คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่3
ตอนที่ 3
หลังจากที่เกิดการต่อสู้ขึ้นระหว่างบาเบลตุ่นกับดินและเพลิง พวกเขาทั้งสองก็เดินออกจากตรงนั้น ทางซับซ้อนกลับเป็นอย่างเดิม เพลิงก็ยังคงงงๆอยู่ เขาเดินตามดินไปเรื่อยๆจนถึงรถคันงามคันหนึ่ง ราคาคงหลายอยู่
“นี่ ลุง รวยขนาดนี้ทำไมต้องมาต่อสู้ยังงี้ด้วยอ่ะ” เพลิงถามขณะก้าวขึ้นรถ
“อ๋อ คันนี้ยืมเขามาน่ะ
‘แป่วส อุตส่าห์ชม’ เพลิงคิด เขาก็ไม่ได้พูดอะไรกันจนรถมาจอดหน้าตึกอะไรซักอย่าง
“นี่ศูนย์กลางของพวกเรา” ดินเอ่ยขึ้น เขาเดินนำเพลิงเข้ามาในตึก ภายในเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ เสียงฝีเท้ากระทืบพื้นดังเป็นสัญญาณแก่พนักงานที่อยู่ในตึก
“สวัสดีค่ะ” พนักงานคนหนึ่งยกมือไหว้พวกเขาระหว่างที่เดินสวนกัน ตาลุงคนนี้ต้องเป็นคนใหญ่คนโตของที่นี่อย่างแน่นอน เพลิงคิดไประหว่างทาง ดินเดินนำเขาไปเข้าลิฟต์ แต่แทนที่จะขึ้นกลับกดมันลงไปถึงชั้น B 50 ลิฟต์ลงไปเรื่อย ระหว่างนั้นดินก็พูดกับเพลิงว่า
“ใครเป็นคนให้แผ่นศิลากับเธอ” เพลิงนิ่งไปนิดหน่อย
“ไม่รู้เหมือนกัน อยู่ๆเขาก็ยัดไอ้นี่ใส่มือแล้วก็หายไปเฉย” เพลิงตอบ
“เอาหละ วันนี้ชั้นได้ทำการรวมการประชุมระหว่างไรเดอร์ทั่วโลก คงต้องให้เธอนั่งดูเฉยๆแล้วหละ” เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก พวกเขาก็เจอทางยาวที่ทอดไปสู่ประตูบานใหญ่ ดินเดินนำไปผลักประตูนั้นเปิดออกพบผู้คนมากหน้าหลายตานั่งบนโต๊ะยาวมาก เหลือแค่2ที่คือที่หัวโต๊ะและที่ๆไกลจากหัวโต๊ะที่สุด ดินเดินมานั่งแล้วทำปากบุ้ยใบ้ให้เพลิงไปนั่งตรงที่ว่าง หลายคนค่อนข้างแปลกใจที่มีเด็กอายุแค่นี้มาร่วมประชุมด้วย
“Lady & gentleman. We will start our meeting now” ดินเอ่ยขึ้น เพลิงฟังอย่างตั้งใจ
“ตอนนี้ทางเราได้รับข้อมูลจากคนของผมที่ทำการสืบค้นและวิจัยเกี่ยวกับศิลาจารึกสมัยโบราณมาแล้ว แต่ข้อมูลนี้ยังไม่สมบูรณ์เพราะยังมีอีกมากที่ยังไม่สามารถแปลออกมาได้” ดินพูดฉอดๆเป็นภาษาอังกฤษ แต่เพลิงก็สามารถเข้าใจทั้งหมด
“สิ่งที่แปลมานี้ได้ใจความว่า ในวันที่ 28 ธันวาคม ปีนี้ หรือที่เราเรียกว่า Dooms Day จะมีบาเบล1ตัวได้เป็นราชาแห่งโลกปีศาจ เมื่อนั้น มนุษย์จะสูญพันธุ์ สิ่งมีชีวิตทั้งมวลจะดับสลาย โลกจะกลายเป็นนรก” ดินทำสีหน้าเคร่งเครียด เขากำลังคิดอย่างหนัก
“ต่อจากนี้ผมจะให้ทุกคนไปที่ประเทศต่างๆตามเหล่าสัตว์ประหลาดที่เปลี่ยนที่เกิดใหม่ คุณอินูอิ คุณต้องไปที่อังกฤษ มีอัลเฟน็อคเกิดขึ้นอีก3ตัว ช่วยไปจัดการด้วย ส่วนคุณเคนซากิ มีอันเดทอยู่ที่เคนย่า2ตัว กับพวกแมลงสาบดำ30ตัว ให้คุณทาจิบาน่าไปช่วยด้วย คุณคุโด คุณกับเรนไปจัดการมอนเตอร์ที่บราซิล ส่วนคนที่เหลือยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงครับ” พอพูดจบทุกคนก็ลุกขึ้นแล้วค่อยๆเดินออกไปจากห้องประชุม เพลิงเดินมาหาเขา เขายังคงนั่งอยู่ที่เดิม มองไปยังอีกฟากของโต๊ะ แล้วหันมาพูดกับเพลิง
“มานั่งตรงนี้ซิ” เขาผายมือออกเป็นที เพลิงนั่งใกล้ๆเขา
“มันยังไงกับแน่ครับ ลุง”เพลิงถามดิน ดินมองตาเขาพยายามทำหน้าเคร่งข่มความดีใจของตนเอาไว้
“เพราะเธอ เราจึงได้รู้เบาะแสขึ้นอีก ชั้นจะเล่าให้ฟัง” แล้วดินก็เริ่มต้น
“เมื่อปีที่แล้วสถาบันโบราณคดีของเราได้ค้นพบสถานที่ที่เป็นแหล่งโบราณคดี หัวหน้าของเรา ดร.สุนทร ปักษีพิทักษ์ ได้นำทีมขุดค้นอย่างหนักจนได้ค้นพบrackทั้ง4และศิลาจารึกโบราณ แต่อยู่ๆเขาก็หายตัวไปโดยไม่มเหตุผล จากนั้นไม่นานก็เริ่มมีสัตว์ประหลาดเดขึ้นและทำร้ายคนมากขึ้น พวกเราพยายามปิดข่าวให้มากที่สุด สุดท้ายข่าวก็รั่ว เราเรียกสัตว์ประหลาดเหล่านั้นว่า บาเบล (Bable) แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เหล่าสัตว์ประหลาดที่เคยมีการต่อสู้กันในอดีตกลับฟื้นขึ้นชีพ ทั้งอันโนว มอนเตอร์ อัลเฟน็อค อันเดทก็ถูกปลดผนึกอีกครั้ง ทำให้ทั้งโลกวุ่นวาย พวกเราจึงคิดจะใช้พลังของrackจัดการกับบาเบลให้หมด จึงรวบรวมเหล่านักสู้ในอดีตหรือที่เรียกกันว่า “ไรเดอร์” เพื่อต่อสู้กับสัตว์ประหลาดที่ฟื้นคืนชีพ แต่ดร.สุนทรก็เอาrackไปด้วย จึงเหลือแค่เพียงอันเดียวเท่านั้น คือของชั้นเอง แต่ตอนนี้เราก็มีกำลังเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งแล้ว” ดินหยุดกลืนน้ำลายอึกหนึ่ง เขากำลังจะพูดต่อแต่เพลิงก็พูดขัดขึ้นเสียก่อน
“แล้วทำไมผมต้องไปต่อสู้บ้าบออะไรนี่ด้วย ผมเป็นแค่นักเรียน แค่อยากเรียนต่อ มีงานทำ มีชีวิตสงบสุข” เพลิงมองหน้าดิน ดินทุบโต๊ะแล้วยืนขึ้น
“แล้วเธอจะปล่อยให้โลกนี้ล่มสลายไปหรือไง เธอก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ในเมื่อเขาเลือกเธอ เลือดของเธอหลั่งไหลวนเวียนอยู่ในrackนั่นแล้ว เธอก็จำเป็นต้องสู้ หากไม่สู้ชีวิตจะหาไม่!!! (ผู้เขียนขอลอกนิสนุง)” แล้วดินก็เดินจากไป เพลิงนั่งครุ่นคิดอยู่นาน เขาคิดถึงคนที่เขารัก เพื่อน ญาติ พ่อแม่น้อง และผู้คนอีกมากมายจะเป็นยังไงหากเขาละทิ้งมัน เมื่อตัดสินใจได้เขาก็เดินออกมาจากสถานบัน เดินมาตามทางเรื่อยๆ ในระหว่างที่รอแท็กซี่เขาก็รู้สึกแปลกๆ แล้วแร็คที่อยู่ในกระเป๋าของเขาก็ส่องแสงขึ้น แล้วแสงนั้นก็ยิงไปยังถนนฝั่งตรงข้าม
“นั่นมัน...” แล้วสายตาเขาก็เห็น... สัตว์ประหลาด... มันกำลังเดินเข้าไปในตรอกเล็กๆที่เขาเพิ่งเดินสวนกับผู้หญิงคนหนึ่ง เขาวิ่งไปที่ตรอกนั้น
“บาเบล” เขาเห็นสัตว์ประหลาดเดินตามหลังผู้หญิงคนนั้นแล้วกำลังจะทำร้ายเธอ
“หยุดน้า!” เขาตะโกน บาเบลที่หน้าตาคล้ายๆกับนกพิราบหันมาก็โดนรองเท้าของเพลิงเข้าเต็มหน้า มันล้มผงะลง
“หนีไปซะ” เขาร้องบอกผู้หญิงคนนั้น เธอร้องกรี๊ดแล้ววิ่งหนีไป
“แก ” บาเบลนกพิราบเอ่ยขึ้น มันกางปีกออกแล้วบินตรงมาหาเพลิง เขาพยายามหลบแต่ก็ไม่พ้น โดนเล็บของมันเฉี่ยวที่ช่วงท้อง เลือดไหลซิบๆ มันบินวนมาอีกรอบแล้วกระแทกเข้าที่หน้าอกเขาจนเขาลอยขึ้น เลือดออกมาจากปากเขาน้อยๆ เขาล้มลง เจ้าปีศาจยิ้มเยาะอย่างได้ใจ
“ในเมื่อแกขัดขวางนัก ก็โดนกินซะเถอะ” แต่ก่อนที่มันจะทันทำอะไร เพลิงก็ถีบมันกระเด็นออกไป เขาลุกขึ้นมานั่งคุกเข่า
“ชั้น... ชั้นจะสู้ จะไม่ยอมแพ้ เขาหยิบแร็คออกมาจากกระเป๋า เอาแคปซูลแก้วออกมา เขาถุยเลือดลงไปแล้วเสียบมันลงไปที่เดิม แต่เจ้าบาเบลไม่ดูเฉย มันพยายามเข้ามาทำร้ายเพลิงอีกครั้ง เขาปาแร็คใส่หน้ามันจนมันล้มไป มันหมุนๆ(ยังกะยูเอฟโอ) แล้วมาอยู่ที่เอวขึ้นเพลิง มีไฟสร้างขึ้นเป็นเข็มขัด
“แปลงร่าง” เขาดึงสลัก ‘God Born’ เขายืนขึ้น ไฟมปกคลุมตัวเขาแล้วกระจายออกเผยให้เห็นร่างสีดำบาเบลลุกขึ้นมาแล้วกางปีกอีกครั้ง มันบินเข้ามาแต่เพลิงหลบได้ เขากดสลักลง ‘Gate Open’ เกิดโพรงขึ้นหน้าเขา ภายในมีไฟวนอยู่มากมาย เขาเข้าไปในนั้นแล้วหายไป บาเบลที่กำลังจะบินมาหยุดชะงักแล้วลงจอด มันหันซ้ายหันขวาแล้วเพลิงก็โผล่มาด้านหลังของมันเขาเดินออกมาจากโพรงไฟ เกราะของเขากลายเป็นสีแดง ‘God Justic Setup’ เขาหยิบเหรียญออกมาจากแท่งใส่หยอดลงข้างเข็มขัดแล้วกดปุ่ม ‘Weapon Air Flare’ ด้ามดาบที่อยู่ที่เข็มขัดด้านซ้ายก็ลอยมาหามือเขา เขาจับมันกระชับมือ มีเปลวไฟค่อยๆไล่จากโคนดาบไปยังปลายดาบเป็นตัวคมดาบ เจ้าบาเบลบินมาหมายจะเผด็จศึกด้วยการใช้ปีกที่คมกริบบั่นคอเขา แต่เขาก็เอาดาบฟันปีกของมันขาดออก มันกลิ้งแถไปกับพื้น ส่งเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด
“จบกันซะทีนะ” เขาเก็บดาบแล้วเอาเหรียญอีกเหรียญออกมา หยอดใส่และกดปุ่ม ‘Ending Prompt’ เขาดึงสลักขึ้นแล้วกดมันลงไปอีกครั้ง ‘Jesus Crush Spin’ เขาวิ่งไปหมุนตัวเตะเข้าที่ทัดดอกไม้เต็มที่ มันล้มลงกระแทกพื้นอย่างแรงจนพื้นร้าว มันแตกกลายเป็นควันเขารีบเก็บมันลงแคปซูล มันกลายเป็นเหรียญสีแดงเขาก็เก็บมันใส่แท่ง เขาดึงสลักขึ้นแล้วดันมันลงแล้วกดเข้าไปอีกที ทำให้เขากลับร่างเดิม เขาถือแร็คไว้ในมือ แผ่นศิลาพิศวงที่กุมความลับแห่งโลกเอาไว้
“ต่อจากนี้ ชั้นคงเหนื่อยขึ้นเยอะ” เขาพูดจบก็เดินจากไปโดยไม่รู้ตัวว่ามีคนแอบดูการต่อสู้ของเขาตั้งแต่ต้น
เส้นทางการต่อสู้ของเพลิงและเหล่าไรเดอร์จะเป็นเช่นไร ชีวิตของคนทั้งโลกอยู่ในกำมือของพวกเขาแล้ว
To be continue
ความคิดเห็น