คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : การผจญภัยกำลังจะเริ่มต่อจากนี้ไป...(ตอนจบ)
ท่ามกลางสายลมที่หนาวเหน็บเสีบงระลอกไม้ดังเป็นระยะๆ มีกลิ่นของฝุ่นอัดแน่นในอากาศเสียงน้ำที่ไหลผ่านสายระโยงของสายท่อ ทำให้ บัคบิก กับ บัคไวท์ หันมองตามสายท่อ
“เฮ้ นี่เราเข้ามาในตัวบ้านแล้วสินะ บัคบิก มันน่าขนลุกเกินไปรึเปล่า”
“ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกนะ อย่างน้อยก็ปลอดภัยกว่าด้านนอกนั่นแหละ ส่วนเรื่องจะกลับไปได้ยังไงนั้นเราค่อยคิดกันอีกทีก็แล้วกันนะ”
บัคบิกข่มสายตาซ่อนความกลัวเอาไว้ในใจ เพราะเขาเองก็ไม่ต่างจากบัคไวท์ เขาเข้ามาในปราสาทของศัตรูแล้ว การกลับออกไปเป็นเรื่องที่ยากมาก เช่นกัน
“เฮ้ ห้องของเจ้าหญิงฮามุไปทางไหนกันล่ะ?”
“อ้าว ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ร่วมเดินทางก็คิดว่าเจ้าจะรู้ซะอีกนะเนี่ย เอาเป็นว่าพวกเราเดินตามทางไปเรื่อยๆ ดีกว่านะ ยังไงก็น่าจะได้เจอแน่ๆเลยแหละ”
พวกเราเดินกันมาจนถึงสถานที่แห่งหนึ่ง มีรูพอจะให้หย่อนตัวลงไปได้ รอบห้องเต็มไปด้วยอุปกรณ์ครัว แน่นอนพวกมนุษย์คงเรียกมันว่าห้องครัวเป็นแน่ มีดถูกจัดเรียงไว้บนชั้น ดูเหมือนเตรียมพร้อมเอาไว้ทำอาหาร ไม่ต่างกับห้องชำแหละ มีปลาสดๆถูกวางไว้และดึงเครื่องในออกมา ข้างๆกับหม้อต้ม มันยังหายใจอย่างเบาบาง แต่พวกเราคงช่วยเขาไม่ทันแล้วเช่นกัน เขาคงถูกจัดเตรียมเป็นอาหารซักมื้อในเมนูค่ำคืนนี้ของเด็กสามคนที่พยายามจะสังหารพวกเรา
“มีเสียงคนมา หลบเร็ว บัคไวท์”
มนุษย์เพศชาย สวมหมวกทรงสูง ใส่ผ้ากันเปื้อนที่เปี้อนคราบสีแดง กำลังบรรจงหั่นปลาที่พวกผมเห็นเมื่อครู่ มันโหดร้ายมัน ครีบถูกตัดออก มีดถูกล้วงขอดเข้าไปข้างใน เขาโยนหัวของปลาตัวนั้นอย่างไร้เยื่อใยลงถังขยะ
“พวกมันช่างเลวทรามมาก ดูสิโหดร้ายที่สุด ข้าทนดูไม่ไหวแล้ว ไปกันเถอะบัคบิก ขออย่าให้เจ้าหญิง ฮามุได้ตกเป็นเหยื่อแบบเขาเลยนะ”
พวกเราเดินเตร็ดเตร่อยู่ใน คฤหาสน์ สีทองเจิดจ้าไปด้วยแสงไฟจากหลอด ผ้าม่านสีแดงพริ้วสไวดูสวยงามต่างจากสถานที่ที่เรียกว่าบ้านที่พวกเราได้จากมา พื้นหินอ่อนมีความลื่นต่างจากพื้นหญ้าที่เคยเหยียบ พรมสีแดงที่ถูกปูเป็นระยะทางยาวจนพวกเราหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องขนาดใหญ่ ซึ่งถูกเขียนไว้ว่า
[ห้องโถง-ห้องรับประทานอาหาร1]
“ทำไมล่ะ มันมีตัวเลข งั้นแปลว่ามันต้องมีมากกว่านี้แน่เลย มนุษย์จะสร้างสิ่งพวกนี้ขึ้นมาทำไมกัน มันจำเป็นขนาดนั้นเลยเหรอไง ห้องอาหารควรมีแค่ห้องเดียวก็พอแล้วล่ะ นี่มันเกิดความจำเป็น”
พวกเรามัวแต่คิดถึงประเด็นจนไม่ได้มองว่ารถเข็นมาจากด้านหลังโดยมนุษย์ผู้ชายอีกคนซึ่งต่างจากคนก่อนหน้า พวกเราหลบเข้าไปในรถเข็นซึ่งถูกคลุมด้วยผ้าสีขาวนั้น โชคยังดีที่เขามองไม่เห็นพวกเรา
“มันจะถูกขนเข้าไปข้างในอย่างนั้นเหรอ ถ้าเช่นนั้นพวกมนุษย์ต้องรวมกันอยู๋ข้างในแน่”
ขณะที่ผ้าสีขาวถูกเปิดออกอย่างช้าๆ อาหารที่มีอยู่เต็มโต๊ะ และถูกเรียงช้อนส้อมอย่างเป็นระเบียบ พวกเราไม่เคยเจอ โต๊ะที่มีลักษณะแปลกตาแบบนี้มาก่อนในชีวิตมันทั้งยาวและเต็มไปด้วยอาหาร ที่ไม่สามารถหาได้ ปลาตัวนั้นถูกยกขึ้นบนโต๊ะตอนแรกมันดูช่างน่ากลัวแต่เมื่อถูกจัดวางอย่างวิจิตรบนโต๊ะอาหาร พวกเราต่างน้ำลายไหลลงมาข้างแก้มอย่างเห็นได้ชัด
“อยากลองชิมซักคำดูจังเลย”
“เมื่อซักครู่นายยังบอกว่าโหดร้ายอยู่เลยนะ บัคไวท์”
“นั่นสิ แต่ถ้าได้ชิมซักคำ ฉันคงจะบรรลุถึงขีดสุดแน่นอนเลยแหละ”
บัคไวท์ใช้มือปัดน้ำลายของเขา ทันทีที่ประตูบานใหญ่ตรงข้ามกับทางเข้าของบัคบิกถูกเปิดออก พวกเขาจึงเข้าไปหลบในหม้อครอบอาหาร ชายที่เรียบผมแปล้เดินเข้ามาพร้อมกับเด็กชายที่แต่งตัวสุภาพ นั่งบนโต๊ะอาหาร
“เอาล่ะ รีบทานซะ แล้วเราคงต้องคุยเรื่องวีรกรรมที่ก่อบนสะพาน คุณอา บอกแล้วใช่ไหมว่า สะพานมันไม่มั่นคงทีหลังอย่าไปเล่นอีกล่ะ ถ้าพวกหนูเป็นอะไรไปอาคงเสียใจแน่ รีบทานซะ”
เหล่าเด็กๆหน้าจ๋อยต่างเปิดจานอาหารของตนและกินอย่างเอล็ดอร่อย เมื่อคุณอาคนนั้นคว้าฝาครอบออกความสว่างของแสงอันเจิดจ้า ทำให้ประจันหน้าอย่างชัดเจน
“หนู มีพวกสัตว์อยู่บนโต๊ะอาหาร อังเครเมโตมาสโซ่ รีบจัดการพวกมันซะ!!”
พ่อบ้านรีบคว้าไม้ไล่ตบ บัคไวท์กับ บัคบิก แต่พวกเขากระโดดหนีเข้าไปในปล่องไฟ
“มันปีนขึ้นไปแล้วเห็นมันไหม เอาไฟเผามันเลย อังเดรเมโตมาสโซ่”
เขาเริ่มโรยน้ำมันจุดไฟ เปลวไฟเริ่มประทุ ควันเริ่มลอบขึ้นมา มือของ บัคบิกคว้าบัคไวท์เอาไว้อย่างเหนี่ยวแน่น ทั้งคู่ผ่านอะไรต่อมิอะไรมาหลายอย่างมากจนทำให้เกิดมิตรภาพที่แน่นแฟ้น เพียงแค่เปลวไฟไม่อาจทำลายพวกเขาได้อีกแล้วพวกเขาปีนขึ้นปากปล่องกระโดดไล่ตามหลังคาจนถึงระเบียงสีขาวสว่างจ้า กระจกเป็นเงา มองเห็นต้นไม้ที่บัคบิกจากมา มันห่างเพียงข้ามถนนไปด้านหลังถัดจากแม่น้ำ แต่มันเหมือนการผจญภัยที่ยาวนานทั้งคู่ต่างมองผ่านที่จุดพักและ สถานที่ต่างๆ
“พวกเจ้า เป็นใครกันหรือ?”
เสียงเล็กๆดูนุ่มและสุภาพ เจ้าของเสียงอยู่ในผลึกแก้วด้านในห้อง เป็นหนูแฮมสเตอร์สีน้ำตาลขาวดวงตาสีดำกลมโตดูน่ารักน่าเอ็นดู แต่อยู่ในกรงกระจกที่มีเครื่องล้อหมุนทรมานกับขวดยาป้อนอาหาร
“ทำไมพวกเขาช่างโหดร้ายขนาดนี้ ทำกับเจ้าหญิงได้ อ๊ะ พวกข้าลืมแนะนำตัว ข้า บัคบิก ส่วนทางนั้นบัคไวท์ พวกเราออกเดินทางเพื่อตามหาเจ้าหญิงแฮมมุ”
“เจ้าได้พบนางแล้วล่ะ ข้าออกไปจากที่นี่ไม่ได้ ท่านทั้งสองพอมีรูอยู่ด้านข้างนั่นเจ้าสามารถเข้ามาในนี้ได้ ระวังด้วยนะ ที่นี่อันตรายมาก”
เจ้าหญิง เตือนด้วยความเป็นห่วง บัคบิกเดินลอดทางเดินที่เจ้าหญิงกล่าวเอาไว้และเข้ามาที่ห้องพลันเหยียบบนพื้นนุ่มนิ่มดั่งปุยเมฆ มีภูเขาผ้าห่มโอบล้อม
“ระวังนะ พวกท่านมันเข้ามาในห้องแล้ว”
พวกเขาไม่รู้ว่า มันที่เจ้าหญิงเอ่ยนั้นคืออะไร แต่ เขารู้สึกได้ถึงแรงอาฆาตของสัตว์ชนิดหนึ่ง ดั่งสิ่งที่พวกเขาเผชิญก่อนที่จะเข้ามาในตัวบ้าน บัคบิกหยิบดาบออกมาตั้งท่าเตรียมพร้อม ดาบของเขาชูชัน สายตามองไปรอบๆห้อง บนเนินหมอนข้างที่สูงชั้น แมวเหมียวผงาดขึ้นมายืนมอง พวกบัคบิกดั่งอาหารอันโอชะ
“เหมียวววว.....”
เสียงคำรามทำให้ทั้งสองแน่นิ่ง บัคบิกหันไปทางบัคไวท์
“ตั้งสติไว้ก่อน เตรียมพร้อมนะ นายไปช่วยเจ้าหญิง เดี๋ยวข้าจะล่อเจ้าปีศาจนี่ไปอีกทางเอง”
บัคบิกเหน็บดาบของเขาที่เอวพลัน ห้อยตัวไปตามแรงของผ้า แมวตัวใหญ่กระโดดมาหมายจู่โจมเอาชีวิต บัคบิก ปลัดผ้าห่ม การจู่โจมของแมวจึงไม่เป็นผลมาก
“แย่ล่ะสิ ท่าจะไม่ดีแล้ว เราต้องล่อไปอีกห้อง”
บัคบิกวิ่งไปตามทางจนถึงหน้าเตาผิง แสงเป็นประกายโชติช่วงส่องเงาของสัตว์ร้าย บัคบิกแทงเข้าที่ขาจนมันเซล้มไปอีกด้าน กรงเล็บตวัดผ่านหัวของเขาไปจนผ้าขาดกระเซ็น แต่เขากลับหลบกรงเล็บนั้นได้ มันเลียปากแผลบๆ จ้องกันนิ่ง
“ถ้าหากฉันออกจากจุดนี้มันคงจู่โจมมาก่อนแน่ๆเลย”
“เมี๊ยวววว”
มันขู่คำรามเพื่อกันไม่ให้บัคบิกคิดหนีต่อ บัคบิกคว้าไม้ขีดไฟ พรางกระโดดเข้าไปในเตาผิง
“แน่จริงก็ตามมาสิ เจ้าเหมียว”
แมวน้อยกระโดดตามบัคบิกขึ้นไป แต่สัญชาติญาณปีนป่ายของกระรอกย่อมดีที่สุด เขาเริ่มทิ้งห่างจากแมวตัวนั้นมากขึ้น ร่างของเขายันโขดหินเพื่อดึงตัวขึ้น
“เอาล่ะ กลายเป็นเถ้าถ่านไปซะ เจ้าแมวบ้า”
บัคบิกจุดไฟและโยนลงไปข้างล่าง ความร้อนนั้น ระอุขึ้นทุกที เขาหวังไว้ว่า เขาต้องรอดจนถึง ปากทางเข้า แมวที่เกาะไม่ไหว จึงล่วงลงไปชนกับกลองไฟวิ่งไปทั่วบ้าน มือของบัคบิกเริ่ม ไม่เหลือแรงต้าน ความลื่นของเหงื่อทำให้มือเขาหลุดจากโขดหิน
หมับ!!
มือข้างหนึ่งคว้าแขนของบัคบิกไว้แล้วดึงขึ้นสู่ปากปล่องไฟ เป็นมือของชายชรา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขายืนยิ้มให้กับ บัคบิก เขาคือบารามินนั่นเอง
“โอ้ ท่าน แต่ทำไมท่านภึง…?”
บารามินคว้ามีดของบัคบิกและแทงเขา ในขณะที่ บัคไวท์เดินออกมาพอดี
“บัคบิก ไม่นะ บารามิน ท่านทำอะไรลงไป”
สีหน้าของ บารามินกลายเป็นคนชั่วช้าโดยทันที
“ก็เพราะข้าต้องการเจ้าหญิงแฮมมุ ยังไงล่ะ เพราะมีเจ้าแมวตัวดีมาขวางข้าถึงไม่ได้ตัวเจ้าหญิงซะที แล้วข้าจะได้คลองอาณาจักรต้นไม้ยักษ์ ข้ารอวันนี้มานานแล้ว แต่ข้าก็คิดไม่ถึงที่ เจ้ายังรอดมาได้นะ บัคไวท์ เจ้าคนไม่มีประโยชน์เยี่ยงเจ้า รอดมาได้ถึงเพียงนี้ ไอ้ต้มตุ๋นเอ้ย”
มือของบัคบิกจับดาบของตน พรางพูดด้วยสีหน้าของคนเจ็บ
“ผิดแล้วล่ะ....บารามิน บัคไวท์ไม่ได้ไร้ประโยชน์...ทุกคนต่างมีข้อดีของตัวเอง แต่นายจะเลือกมองที่มุมไหนก็แค่นั้นเอง”
บัคบิกกระโดดออกมาจากจุดที่ยินอยู่ ร่วงลงมาตามหลังคา
“บัคบิก ไม่เป็นอะไรนะ ข้าจะตามไปช่วยเจ้า รอก่อนล่ะ”
“ช่วยไปก็เปล่าประโยชน์กระรอกนี่มันต้องตายแล้ว”
บารามิน ชักดาบเข็มขึ้นมา ตั้งท่าพร้อมที่จะจู่โจมเฉกเช่นเดียวกับบัคบิกแต่บารามินยืนอยู่ในจุดที่สูงกว่าเขากระโดดลงมาเพื่อเข้าสู้กับบัคบิก
“เจ้า ไม่มีทางปกป้องใครได้หรอกเจ้ากระรอกจิ๋ว”
“บ่นหนวกหูน่า ไอ้แก่เอ๊ย”
เขาบัดดาบของบารามินออกด้านข้าง
“ข้าเรียนวิชาแห่งศาสตราวุธเข็มหมุดมา เจ้าไม่มีทางสู้ข้าได้หรอก”
บารามินพลันปัดดาบของ บัคบิกไหลไปตามทางร่องน้ำจนบัคบิกต้องวิ่งตามรางน้ำเพื่อหยิบดาบ เพียงฉิวเฉียดบารามินเกือบเสียบร่างของเขาได้แต่เขาใช้ดาบป้องไว้เสียก่อน เขาถูกต้อนไล่มาจนถึงปลายทางที่มีสุนัขทั้งสองตัวรอคอยเนื้ออันโอชะอยู่
“ยอมแพ้ซะเถอะ เจ้าหนู แล้วมอบเจ้าหญิงมาซธจ้าจะได้ไม่เป็นเหยื่อสุนัขปีศาจ”
บารามินหัวเราะดั่งผู้มีชัย
“ฝันไปเถอะ!!”
“แกจะทำอะไรได้ แกมันไม่มีอะไรเลย ไหนล่ะ ความเป็นนักผจญภัยในตัวแก ตอนนี้ข้าก็เห็นแค่กระรอกตัวกระจิ๊ด ยิ่งเสียกว่ากระรอกทั่วไป พยายามทำเก่ง แกน่าจะกลับไปทำครัวช่วยพ่อของแกได้แล้ว แกมันไม่มีคุณค่าในการเป็นผู้กล้าเสียด้วยซ้ำ”
บารามินเยาะเย้ย บัคบิก
“ข้าน่ะ ไม่มีอะไรก็จริง แต่ข้าก็สามารถมายืนจนถึงจุดนี้ได้ นักผจญภัยน่ะ ไม่ได้สำคัญที่สิ่งใด ความกล้า บ้าบิ่น แต่มันเริ่มต้นอยู่ที่ใจ ข้ามาที่นี่ได้เพราะพวกพ้อง เจ้าน่ะ มันก็แค่ตาแก่โลภคนหนึ่งอย่าหวังว่าจะได้อะไรเลย”
บัคบิกพยายามจะตอกกลับแต่ บารามินตะคอกด้วยความโมโหว่า
“หุบปาก คนอย่างเจ้าตายๆไปซะเถอะ เจ้ากระรอกน่ารำคาญ ลาก่อน บัคบิก”
ดาบถูกยื่นมาเบื้องหน้า
“บารามิน!!”
เสียงเรียกนั้นทำให้บารามินหันหลังกลับมาทันควัน
วาบ!!
แสงจ้าสว่างเท่าที่จะสว่างได้สอดส่ายเข้าสู่ดวงตาของกระรอกแก่ บัคบิกใช้โอกาสนี้คว้าดาบในมือแล้วอาศัยร่างอันเล็กของเขาทุ่ม บารามิน แต่มือของ บารามินเกาะที่ขอบของกระเบื้อง เบื้องล่างมีเพียงสุนัขที่รอคอยเหยื่อ
“บารามิน จับมือข้าไว้ เจ้ายังมีโอกาสแก้ตัว”
บัคบิกยื่นมือหมายที่จะคว้ามือของบารามิน
“มันสายเกินไปแล้ว ข้ามาได้เพียงเท่านี้ โลกของกระรอกมันโหดร้าย เจ้าไม่มีทางเข้าใจหรอก ลาก่อน”
เขาปล่อยมือและตกลงไปเป็นอาหารของสุนัขทั้งสองตัว บัคบิกไม่สามารถช่วยได้ เขานั่งลงที่หลังคากระเบื้องนั้น อย่างสิ้นหวัง จน บัคไวท์เดินเข้ามา
“เอาน่าโลกก็เป็นอย่างนี้แหละ ดูสิว่าข้าขโมยอะไรมา”
บัคไวท์ชี้ให้ดู เครื่องร่อนที่เขาขโมยมาจาห้องของเล่นและทำให้มันบังคับด้วยมือได้
“เท่านี้พวกเราก็ไปส่งเจ้าหญิงและกลับได้อย่างปลอดภัยแล้วล่ะ ไปกับเถอะ บัคบิก การผจญภัยจบแล้ว”
พวกเขาขึ้นเครื่องบินของบัคบิก ล่อนกลับสู่อาณาจักรแห่งต้นไม้ เสียงเชียของกระรอกหลายๆคน ทำให้ เทเซลต้องเปิดประตูออกมาดู
“บัคบิก กลับมาแล้ว เขากลับมาแล้ว”
เคลื่องบินลงจอดบนกิ่งไม้ที่เปรียบดั่งเส้นทางเฉพาะ เหล่าทหารออกมาต้อนรับ องค์หญิงและ เชิญ บัคไวท์ไปกินเลี้ยง ทุกอย่างจบอย่างราบรื่น บัคบิกได้กลายเป็นอัศวินผู้กล้า พวกเขาถูกแต่งตั้ง จนบัคบิกและบัคไวท์เดินออกมาจากงานเลี้ยง ยามค่ำคืน
“ไงสหาย เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่ จำตอนสุดท้ายได้ไหมข้าให้เจ้าเห็นเวทแห่งแสงแล้วนะ ที่ใช้ถ่านสองก้อนน่ะ”
“ข้ารู้ บัคไวท์ ข้าได้เจอกับเทเซล ได้ดูแลร้านต่อ แต่ ข้าว่านั่นไม่น่าจะใช่ตัวของข้าเลย”
บัคบิกกุมมือเข้าหากันมองไปยังดาวบนฟ้าไกล สายตาของเขามุ่งมั่นเกินกว่าสิ่งใด
“จำสิ่งที่เจ้าพูดก่อนกลับมาได้ไหม บัคไวท์”
“ใช่ ข้าบอกว่า การผจญภัยมันจบแล้ว”
“เปล่า การผจญภัยยังไม่จบหรอก บัคไวท์ มันกำลังจะเริ่มต่างหาก โดยพวกเราเนี่ยแหละ”
ทั้งคู่เดินเข้าไปเก็บกระเป๋า และออกเดินทางต่อไป......
เสียงปิดหนังสือ ดังขึ้นจากเตาผิงเก่าๆ ที่ทำจากไม้ขีดไฟ ชายชรากล่อม เกลากระรอกตัวน้อย ก่อนเด็กน้อยบนเตียงจะถามว่า
“แล้วจากนั้นเป็นยังไงต่อครับ ทำไมมันถึงเป็นหน้าว่างเปล่าล่ะ….”
กระรอกชราลูบหัวเด็กน้อยอย่างอ่อนโยน
“ไม่หรอกเด็กน้อย นับจากนี้ มันคือการผจญภัยของพวกเจ้าต่อไปตังหาก…..”
ชายชรายิ้มให้ก่อนเด็กน้อยจะหลับไป
ท่ามกลางหมู่บ้านที่ยิ่งใหญ่ สุดถนนลาสวิล สุดป้ายของร้านเค้กขวามือมีต้นไม้ใหญ่ มันมีเรื่องเล่า เรื่องเล่าของกระรอกหนุ่มสาวที่จะออกผจญภัย
---------------------------------------------------------------
คำท้ายนักเขียน
ขอบคุณสำหรับที่ติดตามมาจนจบนะครับ
TTATT
(ไม่อยากเขียนจบเลย รู้สึกมันมือ แต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลาล่ะนะ)
เขียนครั้งหน้า ต้องทำให้ดีีกว่านี้แน่นอนครับ
อย่าลืมติดตามสนับสนุนต่อไปนะครับ
ขอบคุณทุกท่านจริงๆ ขอบคุณครับ
ความคิดเห็น