ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อัธพาลสุดฮอต กับ นักเรียนใหม่สุดแสบ

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.พ. 48


           ส่วนทางด้านสวนสาธารณะ y นั้นพวกฮาชิมะก็กำลังรวมพลรออาซึมิอยู่

        

         “แค่ผู้หญิงคนเดียวพวกนายจัดการกันเองไม่ได้รึไง ถึงต้องเรียกให้ฉันมาด้วยตนเองน่ะ” เสียงหนึ่งเอ่ยขึ้นอย่างรำคาญ พร้อมกับยกมือขึ้นกอดอกอย่างวางมาด ผมสีส้มที่ยาวถึงต้นคอของเขาปลิวไสวไปตามสายลมที่พัดผ่าน เสื้อแขนยาวสีดำที่เขาใส่อยู่ถูกถลกขึ้นจนถึงต้นแขนและไม่ติดกระดุมซักเม็ดจึงทำให้มองเห็นเสื้อยืดสีขาวที่ใส่ไว้ข้างใน และเมื่อดูคู่กับกางเกงที่ดูยับๆนั้น ทำให้รู้ได้ทันทีว่าคนๆนี้มีเรื่องกับคนอื่นบ่อย และยิ่งดูคู่กับท่าที่แสนจะวางมาดของเขาก็แสดงให้เห็นเลยว่า ชายผู้นี้คือ อุจิดะ โทโมโนคิหัวหน้าแกงค์ฮาชิมะ



           “นั่นสิ ความจริงพวกนายเรียกแค่ฉันมาคนเดียวก็ได้” อีกเสียงหนึ่งดังขึ้นอีก และเดินขึ้นมายืนข้างๆโทโมโนคิ เขามีผมสีน้ำตาลแดงที่ดูแล้วแสบตาไม่แพ้โทโมโนคิเลยทีเดียว แต่งตัวสไตล์เดียวกับหัวหน้าแกงค์ตัวเองไม่มีผิดเพี้ยน และคนที่กล้ามายืนทาบรัศมีกับหัวหน้าแกงค์มีคนเดียว คือ มิสึยามะ มาคิรองหัวหน้าของแกงค์



            “หรือไม่งั้นพวกนายก็เรียกพวกเรามาคนใดคนหนึ่งก็ได้ ”เสียงชายอีกคนหนึ่งเอ่ยขึ้นอีก ผมสีแดงของเขาสว่างจ้าเมื่อกระทบกับแสงแดด การแต่งกายดูจะพอเรียบร้อยกว่าสองคนแรกนิดหน่อย เขาเป็น 1ใน3องครักษ์ แห่งฮาชิมะ เรโซ อาคุอะ ส่วนองครักษ์อีกสองคนยืนขนาบข้างเขาอยู่ คนหนึ่งผมเหลือง ยืนอยู่ด้านซ้าย ท่าทางเงียบๆ วางมาดนิดๆ ชื่อสุมิบาระ นาอิ ส่วนอีกคนผมสีเขียว ยืนอยู่ด้านขวา ดูจะหลุกหลิกตลอดเวลา เหมือนอยู่นิ่งไม่ได้ คนนี้ชื่อ โอคาซากิ ซาโตะ



             “เราทั้งหมดต้องขอโทษหัวหน้า รองหัวหน้าและองครักษ์ทั้ง 3 ด้วย ที่ต้องทำให้เสียเวลา” สมาชิกคนหนึ่งของแกงค์พูดขึ้น “เรื่องนั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ ที่สำคัญคือ ทำไมไอ้เจ้านั่นยังไม่มาอีก เลยเวลานัดมา20นาทีแล้ว ถึงพวกเราเป็นแกงค์อันธพาลแต่ก็รู้จักรักษาเวลานะ แล้วนี่มันอะไรกัน” โทโมโนคิบ่นด้วยเสียงอันดัง  “นั่นไงหัวหน้า มันมาแล้ว” สมาชิกแกงค์ที่ดูเหมือนจะเป็นคนดูต้นทางเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นอิซามิในคราบอาซึมิเดินมาแต่ไกล



               “ขอโทษที่ทำให้คอยนาน” เด็กสาวบอกเมื่อเดินมาถึง มีความประหม่าปนในน้ำเสียงเล็กน้อย



               “เธอทำไมถึงมาสาย” อาคุอะเป็นคนพูดเปิดฉากการสนทนาด้วยคำถามเรียบง่ายและธรรมดาสุดๆ มันสามารถช่วยลดความประหม่าที่ต้องสู้กับแกงค์ใหญ่ของอิซามิได้มากทีเดียว



               “ฉันไม่ค่อยได้มาแถวนี้น่ะ เลยหลงทางนิดหน่อย” อิซามิตอบเต็มปากเต็มคำ ตอนนี้ความกาล้าของเธอกลับมามีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม



               “เธอกล้าดีนะ ฉันชอบ” ซาโตะบอกแสดงถึงความชื่นชม



                “…นี่เธอใช่คนเดียวกับเมื่อวานจริงเหรอ” ชายหนุ่มผมชี้โด่ชี้เด่คนหนึ่งถามอย่างไม่แน่ใจ ดูเหมือนเขาจะเป็น 1 ในคนที่อยู่ในเหตุการณ์เมื่อวาน



               “ใช่ ทำไมล่ะ”อิซามิถาม ในใจกังวลอย่างมาก กลัวว่าความลับจะแตก “ก็เธอไม่เหมือนเมื่อวานเลยน่ะสิ ตัวก็สูงขึ้น ผมก็ยาวขึ้น และที่สำคัญ ดูอวดดีมาๆด้วย” เขาพูดอย่างพินิจพิเคราะห์ แต่ดูเหมือนเด็กสาวจะไม่ชอบคำพูดของเขาเท่าไหร่นัก คิ้วของเธอขมวดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด



              “ขมวดคิ้วอย่างนั้นหมายความว่าไง อยากเรื่องรึไง”ชายคนเดิมถามขึ้น เด็กสาวมองหน้าเขาอย่างไม่เกรงกลัว ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า  “ถ้าใช่…แล้วจะทำไม” เธอทำหน้าแบบอยากลองดีสุดๆ “เฮ้ เธอควรจะรู้นะว่าอยู่ในฐานะอะไร ทำตัวตัวให้มันดีๆหน่อยดีกว่ามั้ง” ชายหัวหน้าแกงค์พูดขึ้นแทรก เขาเริ่มไม่พอใจอาการของเด็กสาวแล้ว “ถ้าเจ็บตัวอย่าหาว่าไม่เตือนล่ะกัน” คราวนี้นาอิที่เห็นเงียบอยู่นานเป็นฝ่ายพูดขึ้นบ้าง



             “คิดว่าฉันกลัวรึไง” เด็กสาวโต้กลับทันที ดูท่าว่าเธอจะมีความโกรธมากกว่าความเกรงกลัวแล้ว “นี่เห็นว่าเป็นผู้หญิงพวกเราเลยไม่อยากทำอะไรรุนแรงนะ” มาคิเอ่ยขึ้น พร้อมกับเอามือ 2 ข้างจับกันจนมีเสียงกรอบแกรบดังออกมาเป็นเชิงขู่ แต่อิซามิยังคงเฉย คงเป็นเพราะเธอเจอท่านี้มาบ่อยแล้ว และทุกรายที่ทำแบบนี้ น็อคตั้งแต่ 5 นาทีแรกที่สู้ด้วยซ้ำไป



             “ท่าทางจะใกล้ฟิวส์ขาดแล้วแฮะ” เสียงคนๆหนึ่งคิดอยู่ในใจหลังจากที่รอดูเหตุการณ์มาตั้งแต่ต้น



            “ฉันว่าพวกนายอยากลุยก็เข้ามาเลยดีกว่า มัวพิธีรีตองอยู่ได้ เสียเวลา”อิซามิบอกพร้อมยกมือขวาขึ้นตั้งหมัดและชกเข้าที่ฝ่ามือซ้ายของตนจนเกิดเสียงดังเพื่อข่มคู่ต่อสู้บ้าง



            “ไหนบอกชื่อของเธอมาซิ โรงเรียนด้วย ชั้นอะไร ห้องอะไร บอกมาให้หมด” ชายที่ถูกขัดขาบอกด้วยความโกรธ แต่เขาไม่รู้หรอกว่ามันเป็นการทำเหมือนก้าวก่ายเรื่องของเธอมากเกินไป จนทำให้เธอฟิวส์ขาดแล้ว



             “ตายแล้ว ท่าทางฟิวส์ขาดแล้วชัวร์ๆ” เสียงคนๆหนึ่งคิดอยู่ในใจอย่างตกใจหลังจากที่เห็นเหตุการณ์ที่ผ่านมา



           “ถ้าอยากรู้ฉันจะบอกให้เอาบุญ ฉัน โฮชิคาอิ อาซึมิ โรงเรียนฮาคุริโนะ ชั้นม.ปลายปี 1 ห้อง B แล้วอย่ายุ่งเรื่องส่วนตัวฉันอีก ฉันเกลียดคนจุ้นจ้าน ”เมื่ออิซามิตอบจบ กลับมีคนๆหนึ่งตกใจนิดหน่อย



             “ โฮชิคาอิ อาซึมิ… ทำไมถึงคล้าย คล้ายกันอย่างนี้ อิซามิ”



            “เธอนี่กล้าดีจังนะ จะตายยังไม่รู้ตัวอีก นาย 3 คนลุยเลย” โทโมโนคิพูดออกคำสั่งน้ำเสียงแสดงออกถึงความโกรธเป็นอย่างมาก พร้อมชี้นิ้วไปที่สมาชิก 3 คนที่ยืนอยู่ใกล้อิซามิมากที่สุด ทั้ง 3 พยักหน้าเมื่อได้ยินคำสั่งของหัวหน้าใหญ่ ก่อนจะวิ่งตรงเข้าไปหาเด็กสาวที่ยืนอยู่ข้างหน้าของตน ทั้งที่เธอน่าจะเสียเปรียบแต่เด็กสาวกลับเผยรอยยิ้มที่ทำให้ทุกคนในที่นั้นงงกันหมด



            ชายหนุ่มผมทองที่วิ่งเข้ามาถึงเด็กสาวคนแรกยกขาขึ้นหมายเตะคอของเธอแบบไม่ยั้งมือ แต่ดูเหมือนอิซามิจะรู้ตัวทันก่อนแล้ว เธอจึงยกแขนขึ้นกันได้อย่างไม่ยากเย็นนัก แถมยังมีเวลาใช้มือขวาชกเข้าที่ท้องของเด็กหนุ่มอย่างจังจนเขากระเด็นไปไกล ก่อนจะหันกลับมาตั้งรับคนต่อไป คนที่สองเด็กสาวสามารถจัดการเขาได้ก่อนที่เขาจะมาถึงตัวด้วยซ้ำ เท้าของเธอสามารถยันเขาออกไปได้ไกลก่อนจะตวัดขากลับมาเตะชายคนสุดท้ายกระเด็นไปได้อีกคน



           “ฝีมือของฮาชิมะมีแค่นี้เองเหรอ ถ้ามีใครรู้ว่าพวกนายมาแพ้เด็กผู้หญิงโนเนมอย่างฉันได้คงเก็บไปเล่าเป็นเรื่องตลกได้หลายปีทีเดียวเลยล่ะ” เด็กสาวพูดอย่างเยาเย้ย การกระทำของอิซามิทำให้ระดับหัวหน้าของฮาชิมะตกใจไม่น้อย คงไม่มีใครนึกถึงว่าสมาชิกในแกงค์จะแพ้ได้ง่ายนาดนี้



             “สุดยอดเหมือนเดิมเลย สามารถจัดการได้ภายในเวลาอันสั้น เก่งจริงๆ” เสียงหนึ่งเอ่ยขึ้นเบาๆ แต่มีคนๆหนึ่งกลับได้ยินเสียงนั้น



            “นายสองคน ลุย”คราวนี้มาคิผู้เป็นรองหัวหน้าเป็นคนสั่งบ้าง สมาชิกอีกสองคนจึงวิ่งเข้าไป เด็กสาวสามารถหลบได้อย่างสบายๆก่อนจะโต้กลับไปอย่างแรง แต่ดูเหมือนมันจะพลาดนิดหน่อย หน้าของเธอจึงเกิดแผลเป็นขีดยาว เธอค่อยๆเอานิ้วลูบเลือดเหล่านั้นออกจากหน้าตัวเอง ก่อนจะตะโกนด้วยความโกรธสุดๆ “ไอ้เจ้าพวกบ้าอยากตายนักก็เข้ามาเลย แน่จริงเข้ามาเลย 10 คนสิ” เธอท้าอย่างไม่เกรงกลัวใดๆทั้งสิ้น



             “ตายล่ะหว่า คราวนี้โกรธแบบสุดๆเลยอ่ะ ทำไงดี”เสียงปริศนาเดิมดังด้วยความร้อนรน แต่เสียงยังคงเบาสุดๆ แต่คนหูดีกลับได้ยินมันอยู่ดี



             “คราวนี้พวกเราขอไปด้วยดีกว่า ถ้าพวกเราไม่ออกโรงเองคงไม่ไหวแน่” อาคุอะเอ่ยขึ้นเป็นตัวแทนขององครักษ์ทั้ง 3  ก่อนที่เหล่าองครักษ์จะเดินออกไป การต่อสู้กำลังจะเริ่มขึ้นหากแต่มีอย่างหนึ่งเกิดขึ้นก่อน



             “ยัยนี่เป็นใครน่ะ เห็นมาทำลับๆล่อๆอยู่นานแล้ว” เสียงของรองหัวหน้าหนุ่มดังขึ้นพร้องกับดึงปกเสื้อของคนๆหนึ่งออกมาจากหลังพุ่มไม้ คนที่ถูกหิ้วอยู่ดิ้นอย่างไม่ชอบใจแต่ก็ไม่สามารถหลุดออกมาจากการ จับของมาคิได้ และเมื่ออิซามิหันไปก็ลมเกือบจับเมื่อพบว่าคนๆนั้น คือ...













             ขอโทษทีที่ตอนนี้ยังสั้นอยู่ ยังไงตอนหน้ารับรองยาวกว่านี้แน่ อย่าลืมโหวตให้หน่อยนะ ไม่ก็ติ ชม
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×