คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Tale of wolf
-เมื่อก่อนคุณแม่มักมองว่าหนูเป็นเด็กที่ชอบออกไปเล่นข้างทางบ่อยๆ บนเส้นทางที่ดูน่ากลัวและเต็มไปด้วยป่าโกงกาง ซึ่งไร้ใบไม้ การเดินออกไป นอกเส้นทางทำให้หนูรู้ว่า มันยากที่จะเดินกลับ มายังเส้นทางเดิมได้ จนคุณหมาป่าได้ช่วยพากลับมายังเส้นทางให้-
เมื่อถึงบ้างคุณยาย บ้านของคุณยายนั้นตั้งอยู่บนเนินที่ราบสูง สายลมพัดเย็นสบายตลอดเวลาจนรู้สึกเคลิบเคลิ้ม ประตูบ้านทำจากไม้โอ๊คเคลือบยางประดับด้วยเงิน สีของบ้านเป็นสีเหลืองนวลออกส้ม เหมือนสีเปลือกไข่แต่ให้ความสบายกว่า เมื่อตรงมาที่ประตูเสียงก้าวเท้าลงบนพื้นบ้านหน้าประตูดัง ออดแอดเป็นจังหวะ สวนดอกไม้ที่เรียงรายอยู่ด้านข้างรั้วพื้นหน้าบ้าน ประตูถูกเคาะสามครั้งแล้วจึงเปิดบานประตูออก เห็นคุณยายนอนไขว้ขาพาดกับปลายเตียง มีตู้ใบใหญ่กว้างถูกตั้งชิดไว้ที่หัวนอนและโคมไฟอีกด้านของคุณยาย ห้องที่ถูกประดับตกแต่งด้วยลายดอกไม้ดูลายตาแต่ให้ความรู้สึกอบอุ่น แต่สิ่งที่ไม่คุ้นตาคือ มีดที่ตกอยู่ที่พื้นซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่น่าจะมีอยู่ได้
“สวัสดีค่ะ คุณยาย อาการคุณยายเป็นอย่างไรบ้างคะ?”
“ก็ดีจ๊ะหลาน ไหนลองเข้ามาใกล้ๆให้ยายดูหน้าหลานชัดๆหน่อยซิ”
เมื่อเดินเข้าใกล้กับเตียงยาย ทำให้มองเห็นว่า คุณยายดูแปลกตาเกินกว่าที่เคยเห็น
“คุณยายคะ หนูมีเรื่องจะถามคุณยายว่า ทำไมมือคุณยายถึงใหญ่จังคะ”
“จะได้โอบกอดเธอได้ถนัดไง แม่หนูน้อย”
“คุณยายคะ ทำไมคุณยายถึงตาโตจังเลยคะ”
“จะได้เอาไว้มองหนูได้ชัดๆยังไงล่ะ”
“คุณยายคะ ทำไมถึงฟันใหญ่จังเลยคะ”
“จะได้เอาไว้กิน อาหารอร่อยๆยังไงล่ะ นี่หลานยาย ช่วยพยุงยายไปที่ครัวหน่อยได้ไหมจ๊ะ?”
หนูมองเห็นรอยเลือดเล็กน้อยที่ผ้าห่ม ทำให้รู้ว่าสิ่งต่อหน้านี้ไม่ใช่ยายของหนูอย่างแน่นอน แต่ก็ต้องตกใจเมื่อ นายพรานถีบประตูเข้ามา และใช้ปืนในมือยิงสิ่งที่ปลอมตัวเป็นยายของหนูจนเสียชีวิต นายพรานหนุ่มซึ่งพยายามล่าหมาป่า และตามรอยมาจนถึงบ้านของหนู และเมื่อเปิดตู้ออกก็ได้พบศพของยายหนู มันไม่น่าเลยใช่ไหมคะ หนูไม่น่าจะเจอเรื่องแบบนี้เลย เสียงขึ้นไกปืน ดังขึ้นอีกครั้ง นายพรานหนุ่มคงเตรียมพร้อมเผื่อหมาป่าตัวนั้นไม่ได้มาแค่ตัวเดียวเป็นแน่แท้
(เรื่องเล่าจากหมาป่า)
-หิมะที่ดูเหมือนกำลังจะตก ใกล้เข้าฤดูหนาว มีเสียงฝีเท้าเล็กๆเดินเข้ามาในป่า มนุษย์หมาป่าอย่างผมกำลังเก็บ ซากกระต่ายที่ล่าได้ อยู่เหมือนเดิม ใช่สิ ผมก็แค่หมาป่าหลงฝูง-
เด็กสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาในป่า เพื่อที่จะเก็บดอกไม้ให้กับคุณยาย ผมเดินเข้าไปหา เมื่อก่อนคนมักจะเล่าว่า มนุษย์เป็นสิ่งที่น่ากลัว แต่เด็กคนนี้ดูไร้เดียงสา ผมออกมาจากพุ่มไม้ที่หลบซ่อนตัวอยู่ ผิวที่ขาว ตัดกับหมวกฮู้ดสีแดงดูน่ารักของเธอ สาวน้อยกำลังเก็บดอกไม้หันมาให้ความสนใจผม
“นี่เธอน่ะ ชอบดอกไม้หรือ”
“เปล่าค่ะ หนูแค่จะเอาไปฝากคุณยายที่กำลังป่วยอยู่ บนเนินถัดไปนี้เองค่ะ”
ผมหยิบดอกไม้ที่อยู่ด้านหลัง ยื่นให้กับเธอ ด้วยรอยยิ้ม
“เอาไปสิ หวังว่าเธอคงดีใจที่ได้รับมันนะ”
ผมท้องร้องออกมาดังมากจนทำให้เธอขำเล็กน้อย มันช่างน่าอายแต่ก็ทำให้เธอยิ้มได้เธอมอบ แซนวิษมาให้กับผม มันเป็นแซนวิสที่อร่อยมาก
“ไว้จะทำอาหารที่อร่อยกว่านี้ให้ทานนะ”
พวกเรายิ้มให้กัน ผมมีความสุขมาก เพราะเธออาจจะเป็นเพื่อนคนแรกในชีวิตของผม พวกเราเล่นกันอยู่ซักพักสาวน้อยคนนั้นก็จำได้ว่าจะต้องรีบไปหาคุณยาย ผมจึงต้องล่ำลากับเธอ
“หวังว่าพวกเราจะได้เจอกันใหม่นะ”
“จ๊ะ คุณหมาป่า ไว้เสร็จธุระจะกลับมาหาทุกเมื่อเลยนะ”
คำพูดของเธอเป็นดั่ง แสงสว่างที่เกิดขึ้นในชีวิตของผม ทำให้ผมได้รู้จักเพื่อนคนแรกที่เป็นมนุษย์ เมื่อผมแยกทางกับเธอ ผมได้เจอนายพราน เขากำลังนั่งบ่นพึมพำบนตอไม้ที่ตายแล้ว
“ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดีเลย ออกขายอะไรก็ไม่ได้ ถ้าไม่มี ยัยหลานสาวคนนั้นก็คงจะดีกว่าจริงๆด้วย ดีนะ ที่ยายแกเตรียมแผนจะเอายัยสาวน้อยนั่นไปขายกับพวกค้าทาส เราจะได้มีเงินทุนซักที ยัยแม่ของเด็กก็เห็นดีเห็นงามด้วยแล้วนี่สิ”
เสียงก้าวเท้าพลาดของผมทำให้เขารู้สึกตัวก่อน ผมถูกตามล่า แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาถ้าเทียบกับว่า เด็กสาวคนนั้น กำลังอยู่ในอันตราย ผมรีบรุดไปให้ถึงบ้านของยายเธอ ความไวของมนุษย์หมาป่าย่อมเร็วกว่าเป็นเรื่องง่ายที่ทำให้นายพรานตามผมไม่ทัน ตอนนี้ผมกำลังอยู่บนบ้านของคุณยาย แต่ถ้าเธอรู้ว่าคุณยายเธอตายคงจะไม่ดีเป็นแน่ ผมก้าวเท้าเข้าไป คุณยายกำลังจัดเตรียมครัวอยู่ อาการป่วยของเธอเป็นเรื่องโกหกจริงๆ เขาฮัมเพลงอย่างมีความสุข ผมเดินเข้าไปหายายของเธอ แต่โชคร้ายที่พื้นบ้านของเธอมีเสียงดังทำให้เธอรู้ตัวแล้วคว้ามีดมาแทงผม คมเคี้ยวผมกัดเข้าที่คอของเธอผมดึงมีดออก มีดเงินแท้ทำให้ผมรู้สึกแย่เหมือนคนป่วย เสียงก๊อกๆ ดังขึ้น รู้ได้ทันทีจากกลิ่นสัมผัสว่าสาวน้อยกำลังมาถึงหน้าบ้าน ผมรีบนำยายไปซ่อนในตู้เสื้อผ้า นำหมวกและแว่นมาสวมและนอนลงบนเตียง สาวน้อยเดินเข้ามา พลันเอาดอกไม้ใส่และถามอาการป่วยของผม แต่สายตาของผมฝ้าฟาง ไม่รู้ว่านายพลานจะกลับมาเมื่อไหร่ จึงให้เธอเข้ามาใกล้ๆ เธอค่อยๆคุยกับผม
“คุณยายคะ หนูมีเรื่องจะถามคุณยายว่า ทำไมมือคุณยายถึงใหญ่จังคะ”
“จะได้โอบกอดเธอได้ถนัดไง แม่หนูน้อย” [เพื่อจะได้ใช้ปกป้องเธอจากอันตรายยังไงล่ะ]
“คุณยายคะ ทำไมคุณยายถึงตาโตจังเลยคะ”
“จะได้เอาไว้มองหนูได้ชัดๆยังไงล่ะ”[เพื่อจะได้เฝ้ามองไม่ให้เธอเจอเรื่องร้ายๆยังไงล่ะ]
“คุณยายคะ ทำไมถึงฟันใหญ่จังเลยคะ”
“จะได้เอาไว้กิน อาหารอร่อยๆยังไงล่ะ นี่หลานยาย ช่วยพยุงยายไปที่ครัวหน่อยได้ไหมจ๊ะ?”[ก็เพื่อทานอาหารตามที่เราได้สัญญากันยังไงล่ะ]
ผมพยายามให้เธอหนีไปทางครัว แต่มันไม่สำเร็จ นายพรานมาถึงซะก่อน ถ้าหากผมไม่บาดเจ็บเพราะมีดนั้นล่ะก็คงจะพอฟัดพอเหวี่ยงไหว กระสุน .22 พุ่งทะลวงเข้ากลางอก ร่างของผมแน่นิ่ง
-อา หิวจังเลย คิดถึงแซนวิสตอนนั้นเสียเหลือเกิน ถ้าเราได้เจอกันเร็วกว่านี้ก็คงดีนะ-
เธอคงยังไม่รับรู้ถึงตัวของผม คุณยายตายไปแล้ว และหมาป่าน้อยตัวนี้กำลังจะตายตาม นายพรานยกปืนขึ้นไม่ใช่เพื่อยิงผมแต่เป็นหนูน้อยหมวกแดงคนนั้น ผมกระโดดไปกัดเข้าที่ลำคอของนายพราน เสียงปืนลั่นไปทั่วบ้านจนสาวน้อยต้องเอามือมาปิดหู ร่างของผมทรุด เธอเดินเข้ามาหาผมอย่างช้าๆ อ้อมกอดน้อยๆที่เธอโอบกอดผม น้ำตาไหลอาบใบหน้าขาวๆนั้น ทำไมล่ะ?
“ขอโทษนะ ขอโทษ…”
[ไม่เป็นไรหรอก เพราะเธอก็ปลอดภัยดีนี่นา]
ผมพูดความร็สึกไม่ได้อีกแล้ว เพราะเลือดที่ออกจากปาก ผมนำมือลูบหัวของเธอเบาๆ ก่อนจะหลับไปในนิทราอย่างสงบ บางครั้งเรื่องราวก็ไม่ได้เป็นแบบนิทานเสมอไป เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป เรื่องราวจึงถูกแต่งเติม
“หนูน้อยหมวกแดง ไปเล่นในทุ่งตรงนั้นกัน”
ภาพของทุ่งกว้างสีขาวเต็มไปด้วยดอกไม้ ผมกำลังวิ่งเล่นอยู๋กลับหนูน้อยหมวกแดง และล้มตัวลงมองท้องฟ้า มีแต่เพียงรอยยิ้มและ เสียงหัวเราะของเรา ณ ช่วงแห่งฝันนี้ ขออย่าให้มันจบลงอีกเลย
ความคิดเห็น