คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : แฟ้มคดีที่ 1 เบาะแสปริศนา[ฉากที่ 6]
เบาะแสปริศนา[ฉากที่ 6]
"นั่นคือ ผู้ต้องสงสัยทั้งหมดที่เราสามรถตามตัวได้" สารวัตรโอคิฮาระกล่าวสั้นๆกับโรคุ ขณะที่เด็กหนุ่มเดินเข้ามาภายในห้องเล็กๆนั้นกับฟุยูนะ แต่สายตาของเขากลับจ้องไปที่อีกหนึ่งสาวที่ยืนอยู่ใกล้ๆเสียมากกว่า
ห้องสืบสวนหนึ่งเป็นห้องขนาดเล็กๆ พอที่จะให้ตำรวจผู้รับผิดชอบนั่งพิจารณาคดีได้พร้อมกับผู้ต้องสงสัย ภายในบุด้วยผนังเก็บเสียง ดังนั้นผู้ที่อยู่ภายนอกจะไม่มีวันได้ยินเสียงจากภายในได้เลย ถ้าเขาปิดประตูสนิท มีเก้าอี้อยู่5ตัว และถูกจับจองไปแล้ว 3 ตัว
"ถ้างั้นเราจะเริ่มทำการสอบสวนเลยละกัน" สารวัตรกล่าวเปิดเรื่องก่อนจะเริ่มแนะนำผู้ต้องสงสัยทีละคน
"คนแรกโคชิอุมิ มานารุ น้องชายของผู้ตาย" สารวัตรบอกพร้อมกับหันไปมองมานารุโดยมีโรคุมองตามไปทางชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่ซ้ายสุดในบรรดาผู้ต้องสงสัยทั้ง3คน มานารุเป็นชายวัยกลางคน รูปร่างอ้วนท้วมดูสมบูรณ์ แต่ผมที่ปกคลุมศรีษะอยู่เปลี่ยนเป็นสีขาวเกือบหมด ยิ่งกว่าพี่ชายของเขาที่โรคุเห็นมาแล้ว นั่งก้มหน้าก้มตามองหัวเข่าของตนเองตลอดขณะที่ร่างกายแสดงอาการสั่นอย่างเห็นได้ชัด
"เขาตกเป็นผู้ต้องสงสัยเพราะในคืนเกิดเหตุมีคนเห็นเขาไปที่โรงแรมที่ผู้ตายพักอยู่" สารวัตรโอคิฮาระอธิบาย พร้อมกับที่มานารุลุกพรวดจากที่นั่งของตนเอง "เปล่านะ เปล่า" เขาร้องปฏิเสธพัลวัลขณะตรงดิ่งเข้ามาเขย่าแขนสารวัตรโอคิฮาระแบบเอาเป็นเอาตาย "ผมไม่ได้ฆ่าพี่นะ ไม่ได้ฆ่า" ชายหนุ่มร้องอย่างบ้าคลั่งซ้ำไปซ้ำมาราวกัลคนเสียสติ เขากระตุกแขนเสื้อสารวัตรอย่างแรงจนกระทั่งนายตำรวจอีกสองคนต้องมาลากเพื่อไปนั่งสงบสติอารมณ์ที่ที่นั่งตนเองซักพัก จึงค่อยสงบลง
"ถ้าอย่างนั้นช่วยตอบได้มั้ยครับ คุณไปทำอะไรที่เกิดเหตุในวันนั้น" โรคุถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบเมื่อเห็นว่าชายที่ตนถามเริ่มสงบลงแล้ว
"เอ่อ" มานารุถึงกับชะงักเมื่อได้ยินคำถามนั้น เขาเริ่มอึกอักราวกับไม่รู้ว่าจะตอบว่าอย่างไรดี
"แหม ทำไมไม่บอกไปเลยล่ะครับว่าคุณอาไปขอร้องให้คุณพ่ออย่าเอาเรื่องเรื่องโกงเงินบริษัทไงครับ" เสียงนุ่มดังขึ้น หากแต่กระตุ้นอารมณ์ของผู้ฟังได้เป็นอย่างดี
"ม
หมายความว่าไง" มานารุเอ่ยเสียงตะกุกตะกักขณะหันขวับไปมองผู้พูดที่นั่งถัดไป
"ก็น่าจะรู้ดีนี่ครับ" ชายหนุ่มผู้อ่อนวัยกว่าเอ่ยหน้าตายแต่กวนโทสะของผู้ฟังจนเขาแทบกระโจนเข้าหาหากไม่ติดมือของพวกตำรวจทีรั้งตัวเขาไว้
"ส่วนคนนั้นโคชิอุมิ มินาโตะลูกชายของผู้ตาย" มินาโตะดุสุขุมและรักษาอารมณ์ได้ดีกว่าอาของตัวเองเยอะ เขานั่งสงบนิ่งราวกับรูปปั้นน้ำแข็ง มินาโตะดูเป็นชายหนุ่มที่อายุประมาณ20กว่า ผมสำดำสนิทหวีไว้อย่างเรียบร้อย ท่าทางฉลาด "เขาเป็นผู้ต้องสงสัยเพราะมีคนเห็นเขามีปากเสียงกับผู้ตายอยู่บ่อยครั้ง" โรคุมองตามชายหนุ่มที่ดูราวกับรูปปั้นเทวดานั้น นึกภาพไม่ออกว่าหากเขาต้องมีปากเสียงกับคนอื่นจะทำท่าทางอย่างไร
"ส่วนโคชิอุมิ ซึจิยะภรรยาผู้ตาย" โรคุมองไปที่ผู้หญิงเพียงคนเดียวในบรรดาผู้ต้องสงสัยทั้งสาม เธอเป็นหญิงที่ดูราวกับอายุซัก70กว่า เนื่องจากสภาพร่างกายที่ดูทรุดโทรมเกิดวัย ร่างกายซูบผอมราวกับผ่านช่วงเวลาที่น่าเศร้ามานาน ใบหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา "เธอเป็นคนเดียวที่รู้ว่าผู้ตายอยู่ที่นี่นจึงตกเป็นผู้ต้องสงสัย" สารวัตรโอคิฮาระบอก โรคุมองร่างของหญิงสาวอย่างปลงอนิจจัง ในใจลึกๆแล้วเขาก็ไม่คิดว่าเธอคนนี้จะเป็นคนร้ายหรอก หากแต่ความจริงมันอาจจะเป็นเพียงละครบังตาฉากหนึ่งที่ทำให้ดูน่าสงสารเท่านั้นเอง
"ส่วนผู้ต้องสงสัยรายสุดท้าย เป็นผู้หญิง ที่ทางโรงแรมบอกว่าเจอมาถามหาผู้ตายในคืนเกิดเหตุ" นโรคุงงเล็กน้อย ในเมื่อมองยังไงก็มีผู้ต้องสงสัยนั่งอยู่3คนเท่านั้น "ผมไม่เห็นเลยนี่ครับ อีกคนที่ว่าน่ะ" "ก็แน่ล่ะสิ เป็นแค่คำบอกเล่าจากพนักงานเท่านั้น เราไม่สามารถหาตัวได้" คำตอบยิ่งงงเข้าไปใหญ่ ทำให้โรคุเริ่มมองสารวัตรอย่างปลงๆ ก็พอจะรู้หรอกนะว่าเป็นตำรวจกิ๊กก็อก แต่ก็ไม่คิดว่าจะถึงขนาดหาผู้ต้องสงสัยไม่เจอ
"ว่าแต่สารวัตรครับ รู้ที่อยู่ใช่ว่าจะเป็นคนร้ายนะครับ คนอื่นอาจจะสะกดรอยตามก็ได้" โรคุเอ่ยหลังจากที่เขาเงียบไปนานสารวัตรโอคิฮาระทำท่าเหมือนไม่ได้ยินแต่พูดต่อไป "ทางเราก็พอรู้ข้อนั้นอยู่แล้วน่า คิดว่าตำรวจโง่รึไง ตานายแล้วอยากถามอะไรก็เชิญ" เมื่อได้โอกาสชายหนุ่มจึงรับไว้อย่างเต็มใจ โรคุหยิบสมุดพกประจำตัวขึ้นมาก่อนจะพลิกหาหน้าที่จดรายละเอียดของคดีนี้ไว้ และเริ่มต้นสอบถาม
"เริ่มที่คุณมานารุ คืนเกิดเหตุคุณไปที่นั่นจริงๆใช่ไหม" มานารุอ้ำอึ้งไปเล็กน้อยเหมือนไม่รู้จะตอบดีหรือไม่ "จะตอบหรือไม่มันก็เป็นประโยชน์ต่อตัวคุณเองนะครับ" เมื่อได้ยินเช่นนั้นชายหนุ่มจึงจำใจพยักหน้าออกมาช้าๆ "แล้วกลับไปประมาณกี่โมงครับ" "สามทุ่ม" เขาตอบปัดๆ เหมือนกับว่าไม่ค่อยอยากยอมรับนักว่าตัวเองอยู่ที่นั่น "คำถามสุดท้ายครับ เรื่องที่คุณมินาโตะพูดเป็นเรื่องจริงรึเปล่าครับ" มานารุแทบจะหยุดหายใจกับคำถามนั้น แต่เมื่อเห็นสายตาคาดคั้นของเด็กหนุ่มจึงเริ่มเอ่ยปาก "จ
จริงครับ แต่ผมไม่ได้ฆ่าพี่นะ ไม่ได้ฆ่าจริงๆ" เขาบอกเสียงสั่นโดยมีนายตำรวจล็อกตัวเอาไว้ เผื่อเขาจะลุกพรวดขึ้นไปอีก
"ส่วนคุณมินาโตะ คืนเกิดเหตุคุณอยู่ที่ไหน" โรคุเริ่มต้นด้วยคำถามง่ายๆ พร้อมกับจ้องมองรูปปั้นในร่างคนอย่างละเอียด ในความรู้สึกของเขาคนๆนี้แหละ อันตรายที่สุด "ผมอยู่ที่ห้องทำงานของตัวเองครับ กำลังคิดโปรเจคใหม่ที่ต้องส่ง" เขาตอบเสียงราบเรียบ เหมือนไม่ได้กลัวอะไรเลยซักนิด "แล้วเรื่องที่คุณทะเลาะกับพ่อคุณ ไม่ทราบว่าเรื่องอะไรครับ" มินาโตะเงียบไปซักพัก เหมือนกำลังคิดคำตอบแล้วจึงตอบออกมา "พ่ออยากให้ผมกลับไปทำงานกับท่านครับ เพราะผมแยกตัวออกไปทำธุรกิจส่วนตัวของผมเอง" โรคุงงเล็กน้อยกับคำตอบนั้น ก่อนจะเริ่มถามต่อ "ธุรกิจที่ว่าเกี่ยวกับอะไรครับ" "ก็เป็นงานออกแบบผลิตภัณฑ์ทั่วไป ไม่มีอะไรน่าสนใจหรอกครับ" ชายหนุ่มตอบออกมาอย่างรวดเร็ว แทบจะไม่ต้องคิดเลยแต่ก็ยังรักษาความนิ่งของตนไว้ได้ "แล้วคุณรู้ไหมครับว่าพ่อคุณไปอยู่ที่ไหน และคุณเคยไปหาพ่อคุณรึเปล่าครับ" คำถามนั้นทำให้มินาโตะเงียบไปซักพัก โดยมีคนอื่นๆมองเขาอย่างต้องการคำตอบ "ก็ รู้ครับ เคยไปหา2-3ครั้ง แต่คืนเกิดเหตุไม่ได้ไปครับ ไม่ทราบด้วยซ้ำว่าคุณพ่อถูกทำร้ายจนตาย ไม่งั้นคืนนั้นผมคงไปหาคุณพ่อแน่ๆ" เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ มีนายตำรวจคนอื่นๆมองตามอย่างเห็นใจในความกตัญญูนั้น
"ส่วนคุณซึจิยะ" โรคุหันไปหาผู้ต้องสงสัยรายสุดท้ายที่อยู่ภายในห้อง ท่าทางของเขาดูเห็นใจเธอเป็นอย่างมาก ความจริงไม่อยากทำให้เธอสะเทือนใจเท่าไร แต่ยังไงงานก็เป็นงาน
"คุณเป็นคนเดียวที่รู้ที่อยู่ของสามีสินะครับ" โรคุเริ่มถามคำถาม "ค่ะ" หญิงสาวตอบสั้นๆ ด้วยน้ำเสียงที่สั่นเล็กน้อย "แล้วทราบมั้ยครับว่าสามีของคูณไปที่นั่นทำไม" เด็กหนุ่มเริ่มถามต่อ "ม
ไม่ทราบต่ะ เขาไม่ได้บอก บอกเพียงแต่ต้องย้ายไปอยู่ในที่ๆไม่มีใครรู้เท่านั้น" เธอตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเหมือนกำลังเอ่ยถึงเรื่องที่ไม่อยากคิดถึงอยู่ "สุดท้ายคุณซึจิยะครับ คืนเกิดเหตุคุณอยู่ที่ไหนครับ" เด็กหนุ่มถามเสียงอ่อนโยน คุณนายภรรยาของผู้ตายจ้องมองเขาเล็กน้อยด้วยใบหน้าที่เปื้อนคราน้ำตานั้น ก่อนจะเริ่มตอบคำถาม "ที่บ้านค่ะ ฉันกลับมาจากไปเยี่ยมสามีอย่างที่ทำทุกวันน่ะค่ะ วันนั้นฉันมีลางสังหรณ์อยู่แล้ว บอกกับเขาว่าจะอยู่เป็นเพื่อนเขา แต่ฮึก เขาไม่ยอม ถ้าวันนั้นฉันอยู่กับเขา เรื่องนี้ก็คงไม่เกิด ฮึก ฮือ ถ
ถ้าฉันอยู่กับเขา" หญิงสาวสะอื้น น้ำตาหลั่งไหลออกมาไม่ขาดสายเมื่อนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ได้แต่พร่ำโทษว่าเป็นเพราะตน
"พอเถอะครับคุณแม่ เดี๋ยวคุณพ่อจะเสียใจซะเปล่าๆ" ผู้เป็นลูกชายเอ่ยปลอบ เขาลูบหลังแม่ของตนไปด้วยราวกับให้กำลังใจ ซึจิยะเริ่มสงบลง น้ำตาที่ไหลเริ่มแห้งไป ถึงแม้เธอจะเจ็บปวดมากแค่ไหน แต่ก็ไม่อยากให้คนที่ตนรักต้องเสียใจ
โรคุได้แต่มองภาพตรงหน้าอย่างเงียบๆ รู้สึกเจ็บในใจลึกๆแค้นคำว่าฆาตกรรม เพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบหรือความรู้สึกส่วนตัวเหล่านี้ที่ทำให้ชีวิตมากมายต้องเจ็บปวด พวกเขาเหล่านั้นที่เกระทำสิ่งเหล่านี้ลงไปจะรู้บ้างไหมว่า คนที่ต้องอยู่ยอมรับความจริงเหล่านี้จะเป็นเช่นไร
"เอาล่ะครับ พอแค่นี้ ขอบคุณสำหรับความร่วมมือ หากมีอะไรผมจะให้สารวัตรเรียกนะครับ" โรคุโค้งทีหนึ่ง ก่อนจะกวักมือเป็นเชิงเรียกฟุยูนะ พร้อมทั้งสารวัตรโอคิฮาระให้เดินตามตนออกไปข้างนอก
"มีอะไร" สารวัตรโอคิฮาระเปิดฉากถามทันทีที่ทั้ง3เดินออกมานอกห้อง เขารู้ดีว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าคงไม่เรียกตัวเองไว้หากไม่ได้มีเรื่องสำคัญจริงๆ
โรคุไม่ตอบ แต่ล้วงหยิบเศษแก้วที่ได้มาส่งให้แก่คนเบื้องหน้า สารวัตรโอคิฮาระรับไปแบบงง ก่อนจะเริ่มพินิจมันอย่างละเอียดถี่ถ้วน
"นี่อะไร" เป็นคำถามที่ง่ายๆและได้ใจความ
"เศษแก้วครับ" คำตอบที่ได้ก็เลยเป็นแบบสั้นๆเช่นกัน
ฟุยูนะยืนมองสารวัตรกับนักสืบหนุ่มยืนจ้องหน้ากันโดยที่เอไม่ได้พูดอะไรออกมา ความจริงไม่รู้มากกว่าว่าควรจะพูดตอนไหนดี ในเมื่อบรรยากาศมันมาคุได้ถึงขนาดนี้ เด็กสาวก็ไม่ค่อยเข้าใจนักหรอกว่าทำไม2หนุ่มตรงหน้าถึงชอบเป็นอย่างนี้ทุกทีเมื่อเจอหน้ากัน
"ฉันหมายความว่าเจ้านี่มันมีความสำคัญยังไง นายถึงต้องส่งมาให้ฉันดู" ในที่สุดคนที่หมดความอดทนก่อนก็เป็นนายตำรวจ
"อ๋อ มันคือหลักฐานที่ผมเก็บได้จากที่เกิดเหตุครับ" โรคุตอบด้วยน้ำเสียงสบายๆ
"แล้วทำไมนายไม่ให้ฉันดูตั้งแต่ตอนแรกนะ" นายตำรวจหนุ่มถามเสียงดัง ในเมื่อคดีนี้เขาเป็นผู้รับผิดชอบ แต่เจ้าหนุ่มตรงหน้ากลับปิดเงียบ
"แต่ไต้องห่วงนะครับ ผมส่งให้หน่วยพิสูจน์หลักฐานแล้วเรียบร้อยหายห่วง" โรคุบอกยิ้มๆ ไม่ได้เหมือนกับใบหน้าของอีกฝ่ายที่เริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ "เขาว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของอาวุธฆาตกรรมที่หลุดออกมา มีเลือดผู้ตายติดด้วยนะครับ"
"นายจะแกล้งฉันเรอะถึงพึ่งเอามาให้ดูตอนนี้น่ะ" สารวัตรโอคิฮาระโวยเสียงดัง แทบจะปาเจ้าหลักฐานชิ้นเล็กลงพื้นซะแล้ว ถ้าไม่ติดว่ามันจะมีประโยชน์
"แต่ผมก็เอาให้ดูแล้วนะครับ...เรื่องนั้นก็แล้วแต่สารวัตรจะจัดการต่อละกัน ที่ผมต้องการคือจะขอสารวัตรไปตรวจที่เกิดเหตุอีกซักหน่อยเท่านั้นเอง" โรคุเริ่มเข้าประเด็น
สารวัตรโอคิฮาระทำท่าคิดหนักเมื่อได้ยินโรคุขอเช่นนั้น แต่ยังไงในเมื่อเขาทำอะไรก็ไม่คืบหน้า ทางเดียวที่ทำได้คือขอให้เจ้าหนุ่มตรงหน้าช่วย
"เออ ก็แล้วแต่นายละกัน ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันไปจัดการเรื่องนี้ต่อเลยละกัน" เมื่อเห็นสารวัตรหนุ่มอนุญาตโรคุก็ยิ้ม เขาโค้งเล็กน้อยเป็นการขอบคุณก่อนจะหันหลังเดินกลับไปตามทางเดิมที่เดินมาเมื่อเช้า โรคุหันไปกวักมือเรียกสาวน้อยอีกคนที่ยืนใกล้ๆให้ไปด้วยกัน แต่ท่าทางวาฟุยูนะจะติดใจอะไรบางอย่างอยู่จึงจะไม่ได้เดินตามมาทันที
"เอ่อ สารวัตรโอคิฮาระคะ" เด็กสาวเปิดฉากเรียกด้วยเสียงอันหวานหยดย้อนสมชื่อน้ำผึ้งของตัวเอง โรคุที่เดินนำอยู่เห็นท่าจะไม่ดีเสียแล้ว เมื่อหันกลับมาเขาพบว่าเด็กสาวที่ควรจะเดินตามตนมายังคงยืนอยู่ที่เดิม แถมยังเข้าไปคุยกับตำรวจหนุ่มอย่างสนิทสนม
"มีอะไรครับ ฟุยุจัง" สารวัตรโอคิฮาระถามด้วยเสียงที่โรคุมั่นใจเป้นอย่างยิ่งว่าเจ้าตัวพยามจะดัดมันให้ดูดีที่สุด และฟังนุ่มลึก นัยน์ตาเริ่มแสดงถึงความหยาดเยิ้ม แสดงว่าเสร็จเสน่ห์สาวเจ้าเป็นที่เรียบร้อย
"คือ สารวัตรจะว่ามั้ยคะ ถ้าฟุยุจะขอตามโรคุงไปด้วยน่ะค่ะ" เสียงหวานพูดต่อจนจบ
"แหม...ถ้าฟุยุจังเป็นคนขอล่ะก็" โรคุพยามอย่างยิ่งในการส่ายหัวส่งซิกแนวให้สารวัตโอคิฮาระ เขาไม่คิดว่าการพายัยตัวยุ่งนี่ตามไปด้วยที่ที่เกิดเหตุมันจะเป็นความคิดที่ดีเท่าไรนัก
"นะคะ" ฟุยูนะพยามส่งสายตาหวานเต็มที่ น้ำเสียงก็ลากยาวแบบโปรยเสน่ห์ หวังว่าชายหนุ่มตรงหน้าจะตกหลุมและช่วยเธอได้ และแน่นอนว่าคนอย่างดาราสาวน่ะรึจะผิดหวัง
"แน่นอนครับ แหม ฟุยุจังไปก็ดีจะได้ดูแลโรคุด้วยไงครับ" เป็นอันว่าความหวังที่ตั้งไว้ของเด็กหนุ่มต้องพังทลายลงทันที เมื่อตำรวจหนุ่มรับคำขอของฟุยูนะอย่างเต็มใจ
ฟุยูนะฉีกยิ้มกว้างอย่างน่ารักเป็นการขอบคุณชายหนุ่มตรงหน้า ก่อนจะรีบเดินรี่ตรงไปหานักสืบหนุ่มที่ยืนค้างอยู่
"เป็นอันว่าโรคุงห้ามฟุยุนะไม่ได้แล้วนะ" เด็กสาวยิ้มแย้มอย่างดีใจในความสำเร็จ
"แต่" โรคุทำท่าจะห้าม แต่สายไปเสียแล้ว
"ไม่มีแต่นะ ยังไงสารวัตรโอคิฮาระก็สนับสนุนอยู่แล้วนี่นา ฟุยุจะไปด้วย" ว่าแล้วเด็กสาวก็จูงมือชายหนุ่มเดินตรงไปรอที่ลิฟต์อย่างยินดีปรีดา ผิดกับอีกฝ่ายที่ยืนนิ่งเหมือนวิญญาณหลุดออกจากร่าง
สรุปว่าเขาต้องยอมให้ยัยตัวยุ่งนี่ตามไปทำงานอีกแล้วใช่มั้ยเนี่ย
อ๊าย ดีใจจังเลยในที่สุดก็รวบรวมกำลังเฮือกสุดท้ายปั่นโรคุมาลงจนครบ100จนได้
ว๊าย หวัดดีจ้าผู้อ่านที่น่ารักทั้งหลาย
ได้อ่านกันต่อแล้วใช่มั้ยล่ะ คิดว่าเป็นยังไงกันบ้างเอ่ย สนุกกันรึเปล่า
แล้วพอจะรู้นึยังนะ ว่าใครคือคนร้ายตัวจริง!!!
ถ้าปั่นจนครบตอนต่อไปเมื่อไรจะเอามาลงให้นะจ๊ะ
ระหว่างนี้ก็ขอให้สนุกกันต่อละกัน
ความคิดเห็น