ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    การผจญภัยของน้องกระรอก

    ลำดับตอนที่ #2 : (ก้าวแรกของกระรอกน้อย)

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.ย. 57


    ณ สถานที่แห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยต้นไม้ และภูเขา มีเสียงนกร้องจากยอดพุ่ม สุดถนน ของหมู่บ้าน เรมิงตันวู๊ด ในแถบชานเมืองแถว อังกฤษ ที่เรียงรายไปด้วยแผ่นกระเบื้อง ร้านอาหาร และสวนหลังบ้านของชาวเมือง เรมิงตัน ถัดไปจนสุดของ ตู้ไปรษณีย์สีแดงตั้งเฉิดฉายอยู่ ณ มุมของสี่แยก ลอยเนอร์ที่โด่งดังในเรื่องของการเดินเท้ามากกว่าการขับรถและถัดไปย่านหลังบ้านของ บ้านเลขที่ 99/1 มีต้นไม้ที่ดูคงทนแข็งแรง และกิ่งก้านยื่นยาวออกข้าง ใบสีเขียวสดพุ่มสะพรั่ง ที่บนต้นระหว่างยอดพุ่มมี กระรอกตัวน้อย หางเป็นพวงนุ่มและขนสีน้ำตาล ดวงตาที่สดใส  กำลังถือลูกโอ๊คกลมโตสีน้ำตาลเข้ม ขัดเงาอยู่ ชื่อของมันคือ บัคบิก กำลังเดินตรงเข้าสู่รัง โพรงที่อยู่ต้นไม้สูงตระหง่าน และกระรอกแก่ๆที่กำลังปัดถูพื้นให้สะอาดเอี่ยมดั่งทุกวัน ภายในรังที่เขาย่างก้าวเข้ามา เป็นร้านอาหารเล็กๆ ที่ตกแต่งที่นั่งด้วย เก้าอี้ลูกโอ๊ก เรียงราย ตกแต่งสีสันด้วยผ้าเช็ดหน้าที่ถูกตัดออกลายสก๊อตสีแดง และบาร์ที่ทำจากขอดไม้สีแดง งานที่ประณีตจวบจนถึงแม้กระทั่ง แก้วชามของกระรอกต่างๆที่ถูกขัดเกลามาอย่างสวยงาม และนาฬิกาพกขนาดใหญ่ที่บ่งบอกเวลาใกล้จะเย็นมา ซึ่งหมายถึงกระรอกจากทั่วทั้งเรมิงตั้นวู๊ด จะมาร่วมชุมนุมกันใน ร้านที่ดูคับแคบ แต่ดูอบอุ่นนี้นั่นเอง บัคบิก เปิดไฟเพื่อให้ความสว่างแก่ห้องที่ตนอยู่ และเขาก็เดินเข้าไปหากระรอกสูงอายุที่ยืนกวานพื้นอยู่นั้น

                    เทเชล ข้าอยู่ที่นี่มาก็นานแล้ว อีกไม่กี่วันก็ครบปีวันเกิดของข้าพอดี ข้าอยากจะออกไปดูโลกกว้างภายนอกบ้างและข้าก็ขอโทษนะที่ข้าไม่สามารถดูแลร้านนี้ต่อจากท่านได้”

                    บัคบิก นี่เจ้าคิดอะไรไร้สาระอีกแล้ว โลกภายนอกอันตรายมากเจ้ารู้ใช่ไหม ทั้งสัตว์น้อยใหญ่ที่พยายามจะกินเจ้า ไหนจะ พวกลิงไร้ขนที่อยู่ในปราสาทที่ห่อหุ้มด้วยคอนกรีต พวกนั้นอีก นี่ก็ผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว ทำไมเจ้ายังไม่เชื่อในสิ่งที่ ข้าพูดอีก หรือเจ้ากระหือรือที่อยากจะออกไปตายข้างนอกกันล่ะ!”

                เทเซล คิ้วขมวดเข้าหากัน และถอนหายใจ สายตาของเขานั้นมองไปที่ปฏิทิน ตัวเขารู้ดีว่า บัคบิกไม่ใช่เพียงแค่เด็กเหมือนดั่งที่เขาเคยเป็น เขาเติบโตเป็นกระรอกวัยรุ่นพร้อมที่จะบุกตะลุยไปทุกที่เสียแล้ว หากเพียงแต่ว่า ขนาดตัวของ บัคบิก มีขนาดเล็กกว่า กระรอกทั่วไป จนทำให้ไม่สามารถออกไปที่ไกลๆได้ หากถูกแมว หรือ สุนัขพบเข้าคงถูกกัดจนตายเป็นแน่

                    นี่ เทเซล ข้าอยู่ที่นี่ก็ได้ ข้าไม่ออกไปไหนก็ได้ เทเซลจะลำบากใจ ถ้าหากขอร้องมากไป และข้าก็ไม่ต้องการเช่นนั้น ถ้าหากว่าต้องทำงานที่นี่ ตลอดชีวิต ข้าก็คงยอม”

                บัคบิก เดินคอตกไปที่ระเบียงกิ่งไม้ และสวนเข้ากับ กระรอกชราตัวหนึ่งเข้า เขามีหนวดที่งู้ม และขาที่ห้อยซาลงมา มีเพียงผ้าขี้ริ้วเก่าๆ ที่ห่อหุ้มร่าง และปลายมือที่ดูซีดเรียว เขาเข้ามานั่งที่บาร์ ทำให้สายตาขอ เทเซลและ บัคบิกต่างจับจ้องไปที่เขา

                    ข้าขอลูกโอ๊คซักที่ ได้ไหม คนขายแลกกับจะเล่าเรื่องจากภายนอกให้ท่านฟัง!!”

                บัคบิกรู้ได้ทันทีว่า เทเซล ต้องไล่ กระรอกชราคนนั้นแน่นอน เพราะเขาไม่มีเงิน แต่ บัคบิกก็เข้ามาห้ามไว้เสียก่อนที่ เทเซลกำลังจะพูด

                    ช้าก่อน ข้าอยากฟังเรื่องราวของท่าน ว่าแต่ท่านชื่ออะไรกัน?”

                “ชื่อของข้าคือ บารามิน...... บารามิน ฟรา แคร็ดฟอด เบจามิน เรมิงตัน เคราเซอร์ที่ 5”

                “เดี๋ยวนะ ข้า เอ่อ.....งั้นข้าขอเรียกท่านว่า บารามินก็แล้วกัน ชื่อของข้าคือ บัคบิก โนแลน คุณช่วยเล่าเรื่องภายนอกให้ฟังหน่อยได้ไหม ท่าน บารามิน”

                บัคบิกหยิบ ลูกโอ๊คที่สดใหม่ที่เขาเพิ่งหามาได้ล่าสุดเขามองลูกโอ๊คด้วยสีหน้าหม่นหมองพรางภอนหายใจและยื่นมันให้กับ กระรอกชราตัวนั้น

                    ก็ได้ ข้าจะเล่าเรื่องนี้ให้เจ้าฟัง กระรอกตัวน้อย เรื่องมันก็นานมากแล้ว สมัยที่ข้ายังทำงานอยู่ใน ปราสาทเหนือ บ้านของเจ้าพวกยักษ์ตัวโตเหล่านั้นที่อยู่ด้านนอก เจ้าหญิงฮามุ ตัวเล็กๆ ผู้น่าสงสาร นางถูกพวกยักษ์จับตัวเอาไว้ ข้าไม่สามารถจะปลดพันธนาการกระจกของพวกมันได้ พวกเขา ดูแลนาง ขังนางเอาไว้จากกระจกเหล่านั้น สมัยก่อนแม้ข้าจะโดนพวกนั้นจับขังไว้ในกรงก็ตาม แต่ ที่นั่นอันตรายมาก มีสัตว์ ขนาดใหญ่ มันเยี้ยนย่างไปด้วยขาทั้ง4ข้าง ขนยุ่บยั่บเต็มร่างกายของมัน พวกมันมีเสียงคำรามที่น่ากลัว รวดเร็วดั่งสายลมพัก จู่โจมเจ้าจากเงามืดด้วยกรงเล็บอันแหลมคม!! ให้ตายเถอะ แค่นึกถึงข้าก็หวาดกลัวแล้ว”

                “แล้วองค์หญิงล่ะ ท่าน บารามิน เธอเป็นเช่นไร!”

                “เธองดงามมาก รูปลักษณ์ของเธอมีขนาดเล็ก พอๆกับเจ้า ขนของนางนุ่มฟูน่าสัมผัส ดวงตาที่ใสซื่อของนางช่างจะสรรหาคำใดๆมาเปรียบก็ไม่ได้”

                “ข้าเองก็อยากจะเห็นเช่นกันงั้นข้าจะไปช่วยนางเดี๋ยวนี้แหละ”

                มือข้างหนึ่งของ กระรอกเจ้าของร้านได้จับบัคบิกเอาไว้ และมอง บัคบิกด้วยสายตาเพ่งเล็ง

                    ช้าก่อน เจ้าคิดว่าเจ้าจะไปไหนกัน บัคบิก ถ้าหากเจ้าไปในที่ๆเจ้าเองยังไม่รู้จัก ก็อาจจะเกิดเรื่องแย่ๆตามมา ข้าไม่อยากให้เจ้าต้องเจอภาระเช่นนั้น แล้วยังจำสิ่งที่ข้าพูดกับเจ้าได้ไหม บัคบิก ข้างนอกนั้นมันอันตราย”

                “แต่ ถ้าไม่มีคนช่วยนางล่ะ เทเซล ท่านไม่คิดเลยรึไง นางต้องโดดเดี่ยวแค่ไหน นางต้องอยู่ตามลำพังและไม่มีใครที่จะช่วยนางได้ ข้าอาจจะเป็นคนเดียวที่ทำสิ่งนั้นได้”

                “เฮ้ บัคบิก ใจเย็น ฟังนะ บางครั้ง กระรอกทุกตัวไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นฮีโร่ แต่ก็ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้เสมอไป ข้ารู้ว่าเจ้านั้น ดื้อรั้นเพียงใด เจ้าก็โตมากแล้วและข้าเองก็คงห้ามเจ้าไม่ได้เช่นกัน งั้นข้าขอเวลาเจ้าได้ไหม ไว้ตอนเช้าเจ้าค่อยออกเดินทาง และมาพบกับข้าในห้องครัวล่ะ”

                เทเซลมองบัคบิกชั่วครู่และเดินจากไป บารามิน มองที่ เทเซลด้วยสายตาอ่อนโยน

                    เจ้ามีพ่อที่ดีนะ เอาละ ข้าก็คงขอที่พักเจ้า นอกร้านนี้ ซักคืนก่อนที่ จะออกเดินทางต่อเช่นกัน และข้าจะบอกสถานที่ให้ในวันรุ่ง ข้าขอตัวก่อนนะ”

                .ขอโทษนะ ท่านบารามิน แต่ข้าไม่มีพ่อ พวกยักษ์จับพ่อของข้าไปหมดแล้ว ข้าเป็นคนเดียวที่หนีรอดได้ และไม่รู้ว่าจะมีโอกาสที่ข้าจะได้พบกับพวกเขาอีกไหม มาเชลแค่รับข้ามาเลี้ยงเท่านั้น”

                “นั่นล่ะที่ข้าพูด เจ้ามี พ่อ ที่ดีนะ”

                บารามินเดินจาก บัคบิกไปพร้อมโบกมือให้ กับเขา เดินออกจากโพรงไป หลังจากที่ งานต่างๆเสร็จสรรพหมดแล้ว เขาจึงกลับไปพักผ่อนที่ห้องของเขา เมื่อเดินผ่านห้องของ มาเชล บัคบิกได้ยินเสียง กึงกังบางอย่างดังถี่ๆคล้ายกับเสียงเหล็กกระทบกันอย่างต่อเนื่อง เขาคิดที่จะเคาะประตู แต่ก็เดินจากไป เขาไม่อยากรบกวนเวลาการทำงานของ เรเชล เมื่อถึงห้องนอน สิ่งต่างๆที่พูดขึ้นในวันนี้ต่างเข้ามาในหัวของ บัคบิก อย่างต่อเนื่อง

                    พ่อ อย่างนั้นเหรอ ก็ไม่เลวนะ”

                บัคบิกรีบนอนหลับเพราะไม่อยากที่จะต้องคิดเรื่องอะไรมากมาย จนเวลาผ่านไปจนถึงรุ่งเช้า เสียงของนก กู่ร้องบอกวันใหม่ แสงที่แยงเข้ามาถึงดวงตาทำให้ บัคบิกต้องหันหน้าหนี

                    เดี๋ยวก่อน เราต้อง รีบตื่นแล้ว วันนี้เป็นวันแรกของการออกเดินทางนี่นา จะสายไม่ได้”

                บัคบิกรีบลุกขึ้นจากเตียงอย่างรวดเร็ว ห้องขนาด เล็กที่ ประมาณ กระรอก3ตัวนอน นั้นแค่นำเตียงไม้ที่ทำจากเศษไม้เล็กๆ ยัดด้วยใบเมเปิ้ลนั้น ก็กินเนื้อที่ขนาดห้องไปเกือบทั้งห้องแล้ว บัคบิกเปิดประตูพร้อมทำกิจวัตรยามเช้าอย่างเรียบร้อย เขารีบเดินเข้าไปที่ห้องครัวซึ่งมี มาเชล ยืนรออยู่

                    โอ้ เจ้ามาแล้วรึ บัคบิก”

                เสียงทุ้มที่อ่อนโยนของ มาเชล เขาหยิบของชิ้นหนึ่งมามอบให้กับ  บัคบิก มันคือ ดาบเล่มงามสีเงิน ทำจากเข็มของมนุษย์กับราวกับดาบที่ใช้สำหรับทิ่มแทงเป็นอย่างมาก เปรียบกับดาบเรเปีย ก็มิปาน

                    โอ้ มาเชล มันสุดยอดมาก นี่คือ สิ่งที่ท่านทำทั้งคืนเพื่อข้ารึ”

                “ข้าหวังว่าเจ้าจะชอบมัน บัคบิก โลกภายนอกนั้นอันตรายเหลือเกิน ไม่ว่าจะ สัตว์ยักษ์ แม้กระทั่งพวก ยักษ์ด้วยเช่นกัน ข้าเลยคิดว่า จะให้เจ้าพกไรซักอย่างไว้ป้องกันตัว ก็คงจะเป็นสิ่งนั้นแหละ”

                “ขอบคุณครับ มาเชล ผมชอบมันมากเลยล่ะ ผมจะใช้มันอย่างรู้คุณค่าที่สุด และผมจะดูแลมันครับ”

                มาเชลลูบหัวของ บัคบิก และเชื้อเชิญให้เห็น อาหารที่ถูกวางอย่างงดงามตระการตา อันประกอบไปด้วย ชิ้นที่ถูกตัดจาก เมล่อน ขนาดย่อม และถูกตรงแต่งเป็นรูปแบบต่างๆ และลูกโอ๊ค ขนาดใหญ่ซึ่งเป็นของที่ บัคบิกชอบ กับน้ำเชอรี่ที่ถูกบดมา และทำเป็นแยม กลิ่นของพายอบขนาดย่อมกับกลิ่นของน้ำผลไม้หอมหวานชวนให้น่าหลงใหล

                    ขะ ข้าไม่เคยเห็น ของแบบนี้มาก่อนเลยท่านทำได้ขนาดนี้เลยรึ แล้วท่านไม่นำมาเป็นเมนูในร้านล่ะ”

                “มันเอาไว้ใช้สำหรับโอกาสพิเศษน่ะ บัคบิก”

                “โอกาส พิเศษ อะไรรึ? มาเชล”

                “วันนี้เจ้าได้ เติบโต วันนี้เจ้าได้โอกาสได้การก้าวเดิน และหลายๆสิ่งสำหรับเจ้ายังไงล่ะ บางทีบางครั้งสิ่งเหล่านั้นไม่จำเป็นต้องพูดเสมอไปหรอก มันออกมาอยู่ในการกระทำทั้งหมดแล้ว เมื่ออิ่มหนำแล้ว ข้าให้ บารามินไปรอเจ้าที่ เบื้องล่างแล้ว ข้าไปส่งเจ้าได้แค่ปากโพรงเท่านั้นแหละ”

                บัคบิกไม่รอช้า รีบทานของที่อยู่ตรงหน้า ความหวานของเมล่อน ที่ละลายอย่างแผ่วเบาในปากและน้ำหวานของลูกเชอรี่คลุกเคล้ากันอย่างลงตัว เมื่อเขาทานอาหารจนหมดก็หยิบกระเป๋าเดินทางและลงไปข้างล่าง จนเจอกับบารามินเมื่อเขาหันหน้าไปมองที่โพรงที่เดินจากมา ก็เห็นเรเชลยืนส่งอยู่ เขาโบกมือทักทายกับ บัคบิก 

                    โชคดีครับ พ่อ”

                    เสียงเบา ถูกส่งผ่านออกไป โดยที่บัคบิกก็โบกมืออำลาเช่นเดียวกัน เมื่อเดินมาซักพัก ก็พบ ยอดไม้ใบหญ้าที่ขึ้น  สูงเหนือหัวของบัคบิก ขึ้นไป มันกว้างและใบบางใบใหญ่แตกต่างกันเสมือนกับป่า ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่บัคบิกลงมา ช่วยกัน แสงแดดจ้าเหนือหัวของบัคบิก

                    บารามิน เราจะไปที่ไหนกันครับ ผมพร้อมแล้ว เราจะไปช่วยเจ้าหญิงกันเลยใช่ไหม เธออยู่ที่ไหนครับ”

                “ใจเย็นเด็กน้อย เธออยู่ที่แยก อู๊ท ถนนตัดผ่าน เรมิงตัดวู๊ดที่สี่ไปเลยน่ะ บ้านหลังแรกหากหลุดออกไปจาก หมู่บ้านของพวกยักษ์ เจ้าคงอยู่แต่ในโพรงสินะ ข้าแค่เป็นผู้ชี้ทางเท่านั้น ข้าจะไปส่งเจ้าที่บ้านสหายของข้าก่อนก็แล้วกัน ไม่ต้องห่วงหรอก เขาเป็นคนดี และเขาก็คงจะเป็นเพื่อนร่วมทางกับเจ้าที่ดีแน่”

                    สหาย ท่านหมายถึงท่านรู้จักกับเขารึ เขาเป็นอย่างไรกัน?”

                “เขาตัวเล็กคล่องแคล่วว่องไว ทักษะการปีนป่ายที่เหนือชั้น แม้จะเป็นพวก อารมณ์ร้อนง่าย แต่ก็เฮฮา และทำอะไรบ้าบิ่นมากกว่าที่คิดล่ะนะ”

                    ภาพที่อยู่บนความคิดของบัคบิก บิดเบี้ยวไปด้วยความน่ากลัวโดยทันที เสมือนทหารที่เจนสงครามกระหายการต่อสู้คือสิ่งที่พวกเขากำลังจะไปเจอ เมื่อพวกเขาเดินมาจนถึงกำแพงขนาดใหญ่ สีแดงทำด้วยไม้ และมีท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ บารามินก็ตะโกนออกไปว่า

                    เฮ้ บัคไวท์ ข้าจะเดินทางเพื่อไปพบเจ้าหญิงเลยพาเจ้าหนุ่มหน้าใหม่ มาพบ เขาเป็นนักเดินทางที่ดี และเขาต้องการที่จะช่วยเจ้าหญิงออกมา หวังว่าเจ้าคงเข้าใจนะ”

                มีเพียงเสียงของแมลงสาปที่เดินดุ่มๆ และน้ำไหล ผ่านระหว่างขาอันสั่นเทาของ บัคบิก

                    เจ้าแน่ใจ รึ บารามิน ไอ้เด็กขี้ขลาดคนนั้นจะช่วยเจ้าหญิงได้อย่างไร มันคงโดนพวกยักษ์จับไปหมดซะมากกว่าล่ะมั้งก่อนที่จะได้ช่วยเจ้าหญิง”

                เสียงที่ทรงพลังและมีอำนาจทำให้ บัคบิก เริ่มหวาดกลัว เขาหลบอยู่หลังของบารามิน

                    เจ้าเด็กน้อยหากกลัวก็จงกลับไปซะ!! นี่ไม่ใช่ที่ของเด็ก”

                คำพูดจากเงามืดนั้น ทำให้ บัคบิกฉุนขาดและเขาเริ่มรวบรวมความกล้าอันน้อยนิดของเขาและท้าทายกลับไป

                    ข้าไม่ใช่เด็กและที่ข้ามาในวันนี้ก็เพื่อมาช่วยเจ้าหญิง”

                บัคบิกชักดาบอันจิ๋วออกมา ยื่นชี้ไปที่ความมืดนั้น ที่ๆลึกจนมองไม่เห็นจุดสิ้นสุด สายตาขแงดขาไม่หวั่นเกรงต่อสิ่งที่เขาต้องเผชิญ

                    ข้าไม่กลัวเจ้าหรอก ปรากฏกายต่อหน้าข้าซะ บัคไวท์”

                    แสงจากปลายอุโมงค์ส่องผ่านเข้ากับลูกตาของบัคบิก ทำให้เกิดการพร่ามัวขึ้น ความรวดเร็วเข้าจู่โจม เสียงของอากาศเข้าประทะกับเรียวหูอันบางเล็ก และความรู้สึกจุกเสียดขึ้นที่ท้อง ก่อนที่ดาบบนมือของ บัคบิกจะหลุดออก มีเพียง ร่างของเขาที่ถูกกดแนบกับดิน

                    พอได้แล้วบัคไวท์ เล่นสนุกพอแล้ว เอาล่ะ ข้าจะแนะนำให้เจ้ารู้จักนะ บัคบิก นี่คิอ สหายข้า บัคไวท์ เดอ เอนลิชาล เขาเป็น หนูขาวน่ะ”

                “หนูขาว!!”

                    บัคบิกมองร่างของ บัคไวท์ ที่ขนาดของเขาตัวเล็กกว่ามากดวงตาสีแดง และขนสึขาว กับหางอันเรียวเล็ก

                    อันที่จริง ข้าก็มีหลายชื่อนะ พวกยักษ์เรียกข้าว่า หนูทดลองบ้างล่ะ เจ้าตัวเล็กบ้างล่ะ แต่ข้าจะภูมิใจมากถ้าเจ้าเรียกข้าว่า บัคไวท์ ด้วยชื่อของข้านะ”

                “ข้าชื่อ บัคบิก ข้าไม่มีสกุล หรอก  ข้าถูกเรียกแค่ชื่อนั้นเท่าที่ข้าจำได้ แต่แสงปลายอุโมงค์ นั้น ท่านทำได้เช่นไรกัน บอกข้าทีเถอะ”

                “อ้อ มันคือเวทมนย์น่ะ เวทที่จะส่องสว่างในที่มืด ให้แสงสว่างแก่ชนพวกเรา”

                “ท่านเป็นผู้วิเศษ งั้นท่าน คงใช้เวทมนย์นั้นต่อข้าสินะ ข้าจะเป็นอะไรไหมท่านช่วยทำให้ข้าดูอีกซักรอบเถอะ ข้าอยากเห็นมันอีกครั้ง”

                “ข้าว่าเราเปลี่ยนที่คุยกันเถอะ บารามิน ท่านคงเหนื่อยมาก”

                “ข้าก็ว่าดีเหมือนกัน เอาที่พักเจ้าก็แล้วกัน”

                บัคไวท์ผายมือนำทางบารามินสู่ที่พักของเขา

                “ว่าแต่ ข้าอยากรู้เทคนิคเวทย์ของท่าน จริงๆนะ บัคไวท์”

                “ไม่ได้หรอก มันต้องใช้ถ่านอัลคาไลน์ถึงสองก้อนซึ่งข้าใช้มันหมดแล้ว”

                    เมื่อบัคไวท์พามาถึงบ้านของเขา มันมีความโอโถง ประกอบไปด้วยยางและบ้าน เปิดประทุนมีเพียงผ้าหนาๆ ถูกตรึงด้วยไม้เป็นหลังคา กระดานไม้ ถูกวางถ้วยขนาดเล็กไว้และเต็มไปด้วยหลอดทดลองและยาต่างๆ

                    พวกนี้คิออะไรกัน”

                “บารามิน ข้าว่าเจ้าควรจะห้ามเด็กนั่น แตะของมั่วซั่วนะเด็กนั่นอาจตายไม่รู้ตัวภ้าไปเจอผงเห็ดพิษเข้า”

                บารามินจับแขนของ บัคบิก เดินเข้าสู่ห้องสนทนา มี ชามกาแฟแตกๆของบ้านตุ๊กตา ถูกวางไว้และโต๊ะถูกทำจากกล่องปฐมพยาบาล  และนวมจาก แขนของตุ๊กตาหมี

                    เอาละ ว่าแผนมาสิ บารามิน เจ้าต้องการให้ข้าช่วยอย่างไรกัน”

                บัคไวท์ ชิมกาแฟที่ปรุงเสร็จจากหลอดทดลอง

                    ข้าไม่ได้ไปด้วยหรอก ข้าอยากฝากเด็กคนนี้ไป หวังว่าท่านคงไม่ได้ว่าอะไรนะ บัคบิก ได้แสดงความกล้าหาญให้กับท่านชมแล้วท่านน่าจะเห็น”

                “ความกล้าหาญ แต่เขาจะทำอย่างไรเมื่ออยู่ต่อหน้าอสูรร้ายล่ะ พวกมันดุดัน พวกเราคือเหยื่อของพวกมันชัดๆ โดยเฉพาะเพื่อนข้าที่ถูกมันฆ่าน่ะ ข้าไม่ยอมหรอกนะ ที่จะให้เด็กคนนี้ไปตายเปล่า”

                บัคไวท์ยืนขึ้นพร้อมกับเดินไปที่โต๊ะของบารามินเขายืนจ้องหน้าชั่วครู่หนึ่ง

                    เอาจริงอ่ะ แล้วท่านอาจจะต้องเสียใจนะ”

                “โวๆๆ ช้าก่อน ข้าเป็นคนตัดสินใจเอง ไม่ใช่ท่านบารามินหรอก ข้าเลือกที่จะจาก โพรงของข้าออกมาดูโลกภายนอกและข้าก็อาสาจะช่วยเจ้าหญิงเองด้วย ทุกอย่างเป็นการตัดสินใจของข้านะ”

                บัคบิก ค้านเรื่องการตัดสินใจ

                    ถ้าเจ้าว่าเช่นนั้นก็ตามใจเจ้าก็แล้วกัน ถือว่าข้าเตือนแล้ว แต่การเดินทางที่ยาวนาน เจ้ามั่นใจนะว่าเจ้าจะพบกับ สิ่งที่เจ้าเลือกน่ะ”

                บักบิคพยักหน้าตอบรับคำพูดของ บัคไวท์

                    ดีแล้ว งั้น ข้าก็ส่งเจ้าถึงที่แล้วนะ บัคบิก ต่อไปนี้มันเป็นหนทางของตัวเจ้าแล้ว ข้าเป็นแค่ผู้นำทางมาเจอกับ บัคไวท์ การตัดสินใจจากนี้ เจ้าจะต้องเลือกด้วยตัวของเจ้าเอง”

                บารามิน ลุกขึ้นและเดินไปที่ประตู

                    แต่เจ้าเพิ่งมาเองนะสหาย จะไปแล้วอย่างนั้นเหรอ  มาง่ายๆแล้วกลับง่ายๆแบบนี้เลย”

                “เปล่าเลย บัคไวท์ นั่นต่างหากที่จะเป็นสหายเจ้า การเดินทางนี้เจ้าอาจจะได้พบอะไรแปลกใหม่ก็เป็นได้ เชื่อในตัวเขาดูสิ เหมือนที่เจ้าได้ออกมาจากศูนย์ทดลองนั่นไงล่ะ”

                บัคไวท์ก้มหน้าแล้วหันไปมองทาง บัคบิก หูของเขาตกลง

                    โชคดี ก็แล้วกันนะ เพื่อนข้า”

                “โชคดี บารามิน”

                ทั้งสองคนมองหน้าก่อนที่บารามินจะเปิดประตูแล้วพ้นไป บัคบิคพยายามเอิ้มมือมาหมายจะปลอบ บัคไวท์

                    พอเลย ข้าไม่มีอารมณ์ พรุ่งนี้เราจะออกเดินทางกัน ไปเตรียมตัวของเจ้าได้แล้ววันนี้ ข้าอยากพักทั้งวัน”

                บัคไวท์เดินเข้าไปในห้องของเขาโดยลำพัง และทิ้งให้ บัคบิก อยู่ข้างนอกนั้นคนเดียว

     

                

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×