาเมมโมรี่ "อิจิกะ พวกเราไปกันเถอะ การต่อสู้ก่อนที่จะลาจากกัน!" เธอกดไกอาเมมโมรี่
"อา ตกลงตามนั้นเลย!" อิจิกะหยิบไกอาเมมโมรี่ขึ้นมา และกดที่มัน
CYCLONE
JOKER
"แปลงร่าง!" ชาร์ลใส่เมมโมรี่ลงไดร์เวอร์ของเธอเองมันก็ถูกส่งย้ายไปที่ไดร์เวอร์ของอิจิกะ ส่วนตัวเธอก็สลบลงไป จากนั้นชายหนุ่มก็กดเมมโมรี่ของหญิงสาวซ้ำลงไปแล้วตามด้วยใส่เมมโมรี่ของเขาลงไป จากนั้นก็สับไดร์เวอร์ไปสองทาง
CYCLONE JOKER
สายลมพายุหมุนพัดกระหน่ำเข้ามาลอสท์แสต็กที่ถูกลมนั้นพัดเข้าไปก็ถูกปัดกระเด็นตกลงไป
ร่างของชายหนุ่มได้เปลี่ยนเป็นร่างของนับรอบสองสี ที่มีร่างกายซีกขวาเป็นสีเขียวอ่อน ร่างกายซีกซ้ายเป็นสีดำม่วง "มาสค์ไรเดอร์ดับเบิ้ล เอาล่ะจงนับความผิดที่พวกนายทำซะ!" ดับเบิ้ลชี้นิ้วไปที่ลอสท์
"เหอะ อย่ามาทำอวดดีไปหน่อยเลย!" แสต็กกระโดดขึ้นไปสู้กับดับเบิ้ลใหม่
มันพยายามใช้ดาบฟันใส่เขาแต่ว่าด้วยความเร็วที่เหนือกว่าของดับเบิ้ล ทำให้เขาสามารถหลับได้ทุกการโจมตี แต่กลับกันการโจมตีของดับเบิ้ลก็ไม่อาจะทำอะไรแสต็กที่เกราะแข็งกว่าได้
ดับเบิ้ลกระโดดหมุนตัวเจะใส่แสต็ก มันเพียงแค่ยืนเฉยก็สามารถรับการโจมตีไว้ได้สบายๆ
"เจ้านี้เกราะหนาเกินไป" อิจิกะพูด และในจังหวะนั้นแสต็กก็ใช้โล่กระแทกทำให้เขาตีลังกาและใช้ดาบฟันซ้ำจนทำให้มาสค์ไรเดอร์ตกลงมาที่พื้น "อ้ากก!!"
"ก็ไม่เห็นเท่าไหร่นี่!" แสต็กเหยียบซ้ำ
"มันก็ไม่แน่หรอก" ดับเบิ้ลสร้างลมพายุพัดใส่แสต็กทำให้มันเสียหลัก
จากนั้นมาสค์ไรเดอร์ก็ลุกขึ้นนำกระแสลมมารวมกันที่ฝ่ามือทำให้ มือของดับเบิ้ลมีสภาพเหมือนดาบวายุ และสามารถโจมตีสร้างความเสียหายให้กับแสต็กได้
บีทเทิลที่เห็นว่าดับเบิ้ลเริ่มสู้กับแสต็กได้แล้วก็คิดจะขึ้นไปช่วย แต่ว่า...
"เฮ้ย คิดจะไปไหนน่ะ" ไซโตะตะโกนเรียกบีทเทิลให้หันมา "คู่ต่อสู้ของนายน่ะคือฉันคนนี้ต่างหากล่ะ"
"ฮิรากะคุงแล้วผมล่ะ ?" ฮายาเตะงงกับหน้าที่ของตัวเองเพราะตอนนี้เขาไม่มีคู่ต่อสู้
"อะยาซากิ รู้สึกว่าคิบัทจะตรวจพบพวกมันอีกตัวอยู่ใกล้ๆนี้ นายไปตามหามันก็แล้วกัน" ไซโตะกระซิบบอกกับฮายาเตะ
"เข้าใจแล้วครับ" ฮายาเตะรีบไปตามที่ไซโตะบอกทันที
"คิดจะสู้คนเดียวงั้นเรอะ ?" บีทเทิลถามเพราะเห็นฮายาเตะวิ่งไปไหนก็ไม่ทราบ
"อย่างนายน่ะแค่ฉันคนเดียวก็เหลือแหล่แล้ว" ไซโตะเปิดถุงผ้า "คิบัท!"
"รับทราบ!" คิบัทบินออกมากัดที่ข้อมือของชายหนุ่ม
BITE
ทันทีที่ถูกกัดมันก็ทำให้เกิดรอยประหลาดขึ้นบนใบหน้าของเขา พร้อมกับเข็มขัดสีแดงที่ปรากฏขึ้นมาสวมที่เอวของเขา ไซโตะจับคิบัทมาแล้วใส่ลงที่ไดร์เวอร์ของเขา "แปลงร่าง!!"
ร่างของเขาค่อยกลายเป็นกระจกและในที่สุดก็แตกออกกลายเป็น คิบะ
KIVA
"มาสค์ไรเดอร์คิบะ ตั้งแต่นี้ไปล่ะคือการต่อสู้ที่แท้จริงล่ะ!" ไซโตะกล่าว
"เอาล่ะ!" มาสค์ไรเดอร์กระโดดเตะใส่บีทเทิลอย่างไม่รอช้า แต่ทางบีทเทิลก็สร้างโล่ขึ้นที่มือซ้ายและป้องกันท่าเตะของคิบะไว้ แล้วตามด้วยสร้างดาบที่มือขวาฟันสวนกลับไป
"คู่หูเป็นอะไรรึเปล่า!?" คิบัทถามอาการ
"ไม่เป็นไร..ไม่เลวนี่ท่าทางนายคงจะเก่งกว่าที่ฉันคิดสินะ ถ้าอย่างงั้นทางนี้ก็ต้องเอาจริงให้นายรู้ซะบ้าง!" คิบะวิ่งเเข้าไปพยายามที่จะต่อยใส่มันแต่ทุกครั้งที่โจมตีก็จะถูกมันกันไว้ได้ และยังถูกโจมตีสวนกลับไปเรื่อยๆ
"โธ่เว้ย!"
"การเคลื่อนไหวของเจ้าข้าดูออกหมดแล้ว!" บีทเทิลแทงดาบใส่คิบะ
ตอนนั้นมาสค์ไรเดอร์ก็สามารถรับดาบของมันไว้ได้ "ไร้สาระน่า ทางฉันเองก็รุ้การเคลื่อนของแกแล้วเหมือนกันล่ะน่า!" คิบะกระโดดข้ามไหล่ของมันไปอีกฝั่งนึง แล้วใช้เท้าขวา ซึ่งเป็นข้างที่มีเกราะเหล็กเตะใส่ท้องของลอสท์จนทำให้มันเสียหลัก
"คึ!" บีทเทิลถอยร่นลงมาเพราะแรงกระแทก
"คู่หูเรามาโจมตีครั้งสุดท้ายจัดการมันไปเลยเถอะ!" คิบัทแนะนำ
"เอาอย่างงั้นก็ได้!" ไซโตะหยิบแฟซเซิลสีแดงที่อยู่ข้างเข็มขัดขึ้นมาแล้วเขาก็ใช้งานมันโดยเสียบใส่ปากของคิบัทที่ไดร์เวอร์
WAKE UP!
ทันใดนั้นท้องฟ้ายามเย็นก็ถูกเมฆหมอกสีดำเข้าปกคลุมกลายเป็นท้องฟ้ายามราตรี
ดวงจันทราเสี้ยวปรากฏขึ้นบนท้องนภาที่ไร้ซึ่งดวงดารา คิบะยกขาของเขาขึ้นแล้วเกราะเหล็กที่ขาของเขาก็ปลดพันธนาการออกเผยให้เห็นพลังต้องคำสาป มาสค์ไรเดอร์กระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้านั้นแล้วพุ่งตัวลงมาเตะใส่บีทเทิล "ฮ่าส์!"
DARKNESS MOON BREAK
ร่างของลอสท์ถูกคิบะเตะเลื่อนไปจนชนกับผนัง เกิดขึ้นเป็นตราสัญลักษณ์สีดำขนาดใหญ่
คิบะหันหลังกลับ ร่างของบีทเทิลกลายเป็นกระจก "หายไปซะ!" สิ้นคำพูดของชายหนุ่มร่างของลอสท์ก็แตกสลายลงไปเหลือเพียงเศษเสี้ยวแสงที่กระจายออกมาจากร่างที่แตกสลายเท่านั้น
แล้วท้องฟ้าก็คืนกลับสู่ท้องฟ้ายามปกติ
"พี่!!" แสต็กที่เห็นพี่ชายของตนพ่ายแพ้ลงไปก็ยิ่งอาละวาดหนักมากขึ้น จนทำให้ดาบสายลมของดับเบิ้ลเริ่มต้านไม่ไหว
"ข้าจะแก้แค้นให้พี่!"
"เกราะมันแข็งขึ้นอีกแล้ว ทำยังไงดีล่ะชาร์ล ?" อิจิกะถามหาคำแนะนำ
"ถ้าเป็นแบบนี้เราก็คงทำได้แต่เปลี่ยนเมมโมรี่เท่านั้นล่ะ" ชาร์ลแนะนำ
"งั้นเรอะ เปลี่ยนรูปแบบพลังสินะ" อิจิกะทำความเข้าใจ
"แต่ว่าผมไม่มั่นใจว่าพวกเราที่เพิ่งหัดใช้จะใช้ได้รึเปล่านะครับ" ชาร์ลรู้สึกกังวล
"ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้หรอก" อิจิกะรีบทำการหยิบไกอาเมมโมรี่สีแดงส้มและสีเงินขึ้นมา และเปลี่ยนกับเมมดมรี่ที่ใส่อยู่ตอนนี้ทันที
HEAT METAL
ร่างกายซีกขวาของดับเบิ้ลเปลี่ยนเป็นสีแดงส้มพลังแห่งความร้อน ซีกซ้ายเปลี่ยนเป็นสีเงินพลังแห่งเหล็กกล้า พร้อมกับไม้พลองเหล็กที่ปรากฏขึ้นมาทันทีที่เปลี่ยนเป็นร่างนี้
"ร่างนี่มีอาวุธด้วยเหรอเนี่ย!" ดับเบิ้ลหยิบไม้พลองออกมาเป็นอาวุธ
"ของแบบนั้นมันเอาชนะข้าไม่ได้หรอก!!" แสต็กวิ่งเข้าหาดับเบิ้ลอย่างไม่รอช้า
มาสค์ไรเดอร์ใช้ไม้พลองตีกระแทงใส่มือดาบของแสต็กปัดดาบของมันออกไป แล้วใช้ไม้พลองกระแทงที่กลางอกอีกทีทำให้มันถอยหลังไป
"เจ้านี้แรงไม่เบาเลย!" ดับเบิ้ลควงไม้พลองและใช้ตีฟาดใส่ลอสท์
"อ้ากก!!" โล่ของแสต็กถึงกับเกิดรอยร้าวเมื่อถูกไม้พลองผสมพลังไฟของเขาเข้าไป
"มาทำให้จบๆกันเถอะ!" อิจิกะบอก
"ok อิจิกะ" ชาร์ลตอบรับ ดับเบิ้ลดึงไกอาเมมโมรี่ออกมาเสียบที่ไม้พลองและกดใช้งานมัน
METAL MAXIMUMDRIVE
ไม้พลองของดับเบิ้ลลุกเป็นไฟทั้งด้านบนและด้านปลาย "เอาล่ะนะ!"
METAL BRANDING
"ฮ้ากก!!" ดับเบิ้ลพุ่งตัวเข้าไปด้วยเปลวไฟ ชนใส่ลอสท์และทำลายมันลงไปในการโจมตีครั้งเดียว
บรึ้มม!!!
"เท่านี้ก็เรียบร้อย" ดับเบิ้ลควงไม้พลองเก็บที่หลัง
ตอนนั้นเองบนดาดฟ้าของอาคารข้างๆ นีเดิลที่มองการต่อสู้อยู่นั้น....
"บีทเทิลกับแสต็กพลาดไปแล้วเรอะ บอกว่าจะเป็นคนจัดการเอง แต่พอเอาจริงๆก็ไม่เห็นได้เรื่อง"
นีเดิลที่สังเกตการณ์อยู่ห่างๆพูดสบประมาทในตัวลอสท์ทั้งสองที่เพิ่งถูกกำจัดไป "แบบนี้ก็เหลือแค่เราคนเดียวแล้วสินะ"
ฮายาเตะวิ่งขึ้นมาบนชั้นดาดฟ้า "ในที่สุดก็เจอตัวแล้วนะครับ!"
"โอ๊ะโอ โดนหาเจอซะละ โดยเด็กที่มีพลังซะด้วย" นีเดิลหันกลับไปหาฮายาเตะอย่างไม่กลัวเกรง
ชายชุดขาวปล่อยเข็มขนาดใหญ่โจมตีใส่เด็กหนุ่มโดยไม่ทันตั้งตัว แต่ว่าฮายาเตะก็สามารถหลบเข็มเหล่านั้นได้และยังถอยออกมาพร้อมกับหยิบดีเคทไดร์เวอร์ขึ้นมา
"เอาล่ะนะครับ!" ฮายาเตะสวมไดร์เวอร์และใส่การ์ดลงไป
"แปลงร่าง!!"
KAMEN RIDE
DECADE
ประกายแสงสีฟ้าปรากฏขึ้นรอบตัวฮายาเตะ และมันก็ค่อยเปลี่ยนสีเป็นสีแดงมาเจ็ตต้าแล้วผสานร่างกับเด็กหนุ่ม เปลี่ยนร่างเขาไปเป็นนักรบสวมเกราะ ที่มีชื่อว่า "มาสค์ไรเดอร์ดีเคท"
ดีเคทหยิบไรด์บุ๊คขึ้นมาและเปลี่ยนมันเป็นโหมอยิงปืนและยิงใส่นีเดิล
"ไม่ได้ผลหรอกน่า!" นีเดิลเคลื่อนที่หลบได้อย่างชำชอง
เมื่อโจมตีระยะไกลไม่โดนเลย ฮายาเตะจึงหยิบไรด์บุ๊คอีกเล่มที่ซ่อนทับเล่มเดิมอยู่ออกมาแล้วเปลี่ยนมันกลายเป้นดาบจากนั้นก็เข้าไปโจมตีในระยะประชิด "ฮ่าส์!!"
แต่นีเดิลก็ใช้หอกยาวป้องกันการโจมตีไว้ และสามารถต่อกรกับมาสค์ไรเดอร์ได้อย่างสูสี
"เป็นอะไรไปมีฝีมือแค่นี้รึไง!?" นีเดิลพูดเหยียดหยาม
"ถ้าอย่างนี้ล่ะครับ!" ดีเคทฉวยโอกาสจังหวะที่นีเดิลเผลอปัดหอกของมันออก แล้วหมุนตัวในจังหวะนั้นเขาก็ใส่การ์ดลงไดร์เวอร์ แล้วหันกลับมาจ่อปืนใส่มัน
FINAL ATTACK RIDE
DE-DE-DECADE
DIMENSION BLAST
การ์ดสีทองปรากฏเรียงรายขึ้นมาเป็นทางตรงไปที่นีเดิล
"ย่าส์!!" ทันทีที่เหนี่ยวไกลำแสงก็ถูกยิงออกมาจากกระบอกปืน พอลำแสงผ่านการ์ดสีทองนั้นมา ก็ขยายกลายเป้นลำแสงขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนโจมตีใส่นีเดิล
ตู้มม!!!
"สำเร็จรึเปล่า ?" ฮายาเตะรอลุ้นผลจากการโจมตีเมื่อกี้
พอควันระเบิดที่ฟุ้งกระจายอยู่เริ่มจากลง แทนที่จะเห็นร่างของชายชุดขาวยืนอยุ่ตรงนั้นกลับกลายเป็น ลอสท์รูปแบบเม่นยืนอยู่ตรงนั้นแทน และมันก็ใช้เพียงมือเดียวรับท่าไม้ตายของดีเคทไว้ได้อีก
"เกือบไป เกือบไป ถ้าไม่ใช่ร่างนี้เมื่อกี้อาจจะขึ้นสวรรค์ไปจริงๆก็ได้"
นีเดิลพูดอย่างสบายๆเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันสะบัดมืออย่างกับว่ารู้สึกเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น
"แกนี่มันตัวอันตรายจริงๆ ไม่คิดเลยว่าจะมีพลังขนาดนี้ซ่อนอยู่ ถ้าอย่างงั้นก็คงต้องขอถอยกลับไปตั้งหลักก่อนล่ะนะ" นีเดิลกระโดดข้ามตึกหนีไปในที่สุด
"ลอสท์ตัวนั้นแข็งแกร่ง..."
ฮายาเตะจะตามไปแต่ก็ไม่ทันเสียแล้วเพราะมันได้ลับสายตาไปแล้ว ในเมื่อไม่สามารถไล่ตามมันไปได้เด็กหนุ่มจึงคืนร่างกลับเป็นมนุษย์และเดินกลับลงไปข้างล่างหาพวกอิจิกะ....
สนามบินฟูโตะเอเรีย 1 เวลา 19.10 น.
อิจิกะ ฮายาเตะและไซโตะหลังจากที่ผ่านการต่อสู้มา พวกเขาก็มาส่งชาร์ลที่สนามบินเพราะเธอนั้นจะต้องขึ้นเครื่องกลับไปยังฝรั่งเศส แต่ก่อนที่หญิงสาวจะไปเธอก็หยุดเดินและหันกลับมาหาพวกเขา
"มีอะไรอีกล่ะ หรือจะลืมของสำคัญอีก" อิจิกะล้อ
"นั่นสินะ" ชาร์ลเดินย้อนกลับไปหาอิจิกะและส่งมอบกระเป๋าไกอาเมมโมรี่ให้กับเขา
"อิจิกะ ผมของฝากไกอาเมมโมรี่และครอสไดร์เวอร์ด้วยนะ"
"ฮะ หมายความว่าไงน่ะ แล้วนายไม่ได้เอาไปให้ประธานทาคากิแล้วเรอะ ?" อิจิกะงง
"ประธานทาคากิบอกว่าสิ่งนี้เป็นของผมและของอิจิกะ เขาไม่มีสิทธิที่จะเอาของสิ่งนี้ไป ตอนแรกผมก็สับสนว่าจะทำยังไงดี แต่ว่าหลังจากที่พวกเราได้ร่วมต่อสู้กัน มันทำให้ผมคิดได้ว่า ไม่แน่สักวันนึง...สักวันนึงพวกเราอาจจะได้กลับมาเจอกันอีกครั้งก็ได้ ผมเชื่ออย่างงั้น"
"ชาร์ล.." อิจิกะมองไปที่ชาร์ล ดวงตาของเธอเชื่อมั่นในสิ่งที่เธอพูดจริงๆ
"ฉันเองก็เชื่อนะ สักวันนึงพวกเราจะกลับมาพบกันอีกครั้ง และเมื่อถึงวันนั้นพวกเรามาเป็น ดับเบิ้ลด้วยกันอีกครั้งนะ!" ชายหนุ่มยื่นมือหาเธอ
"อืม ไว้วันนั้นพวกเรามา.." หญิงสาวในร่างชายจับมือกับอิจิกะ เป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพก่อนที่ทั้งสองจะแยกจากกัน
หลังจากนั้นไม่นานนักเครื่องบินลำที่ชาร์ลโดยสารก็ค่อยเคลื่อนตัวออกจากลานบินขึ้นสู่ฟากฟ้า
ปล่อยชายทั้งสามยืนมองเธออยู่ด้านล่าง มองการจากไปของเพื่อนของพวกเขา โดยที่หวังว่าสักวันนึงพวกเขาจะกลับมาเจอกันอีกรั้งนึง
"ไว้เจอกันใหม่นะ คู่หู.." อิจิกะพูดทิ้งท้ายก่อนที่จะเดินหันหลังกลับไปพร้อมกับกระเป๋าไกอาเมมโมรี่ สิ่งที่เป็นเครื่องยืนยันว่า เธอจะกลับมาสักวันนึง.....
"...ข้าต้องขอชื่นชมที่เจ้านั้นทำผลงานดีมาโดยตลอดจนได้รับตำแหน่งเป็นหัวหน้าของเหล่าลอสท์ด้วยกัน เพียงแต่ว่าเพราะเหตุการณ์ที่พวกเราคาดไม่ถึงในครั้งนี้มันได้สร้างเสียหายให้กับพวกเราอย่างมาก แผนการของพวกเราผิดพลาดและยังต้องสูญเสียลอสท์ไปมากภายในวันเดียว" คอบร้ากล่าว จากนั้นภาพโฮโลแกรมก็ถูกฉายใหม่กลายเป็นภาพของลอสท์ที่เสียชีวิตลงไปในวันนี้ซึ่งประกอบไปด้วย สไปเดอร์,สกอร์เปี้ยน,เมนทิส,คาเมเลี่ยน,โครว์,ปิรันย่า,ฮอร์ส และจากัวร์
"พวกเขาได้เสียชีวิตลงด้วยฝีมือของพวกเด็กๆที่อยู่ๆก็ได้รับพลังลึกลับมา พวกเราไม่ได้คิดเตรียมการถึงเรื่องนี้ไว้จึงไม่ได้วางแผนรับมือ อีกอย่างพลังของเด็กพวกนั้นก็สูงกว่าที่พวกเราคาดไว้" นีเดิลพูด
"แต่ว่าการเสียสละของพวกเขาจะไม่เสียเปล่า เพราะมันทำให้เราได้รับข้อมูลของพลังลึกลับเหล่านั้นมาแล้ว"
"นีเดิล เจ้าทราบสาเหตุที่เด็กพวกนั้นได้รับพลังมารึไม่ ?" คอบร้าถาม
นีเดิลส่ายหน้า "ข้าเองก็ไม่อาจทราบได้ พลังที่ข้าทราบมีเพียงแค่ไกอาเมมโมรี่ ล๊อคซีดและคอสมิคเอเนจี่ที่เป็นผู้สังหารสกอร์เปี้ยน ปิรันย่าและคาเมเลี่ยนเพียงเท่านั้น ส่วนพลังที่ใช้สังหารโครว์จากที่ได้รับข้อมูลมาน่าจะเป็นพลังของศาสตร์เวทมนต์ที่ทาคากิ โซอิจิโร่ถนัด ที่เหลือเป็นพลังที่เราไม่เคยพบมาก่อน"
"เจ้าเคยได้ปะมือกับพลังที่เจ้าไม่รู้จักนั่นหรือไม่" คอบร้าสอบถาม
"เคยครับ แต่ว่าข้าไม่ได้เป็นคนสู้โดยตรงแต่สังเกตการณ์พลังนั้นจากระยะห่าง นั่นเป็นพลังของผู้ที่สังหารฮอร์สและทำให้สไปเดอร์บาดเจ็บสาหัส" นีเดิลเปิดภาพรูปของคิบะ ออกมาด้านหลังของเขา
"ดูจากรูปแบบพลังแล้ว ถ้าให้ข้าเดาคงจะเป็นพลังของพวกสิ่งมีชีวิตในตำนานฝั่งตะวันตก"
"แม้แต่เจ้าพวกนั้นก็ยังคิดจะมาขัดขวางพวกเรางั้นรึ ท่าทางจะเกิดเรื่อยุ่งยากขึ้นเยอะเลยสินะ" คอบร้าทำความเข้าใจ "นีเดิลข้าจะให้โอกาสเจ้าแก้ตัว เจ้าจงกลับไปยังฟูโตะและจงจับเป็นหนึ่งในแปดของเหล่าผู้ได้รับพลังนี้มา พวกเราจะได้ทำการตรวจสอบพลังของพวกมัน และไม่แน่ว่าพลังของพวกมันจะสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการพัฒนาสายพันธ์ในก้าวไปอีกขั้นก็เป็นได้" คอบร้าสั่ง
"ได้ตามที่บัญชาครับ" นีเดิลโค้งคำนับรับคำสั่ง
"เพียงแต่ว่าจากการสูญเสียในครั้งนี้ทำให้ข้าต้องหาลอสท์ฝีมือดีๆไปช่วยทำให้แผนการนี้สำเร็จให้ได้"
"ไม่ต้องห่วงข้าได้จัดลอสท์ที่จะไปกับเจ้าไว้เรียบร้อยแล้ว" คอบร้าพูด
"บีทเทิล แสต็กออกมาได้!" ทันทีที่คอบร้าสั่งลอสท์รูปแบบด้วงเขา(บีทเทิล) และด้วงกวาง(แสต็ก) ก็ออกมาจากเงามืดพร้อมที่รับคำสั่งจากคอบร้าทันที
"สองพี่น้องบีทเทิลและแสต็ก ลอสท์สวมเกราะที่ได้รับขนานนามว่าเป็นคู่ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาลอสท์ทั้งหลาย จะให้ใช้พวกเขาสองคนในการจับตัวเจ้าพวกเด็กนั่นเรอะครับ ?" นีเดิลถามเพื่อความแน่ใจ
"จากตัวเลขความสูญเสียที่คาดไม่ถึงในครั้งนี้ทำให้พวกเราจำต้องระมัดระวังในพวกมันมากขึ้น การใช้พวกเขาก็เพื่อที่แผนการของเราจะสำเร็จได้โดยง่าย และเพื่อป้องกันไม่ให้มีความสูญเสียไปมากกว่านี้" คอบร้าพูด
"ข้าจะปฏิบัติตามที่ท่านประสงค์ ท่านคอบร้า" นีเดิลโค้งคำนับ แล้วเดินออกจากห้องนี้ไปพร้อมกับลอสท์ทั้งสองตัว
นีเดิลเดินมาที่เครื่องวงแหวนวงกลมบางอย่าง ดูเหมือนว่าจะเป็นประตูข้ามมิติที่พวกลอสท์มี คล้ายกับระเบิดสั่นสะเทือนคลื่นมิติเวลาที่เป็นขนาดพกพาที่พวกมันเคยใช้
"เอาล่ะ แผนการจับเป็นเจ้าพวกนั้น คงจะลงมือสุ่มหี่สุ่มห้าไม่ได้ต้องเตรียมตัวและแผนไว้รับมือกับพวกมันโดยเฉพาะ"
"แค่จับเด็กคนนึงมันจำเป็นที่จะต้องทำอะไรถึงเพียงนั้นเลยงั้นรึ" บีทเทิลสงสัย
"แค่เด็กอมมือไม่เอาไหนพวกนั้นคิดว่าจะมาสู้ลอสท์อย่างพวกเราได้เรอะ ไร้เหตุผลสิ้นดี" แสต็กดูถูกความเก่งกาจของพวกเขา
"พวกท่านทั้งสองพวกท่านก็น่าจะทราบดีเรื่องความสูญเสียที่เกิดขึ้นแล้วนี่ ระดับพวกนั้นข้าไม่คิดว่าพวกเราจะจัดการได้ง่ายอย่างที่คิด แต่ว่ายังไงพวกมันก็เพิ่งได้เริ่มต่อสู้ได้เพียงวันเดียว เรื่องกลยุทธ์หรือวิธีต่อสู้ก็คงแค่เป็นไปตามสัญชาตญาณของพวกเขาเท่านั้น ถ้าเป็นอย่างที่ข้าคิดการที่จะเอาชนะพวกมันก็คงไม่ใช่เรื่องยาก" นีเดิลตาดคะเน
"เดี๋ยวพวกเราจะเป็นคนทำหน้าที่นั้นเอง นีเดิลเจ้าคอยยืนอยู่เฉยๆด้านหลังไปเถอะ" บีทเทิลบอก
"ใช่ๆ เจ้าอยู่ที่นี่ก็เป็นได้แค่ตัวถ่วงพวกเราเปล่าๆ ให้พวกเราสองคนลุยกันเองเท่านี้ก็จะไม่มีช่องโหว่ต่อให้พวกมันทั้งแปดเข้ามาพร้อมๆกันก็ชนะพวกเราไม่ได้!" แสต็กเชื่อมั่นในความเก่งกาจของพวกมันทั้งสองมาก
"ถ้าพวกท่านต้องการเช่นนั้นข้าก็จะทำตามที่พวกท่านต้องการ ข้าจะทำหน้าที่เป็นคนสนับสนุนพวกท่านเอง แต่ต้องขอให้พวกท่านเป็นคนสู้กับเจ้าพวกนั้นซึ่งๆหน้าด้วยล่ะ" นีเดิลทำตัวเป็นอ่อนน้อทถ่อมตน
"วางใจเถอะ พวกเราน่ะแข็งแกร่งที่สุดใช่มั้ยพี่!" แสต็กพูดกับพี่ชายคนของตัวเอง
"ถึงจะแข็งแกร่งแต่ว่าพพวกเราเองก็ต้องการกำลังสนับสนุน นีเดิลหากเจ้าเห็นพวกเราย่ำแย่เมื่อไหร่ก็ต้องขอให้เจ้ามาช่วยเหลือพวกเราในยามนั้นด้วย....เพียงแต่ว่า โอกาสนั้นอาจจะไม่มี เพราะพวกข้านั้นจะล้มพวกมันก่อนที่พวกมันจะได้ทำอะไรเสียอีก!" บีทเทิลประกาศ
"ถ้าเช่นนั้นก็ขอให้พวกท่านทำตามที่พวกท่านต้องการเถอะครับ" นีเดิลยิ้มอย่างเป็นมิตร แต่จริงๆแล้วรอยยิ้มของปิศาจร้ายได้ซ่อนอยู่ภายในความมิตรนี้อีกที
"คงจะได้เวลาที่พวกเราจะต้องไปบ้างแล้ว" นีเดิลสั่งสัญญาณให้เหล่านักวิทยาศาสตร์ชุดขาวของลอสท์เปิดเครื่องวงกลมตรงหน้า
"สถานที่ที่จะไปคือทวีปเอเชียตะวันออก ประเทศญี่ปุ่น เมืองฟูโตะ พื้นที่ขอบเขตการปกครองเอเรีย 1 ภูมิภาคกลาง หาสถานที่ที่คาดว่าจะมีประชาชนน้อยที่สุดและทำการส่งพวกเราไปที่นั่น" นีเดิลบอกรายละเอียดสถานที่ นักวิทยาศาสตร์ของลอสท์ก็ใส่ข้อมูลดังกล่าวลงไปในเครื่องและเริ่มหาจุดที่เหมาะในการลงไป
"กำหนดสถานที่ได้แล้วครับ บนชั้นดาดฟ้าของตึกของบริษัท Tormenta(ภาษาสเปน = พายุ)"
"เข้าใจแล้ว" ทันทีที่เดินเครื่องสั่นสะเทือนมิติวลาก็เกิดเป็นช่องว่างมิติสีดำขึ้นมา
นีเดิล บีทเทิลและแสต็ก ลอสท์ทั้งสามเดินเข้าไปในช่องว่างมิตินั้นอย่าไม่มีความกลัวเกรง และส่งพวกเขาไปยังที่แห่งนั้นภายในทันที
โรงพยาบาล WINDY เวลา 20.30 น.
ที่โรงพยาบาลที่โอโตนาชิ โคโตริเลขานุการของ 765 โปรดักชั่น ได้พาเหล่าเด็กหนุ่มผู้ถูกเลือกโดยชะตากรรมนั้นมายังที่แห่งนี้เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บได้รับมาจากการต่อสู้ แต่ในบรรดาพวกเขาทั้งเจ็ดคนนั้นมีเพียงแค่สามคนเท่านั้นที่สามารถกลับไปที่บ้านได้เพราะไม่ได้รับอาการบาดเจ็บถึงขนาดที่ต้องนอนโรงพยาบาลซึ่งประกอบไปด้วย จุนอิจิ อากิฮิสะ และไซโตะ และพวกเขาก็ถูกนัดหมายให้มายังสำนักงานในวันรุ่งขึ้น
ส่วนโอริมูระ อิจิกะที่ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้กับสกอร์เปี้ยนในร่างมนุษย์จนได้รับบาดเจ็บไปเกือบทั่วทั้งร่างกาย และยังต่อสู้ในโดยการเป็นดับเบิ้ล ทั้งๆที่ร่างกายเองก็ยังเจ็บอยู่ เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บให้หายจึงถูกบังคับในนอนที่โรงพยาบาล โดยมีชารล์ ดูนัวร์หญิงสาวที่เขาช่วยไว้อยู่เคียงข้าง
ทางซาการะ โยชิฮารุที่ได้รับผลจากแรงระเบิดที่ลอสท์ปิรันย่าทำไว้ ทำให้เขาเองก็ได้รับบาดเจ็บไม่แพ้กัน
เพียงแต่ว่าอาการโดยรวมแล้วตัวโยชิฮารุถือว่าอาการดีกว่าอิจิกะเพราะบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่เพื่อป้องกันการเกิดอันตรายอื่นจึงถูกบังคับในนอนที่โรงพยาบาลเพื่อดูอาการให้แน่นอน โดยมีโอโตนาชิ ดคโตริเลขานุการของ 765 โปรดักชั่น ผู้นำพาพวกเขาเจ็ดคนมารวมกัน
และทาคากิ ยูทาโร่ได้ไปนอนค้างอยู่ที่บริษัทพร้อมกับคุณตาและอามามิ ฮารุกะไปดอลของ 765 โปร
และคนต่อมา....
"แฮ่ก...แฮ่ก!" ซาเต็น รุยโกะรีบมายังโรงพยาบาล WINDY ในทันทีหลังจากที่เธอได้รับโทรศัพท์จากผู้หญิงที่เธอไม่รู้จัก และบอกว่าตอนนี้พี่ชายของเธออยู่ที่โรงพยาบาล เธอรีบวิ่งไปที่เคาน์เตอร์ของโรงพยาบาล
"คุณพยาบาลคะ ทราบมั้ยคะว่าตอนนี้คามิโจว โทวมะอยู่ที่ห้องอะไรน่ะค่ะ ?"
"โปรดรอสักครู่นะคะ" พยาบาลกดเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์หาห้องที่โทวมะพักรักษาตัวอยุ่
"ค่ะ เจอแล้วแล้วค่ะ ห้อง 108 ค่ะอยู่ชั้นบนค่ะ ไม่ทราบว่าคุณเป็นญาติของเขาเหรอคะ ?"
"น้องสาวค่ะ ขอบคุณมากนะคะ!" เมื่อรุ้ห้องที่โทวมะอยู่แล้ว รุยโกะก็รีบวิ่งขึ้นบันไดแล้วตรงไปที่ห้อง 108 ทันที
เธอจับลูกบิดประตูแล้วเปิดประตูเข้าไปในห้องในทันที "พี่โทวมะ!!"
"รุยโกะ มีอะไรทำไมวิ่งมาขนาดนั้นล่ะ ?" โทวมะที่นอนพักอยุ่ที่เตียงถึงกับสะดุ้งเมื่อน้องสาวบุญธรรมเข้ามาอย่างรีบเร่งแบบนี้
"คนที่ควรถามน่ะหนูต่างหากล่ะ" รุยโกะขมวดคิ้ว เธอเลื่อนเก้าอี้ไปอยู่ข้างเตียงของโทวมะและนั่งลงอย่างอารมณ์เสีย "พี่โทวมะนี่ชอบทำให้คนอื่นเป็นห่วงอยู่เรื่อยเลย ชอบไปหาเรื่องใส่ตัวแล้วก็ไปเจ็บตัวมาทุกที่สิน่า หนูก็อุตส่าห์ออกมาจากบ้านเพื่อตามหาพี่ในเมืองแต่ก็หาไม่เจอ จนได้รับโทรศัพท์จากพี่สาวที่บอกว่าเป็นเลขาของ 765 นี่ล่ะถึงได้มาถูก"
"ขอโทษนะที่ทำให้เป็นห่วงน่ะ" โทวมะขอโทษ
"แต่ที่ต้องมานอนโรงพยาบาลเนี่ยไม่ใช่เพราะโดนรุมอัดมาหรอกนะ"
"ไม่ได้โดนรุมอัดมา แล้วไปโดนอะไรมาล่ะคะถึงเป็นแบบนี้ ?" รุยโกะเกิดความสงสัยแต่เมื่อเธอมองหน้าโทวมะ เธอก็เข้าใจในทันที "ปะ...ไปสู้มางั้นเหรอคะ ทำไม...ถึงต้องแปลงร่างด้วยล่ะ ศัตรูมันเป็นตัวอะไรถึงกับต้องใช้พลัง ?"
"ก็ไม่รู้รายละเอียดนักหรอก รู้แค่ว่ามันเรียกตัวเองว่าลอสท์น่ะ" โทวมะเล่าเรื่องที่ตัวเองพอรู้ให้รุยโกะฟัง
"ฉันคิดว่าถ้าปล่อยมันไว้คงจะต้องเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นตามมาอีกแน่ ก็เลยสู้กลับไปและก็เอาชนะมันมาได้ ร่างกายก็ไม่ได้บาดเจ็บอะไรนะ แต่ดูเหมือนพวกหมอเขาเช็คว่าเป็นโรคร้ายอะไรเนี่ยล่ะ"
"โรคร้าย โรคอะไรงั้นเหรอคะ ?" รุยโกะรีบถามด้วยความเป็นห่วง
"เออ...จริงๆแล้วพวกเขาตรวจผิดน่ะ จริงๆแล้วไม่ได้มีอาการอะไรเลย ดูเหมือนเครื่องมันจะมาเจ๋งตอนตาฉันพอดีน่ะ" โทวมะเล่าความจริง
รุยโกะถอนหายใจ "..ค่อยเบาใจลงหน่อย คิดว่าพี่โทวมะจะเป็นอะไรไปซะแล้ว"
"หึ ร่างกายของคุณคามิโจวน่ะมันฟื้นตัวเร็วยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้นล่ะ ต่อให้โดนระเบิดมาก็ไม่เป็นไร" โทวมะอวด รุยโกะจึงหยิบไม้เบสบอลมาตีหัวด้วยความหมั่นไส้ "รุยโกะมันเจ็บนะ และตีคนที่ป่วยอยู่มันไม่ดีนะ"
"พี่โทวมะพูดได้ซะขนาดนั้นหนูคิดว่าคงไม่ตายหรือไม่เป็นอะไรแน่ค่ะ" รุยโกะบอก
"ถ้าอย่างงั้นดูเหมือนว่าพี่ยังไงก็ต้องนอนที่นี่สินะคะ ถ้าอย่างงั้นหนูจะโทรไปบอกพ่อกับแม่ว่าวันนี้หนูและพี่โทวมะจะไม่กลับละกันนะคะ"
"อ้าว รุยโกะจะนอนที่นี่ทำไมล่ะ ก็ไม่ได้ป่วยไม่ใช่เหรอ ?" โทวมะงง
ซาเต็นหันกลับมาพร้อมกับออกอาการเขินเล็กน้อย "กะ..ก็น่าจะดูดีอยู่แล้วนี่"
"ก็จะเฝ้าดูอาการพี่โทวมะไง เวลามีคนเจ็บก็ต้องมีคนเฝ้าสิ อีกอย่างจะให้เด็กผู้หญิงออกไปเดินคนเดียวในเมืองยามค่ำคืนแบบนี้มันอันตรายนะคะ"
"อา จริงด้วย ขอบคุณนะรุยโกะ งั้นฉันขอนอนก่อนล่ะ" โทวมะขอบคุณและพลิกตัวไปอีกข้างแล้วหลับลงนอน
และคนสุดท้ายที่ต้องนอนที่โรงพยาบาลเช่นกัน โดยเขานั้นยังเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน และเขาก็ยังไม่รู้สึกตัว เขายังเป็นคนที่ได้รับบาดเจ็บที่ในบรรดาทุกคน ถึงแม้ว่าอาการของเขาจะดีขึ้นแล้ว แต่ก็ยังไม่ทราบว่า อะยาซากิ ฮายาเตะ....เขาจะตื่นขึ้นมาเมื่อใด.....
และแล้ววันแห่งการเริ่มต้นนี้ผ่านพ้นไป เข้าสู่วันใหม่....
.
.
.
.
??? เวลา ??.?? น.
ภายในความมืดมิดที่ไร้ซึ่งแสงสว่าง ทุกๆอย่างรอบข้างล้วนเป็นสีดำ ความมืดมิดที่ปกคลุมไปทั่วทุกที่ ไร้ซึ่งจุดสิ้นสุด ไร้ซึ่งจุดเริ่มต้น ไร้ซึ่งเสียง ไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิต มีเพียงความว่างเปล่า แต่ว่าเมื่อมีแสงไฟสีฟ้าดวงเล็กๆเกิดขึ้น บางสิ่งที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดก็รีบเข้าหาแสงนั้นทันที
ดวงแสงนั้นได้ก่อร่างเป็นมนุษย์ เขาคืออะยาซากิ ฮายาเตะ ชายหนุ่มที่ประสบกับชะตากรรมที่โหดร้ายกว่าใครอื่น ทั้งเรื่องที่พ่อแม่ของเขาทิ้งเขาไว้พร้อมกับหนี้ 156,804,000 เยน เรื่องที่เขาเกือบเอาตัวไม่รอดจากการตามล่าของเหล่ายากูซ่า เรื่องที่เขาเกือบต้องมาตายด้วยฝีมือของสัตว์ประหลาดแมงมุม และเรื่องที่เขาได้ไคว่ขว้าดวงแสงสีฟ้าดวงนึงไว้สิ่งนั้นมันทำให้ชีวิตของเด็กหนุ่มคนนึงเปลี่ยนไป
ฮายาเตะรีบวิ่งหนีบางอย่างที่มาจากเงามืด ถึงจะมองไม่เห็นมันแต่ว่าเสียงร้องคำราม เสียงร้องโหยหวน เสียงของความตายก็ดังมาจากทั่วทุกสารทิศ ภายในความืดมิดที่ไม่มีสิ้นสุดนั้น เด็กหนุ่มทำได้เพียงวิ่งไปข้างหน้าเท่านั้นโดยที่ไม่รู้เลยว่าข้างหน้าของเขาจะมีอะไรรออยู่
"ทำไมเราถึงมาที่นี่ได้...ที่นี่มันที่ไหน!?" เด็กหนุ่มถามตัวเอง
เขาวิ่งตรงไปเรื่อยแต่เมื่อมาถึงจุดหนึ่งเขาก็ชนเข้ากับกำแพงสีดำ ทำให้เขาไปต่อไม่ได้ "แย่แล้วแบบนี้จะทำยังไงดี!" ฮายาเตะพยายามคลำหาทางออกไปเรื่อยๆแต่ว่าไม่ว่าจะพยายามไปมากเท่าไหร่ก็ไม่สามารถหาทางออกไปจากความมืดมิดนี้ได้ จนเสียงร้องของปิศาจที่ดังมาจากด้านหลังดังขึ้นเรื่อยทำให้เขารู้ว่าต้องรีบเข้าแล้ว
"อยู่ที่ไหน ทางออกอยุ่ที่ไหน!?"
ทันใดนั้นใยแมงมุมได้ถูกพ่นออกมารัดแขนของเด็กหนุ่มไว้ "นะ...นี่มัน"
เขาหันกลับไปก็พบว่าเงามืดค่อยรวมตัวกันและค่อยๆเปลี่ยนตัวเองเป็นลอสท์สไปเดอร์ "แกต้องตาย ข้าจะต้องชำระแค้นเรื่องที่แกทำกับข้าไว้!"
เงาดำอื่นๆเองก็ค่อยๆก่อร่างสร้างตัวเป็นลอสท์ที่ตายไปแล้ว "ชำระแค้น...ชำระแค้น...ชำระแค้น"
ความืดมิดทั้งหลายเดินเข้าไปใกล้ฮายาเตะและเขารุมล้อมเขาจนแสงสว่างหายไป
"อย่าเข้ามานะ...อย่าเข้ามา!!" เด็กหนุ่มตะโกน แสงสว่างสีฟ้าจากร่างของเขาถูกปลดปล่อยออกมา ทำลายเหล่าเงาสีดำและเปลี่ยนความมืดมิดให้กลับเป็นแสงสว่างสีเขียวอมฟ้า
"นี่มัน...เกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย!?" เด็กหนุ่มมองฝ่ามือของตัวเอง
ฮายาเตะเงยหน้าขึ้นเขาก็พบเห็นเด็กผู้หญิงที่ถูกขังอยู่ในกรงสีทอง แต่ว่ามันเป็นที่ที่ไกลมาก ไกลมากถึงขนาดที่วิ่งไปภายในวันนี้เขาก็ไม่มีทางที่จะถึงจุดหมายอย่างแน่นอน แต่สำหรับมนุษย์ที่ตอนนี้ไม่รู้จะไปมีที่พึ่งที่ไหนแล้วเขาก็ทำได้เพียงวิ่งตามเธอคนนั้นไป และถึงแม้จะอยู่ห่างไกลแต่เด็กหนุ่มก็สามารถมองเห็นหยดน้ำตาของเธอที่ร่วงลงสู่พื้นสีขาวได้อย่างชัดเจน และน้ำตาหยดนั้นก็ได้ทำให้แสงสีฟ้านี้เปล่งประกายจ้ามากขึ้นจนทำให้เด็กหนุ่มหายไปในแสงนั้น....
โรงพยาบาล WINDY เวลา 06.10 น.
"ว้าา!!" ฮายาเตะสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากความฝัน "ความฝัน...อย่างงั้นเรอะ..."
เด็กหนุ่มเมื่อฟื้นมายังโลกแห่งความจริงแล้ว เขาหันไปมองรอบๆพบว่าตัวเองอยู่ในที่ที่ไม่คุ้นเคย และไม่น่าจะเป็นบ้านของเขา "ที่นี่ที่ไหน..โรงพยาบาลงั้นเรอะ ?"
ฮายาเตะหันไปมองป้ายที่ติดอยู่ข้างๆที่เขียนว่า 'โรงพยาบาล WINDY' ก็ทำให้เขาทราบถึงที่ที่เขาอยู่ตอนนี้แล้ว
"ทำไมเราถึงมาอยู่ที่นี่ได้ เมื่อวานนี้จำได้ว่า..."
ภาพของเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นได้กลับมาในความทรงจำของเด็กหนุ่มอีกครั้งทำให้เขารู้ถึงสาเหตุที่ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ "...เราสู้กับสัตว์ประหลาดแมงมุมตัวนั้นแล้วก็ล้มลงไป แต่ว่าหลังจากนั้นเราก็จำอะไรไม่ได้เลย"
ตอนนั้นเองทาคากิ โซอิจิโร่ประธานบริษัท 765 โปรดักชั่น และเป็นคุณตาของยูทาโร่ ชายผู้เป็นหัวหน้าของโคโตริผู้สั่งให้เธอรวบรวมเหล่าเด็กหนุ่มผู้ได้รับพลังลึกลับ ได้เปิดประตูเข้ามาในห้องของฮายาเตะและเห็นว่าเขาได้ฟื้นจากอาการบาดเจ็บแล้ว "อา...ในที่สุดก็รู้สึกตัวแล้วสินะ อะยาซากิ ฮายาเตะคุง"
"คุณคือ...ทำไมรู้ชื่อผมล่ะครับ ?" ฮายาเตะแปลกใจกับชายแก่ที่เขาไม่รู้จักทำไมถึงรู้จักชื่อของเขา
"เมื่อวานตอนบ่ายเธอได้มาส่งเอกสารสำคัญเกี่ยวกับการจัดแสดงงานคอนเสิร์ตให้ฉัน และตอนที่เธอขี่จักรยานตกลงไปในชั้นรถไฟใต้ดินเธอได้ทำนี่ตกไว้น่ะ" โซอิจิโร่หยิบบัตรประจำตัวของฮายาเตะขึ้นมา
"นั่นมันของผมนี่...นึกออกแล้วคุณคือคนที่ผมมาส่งเอกสารให้เมื่อวานนี่"
"อืม ไม่คิดเลยนะว่าจะได้เจอเธออีกในสภาพนี้น่ะ" โซอิจิโร่นั่งลงบนโซฟาข้างๆเตียงผู้ป่วย
"ว่าไงหลังจากที่ผ่านเหตุการณ์ที่เลวร้ายเมื่อวานมา ตอนนี้รู้สึกเป็นไงบ้างล่ะ ?"
"คุณรู้เหรอครับ ?" ฮายาเตะไม่ตอบคำถามของโซอิจิโร่แต่กลับเป็นถามเพราะดูเหมือนว่าชายชราคนนี้จะรู้เรื่องต่างๆอย่างดีมากกว่าตัวเขาเองเสียอีก
"รู้สิ รู้ว่าเธอต้องเจอกับสัตว์ประหลาดนั่น รู้ว่าเธอได้รับพลังที่คาดไม่ถึงมา และก็รู่ว่าเธอใช้พลังนั้นจัดการมันลงได้" โซอิจิโร่บอก
"เรื่องนั้นมันไม่ใช่ความฝันจริงๆสินะครับ" ฮายาเตะรำพึง
"ต้องบอกว่าโชคร้ายน่ะนะที่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อวานคือความจริง และเธอเองก็เกือบเอาชีวิตไม่รอดแล้วด้วย ถ้าเกิดไม่ได้พลังนั่นมา"
เมื่อนึกถึงเมื่อวานฮายาเตะก็นึกออกว่าตัวเองได้รับบาดเจ็บไปทั่วทั้งตัวแน่นอน เพราะเขาถูกสไปเดอร์ทำร้ายจนร่างกายบอบช้ำไปหมด แต่พอเขาสำรวจร่างกายตัวเองอีกทีก็พบว่าไม่มีบาดแผล ไม่มีรอยแผลเป็น ขนาดแผลที่โดนแทงทะลุก็ยังหายเหมือนกับว่าไม่เคยเป็นอะไร
"คุณบอกให้หมอของที่นี่รักษาผมงั้นเหรอครับ ?"
"ก็ไม่เชิง บาดแผลทั้งหมดที่เธอน่าจะเป็นพอเลขาของฉันที่เป็นคนไปรับเธอไปถึงก็บอกว่าเธอนอนกองนองเลือดอยู่ที่สวนสาธารณะพร้อมเศษอวัยวะและซากศพของกลุ่มคนที่คาดว่าน่าจะเป็นพวกแก๊งอะไรซักอย่าง แต่ไม่มีร่องรอยของลอสท์แม้แต่น้อย ถึงแม้จะมีร่องรอยจากการต่อสู้อยุ่มากก็ตามล่ะนะ" โซอิจิโร่เล่า
"เมื่อวานเกิดอะไรขึ้นแล้วเจ้าสัตวืประหลาดนั้นเธอปล่อยให้มันหนีไปได้งั้นเหรอ ?"
"เปล่าครับ" ฮายาเตะส่ายหน้า
"ผมเป็นคนจัดการกับเขาเอง และเขาก็สลายหายไปต่อต่อตาผมจากนั้นผมก็จำอะไรไม่ได้ต่อจากนั้น"
"อืม อย่างงั้นเรอะ" โซอิจิโร่ทำความเข้าใจ
ฮายาเตะหันไปมองที่ของสัมภาระของเขาที่วางอยู่บนโต๊ะข้างๆก็เห็นมี ไดร์เวอร์และไรด์บุ๊คอุปกรณ์ที่เขาใช้ต่อสู้เมื่อวานวางอยู่ตรงนั้นด้วย "คุณรู้มั้ยครับว่าพลังนั้นคือพลังอะไร ?"
โซอิจิโร่ส่ายหน้า "พลังที่เธอมีเป็นพลังที่ดูแปลกที่สุดในบรรดาพวกเธอทุกคน มันไม่ใช่พลังของฝั่งวิทย์หรือฝั่งเวท และดูเหมือนว่าจะไม่ใกล้เคียงกับรูปแบบพลังใดบนโลกเลยแม้แต่น้อยด้วย"
ตอนที่โซอิจิโณ่พูดนั้นฮายาเตะก็รู้สึกตะหงิดใจกับคำๆนึง "บรรดาพวกเธอทุกคน...หมายความว่ายังไงครับ ?"
"อ้อ จริงด้วยเธอยังไม่รู้สินะ"
"รู้เรื่องอะไรเหรอครับ ?" ฮายาเตะถาม
"เธอน่ะไม่ใช่คนเดียวที่ได้พลังลึกลับที่คล้ายๆแบบนี้มาน่ะสิ ยังมีคนอื่นๆที่พบกับชะตากรรมเดียวกันกับเธออยู่ด้วย" โซอิจิโร่ชี้แจง ฮายาเตะถึงกับพูดอะไรไม่ออกเมื่อได้ยินสิ่งที่เขาบอก
"แต่ว่าทุกคนดูเหมือนจะมีรูปแบบพลังที่ต่างกันออกไป และไม่มีใครที่มีพลังเหมือนเธอเลยสักคนน่ะนะ"
"อย่างงั้นเหรอครับ ถ้าแบบนั้นตอนนี้คนอื่นๆเขาเป็นยังไงบ้างครับ ปลอดภัยดีรึเปล่า ?" ฮายาเตะห่วงความปลอดภัยของคนที่เขาไม่รู้จักก่อนทำให้โซอิจิโร่รู้สึกแปลกใจไม่น้อย
"ตอนนี้ทุกคนปลอดภัยดี โดยรวมแล้วก็ดีกว่าเธอน่ะนะ อะยาซากิคุง ก่อนที่จะห่วงคนอื่นห่วงตัวเองก่อนก็ดีนะ" โซอิจิโร่แนะนำ เด็กหนุ่มอมยิ้มและก้มหน้าลงเล็กน้อย
"ถ้าเกิดมีคนที่มีพลังแบบผมอยู่จริงๆ พวกเขาก็อาจจะต้องพบกับเรื่องน่ากลัวแบบนี้เหมือนกับผม ผมจึงเป็นห่วงพวกเขาน่ะครับว่าจะทำใจรับมือกับเรื่องได้รึเปล่า"
"แปลกคนดีนะเธอเนี่ย" โซอิจิโร่ชม เขามองนาฬิกาข้อมือของตัวเองก็ทำให้เขารู้ว่าถึงเวลาต้องไปแล้ว
"ถ้าเธออยากจะรู้ความจริงของเรื่องที่เกิดขึ้น่ละก็ก็ขอให้ไปที่ 765 โปรดักชั่นตอนเที่ยงนี้นะ ที่นั่นฉันจะเป็นคนให้คำตอบเธอเอง และเธอเองก็อาจจะได้พบกับคนที่เดินบนชะตากรรมเส้นทางเดียวกันกับเธอก็ได้"
"ครับ ขอบคุณนะครับสำหรับทุกอย่าง" ฮายาเตะกล่าวขอบคุณ
ชายวัยกลางคนเปิดประตูและเดินออกไปจากห้อง
หลังจากที่ได้อยุ่คนเดียวแล้ว ฮายาเตะได้เอื้อมมือไปหยิบไดร์เวอรืและไรด์บุ๊คของเขาดูใกล้ๆ
"นี่ก็คือ...พลังของเรา ?"
หน้าบริษัท 765 โปรดักชั่น เวลา 11.07 น.
หลังจากนั้นฮายาเตะได้ขอออกจากโรงพยาบาลซึ่งก็สามารถออกได้โดยง่ายเพราะดูเหมือนทางโซอิจิโร่จะทำเรื่องทุกอย่างไว้แล้ว เขาก็ตัดสินใจที่จะรู้ความจริงจึงไปยัง 765 โปรดักชั่น ที่ที่เด็กหนุ่มคิดว่าเขาจะได้คำตอบของทุกอย่าง
"ที่นี่สินะ 765 โปรดักชั่น" เด็กหนุ่มมายืนอยุ่หน้าตึกสูงภายในเมืองใหญ่ ที่มั่นใจได้ว่าเป็นบริษัทที่ว่าเพราะว่ามีป้าย 765 เขียนเด่นสง่าอยู่บนอาคาร
"ยังไงก็ลองเข้าไปก่อนดีกว่า" เด็กหนุ่มกำลังจะก้าวเท้าเข้าไปในบริษัท
"เฮ้ นายน่ะ!" เสียงของชายคนึงดังขึ้นทำให้ฮายาเตะต้องหยุดและหันกลับมาตามเสียง
"ครับ ?"
ชายผู้ที่เรียกฮายาเตะก็คือฮิรากะ ไซโตะ ชายผู้ใช้พลังจากคิบัทค้างคาวพูดได้แปลงร่างเป็นคิบะ นักรบสวมเกราะสีเลือด "หน้าตานายคุ้นๆนะ เราเคยเจอที่ไหนมาก่อนรึเปล่า ?"
"อืม...นั่นสินะครับ" ฮายาเตะมองหน้าของไซโตะและพยายามนึกเช่นกัน
"อ้อ...เจ้าคนที่ช่วยจับขโมยเมื่อวาน/คนที่ช่วยผมจับโจรวิ่งราวเมื่อตอนนั้น" ทั้งสองนึกออกพร้อมกัน
"ไงสบายดีสินะ แล้วนายมาที่นี่ทำไม ?" ไซโตะถาม "จะมาสมัครเป็นไอดอลเรอะ ?"
"ไม่ใช่ครับ คือผมมีธุระที่สำคัญที่ต้องมาคุยกับประธานของที่นี่น่ะครับ" ฮายาเตะบอก "เป็นเรื่องสำคัญที่ผมต้องการจะรู้ให้ได้น่ะครับ"
ไซโตะได้ยินฮายาเตะเล่าแบบนี้แล้วทำไมเขารู้สึกบางอย่าง "เดี๋ยวนะหรือว่านายก็ด้วย ?"
"ผมก็ด้วย.." ฮายาเตะงงกับสิ่งที่ไซโตะบอก แต่ว่าเมื่อเขาลองคิดดีๆเขาก็เข้าใจ
"หรือว่าคุณเองก็....เป็นเหมือนกับผม ?"
"ถูกต้องแล้วล่ะ แต่ว่าคู่หูของฉันเขาเป็นพลังที่เรียกว่าคิบะยังไงล่ะ" คิบัทพูดมาจากถุงผ้าของไซโตะ
"เมื่อกี้เสียงมาจากไหนน่ะครับ ?" ฮายาเตะสงสัยกับเสียงที่เขาได้ยิน
"อะ...เปล่าๆไม่มีอะไร ไม่มีเสียงอะไรทั่งนั่นล่ะ" ไซโตะพยายามกลบเกลื่อนและเขย่าคิบัทที่อยู่ในถุงผ้าเพื่อทำให้มันเงียบ "ถะ...ถ้าอย่างงั้นเดี๋ยวฉันขอตัวเข้าไปก่อนนะ ต้องรีบเข้าไปก่อนน่ะ"
ไซโตะรีบเข้าไปในบริษัทก่อนทันที ทิ้งฮายาเตะให้ยืนอยู่ข้างนอกแบบงงๆ
"เราเองก็คงต้องเข้าไปสินะ" ฮายาเตะตัดสินใจเดินตามไซดตะเข้าไปในบริษัท
ทันทีที่เขาเข้าไปภายในนั้นเขาก็ตามหาประชาสัมพันธ์เพื่อที่จะถามถึงห้องของโซอิจิโร่ "เออ คือว่าห้องของประธานของที่นี่อยู่ทีไหนเหรอครับ ?"
"ค่ะ โปรดแจ้งชื่อของท่านก่อนค่ะ" ประชาสัมพันธ์บอก
"ผมชื่ออะยาซากิ อายาเตะครับ ท่านประธานของทีนี่เขานัดผมไว้" ฮายาเตะตอบ
"รอสักครู่นะคะ" ประชาสัมพันธ์หญิงรีบกดเครื่องคอมพิวเตอร์และเช้คตารางของประธานทันที
"ค่ะ ท่านประธานรออยู่ที่ห้องประชุมชั้นบนสุดค่ะ"
"ครับขอบคุณมากนะครับ" ฮายาเตะเสร็จแล้วก็เดินไปที่ลิฟท์เพื่อที่จะขึ้นลิฟท์ไปยังชั้นบน
ตอนที่เขาเดินมาถึงนั้นเขาก็เจอผู้หญิงคนนึงเพิ่งสะดุดตรงหน้าลิฟท์พอดี เขาจึงวิ่งไปดูอาการของเธอ "คุณครับ เป็นอะไรรึเปล่า ?"
"แฮะๆ ลื่นล้มจนได้ ไม่เป็นไรๆฉันลื่นล้มเป็นประจำอยุ่แล้วน่ะ" เธอคืออามามิ ฮารุกะ ไอดอลของ 765 โปรดักชั่น และยังเป็นเพื่อนสมัยเด็กของทาจิบานะ จุนอิจิ
ฮายาเตะยื่นมือช่วยดึงเธอยืนขึ้น "ขอบใจนะ"
"ไม่เป็นไรครับ เออ...คุณคือ ?"
"อ้อ ฉันชื่ออามามิ ฮารุกะเป็นไอดอลที่ทำงานที่นี่น่ะ" ฮารุกะแนะนำตัว "ยินดีที่ได้รู้จักนะ...เออ..."
"ขอโทษครับ ผมอะยาซากิ ฮายาเตะครับ คือวันนี้ท่านประธานของที่นี่เขานัดผมไว้ผมจึงจะไปพบน่ะครับ"
"เอ๋ หรือว่าเธอจะเป็นคนที่แปดน่ะ" ดวงตาของฮารุกะเปล่งประกาย
ฮายาเตะตกใจที่ฮารุกะแสดงท่าทีแบบนี้เมื่อเธอรู้ว่าเขาเป็นอะไร "คะ...ครับ" และตอนนั้นเองประตูลิฟท์ก็เปิดออก ทั้งสองจึงเข้าไปในลิฟท์แก้วนั้นเพื่อขึ้นไปชั้นบน พร้อมกับคุยกันระหว่างนั้น
"คุณอามามิ คือว่าคุ-" ระหว่างที่ฮายาเตะกำลังพูด ฮารุกะก็ตั้งนิ้วชี้ป้องปากชายหนุ่มไว้
"เรียกแันว่าฮารุกะดีกว่านะ แบบนั้นมันฟังดูสนิทสนมมากกว่าน่ะ พวกเราเองก็เป็นเพื่อนกันด้วยไม่ต้องทำตัวห่างเหินแบบนั้นหรอก" ฮารุกะขยิบตาให้ฮายาเตะ
"คะ...ครับ คุณฮารุกะ" ฮายาเตะตกลงตามที่ฮารุกะบอก
"แล้วคุณฮารุกะทำไมถึงรู้เรื่องของพวกผมได้ล่ะครับ ?"
"อืม พูดยังไงดีล่ะ แบบว่าฉันน่ะรู้เรื่องพวกนี้มาตั้งแต่ปีที่แล้วแล้วน่ะ หลังจากนั้นมาก็รู้เรื่องทางนี้เรื่อยๆจนถึงเมื่อวานก็มารู้ว่ามีคนที่ได้รับพลังพิเศษมากถึงแปดคนในวันเดียว ก็เลยรุ้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษด้วย" ฮารุกะบอก
"และในบรรดาแปดคนตอนนี้ฉันเองก็เจอแค่ 3 คนเองนะ"
"มีผมแล้วก็คนอื่นอีกสองคนสินะครับ"
"พอดีว่ามีอยู่คนนึงที่คุยกันเป็นปกติอยู่แล้วน่ะ ส่วนอีกคนเพิ่งรู้จักกันเมื่อวานน่ะ" ฮารุกะอธิบาย
"แต่ไม่คิดเลยนะว่าในบรรดาทั้งแปดคนจะมีคนหน้าตาหน้ารักอย่างฮายาเตะคุงอยู่ด้วยน่ะ"
"งะ..งั้นเหรอครับ" ฮายาเตะรุ้สึกเขินและอายที่ได้รับคำชมแปลกๆ
"เอาล่ะ ถึงแล้ว!" ลิฟท์แก้วเลื่อนจนไปถึงชั้นบนสุด ทันทีที่ประตูลิฟท์เปิดออกทั้งสองเดินออกมาจากลิฟท์ แล้วฮารุกะก็เดินนำไปห้องประชุมของโซอิจิโร่
"ท่านประธานน่าจะอยู่ในนี้ล่ะ พร้อมกับคนอื่นๆน่ะ" ฮารุกะเปิดประตูเข้าไปในห้องประชุมก็พบว่าทุกคนอยุ่ข้างในกันหมดแล้ว
"อามามิคุง อะยาซากิคุงมาจนได้นะ นั่งก่อนสิ เท่านี้ก็ครบแล้วจะได้เริ่มคุยกันซักที" โซอิจิโร่บอก
"ฮารุกะ ?" จุนอิจิแปลกใจทันทีที่เห็นเพื่อนสมัยเด็กของตัวเองเข้ามาในห้องหน้าตาเฉย
"สวัสดีจุนอิจิ ไม่คิดเลยนะว่าจุนอิจิเองก็จะมาเกี่ยวด้วยเนี่ย" ฮารุกะคุยกับจุนอิจิอย่างกับไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
"ดะ..เดี๋ยวสิทำไมเธอถึงมาอยู่นี่ล่ะ ?" จุนอิจิถาม
"ฮะๆๆ เรื่องมันยาวน่ะ" ฮารุกะนั่งลงข้างๆจุนอิจิ
ฮายาเตะที่ไม่รู้จักใคร แต่พอเห็นไซโตะก็เลยไปนั่งข้างๆเขาทันที โดยที่ทางด้านซ้ายของเขานั้นคืออิจิกะ ถัดไปคือชาร์ล
"ผมขอนั่งด้วยนะครับ" ฮายาเตะบอกกับอิจิกะและไซโตะก่อนที่จะนั่ง
"เชิญตามสบายเลย" อิจิกะบอก
"นั่งไปเถอะ ไม่มีใครว่าหรอก" ไซโตะพูด
ทุกคนในห้องนั่งเป็นรุปตัวยู ไล่จากขวาไปซ้ายได้แก่ อากิฮิสะ,ฮารุกะ,จุนอิจิ,ไซโตะ,ฮายาเตะ,อิจิกะ,ชาร์ล,รุยโกะ,โทวมะ และสุดท้ายคือโยชิฮารุ
ส่วนโคโตริและยูทาโร่ยืนอยู่หลังห้อง ส่วนโซอิจิโร่อยู่หน้าห้อง
"ถ้าพร้อมแล้วก็จะเริ่มล่ะนะ" โซอิจิโร่พยักหน้าบอกโคโตริเธอก็เปิดภาพของลอสท์ขึ้นมา
"พวกเธอทุกคนคงจะรู้ดีกันอยู่แล้วสินะว่ามาที่นี่ทำไม องค์กรของพวกเราได้ค้นพบว่าพวกเธอทั้ง 8 คนนั้นได้รับพลังที่ยิ่งใหญ่มา และพลังเหล่านั้นก็ได้ทำให้พวกเธอผ่านช่วงเวลาวิกฤติจากการโจมตีของสิ่งมีชิวิตดัดแปลงพันธุกรรม หรืออีกชื่อนึง ลอสท์ มาได้"
"เออ...คือว่าอะไรคือลอสท์อย่างงั้นเหรอครับ ?" อิจิกะถาม
"คือก็เข้าใจอยู่ว่าพวกนั้นเป็นมนุษย์ที่กลายร่างเป็นสัตว์ชนิดต่างๆได้ แต่ว่าทำไมพวกนั้นต้องทำร้ายมนุษย์หรือต้องฆ่าพวกเขาเพื่อให้ได้พลังยิ่งใหญ่มา"
"จะอธิบายให้ ลอสท์นั้นจริงๆแล้วก็คือมนุษย์ธรรมดาเดินดินเหมือนพวกเรา เพียงแต่ว่าพวกเขานั้นได้ถูกดัดแปลงผ่าตัดปรับเปลี่ยนโครงสร้างพันธุกรรมไป จากนั้นก็ทำการใส่เครื่องจักรหรือเทคโนโลยีชีวภาพเข้าไปเร่งความสามารถของร่างกายพร้อมกับฉีดยาชนิดหนึ่งที่จะให้ร่างกายมนุษย์สามารถหลอมรวมเข้ากับ DNA ของสัตว์ได้" โซอิจิโร่อธิบาย ซึ่งแน่นอนว่าคนที่อยู่ในห้องกว่าครึ่งแถบจะไม่เข้าใจที่เขาพูดเลย
"คุณตาครับเรื่องเกินจริงแบบนั้นมันจะทำได้เรอะ หาก DNA มารวมกันจริงๆมันจะไม่ทำให้คนๆนั้นตายหรือเกิดอะไรผิดปกติก่อนเหรอครับ ?" ยูทาโร่ยืนกอดอกถาม
"ก็ถ้าคนที่ทำไม่ใช่เขาก็คงทำเรื่องที่ดูเกินจริงแบบนี้ไม่ได้หรอก"
"ใคร? พวกองค์กรร้ายเรอะ ?" ไซโตะพูดขึ้น
"อันที่จริงก็หวังจะให้เป็นแบบนั้น แต่ว่าคนที่จะทำเรื่องแบบนี้ได้ ก็คงจะต้องเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่เก่งอยู่มากอย่างที่เธอน่าจะเดาออกนะ คนๆนั้นคือด๊อกเตอร์โมจิซึกิ ฮิโรชิ" ภาพบนหน้าจอฉายภายประวัติและหน้าตาของเขา
"เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้ถนัดเรื่องพันธุกรรมศาสตร์ และถนัดเรื่องการนำสัตว์หลากหลายชนิดมาผสมข้ามพันธ์กับชนิดอื่น มันอาจจะฟังดูเป็นไปไม่ได้ในหลายๆเรื่องแต่เขาก็ทำสำเร็จ แต่ว่าการผสมสัตว์แบบนี้มันเป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรม และอีกอย่างเขาก็คิดจะใช้ศาสตร์นี้กับมนุษย์เช่นกัน นั้นทำให้เขาถูกไล่ออกจากหน่วยงาน"
"แต่ว่าก็แค่ลุงแก่คนเดียวทำไมถึงสร้างกองทัพมนุษย์ดัดแปลงอะไรนั่นได้เยอะขนาดนั้นล่ะ ?" อากิฮิสะถาม
"อันที่จริงดูเหมือนว่าเขาจะได้รับการช่วยเหลือจากองค์กรอื่นด้วย จึงทำให้พวกมันถึงมีได้ถึงขนาดนี้" โซอิจิโร่เปิดภาพต่อไปซึ่งเป็นภาพของลอสท์ที่ถูกจับได้ แต่ว่าไม่มีตัวใดที่สามารถจับเป็นได้เลยมีแต่ลอสท์ที่ถูกกำจัดเท่านั้น
"ลอสท์มีพลังมากขึ้นเรื่อยๆ ลำพังหน่วยงานลับทั่วโลกก็คงจะรับมือไม่ไหว พวกเขาจึงคิดหาทางรับมือพวกมันอยู่ แต่ว่าต่อให้เป็นสายเวทกับสายวิทย์ร่วมมือกันก็ยังไม่สามารถรับมือกับลอสท์ที่มีจำนวนมากกว่าได้ จึงทำให้พวกมันเริ่มได้เปรียบมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ว่าสถานการณ์ก็ยังอยู่ในสภาพคงตัวไม่ได้เลวร้ายอะไรถึงขนาดที่คิดกันหรอกนะ"
"เออ...แล้วที่พวกลอสท์ต้องทำอะไรแบบนี้ เป็นเพราะอะไรน่ะ ครองโลกเรอะ ?" โยชิฮารุเดา
"ในแง่คิดของเด็กนั่นก็เป็นความคิดที่ดูดีนะ แต่ว่าลอสท์นั้นมีเป้าหมายต่างจากนั้นเล็กน้อย มันไม่ได้คิดจะครอบครองโลกแต่พวกมันคิดจะเปลี่ยนมนุษย์ทุกคนให้กลายเป็นลอสท์เพื่อที่จะก้าวให้มนุษย์ไปสู่การวิวัฒนาการขั้นใหม่ที่สูงกว่าเดิม" โซอิจิโร่ชี้แจงให้ทราบ "มนุษย์ที่ถูกเปลี่ยนให้กลายเป้นลอสท์โดยที่ไม่ได้สมัครใจ หลายคนจะถูกลบความทรงจำและถูกใส่ความทรงจำปลอมให้รับใช้พวกมัน หรือคนที่เห็นด้วยอยู่แล้วก็จะกลายเป็นลอสท์ระดับสูงที่มีหน้าที่สั่งการและมีพลังเหนือกว่าลอสท์ทั่วไป"
"เรื่องแบบนี้มัน.." โทวมะรู้สึกเวทนากับสิ่งที่เกิดขึ้น
"ลอสท์นั้นไม่เคยคิดอ่อนข้อให้ใคร หากใครที่มีประโยชน์มันก็จะทำการรวบรวมคนเหล่านั้นมาเป็นขุมกำลังให้กับพวกมัน หากใครเป็นได้แค่ขยะในสายตาของพวกมันก็จะถูกทำลายทิ้งในทันที และผู้ที่คิดต่อต้านพวกมันก็ต้องกับจุดจบ" โซอิโร่พูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
"โหดร้าย..." รุยโกะรู้สึกหวั่นๆขึ้นมานิดๆ
"แล้วพวกเราจะทำอะไรได้บ้างครับ ?" จุนอิจิพูดขึ้นทำให้ทุกคนรอบข้างถึงกับหันไปมอง
"เอ๊ะ..ก็แบบว่าพวกเราน่ะได้รับพลังที่มนุษย์ธรรมดาไม่มี ถ้าสมมุติว่าพวกเราใช้พลังนี้ต่อสู้กับพวกลอสท์ คอยปกป้องผู้คนล่ะก็ นี่ก็อาจจะเป็นประโยชน์ก็ได้นะ ยังไงพวกเราก็มีสิ่งนี้อยุ่แล้ว" จุนอิจิหยิบโอสไดร์เวอร์ของตัวเองขึ้นมา ทุกคนเองก็ต่างหยิบไดร์เวอร์ตัวเองขึ้นมา ส่วนโทวมะกับยูทาโร่แค่มองลงที่เอวตัวเอง ไซโตะก็แค่มองไปที่ถุงผ้าที่ใส่คิบัทอยู่
"แต่ว่าฉันก็ไม่ได้คิดจะมาเป็นฮีโร่อะไรแบบนี้ด้วยน่ะสิ" อากิฮิสะพูดในเชิงไม่อยากร่วมด้วย
"เหอะ พวกขี้ขลาดก็เป็นซะแบบนี้ล่ะ ถึงจะมีพลังอะไรอยู่แต่มีไปก็เป็นได้แค่ของประดับ" ยูทาโร่พูดเหยียดหยามอากิฮิสะตรงๆ ทำเอาชายผู้มีพลังแห่งอวกาศลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธทันที
"เฮ้ย นี่จะหาว่าฉันขี้ขลาดรึไง!?"
"ก็รู้ตัวดีนี่ อีกอย่างฉันไม่อยากจะไปสู้ร่วมกับพวกมือสมัครเล่นอย่างพวกนายด้วยล่ะนะ" ยูทาโร่พูดหยามอีกแต่คราวนี้มันกระทบไปถึงทุกคน โยชิฮารุและไซโตะที่ทนไม่ไหวก็ลุกขึ้นยืน
"พูดแบบนี้นาคิดว่ามีนายคนเดียวเรอะที่ผ่านเรื่องร้ายๆมาน่ะ!" โยชิฮารุตะคอก
"ถ้านายไม่ชอบการร่วมสู้กับมือสมัครเล่นล่ะก็ฉันเองก็ไม่คิดจะร่วมมือกับนายเหมือนกันนั่นล่ะ เรื่องไร้สาระแบบนี้" ไซโตะพูด
"งั้นก็ดีเลยนี่จะได้ไม่ต้องมีคนมาถ่วงฉัน" ยูทาโร่พูดจนทั้งสามทนไม่ไหว
แต่จุนอิจิรีบลุกขึ้นมาจับอากิฮิสะไว้ อิจิกะรีบหยุดไซโตะ ส่วนโทวมะก็หยุดโยชิฮารุไว้ "พวกนายใจเย็นๆกันก่อนเถอะน่า"
"นี่นายเองก็เงียบได้แล้วคิดจะให้บรรยากาศมันแย่ไปถึงไหนน่ะ" อิจิกะตะโกนบอกยูทาโร่
"จริงอย่างที่บอกนะ พวกเราทุกคนเองก็เจอเรื่องที่แย่ๆมาเหมือนกัน และนายคนเดียวคิดว่าจะสู้กับพวกมันได้รึไง" โทวมะบอก
"อิจิกะ/พี่โทวมะ" ผู้หญิงสองคนรู้สึกกังวลใจในสภาพสถานการณ์เช่นนี้
"แล้วพวกนายน่ะเตรียมใจที่จะตายกันรึเปล่าล่ะ!?" ยูทาโร่พูดเสียงดัง สิ่งนั้นทำให้ทั้งห้องตกลงสู่ในความเงียบ อากิฮิสะ ไซโตะและโยชิฮารุถึงขีดสุดรีบสลัดคนที่จับตัวเองอยู่แล้วคิดจะเข้าไปชกยูทาโร่ให้ได้
"ทุกคนช่วยสงบสติอารมณ์ลงหน่อยเถอะครับ!!" ฮายาเตะที่ฟังมานานลุกขึ้นตะโกน ทำให้ทุกคนหยุดนิ่ง
"ขะ..ขอโทษครับ" ฮายาเตะนั่งกลับลงไปอย่างเงียบๆ
จุนอิจิเห็นว่าตอนนี้ทุกคนเริ่มเงียบจึงใช้โอกาสนี้พูด
"อืม ใช่อย่างที่เขาพูดนั่นล่ะ ตอนนี้พวกเราทุกคนควรสงบสติอารมณ์ลงก่อนนะ อีกอย่างพวกเราเองก็ไม่ใช่ศัตรูกัน ถ้ามาสู้กันเองก่อน พวกเราไม่มีทางชนะลอสท์ได้แน่ แต่ว่าถ้าหากพวกเราร่วมมือกันฉันเชื่อว่าจะต้องผ่านมันไปได้" คำพูดของจุนอิจิทำให้อากิฮิสะ โยชิฮารุและไซโตะใจเย็นลง
"เอางั้นก็ได้" ทั้งสามยอมกลับมานั่งที่
"ฉันชื่อทาจิบานะ จุนอิจิ ชื่อเวลาที่เป็นสิ่งนี้คือ OOO (โอส) ยินดีที่ได้รู้จัก" จุนอิจิแนะนำตัวแก่ทุกคน
อิจิกะเห็นจุนอิจิทำแบบนั้น เขาจึงลุกขึ้นตาม
"ฉันชื่อโอริมูระ อิจิกะ เวลาที่แปลงร่างชื่อ W (ดับเบิ้ล) ยินดีที่ได้รู้จัก แล้วก็..."
ชาร์ลลุกขึ้นยืนตาม "ผมชื่อชาร์ล ดูนัวร์ครับ เป็นส่วนนึงของ W (ดับเบิ้ล) ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะครับ"
โทวมะลุกขึ้นยืนแนะนำตัว
"ฉันคามิโจว โทวมะ เวลาที่เป็นนักรบสีทองมีคนเรียกฉันว่า AGITO (อากิโตะ) ดังนั้นก็ขอใช้ชื่อนั้นก็แล้วกัน"
"ฉันฮิรากะ ไซโตะ" ไซโตะลุกขึ้นยืน พร้อมกับปล่อยคิบัทที่อยู่ในถุงผ้าออกมา "ส่วนเจ้านี่..."
"สวัสดียินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะฉันชื่อ คิบัทรุ่นที่สาม เป็นผู้ที่ทำให้คู่หูแปลงร่างเป็น KIVA (คิบะ) ได้" คิบัทแนะนำตัว
"คะ...ค้างคาวพูดได้!?" เกือบทั้งห้องตกใจทันทีที่เห็นคิบัทพูดได้
"น่ารักจังเลย!" ส่วนฮารุกะกลับคิดต่างจากคนอื่น
ต่อมาโยชิฮารุเป็นคนแนะนำตัว "ฉันซาการะ โยชิฮารุ หรืออีกชื่อนึง...!!" ชายหนุ่มชูมือขึ้นฟ้าและทำท่าแปลงร่างของของเขา โดยทำเหมิอนใส่ล็อคซีดลงเซ็นโกคุไดร์เวอร์ และตั้งท่าเหมือนตอนถือดาบคู่
"GAIMU (ไกมุ)!!"
"นักรบ...สวมเกราะ ?" รุยโกะงงกับชื่อของโยชิฮารุ
"งั้นก็ตาฉันบ้าง!!" อากิฮิสะลุกขึ้นและทำท่ากดสวิทซ์ทั้งสี่ จากนั้นก็ชูมือทั้งสองข้างขึ้นฟ้าและตะโกนว่า "อวกาศมาแล้ว!!!"
"โยชิอิ อากิฮิสะ หรือชื่อนั้นก็คือ FOURZE (โฟร์เซ่) ยินดีที่ได้รู้จักนะทุกๆคน"
"ทาคากิ ยูทาโร่ WIZARD(วิซาร์ด)" ยูทาโร่แนะนำตัวเงียบไม่มีท่าอะไรเหมือนโยชิฮารุหรืออากิฮิสะ
ฮายาเตะหันซ้ายหันขวาเห็นว่าทุกๆคนแนะนำตัวกันหมดแล้วเหลือเพียงแค่เขาคนเดียว เขาจึงลุกขึ้นแนะนำตัว "ผมอะยาซากิ ฮายาเตะครับ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะครับ พวกเรามาพยายามด้วยกันเถอะครับ"
"ชื่อของผมคือ DECADE (ดีเคท) ไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นชื่อนี้นะครับ แต่ว่ามันคือชื่อที่อยู่ๆก็เหมือนรู้ขึ้นมาเอง ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ" ฮายาเตะโค้งคำนับ
โซอิจิโร่ยืนมองสถานการณ์ และสภาพบรรยากาศที่ดีขึ้นเพราะฮายาเะและจุนอิจิ
"ทุกคน ต้องขอขอบคุณสำหรับน้ำใจของพวกเธอนะ แต่ว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่อันตรายมาก ฉันกลัวว่า..."
"ไม่เป็นไรครับ พวกเราตกลงที่จะใช้พลังนี้เพื่อปกป้องมวลมนุษย์ ขอให้พวกเราได้ช่วยเถอะครับ" จุนอิจิขอร้อง
"ผมเองก็คิดแบบเดียวกันครับ" ฮายาเตะ และคนอื่นๆต่างก็เห็นด้วยกับจุนอิจิ แม้แต่ยูทาโร่เองก็เช่นกัน
โซอิจิโร่เห็นพวกเขาทั้งแปดต่างพร้อมใจกันเช่นนี้ทำให้เขาไม่กล้าที่จะหักห้าม
"ถ้าอย่างงั้นชะตากรรมของโลกใบนี้ ฉันขอฝากให้กับพวกเธอ ปกป้องโลกใบนี้ให้ได้ล่ะ"
"เอาล่ะ เท่านี้กลุ่มฮีโร่กลุ่มใหม่ก็ถือกำเนิดขึ้นแล้ว!" อากิฮิสะตะโกน
"แต่ว่าถ้าทุกคนเรียกชื่อนำหน้าเหมือนกันก็น่าจะทำให้พวกเราฟังดูเหมือนเป็นกลุ่มเดียวกันมากกว่านะ" ฮารุกะแนะนำ "เอาเป็นชื่อมาสค์ไรเดอร์เป็นไง ชื่อนี่ฉันคิดว่าเป็นชื่อที่ดูดีนะ"
"มาสค์ไรเดอร์...ข่าวลือเรื่องบุรุษสวมหน้ากากแล้วคอยปกป้องชาวโลกจากความชั่วร้ายนั่นสินะคะ" รุยโกะทำความเข้าใจ
ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงแค่เรื่องที่พูดกันเองขึ้นมาแต่ทุกคนต่างก็ยอมรับในชื่อนี้
"มาสค์ไรเดอร์....งั้นเรอะ..."
.
.
.
.
บริษัท 765 โปรดักชั่น เวลา 13.02 น.
หลังจากที่ทุกคนได้ตกลงคุยกันเรื่องความเป็นไปต่อจากนี้และเรื่องลอสท์แล้ว ทุกๆคนต่างก็แยกย้ายไปใช้ชีวิตตามแบบของตัวเองจนกว่าจะเกิดเรื่องขึ้นมาอีก พวกเขาในยามนี้ก็เป็นเพียงแค่มนุษย์ธรรมดา แต่มีเพียงหนึ่งที่แอบเข้าหาโซอิจิโร่โดยที่แอบปิดเป็นความลับกับทุกคน เธอคือคนที่ดึงชายชาวญี่ปุ่นคนนึงเข้ามาเกี่ยวข้องกับการต่อสู้ในครั้งนี้
ชาร์ลวางกระเป๋าที่ใส่อุปกรณ์ที่มีลักษณธคล้ายแฟลชไดฟ์ หรือที่เรียกว่าไกอาเมมโมรี่
ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่พวกเธอใช้ในการแปลงร่างเป็น W ลงบนโต๊ะของโซอิจิโร่เพื่อส่งมอบมันให้ถึงเขา ตามที่ถูกสั่งมา "ไกอาเมมโมรี่ 6 ชนิด และครอสไดร์เวอร์ 2 เครื่อง ได้นำมาส่งตามที่กำหนดแล้วครับ"
"อืม" โซอิจิโร่พินิจมองมันอย่างรอบคอบ "นี่คือสิ่งที่ทำให้เธอกับโอริมูระ อิจิกะคุงแปลงร่างเป็น W ได้สินะ"
"แล้วแบบนี้เอามาส่งมอบให้ทางเรามันจะดีเรอะ ท่าทางเธอ...ไม่สิ...พวกเธอเองก็น่าจะมีความผูกผันกับของสิ่งนี้แล้วหนิ"
"ผมน่ะ..ไม่อยากดึงอิจิกะเข้ามาพัวพันกับเรื่องนี้ครับ มันเป็นเส้นทางที่อันตรายเกินไป" ชาร์ลบอกจากใจจริงของเธอ "อิจิกะต่างจากคนอื่น เพราะว่าถ้าผมไม่ได้ไปเจอกับเขา และไม่ได้ขอให้เขาช่วย อิจิกะก็คงไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกับโลกทางนี้เลยสักนิด คงจะไ้ใช้ชีวิตแบบมนุษย์ปกติเหมือนเดิม ผมจึงคิดว่าการส่งมอบไกอาเมมโมรี่ให้พวกคุณน่าจะเป็นทางเลือกที่ถูกครับ"
"แล้วตัวเธอล่ะจะทำยังไงต่อ ?" โซอิจิโร่ถาม "หลังจากที่เธอส่งไกอาเมมโมรี่ให้พวกเราแล้ว หน้าที่ของเธอก็จะหมดลง แล้วเธอก็จะกลับฝรั่งเศสอย่างงั้นรึ"
"ครับ ผมตัดสินใจแล้ว ผมไม่อยากสร้างปัญหาให้อิจิกะอีกแล้ว"
ชายวัยกลางคนหลับตาคิดอยุ่ครู่นึง แล้วเขาก็ปิดกระเป๋าไกอาเมมโมรี่ลงและยื่นคืนให้กับชาร์ล
"ทำไมล่ะครับ ?" ชาร์ลสงสัยกับการกระทำของโซอิจิโร่
"ตอนนี้เจ้าของของมันไม่ใช่ฉัน แต่ว่าเป็นตัวเธอและโอริมูระ อิจิกะ ฉันไม่มีสิทธิที่จะรับมันไว้ได้หรอก จะต้องขออนุญาตจากทางโอริมูระคุงด้วย" โซอิจิโร่ให้เหตุผลเพื่อที่จะให้ชาร์ลกลับไปคุยกับเขา
"ไปปรึกษากับเขาก่อนว่าเอายังไงต่อไป แล้วค่อยกลับมาหาฉัน เข้าใจนะ"
"ครับ" ชาร์ลตอบแบบไม่ค่อยเต็มใจนัก
ร้านเมดคาเฟ่ เวลา 13.22 น.
"น้ำผลไม้รวมได้แล้วค่ะ" เมดสาวมาเสิร์ฟน้ำผลไม้ให้กับฮายาเตะที่โต๊ะด้านนอกร้าน
ฮายาเตะ อิจิกะและไซโตะต่างมาเปิดใจคุยกันครั้งแรก พวกเขาเลือกมาที่ร้านเมดคาเฟ่ตามคำแนะนำของอิจิกะ เพราะเขารู้จักกับคนของร้านนี้
"เฮ้อ เจ้าทาคากินั่น อยากจะชกมันสักหมัดจริงๆ!" ไซโตะบ่น เขายังแค้นเรื่องที่ยูทาโร่พูดหยามพวกเขาไม่ได้อยู่ "คนอย่างงั้นไม่อยากจะไปร่วมต่อสู้ด้วยเลยแฮะ"
"เรื่องนั้นฉันก็คิดแบบนั้นนะ แต่ว่าถ้าพวกเรามีพวกเยอะเข้าไว้ก็น่าจะดีกว่าไม่ใช่เรอะ อีกอย่างที่หมอนั้นพูดถึงแม้จะไม่น่าฟังก็ตามแต่ว่าที่บอกว่าเราเตรียมใจที่จะตายรึเปล่านั่นก็เป็นเรื่องจริงนะ" อิจิกะบอก
"ถ้าต่อสู้จริงๆ พวกเราก็อาจจะมาตายโดยที่ไม่รู้ตัวก็ได้นะ"
"อย่าพูดเรื่องที่ฟังดูน่าหดหู่แบบนั้นสิ" ไซโตะว่า "อะยาซากินายว่าไงล่ะ ?"
"ผมคิดว่าเหล่าไม่ควรจะมองอะไรที่แย่ๆแบบนั้นนะครับ" ฮายาเตะออกความเห็นที่ต่างไปจากทั้งสองคน
"ผมคิดว่าสาเหตุที่พวกเราสู้ไม่ใช่เพื่อที่จะจัดการกับศัตรู ไม่ใช่เพื่อที่จะสู้เพื่อเอาชีวิตรอดเพียงคนเดียว แต่การต่อสุ้ของพวกเราคิดว่าน่าจะเป็นเพื่อการปกป้องผู้คนที่ไร้ซึ่งพลังจะดีกว่านะครับ หากทำแบบนั้นแล้วผมเชื่อว่าไม่ว่าศัตรูจะมาแบบไหนพวกเราก็ต้องเอาชนะพวกมันได้อย่างแน่นอนครับ!"
เมื่อฮายาเตะพูดเช่นนั้นอิจิกะกับไซโตะก็อดที่จะขำไม่ได้ "ขะ..ขอโทษครับที่พูดอะไรแปลกๆ"
"ไม่ใช่แบบนั้นฉันคิดว่าเป็นความที่ดีมากเลยนะเรื่องนั้นน่ะ" อิจิกะเห็นด้วยกับฮายาเตะ "อย่างที่นายบอกพวกเรานั้นต่อสู้เพื่อปกป้องทุกๆคน" อิจิกะเห็นด้วย
"ถึงแม้มันจะดูฝันหวานไปหน่อยก็เถอะนะ แต่แบบนั้นก็อาจจะดีจริงก็ได้" ไซโตะเสริม
"ขอบคุณครับ" ฮายาเตะสังเกตมองอิจิกะดีๆแล้วเขาก็รู้สึกเหมือนบางอย่างขาดหายไป
"โอริมูระคุง แล้วคุณดูนัวร์ล่ะครับ เมื่อก่อนหน้านี้ยังเห็นอยู่ด้วยกันอยู่เลยหนิครับ"
"จะว่าไปก็จริงแฮะ" ไซโตะพูด
"ถ้าชาร์ลล่ะก็ ตอนนี้ฉันคิดว่าคงจะเอาไกอาเมมโมรี่และครอสไดร์เวอร์ไปให้กับประธานทาคากิน่ะ" อิจิกะบอก
"ทำไมคุณดูนัวร์ต้องทำแบบนั้นล่ะครับ ?" ฮายาเตะถาม
"ชาร์ลน่ะถึงจะรู้จักกันได้แค่วันเดียวฉันก็รู้ได้ในทันทีเลยว่า เธอน่ะเป็นคนที่ไม่ค่อยอยากจะไปพึ่งพาใคร อยากที่จะทำอะไรด้วยตัวเองเพราะไม่อยากจะไปสร้างปัญหาให้กับคนอื่น สาเหตุที่ฉันมาพัวพันกับเรื่องนี้ เธอคงจะคิดว่าเป็นเพราะตัวเธอเองนั่นล่ะ"
"แบบนี้ก็มีด้วยเหรอเนี่ย" ไซโตะเอามือทาบที่คาง
"แล้วถ้าเป็นแบบนี้ นายก็จะสู้ไม่ได้แล้วน่ะสิ ถ้าไกอาเมมโมรี่ถูกส่งมอบให้ทางนั้นตอนนี้นายก็เหมือนกับเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาแล้วสินะ"
"จะพูดแบบนั้นก็คงได้ แต่ว่าจริงๆแล้วฉันก็ไม่เชิงว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ตั้งแต่แรกซะทีเดียวนะ" อิจิกะบอก
"หมายความว่ายังไงครับ ?" ในตอนที่ฮายาเตะกำลังถามอยู่นั้น ชาร์ลที่เดินออกจตามหาพวกเขาอยู่ก็มาเจอเข้าพอดี แต่เธอแอบหลบอยู่หลังต้นไม้ไม่ให้พวกเขารู้ตัว
"เรื่องมันนานแล้วล่ะนะ ตั้งแต่สมัยที่ฉันเด็กๆเมื่อก่อนน่ะด้วยสาเหตุอะไรก็ไม่รู้ล่ะนะ แต่ว่าฉันสูญเสียครอบครัวไปเมื่อตอนเด็กๆด้วยอุบัติเหตุ แต่พอมาตรวจสอบอย่างละเอียดจริงๆดูแล้วก็ได้รับการยืนยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นอุบัติเหตุ แต่มีคนจงใจให้เกิดเรื่องนี้ขึ้น และสิ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุในครั้งนั้นก็ไม่ใช่อะไรอื่น แต่ว่าเป็นไกอาเมมโมรี่นี่ล่ะ" สิ่งที่อิจิกะเล่าทำเอาทั้งสามถึงกับช็อคไปพร้อมๆกัน
"คนที่เป็นคนทำยังหาตัวไม่ได้ แต่เบาะแสคือ ไกอาเมมโมรี่นั้นเป็น ไกอาเมมโมรี่ W"
"W เหมือนกับดับเบิ้ล(W) ที่นายเป็นอยุ่ตอนนี้เลยสินะ" ไซโตะพูด
"นั่นสิครับ" ฮายาเตะเห็นด้วย
"เหมือนประชดเลยนะ ฉันสูญเสียครอบครัวไปเหลือเพียงแค่พี่สาวเพราะไกอาเมมโมรี่ แต่ว่าตอนนี้ฉันกลับกลายมาเป็นผู้ใช้ไกอาเมมโมรี่ซะเอง ท่าทางชะตากรรมของฉันคงจะผูกพันกับมันจริงๆนั่นล่ะ" อิจิกะพูด
"แต่ว่าถ้าชาร์ลจะไปแล้วแบบนี้คงจะไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับมันแล้วล่ะ"
"ถ้าอย่างงั้นก็คุยกับเจ้าตัวเองเลยจะไม่ดีกว่าเรอะ ?" เสียงของคิบัทพูดขึ้น และมันก็แอบโผล่ออกมาจากถุงผ้า "นายเองก็อยากคุยให้รู้เรื่องใช่มั้ยล่ะคนที่หลบอยู่ตรงนั้นน่ะ"
คิบัทที่รู้ว่าชาร์ลซ่อนอยุ่หลังต้นไม้รีบตะโกนบอกให้เธอออกมา
ซึ่งหญิงสาวในชุดผู้ชายชาวฝรั่งเศสก็ยอมออกมาตามคำเรียกร้อง
"ชาร์ล/อิจิกะ..." ทั้งสองเมื่อเจอหน้ากันก็พูดกันไม่ออก ยิ่งหลังจากที่ได้ยินเรื่องอดีตของเขาไปแล้ว
ฝ่ายหญิงหลบหน้าฝั่งชายและหันกลับมาพูดเพียงว่า "อิจิกะคืนนี้ผมจะกลับไปฝรั่งเศสแล้วนะ"
"งั้นเรอะ...ถ้าอย่างงั้นก็รักษาตัวด้วยนะ" ฝ่ายชายก็ตอบเธอกลับไปเพียงแค่นั้น ชาร์ลที่กำลังจะเดินจากไป แต่เธอก็ถูกฮายาเตะจับมือหยุดไว้ก่อน
"เดี๋ยวก่อนสิครับทั้งสองคน ถ้าเอาแต่ทำแบบนี้กันจะไม่ได้เรื่องกันนะครับ มาคุยกันให้รู้เรื่องไปเลยดีกว่านะครับ" ฮายาเตะแนะนำ ซึ่งทั้งสองก็คิดเช่นนั้นแต่ว่าพวกเขามีปัญหาเกินกว่าที่จะคุยได้ตามปกติในตอนนี้
"ฮิรากะคุง พวกเราไปซื้อของแถวนี้กันก่อนเถอะครับ" ฮายาเตะรีบเข้าไปผลักไซโตะ
"เดี๋ยวสิอะยาซากิ จะทำอะไร เดี๋ยว!" ไซโตะถูกฮายาเตะพาตัวออกไปเพื่อปล่อยให้ทั้งสองคนได้อยู่เพียงสองต่อสอง
"อิจิกะเรื่องที่ครอบครัวอิจิกะถูกฆ่าโดคนใช้ไกอาเมมโมรี่นั่นเป็นความจริงเหรอครับ ?"
ชาร์ลถามอิจิกะก็ตอบเพียงแค่พยักหน้าเอาๆเท่านั้น "ถ้าอย่างงั้นผมคิดว่าเลือกทางนี้น่าจะดีแล้วนะครับ เท่านี้อิจิกะก็จะไม่ต้องมายุ่งกับไกอาเมมโมรี่อีก และจะได้กลับไป-"
ก่อนหน้าที่ชาร์ลจะพูดอะไรมากกว่านี้อิจิกะก็จับไหล่ทั้งสองข้างของเธอไว้
"ชาร์ล เรื่องนั้นจะเป็นยังไงน่ะก็ช่างมันเถอะ เมื่อวานที่ฉันช่วยเธอเพราะฉันรู้สึกว่ามีบางอย่างที่ต้องทำ ฉันอาจจะเลือกที่จะหนีไปก็ได้ตอนนั้นแต่ฉันไม่ทำ ฉันก็ำไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงคิดแบบนั้นแต่ว่านี้อาจจะเป็นสิ่งที่อะยาซากิบอกกับฉัน ความรู้สึกในการการปกป้องคนอื่น มันทำให้ฉันแข็งแกร่งขึ้น"
"แต่ว่าถ้าเป็นแบบนี้อิจิกะก็ต้อง..."
"ฉันไม่เป็นไร ฉันไม่ได้อยู่คนเดียวนี่ ฉันยังมีนาย และยังมีพวกคนอื่นๆที่จะร่วมต่อสู้ไปพร้อมกัน เพราะฉะนั้นนายก็ไม่ต้องกังวล ให้ฉันน่ะร่วมต่อสู้ร่วมปกป้องคนอื่นๆเหมือนกับที่ปกป้องนายเถอะ" อิจิกะบอกกับหญิงสาวในชุดผู้ชาย
ชาร์ลอมยิ้ม "อิจิกะนี่จริงๆเลยนะ ขนาดรู้จักกันแค่วันเดียวก็ทำให้ผมใจอ่อนได้"
"ถ้าอย่างงั้น!"
"แต่ไม่ว่ายังไงผมก็คงต้องกลับไปฝรั่งเศส แต่ก่อนหน้าผม..."
ตู้มมม!!!
ก่อนหน้าที่พวกเขาจะคุยกันเรียบร้อยก็มีการขัดจังหวะมาจากฝีมือของลอสท์เพชรฆาตทั้งสองที่ถูกสั่งให้มาจัดการกับพวกเขานั่นก็คือบีทเทิลและแสต็ก ผู้คนที่อยู่ในร้านเมดคาเฟ่ต่างรีบวิ่งหนีทันทีเมื่อเห็นสัตว์ประหลาดเดินเข้ามา
"มีอยู่สองคนงั้นก็แปลว่าเป็นคนที่จัดการสกอร์เปี้ยนสินะ แล้วต้องจำคนไหนไปล่ะพี่ ?" แสต็กถาม
"จับไปทั้งสองคน เพราะพวกมันจะต้องเป็นประโยชน์ต่อด๊อกเตอร์ได้แน่" บีทเทิลบอก
"ถ้าอย่างงั้นก็จัดให้ตามที่ขอเลยพี่!" แสต็กสร้างดาบที่มือซ้ายและโล่ที่มือขวาขึ้นมา แล้ววิ่งเจ้าไปโจมตีอิจิกะกับชาร์ลในทันที "ฮ่าส์!!"
ทั้งสองหมุนตัวหลบและถอยออกมาตั้งหลัก ชาร์ลเปิดกระเป๋าออกและให้ครอสไดร์เวอร์แก่ชายหนุ่มพร้อมไกอาเมมโมรี่ "อิจิกะ พวกเราไปกันเถอะ การต่อสู้ก่อนที่จะลาจากกัน!" เธอกดไกอาเมมโมรี่
"อา ตกลงตามนั้นเลย!" อิจิกะหยิบไกอาเมมโมรี่ขึ้นมา และกดที่มัน
CYCLONE
JOKER
"แปลงร่าง!" ชาร์ลใส่เมมโมรี่ลงไดร์เวอร์ของเธอเองมันก็ถูกส่งย้ายไปที่ไดร์เวอร์ของอิจิกะ ส่วนตัวเธอก็สลบลงไป จากนั้นชายหนุ่มก็กดเมมโมรี่ของหญิงสาวซ้ำลงไปแล้วตามด้วยใส่เมมโมรี่ของเขาลงไป จากนั้นก็สับไดร์เวอร์ไปสองทาง
CYCLONE JOKER
สายลมพายุหมุนพัดกระหน่ำเข้ามาลอสท์แสต็กที่ถูกลมนั้นพัดเข้าไปก็ถูกปัดกระเด็นตกลงไป
ร่างของชายหนุ่มได้เปลี่ยนเป็นร่างของนับรอบสองสี ที่มีร่างกายซีกขวาเป็นสีเขียวอ่อน ร่างกายซีกซ้ายเป็นสีดำม่วง "มาสค์ไรเดอร์ดับเบิ้ล เอาล่ะจงนับความผิดที่พวกนายทำซะ!" ดับเบิ้ลชี้นิ้วไปที่ลอสท์
"เหอะ อย่ามาทำอวดดีไปหน่อยเลย!" แสต็กกระโดดขึ้นไปสู้กับดับเบิ้ลใหม่
มันพยายามใช้ดาบฟันใส่เขาแต่ว่าด้วยความเร็วที่เหนือกว่าของดับเบิ้ล ทำให้เขาสามารถหลับได้ทุกการโจมตี แต่กลับกันการโจมตีของดับเบิ้ลก็ไม่อาจะทำอะไรแสต็กที่เกราะแข็งกว่าได้
ดับเบิ้ลกระโดดหมุนตัวเจะใส่แสต็ก มันเพียงแค่ยืนเฉยก็สามารถรับการโจมตีไว้ได้สบายๆ
"เจ้านี้เกราะหนาเกินไป" อิจิกะพูด และในจังหวะนั้นแสต็กก็ใช้โล่กระแทกทำให้เขาตีลังกาและใช้ดาบฟันซ้ำจนทำให้มาสค์ไรเดอร์ตกลงมาที่พื้น "อ้ากก!!"
"ก็ไม่เห็นเท่าไหร่นี่!" แสต็กเหยียบซ้ำ
"มันก็ไม่แน่หรอก" ดับเบิ้ลสร้างลมพายุพัดใส่แสต็กทำให้มันเสียหลัก
จากนั้นมาสค์ไรเดอร์ก็ลุกขึ้นนำกระแสลมมารวมกันที่ฝ่ามือทำให้ มือของดับเบิ้ลมีสภาพเหมือนดาบวายุ และสามารถโจมตีสร้างความเสียหายให้กับแสต็กได้
บีทเทิลที่เห็นว่าดับเบิ้ลเริ่มสู้กับแสต็กได้แล้วก็คิดจะขึ้นไปช่วย แต่ว่า...
"เฮ้ย คิดจะไปไหนน่ะ" ไซโตะตะโกนเรียกบีทเทิลให้หันมา "คู่ต่อสู้ของนายน่ะคือฉันคนนี้ต่างหากล่ะ"
"ฮิรากะคุงแล้วผมล่ะ ?" ฮายาเตะงงกับหน้าที่ของตัวเองเพราะตอนนี้เขาไม่มีคู่ต่อสู้
"อะยาซากิ รู้สึกว่าคิบัทจะตรวจพบพวกมันอีกตัวอยู่ใกล้ๆนี้ นายไปตามหามันก็แล้วกัน" ไซโตะกระซิบบอกกับฮายาเตะ
"เข้าใจแล้วครับ" ฮายาเตะรีบไปตามที่ไซโตะบอกทันที
"คิดจะสู้คนเดียวงั้นเรอะ ?" บีทเทิลถามเพราะเห็นฮายาเตะวิ่งไปไหนก็ไม่ทราบ
"อย่างนายน่ะแค่ฉันคนเดียวก็เหลือแหล่แล้ว" ไซโตะเปิดถุงผ้า "คิบัท!"
"รับทราบ!" คิบัทบินออกมากัดที่ข้อมือของชายหนุ่ม
BITE
ทันทีที่ถูกกัดมันก็ทำให้เกิดรอยประหลาดขึ้นบนใบหน้าของเขา พร้อมกับเข็มขัดสีแดงที่ปรากฏขึ้นมาสวมที่เอวของเขา ไซโตะจับคิบัทมาแล้วใส่ลงที่ไดร์เวอร์ของเขา "แปลงร่าง!!"
ร่างของเขาค่อยกลายเป็นกระจกและในที่สุดก็แตกออกกลายเป็น คิบะ
KIVA
"มาสค์ไรเดอร์คิบะ ตั้งแต่นี้ไปล่ะคือการต่อสู้ที่แท้จริงล่ะ!" ไซโตะกล่าว
"เอาล่ะ!" มาสค์ไรเดอร์กระโดดเตะใส่บีทเทิลอย่างไม่รอช้า แต่ทางบีทเทิลก็สร้างโล่ขึ้นที่มือซ้ายและป้องกันท่าเตะของคิบะไว้ แล้วตามด้วยสร้างดาบที่มือขวาฟันสวนกลับไป
"คู่หูเป็นอะไรรึเปล่า!?" คิบัทถามอาการ
"ไม่เป็นไร..ไม่เลวนี่ท่าทางนายคงจะเก่งกว่าที่ฉันคิดสินะ ถ้าอย่างงั้นทางนี้ก็ต้องเอาจริงให้นายรู้ซะบ้าง!" คิบะวิ่งเเข้าไปพยายามที่จะต่อยใส่มันแต่ทุกครั้งที่โจมตีก็จะถูกมันกันไว้ได้ และยังถูกโจมตีสวนกลับไปเรื่อยๆ
"โธ่เว้ย!"
"การเคลื่อนไหวของเจ้าข้าดูออกหมดแล้ว!" บีทเทิลแทงดาบใส่คิบะ
ตอนนั้นมาสค์ไรเดอร์ก็สามารถรับดาบของมันไว้ได้ "ไร้สาระน่า ทางฉันเองก็รุ้การเคลื่อนของแกแล้วเหมือนกันล่ะน่า!" คิบะกระโดดข้ามไหล่ของมันไปอีกฝั่งนึง แล้วใช้เท้าขวา ซึ่งเป็นข้างที่มีเกราะเหล็กเตะใส่ท้องของลอสท์จนทำให้มันเสียหลัก
"คึ!" บีทเทิลถอยร่นลงมาเพราะแรงกระแทก
"คู่หูเรามาโจมตีครั้งสุดท้ายจัดการมันไปเลยเถอะ!" คิบัทแนะนำ
"เอาอย่างงั้นก็ได้!" ไซโตะหยิบแฟซเซิลสีแดงที่อยู่ข้างเข็มขัดขึ้นมาแล้วเขาก็ใช้งานมันโดยเสียบใส่ปากของคิบัทที่ไดร์เวอร์
WAKE UP!
ทันใดนั้นท้องฟ้ายามเย็นก็ถูกเมฆหมอกสีดำเข้าปกคลุมกลายเป็นท้องฟ้ายามราตรี
ดวงจันทราเสี้ยวปรากฏขึ้นบนท้องนภาที่ไร้ซึ่งดวงดารา คิบะยกขาของเขาขึ้นแล้วเกราะเหล็กที่ขาของเขาก็ปลดพันธนาการออกเผยให้เห็นพลังต้องคำสาป มาสค์ไรเดอร์กระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้านั้นแล้วพุ่งตัวลงมาเตะใส่บีทเทิล "ฮ่าส์!"
DARKNESS MOON BREAK
ร่างของลอสท์ถูกคิบะเตะเลื่อนไปจนชนกับผนัง เกิดขึ้นเป็นตราสัญลักษณ์สีดำขนาดใหญ่
คิบะหันหลังกลับ ร่างของบีทเทิลกลายเป็นกระจก "หายไปซะ!" สิ้นคำพูดของชายหนุ่มร่างของลอสท์ก็แตกสลายลงไปเหลือเพียงเศษเสี้ยวแสงที่กระจายออกมาจากร่างที่แตกสลายเท่านั้น
แล้วท้องฟ้าก็คืนกลับสู่ท้องฟ้ายามปกติ
"พี่!!" แสต็กที่เห็นพี่ชายของตนพ่ายแพ้ลงไปก็ยิ่งอาละวาดหนักมากขึ้น จนทำให้ดาบสายลมของดับเบิ้ลเริ่มต้านไม่ไหว
"ข้าจะแก้แค้นให้พี่!"
"เกราะมันแข็งขึ้นอีกแล้ว ทำยังไงดีล่ะชาร์ล ?" อิจิกะถามหาคำแนะนำ
"ถ้าเป็นแบบนี้เราก็คงทำได้แต่เปลี่ยนเมมโมรี่เท่านั้นล่ะ" ชาร์ลแนะนำ
"งั้นเรอะ เปลี่ยนรูปแบบพลังสินะ" อิจิกะทำความเข้าใจ
"แต่ว่าผมไม่มั่นใจว่าพวกเราที่เพิ่งหัดใช้จะใช้ได้รึเปล่านะครับ" ชาร์ลรู้สึกกังวล
"ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้หรอก" อิจิกะรีบทำการหยิบไกอาเมมโมรี่สีแดงส้มและสีเงินขึ้นมา และเปลี่ยนกับเมมดมรี่ที่ใส่อยู่ตอนนี้ทันที
HEAT METAL
ร่างกายซีกขวาของดับเบิ้ลเปลี่ยนเป็นสีแดงส้มพลังแห่งความร้อน ซีกซ้ายเปลี่ยนเป็นสีเงินพลังแห่งเหล็กกล้า พร้อมกับไม้พลองเหล็กที่ปรากฏขึ้นมาทันทีที่เปลี่ยนเป็นร่างนี้
"ร่างนี่มีอาวุธด้วยเหรอเนี่ย!" ดับเบิ้ลหยิบไม้พลองออกมาเป็นอาวุธ
"ของแบบนั้นมันเอาชนะข้าไม่ได้หรอก!!" แสต็กวิ่งเข้าหาดับเบิ้ลอย่างไม่รอช้า
มาสค์ไรเดอร์ใช้ไม้พลองตีกระแทงใส่มือดาบของแสต็กปัดดาบของมันออกไป แล้วใช้ไม้พลองกระแทงที่กลางอกอีกทีทำให้มันถอยหลังไป
"เจ้านี้แรงไม่เบาเลย!" ดับเบิ้ลควงไม้พลองและใช้ตีฟาดใส่ลอสท์
"อ้ากก!!" โล่ของแสต็กถึงกับเกิดรอยร้าวเมื่อถูกไม้พลองผสมพลังไฟของเขาเข้าไป
"มาทำให้จบๆกันเถอะ!" อิจิกะบอก
"ok อิจิกะ" ชาร์ลตอบรับ ดับเบิ้ลดึงไกอาเมมโมรี่ออกมาเสียบที่ไม้พลองและกดใช้งานมัน
METAL MAXIMUMDRIVE
ไม้พลองของดับเบิ้ลลุกเป็นไฟทั้งด้านบนและด้านปลาย "เอาล่ะนะ!"
METAL BRANDING
"ฮ้ากก!!" ดับเบิ้ลพุ่งตัวเข้าไปด้วยเปลวไฟ ชนใส่ลอสท์และทำลายมันลงไปในการโจมตีครั้งเดียว
บรึ้มม!!!
"เท่านี้ก็เรียบร้อย" ดับเบิ้ลควงไม้พลองเก็บที่หลัง
ตอนนั้นเองบนดาดฟ้าของอาคารข้างๆ นีเดิลที่มองการต่อสู้อยู่นั้น....
"บีทเทิลกับแสต็กพลาดไปแล้วเรอะ บอกว่าจะเป็นคนจัดการเอง แต่พอเอาจริงๆก็ไม่เห็นได้เรื่อง"
นีเดิลที่สังเกตการณ์อยู่ห่างๆพูดสบประมาทในตัวลอสท์ทั้งสองที่เพิ่งถูกกำจัดไป "แบบนี้ก็เหลือแค่เราคนเดียวแล้วสินะ"
ฮายาเตะวิ่งขึ้นมาบนชั้นดาดฟ้า "ในที่สุดก็เจอตัวแล้วนะครับ!"
"โอ๊ะโอ โดนหาเจอซะละ โดยเด็กที่มีพลังซะด้วย" นีเดิลหันกลับไปหาฮายาเตะอย่างไม่กลัวเกรง
ชายชุดขาวปล่อยเข็มขนาดใหญ่โจมตีใส่เด็กหนุ่มโดยไม่ทันตั้งตัว แต่ว่าฮายาเตะก็สามารถหลบเข็มเหล่านั้นได้และยังถอยออกมาพร้อมกับหยิบดีเคทไดร์เวอร์ขึ้นมา
"เอาล่ะนะครับ!" ฮายาเตะสวมไดร์เวอร์และใส่การ์ดลงไป
"แปลงร่าง!!"
KAMEN RIDE
DECADE
ประกายแสงสีฟ้าปรากฏขึ้นรอบตัวฮายาเตะ และมันก็ค่อยเปลี่ยนสีเป็นสีแดงมาเจ็ตต้าแล้วผสานร่างกับเด็กหนุ่ม เปลี่ยนร่างเขาไปเป็นนักรบสวมเกราะ ที่มีชื่อว่า "มาสค์ไรเดอร์ดีเคท"
ดีเคทหยิบไรด์บุ๊คขึ้นมาและเปลี่ยนมันเป็นโหมอยิงปืนและยิงใส่นีเดิล
"ไม่ได้ผลหรอกน่า!" นีเดิลเคลื่อนที่หลบได้อย่างชำชอง
เมื่อโจมตีระยะไกลไม่โดนเลย ฮายาเตะจึงหยิบไรด์บุ๊คอีกเล่มที่ซ่อนทับเล่มเดิมอยู่ออกมาแล้วเปลี่ยนมันกลายเป้นดาบจากนั้นก็เข้าไปโจมตีในระยะประชิด "ฮ่าส์!!"
แต่นีเดิลก็ใช้หอกยาวป้องกันการโจมตีไว้ และสามารถต่อกรกับมาสค์ไรเดอร์ได้อย่างสูสี
"เป็นอะไรไปมีฝีมือแค่นี้รึไง!?" นีเดิลพูดเหยียดหยาม
"ถ้าอย่างนี้ล่ะครับ!" ดีเคทฉวยโอกาสจังหวะที่นีเดิลเผลอปัดหอกของมันออก แล้วหมุนตัวในจังหวะนั้นเขาก็ใส่การ์ดลงไดร์เวอร์ แล้วหันกลับมาจ่อปืนใส่มัน
FINAL ATTACK RIDE
DE-DE-DECADE
DIMENSION BLAST
การ์ดสีทองปรากฏเรียงรายขึ้นมาเป็นทางตรงไปที่นีเดิล
"ย่าส์!!" ทันทีที่เหนี่ยวไกลำแสงก็ถูกยิงออกมาจากกระบอกปืน พอลำแสงผ่านการ์ดสีทองนั้นมา ก็ขยายกลายเป้นลำแสงขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนโจมตีใส่นีเดิล
ตู้มม!!!
"สำเร็จรึเปล่า ?" ฮายาเตะรอลุ้นผลจากการโจมตีเมื่อกี้
พอควันระเบิดที่ฟุ้งกระจายอยู่เริ่มจากลง แทนที่จะเห็นร่างของชายชุดขาวยืนอยุ่ตรงนั้นกลับกลายเป็น ลอสท์รูปแบบเม่นยืนอยู่ตรงนั้นแทน และมันก็ใช้เพียงมือเดียวรับท่าไม้ตายของดีเคทไว้ได้อีก
"เกือบไป เกือบไป ถ้าไม่ใช่ร่างนี้เมื่อกี้อาจจะขึ้นสวรรค์ไปจริงๆก็ได้"
นีเดิลพูดอย่างสบายๆเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันสะบัดมืออย่างกับว่ารู้สึกเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น
"แกนี่มันตัวอันตรายจริงๆ ไม่คิดเลยว่าจะมีพลังขนาดนี้ซ่อนอยู่ ถ้าอย่างงั้นก็คงต้องขอถอยกลับไปตั้งหลักก่อนล่ะนะ" นีเดิลกระโดดข้ามตึกหนีไปในที่สุด
"ลอสท์ตัวนั้นแข็งแกร่ง..."
ฮายาเตะจะตามไปแต่ก็ไม่ทันเสียแล้วเพราะมันได้ลับสายตาไปแล้ว ในเมื่อไม่สามารถไล่ตามมันไปได้เด็กหนุ่มจึงคืนร่างกลับเป็นมนุษย์และเดินกลับลงไปข้างล่างหาพวกอิจิกะ....
สนามบินฟูโตะเอเรีย 1 เวลา 19.10 น.
อิจิกะ ฮายาเตะและไซโตะหลังจากที่ผ่านการต่อสู้มา พวกเขาก็มาส่งชาร์ลที่สนามบินเพราะเธอนั้นจะต้องขึ้นเครื่องกลับไปยังฝรั่งเศส แต่ก่อนที่หญิงสาวจะไปเธอก็หยุดเดินและหันกลับมาหาพวกเขา
"มีอะไรอีกล่ะ หรือจะลืมของสำคัญอีก" อิจิกะล้อ
"นั่นสินะ" ชาร์ลเดินย้อนกลับไปหาอิจิกะและส่งมอบกระเป๋าไกอาเมมโมรี่ให้กับเขา
"อิจิกะ ผมของฝากไกอาเมมโมรี่และครอสไดร์เวอร์ด้วยนะ"
"ฮะ หมายความว่าไงน่ะ แล้วนายไม่ได้เอาไปให้ประธานทาคากิแล้วเรอะ ?" อิจิกะงง
"ประธานทาคากิบอกว่าสิ่งนี้เป็นของผมและของอิจิกะ เขาไม่มีสิทธิที่จะเอาของสิ่งนี้ไป ตอนแรกผมก็สับสนว่าจะทำยังไงดี แต่ว่าหลังจากที่พวกเราได้ร่วมต่อสู้กัน มันทำให้ผมคิดได้ว่า ไม่แน่สักวันนึง...สักวันนึงพวกเราอาจจะได้กลับมาเจอกันอีกครั้งก็ได้ ผมเชื่ออย่างงั้น"
"ชาร์ล.." อิจิกะมองไปที่ชาร์ล ดวงตาของเธอเชื่อมั่นในสิ่งที่เธอพูดจริงๆ
"ฉันเองก็เชื่อนะ สักวันนึงพวกเราจะกลับมาพบกันอีกครั้ง และเมื่อถึงวันนั้นพวกเรามาเป็น ดับเบิ้ลด้วยกันอีกครั้งนะ!" ชายหนุ่มยื่นมือหาเธอ
"อืม ไว้วันนั้นพวกเรามา.." หญิงสาวในร่างชายจับมือกับอิจิกะ เป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพก่อนที่ทั้งสองจะแยกจากกัน
หลังจากนั้นไม่นานนักเครื่องบินลำที่ชาร์ลโดยสารก็ค่อยเคลื่อนตัวออกจากลานบินขึ้นสู่ฟากฟ้า
ปล่อยชายทั้งสามยืนมองเธออยู่ด้านล่าง มองการจากไปของเพื่อนของพวกเขา โดยที่หวังว่าสักวันนึงพวกเขาจะกลับมาเจอกันอีกรั้งนึง
"ไว้เจอกันใหม่นะ คู่หู.." อิจิกะพูดทิ้งท้ายก่อนที่จะเดินหันหลังกลับไปพร้อมกับกระเป๋าไกอาเมมโมรี่ สิ่งที่เป็นเครื่องยืนยันว่า เธอจะกลับมาสักวันนึง.....
.................... TO BE CONTINUE ....................
หอพักที่ฮายาเตะพักอาศัยอยู่ เวลา 20.40 น.
ฮายาเตะกลับมาที่หอพักของตัวเองและเดินขึ้นไปยังชั้นบนเพื่อที่จะกลับเข้าห้องของเขา แต่ว่าพอเขาใช้กุญแจเปิดประตูเข้าไปในห้อง กลับกลายว่าห้องนั้นกลายเป็นห้องว่างไม่มีของส่วนตัวหรืออะไรเหลือไว้เลย
"นี่มันเกิดอะไรขึ้น ?"
"คุณเจ้าของหอครับ คุณเจ้าของหอ!"
ฮายาเตะลงไปถึงห้องของเจ้าของหอพักเพื่อที่จะถามว่าทำไมห้องเขาถึงเป็นเช่นนั้น
ผู้หญิงวัยประมาณห้าสิบเปิดประตูออกมาตามเสียงเรียก
"เอ...เธอคือลูกของอะยาซากิสินะ มีธุระอะไรที่นี่อีกล่ะไม่ใช่ย้ายออกไปแล้วเรอะ ?"
"ย้ายออกเรื่องอะไรกันครับ ผมยังไม่ได้ย้ายออกอะไรเลยนะครับ!" ฮายาเตะพยายามเถียง จนเจ้าของหอต้องนำเอกสารเซ็นย้ายออกที่พ่อของฮายาเตะเซ็นไว้ออกมาเป็นหลักฐาน "มะ..ไม่จริงน่า...เรื่องแบบนี้"
"ที่นี่ก็เข้าใจแล้วสินะ แค่นี้ล่ะนอนดึกเดี๋ยวผิวเสีย"
เจ้าของหอปิดประตูทิ้งฮายาเตะไว้ข้างนอกอย่างไร้ซึ่งเยื่อใย
เด็กหนุ่มเดินเปล่าเปลี่ยวไปอย่างไร้จุดหมายท่ามกลางค่ำคืนที่เงียบสงัด
ตอนนี้เขาไม่มีทั้งครอบครัว ไม่มีเงินเก็บ ไม่มีบ้านที่จะให้กลับ เหลืออยู่เพียงตัวคนเดียว "เราจะทำยังไงต่อไปดีนะ...เดินต่อไปแบบไร้จุดหมายแบบนี้ แล้วไปหาที่นอนพักตามใต้สะพานดีมั้ยนะ" ฮายาเตะถามตัวเอง
"เอ๊ะ นั่นอะยาซากิใช่มั้ย ?" เสียงของชายที่คุ้นเคยเรียกเด็กหนุ่ม
พอเขาหันไปมองข้างหน้าก็เจอกับอากิฮิสะที่เพิ่งออกมาจากร้านสะดวกซื้อ "ไง มาทำอะไรแถวนี้เนี่ย ตอนนี้ก็จะสามทุ่มแล้วนะไม่กลับบ้านเหรอ ?"
"คือว่าตอนนี้ผมไม่มีบ้านให้กลับแล้วน่ะครับ" ฮายาเตะบอกความจริงไป
"ไม่มีบ้านให้กลับหมายความว่าไงน่ะ ?" อากิฮิสะทำหน้างง แต่เมื่อเห็นฮายาเตะทำหน้าซึมๆจึงไม่คิดจะถามต่อ "เอางี้มั้ยคืนนี้นายมานอนที่บ้านฉันคืนนึง"
"เอ๊ะ บะ..แบบนั้นจะดีเหรอครับ ?" ฮายาเตะรู้สึกเกรงใจ
"ไม่เป็นไรๆ พวกเราน่ะเป็นเพื่อนกันแล้วน้า~ เป็นเพื่อนกันก็ต้องช่วยเหลือกันเวลาที่คนอื่นมีปัญหาสิ" อากิฮิสะเชิญชวนฮายาเตะด้วยความใจกว้าง
"ตามมาสิบ้านแันอยู่ไม่ไกลหรอก อันที่จริงต้องเรียกว่าหอพักล่ะนะ"
"ขอบคุณนะครับโยชิอิคุง" ฮายาเตะกล่าวขอบคุณ
"เรียกอากิฮิสะก็ได้ เรียกนามสกุลแล้วมันฟังดูห่างเหินยังไงไม่รู้ ฉันเองก็จะเรียกว่าฮายาเตะ เข้าใจสินะ" อากิฮิสะบอกกับฮายาเตะ
"ครับ ขอบคุณนะครับอากิฮิสะคุง"
"เอาล่ะ พวกเรามาแล้ว!!!" ชายหนุ่มตะโกนเสียงดังลั่น อย่างไร้เหตุผล
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น