ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    การผจญภัยของน้องกระรอก

    ลำดับตอนที่ #5 : "ขอบเขตของบ้านที่เข้าใกล้ได้"

    • อัปเดตล่าสุด 19 พ.ย. 57


    สิ้นสุดจากหมู่บ้านปลายขจอบรั้วสุดเขตจากการเดินทางอันแสนยาวไกลจนมาถึงสะพานที่ขาดวิ่น กลิ่นไม้ลอยระเรื่อคละคลุ้งกับเสียงของคลื่นน้ำที่กระทบดุจชายฝั่งบนสะพานมีกระรอกและหนูสองตัวเดินอยู่ เศษขนมปังแห้งที่โรยตามทางขอบสะพานทำให้พวกเขาอิ่มท้องได้ชั่วครู่หนึ่งก่อนที่จะเตรียมตัวออกเดินทางต่อ บัคบิกมองไม้ที่อยู่เป็นรูข้างสะพานจนมองเห็นไปยังเบื้องล่าง ฝูงปลาแหวกว่ายอยู่ในน้ำที่เงียบสงบ เพียงเศษขนมปังตกลงไป มันกลับกลายเป็นพายุในบ่อปลาโดยทันที บัคไวท์กลืนน้ำลายเฮือกใหญ่

    หากเราตกลงไปก็คงไม่ต่างจากเศษขนมปังเป็นแน่ ข้าว่าอย่าเสี่ยงไปอยู่ใกล้บ่อน้ำเลย

    ถึงบัคไวท์จะพูดด้วยความเป็นห่วงแต่บัคบิกก็ไม่คิดจะเป็นอาหารปลาอยู่แล้วจึงอยู่ห่างจากรูตรงข้ามสะพาน

    ท่านบัคไวท์จากตรงนี้ไปเราใกลัจะไปถึงปราสาทจอมมารรึยัง

    ข้าว่าคงไม่ไกลเท่าไหร่หรอก หากข้ามทะเลสาปนี่ไปได้ก็คงจะถึงแล้วล่ะ

    บัคบิก ข้าว่าข้าได้ยินเสียง.....

    ครึ่กๆๆๆๆๆ

    รถสีฟ้าคันใหญ่ พุ่งตรงมายังบัคบิก ทำให้พวกเขาต้องวิ่งกลับไปที่ทางเก่า เพื่อหลักเลี่ยงจากเจ้าอสูรเหล็กตนนั้นไม่ให้เห็นตัว

    อสูรเหล็กอีกแล้วรึ?”

    แต่พวกเราต้องข้ามสะพานจะเอายังไงดี ข้าว่าเราควรอ้อมไปดีกว่านะ บัคบิก ไม่ก็หาเรือซักลำ

    บัคบิกเดินไปดูอุปกรณ์ต่างๆ แถวขอบทางก็ได้ของมาเศษผ้า ไม้ ด้าย และ เศษโมเดลเรือไม้เก่าๆ

    บัคไวท์ท่านพอจะทำอะไรกับมันได้ไหม มันอาจจะช่วยทำให้เราข้ามไปได้ ท่านพอจะทำให้มันลอยได้สินะ เพราะมันอาจจะเร็วกว่าการเดินอ้อมเยอะเลย

    ข้าทำได้อยู่แล้วล่ะ ก็ แค่ เอา เศษผ้ามาแทนเรือใบ ไม้ซ่อมกระโดงนิดๆหน่อยๆ ข้าว่ามันก็คงแล่นฉิวแน่นอนไม่ต้องห่วง เรื่องนี้ไว้ใจข้าได้เลย

    บัคไวท์เริ่มประกอบเรือ ผ่านไปราวๆ 15 นาที เรือก็ถูกทำเสร็จ เป็นเรือไม้สีดำยาว เรือถูกลงด้วยน้ำมันที่ช่วยพยุงในการลอยน้ำอย่างดี ถูกต่อเติมด้วยไม้เสากระโดงที่หักจากซากไม้ที่เก็บมาได้ และผ้าใบจากผ้าสีดำ ดูไม่ต่างจากโจรสลัดเสียมากกว่าผู้กล้าซะด้วยซ้ำ มีปืนใหญ่ของเล่น ที่ยิงลูกกระสุนสีขาวออกมาได้ และด้านในลังบรรจุ กระสุนอยู่เยอะพอสมควร บัคไวท์เชื่อมต่อระบบด้วยการขับเคลื่อนด้วยตัวเองแทนที่จะขับด้วยวิทยุ บัคไวท์ค่อนข้างเก่งเรื่องงานประเภทนี้พอสมควรเมื่อประกอบเสร็จก็เข็นลงน้ำลมเริ่มพัดเรือลำนี้ให้เคลื่อนไปด้านหน้า

    ว้าว มันใช้งานได้ บัคไวท์ ยอดไปเลย

    อยู่แล้วล่ะ ก็ฉันซะอย่าง ทำไมจะทำไม่ได้ล่ะ

    บัคไวท์ยืดอกอย่างมั่นใจ ก่อนที่เรือจะลอยมากลางทะเลสาบก็ได้ยินเสียงบางอย่างตกกระทบน้ำ

    ตูมมม....

    เสียงกลุ่มมนุษย์เด็กๆ ประมาณ 3คน โดยมีหัวหน้ากลุ่มสวมหมวกสีแดง คาดดาบไม้ขนาดใหญ่ มีน้ำมูกไหลย้อยออกจากจมูก คิ้วถูกกันเป็นระยะ และตามด้วย ลูกน้อง 2คน ซึ่งคนแรกมีหน้าไม้ทำจากไม้เสียบลูกชิ้น ขี่ม้าที่ทำจากกล่องค่อนข้างผอมเพรียว และคนสุดท้าย ถือขวานที่ทำจากไม้และโฟม ดูดลูกอมอย่างเอล็ดอร่อย ลูกน้องคนแรกเอามือมาวางทาบเหนือคิ้วมองมาที่เรือสีดำที่พวก บัคบิกอยู่

    หัวหน้าครับ ผมเจอข้าศึกอยู่ไม่ห่างจากเราซักเท่าไหร่ พวกมันกำลังจะเข้ายึดชายฝั่ง เราจะทำยังไงดีครับ

    เด็กชายสวมหมวกจับหมวกของเขาขยับให้ตรงกับใบหน้าอย่างมั่นคง ชี้นิ้วไปยังเรือสำเภาพร้อมสูดลมหายใจเข้าลึกๆพลันตะโกนออกไปว่า

    หากไม่หยุดลำเรือเราจะยิง นี่คือคำเตือน จงมอบตัวซะ พวกโจรสลัด

    แต่เรือทำจากใบสำเภาไม่สามารถลดลำใบได้เพราะบัคไวท์ออกแบบมาแค่ให้ใบหมุนได้แค่ซ้ายหรือขวา ตามคันบังคับ

    เตรียมกระสุนให้พร้อมเราจะเปิดศึกโจมตี

    เด็กชายคนผอมหยิบ ไม้เสียบวางระนาบลงบนหน้าไม้แล้วยิงออกไป กระสุนกระทบกับลำเรือจนทำให้ บัคไวท์ต้องหลบซ้ายอย่างรวดเร็ว

    เตรียมรับแรงปะทะ

    บัคบิกตะโกนพรางวิ่งไปที่บังเหียนอย่างรวดเร็ว

    รีบคิดเร็วบัคไวท์ เราจะทำอย่างไรกันดี มนุษย์พวกนั้นพยายามฆ่าเรา

    ไม่ทันไร เด็กชายอ้วนหยิบก้อนขนมปังโยนลงแม่น้ำ เหล่าปลากระหายเลือด กระโดดมาแย่งเศษขนมปังอย่างรวดเร็ว

    ถ้าเราจมลง เราคงเป็นอาหารปลาแน่ๆ บัคไวท์

    บัคบิคตะโกนเรียกบัคไวท์ พรางกุมบังเหียนแน่นในขณะที่กระแสน้ำซัดกระเซ็นกระทบกับสีข้างของลำเรือ ก้อนขนมปังถูกปาอย่างต่อเนื่อง อย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

    เราต้องทำอะไรซักอย่างแล้ว ปุ่มกดสวิทปืน กับเครื่องยิงอยู่ด้านหน้าเรือ รีบประจำการที่นั่นเร็ว ข้าจะบังคับเรือเอง ไว้ใจข้าเถอะ

    บัคบิกผละตัวจากบังเหียนมุ่งตรงไปด้านหน้าของเรือเมื่อเขากดปุ่มเครื่องยิงประสุนลักษณะเหมือนหน้าไม้ก็เด้งขึ้นมา มีปุ่มสีแดงประมาณ 5-6ปุ่ม อยู่รอบข้าง

    ข้าต้องกดปุ่มไหนกันล่ะ?”

    ตรงกลาง เจ้าต้องกดตรงกลาง ปุ่มรอบๆไว้ใช้ยิงปืนด้านข้าง

    บัคบิกดลื่อนคันบังคับพร้อมกดปุ่นตรงกลาง กระสุน ขนาด 8 มิล พุ่งเข้าใส่แก้มที่ดูตุ้ยนุ้ยของเด็กน้อยตัวอ้วนๆ

    โอ๊ย มันยิงผมแล้วหัวหน้า ช่วยที หน็อยแน่ะ เจอนี่หน่อยเป็นไง

    เด็กชายคว้าก้อนหินขนาดใหญ่ที่อยู่ข้างทาง เดินเข้ามาใกล้ริมสะพาน เมื่อเขาหย่อนลงมา เสียงน้ำกระจายขนาดใหญ่ พร้อมกับ คลื่น

    แย่แล้ว บัคบิก คลื่นยักษ์ หาที่กำบัง เลี้ยวขวาเต็มกำลัง””

    บัคไวท์พยายามที่จะตามระลอกคลื่นที่ซัดโหมกระหน่ำ

    ไม่ทันแล้ว เกาะเอาไว้นะ บัคบิก

    บัคไวท์คว้าเชือกคู่ใจรัดขอบรั้ว และ ทำบ่วงเช้าไปมัดบัคบิกไว้ แต่แรงกระแทกก็ทำให้เขาร่วงตกลงไปในสายน้ำนั้น เด็กสามคนมาดูผลงานของตน มีแต่เรือที่เปียกโชก ลอยอยู่ท่ามกลางน้ำพร้อมหนูตัวหนุ่งที่พยายามลุกขึ้นในสภาพเปียกโชน

    บัคบิก เจ้าอยู่ไหน?”

    ร่างของบัคบิกที่ ลอยผุดขึ้นมาจากน้ำ เขากำลังจมน้ำ พรางกับเหล่าป่าที่แตกตื่นกำลังว่ายมา บัคไวท์ คว้าเชือกที่มัดร่างของบัคบิกไว้ดึงเข้าหาตัวสุดแรง

    เจ้าน่าจะลดน้ำหนักบ้างนะ ข้าก็แค่ หนูขาวตัวเล็กๆเท่านั้น

    มือทั้งสองข้างของบัคไวท์เต็มไปด้วยแผลจากการผจญภัย แต่เขายังไม่ละความพยายามที่จะลากบัคบิกเข้าสู่ฝั่ง เขาใจแรงทั้งหมดที่มีรัดเข้ากับเสากระโดงเพื่อแทนรอก บัคบิกถูกลากลอยมาก่อนที่จะถูกปลาเข้าไปกัด

    เฮ้อ ข้านึกว่าจะเป็นอาหารปลาอย่างที่ท่านพูดแล้วเสียอีก

    ในขณะที่เขากำลังผ่อนคลายลง ก็ได้ยินเสียงเรียกตะโกนดังขึ้นอีกครั้ง

    นั่น เรือโจรสลัดยังไม่ล่ม จู่โจมมันอย่างต่อเนื่อง

    ความสามัคคีของเหล่าเด็กเริ่มผูกพัน พวกเขาหยิบก้อนหินปามาอย่างไม่หยุดหย่อน บัคบิกกวาดสายตาไป ซ้ายขวาเพื่อหาวิธีเอาตัวรอด

    ใช้แล้ว บัคไวท์ สะพานยังไงล่ะ มันเปราะอยู่ เราต้องพังมัน

    แต่กระสุนไม่มีความแรงพอที่จะถล่มสะพานที่พวกมนุษย์สร้างได้หรอกนะ มันต้องหาจุดที่เปราะมาก และดีไม่ดี เราอาจจะต้องสละเรือก็ได้นะ

    รูนั่นไง เสากลางไม่ให้สะพานค้ำอยู่ตรงรูตรงนั้น เราต้องชนมัน ข้ารู้ท่านว่ายน้ำไหว ท่านเป็นหนูขาวนะ

    หนูขาวไม่ได้เลิศเลอขนาดบินได้นะ บัคบิก แต่ยังไงเอาก็เอา ข้าหวังว่าจะพาเจ้าไปถึงฝั่งได้โดยที่ปลาพวกนั้นไม่เข้ามารุมพวกเราเสียกก่อนล่ะนะ

    บัคบิก เข้าบังคับบังเหียนอย่างมั่นคงขับตรงไปที่เสาที่ดูโครงเครง

    พวกมันจะทำอะไรกันน่ะ?”

    เหล่าเด็กน้อย อุทานด้วยความสงสัย เรือเข้ากระทบกับไม้ยันพอดิบพอดี บัคบิกหวังว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นแต่เปล่าเลยมันกลับมีรอยร้าวเพียงเล็กน้อย ความหวังเริ่มกลายเป็นความสิ้นหวังจนเด็กกลุ่มนั้นปาก้อนหินลงมาอีก แรงของน้ำได้กระทบเข้ากับเสาทำให้สะพานโค่นลงมา เรือของพวกบัคบิก หลบออกไปด้านข้างกระแสน้ำที่ช่วยดันเรือทำให้เรือเคลื่อนเข้าไปใกล้กับฝั่ง มีนพลิกคว่ำ จนพวกบัคบิกต้องว่ายน้ำเข้าไป

    ว่ายน้ำเร็วเข้า บัคบิก

    ใจเย็น คุณบัคไวท์ ข้าตามไม่ทัน

    พวกเขาพยายามจ้วงน้ำจนขึ้นมาถึงฝั่ง เด็กๆเหล่านั้นที่อยู่บนสะพานต่างตะเกียกตะกายขึ้นฝั่งตรงข้าม พวกเขาร้องไห้ออกมา บ้างก็วิ่งไปตามถนน

    ในที่สุด เราก็รอด แล้วสินะ...

    บัคบิกบ่นกับตัวเองพลางคลานเข้าไปหาบัคไวท์และสายตาของพวกเขาก็มืดลงๆด้วยความเหนื่อยแม้จะได้ยินเสียงเท้าจากเงามืด แต่ก็ไม่สามารถขยับตัวได้

    พวกท่านเป็นใครกัน?”

    เสียงอุทานเล็กๆของบัคบิก แต่มันก็ส่งไปไม่ถึง เขาเข้าสู่นิทรา......

    ช่วงเย็น พระอาทิตย์คล้อยผ่านหน้าต่างของบ้านเป็นสีส้ม จากกระจกส่องแสงสีส้ม เข้าสู่ใบหน้าของ กระรอกน้อย เสียงจิ้งหลีด หวีดร้องสนั่นหวั่นไหว ทำให้บัคบิกค่อยๆ พยุงตัวลุกขึ้น เขานั่งอยู่ริมน้ำ โดยมีเศษใบไม้คลุมร่างของเขาอยู่ มันเป็นใบไม้ที่สดทำให้มีความนิ่มพอสมควร มันอุ่นเพราะเปลวไฟที่ถูกก่อไว้เบื้องหน้าโดยเศษไม้ขีด คนที่นั่งอยู่บนกล่องไม้ขีดไฟคือ บัคไวท์ เขากำลังย่าง เกาลัดเพื่อเพิ่มความอุ่นให้กับมัน

    ตื่นแล้วรึ บัคบิก ข้าอุ่นให้เจ้าแล้วรีบกินซะสิ

    บัคบิก รับเศษเกาลัดมาไว้ในมือ มันอุ่นพอที่จะทำให้รู้สึกดี และเขาพอใจกับสิ่งที่ได้รับมา

    ขอบคุณนะ บัคไวท์ ก่อนที่จะสลบไป ข้าเห็นใครก็ไม่รู้ เข้ามาช่วย

    ข้าก็เห็นเช่นกัน ก่อนที่ข้าจะสลบไปพร้อมๆกับเจ้า พวกเราไม่ได้ตาฝาดกันหรอกนะ แต่ข้าไม่มั่นใจว่าสิ่งที่ข้าเห็นนั้น จะเป็นอะไรก็ตาม

    ถึงข้าไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร เขาก็คงไม่ใช่คนเลวหรอก ไม่อย่างนั้นพวกเราคงไม่รอดแล้วล่ะ

    บัคบิกถอนหายใจอย่างช้าๆ แล้วค่อยๆมองบัคไวท์

    พวกเราอยู่ที่ไหนกัน บัคไวท์

    มองข้างหลังเจ้าดูสิ เจ้าก็จะรู้

    บัคบิกหันกลับไปมอง สิ่งที่เขาเห็นคือ รั้วขนาดใหญ่ เป็นซี่กรง และ ด้านในนั้นมีปราสาทหลังใหญ่ กว้างอยู๋ห่างไม่ไกลนัก

    เรามาถึงแล้ว

    น้ำตาที่เอ่อไหลจากการเสี่ยงชีวิต ทั้งถนนมรณะที่ต้องต่อสู้กับอสูรจักรกล เกือบถูกแมงมุมกิน เจอโจรจับตัว และโดนเด็กมนุษย์จู่โจมระหว่างการเดินทาง การผจญภัยต่างๆนาๆของเขาจนมาถึงจุดหมายที่เขาตั้งเป้าไว้ ปราสาทที่เจ้าหญิง ฮามุ กำลังรอคอยอยู่

    บัคไวท์ พวกเราเดินทางมาถึงจริงๆแล้วสินะ เป้าหมายของพวกเรา

    นั่นสินะ บัคบิก พวกเราเดินทางมาถึงแล้วล่ะ

    บัคบิกมองรั้วที่สูงมากๆเข้าไป ที่แห่งนั้นมี มีประตูสีน้ำตาลเข้มกำลังเปิดออก เผยให้เห็นมนุษย์ผู้ชายในชุดสูทสีดำ ใส่เจลจัดทรงผมจนเรียบ เนคไทสีม่วงอ่อนๆ กับเสื้อคอปกสีฟ้า และรอยยิ้มที่ดูเหมือนพญามาร เด็กชายที่เพิ่งจะโจมตีใส่พวกเขาวิ่งไปหาชายผู้นั้น

    คุณลุงครับ ผมเล่นกับเพื่อนๆแล้วสะพานมันพังจนผมตกลงไป

    ไม่เป็นไรนะหลานลุง โถ....ไปอาบน้ำก่อนไป นี่ พ่อหลานก็เพิ่งถูกจับตัวไปที่ถนนลาสวิล เดี๋ยวลุงต้องไปประกันตัวอีก วันนี้มันเกิดเรื่องอะไรกันเนี่ย

    ชายหนุ่มก้มลงไปที่สุนัขล่าเนื้อทั้งสองตัว เอามือลูบหัวอย่างเอ็นดู

    อาโน เจสัน ถ้ามีใครบุกรุกบ้านเราขย้ำมันเลยนะลูก

    ชายคนนั้นกล่าวกับสุนัขล่าเนื้อก่อนขึ้น อสูรจักรกลและขับออกไป

    บ้าจริง นี่มันบ้านของเจ้าของอสูรจักรกลคนนั้นนี่นา มันอยู่เบื้องหลังเรื่องทุกอย่างสินะ เราจะทำยังไงดีล่ะ บัคไวท์ ถ้าเราเข้าไปอาจจะโดนขย้ำก็ได้นะ

    ทำไมเราไม่ลองหาตัวล่อ แล้วอ้อมเข้าไปล่ะ เรามีเวลาพอนะ

    แซ่กๆ

                    เสียงใบไม้เคลื่อนจากดงหญ้า จนทำให้ บัคไวท์กับบัคบิกหยุดวางแผนและหันกลับไปมองเผยร่างงูขนาดใหญ่

                    วิ่งเร็ว...!!”

                    พวกเขาผละตัววิ่งจากงูยักษ์ตัวนั้น กระโดดเข้าไปในรั้ว แต่งูตัวนั้นก็ยังตามติดมาเรื่อยๆ มันแยกคมเขี้ยวขู่เพื่อให้รู้ได้ว่าตอนนี้ พวกบัคบิกกำลังจะกลายเป็นอาหารของมัน

                    ไม่นะ จากอาหารปลา เราก็ต้องมาเสี่ยงเป็นอาหารงูอีกรึ อะไรมันจะทรหดขนาดนี้

                    เพียงพริบตาที่งูกำลังจู่โจมพวก บัคบิก พวกเขาหลับตา มีเสียงดังขวับ บางอย่างคว้าร่างของงูห่างไปชั่วอึดใจ เขี้ยวของมันใหญ่มาก เสียงและขนของมัน ทำให้เห็นเพียงด้านหลัง ขนทั่วตัวของ บัคบิกและบัคไวท์ตั้งตะหง่าน สุนัขสีดำ พันธุ์ อาเซเชี่ยน สองตัว กัดคองูขาดสะบั้น

                    ดูสิเพื่อน ฉันเจออะไรบางอย่าง นอกจากงูเรายังมีเหยื่อตัวกระจ้อยสองตัวให้เราขย้ำเล่นด้วย

                    นั่นสิ เจสัน ข้าอยากลองขย้ำกระรอกมานานแล้ว พวกมันกระโดดยั้วเยี้ยตามต้นไม้ น่ารำคาญชะมัด

                    เจสันกับ อาโน แยกเขี้ยวขู่และเห่ามาทางพวกบัคบิก

                    ช้าก่อน ท่าน สุนัขล่าเนื้อที่เก่งกาจ ตัวพวกข้าก็เป็นหนูขาวตัวกระจ้อย เนื้อรสชาติอาจจะไม่ถูกปากท่าน ให้ข้าได้หา อาหารที่เหมาะกับท่านเถอะ

                    บัคไวท์กล่าวเชิงนำ

                    แต่พวกเจ้ามีกันสองตัวข้าว่าคงอร่อยเหาะ

                    ใช่ ข้าก็ว่าเช่นนั้นใช่ไหมเจสัน ฆ่ามันกันเถอะ

                    พวกสุนัขยังโต้ตอบกลับมา เวลาเป็นสิ่งจำเป็นในการเอาตัวรอดของพวกเขา

                    ดังนั้นพวกข้าขอตัวลา

                    บักไวท์ฉุดมือบัคบิกวิ่งหนี หมาทั้งสองตัวโดยไม่ให้ตั้งตัว

                    ช้าก่อน เจ้าพวกบ้า

                    อึดใจเดียวที่คมเขี้ยวกำลังเข้ามาใกล้ บัคบิกกับบัคไวท์ เข้าไปที่ รางน้ำฝนและ ปีนขึ้นไปด้านบนอย่างรวดเร็วทำให้ พวกมันตามขึ้นมาไม่ได้

                    บ้าจริง ลงมานะ ให้พวกข้าได้กินเจ้า

                    ฝันไปเถอะเจ้าหมาโง่ กลับไปก็โดนพวกเจ้าจริง ใครจะยอมโง่เล่า ฮะฮะฮะ

                    บัคไวท์หัวเราะอย่างสะใจพรางวิ่งไปตามทาง เพื่อรอดพ้นจาก ชะตาชีวิตที่เกือบพลากพวกเขาไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×