ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    P:FMR NM

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 4 วิหคไร้ปีกและสายลมที่พัดผ่าน

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.ค. 56


    สนามวิ่งแข่งของโรงเรียน SMART BRAIN  เวลา 06.34 น.

           เนื่องจากวันแข่งขันวิ่งแข่งระดับเขตกำลังระเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ชมรมกรีฑาที่ถือว่าเป็นตัวเก็งที่มีเปอร์เซ็นคนที่จะสามารถแข่งชนะได้สูงที่สุดทุกคนจึงพยายามฝึกซ้อมกันอย่างเต็มที่ เพราะว่ากันว่าใครก็ตามที่สามารถเอาชนะรายการวิ่งสุดโหดของโรงเรียนแห่งนี้ได้ ก็จะได้รับเงินรางวัลและเกียรติยศที่ยิ่งใหญ่เกินใครหากว่าอยากดังการแข่งขันวิ่งของโรงเรียน SMART BRAIN ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีมากๆ คนหลายคนจึงพยายามกันอย่างเอาเป็นเอาตายตามประสาลูกของคนที่มีตังค์ แต่ว่าสำหรับโรงเรียนนี้มีเงินเพียงอย่างเดียวมันไม่เพียงพอแต่จะต้องมีความสามารถเพื่อเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า โรงเรียนคุณหนูก็ไม่ได้กระจอกน้อยหน้าไปกว่าใคร

           "เร็วหน่อยสิเจ้าพวกเยาะแหยะ ถ้ามีน้ำยาแค่นี้อย่าหวังว่าจะชนะเลยแค่เด็กอนุบาลพวกแกก็ยังชนะไม่ได้เลยด้วยซ้ำ" ครูฝึกสุดโหดที่กำลังยืนตวาดใส่เหล่านักกีฬาเพื่อให้พวกเขามีแรงใจมากขึ้น แต่สายตาของครูฝึกคนนี้จริงๆแล้วเขาก็จับตามองบุคคลที่กำลังนำเป็นที่หนึ่งกับที่สองอยู่ตอนนี้ "วันนี้อาคาเนะกับโทริก็ยังทำได้ดีสินะ!"

           อาคาเนะกับโทริเป็นเพื่อนร่วมชั้น ม.5 ห้องเดียวกัน แต่พวกเธอทั้งสองคนเปรียบเสมือนเป็นคู่แข่งกันอยู่ตลอดเวลาทั้งเรื่องเรียน เรื่องความรักหรือเรื่องการวิ่งแข่ง พวกเธอทั้งสองคนต่างไม่ยอมให้กันและกัน พยายามที่จะเอาชนะกันอยู่ตลอดเวลา แต่ว่าไม่ว่าเรื่องไหนๆ อาคาเนะก็จะเป็นผู้ชนะเสมอ ส่วนโทริจะเป็นที่สองไม่เคยเอาชนะอาคาเนะได้แม้แต่ครั้งเดียว แม้แต่ตอนที่กำลังวิ่งแข่งอยู่นี้เธอก็ค่อยๆถูกทิ้งห่างไปเรื่อยๆ

           "เป็นอะไรไปโทริ เธอมีฝีมือแค่นี้เองเรอะแบบนี้อย่ามาแข่งให้เหนื่อยเลยดีกว่านะ" อาคาเนะหันกลับมาเยาะเย้ยโทริ แล้วเธอก็รีบวิ่งนำเธอไปอีก

          "นังนี่ คอยดูเถอะแล้วเธอจะต้องเจอดี!" โทริโกรธมากที่ผู้หญิงที่นำหน้าเธออยู่นี่มาเยาะเย้ยเธอ เธอจึงวิ่งอย่างสุดกำลังจนสามารถเข้ามาเทียบเท่ากับอาคาเนะได้ "ฉันจะทำให้เธอแพ้เดี๋ยวนี้ ยัยบ้า!"

           "เอ๋!?" อาคาเนะไม่ทันตั้งตัวเธอจึงถูกโทริสกัดขาทำให้เธอสะดุดล้มลง บวกด้วยความเร็วของเธอที่กำลังวิ่งอยู่นั้นทำให้เธอล้มลงอย่างรุนแรง

           "ยัยเซ่อ ฉันขอเป็นผู้ชนะบ้างล่ะนะ!!" โทริเปลี่ยนมาเป็นผู้เยาะเย้ยอาคาเนะ แล้วเธอก็เร่งฝีเท้าวิ่งนำเธอไป
     
           "หนอย...ยัยจิ้งจอก ฉันจะเอาคืนให้สาสมเลย!!" อาคาเนะลุกกลับขึ้นมาแล้วพยายามจะวิ่งต่อแต่ในตอนนั้นขาของเธอก็เกิดปวดขึ้นมาแบบฉับพลัน ทำให้เธอล้มลงอีกครั้งและอาการเจ็บนั้นก็ร้ายแรงมากจนเธอแทบจะขยับขาไม่ได้ "ขะ..ขาฉัน..." 

           เพื่อนนักเรียนร่วมชมรมเดียวกันวิ่งมาถึงอาคาเนะเขาก็รีบเข้ามาดูอาการของเธอก่อนทันที "คุณอาคาเนะเป็นอะไรรึเปล่า เจ็บขาเรอะ..เดี๋ยวผมขอดูหน่อย" ชายหนุ่มดูขาของอาคาเนะพบว่าเป็นรอยช้ำสีแดงที่ท่าทางเป้นอาการที่หนักมาก "แย่แล้วแบบนี้...อาจารย์ครับ!!"

           ครูฝึกรีบวิ่งเข้ามาตามเสียงเรียกของนักเรียนชายและก็เห็นสภาพของอาคาเนะที่ท่าทางกำลังเจ็บปวดอยู่ "มีอะไรเกิดอะไรขึ้น อาคาเนะเป็นอะไรไป!?"

           "เธอเจ็บขาครับ ต้องรีบพาไปห้องพยาบาลแล้วนะครับ!" เด็กนักเรียนชายบอกแบบร้อนรน

           "ไม่..ฉันจะ..วิ่งต่อ.." อาคาเนะพยายามฝืนที่จะลุกขึ้นแต่เธอก็ไม่สามารถลุกขึ้นได้ เพราะอาการบาดเจ็บของเธอมันรุนแรงเกินกว่าที่จะใช้ใจเอาชนะได้ "ขยับสิ..ขยับสิ.."

           "อย่าฝืนเลยน่า ถ้าเป็นอะไรหักกว่านี้มันจะแย่เอา" ครูฝึกเตือนอาคาเนะด้วยความหวังดี "ก่อนอื่นก็ต้องตามทางโรงพยาบาลมาก่อน เธอน่ะไปโทรศัพท์หาโรงพยาบาลเดี๋ยวครูจะปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้อาคาเนะก่อน!"

           "ครับ!" เด็กนักเรียนชายทำตามที่ครูฝึกบอก เขารีบไปโทรหาโรงพยาบาลแล้วไม่นานนักรถพยาบาลก็มาถึงและพาหญิงสาวที่ได้รับบาดเจ็บผู้นี้ขึ้นแปลแล้วส่งเข้ารถมุ่งหน้าไปยังโรงะยาบาลในโรงเรียนทันที

           "บะ..บ้าที่สุด!!" อาคาเนะร้องไห้อย่างเจ็บแค้นระหว่างที่เธอกำลังถูกหาบขึ้นไปบนรถ โดยที่มีโทริคอยมองอยู่ห่างๆและยังแสยะยิ้มในชัยชนะของตนที่สามารถกำจัดคู่แข่งตลอดกาลของเธอลงไปได้ และในที่สุดในตอนนี้เธอก็จะกลายเป็นดาวเด่นเพียงคนเดียว....


    โรงพยาบาล SMART BRAIN  เวลา 06.56 น.

           ที่โรงพยาบาลครูฝึกนั่งรอฟังผลการตรวจสภาพขาของอาคาเนะอย่างใจจดใจจ่อแต่ว่าเมื่อหมอออกมาแล้ว เขากลับต้องได้รับข่าวร้ายเกี่ยวกับเธอ ซึ่งก็คือเธอจะไม่สามารถลงแข่งวิ่งได้อีกเป็นเวลาสามปีเพราะเราอาจจะสามารถรักษาขาของเธอได้ด้วยการปลูกถ่ายเซลล์ด้วยวิทยาการใหม่ล่าสุด แต่ว่าสิ่งนั้นก็ต้องใช้เวลาในการที่ผิวหนังจะสามารถกลับเป็นเหมือนเดิมได้ และขาของเธอไม่ได้เจ็บเพียงแค่ภายนอกเท่านั้นแต่มันได้เสียหายไปทั้งหมด ทั้งเส้นเสือด ทั้งกระดูก ทำให้ต้องใช้เวลานานถึงจะสามารถรักษาให้หายได้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นข่าวร้ายมากที่สุดสำหรับอาคาเนะเพราะเธอเองมีความฝันที่จะลงแข่งการแข่งวิ่งมาราธอนที่กำลังจะถึงนี้ แต่บัดนี้ฝันของเธอก็ได้ดับลงแล้ว....

           อาคาเนะนอนร้องไห้อยู่ในห้องผู้ป่วยเธอรู้สึกแค้นและเจ็บใจมากที่เธอต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้ และเรื่องในครั้งนี้ก็ทำมห้เธอนึกถึงคนที่ทำให้เธอเป็นเช่นนี้ได้อย่างไม่มีทางลืมเลือน "โทริ..ยัยหมูโสโครก ยัยจิ้งจอก ฉันอยากจะทำให้ชีวิตของเธอล้มจมเหมืนกับฉัน...!!"

           แต่ถึงแม้เธอจะแค้นโทริเพียงมากแค่ไหนสิ่งที่เธอต้องการที่สุดในตอนนี้กลับไม่ใช่การแก้แค้น อาคาเนะมองไปที่ขาของเธอที่แดงเป็นสีเลือดและเริ่มหลั่งรินน้ำตาด้วยความเศร้าโศก "ฉัน...อยากวิ่ง....อยากวิ่งอีกครั้ง!"

          "อาหะ ถ้าอย่างงั้นฉันจะช่วยให้คำปรารถนานั่นเป็นจริงให้ก็ได้นะ!" เสียงของผู้หญิงลึกลับดังขึ้นมาจากที่ไหนสักแห่ง ซึ่งอาคาเนะก้ต้องตกใจและแปลกใจกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เพราะในห้องนี้ไม่มีใครอื่นนอกจากเธอเพียงคนเดียว เธอพยายามมองไปรอบๆแต่ก็ไม่พบเจอใคร

           "ฉันอยู่ทางนี้ เธออาจจะมองไม่เห็นฉันเพราะตอนนี้ฉันหายตัวอยู่น่ะ เดี๋ยวจะปรากฏร่างเดี๋ยวนี้ล่ะนะ!" เงามืดตรงหน้าอาคาริปรากฏออกมาแล้วค่อยเผยร่างของหญิงสาวใส่เกราะสีดำ ตรงหน้าเธอ "สวัสดีจ้ะ!" เธอโบกมือทักทายแบบเป็นมิตร 

           อาคาเนะตาค้างเมื่อเห็นผู้หญิงประหลาดปรากฏตัวขึ้นมาในห้องผู้ป่วยของเธอด้วยวิธีประหลาด "ธะ...เธอเป็นใคร...เป็นวิญญาณอย่างงั้นเรอะ หรือว่าเป็นปิศาจ!?" 

           ผู้หญิงเกราะสีดำชูนิ้วชี้ขึ้นแล้วส่ายไปมา "ไม่ใช่จ้ะ..ไม่ใช่ ฉันเป็นหนึ่งในจตุรเทพแห่งความฝัน มีชื่อว่าแพนตาซอสจ้ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะ!" เธอแนะนำตัวพร้อมรอยยิ้มที่ดูเป็นมิตรและเป็นกันเอง "เอาเป็นว่ามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่านะ ฉันสามารถทำให้สิ่งที่เธอต้องการเป็นจริงได้...เธอสนใจมั้ย ?"

           หญิงสาวได้ยินแบบนั้นตาก็ลุกวาวทันที "จริงเหรอคะ คุณสามารถทำให้ขาของฉันหายได้เหรอคะ แล้วแบบนี้คุณต้องการอะไรจากฉันเหรอคะ ถ้าเ็นสิ่งที่สามารถทำได้ฉันก็ยินดีตอบแทนคุณทุกอย่างเลย!"

           "ไม่ต้องหรอกจ้ะ ของตอบแทนฉันน่ะได้มาอยู่แล้วหลังจากที่ช่วยเธอน่ะ" แพนตาซอสบอกกับอาคาเนะ แล้วหล่อนก็สร้างวงเวทย์สีดำขึ้นมา "เอาล่ะจ้ะ เป็นอันว่าตกลงสินะ ถ้าอย่างงั้นก็ขอให้มีความสุขนะ!" เธอค่อยส่งตราประทับไปที่หน้าผากของอาคาเนะแล้วหญิงสาวนักกรีฑาก็สลบลงไปพร้อมกับมีออร่าสีดำที่มีลักษณะคล้ายกับนกปรากฏขึ้นมาชั่วพริบตานึงก่อนที่มันจะหายไป แล้วแพนตาซอสก็หายไปพร้อมกับเงามืด

           ต่อมาไม่นานนักอาคาเนะก็ฟื้นขึ้นมาซึ่งเธอไม่อาจจำเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อก่อนหน้านี้ได้ แล้วก็พบครูฝึกที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอพร้อมกับสีหน้าที่ไม่ดีนักเหมือนกับว่าจะมาบอกข่าวร้ายกับเธอ ซึ่งทำให้เธอรู้คำตอบของครูฝึกดีแล้ว "ครูฝึกไม่ต้องบอกหรอกค่ะ หนูทราบดีว่าขาหนูไม่อาจจะเดินได้อีกแล้ว เพราะอาการเจ็บ...!!"

           สิ่งผิดปกติเกิดขึ้นเมื่อหญิงสาวขยับขาตัวเองแล้วพบว่าไม่มีอาการบาดเจ็บหรืออะไรใดๆทั้งสิ้น และเธอก็ยังสามารถลุกขึ้นยืนและกระโดดโลดเต้นได้ตามปกติสร้างความประหลาดใจให้กับครูฝึกเป็นอย่างมาก "ฉันหายแล้วเป็นไปได้ยังไงเนี่ย!?" เธอดีใจมาก ซึ่งครูฝึกเองก้ดีใจไปด้วยกับสภาพของเธอที่กลับมาเป็นปกติ พวกเขารีบออกไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายอีกทีเพื่อความแน่ใจและผลก็ออกมาว่ขาของเธอได้กลับเป็นปกติแล้ว หญิงสาวที่เริงร่าออกมาจากโรงพยาบาลด้วยความสุขที่เต็มเปี่ยม

           "หึๆๆ" เสียงหัวเราะของหญิงสาวเกราะสีดำที่กำลังนั่งมองเธออยู่บนชั้นดาดฟ้าของโรงพยาบาล สีหน้าของเธอในตอนนี้ต่างจากตอนก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง เธอกำลังยิ้มและหัวเราะกับบางสิ่งบางอย่างที่เธอได้ทำลงไป "เอาล่ะ ฉันขอดูความฝันของเธอหน่อยนะ..."  ด้านหลังของแพนตาซอสปรากฏเงาของปิศาจนกตัวนึงที่มีลักษณะคล้ายกับตัวที่ปรากฏอยู่ในออร่าของอาคาเนะ และบัดนี้ไนท์แมร์ก้ได้เวลาเคลื่อนไหวอีกครั้ง....

    .
    .
    .
    .


    โรงเรียน SMART BRAIN  เวลา 07.23 น.

           โอริมูระ อิจิกะและชาร์ล ดูนัวร์ชายหญิงผู้เป็นมาสค์ไรเดอร์ดับเบิ้ลผู้ที่เป็นสองคนภายในคนๆเดียว กำลังเดินจากหอพักชายของพวกเขาไปยังโรงเรียนตามปกติ ไม่มีอะไรผิดปกติแต่แล้วก็มีสิ่งที่ไม่คุนตาขับผ่านพวกเขาไปซึ่งนั่นก็คือรถลีมูซีนสุดหรูที่ตามปกติจะไม่เคยปรากฏออกมาให้เห็นเช่นนี้มาก่อน

           
    ชาร์ลเกิดความสงสัยจึงถามชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆเธอ "อิจิกะ วันนี้จะมีดาราหรืออะไรมาเหรอ ตามปกติไม่เคยเห็นจะมีรถคันนั้นแล่นผ่านทางนี้มาก่อนเลยนะ.." 

           "นั่นสิ ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันแต่ว่าถ้าไม่มีอะไรยุ่งยากเกิดขึ้นก็คงจะดีล่ะนะ!" อิจิกะตอบและพวกเขาทั้งสองก็เดินไปจนถึงโรงเรียนของตน ซึ่งก้ต้องมาพบกับรถลีมูซีนคันนั้นมาจอดอยู่ที่หน้าโรงเรียนของพวกเขา 

           ประตูรถลีมูซีนเปิดออกแล้วพรมแดงผืนยาวก็ไหลออกมากลายเป็นทางเดินยาว ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับนักเรียนที่อยู่โดยล้อมเป็นอย่างมาก แล้วสักพักหนึ่งก็มีชายหนุ่มในชุดสีขาวลงมาจากรถด้วยท่าทีเย่อหยิ่งในศักดิ์ของเขาตามปะสาคนรวย "ในที่สุดวันที่ฉันจะได้มาเป็นนักเรียนของโรงเรียนแห่งนี้ก็มาถึงแล้วสินะ!"


           พ่อบ้านชราลงมาจากรถพร้อมกับโปรยดอกุหลาบให้กับเขา พร้อมกับยังมีชายใส่ชุดสูทจำนวนนึงเข้ามาโค้งคำนับเขาเป็นทางยาวจนไปถึงโรงเรียน "ขอต้อนรับนายน้อยคามิชิโร่ ซุรุกิ!" เหล่าพ่อบ้านของเขาพูดกันอย่างพร้อมเพรียง

           "พวกอวดรวยอย่างงั้นเรอะ ไปกันเถอะชาร์ลไม่มีอะไรน่าสนใจหรอก!" อิจิกะทำท่าทีเบื่อหน่ายแล้วเลือกที่จะเดินออกไป

           "อะ..อืม!" ชาร์ลพยักหน้า พร้อมกับเดินตามชายหนุ่มเพื่อที่จะเข้าไปในโรงเรียน

           แต่ในตอนนั้นเองระหว่างที่ชาร์ลกับอิจิกะกำลังเดินด้วยกันอยู่นั้น ซุรุกิก็บังเอิญหันไปมองเข้าและก็เกิดอาการรักแรกพบกับหญิงสาวในเครื่องแบบผู้ชายผู้มีผมสีบลอนด์ทันที "ชะตาฟ้าลิขิตสินะ...ทุกๆคนตามฉันมา..." เขาสั่ง

           "ครับ นายน้อย!!" เหล่าพ่อบ้านทำตามคำสั่งของซุรุกิแล้วเข้าล้อมอิจิกะและชาร์ลไว้ทุกทาง

           ซึ่่งนั่นสร้างความงงงวยและความไม่พอใจให้กับอิจิกะเป็นอย่างมาก "เดี๋ยวสิ พวกนายจะมาขวางพวกเราทำไมเนี่ย!?" แต่ว่าไม่มีใครตอบคำถามของเขาและพาตัวอิจิกะออกไปอย่างรวดเร็ว "เห้ย เดี๋ยวสิ!!"

           "อิจิกะ!?" ชาร์ลจะตามอิจิกะไปแต่ก็ถูกเหล่าพ่อบ้านขวางไว้ แล้วก็มีช่อดอกกุหลาบซึ่งมาจากซุรุกิที่นั่งคุกเข่าอยู่ด้านหลังยื่นให้กับเธอ "อะ...เอ๋ ?"

           "ผมไม่เคยพบสตรีที่สง่างามเช่นคุณมาก่อนเลย โปรดรับช่อดอกไม้แห่งความรักของผมและพวกเราก็ออกไปฮันนีมูนกันที่ฝรั่งเศสกันเถอะครับ!" ซุรุกิพูดชักชวนชาร์ลด้วยน้ำเสียงที่หล่อเหลาหวังว่าจะสามารถทำให้เธอชอบได้

           "เออ..คือว่าผมเป็นคนฝรั่งเศสน่ะครับ แล้วก็ผมก็เป็น..." ชาร์ลพูดไม่ทันจบประโยคก็ถูกซุรุกิอุ้มขึ้น สายตาของชายหนุ่มจ้องมองมาที่เธอพร้อมกับยื่นดอกกุหลาบให้กับเธอ "คะ..คือว่า.."

           "ถึงแม้คุณจะเป็นคนฝรั่งเศสก็ไม่เป็นไร ผมขอเพียงแค่ได้อยู่กับคุณเพียงสองต่อสองภายใต้ค่ำคืนแห่งปารีส อันงดงามพร้อมกับกลิ่นของน้ำผึ้งและเหล่าบุปผาก็พอแล้ว" ซุรุกิร่ายเป็นกลอนซะจนนักเรียนบางคนถึงกับอยากจะอ้วก หรือบางคนก็ต่างสงสัยเพราะทุกคนเข้าใจว่าชาร์ลเป็นผู้ชายแล้วทำไมเขาถึงไปจีบผู้ชายเช่นนี้ "พวกเราไปกันเถอะนะครับ!"

           "เดี๋ยวสิ!!" อิจิกะตะโกนหยุดซุรุกิไว้ก่อนที่เขาจะพาชาร์ลขึ้นรถ แล้วเขาก็มายืนอยู่ตรงหน้าของชายหนุ่มผู้สูงศักดิ์ผู้นี้ "ปล่อยชาร์ลลงนะ เดี๋ยวอีกไม่นานพวกเราก็ต้องเข้าเรียนแล้ว ไม่มีเวลาไปฮันนีมูนอะไรของนายหรอก!"

           "เจ้าเป็นใครกันล่ะ และมีความสัมพันธ์อะไรกับเจ้าหญิงของข้า!" ซุรุกิถาม ให้โอกาสชยหนุ่มให้ได้ประกาศนามของเขา

           "ฉันชื่อโอริมูระ อิจิกะ สำหรับฉันชาร์ลเป็นคู่หูคนสำคัญไม่ยอมให้นายพาตัวไปหรอก!!" อิจิกะประกาศต่อหน้าซุรุกิ ทำให้เหล่าพ่อบ้านที่ได้ยินดังนั้นเข้ามารอบล้อมเขาไว้ "จะสู้อย่างงั้นเรอะ ได้สิเข้ามาเลย!" เหล่าพ่อบ้านจึงบุกเข้าไปตามคำท้าทายของชายหนุ่ม

           "หยุดก่อน!!" เสียงสั่งของซุรุกิทำให้เหล่าพ่อบ้านต้องหยุดชะงักแล้วเขาก็โยนสาส์นบางอย่างให้กับอิจิกะ ซึ่งเนื้อหาข้างในมีความหมายเป็นภาษาฝรั่งเศสทำให้อิจิกะอ่านไม่ออก "เรามาสู้กันด้วยกฏที่เท่าเทียมกัน เพื่อตัดสินว่าใครจะได้เจ้าหญิงคนนี้ไป ตกลงมั้ย!?"

           อิจิกะเก็บสาส์นที่เขาอ่านไม่ออกลงไปแล้วมองไปที่ซุรุกิด้วยสายตาที่ไม่ยอมแพ้ "ได้สิ ฉันรับคำท้าของนาย เรามาตัดสินกัน!"

           "เอ๋ ?...แล้วทำไมผมถึงกลายเป็นของพนันได้ล่ะครับ ?" ชาร์ลสงสัย สรุปคือผู้ชายทั้งสองต่างตกลงกันเองโดยที่เธอไม่ได้มีส่วนร่วมเลยแม้แต่น้อย ทำให้เธอรู้สึกเหนื่อยใจ "...เกิดเรื่องยุ่งอีกแล้วสินะ.."


    สนามประลองของโรงเรียน SMART BRAIN  เวลา 07.45 น.

           ท่ามกลางความสับสนของทุกฝ่ายในที่สุดการประลองดาบที่มีชาร์ลเป็นเดิมพัน ระหว่างโอริมูระ อิจิกะชายหนุ่มผู้เป็นคู่หูของเธอและยังเป็นผู้แปลงร่างเป็นมาสค์ไรเดอร์ดับเบิ้ลด้วยกัน ปะทะกับคามิชิโร่ ซุรุกิชายหนุ่มผู้มาจากตระกูลที่มั่งคั่งและเป็นผู้หลงรักชาร์ลตั้งแต่แรกพบ ซึ่งการประลองของทั้งสองได้ถูกจัดขึ้นที่ลานประลองของโรงเรียน โดยที่มีนักเรียนจำนวนมากต่างพากันมาจับตาดูการต่อสู้ครั้งนี้ ซึ่งก็มีอาจารย์เข้ามาดูแลความปลอดภัยด้วยเช่นกัน

           อากิฮิสะที่เพิ่งมาถึงโรงเรียนพอมาเห็นสภาพแบบนี้ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น "อะไรน่ะ อิจิกะกำลังจะสู้กับคนอื่นอย่างงั้นเรอะ!?" เขากวาดสายตาไปรอบๆแล้วเมื่อเห็นชาร์ลยืนอยู่ที่กลางสุดของผู้ชม เขาจึงรีบแทรกเหล่านักเรียนทั้งหลายเขาไปหาเธอทันที "ชาร์ลนี้มันเกิดอะไรขึ้นน่ะ ?"

           "คือว่าเรื่องมันยาวน่ะครับ..." ชาร์ลถึงกับคอตก เพราะเหตุผลของการเกิดเรื่องในครั้งนี้เกิดมาจากชายสองคนแย่งเธอเพียงคนเดียว


           "แต่ถึงยังไงก็เถอะ ฉันคิดว่าเจ้าลูกคนรวยนั้นมันไม่น่าจะสู้อิจิกะที่เป็นถึงมาสค์ไรเดอร์ได้หรอกนะ เจ้านั่นเลือกที่ตะมาสู้ผิดคนแล้ว!" อากิฮิสะเชื่อในฝีมือของอิจิกะมากจึงคิดว่าการประลองในครั้งนี้ อิจิกะน่าจะสามารถชนะได้โดยง่าย

           "ถ้าอย่างงั้นพวกเราก็มาเริ่มการประลองกันได้แล้วล่ะ!" ซุรุกิหยิบดาบสไตล์ตะวันตกออกมาจากกล่องไม้ชั้นดี แล้วแสดงลีลาท่าฟันดาบที่รวดเร็ว แล้วเล็งดาบไปที่คู่ต่อสู้ของเขา "เอาล่ะ ในฐานะที่นายยังไม่มีอาวุธ ฉันจะให้นายยืมใช้อาวุธของฉันก็ได้นะ!"

           "ใจกว้างดีนี่ แต่ว่าฉันก็มีอาวุธของฉันอยู่แล้วล่ะ!" อิจิกะเปิดผ้าที่พันดาบของเขาออกมา ลักษณะของดาบเล่มนี้เป็นเพียงแค่ดาบไม้ญี่ปุ่นธรรมดาๆที่ไม่มีอะไรพิเศษ "ฉันจะโค่นนายด้วยอาวุธนี้ล่ะ!"

           "ใจสู้ดีนี่....ถ้าอย่างงั้นเราก็มาเริ่มประลองกันได้!" ซุรุกิและอิจิกะไปยืนอยู่ที่กลางเวที ทั้งสองต่างตั้งท่าพร้อมที่จะบุกสายตาจับต้องไปที่คู่ต่อสู้ของตัวเอง 

           "ถ้าเช่นนั้นก็เริ่มได้!!" พ่อบ้านของซุรุกิสั่นกระดิ่งเสียง กริ๊งๆ แล้วสัญญาณการต่อสู้ก็เริ่มขึ้น

           "ฮ้ากกก!!!/ย้ากกก!!" อิจิกะและซุรุกิพุ่งเข้าปะทะกันทันที ด้วยแรงแขนของอิจิกะที่น่าจะสามารถเอาชนะแขนของพวกคนที่ไม่มีแรงได้สบายแต่กับไม่สามารถกดดันซุรุกิได้เลย และยังถูกสะท้อนออกแล้วตามด้วยการแทงเป็นจังหวะ

           "หึ่ม!!" อิจิกะเคลื่อนหลบหลีกการโจมตีของซุรุกิอย่างสุดความสามารถ การโจมตีของเขานั้นรวดเร็วจนทำเอาอิจิกะไม่สามารถที่จะโจมตีตอบโต้ได้ เพราะเพียงแค่ป้องกันก็ลำบากแล้ว แต่ในชั่วพริบตานั้นเองอิจิกะก็ใช้ดาบไม้รับการโจมตีของซุรุกิไว้ได้ "เคลื่อนแบบเดิมๆ..ฉันน่ะดูออกหมดแล้ว!"

          หนุ่มชาวญี่ปุ่นหมุนตัวฟันกระแทกหนุ่มผู้ดีจนเสียหลักแล้วฟาดดาบลงไป แต่ซุรุกิสามารถสไลด์ตัวหลบออกไปข้างหลังแล้วพุ่งกลับเข้ามาแทง อิจิกะจึงเบี่ยงตัวหลบออกข้างๆแล้วฟันสวนกลับไปแต่ก็ไม่สามารถโจมตีเขาโดนได้เลย "ไม่เลวนี่โอริมูระ อิจิกะถึงกับทำให้ฉันคนนี้จะต้องเอาจริงได้สินะ!"

           อากิฮิสะที่ได้ยินซุรุกิพูดเช่นนั้นก็ตกใจเป็นอย่างมาก "เดี๋ยวสิ เจ้านั่นยังไม่เอาจริงอีกเรอะ การเคลื่อนไหวระดับนั้นก็สูสีกับอิจิกะแล้วนะแล้วถ้าเป็นฝีมือที่จริงจะขนาดไหนล่ะเนี่ย!?" 

           อิจิกะตวัดดาบแล้วท้าทายซุรุกิ "ถ้าอย่างงั้นก็ดีน่ะสิ ฉันเองก็เบื่อที่จะสู้วอร์มอัพแล้ว เรามาเอาจริงกันได้แล้วล่ะ!"

           "ได้ตามคำขอนั้น!" ซุรุกิปลดทุ่นเหล็กที่อยู่ที่ข้อมือและข้อเท้าของเขาออก แล้วการเคลื่อนไหวของเขาก็รวดเร็วกว่าครั้งก่อนมาก "รับมือ!!" เขาพุ่งเข้ามาแล้วแทงเป็นจังหวะใส่อิจิกะอีกครั้งแต่คราวนี้มีความเร็วเพิ่มเป็นเท่าตัวจนอิจิกะถึงกับไม่สามารถกันได้ทัน 

           "แบบนีมันถึงจะสนุกหน่อย!" ชายหนุ่มทั้งๆที่อยู่ในสภาพเสียเปรียบแต่เขากลับยิ่งตื่นเต้นกับการประลองในครั้งนี้ อิจิกะเป็นฝ่ายรับการโจมตีของสุรุกิมาตลอดแต่พอเวลาผ่านไปเรื่อยๆ หนุ่มชาวญี่ปุ่นก็เริ่มมองการเคลื่อนไหวของเขาออก "ต่อไปเป็นตาฉันบ้างล่ะ!!"

           "เจ้าบ้านั้นติดนิสัยเดิมไม่เปลี่ยนจริงๆ" โอริมูรพ จิฟุยุพี่สาวและอาจารย์ประจำชั้นของอิจิกะ จับตามองการประลองครั้งนี้อยู่ในหมู่นักเรียนพร้อมกับอาจารย์ยามาดะ มายะอาจารย์ประจำห้องอีกคน "ทำแบบนั้นจะทำให้เจ้านั่นมันแพ้เองนะ!"

           "หมายความว่าไงเหรอคะ" มายะไม่เข้าใจในสิ่งที่จิฟุยุพูดถึงอิจิกะ ทั้งๆที่ตอนนี้เด็กคนนั้นท่าทางมีกำลังใจมากกว่าครั้งก่อนๆ "โอริมูระคุงก็ท่าทางจะเปลี่ยนเป็นฝ่ายรุกคืนบ้างแล้วนี่คะ ท่าทางจะมองการโจมตีของคามิชิโร่คุงออกแล้วด้วย ?" 

           "ดูไปที่มือซ้ายของเจ้านั่นดีๆสิ!" จิฟุยุบอกกับมายะ ซึ่งเธอก็ลองมองไปตามที่บอกก็พบว่ามือของเขากำลังกำมือเข้ากำมือออก "นั่นเป็นสัญญาณที่จะบอกว่าหมอนั่นกำลังประมาท ถ้ามันได้ใจเมื่อไหร่ก็มักจะเกิดข้อผิดพลาดตลอดนั่นล่ะ!"

           มายะเข้าใจตามที่จิฟุยุพูด "สมกับที่เป็นพี่น้องกันจริงๆนะคะ"

           "ฮ้ากกก!!!" อิจิกะฟาดดาบอย่างสุดแรง ทำเอาซุรุกิดาบกระเด็นหลุดออกจากมือ เขาจ่อดาบไม้ไปที่คอของชายหนุ่มผู้ร่ำรวย "ดูเหมือนว่าฉันจะชนะแล้วล่ะนะ!"

           "คิดอย่างงั้นเรอะ!" ซุรุกิกระโดดขึ้นไปเก็บดาบที่ลอยอยู่บนฟ้าได้อย่างน่าอัศจรรย์แล้ว พุ่งลงมาแทงลงไปที่ดาบไม้ของอิจิกะจนดาบไม้ถึงกับหักออกเป็นสองซีก "หึ!"

           "ดาบไม้ถึงกับหักเลยงั้นเรอะ!?" อากิฮิสะตกใจกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นไป "เจ้าหมอนั่นมันมีแรงแขนเยอะเกินไปมั้ย!?"

           "อิจิกะ..." ชาร์ลก็เริ่มรู้สึกเป็นห่วงอิจิกะ เพราะท่าทางในตอนนี้ทางฝ่ายของเขาเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบอย่างมากยิ่งอาวุธหักแบบนี้แล้ว โอกาสชนะยิ่งต่ำลงอย่างแน่นอน 

           ซุรุกิจ่อดาบไปที่ชายหนุ่มชาวญี่ปุ่น "ว่าไงโอริมูระ อิจิกะ...ดาบไม้ของเจ้าก็หักลงไปแล้ว ถ้าจะยอมแพ้ฉันก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะ!"

           "หึ!" อิจิกะยิ้มแล้วตั้งท่าพร้อมสู้ต่ออย่างไม่ย้อท้อ "ใครมันจะไปยอมแพ้กันล่ะ เพียงแค่ดาบไม้หักเพียงแค่นี้ถ้าสู้ต่อไม่ได้ ฉันก็ไม่ใช่ลูกผู้ชายแล้วล่ะ!" ลักษณะการถืออาวุธของเด็กหนุ่มเปลี่ยนไปเป็นการใช้ทอนฟาแทน "แบบนี้คงไม่ผิดกฏสินะ.."

           "อันที่จริงเราเองก็ไม่ได้สนใจเรื่องการใช้อาวุธอยู่แล้วจะใช้อาวุธอะไรก็ตามแต่เจ้าเลย แต่ว่าเจ้าก็ไม่มีทางมาชนะ..เราที่เป็นหนึ่งแห่งการต่อสู้ทั้งมวลได้หรอก!" ซุรุกิตั้งท่าสู้ แล้วเขาก็เป้นฝ่ายบุกก่อนโดยการแทงดาบเข้าไปตรงๆ "ฮ่าส์!!"

           แต่คราวนี้อิจิกะใช้ทอนฟาคู่ของเขารับดาบของซุรุกิไว้ได้แล้วก็โจมตีสวนกลับไปด้วยการโจมตีที่รวดเร็ว ทำเอาซุรุกิเป็นฝ่ายการ์ทไม่ทัน "จะขอบอกไว้ก่อนเลยนะว่า..!!" ชายหนุ่มชาวญี่ปุ่นฟาดทอนฟาใส่มือของเขาจนดาบหลุดออกปลิวกระเด็นออก "..ฉันน่ะเป็นพวกไม่ยอมแพ้ใครง่ายๆ!!" อิจิกะฟาดทอนฟาใส่ซุรุกิจนเขาล้มลงกับพื้น

    กริ๊งๆๆ!!

           เสียงกระดิ่งดังขึ้นและผู้ชนะก็คือโอริมูระ อิจิกะที่สามารถชนะมาได้ด้วยแรงใจที่ไม่ยอมแพ้ "ตามสัญญาฉัจะขอตัวชาร์ลคืนล่ะนะ แต่ก่อนอื่น...!" ชายหนุ่มชาวญี่ปุ่นแสดงความมีน้ำใจยื่นมือให้ชายหนุ่มผู้ร่ำรวยแล้วช่วยจับมือเขาลุกขึ้นมา "..เป็นการประลองที่สนุกมากเลยนะ!"

           "ฉันเองก็สนุกมากเลยล่ะ!"  ซุรุกิเดินไปรวมกลุ่มกับเหล่าพ่อบ้าน "แต่ว่าสักวันนึงฉันจะกลับมาพาตัวองค์หญิงของฉันไปให้จงได้!!" เขามองไปที่ชาร์ลและส่งจูบให้แต่เธอไม่ได้อยากรับไว้สักเท่าไหร่ แล้วเขาก็หันกลับมามองอิจิกะด้วยสายตาที่จริงจัง "คราวหน้าฉันจะเอาชนะนายให้จงได้เลย!"

           "อา!...จะเข้ามาเมื่อไหร่ก็ได้เลย ฉันเองก็จะไม่ยอมแพ้ให้นายอย่างเด็ดขาด!" ทั้งสองต่างเหมือนให้คำมั่นสัญญากันแล้วซุรุกิก็ขึ้นรถลีมูซีนของตนไปพร้อมกับพ่อบ้านของพวกเขาแล้วขับออกไปจากที่แห่งนี้

           "เออ..แต่ว่าคามิชิโร่คุงท่าทางจะลืมว่าตัวเองต้องมาโรงเรียนนะคะ" มายะพูด เธอท่าทางเหนื่อยใจกับการกระทำของชายหนุ่มลูกคุณหนูคนนี้เป็นอย่างมาก

           "เอาเถอะ ถ้าเจ้านั่นเวลาเรียนไม่พอค่อยให้กลับมาเรียนซ่อมเอาละกัน!" จิฟุยุพูดปลอบใจมายะ "แล้วท่าทางวันนี้เจ้านั่นก็คงจะเหนื่อยไม่ใช่น้อยแล้วล่ะ.." พี่สาวมองไปที่น้องชายที่สามารถชนะคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งมาได้ แล้วเธอก็ผละออกจากสถานประลองแห่งนี้

           "อิจิกะ!!" ชาร์ลและอากิฮิสะต่างวิ่งเข้ามาแสดงความยินดีในชัยชนะของเขา


           บนรถลีมูซีนของซุรุกิชายหนุ่มคุณหนูขึ้นรถกลับพร้อมกับเหล่าพ่อบ้านของเขา แล้วพ่อบ้านที่ชราที่สุดก็หันมาถามคำถามกับเขา "คุณหนูครับ ฝีมือของมาสค์ไรเดอร์เป็นยังไงบ้างครับ ?"

           "ยอดเยี่ยมไปเลย หากมีคู่แข่งระดับนี้อยู่ล่ะก็ฉันเองก็จะยอมแพ้ไม่ได้.." หุ่นยนต์แมงป่องไต่ขึ้นมาบนไหล่ของชายหนุ่มผู้ร่ำรวยคนนี้ ท่าทางลักษณะของมันดูเชื่องกับคนผู้นี้เป็นอย่างมาก "ในฐานะนักเรียนของ ZECT ฉันเองก็จะยอมแพ้ไม่ได้"

           "ครับ!" พ่อบ้านชราพยักหน้าแล้วเขาก็ขับรถออกจากโรงเรียนแห่งนี้ไป ซึ่งจากเหตุการณ?ในครั้งนี้ทำให้คุณหนูคามิชิโร่ ซุรุกิก็ขาดเรียนไปเพิ่มอีกหนึ่งวัน แต่เขาก็ได้พบกับคู่ปรับและรักแรกพบของเขา ณ ที่นี้เอง.....

    .
    .
    .
    .


    โรงเรียน SMART BRAIN  เวลา 12.01 น.

           "เฮ้อ!!" อิจิกะถอนหายใจแล้วบิดตัวเองไปมาแก้เมื่อยหลังจากที่เรียนหมดคาบเช้า แล้วก็เดินไปหาชาร์ลที่โต๊ะของเธอเพื่อที่จะคุยเรื่องอาหารกลางวันวันนี้ "ชาร์ล วันนี้ฉันกะว่ามื้อกลางววันนี้จะซื้อขนมปังกินน่ะ ถ้านายอยากไปกินข้าวที่โรงอาหารก็ไปก่อนได้เลยนะ!"

           เมื่อได้ยินชายหนุ่มพูดแบบนั้นหญิงสาวในร่างของเด็กหนุ่มก็แปลกใจเล็กน้อย "เอ๋!? วันนี้อิจิกะอยากกินขนมปังเหรอแปลกจังเลยนะ"

           "คือว่าวันนี้ได้ยินมาจากอะยาซากิว่าจะมีร้านขายขนมปังยากิโซบะที่อร่อยที่สุดในเมือง..ไม่สิ..ในโลก จะเข้ามาขายที่โรงเรียนแบบ Limited น่ะ แล้วท่าทางน่าจะอร่อยมาก ฉันก็เลยอยากลองชิมดูสักครั้ง!" อิจิกะพูดด้วยแววตาที่มุ่งมั่น

           "ถ้ามันอร่อยถึงขนาดนั้นผมก็อยากจะลองทานดูบ้างนะครับ.." ชาร์ลเริ่มสนใจตามที่อิจิกะบอก เธอจึงยิ้มให้กับเขา "งั้นวันนี้ผมก็ขอลองไปทานขนมปังที่ว่าแล้วด้วยนะครับ!"

           "งั้นก็รีบไปกันเถอะ ได้ยินว่าที่นั่นขายหมดเร็วมาก รีบตามมาเร็วเข้า!!" อิจิกะรีบวิ่งออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว โดยที่มีชาร์ลวิ่งตามอย่างติดๆ ทั้งสองวิ่งเร็วมากจนมาถึงที่บันได "ต้องเร็วกว่านี้ไม่งั้นไม่ทันแน่!"

           "เดี๋ยวอิจิกะ! วิ่งบนอาคารเรียนมันไม่ดีนะ!" ชาร์ลพยายามเตือนแต่มีเหรอที่เขาจะฟัง

           "ยังช้าไปนะ!!" มินามิที่มาจากไหนไม่รู้สไลด์ตัวมาตามราวบันไดแล้วนำหน้าพวกอิจิกะไป "ถ้าพวกเรามีเป้าหมายเดียวกันล่ะก็..ฉันก็ขอล่วงหน้าไปที่ร้านขนมปังนั่นก่อนละกัน!"

           "หะ! แม้แต่ชิมาดะก็มาด้วยเรอะเนี่ยถ้าอย่างงั้นก็ต้องเร่งสปีดมากกว่านี้แล้ว!" อิจิกะรีบกระโดดข้ามบันไดลงไป

           "อะ...อ๋า อิจิกะ มินามิ ระวังข้างหน้าครับ!!" ชาร์ลเตือนทั้งสองเพราะทางที่ทั้งสองตรงไปนั้นมีอาจารย์ยามาดะที่บังเอิญเดินผ่านมาพอดี และเมื่อเธอมาถึงบันไดก็โดนทั้งอิจิกะและมินามิชนล้มลงทั้งสามคน "เออ...เป็นอะไรรึเปล่าครับ ?"

           "พวกเธอคะ...โรงเรียนมีกฏ..ห้ามวิ่งในโรงเรียน ทุกคนต้องปฏิบัติตามสิคะ ไม่ใช่มาแหกกฎแบบนี้!!" อาจารย์ยามาดะฉุนขาด และนั่งอบรบสั่งสอนอิจิกะและมินามิเป็นเวลาสิบกว่านาที โดยมีชาร์ลยืนฟังอยู่เงียบและได้บทสรุปคือ หลังเลิกเรียนทั้งสามคนจะต้องไปทำความสะอาดที่ห้องเรียนของตัวเอง "เข้าใจแล้วนะคะ ถ้าอย่างงั้นก็มาตามที่นัดด้วยนะคะ!"

           "ครับ/ค่า!" ทั้งสองตอบตกลงแบบหง่อยแต่เมื่อมายะเดินจากไป ทั้งสองก็รีบวิ่งแข่งไปยังร้านขนมปังยากิโซบะที่ว่าทันที "พวกเราจะไม่ยอมให้มันขายหมดก่อนที่พวกเราจะไปซื้อหรอกน่า!!" ทั้งสามวิ่งลงจนไปถึงร้านที่ว่าแล้วพบว่าเหลือขนมปังเพียงแค่ชิ้นเดียว อิจิกะและมินามิมองหน้ากันแล้วก็เปลี่ยนจุดสนใจกลับไปที่ขนมผังแล้วเร่งฝีเท้าสูงสุดมุ่งตรงไปที่ร้านขนมปังนั้น "ขนมปังยากิโซบะต้องเป็นของฉัน!!"

           แต่ก่อนหน้าที่ทั้งสองจะมาถึงร้านอามามิ ยูสุเกะน้องชายของฮารุกะ ผู้เป็นมาสค์ไรเดอร์คูกะก็เข้ามาสั่งซื้อก่อนพวกเขา "เหลืออันสุดท้ายแล้วสินะครับ ผมขอชิ้นสุดท้ายเลยละกันนะครับ!" เข้ารับขนมปังมาแล้วก็จ่ายเงินให้กับผ้าเขาแต่พอหันหลังกลับก็พบกับอิจิกะและมินามิ "คุณอิจิกะ คุณมินามิ มีอะไรเหรอครับ ?"

           อิจิกะรู้ดีว่ายูสุเกะเป็นคนใจดีหากเขาขอดีๆ เด็กชายผู้ใสซื่อผู้นี้จะต้องยอมแบ่งให้แน่นอนจึงเปิดการสนทนาเกลี้ยกล่อมก่อน "ยูสุเกะคือในฐานะที่เราก็เป็นมาสค์ไรเดอร์ที่คอยปกป้องความสงบสุขของโลกเหมือนกัน จะเป็นไรมั้ยถ้าฉันขอส่วนแบ่งสักนิดหน่อยน่ะ พอดีว่าฉันพยายามรีบมาแล้วแต่มันไม่ทันน่ะ!"

           "เล่นขี้โกงนี่น่าพูดแบบนี้น่ะ!" มินามิคิดว่าตัวเองเสียเปรียบแล้ว จึงต้องหาทางดึงยูสุเกะกลับมาที่เธอให้ได้ "ยูสุเกะ ฉันกับฮารุกะเป็นเพื่อนสนิทกันนะ ถ้าฉันจะขอส่วนแบ่งของขนมปังนี้สักหน่อยจะได้มั้ย คือว่าฉันก็รีบมแล้วล่ะ..แต่ว่ามีใครก็ไม่รู้เข้ามาขวางทำให้ฉันอดเลย!"

           "เดี๋ยวสิ พูดแบบนี้หมายความว่าไง ฉันว่าถ้าเธอไม่มาขวางพวกเราทั้งสองคนก็น่าจะได้มากินขนมปังยากิโซบะทั้งคู่แล้วนะ!" อิจิกะเถียงกลับมินามิ "เธอนั่นล่ะที่ผิด!"

           "คนที่เข้ามาขวางมันนายต่างหาก หากนายไม่เร่งสปีดให้สูงขึ้นล่ะก็..พวกเราก็คงไม่ไปชนกับอาจารย์ยามาดะหรอก และก็จะไม่ต้องไปนั่งฟังเขาเทศน์ด้วย!" มินามิเองก้เถียงอิจิกะกลับ "นายนั่นล่ะที่ผิด!"

           "คือว่าทั้งสองคนครับ หยุดทะเลาะกันเถอะครับ!" ยูสุเกะเข้าห้ามปรามทั้งสองให้หยุดทะเลาะกันแล้วก็หยิบขนมปังยากิโซบะขึ้นมา "ถ้ารุ่นพี่ทั้งสองอยากได้ขนมปังยากิโซบะนี้ล่ะก็..เดี๋ยวผมแบ่งครึ่งแล้วให้ทั้งสองคนก็ได้ครับ ผมไม่ได้อยากทานหรอกครับ แค่ได้ยินจากพี่และเพื่อนบอกว่าขนมปังนี้อร่อยมาก แต่ถ้าจะให้รุ่นพี่ทั้งสองผมก็ไม่รังเกียจหรอกครับ!"

           รอยยิ้มที่มาจากจิตใจอันบริสุทธิ์ของเด็กหนุ่มทำเอารุ่นพี่ทั้งสองไม่กล้าจะขอต่อ "ยูสุเกะ นายเอาขนมปังนั่นไปทานเถอ..พวกเราไม่อยากได้แล้วล่ะ ขอโทษทีนะที่มาขอกันแบบนี้น่ะ!" อิจิกะสำนึกผิดและกล่าวขอโทษต่อรุ่นน้องของเขา มินามิก็เช่นกันแล้วทั้งสองก็เดินออกมาในสภาพสำนึกผิด

           ยูสุเกะงงกับที่ทั้งสองดูเหมือนไปทำอะไรผิดบางอย่าง จึงเดินเข้าไปถามชาร์ลที่อยู่ข้าง "คือพวกคุณอิจิกะและคุณมินามิเป็นอะไรไปเหรอครับ ?"

           ชาร์ลเหนื่อยใจกับทั้งสองคนจึงตอบยูสุเกะกลับไปว่า "คือว่าเรื่องมันยาวน่ะครับ!"


    ห้องเรียน ม.4 F  เวลา 13.12

           ในห้องเรียนอิจิกะ มินามิ ชาร์ลและอากิฮิสะทั้งสี่กำลังทำความสะอาดตามเวรที่ได้รับการลงโทษมาจากอาจารย์เมื่อตอนเที่ยง "สุดท้ายแล้ว ยังไงพวกเราก็ต้องมาทำความสะอาดห้อง...ยังไงก็ต้องขอโทษชาร์ลด้วยนะ ทำให้ต้องมาทำความสะอาดด้วยเลย!"

           "ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร" ชาร์ลตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม

           "แต่ก็ดีแล้วล่ะที่เราโดนลงโทษเพียงแค่วันนี้วันเดียวล่ะนะ ถ้าโดนหลายวันล่ะก็..ฉันคงเหนื่อยตายเลยล่ะ!" มินามิบ่น

           "แล้วพวกคุณทั้งสองเห็นตัวผมที่ต้องโดนลงโทษให้ทำเวรทำความสะอาดทุกวันมั้ยล่ะครับ!" อากิฮิสะพูดแทรกมินามิขึ้น เพราะเขาเคยไปขายหนังสือสำคัญขิงทางโรงเรียนเพื่อนำเงินไปซื้อตุ๊กตาหมีให้กับฮาซึกิซึ่งเป็นน้องสาวของมินามิ "แต่ว่าทำไมอาจารย์ถึงรู้ได้นะ..ว่าฉันเป็นคนนำหนังสือพวกนั้นไปขายน่ะ!" 

          "ก็นำบัตรนักเรียนไปใช้แลกเปลี่ยนแบบนั้น มันก็ไม่แปลกหรอกครับที่จะจับผิดง่ายน่ะครับ!" ชาร์ลพูดตามความจริงที่อากิฮิสะทำ

           ในระหว่างที่คุยกันอยุ่นั้นอิจิกะก็นึกเรื่องสำคัญที่เกี่ยวกับไนท์แมร์ออก "ชาร์ล จะว่าไปจำได้ว่านายขอให้ทางหน่วยงานเขาให้ช่วยสร้างเครื่องตรวจจับสัญแบบพกพาอย่างงั้นเรอะ แล้วตอนนี้เสร็จรึยังล่ะ ?"

           "อืม!" ชาร์ลพยักหน้าหยิบเครื่องตรวจจับที่ว่าออกมาซึ่งมันก็มีรูปแบบไม่ต่างจากโทรศัพท์ทั่วไป เพียงแค่มีขนาดใหญ่กว่าพียงเท่านั้น "นี้เขาเรียกว่า แก็ดเจ็ต น่ะ ทางบริษัทก็พยายามผลิตออกมาแบบเต็มที่แล้วล่ะ แต่ว่าตอนนี้เราได้เพียงแค่ต้นแบบมาน่ะ!"

           "แล้วมันใช้งานยังไง ?" อิจิกะถามวิธีการใช้งานของโทรศัพท์ประหบาดนี้

           "ก็แค่กดปุ่มตรงกลางเครื่องนี้แล้วมันก็จะทำการตรวจจับสัญญาณแบบเป็นแผนที่ให้น่ะ แต่ถ้าเป็นตามปกติหากมันตรวจจับได้เดี๋ยวตัวแก็ดเจ็ตก็จะส่งสัญญาณทันทีเลยล่ะนะ!" ชาร์ลอธิบายวิธีการงานเครื่อง ซึ่งในตอนนั้นเองโทรศัพท์ก็เกิดมีสัญญาณขึ้นมา "เอ๋..มีไนท์แมร์อยู่แถวนี้เหรอ ?"

           "ไหนอยู่ที่ไหนน่ะ ?" อิจิกะมดูชาร์ลกดเปิดใช้งานแผนที่ และพบว่าสัญญาณอยู่บริเวณสนามวิ่งแข่งของโรงเรียน "ท่าทางจะมีงานเข้ามาแล้วสินะ คงได้เวลาที่พวกเราต้องไปกันแล้วล่ะ!"

           "อืม นั่นสินะ!" ชาร์ลและอิจิกะเก็บของเรียบร้อยพร้อมที่จะไปยังจุดที่พวกเขาสามารถจับสัญญาณที่ว่านั้นได้

           "เดี๋ยวสิ พวกนายยังทำความสะอาดห้องไม่เสร็จเลยนะแล้วนี้คิดจะหนีรึไง!?" มินามิพูดกับทั้งสองแต่พวกเขาก็ออกจากห้องไปเสียก่อนโดยที่ไม่ฟังคำทัดท้วงของเธอเลย "ช่วยไม่ได้ล่ะนะ ถ้าเป็นเรื่องนั้นก็คงต้องยอม..." ในตอนนั้นอากิอิสะก็ค่อยไปหยิบกระเป๋าเรียนตัวเอง แต่มินามิรู้เข้าซะก่อน "คิดจะไปไหนน่ะอากิ พวกเรายังทำความสะอาดไม่เสร็จเลยนะ!"

           "อา...ก็มีไนท์แมร์ปรากฏออกมาใช่มั้ยล่ะ ฉันก็จะตามไปช่วยพวกอิจิกะไง!" อากิฮิสะหาเหตุผลเพื่อที่เขาจะได้ออกหนีออกจากการทำเวรนี้

           "นายน่ะไม่ต้องไปไหนเลย ฉันทำความสะอาดห้องคนเดียวไม่ไหวหรอกคงต้องให้นายช่วยด้วย!" มินามิเดินตรงเข้าไปหาอากิฮิสะอย่างช้าๆ แล้วกหมัดทั้งสองข้างพร้อม "ถ้านายคิดหนีนายไม่ได้ตายดีแน่!"

           "อะ..อา ฮะๆๆๆ ก็ได้จะอยู่ทำก็ได้!" ชายหนุ่มเกรงกลัวในหญิงสาวผุ้นี้จึงจำต้องยอมทำสะอาดห้องนี้ร่วมกับเธอ



    สนามวิ่งแข่งของโรงเรียน SMART BRAIN  เวลา 13.23 น.

           อิจิกะและชาร์ลมาถึงที่สนามวิ่งแข่งตามที่พวกเขาสามารถตรวจจับได้ ซึ่งพอมาถึงที่นี่ก็พบเห็นักเรียนที่อยู่ชมรมกรีฑาซ้อมวิ่งกันตามปกติ และไม่มีวี่แววของไนท์แมร์อยู่ที่ไหนสักแห่งเลย "ชาร์ลเท่าที่ฉันดูนะ ที่นี่ก็ไม่เห็นจะมีอะไรผิดปกตินี้ หรือว่าแก็ดเจ็ตนั่นมันยังไม่สมบูรณ์น่ะ ?"

           "เรื่องนี้ผมเองก็ยังไม่ค่อยมั่นใจเหมือนกัน ยิ่งเป็นรุ่นต้นแบบเลยยิ่งไม่มั่นใจว่าจะเชื่อมั่นในตัวเครื่องได้สักแค่ไหนน่ะครับ!" ชาร์ลตอบกลับ

           "แต่ว่าชมรมนี่ก็ไฟแรงกันจังเลยนะ เพราะการแข่งวิ่งมาราธอนใกล้เข้ามาแล้วพวกนี้เลยต้องพยายามกันอย่างเอาเป็นเอาตายสิท่า!" อิจิกะมองลงไปที่สนามแข่งที่เหล่านักกรีฑากำลังฝึกซ้อมกันอย่างขันแข็ง "..เอาเป็นว่าสงบแบบนี้คงไม่มีอะไรหรอก เราก็ไปกันเถอะ!" แต่ว่าก่อนที่ชายหนุ่มจะสะพายกระเป๋าขึ้นบ่าเขานั้นก็....

           "ยัยบ้า! ชดใช้สิ่งที่ทำกับฉันไว้ซะ!!" อาคาเนะตบหน้าโทริเพื่อนสาวผู้ที่ทำให้เธอขาหักในสนามวิ่ง "อยากชนะฉันถึงขนาดต้องทำแบบนั้นใช่มั้ย งั้นฉันก็จะขอเอาคืนบ้างล่ะ!" เธอเข้าทำร้ายร่างกายโทริแบบที่ฝั่งนั่นไ่สามารถตอบโต้ได้

           "หยุดนะยัยขาด้วน!!" โทริสลัดอาคาเนะออกแล้วชี้หน้าเธอ "ทำไมเธอถึงยังยืน เดิน วิ่งได้อีกล่ะ ทั้งๆที่ตอนโดนหาบเข้าโรงพยาบาลยังร้องเจ็บปวดทรมาณอยู่เลยนี่!"

           "ก็พระเจ้าอยู่ข้างคนเก่งอย่างฉันน่ะสิ ท่านไม่อยู่ข้างนังจิ้งจอก ไร้ความสามารถ อย่างเธอหรอก!!" อาคาเนะดูถูกโทริ ทำให้เธอโกรธเข้าทำร้ายอาคาเนะกลับแต่หญิงสาวผู้นี้กับแข็งแรงกว่าทำให้โทริไม่อาจทำอะไรเธอได้เลย "คิดสู้ใช่มั้ย..ได้!!"

           "แบบนี้ท่าจะไม่ดีแล้วแฮะ ชาร์ลไปหยุดสองคนนั้นกันก่อนเถอะ!!" อิจิกะและชาร์ลรีบวิ่งเข้าไปห้ามปรามทั้งสอง แล้วพาเธอทั้งสองออกจากกันก่อนที่เรื่องบานปลายไปมากกว่านี้ "พอทั้งคู่เลยนั่นล่ะ คุยกันดีๆไม่ได้รึไง ทำไมต้องมาทำร้ายกันแบบนี้ด้วย!"

           "ฝากไว้ก่อนเลยนะ เดี๋ยวฉันจะกลับมาเอาคืนแน่!" อาคาเนะสลัดมือของอิจิกะออกแล้วเธอก็เดินจากไปด้วยความฉุนเฉียว

           "เออ!! ไปให้พ้นๆหน้าฉันเลยยัยบ้า ฉันล่ะเกลียด! เกลียด เกลียด เกลีดคนอย่างเธอที่สุด!!" โทริด่าไล่หลังอาคาเนะไป แต่เพิ่งรู้ว่าตัวเองนั้นก็เจ็บไม่ใช่น้อยเมื่อโดนอาคาเนะตบไปก่อนหน้านี้ "ทำไมยัยนั่นถึงแรงเยอะแบบนี้นะ ?"

           "เจ็บแบบนี้ไปห้องพยาบาลดีกว่ามั้ยครับ ?" ชาร์ลเตือนด้วยความเป็นห่วง

           "ไม่เป็นไรหรอก ฉันก็ไม่ได้เจ็บอะไรมากล่ะนะ!" โทริพยายามลุกขึ้นโดยที่มีชาร์ลช่วยพยุงเธอขึ้นมา "ทำไมยัยนั่นถึงยังเดินได้กันนะ ทั้งๆที่ขาน่าจะหักไปแล้วนี่!"

           "ขาน่าจะหักไปแล้ว..นี้มันหมายความยังไงเหรอครับ เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ?" อิจิกะพยายามถามความจริงกับเธอ

           โทริแสดงสีหน้าที่บ่งบอกว่าไม่อยากเล่ามากแต่เพราะความดื้อดึงของชายหนุ่มทำให้เธอต้องยอมเล่า "เมื่อเช้าฉันน่ะไปสกัดขายัยนั่นเข้า แล้วผลก็คือเพราะความเร็วของพวกเราทั้งคู่บวกกับแรงอีกหลายแรงทำให้พอยัยนั่นล้มลงกระดูกขาก็เกิดหักขึ้นมา และยังไม่ได้บาดเจบแค่ภายในเท่าั้นั้นแต่รวมถึงภายนอกด้วย ได้ยินมาว่าเธอต้องรับการปลูกถ่ายเซลล์ใหม่และต้องใช้เวลา 3 ปีในการรักษาจึงไม่น่าจะวิ่งได้ แต่ไหงตอนนี้ยัยนั่นถึงกลับมาเป็นปกติได้ ฉันเองก็ไม่รู้ล่ะนะ!"

           จากคำบอกเล่าของโทริทำให้อิจิกะและชาร์ลต่างก็ได้รับข้อสงสัยมา "ขาที่หักกลับมาเป็นปกติ ?" 

           "ถ้าหมดธุระแล้ว ฉันก็ขอตัวล่ะนะ..เอาเป็นว่าขอบคุณที่มาห้ามพวกเราสองคนก่อนที่เรื่องจะบานปลายละกัน ลาล่ะ!" โทริลาจากด้วยอารมณ์ที่ไม่ดีนักเช่นเดียวกับอาคาเนะ

           "โธ่เว้ย!!" อิจิกะตะโกนร้องด้วยความหงุดหงิดไม่แพ้กัน "วันนี้มันวันอะไรเนี่ยทำไมมีแต่เรื่องยุ่งๆทั้งวันเลยนะ!"

           "อิจิกะใจเย็นก่อนเถอะครับ.." ชาร์ลปลอบใจชายหนุ่มที่กำลังหงุดหงิดอยู่แล้วเธอก็ทำท่าครุนคิดกับปริศนาที่ผิดปกติของอาคาเนะกับโทริ "คิดว่าเรื่องนี้มันจะเกี่ยวข้องกับไนท์แมร์รึเปล่าครับ อิจิกะ ?"

           "ฉันเองก็ไม่รู้ล่ะนะ แต่ว่าการที่ขาที่หักด้วยอาการขนาดนั้นตามปกติก็ไม่น่าที่จะมาหายโดยไม่มีสาเหตุแบบนี้ได้ แต่ว่าถ้าเป็นฝีมือไนท์แมร์จริงทำไมมันต้องช่วยรักษาขาด้วยล่ะ!?" อิจิกะถาม 

           "เรื่องนั้น..." ในตอนนั้นเองระหว่างที่ชาร์ลกำลังคิดอยู่นั้น ทั้งสองก้ถูกโจมตีโดยไนท์แมร์เบิร์ดปิศาจรูปแบบนกที่บินเข้ามาโฉบเฉี่ยวโจมตีทั้งสองแบบไม่ทันตั้งตัว ซึ่งทั้งสองก็สามารถกลิ้งหลบได้อย่างฉิวเฉียด "ไนท์แมร์อยู่ที่นี่จริงๆด้วย แปลว่าแก็ดเจ็ตไม่ได้ผิดพลาดสินะ!?"

          "ถ้าอย่างงั้นพวกเราก็ไปกันเถอะชาร์ล มาจัดการมันไปพร้อมกันเลย!" อิจิกะสวมไดร์เวอร์แล้วหยิบไกอาเมมโมรี่ขึ้นมา

          "ok อิจิกะ!" ชาร์ลสวมไดร์เวอร์พร้อมกับกดไกอาเมมโมรี่ของเธอ


    CYCLONE

    JOKER

           "แปลงร่าง!!" ชาร์ลใส่เมมโมรี่สีเขียวของเธอลงไดร์เวอร์แล้วมันก้ย้ายไปอยู่ที่ไดรืเวอร์ของอิจิกะส่วนเธอก็สลบลงไป อิจิกะเองก็กดเมมโมรี่ของชาร์ลซ้ำลงไปอีกทีแล้วตามด้วยใส่เมมโมรี่สีดำม่วงของตัวเองตามลงไป จากนั้นก็สับไดร์เวอร์

    CYCLONE JOKER

           สายลมพายุหมุนปรากฏขึ้นแล้วค่อยๆเปลี่ยนร่างของชายหนุ่มไปเป็นมาสค์ไรเดอร์สองสีผู้มีนามว่า ดับเบิ้ล แล้วเขาก็ชี้นิ้วไปที่ไนท์แมร์ที่อยู่ตรงหน้า "เอาล่ะ จงนับความผิดของตัวเองซะ!"


    ............... TO BE CONTINUE ..............
     





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×