คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : เปิดเทอม
เช้าวันใหม่ของคริสในโรงเรียนแห่งใหม่ดูสดใสมาก วันแรกนี้เป็นวันปฐมนิเทศจึงยังไม่ต้องเรียน พูดง่ายๆคือรับน้องใหม่ มีการแสดงโชว์ของรุ่นพี่ปี5และปี6 และมีการเดินสำรวจในโรงเรียนโดยรุ่นพี่จะเป็นผู้นำทาง เมื่อถึงห้องโถงกลางโต๊ะยาววางเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ8แถว และมีอีก3แถวเป็นโต๊ะของอาจารย์ ในตอนนี้มันยังเป็นห้องที่ว่างเปล่าไร้ซึ่งผู้คน แต่คริสนึกภาพว่าหากมีนักเรียนอยู่เต็มห้องโถงแห่งนี้คงจะสนุกมิใช่น้อย
“เฮ้! เป็นอะไรไปนะเพื่อน โอ๊ย!” เสียงของเด็กคนหนึ่งร้องออกมาเป็นเพราะถูกเพื่อนของเขาซัดซะกระเด็น แล้วก็ค่อยกลายร่างไปเป็นปีศาจน่าเกลียด
“ไอ้บ้าเอ๊ย!” คาร์ลอสตะโกนออกมา เขาหยิบการ์ดใบหนึ่งขึ้นมาตะโกนสุดเสียงว่า
“แดช!” พร้อมพุ่งออกไปด้วยความเร็วสูงกับก้อนประจุไฟฟ้าที่อยู่ในกับมือ ตูม!เสียงกัมปนาทดังสนั่นขึ้น กลุ่มควันใหญ่สีเทาลอยไปในอากาศ อึดใจต่อมาร่างของคาร์ลอสเดินลากอีกร่างหนึ่งซึ่งกลายเป็นถ่านดำทมิฬออกมา ถ่ามกลางนักเรียนมากมาย
“รุ่นพี่ผมว่าไปเรียกอาจารย์มาดีกว่า โรงเรียนของเราไม่ปลอดภัยซะแล้ว” สิ้นเสียงรุ่นพี่คนนั้นรีบวิ่งไปหาอาจารย์ สายตานักเรียนคนอื่นมองมาทางคาร์ลอสเป็นตาเดียวรวมทั้งคริส เรเวนและโจเซฟ
“นายจะมองหาพระแสงอะไรกัน” คาร์ลอสพูดจบแล้วก็เดินขึ้นบันไดไปยังหอคอยธรรมชาติ
“นายว่าเขาทำได้ไง” เรเวนหันมาพูดกับคริส
“จะไปรู้เหรอ” คริสตอบกลับมาอย่างงงๆ ไม่กี่นาทีต่อมาอาจารย์เลโอนาโดก็วิ่งมาพร้อมกับรุ่นพี่คนนั้น เมื่อมาถึงอาจารย์เลโอนาโดก็ทำสีหน้าประหลาดใจ
“นี่มันปีศาจระดับซีเลยนะเนี่ย เละขนาดนี้เลยหรอเนี่ย” คำพูดนี่ทำให้เกิดเสียงกระซิบกระซาบในหมู่นักเรียน เรเวนหันมาพูดกับคริสเพราะรู้ว่าคริสคงไม่รู้คำพูดนั้นแน่นอน
“ปีศาจจะแบ่งออกเป็น6ระดับคือ เอ บี ซี ดี อีและเอฟ ระดับเอจะเก่งที่สุดและแน่นอนระดับเอฟนี่อ่อนมาก ที่คาร์ลอสสู้ด้วยเป็นระดับซีซึ่งถือว่าฝีมือเก่งทีเดียว แต่เขาสามารถจัดการมันได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวแสดงว่าพลังของเขาไม่ธรรมดาจริงๆ” เมื่อเรเวนไขข้อสงสัยให้คริสแล้วการปฐมนิเทศได้จบลงโดยกะทันหันพวกเขาทั้ง3จึงวิ่งตามคาร์ลอสไปเมื่อถึงชั้น3แล้วพวกเขาขึ้นลิฟท์ไปยังชั้น45 เมื่อมาถึงห้องที่มีสี่เตียงเด็กหนุ่มตาสีเขียวซึ่งในตอนนี้แววตาของเขาดูน่ากลัวไม่น้อยกำลังนอนเอกเขนกอยู่บนเตียง
“ไอ้ตัวนั้นมันตายแล้วใช่มั้ย” เสียงที่ฟังแล้วขนลุกเปล่งออกมาจากปากของเด็กหนุ่มที่ชื่อคาร์ลอส ทำให้ทุกคนรู้สึกเหมือนไม่รู้จักคนผู้นี้
“นายทำได้ยังไง นายรู้มั้ยนั้นมันระดับซีนะถ้านายตายขึ้นมาก็เป็นเรื่อง นายไม่ทำอะไรเสี่ยงได้มั้ยเนี่ย! ฉันละเบื่อกับนายจริง” โจเซฟตวาดพ่อหนุ่มที่นอนยิ้มอย่างสะใจ โจเซฟรีบหันมาหาเพื่อนอีกสองคน “นายรู้มั้ยจากเซลามมานี่นะ เขาฆ่าปีศาจไปกว่าสิบตัวแล้ว แต่ที่ผ่านมามันมีแต่ตัวที่ไม่เกินระดับดี ไม่รู้ทำไมเห็นปีศาจเป็นไม่ได้ต้องฆ่าสถานเดียว” เมื่อบ่นเสร็จเขาก็เดินออกไป
“ฉันว่าพวกเราก็ไปกันเถอะ” คริสพูดขึ้นแล้วพาเรเวนเดินออกไปจากห้องก่อนที่พวกเขาจะขึ้นลิฟท์มีผู้คนมุงดูบางอย่างแล้วก็มีเสียงเฮ คริสเหลือบไปเห็นชายคนหนึ่งอยู่กลางฝูงชนที่รุมล้อม ในมือทั้งสองนั้นมีกิ้งก่าและค้างคาว เมื่อมือทั้งสองประกบเข้าหากันก็เกิดแสงสว่างวาบ เมื่อเขาผายมือออกกิ้งก่าและค้างคาวก็ได้กลายเป็นมังกรสีดำ
“คริสเข้ามาเร็ว” เมื่อคริสเข้าไปในลิฟท์เรเวนกดชั้นที่100ที่อยู่บนสุด ซึ่งใช้เวลาแค่ชั่วครู่ก็ถึง ในขณะที่ประตูลิฟท์แง้มเปิดออก เสียงกระหึ่มของดนตรีดังลอดเข้ามาทางช่อง เป็นเสียงดนตรีนับร้อยมารวมกันเป็นเสียงเดียวซึ่งฟังไม่ค่อยออกเสียงค่อยๆดังขึ้นเรื่อยตามประตูลิฟท์ที่เปิดออก แสงไฟสีสันต่างๆมากมายฉายมากระทบใบหน้าของพวกเขา ตัวอักษร7สีขนาดใหญ่อยู่เหนือหัวพวกเขาสื่อให้รู้ว่าสถานที่นี้คือที่ไหน
‘เกมส์ เซ็นเตอร์’
คริสมองซ้ายมองขวาอย่างลังเล เขาไม่รู้ว่าต้องไปทางไหน ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของเรเวนที่ต้องเป็นไกด์จำเป็น
“ฉันรู้ว่านายอยากเล่นอะไร” เรเวนตอบพลางยักคิ้ว เขาหยุดเดินทันทีที่พูดเสร็จ ตรงหน้านั้นคือตู้เวอร์ชวล วอร์ นับร้อยตู้เรียงรายกันเป็นสี่แถว แต่ทว่ามีตู้ว่างแค่ไม่ถึงสิบตู้เท่านั้น คริสและเรเวนจึงรีบวิ่งไปจอง พวกเขาได้สองตู้สุดท้ายพอดี
“ฉันลงทะเบียนให้นายแล้ว ไอดีนายคือคริส ส่วนพาสเวิร์ดคืออเมริกานะไปหละ” เรเวนพูดเร็วๆแล้วโดดเข้าตู้ไป คริสยืนงงอยู่คูร่นึงจึงก้าวเข้าไปในตู้ ประตูได้ปิดลงทันที ห้องสว่างสีขาวที่มีถุงมือสีดำและแว่น
เหมือนตัวการ์ตูนในเรื่อง เอ็กซ์-เมน ในอเมริกาซึ่งทั้งสองอย่างก็มีสายไฟระโยงระยาง เขาก็รู้ได้ในทันทีว่าต้องนำมันมาสวม คูร่ใหญ่ต่อมามีเสียงของผู้หญิงดังมาจากที่ไหนสักแห่ง
“ขอต้อนรับสู่ ‘เวอร์ชวล วอร์’ กรุณาป้อนไอดีด้วย”
คริสยังงงอยู่แต่ก็นึกขึ้นได้ “คริส” เสียงนั้นตอบกลับ “กรุณาป้อนพาสวิร์ดด้วย” “อเมริกา” เสียงนั้นตอบกลับมาอีกครั้ง “ไอดีและพาสเวิร์ดถูกต้อง ขอให้ท่านเล่นให้สนุก” สีขาวรอบๆตัวคริสก็กลายเป็นสีสันต่างๆมากมายแม้แต่ชุดของเขาเองก็แตกเป็นอณู แว่นและถุงมือก็เช่นกัน ในสภาวะที่ไร้เสื้อผ้าที่อับอายเช่นนี้ เขาคิดว่าถ้าโผล่ไปในที่ๆมีคนเยอะจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
แต่ไม่นาน เสื้อผ้าก็กลับเขามารวมกันที่ตัวเขาอีกครั้ง เพียงแต่มันไม่ใช่ชุดเดิม แจ็คเก็ตสีดำบนเสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสั้นสีเดียวกับแจ็คเก็ต ถุงมือสีน้ำตาลและรองเท้าบูทสีดำได้ถูกสวมลงบนตัว สภาพรอบข้างกลายเป็นเมืองที่มีผู้คนมากหน้าหลายตา ด้านหลังเขาเป็นน้ำพุตรงกลางเป็นรูปปั้นกามเทพสีทองอร่าม นาทีต่อมาชายในชุดคลุมสีน้ำตาลเข้มซึ่งมีฮู้ดคลุมหน้าอยู่ก็เดินเข้ามา
“ดูเท่ห์ไม่เบานี่คริส” ชายลึกลับผู้นั้นเอ่ย “ตามมา” คริสงงจนพูดไม่ออกว่าชายคนนั้นรู้ชื่อเขาได้ยังไงแต่เขาก็เดินตามไปอย่างไม่ลังเล “เอ่อ...คุณเป็นใครหรือครับ” คริสถาม ชายลึกลับหันมาช้าๆ คริสเริ่มกลัวเขามากขึ้น “นี่นายลืมเพื่อนจริงๆเหรอเนี่ย”แล้วชายผู้นั้นก็เปิดผ้าคลุมหน้าออก ใบหน้าอันขาวสะอาดนั้นคือเรเวนนั้นเอง “อ้าว...ไอ้บ้าแกเล่นปล่อยให้ฉันกลัวตั้งนาน” ว่าแล้วคริสก็ตบหัวไอ้ตัววายร้ายไปซะหนึ่งทีก่อนที่จะเอาฮู้ดมาคลุมเช่นเดิม แล้วเขาจึงเดินต่อไป
เมื่อถึงร้านที่มีตู้โชว์ดาบต่างๆด้านหน้าเรเวนจึงเดินเข้าไป ภายในร้านมีคนอยู่ไม่น้อยกำลังเลือกซื้ออาวุธต่างๆมากมาย บางคนกำลังเพ่งพิจารณาอาวุธบางชิ้นอย่างใจจดใจจ่อ เรเวนไม่สนใจสิ่งรอบข้าง เขาเดินตรงไปหยิบมืดสีเงินวาววับแล้วตรงไปที่เคาท์เตอร์ เขากดปุ่มที่โทรศัพท์มือถือสีเงิน ซึ่งขณะนี้มีจอภาพต่างๆมากมายแล้วเขาก็หยิบเงิน500รีเบลต์ออกมาจ่ายค่ามีด
“ฉันให้นาย” เรเวนพูดห้วนๆพร้อมกับยัดมีดที่จ่ายเงินแล้วให้คริสแต่เขาก็เกิดเกรงใจเพื่อนคนนี้ที่คอยซื้อโน่นซื้อนี่ให้เขามาโดยตลอด
“ฉันรับไว้ไม่ได้ นายให้ฉันมามากแล้ว” คริสทำทีจะยื่นมีดคืนแต่สีหน้าใต้ผ้าสีน้ำตาลนั้นเล่นเอาคริสถึงกับสยอง
“บอกว่าให้ก็ให้สิเพื่อน!” เรเวนพูดออกมาในเสียงเชิงขู่ เป็นการบอกว่าถ้านายไม่เอาตายแน่ ทำให้คริสถึงกับกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ เมื่อการบังคับขู่เข็ญจบลงพวกเขาก็พร้อมเดินทางต่อแต่เพียงออกมาหน้าร้านเขาก็ต้องประหลาดใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า เลือที่เปรอะเปื้อนเป็นทางยาวทั้งบนถนนและตึกรามบ้านช่อง ซากศพมากมายเกลื่อนกลาดระเนระนาดไม่มีชิ้นดี เมื่อมองไปทางน้ำพุกลางเมืองสิ่งที่ได้พบเห็นคือมอนสเตอร์กระทิงตัวสูงกว่าตึก5ชั้นที่ยืนด้วยสองขา เขายาวสีมุกแหลมคมของมันพร้อมที่จะเสียบพวกเขาทุกเมื่อ ในมือมีขวานขนาดใหญ่ที่มีเลือดสดๆจำนวนมากติดอยู่
“มิโนทอร์” เรเวนพึมพำในสิ่งที่อยู่ตรงหน้า สีหน้าตกใจนั้นทำให้คริสกังวลเอามากๆ
“ฉันว่าพวกนายอยู่เฉยๆดีกว่า เดี๋ยวจะเหมือนพวกนั้น” เสียงๆหนึ่งดังมาจากด้านหลังทั้งสอง เป็นเสียงที่คุ้นเคย เมื่อหันไปดูเจ้าของเสียงก็พบว่าไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นโจเซฟนั้นเอง เขาใส่เสื้อเชิ้ตแขนกุดละกางเกงยีนส์ และยังใส่สนับมือเหล็กเงางาม “คริสนายยังเป็นอาชีพนี้อยู่ซินะ เอางี้เดี๋ยวนายมาแชร์ค่าประสบการณ์กับฉันโดยที่ฉันจะใช้แบบนายได้คนเดียวแล้วอยู่เฉยๆไว้นะ” เมื่อเขาพูดเสร็จก็ไปจัดการกับโทรศัพท์มือถือสีเงินของตนเองที่เหมือนของเรเวน
“เรียบร้อย รออยู่นี่นะ” เขาพูดเมื่อจัดการกับมือถือเสร็จ แล้ววิ่งเข้าไปหามอนสเตอร์ยักษ์ตัวนั้น ภาพการต่อสู้ที่ฉับไวได้เริ่มขึ้น โจเซฟกระโดดขึ้นสูงเท่าหน้ามันแล้วต่อยเข้าไปสองหมัดก่อนที่จะลงพื้นอย่างนิ่มนวล กระทิงที่โมโหจัดกำลังเงื้อขวานเตรียมฟันแต่ก็ไม่ทันที่ขวานจะฟันลงมา
“ท็อปกัน!” หมัดอีกสิบหมัดรัวเข้าไปที่ท้องของมันอย่างรวดเร็วจนมองไม่ทัน เลือดสีแดงสดไหลรินออกมาจากปากมอนสเตอร์ยักษ์ก่อนที่มันจะมันล้มลงดังสนั่นทำให้พื้นแถบนั้นสะเทือน แม้แต่คริสและเรเวนเองก็เกือบล้มไปตามๆกัน โจเซฟยังไม่หยุด
“คอล สปิริต!” เขาดีดนิ้วสามครั้งพร้อมๆกับที่ลูกไฟวิญญาณสามลูกโผล่ออกมารอบๆตัวเขา เจ้ามอนสเตอร์ลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็วแต่มันยังตั้งสติไม่ได้ บัดนี้กำปั้นของโจเซฟได้ต่อยลงไปในพื้นซึ่งแตกออกไปหาเจ้ายักษ์ใหญ่เถาวัลย์สีเขียวพุ่งขึ้นมารัดมันไว้ เมื่อได้สติจึงรู้ว่าตัวเองไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ มันดิ้นสุดกำลังแต่ก็ไม่หลุด
“แกตายแน่!” โจเซฟตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง เขาถอนกำปั้นออกจากพื้นแล้วชูขึ้นในอากาศลูกไฟทั้งสามมารวมกันที่หมัดของเขา เกิดแสงสว่างจ้าแสบตาเขาวิ่งเข้าไปหามอนสเตอร์ที่กำลังบ้าคลั่ง ไม้กางเขนขนาดใหญ่ฉายลงบนตัวของมัน เขาพุ่งเข้าไปหากางเขนสีขาว
“แกรนด์ ไดนามิค!” ตูม!เสียงระเบิดดังสนั่นร่างนั้นสลายกลายเป็นฝุ่นผง เลเวลของคริสขึ้นจาก1เป็น25ในทันที ในตอนนี้เขาสามารถเปลี่ยนเป็นอาชีพอื่นได้แล้ว
“ฉันว่ามีดที่ซื้อให้นายมันไร้ค่าแล้วแหละ” เรเวนพูดอย่างเซ็งๆ “งั้นไปหาโจเซฟกัน จะได้ไปเปลี่ยนอาชีพ” เขาพูดต่อแล้ววิ่งนำไปหาโจเซฟ เมื่อมาถึงก็เห็นโจเซฟที่สภาพอ่อนล้าสุดๆ
“ฉันไปก่อนดีกว่า เหนื่อยแถบตาย ดีนะที่ได้ไอเท็มมา ไปละ ล็อกออฟเซิร์ฟเวอร์โจเซฟ” เมื่อพูดจบ ก็เกิดแสงสีขาวรอบตัวเขา แล้วเขาก็หายไป
“เดี๋ยวฉันจะอธิบายการเปลี่ยนอาชีพให้นายฟัง” เรเวนเอ่ยขึ้น “ตอนนี้นายสามารถเปลี่ยนเป็นขั้นสองได้เลย ปกติต้องเป็นขั้นหนึ่งก่อน จะมีสาย ซวอร์ดแมน ทีฟ อโคไลท์ ไฟท์เตอร์และเมจิกเชี่ยน ยังมีอาชีพขั้นสองอีกมากมาย” เขาอธิบายอีกมาก จนอีก15นาทีต่อมาคริสก็เลือกได้ว่าจะเป็นสายซวอร์ดแมนอาชีพดราก้อนวอร์ริเออร์
เมื่อพวกเขามาถึงสถานที่เปลี่ยนอาชีพเป็นซวอร์ดแมนเมื่อเข้าไปด้านในมีคนกำลังเปลี่ยนเป็นซวอร์ดแมนมากมาย และไม่ได้รับรู้สิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่ สายตาของผู้คนค่อยจับตาดูทั้งสองคนจนในที่สุดทุกคน ณ ที่นี้ก็ราวกับถูกสะกด ทุกสายตารวมกันเป็นสายตาเดียว ทั้งคู่เดินไปเรื่อยจนถึงเคาท์เตอร์ติดต่อแต่สายตาทุกคู่ก็ยังคงจับจ้องพฤติกรรมอยู่ไม่ขาดสาย
“เขามาสมัครเป็นซวอร์ดแมนช่วยรีบดำเนินการโดยเร็วด้วย” เรเวนพูดเสียงขรึม พนักงานอึ้งไปชั่วคูร่ก่อนจะนำเอกสารต่างๆขึ้นมาให้คริสกรอก เมื่อกรอกข้อมูลเสร็จพนักงานได้ทำการบอกเกี่ยวกับสิ่งของที่ต้องทำการหาในการเปลี่ยนอาชีพ
“คุณต้องหาของสองอย่าง” เขาเริ่มอธิบาย “อย่างแรกคือผลสุกของต้นมากิดอพท์ และอย่างที่สองคือถุงมือหนังมังกรครับ” พนักงานพูดไม่ทันขาดคำของผลไม้สีฟ้าสดใสกับถุงมือสีเลือดก็มากองอยู่ตรงหน้า มันออกมาจากมือถือของเรเวนนั้นเอง
“เยี่ยมครับ ไม่ต้องเสียเวลา” แล้วพนักงานคนนั้นก็ยื่นกุญแจสีทองอร่ามกับโทรศัพท์มือถือสีเงินให้
คริสซึ่งยืนอ้ำอึ้งอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะรับมันไว้ “เชิญทางนี้ครับ” พนักงานคนนั้นผายมือออกเป็นทีว่าให้คริสเดินไปตามที่เขาบอก เมื่อผ่านประตูไม้เก่าคร่ำครึมาในสายตาของคริสตอนนี้พบประตูสีทองสิบบาน แปดบานยังคงเปิดอ้าอยู่แต่อีกสองกำลังมีคนอยู่ด้านใน
“เข้าไปเลยครับ จะมีรูกุญแจอยู่ แล้วทำตามที่เครื่องมันบอกนะครับ” พนักงานบอกแล้วเดินออกไป ประตูสีทองปิดลงทันที ในห้องไม่มีอะไรนอกจากลวดลายต่างๆที่เป็นทางแตกแยกออกไปมากมายแล้วไปรวมกันที่รูกุญแจกลางผนัง นาทีต่อมาก็มีเสียงผู้หญิงที่เขาเคยได้ยินดังมา
“กรุณาป้อนไอดีด้วย” “คริส” เขาตอบกลับอย่างมั่นใจเต็มร้อย “กรุณาป้อนพาสเวิร์ดด้วย” “อเมริกา” “ไอดีและพาสเวิร์ดถูกต้อง กรุณาเสียบกุญแจเพื่อทำการเปลี่ยนอาชีพด้วย”เมื่อได้ยินดังนั้นคริสจึงเสียบกุญแจเข้าไปในรู มีแสงสว่างวาบขึ้นมาที่ตัวกุญแจ แล้วทุกสิ่งรอบๆตัวเขาก็กลายเป็นสีสันมากมาย เสื้อผ้าแตกออกเป็นอณู และมารวมกันอีกครั้งอย่างรวดเร็ว แจ็คเก็ตเสื้อยืดยังอยู่เหมือนเดิมแต่ที่เปลี่ยนไปคือกางเกงและส่วนที่เพิ่มเติมมา
กางเกงขาสั้นได้เปลี่ยนเป็นขายาว เกราะเหล็กสีเงินถูกสวมลงบนไหล่ ที่ข้อศอก หลังมือและหัวเข่าก็เช่นกัน บัดนี้เขาดูเหมือนนักดาบขึ้นมาบ้างแล้ว เขาเดินออกไปสู่ที่ลงทะเบียนอีกครั้งด้วยมาดใหม่
“คุณจะได้รับดาบ1เล่มและสมาร์ทโฟนอีก1เครื่องเพื่อใช้ในเวลาเล่นเกม ขอให้มีความสุขกับอาชีพใหม่ครับ” พนักงานคนเดิมเอ่ย พวกเขาเดินออกมาจากสถานที่เปลี่ยนอาชีพเพื่อไปยังอีกที่ แต่เมื่อเขาดูเวลาที่สมาร์ท โฟนก็พบว่าใกล้1ทุ่มซึ่งเป็นเวลาที่ทุกคนต้องไปงานเลี้ยงเปิดเทอมแล้ว
“เฮ้คริสฉันว่าเราไปกันเถอะ เดี๋ยวค่อยมาเปลี่ยนอาชีพที่หลังก็ได้ และวิธีออกคือพูดว่า ‘ล็อกออฟเซิร์ฟเวอร์’ แล้วพูดไอดีตัวเองเข้าใจบ่” เรเวนพูดติดตลก แล้วคริสก็ทำตามเมื่อเขากลับมาสู่ตู้เวอร์ชวลวอร์และเครื่องแบบนักเรียนได้สวมอยู่บนตัวแล้ว เขาถอดแว่นและถุงมือออกมาจากตู้ สมทบกับเรเวนที่รออยู่แล้ว
เวลา18.50น.ทั้งคู่วิ่งไปถึงประตูห้องโถงกลาง บนประตูมีอักษรสี่สีติดอยู่ว่า ‘M.A.R.S’ ซึ่งเรเวนอธิบายว่าย่อมาจาก ‘
“นายเป็นไงบ้าง” คริสถามเพื่ออย่างห่วงใย
“ไม่เป็นไรหรอกเพียงทำตู้เกมส์พังไปตู้นึง” คาร์ลอสตอบอย่างเหม่อลอย
คริสไม่ได้พูดอะไรอีก จนเวลา19.00น.อาจารย์ใหญ่ทั้งสี่คนก็เดิขึ้นมายืนบนแท่นยาวหน้าห้องโถงจากมุมนี้คริสสามารถเห็นหน้าอาจารย์เลโอนาโดได้อย่างชัดเจน
“ก่อนที่เราจะเริ่มงานเลี้ยงกันเราทั้งสี่มีอะไรจะพูดกับนักเรียนทุกๆคน” ชายตัวเตี้ยรุ่นราวคราวเดียวกับอาจารย์เลโอซึ่งอยู่ด้านขวาสุด
“ครูขอให้ทุกคนยึดมั่นในกฎของโรงเรียนทุกข้อ และชั้นบนสุดของราบาโร่เซ็นเตอร์เป็นพื้นที่ต้องห้ามโดยเด็ดขาด” เสียงแหลมสูงของผู้หญิงข้างซ้ายของอาจารย์เลโอ เกิดเสียงซุบซิบขึ้นเล็กน้อย
“และอย่างสุดท้ายนี้ครูอยากเห็นรอยยิ้มอันสดใสของพวกเธอ ฉะนั้นเขตสุสานห้ามเข้าไปโดยเด็ดขาดมิว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น เข้าใจมั้ย”เสียงนุ่มลึกน่าเกรงขามของชายที่มีผมและเคราสีขาวโผลนทำให้ราวกับว่าในห้องโถงนี้มิได้มีสิ่งมีชีวิต นัยตาสีซีดสาดมองยังนักเรียนไปทั่ว
“งั้นเราทั้งสี่คนขอเริ่มงานเลี้ยง ณ บัดนี้”เมื่ออาจารย์เลโอพูดจบก็เกิดเสียงเฮดังสนั่นพร้อมกันกันที่ประตูห้องโถงเปิดออกดังปึง บริกรนับร้อยเดินเรียงแถวเข้ามากับถาดอาหารในมือ กลิ่นหอมยั่วน้ำลายลอยมา
ตามลมเข้าจมูกของใครหลายคน 10นาทีต่อมาทุกอย่างก็มาวางอยู่ตรงหน้าทั้ง สเต็กเบนย่า ไก่ราฟาภูเขาทอด มันฝรั่งบด ยำฟูรุเอวาส นกนิลกายและที่เด็ดที่สุดคือ ลาลานิสไพโรที่มีไฟเย็นลุกอยู่ตลอดเวลา คริสลังเลอยู่นานทั้งที่คนอื่นตักเอาๆ
“เอานี่เพื่อน นายต้องชอบ” เรเวนตักมันบดกับเนื้อสีม่วงชิ้นใหญ่ มันคือสเต็กเบนย่า เพียงชิ้นเนื้อสัมผัสลิ้นเขาเท่านั้นมันก็ละลายไป รสชาติเข้มข้นอร่อยล้ำลึกมีอยู่เต็มปาก เนื้อตรงหน้าหมดไปอย่างรวดเร็วเขาตักเนื้อชิ้นใหม่ขึ้นมาแล้วกินมันอย่างรวดเร็วอีกครั้งจนหลายคนสนใจขณะนี้เขากินไปแล้ว5ชิ้นเมื่อรู้ตัวว่าสายตาหลายคู่จับจ้องพฤติกรรมที่ไม่ค่อยจะมีมารยาทของเขา
คริสยืดตัวขึ้นกระแอมเบาแล้วค่อยๆบรรจงตักปีกนกสีดำ คำแรกเขาก็เกิดสำนึกผิดทันทีที่นำมันมาใส่ปาก รสชาติของมันเกินกว่าจะหาคำบรรยายได้ เขาคายมันทิ้งในทันที เด็กชายที่นั่งถัดจากเขาไป4ที่กำลังกลั้นหัวเราะสุดกำลังแต่ก็ไม่อาจเก็บไว้ได้ เสียงหัวเราะระเบิดออกมา เขาหันไปหาเพื่อนเขาและเล่าเหตุการณ์เมื่อครู่ให้ฟัง คราวนี้เสียงหัวเราะดังขึ้นกว่าเก่าแต่ไม่นานก็เงียบลงเพราะอาจารย์เลโอกำลังจ้องเขม็ง
“ฉันกะแล้ว ทีนี้ก่อนจะกินอะไรถามกันก่อนนะเพื่อน” คาร์ลอสแซว “เรเวนสอนเขาหน่อยซิ”
“วิธีที่นายจะกินมันนะนายต้องราดซอสสีเขียวนี่ก่อน” เรเวนพูดพลางทำให้ดู “และอีกอย่างคือห้ามกินปีกมันเด็ดขาดเพราะผลมันจะออกมาแบบเมื่อกี้ แค่นี้แหละเพื่อน” ถึงคริสจะรับรู้วิธีทานอย่างไรให้ปลอดภัยแล้วเขาก็ไม่อยากไปยุ่งกับนกนิลกายอีก
เรเวนตัดเนื้อจากตัวที่มีเขาแปลกประหลาดและติดไฟสีขาวอยู่ตลอดเวลา มันคือลาลานิสไพโรนั้นเอง ไฟสีขาวนวลยังคงลุกอยู่เมื่อเข้าปาก ความเย็นน้อยเข้าแทรกซึมรสอ่อนละมุนละไมของมันทำให้เขาเคลิ้มแต่ทันใดนั้นรสขมนิดๆก็ทำให้รสอื่นๆหายไปหมด บัดนี้ทุกสิ่งที่เขาเห็นมันแดงเถือกไปหมดก่อนจะหมดสติไปเขาจำได้แค่ว่าเขาลุกขึ้นแล้วทุกอย่างก็ค่อยๆมืดลง
“นี่ฉันอยู่ที่ไหนเนี่ย” คริสเอ่ยเบาๆ รอบตัวมีแต่ความมืดมิด คริสยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ ในหัวยังคิดว่าที่นี้คือที่ใด เดินไปอีกไม่นานเขาก็เห็นบางสิ่งที่เด่นชัดเพราะมันเป็นสีแดงอยู่ลิบๆเขารีบวิ่งไปยังจุดนั้นแต่ยิ่งวิ่งไปก็เหมือนกับมันไกลออกไปเรื่อยๆ ทันใดนั้นคริสก็ร่วงลงไปในเหวลึกลงไปเรื่อยๆ
คริสจะเป็นอย่างไรแต่แล้วแสงสว่างก็สาดปะทะใบหน้าของเขา เขาอยู่ที่ไหนกันแน่?
ความคิดเห็น