ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    การผจญภัยของน้องกระรอก

    ลำดับตอนที่ #4 : อโรมาเธอราพี และการหลอกลวงที่ไร้ค่า

    • อัปเดตล่าสุด 11 พ.ย. 57


                    หลังฝนตกไม่นานนัก มีเสียงลูกของแมลงส่งเสียงตลอดทาง พื้นที่เคยนุ่ม และรอบข้างเต็มไปด้วยหญ้าที่ดูอุดมสมบูรณ์ ในเวลานี้ มันกลับ ห่อเหี่ยวไปด้วยน้ำค้าง และหญ้าที่มีขนาดสูงชันมากกว่าเดิม เท้าของ สัตว์ตัวเล็กๆทั้งสองย่ำลงบนพื้นดินที่เปียกชุ่มจนกลายเป็นโคลนเล็กน้อย ความน่าขยะแขยงของมันทำให้ขนขาวๆดูปุกปุยของ บัคไวท์ เริ่มที่จะคล้ำขึ้นจนเขาขมวดคิ้วและบ่นอุบอิบตลอดทาง

     

     

     

                    “ข้าล่ะเกลียดนัก หลังจากที่ฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง มันช่างน่าหงุดหงิดจริงๆ กลิ่นโคลนก็เหม็นสาบนี่ข้าทนเดินมาได้อย่างไรกันตั้งนานขนาดนี้เนี่ย

     

                    กระรอกตัวน้อยๆที่อยู่ข้างหน้ามัวแต่พลันมองแผนที่ที่หยิบมาจากบ้านของบัคไวท์ และกวาดสายตามอง บนแผนที่มีเพียงรูปวาดบ้านหลังน้อยๆและ กากบาทสีแดงที่อย่ห่างไกลจากสิ่งที่เรียกว่า ถนนลาสวิล

                    “ข้าไม่คิดเช่นนั้นนะ บัคไวท์ ข้าว่าเราน่าจะใกล้กับบ่อแมลงเข้าทุกทีแล้ว ท่านเคยเดินทางมา ท่านพอจะทราบไหมว่า ที่นั่นเป็นอย่างไร?”

                    “มันก็นานมากแล้วนะ บัคบิก ข้าจะเล่าพอที่รู้เรื่องก็แล้วกัน ที่บ่อแมลงนั้น เต็มไปด้วยเหล่าสิ่งทีชีวิตที่น่าขยะแขยง พวกมันรอคอยที่จะโจมตี เราได้ตลอดเวลา มันยากมากที่เจ้าจะเข้าไปถึงด้านในสุดของถ้ำด้านในของเหล่าแมลงพวกนั้น เจ้าอาจจะตายก่อน สิ่งที่เจ้าต้องระวังเป็นอย่างมากก็พวก 8ขาที่พ่นใยเหนียวๆนั่นแหละ อย่าเข้าไปใกล้พวกหากเจ้าเห็นใยสีขาว เข้าใจไหม บัคบิค

                    ขณะที่ บัคไวท์กำลังอธิบายก็ไม่ได้สังเกตว่า พื้นที่รอบๆของเขา ถูกห้อมล้อมไปด้วยหมอกและ บัคบิก หายตัวไปก่อนที่เขาจะรู้ตัวเสียอีก มีเพียงเสียงที่ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ เป็นระยะ แต่ไม่อาจจับทิศทางได้ เสมือนอยู่ในเขาวงกตที่วกวน

                    “เจ้าอยู่ที่ไหน บัคบิก ข้ากำลังไปหาเจ้านะ

                    “ช่วยข้าด้วย บัคไวท์ ข้าหล่นลงมาในหลุมด้านล่าง มันเป็นโพรงข้าหาทางขึ้นไม่ได้

                    “รอข้าก็แล้วกัน ข้าจะหาทางช่วยเจ้า แต่ตอนนี้ข้าขอคิดวิธีช่วยเจ้าก่อนนะ รอไปก่อน สหายข้า

                    เสียง บัคไวท์ค่อยๆหายไปตาม สายลมอย่างช้าๆ ในขณะที่ โพรงที่มือมิดนั้น บัคบิกกำลังกระทบก้อนหินจนทำให้คบเพลิงเล็กๆลุกไหม้ขึ้น ความสว่างของมันทำให้มองเห็นบรรยากาศรอบๆ แม้จะเล็กน้อยแต่ พออยู่ในระยะที่เห็นได้กว้างพอตัว รอบๆตัวของบัคบิก มีแต่ซากกระดูกนก และหนู รวมจนถึงสัตว์เล็กๆ พวกนี้ส่งกลิ่นเหม็นเน่าออกมา ภายในถ้ำกว้างและยาวมาก แต่ก็ยังไม่มีวี่แววของบัคไวท์เลยแม้แต่น้อย มีเสียงเคลื่อนที่ของเท้าอย่างช้าๆเข้ามาใกล้

                    “ก๊อกแก๊ก ๆ ๆ ๆ

                    “นั่นใครน่ะสแดงตัวออกมานะ

                    บัคบิกไม่รอช้าเพราะพื้นที่ที่เขาอยู่เสียเปรียบอย่างมาก เขาจึงชักดาบเข็มของเขาออกมาตั้งท่าพร้อมจู่โจม เมื่อสิ่งนั้นเข้ามาใกล้ เปลวไฟเล็นน้อย เผยให้เห็น ดวงตากลมโตหลายดวง และ ข้าที่ ยกชูขึ้นทั้งสี่ข้างเหนือหัวเพื่อข่มขวัญและเตรียมพร้อมที่จะจู่โจมบัคบิกขาหลังดีดตัวพวยพุ่งเข้ามา โชคยังดีที่เขาหลบไปยังด้านข้างการโจมตีนั้นจึงไม่เป็นผล

                    “บัคบิกเป็นอะไรไหมข้าได้ยินเสียงร้อง

                    “ข้าเจอเจ้า8ขาแล้วมันจู่โจมข้า ข้าควรทำอย่างไรดี

                    “ใช้ไฟล่อมันไว้ บัคบิก ข้ากำลังลงไป

                    บัคไวท์ใช้เชือกที่พกมามัดเข้ากับก้อนหินรีบไต่ลงมาอย่างรวดเร็วก็พบว่าสิ่งที่กำลังเข้าจู่โจม บัคบิกนั้นไม่ได้มีเพียงตัวเดียว พวกมันกำลังกรูกันเข้ามาเหมือนเห็นเหยื่ออันโอชะ เปลวไฟที่ลุกโชนของบัคบิกได้ผลดีกับใยของพวกมันมาก จนทำให้ถ้ำนั้นส่องหว่างและมองเห็นพวกมันมากขึ้น พวกมันเริ่มตีแผ่ล้อมกรอบพวกบัคบิก ให้จนมุม เหงื่อพวกเขาเริ่มไหลมากขึ้น พวกมันเริ่มเขยิบเข้ามาใกล้ แต่สายตาอันว่องไวของ บัคบิก ทำให้มองเห็นรอยแตกของผนังโพรงซึ่งมีน้ำใสๆไหลออกมา

                    “ข้ามีความคิดดีๆแล้ว เชื่อใจข้า

                    “เวลาที่เจ้าพูดแบบนั้น ข้าไม่ค่อยอยากเชื่อซักเท่าไหร่เลยเชียว

                    บัคบิกคว้ามือ บัคไวท์ แล้วฟาดที่ผนังแตกๆนั้นด้วยเศษกระดูกจนผนังแตกออก เสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปทั้ง

                    “เจ้าทำอะไรของเจ้าน่ะ บัคบิก เราจะรอดไปจากที่นี่ได้ยังไง ดูซิเจ้ากำลังจะทำให้เราตาย ตัว8ขา พวกนั้นไล่ตามเรามาแล้ว เราต้องตายแน่ๆ

                    ขณะที่ พวกเขากำลังสิ้นหวัง กระแสน้ำก็ทะลักออกมาจากโพรงที่ บัคบิก ตีไปเมื่อครู่ กระแสน้ำไหลทะลักจนพัดพาพวกที่ไล่ตามกระเด็นไปคนละทิศคนละทาง กระแสน้ำเริ่มไหลเข้ามาใกล้ขาของพวกบัคบิกเข้าทุกทีๆ

                    “เร่งฝีเท้าเร็วเข้า ข้าไม่อยากจมน้ำตายอยู่ที่นี่นะ

                    บัคไวท์ รีบวิ่งนำหน้าบัคบิก แต่เขาดันเห็นว่าข้างหน้าเป็นหน้าผา การหยุดกะทันหันของเขาทำให้น้ำกระซัดพวกเขาไปตามแรงน้ำบัคบิกคว้า แผ่นเปลือกไม้และดึงบัคไวท์ขึ้นมานั่ง กระแสน้ำเชี่ยวดั่งพวกเขาอยู่ในสวนสนุก โพรงนี้ไหลลื่นไปตามทางเรื่อยๆหมุนวนไปตามทิศทางต่างๆ จนมาถึงโพรงใหญ่และเริ่มเห็นทางที่เชื่อมขาดออกจากกัน บัคบิก คว้าดาบเข็มหมุดออกมา และพุ่งจับตัวบัคไวท์ กระโดดข้ามเหวลึก ร่างที่ลอยเคว้งในอากาศ เขาใช้เข็มจิ้มเข้าไปในดินทำให้ร่างของพวกเขาอยู่ตรงหน้าผา

                    “เราจะทำยังไงต่อดีล่ะ จะขึ่นไปได้อย่างไร

                    “ท่านช่วยส่งดาบให้ข้าหน่อยได้ไหม ข้าจะลองปีนขึ้นไปดู กระรอกอย่างพวกเราเก่งเรื่องปีนป่าย

                    “รับไปเลย สหายบัคบิก เรารีบขึ้นไปกันเถอะ ข้าไม่ถูกกับความสูงนี่ซักเท่าไหร่

                    บัคบิกคว้าดาบของบัคไวท์แล้วปีนขึ้นไป ในขณะที่บัคไวท์กอดหางบัคบิกไว้แน่นตัวสั่นเทิ้นและไม่มองลงไปแต่เสียง ก่อกแก่ก บางอย่าง ทำให้สายตานั้นต้องเลื่อนลงไปอย่างช่วยไม่ได้ และสิ่งนั้นก็ตรงไปตามความคิดของ บัคไวท์

                    “พวกมันมาแล้วรีบปีนเร็วเข้า

                    แมงมุมขนาดใหญ่ ใหญ่ยิ่งกว่า ตัวอื่นๆ ที่เขาเคยพบมา ไต่ขึ้นหน้าผาด้วยความรวดเร็วยิ่งกว่า ความเร็วของบัคบิก เพียงแค่ไม่กี่ เมตรข้างหน้าของพวกเขาก็จะถึง ปากหน้าผา แล้ว แค่ความเร็วของ แมงมุมตัวนั้นไม่ได้ลดหย่อนไปเลย คมเขี้ยวของมัน สยายและเข้ามาใกล้บัคไวท์เพียงเอื้อมมือ เขาคิดไม่ทันเลยคว้าเศษดินเศษทรายปาลงไป ในขณะที่หยิบนั้น เศษกระดูกที่ยาวประมาณตัวของ บัคไวท์ฟาดไปที่หน้าของแมงมุม ทำให้มันผงะถอยหลังไป

                    “รีบปีนเร็วเข้า ข้าจะคอยสนับสนุนเจ้า

                    ปลายมือของ บัคบิก เริ่มไขว่คว้าปลายทางของอิศระภาพ ในขณะที่ก้นบึ้งแมงมุมเริ่มตั้งตัวอีกครั้งหนึ่ง

                    “ถึงแล้ว!!”

                    บัคไวท์ตั้งสติและรีบหยิบกระดูกขึ้นมา ง้างสุดแรงวิ่งไปที่ปากโพรง ในขณะที่แมงมุมกระโดดขึ้นมาทันที การฟาดอย่างรุนแรงโดยไม่ทันตั้งตัวทำให้มันล่วงลงไปด้านล่าง

                    “เรารีบออกไปจากจุดนี้เถอะ ตอนนี้หมอกก็ไม่หนามากแล้ว หากช้ากว่านี้ พวกมันคงแห่กันมาอีก

                    “บัคไวท์ มันน่าแปลก เมื่อก่อนฤดูกาลที่หมอกลง มันจะมีกลิ่นของน้ำค้างกับฝน แต่หมอกนี่ กลับทำให้ข้ารู้สึกผ่อนคลายนี่ต้องไม่ใช่หมอกธรรมดาแน่นอน

                    “เหลวไหลสิ้นดี หมอกก็คือหมอกนั่นแหละ บัคบิก เจ้าน่าจะโตได้แล้วนะ.....อุ๊ก!!”

                    บัคไวท์ต้องแปลกใจเมื่อปลายจมูกเขาชนกับแก้วที่ใส่น้ำสีม่วง ใกล้ๆนั้น มีรั้วไม้สูงชันดั่งภูเขา แก้วน้ำนี้ มีควันออกมาประปราย และยังมีภาษามนุษย์เขียนเอาไว้ด้วยตัวอักษรสีน้ำเงิน บนสติ๊กเกอร์ ประดับด้วยรูปดอกไม้ และรูปมนุษย์กำลังหลับตา สภาพเหมือนถูกทิ้ง แต่มันยังทำงานอยู่

                    “ปละ....ปลาโลมา ทรพี….”

                    “บัคไวท์ ท่านอ่อนภาษามนุษย์ออกด้วยรึ

                    “เจ้าเห็นข้าเป็นอย่างไรกันแน่ ข้าน่ะ จอมขมังเวทย์นะ อย่าลืมความประทับใจแรกที่เจ้าเจอข้าสิ

                    “แล้วทำไม ท่านไม่ใช่กับ อสูรกายที่จะกินเราเมื่อซํกครู่ล่ะ

                    “อืม มันต้องใช้เวลาซักพักกว่าจะใช้งานได้ล่ะนะ ต้องมีการเตรียมการอย่างมากน่ะ อย่าถามเซ้าซี่น่ะ ข้ากำลังอ่านเจ้า ปลาโลมา ทรพี บ้านี่ ข้าจะได้นำมันมาใช้งาน

                    “ขอโทษนะท่านบัคไวท์ แต่ข้า คิดว่า มันน่าจะอ่านว่า อโรม่า มากกว่านะ

                    “หนวกหู ถ้าข้าบอกว่าปลาโลมา มันคือปลาโลมาสิ อย่าเถียงนักเวทย์สิฟระ เดี๋ยวข้าไม่ขลังกันพอดี…”

                    บัคไวท์ทำท่าทีฉุนเฉียวเมื่อรู้สึกว่า เด็กใหม่ ดันอ่านภาษามนุษย์ได้มากกว่าตน

                    “แต่ข้างหน้า ก่อนถึง แม่น้ำเราจะเจอหมู่บ้าน เราจะได้พักและหาอะไรทานก่อนที่จะได้ไปช่วยเจ้าหญิง เจ้ามีเงินติดตัวบ้างไหม เราจะได้หาอะไรทานและพักผ่อนก่อนออกเดินทางต่อ

                    “ข้าพอมองเห็น ที่พักจากนี่ไม่ไกลนัก ของข้าคงลืมไว้ในถ้ำหมด มีเพียงดาบ2เล่มนี้แหละ เรารีบไปที่นั่นก่อนเถอะ ท่านบัคไวท์

                    เมื่อบัคบิกกับบัคไวท์เดินทางมาจนถึงกระท่อมบาร์แห่งหนึ่ง ทุกสิ่งรอบๆเหมือนกับเพิ่งถูกปล้นสะดมอย่างโหดร้ายทั้งสวนถูกทำลาย และ บ้านไร่ถูกพัง อย่างหนัก

                    “มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

                    มีหนูสีเทาตัวหนึ่งเดินออกมาจากปากรูเข้าบ้าน ตัวเขาสั่นกลัวพร้อมถือเศษกิ่งไม้ชี้มาทางพวกบัคบิก แววตาเขาไม่ได้มีความคิดร้ายแต่อย่างใด แต่ท่าทีเขากลับต่อต้าน

                    “ขอโทษนะ เราเพิ่งเดินทางผ่านมา มันเกิดอะไรกับที่นี่กัน

                    พวกโจรมันบุกมา เราไม่อาจต้านไว้ได้ สเบียงหน้าหนาวและเหล้าองุ่นถูกขโมยไปหมดได้โปรดช่วยข้าที

                    “ได้ เราจะช่วยเจ้า แต่เราไม่เอาของรางวัลสิ่งที่เราอยากได้คือ สเบียงส่วนหนึ่งและที่พักพิงชั่วคราว เราต้องการเดินทางต่อ ถ้าหากพวกท่านตกลงเราจะ ไปนำสเบียงของพวกท่านคือ

                    บัคบิกยื่นข้อเสนอ ที่ดูง่ายดาย เพียงเพื่อช่วยหนูที่ไร้ทางสู้

                    “เดี๋ยวนะ บัคบิก เราจะไปสู้กับพวกโจรได้ยังไง ตัวเราในตอนนี้มีเพียงแค่สองคน

                    “หลายครั้งที่เราร่วมเดินทางกันมา ท่านก็เห็นไม่ใช่รึไงว่าข้ามักจะมีแผนการอะไรเสมอ ท่านก็เตรียมตัวมาพอแล้ว ท่านต้องแสดง พลังเวทให้พวกเขาได้ประจักษ์และหวาดกลัว ข้าเชื่อในตัวท่านนะ บัคไวท์ ท่านทำให้เราได้...ใช่ไหม

                    “ดะ....ได้สิ ข้าทำได้

                    พวกหนูสีเทาต่างโห่ร้องด้วยความดีใจ สเมือนถูกปลดปล่อย แต่ในใจของ บัคไวท์กลับรู้สึกผิดอย่างเต็มเหนี่ยว เขาก็เป็นเพียงหนูขาวธรรมดา ที่เร่ร่อนแสดงมายากล และทริกต่างๆ มีความคล่องแคล่ว แต่ไร้ซึ่งความสามารถ ทำเก่งได้แค่กับ นักผจญภัยใหม่ๆเพียงเท่านั้น หากได้เดินทางร่วมกันมา จะทำให้รู้ได้ว่า เขาไม่มีอะไรเลยและภายในใจของ บัคไวท์ก็คิดเช่นนั้น ในเย็นวันนั้น เขานั่งที่กิ่งไม้เพียงลำพังในขณะที่ ภายในร้านกำลังคึกคัก หยิบเสบียงที่เหลือออกมาฉลองยิ่งสร้างความเจ็บปวดให้กับ บัคไวท์เป็นอย่างมาก หากเขาแก้ไขได้คงทำมันแล้ว ความผิดนั้นฝังลึกตั้งแต่เริ่มออกเดินทาง และตอนนี้เขากำลังตัดสินใจว่า เขาเลือกที่จะหนีจากทุกคน หรือ สารภาพออกไป ยิ่งเวลาผ่านไปมันยิ่งแย่ลง

                    “พวกเขาคงเกลียดข้าหากข้าพูด.....

                    “เกลียด ท่านพูดอะไรอยู่รึ?.......ใครจะเกลียดท่าน?”

    เสียงเล็กๆดังแทรกด้านข้างมาเล็กน้อย พร้อมกับหน้าของบัคบิก

    เปล่าข้าแค่มีอะไรในใจ แต่ข้าพูดมันไม่ได้

    นี่มันไม่สำคัญหรอก ว่าท่านจะเป็นอย่างไร หรือเก็บอะไรเอาไว้ แต่ข้าว่านะ การที่มีซักคนที่เชื่อใจและพึ่งได้ในยามยาก ไม่ใช่เรื่องที่เลวร้ายหรอกนะ

    บัคบิก ข้ามีเรื่องจะบอกเจ้า…….”

    เสียงฝีเท้าดังขึ้นมา พร้อมกับทักทายของเหล่า หนูสีเทา

    ท่านจะมาดื่มด้วยกันไหมล่ะ ท่านนักเดินทาง

    ไม่ล่ะ เราต้องพร้อมเดินทางและเก็บแรงเพื่อให้ จอมเวทย์ อย่างท่านบัคไวท์ได้พร้อมต่อสู้ยังไงล่ะ

    คำพูดนั้นเหมือนเข็มแทงใจของ บัคไวท์เข้าอย่างจัง ทำให้เขาไม่สามารถบอกสิ่งที่ต้องการพูดออกมาได้อีก เขาจึงปลีกตัวเพื่อขอไปนอนพัก

    ท่านบัคไวท์ดูแปลกๆไปนะ ข้าคงไม่ดื่มแล้วล่ะข้าคงต้องพักเช่นกัน

    เมื่อค่ำคืนที่รื่นเริงได้ผ่านพ้นไป เสียงของฝีเท้าข้างนอก น่าจะประมาณ3คน

    เฮ้ย ถึงเวลาส่งสเบียงของพวกแกมาแล้ว เจ้าพวกสีเทา

    เสียงตะโกนหนักแน่นของ หนูตัวอ้วนใหญ่สีน้ำตาลเข้ม ถือเปลือกไม้ดั่งโล่ และมีดไม้ของเล่น ส่วนอีกสองตัว ถือตะขอเกี่ยวและเชือก

    เราไม่กลัวพวกแกหรอก เรามีผู้กล้านะ เขาจะมาจัดการพวกแก

    พวกหนูสีเทาผลักหลังของ บัคไวท์ให้ออกไปด้านนอกของประตูสีหน้าของเขาดูตรึงเครียดเขาก้าวออกไปด้านหน้าของพวก โจร

    นี่น่ะหรือ ผู้ปลดปล่อยของพวกแก ดูมันยืนตัวสั่นสิ จะทำอะไรได้ เพียงแค่เขาผลัก บัคไวท์ก็ล้มลง

    บัคบิกเห็นท่าไม่ดูเลย ชักดาบเดินออกมากระซิบข้างหูบัคไวท์เบาๆว่า

    ใช้เวทมนย์แห่งแสงที่ท่านสแดงให้ข้าดูสิ พวกมันจะได้เลิกตอแยซะที

    ข้า ขอโทษบัคบิก ข้าไม่มีเวทมนย์อะไรนั่นหรอก นั่นมันก็แค่ไฟฉายแบบแรงเท่านั้นแหละ ข้ามันก็แค่พวกเก๊กท่าไปเรื่อยแต่ข้ากลับไม่มีอะไรเลย

    เดี๋ยวนะ นี่ท่าน…….”

    บัคบิก โดนรัดผ้าปิดปาก และโดนแย่งดาบไปในทันทีขณะที่กำลังสนใจบัคไวท์

    เอาละ เจ้าพวกหนูสีเทาฟังนะ หากไม่นำสเบียงส่วนที่เหลือมา ให้เราที่ถ้ำเราจะฆ่าเจ้ากระรอกนี่ทิ้งซะ และจะโยนศพของมันลงบึงมรณะ ไม่ว่ายังไงเจ้าก็ต้องหาเพิ่มมาอีกสองเท่า

    พวกโจรพูดเสร็จก็เดินกลับไปพร้อมกับบัคบิก โดยทิ้งให้บัคไวท์อยู๋กับชาวบ้านที่กำลังเดือดดาลที่ทำให้พวกเขาต้องลำบากเพิ่มขึ้น แถมสเบียงสุดท้ายก็หมดไปกับปาตี้เสียแล้วด้วย ก้อนหิน ก้อนหนึ่ง ลอยเข้ามากระทบหน้าของ บัคไวท์

    เจ้ามันเลว เป็นเพียงหนูขาวกระจ้อย แถมยังทำอะไรไม่ได้ ออกไปจากหมู่บ้านนี้ซะ!!”

    หนูสีเทาตัวสูงโย่งตัวหนึ่งชี้หน้าใส่ บัคไวท์

    พวกต้มตุ๋น ทรยศ ทำกับเพื่อนของเจ้าเช่นนี้ได้อย่างไรกัน

    บัคไวท์รีบรุดออกมายัง เครื่องที่พ่นควัน ก่อนที่พวกหนูจะหยิบก้อนหินกันอีกรอบ เขานั่งอยู่ข้างๆเครื่องพ่นควันสีขาวจางๆ มันขาวจนเขาเห็นเหมือนคนที่ร่วมเดินทางกับเขาคนก่อน

    บารามิน นั่นท่านรึ ใช่สิ ข้าไม่สามารถทำอะไรได้เลย บัคบิกเข้มแข็งกว่าข้า ข้าจะทำอย่างไรได้อีก

    เสียงที่เหมือนจิตมโนภาพขึ้นมาตอบกลับอย่างช้าๆ

    โธ่ บัคไวท์เอ๊ย เจ้าน่ะเป็นคนฉลาดมิใช่รึ ถ้าเวทมนย์ไม่มีอยู่จริง ก็จงสร้างมันขึ้นมาซะสิ

    บัคไวท์หันไปมอง อุปกรณ์ปล่อยควันที่อยู่ข้างหลัง

    จริงด้วย ทำไมข้าถึงคิดไม่ถึงนะ มันอาจจะเป็นการหลอกลวง ถึงข้าจะหลอกบัคบิก แต่ถ้าจะช่วยเขาให้ได้

    เขาวิ่งกลับมาที่หมู่บ้านอีกครั้ง ชาวบ้านที่เห็นดังนั้นจึงถือไม้และอาวุธขึ้น

    ช้าก่อน ข้ามีเรื่องให้ท่านช่วยข้าซักหน่อย

    ทำไว้แบบนั้นยังมาขอให้พวกเราช่วยอีกรึ

    ช้าจำเป็นต้องมีพวกท่านเพื่อช่วยเพื่อนของข้า ได้โปรดเถอะ ถ้าทำไม่สำเร็จ ข้ายินดีรับโทษแต่เพียงผู้เดียวก็ได้ ขอเพียงช่วย สหายของข้าด้วย

    ก็ได้ หากท่านทำพลาด พวกเราจะส่งท่านให้พวก 8ขากิน

    บัคบิกรีบแจงแผนโดยการให้คนไปขนเครื่องปล่อยควันจากที่หน้าหมู่บ้าน และผสมบางอย่างลงไป เขาขนขวดบางอย่างขึ่นบนหลังและให้นำตัวเองไปไว้ด้านหน้ารังโจร เมื่อออกเดินทางไปได้ซักพัก เขาเริ่มเปิดเครื่องปล่อยควัน ควันสยายไปตามโขดหินและ ปกคลุมไปทั่ว จนเหล่าโจรเริ่มอุทานกันต่างๆนาๆ

    อะไรกันวะเนี่ย! หน้าหนาวมันไม่ได้เร็วขนาดนี้นี่หว่า

    หัวหน้าของเหล่าโจรหนูสีน้ำตาล ที่บัคบิกถูกมัดอยู่ข้างๆกล่าว เสียงปริศนาจากเงาได้ตะโกนขึ้นมาอย่างน่ากลัวพลางให้เห็นร่างที่ใหญ่โต

    พวกเจ้า บังอาจท้าทายข้า ข้าต้องแค้นใจกับพวกเจ้าจนตายจากโลกนี้ไป ความแค้นของข้าจึงสถิตใหม่เป็นจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ ปล่อยตัวสหายของข้ากลับไปซะ ทิ้งสเบียงไว้แล้วออกไปจากที่นี่ หากเจ้ายังตอแยอยู่ข้าจำเป็นต้องแสดง แสนยานุภาพเวทมนย์แห่งน้ำ และดินให้เจ้าได้เห็น

    พวกข้าไม่กลัวเจ้าหรอก เจ้ามันแค่ไอ้หนูขี้ปิ๊ดจะหลอกอะไรข้าอีกล่ะ

    ถึงปากของหัวหน้าหนูน้ำตาลจะพูดเช่นนั้น แต่เขากลับตัวสั่นด้วยความกลัว เขาได้ยินเสียงดัง ตุ๋มทีหนึ่งชั่วอึดใจ แรงดันของน้ำ ทำให้ลูกน้องตัวหนึ่งกระเด็น

    นี่คือคำเตือนสุดท้าย หากดื้อดึงข้าจะต้องเชือดพวกเจ้าทิ้งให้หมด

    เมื่อสิ้นเสียงนั้น หัวหน้าหนูสีน้ำตาลจึงสั่งให้ลูกน้องแยกย้ายและหนีไปจากที่นั้นโดยทิ้งของทุกอย่างเอาไว้บัคไวท์เดินเข้ามาและ ปลดเชือกของ บัคบิก โดยบัคไวท์สวมเสื้อคลุมเดินออกมา

    ท่าน ทำได้ยังไงกัน ก็ท่าน...

    ใช่ แต่มันไม่ใช่เวทมนย์หรอกนะ ข้าขอโทษแต่...

    บัคบิก สวมกอดบัคไวท์อย่างแนบแน่น

    ข้าคิดไว้แล้วว่าท่านจะต้องกลับมา แม้ท่านจะไม่ใช่ ผู้วิเศษ หรือนักรบที่เก่งกล้า แต่ท่านคือสหายของข้า แค่นี้ ก็เพียงพอแล้วล่ะ

    น้ำตาของหนู ขี้วีนอย่างบัคไวท์ไหลออกมาอย่างช้าๆ นอ้อมกอดของสหาย

    ระ เรารีบไปกันเถอะ เอาของกลับไปด้วยนะ

    บัคบิก และบัคไวท์ ต่างก้มลงเก็บของต่างๆ รวมถึงอาวุธ มามอบให้กับหมู่บ้าน พวกเขาได้รับ ทั้งสเบียง และของต่างๆ บัคไวท์ เก็บขวดเปล่า หลายๆใบเอาไว้ ส่วนบัคบิกก็เตรียมตัวออกเดินทางต่อ

    ต่อจากนี้ ชาวบ้านก็คง ดูแลตัวเองกันได้แล้วล่ะนะ ว่าแต่ ท่านทำอย่างไรถึงควบคุมน้ำนั่นได้

    อ๋อ มิ้น กับน้ำอัดลม ทำปฏิกิริยากันน่ะ ข้าไม่มีเวทมนย์ แต่ข้ามีความรู้นะ อย่างน้อย ข้าก็จะช่วยเจ้าในยามคับขันนั่นล่ะ ข้าได้พบสิ่งที่ข้าถนัด เจ้าได้รับประสบการณ์ เอาละ เราเดินทางกันเถอะ เพื่อน คู่หู สหายรัก ของข้า

    ไม่ว่าท่านจะเรียกอย่างไร ข้าก็ยินดีเสมอนะ ท่านบัคไวท์ สหายของข้า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×