masked rider Justic

ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่2

ตอนที่ 2

หลังจากที่เพลิงได้พบกับเหตุการณ์นั้น เขาได้ส่งน้องไปอยู่กับพ่อแม่ที่ต่างประเทศชั่วคราวพร้อมกับบอกว่าจะตามไปทีหลัง รอให้บ้านซ่อมเสร็จก่อน เค้ายังไปโรงเรียนตามปกติ ไม่มีข่าวใดๆเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่บ้านเขา เขาบอกเพื่อนที่โรงเรียนว่าแก๊สระเบิด และวันต่อมาระหว่างที่เขาเดินกลับบ้านกับฝัน เขาก็สังเกตเห็นคนผู้หนึ่งหลบอยู่ใกล้ๆแล้วจ้องมองมาที่พวกเขา เพลิงเริ่มระแวงจึงรีบส่งฝัน ในระหว่างที่กำลังจะเดินเข้าบ้าน คนที่ตามเขาอยู่ก็โผล่พรวดมา

“เจ้าหนู จงรับสิ่งนี้ไว้ ไม่เช่นนั้นชีวิตเธอจะพบกับจุดจบ” ชายผู้นั้นยัดสิ่งของบางอย่างใส่มือ เขาก้มลงมอง มันคือแผ่นศิลาวงกลม มีลูกแก้วเล็กๆสีแดงสี่ด้าน พอเขาเงยหน้าขึ้นชายคนนั้นก็หายไปเสียแล้ว

“อะไรกัน” เขาพูดจบก็เดินเข้าบ้านวางแผ่นศิลานั้นไว้บนโต๊ะ แล้วเดินไปดูซากที่ยังคงอยู่ที่เดิม เขาถอนหายใจยาวๆแล้วไปโทรศัพท์หาช่างซ่อม พอเรียบร้อยก็เดินออกไปนอกบ้านเพื่อหาของกิน

‘ขณะนี้มีรายงานเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตประหลาดมากมายบนโลก บางประเทศเรียกมันว่ามอนเตอร์ บางที่ก็เรียกว่าอันเดท อันโนว อัลเฟน็อค’ เพลิงเห็นข่าวจากทางทีวีที่อยู่ในร้าน เขาก็ตกใจมากแล้วยืนดูด้วยความคร่ำเคร่ง

‘ทางสถานีของเราจะนำภาพเหล่านั้นให้ท่านผู้ชมได้ดูสดๆผ่านสัญญาณดาวเทียมค่ะ’ เมื่อภาพตัดไปยังประเทศต่างๆ ก็มีภาพที่สัตว์ประหลาดหลายสิบตัวกำลังทำร้ายผู้คน เพลิงยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่ ไม่ได้มีแค่เขาคนเดียวที่เห็นพวกมัน มันกลายเป็นข่าวใหญ่ระดับโลกไปแล้ว

‘เราจะตัดภาพไปที่อเมริกานะคะเพราะขณะนี้มีคนที่เรียกว่าตัวเองว่าไรเดอร์ออกมาต่อสู้ค่ะ’ ผู้ประกาศข่าวเอ่ย หลังจากนั้นภาพก็ตัดไปที่อเมริกาซึ่งมีคนสวมชุดสีแดงสู้กับสัตว์ประหลาดอยู่ ภาพนั้นถ่ายออกมาอย่างชัดเจน เขาหยิบบางสิ่งที่เหมือนกล้องถ่ายรูปแล้วเสียบแผ่นบางอย่างเล็กๆลงไป พอเขาต่อยเจ้าสัตว์ประหลาด มันก็กลายเป็นผง

“นี่โลกของเราจะถึงจุดจบหรืออยังไงกัน” มือของเพลิงกำแน่นจนสั่น เขาไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ๆโลกที่สงบสุขจึงเกิดเหตุการณ์ที่จะก่อสงครามอย่างนี้ขึ้นมาได้

‘ดอกเตอร์ ปฐพี ป้องเกียรติภูมิ ได้เปิดเผยให้เราฟังเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น เราไปฟังกันคะ’ ภาพตัดไปอีกครั้ง คราวนี้เป็นภาพของชายผู้หนึ่ง ชายที่เพลิงค่อนข้างคุ้นหน้า

“เฮ้ย นั้นมันตาลุงคนนั้นนี่ ไหงเป็นงี้ เป็นดอกเตอร์ด้วย” เพลิงตกใจมากๆๆๆๆๆ (ช่วงนี้มานตกใจอย่างเดียวเลยนะเนี่ย) แต่ก็ยังยืนดูต่อไป

‘ทางเราได้เริ่มติดต่อฝ่ายต่างๆในการระงับเรื่องนี้แล้วนะครับ ขอให้ทุกท่านวางใจได้ ไม่มีอะไรแล้วนะครับ” พอพูดเสร็จเขาก็เดินหนีกล้อง เพลิงเดินออกมาจากตรงนั้น กำลังสับสนเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น แล้วพ่อแม่กับน้องของเขาจะเป็นยังไง ทั้งหมดอยู่ที่อเมริกา แล้วพวกเขาจะโดนพวกมันทำอะไรบาดเจ็บหรือเปล่า ตอนนี้เขาไม่รู้จะไปทิศทางไหนจึงเดินกลับบ้าน

วันต่อมาขณะที่เขากำลังเดินไปโรงเรียนในทางเปลี่ยวที่เขาต้องผ่านทุกวี่ทุกวัน แต่วันนี้มันแปลกไป ถนนหนทางดูซับซ้อนกว่าเดิม เขาเริ่มเอะใจ แล้วทันใดนั้นกำแพงด้านข้างก็ระเบิดออก

ตู้มมม

เขาเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด ในจังหวะนั้นกำแพงอีกด้านก็ระเบิดใส่เขา แต่ด้วยความใฝ่รู้ในการเรียนศิลปะป้องกันตัว เขาจึงมีความสามารถในขั้นหนึ่ง หลบระเบิดได้อย่างฉิวเฉียด

“ออกมานะ ชั้นรู้ว่าเป็นพวกแก ไอ้พวกปีศาจ” เขาร้องตะโกน แต่ไม่มีอะไรตอบรับ เขาจึงเริ่มวิ่งหนี ระเบิดก็ดังตามหลังเขามาติด

“ทำไมมันไม่ออกจากซอยนี่ซะที!” เขาวิ่งไปเรื่อย แต่ก็ยังไม่พ้นซอย ไม่รู้ว่าทำไมจึงเป็นเช่นนี้

“เอ้า เจ้าหนูนี่ที่เจอกันเมื่อวันก่อนนี่นา” เสียงด้านหน้าเขาทำให้เขาหยุดชะงัก

“เอ้า ลุง มาไงเนี่ย” เพลิงตะโกนถาม “แต่อย่าเพิ่งพูดอะไรตอนนี้เลย หนีเหอะ” พอเพลิงพูดเสร็จระเบิดก็ระเบิดที่ด้านหลังเขาจนเขากระเด็นไปกองอยู่ที่เท้าของตาลุง (??)

“เฮ้อ เธอกับชั้นนี่ท่างทางดวงจะสมพงศ์กันจริงๆนะ รออยู่นี่หละ” เมื่อพูดจบเขาก็เดินไปด้านหน้าของเพลิง ระเบิดยังคงมาตามทาง จนสุดท้ายมันก็มาหยุดตรงหน้าของตาลุง

“จำไว้อย่างเจ้าหนู” เขาเอ่ยพร้อมหยิบแผ่นศิลาที่เหมือนของเพลิงออกมาจากจากเป๋า “ว่าชั้นน่ะ” เขากัดนิ้วโป้งจนเลือดออกแล้วหยดเลือดใส่แคปซูลแก้ว “ชื่อ ปฐพี ป้องเกียรติภูมิ หรือ ดิน” เขานำแคปซูลเสียบที่แผ่นศิลาแล้วเอามาไว้ที่เอว มีเข็มขัดที่มาจากเศษฝุ่นและหินดินทรายสร้างจนเป็นสายรัดไว้ “หรือเรียกชั้นว่า” เขาจับสลักที่เป็นด้ามจับกลมๆ “Rider Zet! แปลงร่าง!!” เขาดึงสลักแล้วดันขึ้น มีเสียงว่า ‘God Born’ เกิดผงฝุ่นเศษดินทรายมากมายมาล้อมรอบตัวเขาไว้ แล้วมันก็กระจายออก ชุดเกราะสีดำสวมอยู่บนตัวของดิน (ตาลุง) เขาขยับหน้ากากนิดหน่อยก่อนศัตรูจะโผล่มา

“ออกมาแล้วรึ ได้ตัวตุ่นปากเสีย” พอเขาพูดจบปีศาจตุ่นที่มีหน้าเป็นสว่านก็ออกมาจากพื้นดิน มันแสยะยิ้มใส่เขา

“ว่าใครตุ่นปากเสีย แกนั้นหละที่ปากเสีย ไอ้ไรเดอร์” เสียงแหบห้าวเอ่ย “แกต้องพบจุกจบวันนี้หละนะ” ไม่รอฟังคำใดๆ มันพุ่งเข้าใส่ดิน ง้างมือที่มีกรงเล็บยาวหมายจะตบเขาให้จมดิน แต่เขาก็เอาแขนขึ้นมากันแล้วต่อยเข้าที่ท้องของมัน แต่มันก็ไม่สะดุ้งสะเทือน พยายามเอากรงเล็บอีกข้างแทงหน้าเขา แต่เขาก็เอียงหัวหลบได้ทันท่วงที แต่เจ้าตุ่นไม่โง่ ใช้หลังมือฟาดเข้าเต็มๆ เขากระเด็นไปติดกำแพงแล้วล้มลง มันยังไม่หยุด

“ไอ้โง่เอ๊ย ตายง่ายๆแบบนี้จะเป็นไรเดอร์ได้ยังไงเล่า” มันพูดจบก็เตรียมเผด็จศึก ง้างกรงเล็บเต็มที่ กรงเล็บของมันเปล่งแสงสีขาว

“ตายซะเถอะ ไอ้หน้าโง่” พูดจบมันก็ใช้มือตบอย่างรวดเร็ว

“อ๊ากกกกกก” นี่เป็นเสียงร้องของความเจ็บปวด แต่ไม่ใช่เสียงของดิน แต่กลับเป็นเสียงของเพลิงที่เฝ้ามองอยู่นานมากันไว้ เขาโดนกรงเล็บอย่างรุนแรงจนกระเด็นไปอีกทาง เลือดไหลทะลัก กระเป๋าของเขาฉีกขาดกระจัดกระจายแล้วแผ่นศิลาที่วันนี้เพลิงนึกครึ้มเอาไปโรงเรียน ก็กระเด็นออกมาเช่นกัน

“หา นั้นมัน นี่เธอ” ดินพูดเมื่อเห็นสิ่งนั้น “เธอเอาเลือดหยดลงไปแล้วทำอยางที่ชั้นทำเมื่อกี้ซะ” เขาพูดไปก็ถีบปีศาจตุ่นออกไป มันถอยไปสองสามก้าว เขาลุกขึ้นหยิบแล้วกดสลักลงไป

“โอเพ่น เกท” เขาร้องขึ้น ‘Gate Open’ มีโพรงขนาดใหญ่เกิดขึ้น ภายในมีหินดินทรายมากมายหมุนบ้าคลั่งราวพายุ เขากระโดดเข้าไปในนั้นแล้วโผล่มาจากโพรงที่เกิดขึ้นทางด้านหลังของเจ้าตุ่น ถีบมันไปอีกทีจนหน้าคะมำ ‘God Zet Setup’ เสียงจากเข็มขัดเอ่ยขึ้น สีของชุดเกราะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล เขาหยิบเหรียญออกจากแท่งใส่แล้วหย่อนลงข้างเข็มขัดแล้วกดปุ่ม ‘Weapon Mega Smasher’ เขาหยิบด้ามเหล็กยาวที่อยู่ที่เข็มขัดอีกด้านออกมา มันเปล่งแสงแล้วก็มีใบมีดออกมาทั้ง2ด้านกลายเป็นทวน เขาควงทวนแล้ววิ่งเข้าใส่มัน ฟาดลงไป แต่มันก็ใช้กรงเล็บกันไว้ได้ทัน

ทางด้านเพลิงที่นอนเจ็บอยู่ก็พยายามหยิบแผ่นศิลาจนหยิบได้ เขาก็รินเลือดที่ไหลอย่างบ้าคลั่งลงไปพอเสียบเสร็จมือเขาก็ชาไม่มีความรู้สึกเขาไม่มีแรงจะจับแผ่นศิลานั้น มันหล่นกลิ้งกับพื้น แต่ทันใดนั้นเองมันก็หมุนแล้วลอยขึ้น บินไปมาแล้วมาอยู่ที่เอวของเขา มันฝังรากบางอย่างลงบนเอวของเขา แต่ความรู้สึกนั้นก็ไม่เจ็บปวดเท่าอาการเจ็บของเพลิงตอนนี้ เขาใช้แรงเฮือกสุดท้ายดึงสลักขึ้น ‘God Born’ แล้วเขาก็หมดสติไป แต่ก็เกิดแสงสีแดงขึ้นที่เข็มขัดแล้วก็มีไฟมาปกคลุมร่างกายของเขา ไฟได้กระจายไปคนละทาง ร่างของเขายืนตระหง่านในชุดเกราะสีดำ เขาไม่รู้สึกเจ็บปวดอีกแล้ว เขาจ้องมองสองร่างที่กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดแล้ววิ่งเข้าใส่บาเบลตุ่น กระโดดถีบมันตอนที่กำลังเผลอมองดินอยู่ มันล้มลงกลิ้ง มันลุกขึ้นแต่ยังมึนๆอยู่

“จะเผด็จศึกละนะ” ดินเอ่ย เขาหยิบเหรียญออกมา หย่อนแล้วกดปุ่ม ‘Ending Prompt’ เขากระโดดขึ้นไปแล้วดึงสลักขึ้น กดมันลงไปอีกครั้ง ‘Lifting Down’ เขาตอกส้นใส่มัน มันก็กลายเป็นควันในทันที เขารีบดูดควันใส่แคปซูลแล้วเก็บเหรียญ เขาดึงสลักขึ้นดึงมันลงแล้วกดลงไป เกราะของเขาก็กลายเป็นควัน เพลิงเห็นก็ทำเช่นเดียวกัน

“สงสัยเธอกับชั้นต้องคุยกันอีกนาน ไปกันเหอะ” ดินพูดจบก็เดินนำไป เพลิงเห็นดังนั้นจึงรีบไปเก็บของแล้ววิ่งตามไป

เรื่องราวของสงครามระหว่างเหล่าไรเดอร์และเหล่าปีศาจจะเป็นอย่างไรต่อไป ชีวิตของเพลิงจะเป็นเช่นไร

To be continue…