ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    P:FMR NM

    ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 7 กาลเวลาและคอมโบแห่งสายฟ้า

    • อัปเดตล่าสุด 30 ก.ค. 56


    บ้านของปู่จิซาโตะ  เวลา 07.55 น.

           สึคาสะเดินออกตามหาคุณปู่ของจิซาโตะไปทั่วบ้าน เพื่อที่จะเกลี้ยกล่อมให้เขานั้นยอมไปพักที่บ้านพักคนชราและยอมให้จุนอิจิและตัวเองนั้นออกไปตามหาไนท์แมร์ที่กำลังออกละวาด เธอดูที่ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่นก็ไม่พบเจอเขา และสุดท้ายก็มาเจอเขากำลังนอนอยุ่ที่ห้องของตัวเอง "อยู่ที่นี่เองสินะคะ.."

           "นั่นมัน!?" สิ่งแรกที่สึคาสะรู้สึกได้เมื่อเธอเข้ามาในห้องของชายชราผู้นี้ คือความรู้สึกที่ไม่ดี มีความตึงเดรียด บรรยากาศดูมืดครึ้ม แต่สึคาสะคิดว่าตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการถามคุณปู่เขาก่อน "คุณปู่คะ..คือหนูมีเรื่องอยากจะคุยน่ะค่ะ!"

           ไม่มีเสียงตอบรับจากชายชรา สึคาสะเดินเข้าไปใกล้และพอมองที่เขาดีๆก็พบว่ามีตราประทับรูปดาวสีดำอยุ่บนหน้าผากของเขา "คุณปู่ของคุณจิซาโตะ เป็นผู้ให้กำเนิดไนท์แมร์สินะ..แบบนี้ก็ต้องรีบให้ทาจิบานะคุง กำจัดไนท์แมร์ให้เร็วที่สุดแล้วเราก็ทำลายตราประทับนี้!"

           หญิงสาวเดินออกมาจากห้องของชายชราและเธอก็กำลังจะวิ่งออกไปข้างนอก แต่ก่อนหน้านั้นเธอก็ไปสะดุดตาเข้ากับบางสิ่งบางอย่างที่ตกอยู่ที่พื้น "นี่มัน!?" เธอหยิบขึ้นมาก็พบว่ามันคือคามาคิริเมดัลของจุนอิจิ ที่ใช้สำหรับแปลงร่างเป็นโอสที่ใช้พลังของตั๊กแตนตำข้าว "ทาจิบานะคุงคงจะทำตกไว้เมื่อตอนที่ถูกใช้สินะ...ไม่ไหวเลย ทำของสำคัญแบบนี้ตกได้ยังไง"

           ในระหว่างที่หญิงสาวกำลังจะเก็บเมดัลนั้นลงให่กระเป๋าเสื้อก็เกิดแสงสีเหลืองออกมาจากเมดัลนั้น "อะไรน่ะ!?" เธอสังเกตสังเกตปฏิกิริยา แล้วทันใดนั้นเมดัลก็เปล่งแสงแล้วก็พาเธอกับเมดัลนั้นหายไปอย่างไร้ร่องรอย..... 


    สวนหน้าบ้านของปู่จิซาโตะ  เวลา 08.00 น.

           มาสค์ไรเดอร์โอสยืนประจัญหน้ากับ ไนท์แมร์หนึ่งในสี่จตุรเทพแห่งความฝัน โอเนย์รอส ทั้งสองพุ่งเข้าปะทะกันจนเกิดเป็นแรงสั่นสะเทือนไปทั่วบริเวณ แต่ท่าเอาตามจริงแล้วโอสเป็นฝ่ายเสียเปรียบเรื่องพลังเขาจึงถูกมันผลักถอยออกไป แต่มาสค์ไรเดอร์ก็ยังเกาะพื้นไว้ได้ "ดูผอมๆแบบนี้ แต่แรงเยอะไม่เบานะ"

           "ก็พวกข้านั้นไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาแต่เป็นถึงกับเทพ เจ้าไม่มีทางที่จะมาเทียบชั้นพลังกับเทพได้หรอก!" มือขวาของโอย์เนรอสมีเพลิงสีดำขึ้น "เจ้ารู้จักเพลิงสีดำไหม...เขาว่ากัยว่าเพลิงชนิดนี้จะไม่มีทางถูกน้ำหรือลมใดๆดับมันได้...มีเพียงไฟบริสุทธิ์เพียงเท่านั้นที่จะสามารถชำระล้างเพลิงสีทมิฬนี้ลงได้ แต่ว่าเจ้าคงไม่มีพลังแบบนั้นสินะ!" ชายเกราะดำจ่อมือตรงไปที่โอส "Corona Blast!!"

           เปลวไฟสีดำพุ่งพล่านออกมาจากฝ่ามือของมัน มาสค์ไรเดอร์ทำได้เพียงใช้มือตั้งการ์ทป้องกันเพียงเท่านั้น แล้วเปลวเพลิงก็ปกคลุมร่างของเขาไปจนหมดสิ้น "ลาก่อน มาสค์ไรเดอร์..."


    SAI

    KAME

    TAKO

    SAKATA

           "ฮ้ากกก!!!!" โอสวิ่งพุ่งออกมาจากเพลิงทมิฬ แล้วเข้ากระแทกใส่โอเนย์รอสด้วยกระดองเต่าจนมันเสียหลักเล็กน้อย ตามด้วยการใช้หัวแรดกระแทกซ้ำอีกทีทำให้มันถึงกับกระเด็นออก "อย่ามาดูถูก...ฉันจะดีกว่านะ!"

           "ช่างน่าประหลาดจริงๆ ขนาดโดนเปลวเพลิงทมิฬนี้เข้าไปก็ยังไม่เป็นอะไร หมายความว่าเจ้าเองก็คงจะมีความสามารถบางอย่างที่ทำให้เพลิงนี้ใช้ไม่ได้ผล.." โอเนย์รอสคาดคะเนถึงพลังของจุนอิจิ "..หรือไม่ก็ นั้นก็เป็นเพียงแค่แรงฮึดสู้ของมนุษย์เดินดินธรรมดาๆ"

           "จะเป็นยังไงน่ะ ก็ช่างมันเถอะ!" โอสพูดพร้อมกับตั้งท่าสู้กับไนท์แมร์ "แต่ว่าถ้าหากมนุษย์ธรรมดาอย่างฉัน สามารถเอาชนะเทพเจ้าอย่างนายได้ มันก็จะเป็นเรื่องอะไรที่เหลือเชื่อมากๆเลยสินะ!"

           "ถ้าทำได้ล่ะนะ!" มือของโอเนย์รอสติดเปลวเพลิงสีดำขึ้นมาอีกครั้ง "แต่ว่าสำหรับมนุษย์แล้ว พวกเจ้าไม่มีทางที่จะมาเทียบพลังกับเทพได้หรอก อย่าโอหังให้มากนัก  Corona Blast!!" มันปล่อยเปลวไฟทมิฬจากมือทั้งสองข้างโจมตีใส่โอส

           "เปลวไฟนั่นฉันจะรับมันไว้เอง!!" จุนอิจิตั้งการ์ทป้องกันโจมตีด้วยเปลวไฟสีดำของโอเนย์รอสไว้ ด้วยพลังของขาหมึกยักษ์ทำให้มีพลังในการยึดเกาะกับพื้น แรงจากเปลวไฟจึงไม่สามารถทำให้โอสกระเด็นไปไหนได้ "ตาฉันเอาคืนล่ะนะ!"

           มาสค์ไรเดอร์หยิบดาบเมดาจาลิเบอร์ขึ้นมา แล้ววิ่งตรงเข้าไปฟันโจมตีใส่โอเนย์รอส ซึ่งการโจมตีของโอสนั้นก็ไม่อาจที่จะสร้างความเสียหายให้กับโอเนย์รอสได้เลย เนื่องด้วยเกราะของมันที่มีความแข็งเป็นพิเศษทำให้การโจมตีของโอสไม่เกิดผล "อะไรเนี่ย!?"

           "ต่อให้พยายามเพียงเท่าไหน เจ้าก็ไม่อาจชนะข้าได้หรอก!" โอเนย์รอสผละตัวออกจากโอส แล้วบินลอยขึ้นไปบนฟ้าจากนั้นมันก็ปล่อยเปลวไฟสีดำรอบล้อมพื้นที่บริเวณนี้ไว้ "จงรับไปซะ Crucify Ankh!" ไฟสีดำทมิฬกลายเป็นรูปไม้กางเขนแล้วมันก็ปล่อยลงใส่พื้นที่ที่มาสค์ไรเดอร์ยืนอยู่ เขาไม่อาจหลบได้ทันจึงโดนท่านี้เข้าไป

           "อ้ากกก!!!" มาสค์ไรเดอร์ถูกเปลวไฟของโอเนย์รอสเผาผลาญใส่อย่างรุนแรงจนเขาล้มลง

           "เท่านี้ก็จบสิ้นแล้วสินะ.." โอเนย์รอสหันหลังให้กับโอส ตอนนั้นเองเขาก็ลุกขึ้นมาแล้วเปลี่ยนเมดัลพร้อมกับสแกนไดร์เวอร์อีกครั้ง


    TAKA

    TORA

    BATTA

    TATOBA 
    TATOBA TATOBA

    SCANNING CHARGE

           "ฮ่าส์...!!" โอสใช้พลังของขาตั๊กแตนกระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้า แล้วบนท้องฟ้านั้นก็เกิดเป็นวงสามวงขึ้นมา มาสค์ไรเดอร์พุ่งทะลุผ่านทั้งสามวงนั้นจนเกิดมีปีสีแดง กรงเล็บสีเหลือง ขึ้นมาแล้วเตะเข้าใส่โอเนย์รอส "เซ...ย่าส์!!"

           "หึ!" โอเนย์รอสใช้เพียงมือเดียวก็สามารถรับการโจมตีด้วยท่าไม้ตายเตะของโอสไว้ได้อย่างง่ายดาย "การโจมตีของเจ้านั้นมันช่างไร้พลังยิ่งนัก..ข้าจะแสดงพลังความแข็งแกร่งที่แท้จริงให้เจ้าได้เห็นเอง!" มือของโอเนย์รอสลุกเป็นไฟสีดำแล้วก็เผาทำลายโอสที่แยู่ตรงหน้า

           "อั่ก!!" โอสล้มลงที่พื้นสภาพร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลที่ได้รับบาดเจ็บมาจากการโจมตีด้วยเปลวเพลิงทมิฬนั้น 

           "การที่มนุษย์ธรรมดาอย่างเจ้าจะสามารถมาเทียบพลังกับเทพเจ้าได้นั้น เป็นเพียงแค่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แม้จะเป็นความฝันพวกเจ้าก็ไม่สามารถที่จะเหนือกว่าข้าได้ จงจำใส่หัวไว้ซะ!" โอเนย์รอสตักเตือนจุนอิจิ "..โดยเฉพาะคนที่ถูกทอดทิ้งอย่างเจ้า..มันก็ยิ่งไม่มีทาง!"
     
           คำพูดนั้นได้ปลุกให้จุนอิจิกลับมามีแรงสู้อีกครั้ง เขาค่อยๆกำหมัดแน่นแล้วพยุ่งตัวเองลุกขึ้นมา "อย่ามา...พูดถึงเรื่องนั้น!!" โอสลุกขึ้นดวงตาที่ตามปกติเป็นสีเขียวของเขาเปลี่ยนเป็นสีม่วงแล้วพลังที่เอ่อล้นมาอย่างมหาศาสนั้นก็ทำให้โอเนย์รอสถึงกับประหลาดใจ มาสค์ไรเดอร์จึงใช้จังหวะนั้นหยิบดาบพุ่งตรงเข้าไปฟันใส่ไนท์แมร์ "ฮ่าส์!!"

           "ของแบบนี้!!" โอเนย์รอสรับพลังดาบของโอสเข้ามา แต่คราวนี้เกราะของเขาเกิดรอยร้าวขึ้นมาจากแรงฟันนั้น "อะไรกัน ทำไมถึง!?"

           "เซ...ย่าส์!!!" โอสกระโดดแล้วพุ่งลงมาฟันใส่โอเนย์รอส 

           "ไม่ยอมให้เจ้าได้ทำอะไรได้หรอก!" มันใช้พลังไฟสีดำโจมตีใส่โอสจนเขาถึงกับต้องกระเด็นออก แต่พลังของโอสที่เพิ่มมากขึ้นอย่างน่าประหลาดก็สร้างความแปลกใจให้กับโอเนย์รอสเป็นอย่างมาก "คราวนี้ข้าจะยอมปล่อยเจ้าไปก่อน...แต่ว่าข้าจะกลับมาปิดบัญชีกับเจ้าอย่างแน่นอน"

           โอเนย์รอสบินหายไปพร้อมกับเงาสีดำ ส่วนมาสค์ไรเดอร์ดวงตาก็คืนกลับเป็นสีเขียวตามปกติแล้วค่อยๆล้มลงพร้อมๆกับคืนร่างกลับเป็นมนุษย์.....

    .
    .
    .
    .


    สถานที่แห่งหนึ่งที่ไม่ทราบแหล่ง  เวลา ??.?? น.

           สึคาสะที่ถูกเมดัลคามาคิริส่งตัวมาที่แห่งหนึ่ง เธอได้มาอยู่ที่วิหารแห่งหนึ่งที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน แต่สภาพของวิหารแห่งนี้นั้นได้กลายเป็นซากปรักหักพังเรียบร้อยแล้ว "ที่นี่มันที่ไหน ?" เธอเดินตรงไปตามทางที่ไม่มีซากปรักหักพัง เดินเข้าไปลึกจนมาพบกับประตูบานใหญ่ตรงหน้า

           "จะมีอะไรอยู่ข้างในนะ ?" เธอค่อยๆผลักประตูออก เมื่อเข้ามาก็พบว่าเป็นเพียงห้องว่างๆห้องหนึ่งเท่านั้น "ไม่มี..อะไรอยู่ที่นี่เลยอย่างงั้นเรอะ ?"

           "ก็..จะพูดว่าไม่มีก็ไม่ได้ล่ะนะ!" เสียงของเด็กผู้หญิงดังขึ้นในหัวของสึคาสะ เธอพยายามมองหาต้นตอของเสียงไปรอบๆแต่ก็ไม่พบใครเลย "พี่สาวมองไปทางไหนน่ะ หนูอยู่ทางนี้!" 

           เสียงเรียกของเด็กหญิงทำให้สึคาสะหันไปพบกับเธอพอดี เด็กผู้หญิงผู้มีผมยาวสีขาวกำลังยืนยิ้มให้เธออยู่ด้านหลัง "ธะ..เธอเป็นใคร เป็นคนที่พาฉันมาที่นี่เรอะ ?" สึคาสะถามเด็กผู้หญิง

           "อืม..." เธอทำท่าทางคิด "ก็นะ..พี่สาวก็คงจะรู้จักพลังของโอส ที่หนูพาพี่สาวมาที่นี่ไม่ใช่เพราะอะไร แต่ว่าอยากจะให้มีคนรู้ถึงพลังที่แท้จริงของบุคคลที่เป็นโอสก็เพียงเท่านั้น...และพี่สาวก็ท่าทางจะเป็นคนที่คุยรู้เรื่องที่สุดด้วยล่ะนะ"

           "พลังที่แท้จริงของโอส ?" สึคาสะฟังอย่างตั้งใจ

           เด็กผู้หญิงแสยะยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย "พี่สาวคงจะรู้ถึงพลังของโอสแล้วสินะ หนูอยากจะขอเตือนสิ่งสำคัญไว้อย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมาก..หากปล่อยไว้อาจจะเกิดเรื่องที่อันตรายขึ้นก็ได้นะ!"

           "เรื่องอันตราย..หมายความว่ายังไง ทาจิบานะคุงจะเป็นอันตรายงั้นเหรอ ?" สึคาสะถาม

           "เอ...ก็คล้ายๆล่ะนะ แต่ว่าคนที่จะเป็นอันตรายจริงๆน่ะคือตัวพี่สาวเองและก็คนรอบข้างมากกว่านะ.." หญิงสาวตอบ คำตอบนี้ทำให้สึคาสะนิ่งเงียบไปช่วงหนึ่ง "ก็ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ หากว่าเขาคนนั้นพ่ายแพ้ต่อความมืดภายในจิตใจทุกอย่างก็จะจบ!"

           "ทำไมทุกอย่างถึงจะจบล่ะ ทาจิบานะคุงไม่ได้คิดจะทำร้ายใครเลยนะ เขาคิดจะใช้พลังนั้นในทางที่ถูกต้อง!" สึคาสะค้านคำพูดของเด็กผู้หญิงอย่างถึงที่สุด 

           "หนูอยากจะให้พี่สาวได้เห็นสิ่งนี้หน่อยน่ะค่ะ ช่วยตามมาหน่อยจะได้มั้ยคะ ?" เด็กผู้หญิงเชิญชวน

           "กะ..ก็ได้!" สึคาสะไปตามคำเชิญชวนของหญิงสาวผู้นี้ โดยที่เธอเองก็ยังคงรู้สึกประหลาดกับเธออยู่ แต่ว่าสิ่งที่เธอจะเห็นต่อไปนี้อาจจะเป็นสิ่งที่สามารถช่วยจุนอิจิได้ เธอจึงตัดสินใจที่จะตามไป


    สวนสาธารณะเอเรีย 2  เวลา 08.10 น.

           หลังจากการต่อสู้กับไนท์แมร์คาเมะ โคดากะและโกโดก็ได้แยกทางกันเพื่อหาทางจัดการกับต้นตอผู้ที่สร้างมันขึ้นมา แต่เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถที่จะติดต่อจุนอิจิที่รับหน้าที่ไปตรวจสอบอีกด้านหนึ่ง ทำให้โคดากะและเซนะต้องเป็นฝ่ายออกตามหาพวกเขาแทน

           "เจ้าพวกนั้นไม่มีความรับผิดชอบเลยนะ บอกว่าจะไปตรวจสอบอีกฝั่งหนึ่งให้แท้ๆแต่กลับหายหัวไปไหนซะได้!" เซนะบ่นด้วยความที่อารมณ์ของเธอตอนนี้ไม่ดีนัก "คงต้องสั่งสอนให้พวกนั้นรู้หน่อยแล้วว่าต้องทำยังไง ถึงจะถูกต้องเมื่อมาร่วมงานกับฉันคนนี้!"

           "อย่าโมโหไปเลยน่า แต่ว่ามันก็แปลกจริงๆล่ะที่เราไม่สามารถติดต่อทั้งอายาสึจิหรือทาจิบานะได้เลย ไม่แน่ว่าอาจจะเกิดเรื่องที่ไม่ดีขึ้นกับพวกนั้นก็ได้นะ" โคดากะสังหรณ์ใจไม่ดี

           "ถึงพูดแบบนั้น แต่ว่าถ้าจริงๆแล้วเจ้าพวกนั้นกำลังมัวแต่ไปจีบกันอยู่ล่ะก็ฉันก็ไม่ยอมจริงๆด้วย!!" เซนะยังคงยืนยันคำเดิมที่จะหาเรื่องโทษพวกจุนอิจิให้ได้

           "พวกนั้นอาจจะไม่เป็นอะไรเมื่อสู้กับไนท์แมร์ธรรมดา...แต่ว่านอกจากไนท์แมร์แล้ว ก็ยังมีระดับหัวหน้าที่บอกว่าตัววเองเป็นถึงกับเทพเจ้าอยู่ ถึงขนาดที่มาสค์ไรเดอร์ดับเบิ้ลยังเคยเกือบแพ้มาแล้วนะ พวกนั้นอาจกำลังแย่ก็ได้!" โคดากะยังคงพูดเข้าข้างพวกจุนอิจิ

           "โคดากะ นายนี่มันจะเป็นคนดีไปถึงไหนกันเนี่ย ไม่เข้าข้างฝั่งฉันบ้างเลยรึไง!?" เซนะเริ่มอารมณ์เสียเล็กน้อย

           "ก็ไม่ใช่แบบนั้น แต่ว่าเราก็ควรที่จะฟังเหตุผลของทางนั้นด้วย ไม่ใช่ไปโทษเขาอยู่ฝ่ายเดียว!" โคดากะพูดพร้อมกับแสดงสีหน้าจริงจัง "เพราะว่าพวกเราก็น่าจะเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้นี่น่า!"

           เซนะหน้าแดง "ถ้าให้พูดตามจริงนะ ที่จริงฉันก็แค่ไม่ชอบผู้หญิงผมดำนั่นเท่านั้นล่ะ ไม่มีอะไรหรอก!"

           "อายาสึจิ เป็นผู้หญิงที่ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าห้อง F มีความรับผิดชอบสูง และยังเป็นที่เชื่อถือในหมู่มาก เธอมีผลงานมากมายพอๆกับเธอเลยนะ เรียนก็ได้คะแนนพอๆกันไม่ใช่เรอะ ?" โคดากะถาม

           "ความสามารถแบบนั้นเกิดมาจากความพยายามต่างหาก แต่ว่าอย่างฉันมันเป็นพรสวรรค์มาตั้งแต่เกิดแล้ว อย่าเอามาเปรียบกันสิ!" เซนะเริ่มโมโห "เป็นแค่โคดากะแท้จะมาสั่งสอนฉันคนนี้อีก!!" ด้วยความโกรธเธอจึงเดินเร็วขึ้นนำหน้าชายหนุ่มไป

           "ดะ..เดี๋ยวสิ เซนะ!" โคดากะเดินตามเซนะไป แต่สักพักนึงไม่นานก็เกิดตราประทับดาวสีดำขึ้นมาโดยรอบพื้นที่แถวนี้ "อะไรน่ะ ศัตรูงั้นเริะ!?"

           "กับดักยังไงล่ะ...เวลาเล่นเกมศัตรูจะไม่ยอมให้เราไปถึงจุดหมายให้เราง่ายๆหรอก แต่ว่านี้ก็เป็นสิ่งที่ยืนยันว่า..." เซนะมองไปที่ทางข้างหน้าด้วยสายตาที่เฉียบคม "หมายความว่าเรามาถูกทางแล้วยังไงล่ะ!"

           "อย่างงั้นเรอะ!!" โคดากะสวมเข็มขัดพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วก็กดปุ่ม 


    5-5-5

    STANDING BY


            "ขอยอมรับเรื่องนี้เลยว่า เธอน่ะเก่งจริงเซนะ!" โคดากะใส่โทรศัพท์นี้ลงไฟซ์เกียร์ "แปลงร่าง!!"

    COMPLETE

           แสงสีแดงค่อยๆซ้อนทับร่างของโคดากะแล้วเปลี่ยนร่างของเขาไปเป็นมาสค์ไรเดอร์ไฟซ์ "เซนะ เธอหลบไปก่อน เดี๋ยวฉันจะรีบจัดการเจ้าพวกนี้ให้เสร็จ!" 

           "เจ้าพวกนี้เป็นแค่พวกลูกกระจ๊อก อย่าเพิ่งไปเอาจริงกับมันมากล่ะ!" เซนะบอกแล้วเธอก็หลบออกไปจากบริเวณนี้

           "ไม่ต้องบอกก็รู้แล้วล่ะน่า!" ไฟซ์วิ่งตรงเข้าไปต่อยโบนตนนึงจากนั้นก็หมุนตัวมาเตะอีกตัวนึง พอมีพวกมันอีกกลุ่มกระโดดเข้ามาโจมตี เขาก็กลิ้งตัวหลบแล้วโจมตีสวนพวกมันกลับไป "เข้ามาอีกสิ แค่นี้ยังไม่ได้วอร์มเลยนะ!"

           "ฮ่าส์!!" ไฟซ์ชกโบนตัวนึงกระเด็นไปชนกับอีกตัวหนึ่ง ทันใดนั้นเองพวกมันอีกสิบกว่าตัวเข้ามาโจมตีรอบล้อมเขาไว้ทุกด้าน ทำให้ไฟซ์ติดอยู่ในวงล้อมของพวกมัน "อัก!"

           "โคดากะ มัวทำอะไรอยู่รีบจัดการมันเร็วๆเข้าสิ!" เซนะตะโกนบอก

           "รู้แล้วน่า!" ไฟซ์หยิบโทรศัพท์ของเขาออกมาแล้วเปลี่ยนเป็นโหมดปืน จากนั้นก็กดรหัส


    2-7-9

    CHARGE


           ปืนของไฟซ์เปล่งแสงสีแดงแล้วค่อยๆชาร์จพลังงาน เมื่อถึงจุดสูงสุดเขาก็เหนี่ยวไกปืนเพื่อยิงลำแสงออกมาทันที "ฮ่าส์!!!"

    ตู้มม!!!

           แรงกระแทกของพลังงานที่ออกมาจากปืนนั้น ได้ทำให้เหล่าไนท์แมร์โบนทั้งหลายกระเด็นออกไปคนละทิศละทาง ส่วนมากสลายกลายเป็นไปหมอกสีม่วงหายไป แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ยังรอดมาได้และยังคงจะสู้กับไฟซ์ต่อ "ฮ่า!!"

           "ยังไม่ยอมแพ้อีกเรอะ พวกนายมีแรงฮึดกันจริงๆนะ" ไฟซ์ยิงปืนทำลายไนท์แมร์ที่ยังเหลืออยู่ทั้งหมด แล้วเขาก็เก็บโทรศัพท์กลับไปที่ไดร์เวอร์ "กำจัดพวกลูกน้องเสร็จแล้ว ต่อไปก็จะมีบอสออกมาอีกสินะ.."

           ไม่ทันขาดคำไนท์แมร์คาเมะก็ปรากฏตัวออกมาตามคำเรียกร้อง มันยังคงอยู่ในสภาพขั้นที่สองที่มีอาวุธเป็นไม้เท้าสายฟ้าที่มีความสามารถในการทำให้สิ่งต่างๆที่โดนสายฟ้านี้เข้าไปอายุเพิ่มมากขึ้นได้ "อ่าาา!!"  มันเริ่มโจมตีด้วยการปล่อยสายฟ้าโจมตีใส่ไฟซ์ทันที

           ไฟซ์เคลื่อนตัวหลบการโจมตีนั้นแล้วใส่ตราสัญลักษณ์ของโทรศัพท์ไปไว้ที่กล้องถ่ายรูปอีกครั้ง เพื่อใช้งาน
    Faiz Shot "เอาล่ะนะ!" เขาเข้าไปต่อยใส่ไนท์แมร์ด้วยอาวุธชิ้นนี้ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับสนับมือ ทำให้มันบาดเจ็บได้เล็กน้อย

           "อ่าาาา!!!" ไนท์แมร์ปล่อยสายฟ้าออกมาจากไม้เท้าโจมตีไฟซ์อีกครั้ง เขาก็หลบได้อีกแต่สายฟ้านั้นได้เลี้ยวกลับมาโจมตีใส่เขา ดีที่ไฟซ์ยังสามารถใช้สนับมือป้องกันไว้ได้

           Faiz Shot ได้ขึ้นสนิมกลายเป็นเหล็กเก่าไปในทันทีเมื่อโดนสายฟ้าของคาเมะเข้าไป "แบบนี้คงจะเล่นๆด้วยไม่ได้แล้วสินะ!" สายฟ้ายังคงปล่อยออกมาโจมตีอย่างต่อเนื่องมาสค์ไรเดอร์ทำได้เพียงแค่หลบไปตามสิ่งก่อสร้างที่อยู่รอบข้างเท่านั้น

           คาเมะปล่อยกระดองโจมตีใส่ไฟซ์เมื่อเขาสัมผัสกับมันก็เกิดระเบิดขึ้นทันที

    ตู้ม!!

           "อั่กก!!" ไฟซ์ถูกแรงระเบิดทำให้กระเด็นกลิ้งออกมาเล็กน้อย แต่ก็ยังสามารถตั้งหลักใหม่ได้ "แบบนี้จะเข้าใกล้ก็ไม่ได้จะอยู่ในระยะไกลก็ไม่ได้ลำบากจริงๆเลยนะ!"

           "โคดากะ ถ้ามีเวลาว่างนัก ก็รับหาทางจัดการมันจะได้มั้ย!?" เซนะตะโกนเร่งโคดากะอีกครั้ง

           เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วเปลี่ยนเป็นโหมดปืนอีกครั้ง "ก่อนอื่นต้องทำลายไม้เท้านั่นก่อนสินะ!" แล้วเขากดรหัสลงไป


    1-0-6

    Burst Mode


           ไฟซ์รวบรวมความกล้าแล้วเขาก็วิ่งออกมาจากที่กำบังแล้วกระหน่ำยิงปืนใส่ไนท์แมร์คาเมะ 4 ครั้ง แต่ละครั้งจะเป็นการยิงกระสุนลำแสง 3 นัด ซึ่งสามารถทำให้ไม้เท้าของไนท์แมร์ถึงกับหักลงได้อีกครั้ง "ขอจัดการเลยละกันนะ!" 

           มาสค์ไรเดอร์หยิบอุปกรณ์ที่มีลักษณะคล้ายไฟฉายออกมาจากข้างๆไดร์เวอร์ แล้วเขาก็ใส่ตราสัญลักษณ์ไฟซ์ลงไป จนมันเปลี่ยนเป็นตัวล็อคเป้าหมาย ที่มีชื่อเรียกว่า Faiz Pointer เขานำสิ่งนี้ไปใส่ที่ข้อเท้าข้างขวา แล้วกดปุ่ม enter บนโทรศัพท์หนึ่งครั้ง


    EXCEED CHARGE

           แถบพลังงานค่อยๆถูกส่งไปยังที่ pointer แล้วเขาก็กระโดดขึ้นไปข้างบนแล้วปล่อยวงสว่านสีแดงล็อคตัวไนท์แมร์คาเมะไว้ ทำให้มันไม่สามารขยับไปไหนได้ แล้วมาสค์ไรเดอร์ก็พุ่งเข้าหาวงสว่านนั้น "ฮ่าส์!!"  

           "ย้ากกก!!!" แล้วเขาก็ทะลุร่างมันออกมา ตราสัญลักษณ์ของไฟซ์ปรากฏขึ้นบนตัวของมัน แล้วร่างของมันก็สลายกลายเป็นทรายไป "ขีดจำกัดของนาย..คือการสูญสลาย!"

           เซนะออกมาจากที่ซ่อนแล้วเข้ามาคุยกับโคดากะ "ทำได้ดีมากโคดากะ แต่ว่านายก็ใช้เวลาไปเยอะนะกว่าจะจัดการเจ้านี้ลงได้นะ!" 

           "เจ้านี้มันก็เก่งไม่ใช่เล่นๆนะ จะให้จัดการภายในชั่วพริบตาเหมือนกับพวกโครงกระดูกพวกนั้นได้ยังไงล่ะ ?" โคดากะย้อน

           "เอาเถอะ!" หญิงสาวเสยผมบลอนด์ของเธอขึ้นเล็กน้อยแล้วก็กลับมาเป็นทรงเดิม "ยังไงซะ ถ้าชนะด้ต่อให้เสียเวลาไปสักหน่อย ก็ไม่เป็นปัญหาหรอก!"

           "แล้วที่ที่บอกว่าน่าจะเป็นที่ที่พวกทาจิบานะอยู่ สรุปว่ามันคือที่ไหนล่ะ ?" โคดากะถาม

           "นี่นายยังไม่รู้อีกเรอะ คนเขาอุตส่าห์คิดว่านายจะรู้แล้วนะ" เซนะพูดอย่างผิดหวัง "แต่ก็เอาเถอะ...ถึงยังไงจะรู้หรือไม่รู้นายก็น่าจะเข้าใจ"

           "เข้าใจอะไร ?" โคดากะยังไม่เข้าใจสิ่งที่เซนะจะบอก

           "ไนท์แมร์น่ะ หากปรากฏตัวบริเวณนี้ก็แปลว่าเรานั้นได้ใกล้ถึงจุดที่เป็นจุดกำเนิดของมันแล้วยังไงล่ะ และหากเป็นทางนี้จริงๆก็ไม่มีทางอื่น นอกจาก..." เซนะมองไปที่บ้านหลังใหญ่ที่อยู่ห่างไกลพอสมควร "บ้านของผู้ใหญ่บ้านที่นี่ยังไงล่ะ"

           "แล้วสรุปเธอรู้ได้ยังไงว่าเป็นที่นั่นล่ะ ?" โคดากะถามอีก

           "โธ่ ก็นี้ไงเพราะว่ามีไนท์แมร์ออกมาขัดขวางพวกเราแบบนี้ และยังแถวนี้น่ะนะไม่มีบ้านผู้คนอยู่หรอก จะมีก็เพียงแค่ทางเดินไปยังบ้านหลังนั้นเท่านั้น ถึงแม้จะมีทางเดินหรือกำแพงอะไรพวกนี้ แต่ทางแถวนี้น่ะวันนึงมีคนผ่านไม่ถึงสิบคนเลยด้วยล่ะมั้ง!" เซนะอธิบาย

           "สมกับที่เธอเป็นคนในพื้นที่แล้วล่ะนะ รู้เรื่องเอเรียนี้ดีจริงๆ" โคดากะชมทำให้เซนะออกอาการเขินเล็กน้อย

           "อะ..อา ก็นะคนมันเป็นอัจฉริยะนี่น่า!" เซนะทำเป็นเปลี่ยนเรื่องเพื่อกลบเกลื่อนความเขินของเธอ "จะยังไงก็เถอะ ตอนนี้เราก็รู้จุดมุ่งหมายของพวกเราแล้ว เพราะฉะนั้นก็ไปกันได้แล้ว!"

           "เข้าใจแล้ว จะรีบไปเดี๋ยวนี้ล่ะ!" ทั้งสองรีบมุ่งหน้าไปยังบ้านของผู้ใหญ่บ้านทางนั้นทันที....



    สถานที่แห่งหนึ่งที่ไม่ทราบแหล่ง  เวลา ??.?? น.

           เด็กหญิงผมสีขาวได้พาอายาสึจิ สึคาสะเข้ามาในวิหารในชั้นด้านในที่ลึกเข้าไปอีก เธอพาสึคาสะมาถึงห้องที่มีแผนภาพของเมดัลของโอสอยู่บนฝาผนัง โดยที่ทุกเมดัลต่างมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่วงกลมที่ว่างเปล่าตรงกลาง "นั่นมันคืออะไร..ทำไมถึงไม่มีรูปล่ะ ?" 

           "นั่นคือจุดเริ่มต้นยังไงล่ะ..." เด็กผู้หญิงลอยขึ้นแล้วเข้าชี้จุดตรงกลางที่ว่างเปล่านั้น "...ทุกอย่างในจักรวาลนี้นั้นล้วนเริ่มจากความว่างเปล่า โอสนั้นคือพลังที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเลียนแบบพลังของพระเจ้า โดยความสามารถของอิมโฮเทพ นักบวชแห่งยุคอียิปต์โบราณ ผู้ที่สร้างพีระมิดกีซ่าอันศักดิ์สิทธิ์แห่งชาวตะวันออกกลางขึ้น"

           "โอสมีจุดเริ่มต้นมาจากอียิปต์อย่างงั้นเรอะ ?" สึคาสะเริ่มทำความเข้าใขกับประวัติศาสตร์ที่เด็กผู้หญิงผู้นี้บอก

           "เริ่มต้นนั้นโอสคือพลังที่อิมโฮเทพใช้ต่อกรกับองค์กษัตริย์ฟาโรห์ผู้ชั่วร้าย และในที่สุดเขาก็สามารถทำร้ายความมืดมิดนั้นลงได้และสามารถช่วยเหลืออียิปต์ให้รอดพ้นจากยุคมืดได้สำเร็จ เขาจึงถูกขนานนามว่าผู้เป็นโอสคนแรก" เด็กหญิงเล่าเรื่องต่อ "แต่ว่าหลังจากสิ้นสุดยุคของอิมโฮเทพแล้ว พลังของโอสก็ถูกส่งต่อไปให้กับคนรุ่นต่อไป...เขาคนนี้ไม่มีนามที่แท้จริง แต่ทุกๆคนจะเรียกเขาว่า Scropion King"

           "เหมือนกับในหนังอย่างงั้นเรอะคะ ?" สึคาสะถาม

           "ก็อาจจะมีความคล้ายคลึงกันอยู่บ้าง แต่ว่าในเมื่อกษัตริย์คนที่สองนั้น ต้องการใช้พลังของโอสเพื่อทำในสิ่งที่เขาต้องการด้วยพลังอำนาจ นั่นคือสิ่งที่ปลุกกระตุ้นความบ้าคลั่งในเมดัลขึ้นมา.." หญิงสาวเล่ามาถึงจุดสำคัญ "..และเมดัลที่ได้รับสิ่งนั้นไปมากที่สุดคือ
    เมดัลสีม่วง"
      
           "เมดัลสีม่วง ?" สึคาสะพยายามนึกแต่ว่าเธอจำได้ว่าเธอไม่เคยเห็นจุนอิจิใช้เมดัลสีม่วงเลยสักครั้ง 

           "เธออาจจะคิดว่า โอสคนปัจจุบันไม่เคยใช้เมดัลสีม่วงเลยสักครั้งก็ไม่น่าจะมีปัญหาสินะ...แต่ว่านั่นล่ะคือสิ่งที่เธอคิดผิด เพราะว่าเมดัลสีม่วงจะค่อยๆกระตุ้นจิตใจของโอสไปเรื่อยๆเมื่อจิตใจเขาถูกความแค้น ความโลภ หรือความรู้สึกด้านลบเข้าครอบงำ" เด็กหญิงอธิบาย "ไม่มีใครที่จะหลีกเลี่ยงสัญชาตญานนี้ไปได้!"

           "แล้วเมื่อความบ้าคลั่งนี้ครอบงำ เกิดอะไรขึ้น ?" สึคาสะถามต่อ

           หญิงสาวมองไปที่แผนภาพแล้วสิ่งนั้นก็กลายสภาพเป็นภาพฉายให้สึคาสะเห็น ผืนทะเลทรายที่กลายสภาพเป็นน้ำแข็ง บ้านเมืองที่ถูกทำลายลง ชาวเมืองหนีตายกันอย่างทรมาณ ฝนกรดที่ตกลงมาจากฟากฟ้า ลาวาที่ไหลนองออกมาจากใต้พิภพ ใกล้เคียงกับนรกบนผืนดินก็ว่าได้ "แบบนี้มัน..โหดร้าย.."

           "คนที่กลายเป็นโอสด้านมืดแล้วก็จะมีทางเลือกอยู่เพียงสองทางเลือก...หนึ่งคือทำลายทุกสิ่ง หรือสองจะเป็นฝ่ายโดนทำลาย" เด็กหญิงพูดตามความจริง ทำเอาสึคาสะพูดไม่ออก "แต่แน่นอนว่าก็ต้องมีคนหยุดโอสคนนั้นสำเร็จ ซึ่งคนผู้นั้นก็คือ โอส!"

           "โอส!? หมายความว่าไง โอสไม่ได้มีเพียงแค่คนเดียวอย่างงั้นเรอะ ?" สึคาสะถาม

           เด็กผู้หญิงยิ้ม "แน่นอนสิ โอสไม่ใช้พลังที่จะปล่อยให้คนๆเดียวเป้นผู้แบกรับการใช้พลังที่ยิ่งใหญ่อยู่เพียงคนเดียวเหมือนกับพระเจ้าผู้สร้างที่เป็นหนึ่งในมาสค์ไรเดอร์หรอกนะ แต่ว่าโอสน่ะเป็นพลังที่จะส่งมอบให้กับบุคคลสามคน แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาจะใช้พลังไปในทางไหนล่ะนะ"

           "แล้วโอสอีกสองคนอยู่ที่ไหน ?" สึคาสะถาม 

           "เรื่องนั้นหนูเองก็ไม่รู้ แต่ว่าชะตากรรมจะช่วยพาพวกคุณไปพบพลังเหล่านั้นอย่างแน่นอนค่ะไม่ต้องรีบร้อน แต่ว่าที่เป็นห่วงคือพลังของโอสเพียงคนเดียวในตอนนี้ค่ะ" เด็กหญิงวนเรื่องกลับไปเรื่องเดิม "หนูขอถามล่ะนะคะว่า...คุณจะช่วยเป็นคนสังหารโอสคนปัจจุบัน หากว่าเขาบ้าคลั่งขึ้นมาจะได้รึเปล่าคะ ?"

           สึคาสะช็อคที่ได้ยินเธอพูดแบบนั้น "เรื่องแบบนั้น...!"

           "ช่วยตัดสินใจด้วยค่ะ เพราะว่าฉันอาจจะไม่เปลือพลังพอที่จะคงคุณไว้ในโลกนี้ได้นานแล้ว หากจะพบกันเราคงพบกันอีกในอีกหลายเดือนข้างหน้านะคะ!" เด็กผู้หญิงเร่งเร้า

           "ฉัน..ฉัน..." สึคาสะตัดสินใจอย่างยากลำบาก และในที่สุดเธอก็ตัดสินใจและตอบไปว่า "ฉัน...!!"


    บ้านของปู่ของจิซาโตะ  เวลา 08.30 น.

           จุนอิจิตื่นขึ้นมาภายในบ้านของจิซาโตะ เขาลุกขึ้นมาก็พบว่าจิซาโตะกำลังดูแลคุณปู่ของเธออยู่ "คุณจิซาโตะ นี้ผมหลีบไปนานเท่าไหร่...แล้วก็ตอนนี้เป็นยังไงบ้างน่ะ ?"

           "ก็ไม่นานหรอกค่ะ ฉันเองก็จำไม่ได้พอรู้สึกตัวก็เห็นทาจิบานะคุงสลบไปแล้ว คงเป็นเพราะทำงานหนักน่ะค่ะ ฉันจึงพาคุณเข้ามาพักในบ้านก่อน แล้วก็มาดูแลคุณปู่ แต่ว่าที่แปลกคือไม่เห็นคุณอายาสึจิอยู่รอบนี้เลยน่ะค่ะ!" จิซาโตะตอบ

           "คุณอายาสึจิไม่อยู่อย่างงั้นเรอะ ?" จุนอิจิลุกขึ้นยืนแล้วก็มองไปรอบๆก็ยังพบว่าของของสึคาสะยังคงวางไว้ที่เดิม "คงออกไปข้างนอก เดี๋ยวก็คงกลับมาล่ะมั้ง"

           "เห้ย!! เจ้าเด็กบ้าทำสวนของฉันเสร็จรึยัง ถ้ายังไม่เสร็จฉันไม่ยอมให้นายกลับจริงๆด้วย!!" คุณปู่ของจิซาโตะตวาด

           "คุณปู่คะ เขาทำงนหนักมากจนถึงกับสลบไปเพราะแดดเลยนะคะแล้วนี่ลุงจะยังให้เขากลับไปทำงานอีกเหรอคะ ?" จิซาโตะรู้สึกไม่พอใจกับการกระทำของปู่ของเธอ "เขาทำงานมามากแล้วให้เขาพักเถอะค่ะ!"

           "อะไรกัน ทำงานไม่ถึงชั่วโมง แดดก็แดดยามเช้า แค่นี้เป็นลมอย่างงั้นเรอะอ่อนแอจริงๆ!!" คุณปู่ต่อว่าจุนอิจิ

           "หยุดว่าเพื่อนหนูนะคะ คุณปู่เองก็มาใช้งานเขาหนักเกินไปแล้ว เขาเป็นแขกนะคะไม่ใช่คนงานที่จะต้องมาทำงานแบบนี้!" จิซาโตะพยายามเข้าข้างฝั่งจุนอิจิอย่างสุดกำลัง แต่คุณปู่ก็พยายามอ้างเหตุผลเพื่อเอาชนะเธอ ทำให้ทั้งสองยิ่งทะเลาะกันรุนแรงขึ้น

           "ยะ..หยุดเถอะครับ!!" จุนอิจิพูดเสียงดังหยุดทั้งสองไว้ได้ "พวกคุณเป็นปู่หลานกันนะอย่าทะเลาะกันเลย!" ชายหนุ่มเดินออกไปหยิบจอบขึ้นมาอีกครั้ง "คราวนี้ผมจะทำให้เสร็จเอง ไม่ต้องเป็นห่วงลูกผู้ชายพูดแล้วไม่คืนคำ!"

           "แต่ว่า..ทาจิบานะคุง.." จิซาโตะมองแผ่นหลังของจุนอิจิที่ค่อยๆเดินไปทำงานสวนโดยที่ไม่มีความลังเล ทำให้เธอยิ่งสงสัยว่าทำไมเขาถึงต้องทำถึงขนาดนี้ ทั้งๆที่พวกเขาก็ไม่ได้สนิทกันมากนัก

           จุนอิจิกลับมาทำสวนต่อเขายังมุ่งมั่นที่จะทำงานนี้ต่อ จนกระทั่งโคดากะและเซนะมาถึงก็พบเขาในสภาพนี้ "ทาจิบานะ นี่นายมาทำอะไรอยู่ที่เนี่ย ?"

           "ฮาเซงาวะ..คาชิวาซากิ พอดีเรื่องมันยาวน่ะ ไว้คุยกันทีหลังนะ..จะว่าไปพวกไมถึงมาที่นี่ล่ะ ?" จุนอิจิถาม

           "ฉันคิดว่าตำแหน่งของไนท์แมร์น่าจะอยู่ที่นี่น่ะ แต่ว่านี่ขนาดนายอยู่ใกล้ขนาดนี้ก็ยังไม่รู้ว่าไนท์แมร์อยู่ข้างตัวเลยอย่างงั้นเรอะ!?" เซนะอารมณ์เสียเล็กน้อย

           "เปล่าหรอก ฉันรู้ตั้งนานแล้วล่ะ" จุนอิจิตอบแล้วเขาก็เหลือบไปมองข้างหลังเล็กน้อย "ใช่มั้ยครับ คุณปู่!?"

           คุณปู่ของจิซาโตะเดินออกมาจากบ้านของตัวเอง "ใช่แล้วล่ะ...ฉันรู้ว่ามีตัวประหลาดเข้ามาหาฉันแล้วได้ปล่อยตราประทับบางอย่างใส่ฉัน มันทำให้ฉันปล่อยสัตส์ประหลาดออกมา และฉันก็ได้บอกเรื่องนี้ให้กับเจ้าหนุ่มนี้รู้ตั้งแต่แรกแล้ว!"

           "ฉันเองตอนแรกก็คิดที่จะกำจัดไนท์แมร์ทันที แต่ว่าคุณปู่ก็ให้เงื่อนไขว่าต้องทำสวนนี้และหาความหมายของสิ่งที่เขาต้องการจะบอกให้ได้ก่อน เขาถึงจะยอมให้ทำแบบนั้นน่ะ" จุนอิจิอธิบาย

           "แล้วตอนนี้เข้าใจสิ่งที่ฉันต้องการจะบอกรึยังล่ะ เจ้าหนุ่ม!?" คุณปู่ถาม

           "ก็พอจะเข้าใจขึ้นมาสักหน่อยแล้วล่ะครับ.." จุนอิจิหันกลับไปหาคุณปู่ของจิซาโตะ "เพราะเห็นทั้งสองคนทะเลาะกัน และพอมาทบทวนเรื่องต่างๆดูแล้วถึงได้เข้าใจ...สิ่งที่คุณปู่พยายามจะบอกคือการให้รู้สึกผ่อนคลายกับเวลาบ้างสินะครับ!"

           "ถูกต้อง แล้วเข้าใจได้ยังไงล่ะ ?" คุณปู่ถามเหตุผล

           "จริงอยู่ที่ชีวิตคนเรามันสั้น เราควรที่จะใช้เวลาทุกวินาทีให้มีค่าที่สุดเพื่อจะทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ...แต่ว่าหากทำแบบนั้นมนุษย์เราก็คงที่จะต้องเดินอยู่บนเส้นทางที่ไม่มีการหยุดพัก คนเราควรจะมีเวลาที่จะเปลี่ยนไปคิดเรื่องอื่นเพื่อพักผ่อนเรื่องนั้นไว้บ้างไม่ใช่เอาแต่หมกหมุ่น ไม่เช่นนั้นมันจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดีสินะครับ" จุนอิจิตอบตามสิ่งที่เขาคิด

           "เจ้าเก่งกว่าที่คิดไว้จริงๆนะ" ปู่ของจิซาโตะค่อยนั่งลง แล้วจิซาโตะก็มาอยู่ข้างๆเขา "เข้าใจแล้วฉันจะยอมปล่อยให้มันออกมา..พวกเธอช่วยจัดการมันให้ทีนะ!" ปู่ค่อยๆล้มตัวนอนลงแล้วหลับลงไปจากนั้นไนท์แมร์คาเมะระดับสามที่มีขนาดใหญ่เทียบได้กับบ้านก็ปรากฏออกมา มันบินสูงขึ้นแล้วพุ่งตรงเข้าไปในสวนสาธารณะข้างๆ

           "เซนะ ฝากดูแลคุณปู่ด้วยนะ!" โคดากะพูดกับหญิงสาวก่อนที่เขาจะวิ่งไป "แปลงร่าง!!"


    COMPLETE

           จุนอิจิสวมไดร์เวแร์แล้วใส่เมดัลลงไปสามเหรียญ จากนั้นเขาก็วิ่งตรงเข้าไปพร้อมกับสแกนไดร์เวอร์ "แปลงร่าง!!"

    GUWATAKA

    KUJAKU

    BATTA

    GATAJABA



    สถานที่แห่งหนึ่งที่ไม่ทราบแหล่ง  เวลา ??.?? น.

           เด็กผู้หญิงได้ฉายภาพที่มาสค์ไรเดอร์โอสกับไฟซ์เข้าต่อสู้กับไนท์แมร์คาเมะขนาดยักษ์ การโจมตีของพวกเขาไม่อาจที่จะระคายผิวกระดองมันได้เลย ทั้งสองต่างถูกสายฟ้าที่ปล่อยออกมาจากของมันโจมตีกระเด็นออกมา และถูกกระดองระเบิดจำนวนมากเล่นงานอย่างต่อเนื่อง

           "แบบนี้พวกทาจิบานะคุงก็ไม่สามารถชนะได้เลยน่ะสิ...จะทำยังไงดีล่ะ!?" สึคาสะหันไปถามเด็กผู้หญิง

           "เรื่องที่จะชนะน่ะมันยังมีวิธีอยู่นะ" หญิงสาวพูดขึ้นทำให้สึคาสะเมื่อเห็นความหวังขึ้นมา "วิธีนั้นคือการใช้คอมโบเท่านั้น!"

           "คอมโบ ?" สึคาสะไม่เข้าใจ

           "โอสน่ะ ที่ผ่านมายังไม่เคยที่จะใช้เมดัลชนิดเดียวกันทั้งสามเหรียญเลยสินะ แต่ว่าถ้าเขาใช้คอมโบเมื่อไหร่ล่ะก็พลังของโอสก็จะถูกปลดปล่อยออกมาอย่างเต็มที่ที่สุด จนเกิดเป็นพลังที่แข็งแกร่ง นั่นล่ะที่เรียกว่าคอมโบ!" เด็กผู้หญิงอธิบาย

           สึคาสะมองไปที่เหรียญเมดัลคามาคิริที่เธอเก็บได้ "ถ้าให้ทาจิบานะคุงใช้เมดัลนี้ ก็อาจจะชนะก็ได้สินะ"

           "แต่ว่าก็ระวังไว้ด้วยล่ะ เพราะพลังของคอมโบน่ะ คนที่ใช้เป็นครั้งแรกๆจะยังไม่คุ้นชินกับพลังที่ว่านั่น จนอาจที่จะทำให้คนผู้นั้นถึงกับรับภาระหนักจนเกิดไปก็ได้ ดังนั้นก็ช่วยเตือนเขาให้ใช้ให้ระวังด้วยละกันนะ!" ร่างของเด็กผู้หญิงเรืองแสง "ท่าทางจะหมดเวลาซะแล้วสิ ถ้าอย่างงั้นก้ไว้เจอกันใหม่นะ บายๆ!"

           พอรู้สึกตัวอีกทีสึคาสะก็กลับมาอยู่ที่บ้านของจิซาโตะแล้ว เธอยังคงงุนงงกับการกลับมาของเธอแต่ว่าตอนนี้เธอก็รู้ว่าเธอมีหน้าที่สำคัญที่ต้องไปทำก่อนซึ่งนั่นก็คือการส่งเมดัลไปให้กับจุนอิจิ "รอก่แนนะ ทาจิบานะคุง!"



    สวนสาธารณะเอเรีย 2  เวลา 08.45 น.

           โอสใส่เมดัลลงไปที่ทาจาสปินเนอร์ที่เป็นโล่ของเขาแล้วเขาก็ใช้เครื่องสแกนมาสแกนเมดัลตรงจุดนั้น "เอาล่ะนะ!!"

    TAKA TORA BATTA GI GI GI GIGASCAN

           "เซ...ย่าส์!!" โอสยิงลูกไฟกระสุนเมดัลออกไปใส่ไนท์แมร์ขนาดยักษ์แต่ก็ไม่อาจจะทำอะไรมันได้เลย ซ้ำเขายังถูกลำแสงสายฟ้าของมันโจมตีสวนกลับมาจนล้มลง "พลังอะไรจะขนาดนี้เนี่ย!?"

           ไฟซ์ยิงปืนใส่ไนท์แมร์แต่ก็ทำอะไรมันไม่ได้เช่นกันและถูกปล่อยห่าฝนกระดองระเบิดโจมตีใส่จนเขาอยู่ในสภาพเสียเปรียบ "ถ้าปล่อยไว้อีกนานล่ะก็ พวกเราแย่แน่ๆ!"

           "ทาจิบานะคุงใช้เมดัลนี้สิ!!" สึคาสะโยนคามาคิริเมดัลให้กับจุนอิจิ ซึ่งเขาก็รับไว้ตามนั้น "ลองใช้พลังของเมดัลชนิดเดียวกันดูสิ มันจะช่วยปลดปล่อยพลังที่แท้จริงออกมา!!"

           "ก็ไม่เข้าใจหรอกนะ แต่ว่าจะลองดูละกัน!" โอสเปลี่ยนคุจากุเมดัลส่วนตรงกลางออกแล้วใส่คามาคิริเมดัลลงไปแทนที่ จากนั้นก็ทำการสแกนไดร์เวอร์ 


    GUWATAKA

    KAMAKIRI

    BATTA

    GATA GATA GATAKIRIBA GATAKIRIBA

           มาสค์ไรเดอร์โอสได้เปลี่ยนไปใช้ร่างแห่งพลังคอมโบโดยสมบูรณ์ "ว้ากกก!!!" เขาคำรามออกมาแล้วคลื่นแรงกระแทกก็ถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างของเขา ขนาดนั้นไฟซ์ยังเกือบกระเด็น "พลัง...พลังมากมายไปทั่วร่างเลย...." เขากำหมัดทั้งสองมือแล้วมองขึ้นไปที่ไนท์แมร์ "ฉันจะ...จัดการนายเอง!"

           "อ่าาา!!" ไนท์แมร์โจมตีด้วยการปล่อยลำแสงสายฟ้าโจมีอีกครั้ง แต่คราวนี้โอสกระโดดหลบมาด้านข้าง เขาวิ่งตรงเข้าไป ทันใดนั้นโอสก็แยกร่างออกเป็นหลายๆคนวิ่งตรงเข้าหาไนท์แมร์ขนาดใหญ่

           "ฮ่าส์!!" โอสทั้งหลายกระโดดเตะใส่ไนท์แมร์พร้อมกันมันจึงบินลงมา โอสอีกจำนวนนึงเข้าไปอยู่ใต้ล่างมันแล้วปล่อยสายฟ้าโจมตีไนท์แมร์จากข้างใต้ อีกกลุ่มหนึ่งก็กระโดดเข้าไปใช้คามาคิริเบลดฟันโจมตีใส่มัน

           "อ่าาาา!!!" ไนท์แมร์ปล่อยกระดองเต่าโจมตีไปทั่วบริเวณ โอสร่างแยกทำการกระโดดเข้าหากระดองเหล่านั้นแล้วระเบิดไปพร้อมกัน ส่วนโอสตัวจริงกับร่างแยกอีกยี่สิบกว่าคนกระโดดถอยออกมา

           "เอาล่ะนะ จัดการให้เสร็จภายในครั้งเดียว!!" โอสสแกนไดร์เวอร์


    SCANNING CHARGESCANNING CHARGESCANNING CHARGESCANNING CHARGE

           "ฮ่าส์...!!" โอสทั้งหลายกระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกันแล้วพุ่งลงมาเตะใส่ ไนท์แมร์เทอเทิลขนาดยักษ์พร้อมกัน "เซ...ย่าส์!!/เซ...ย่าส์!!/เซ...ย่าส์!!/เซ...ย่าส์!!/เซ...ย่าส์!!/เซ...ย่าส์!!/เซ...ย่าส์!!/เซ...ย่าส์!!/เซ...ย่าส์!!เซ...ย่าส์!!/เซ...ย่าส์!!/เซ...ย่าส์!!/เซ...ย่าส์!!/เซ...ย่าส์!!/เซ...ย่าส์!!/เซ...ย่าส์!!/เซ...ย่าส์!!/" ด้วยพลังของทั้งหมดทำให้ไนท์แมร์คาเมะระเบิดบนท้องฟ้าถูกทำลายไป

    บรึ้มมม!!!!

           เซนะเห็นแรงระเบิดมาจาดแต่ไกลเธอก็พอที่จะรู้แล้วว่าพวกมาสค์ไรเดอร์เอาชนะได้แล้ว เธอจึงหยิบอัญมณีแห่งแสงที่เธอมีอยู่มาแตะที่หน้าผากของคุณปู่ของจิซาโตะแล้วก็ทำลายตราสัญลักษณ์นั้นไป "เอาล่ะ Game Over สินะ!"


           ทางด้านโอสก็กระโดดลงมาจากแรงระเบิดนั้นมาอยู่ตรงหน้าสึคาสะ เขาปลดการแปลงร่างกลับคืนเป็นร่างมนุษย์ "ผะ..ผมกลับคืนร่างแล้วรึยัง...แบบว่ากลับเป็นเหลือคนเดียวน่ะ ?" จุนอิจิทำท่าจะล้มลงแต่โคดากะเข้ามาพยุงไว้ได้ทัน "ฮาเซงาวะ ?"

           "เล่นเอาบทเด่นไปเล่นคนเดียวเลยนะ..คราวหน้าขอใช้หนี้นี้คืนด้วยล่ะ!" โคดากะพูด

           "อา...แต่ไว้คราวหน้าละกันนะ!" จุนอิจิตอบตกลง

           จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ในที่สุดคุณปู่ของคุณจิซาโตะก็ยอมไปบ้านพักคนชราตามที่จิซาโตะขอร้อง โดยที่เธอสัญญาว่าจะไปเยี่ยมเขาทุกว้นเท่าที่เธอจะสามารถทำได้ เธอยังรวมทำงานพิเศษอยู่ที่ศูนย์พักแห่งนี้เพื่อคอยช่วยเหลือผู้คน เรื่องในครั้งนี้ที่จบลงได้อย่างสวยงามพวกโกโดก็ทราบข่าวแล้ว เซนะไม่พอใจเล็กน้อยที่พวกจุนอิจิมัวแต่ไปช่วยคนอื่นไม่ยอมออกตามหาไนท์แมร์แต่โคดากะก็ช่วยพูดจนเธอยอมเข้าใจ และครอบครัวของจิซาโตะก็สามารถกลับมารักกันสามัคคีกันได้เช่นเดิม แต่ก็ยังมีปัญหาบางอย่างอยู่ล่ะนะ

    .
    .
    .
    .


    ห้องเรียน ม.4 ห้อง F  เวลา 14.30 น.

          เวลาเรียนของวันอันแสนเหนื่อยของจุนอิจิได้หมดลง จุนอิจิกำลังจะสะพายกระเป๋าเพื่อที่จะกลับไปที่หอพักของเขาแต่ก่อนหน้านั้นเขาก็สังเกตเห็นสึคาสะ เขาจึงเข้าไปถามบางอย่าง "คุณอายาสึจิต้องขอขอบคุณเกี่ยวกับเรื่องเมื่อเช้ามากเลยนะ ถ้าไม่ได้คุณอายาสึจิอาจจะชนะมันไม่ได้ก็ได้!"

           "ฉันเองก็ยังไม่ได้ทำอะไรหรอกค่ะ แค่บอกในสิ่งที่เพิ่งรู้มาเพียงเท่าั้นเอง!" สึคาสะตอบ

           "สิ่งที่เพิ่งรู้มา ?" จุนอิจิติดใจกับคำพูดนี้ของสึคาสะ "หมายความว่าไงเหรอครับ ไปรู้มาจากใคร ?"

           "เรื่องนั้นคงจะบอกไม่ได้หรอกค่ะ...ผู้หญิงน่ะ หากไม่มีความลับสักสองสามเรื่องล่ะก็ก็ไม่ใช่สตรีแท้หรอกค่ะ" สึคาสะพูดคำเปรียบเปรยก่อนที่เธอจะยกกระเป๋าของเธอขึ้นแล้วเดินออกไป

           "ก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ!" จุนอิจิยอมรอเวลาที่สึคาสะจะเป็นฝ่ายมาบอกเขาเอง เขาเดินออกจากห้องเรียนนี้ไป....



    ก่อนหน้านี้ ณ สถานที่แห่งหนึ่งที่ไม่ทราบแหล่ง  เวลา ??.?? น.

           "ช่วยตัดสินใจด้วยค่ะ เพราะว่าฉันอาจจะไม่เปลือพลังพอที่จะคงคุณไว้ในโลกนี้ได้นานแล้ว หากจะพบกันเราคงพบกันอีกในอีกหลายเดือนข้างหน้านะคะ!" เด็กผู้หญิงเร่งเร้า

           "ฉัน..ฉัน..." สึคาสะตัดสินใจอย่างยากลำบาก และในที่สุดเธอก็ตัดสินใจและตอบไปว่า "ฉัน..จะไม่เป็นคนหยุดเขาค่ะ!!"

           "ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วใครจะเป็นคนหยุดความบ้าคลั่งของเขาล่ะคะ ?" เด็กผู้หญิงถาม

           "คนที่จะหยุดทาจิบานะคุงนั้นไม่ใช่ฉัน แต่ว่าเป็นทุกๆคน" สึคาสะเชื่อมั่นในมิตรภาพของคนหลายคนที่เธอเคยพบเจอมา "หากว่าเขากลายเป็นปิศาจที่ทำลายโลกล่ะก็ พวกเราก็จะเป็นคนหบุดเขาและพาเขากลับมาให้จงได้ ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม!"

           "พี่สาวเชื่อมั่นในตัวพี่ชายทาจิบานะ จุนอิจิอย่างงั้นเรอะคะ ?" เด็กผู้หญิงถาม

           สึคาสะส่งสายตาด้วยความมั่นใจและตอบไปว่า "ฉันเชื่อมั่นในตัวเขา...ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันเชื่อว่าเขาจะไม่มีทางที่จะกลายเป็นปิศาจอย่างแน่นอน!"



    .................... TO BE CONTINUE ....................










    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×