คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : อดีต...
ชั้นกลับถึงบ้านด้วยความปกติเรียบร้อย และล้มตัวพับตัวอ่อนอยู่บนเตียงในห้อง ชั้นหยิบป้ายชื่อสีแดงสำหรับเด็กใหม่อย่างชั้นขึ้นมาดู ชั้นเอียงคอเอาศอกหนุนและเงียบอยู่นาน “~nagareru namida wo toki no kaze ni kasanete owaranai anata no toiki wo kanjite ”เสียงเพลง tears ของวง x-japan ที่ชั้นปลื้มสุดๆ ดังขึ้นจากกระเป๋านักเรียน ชั้นกระโดดก้าวข้ามเตียงไปและเอื้อมมือคว้าโทรศัพท์มาดูเบอร์ก็พบกับคำว่า ‘เมย์’ เพื่อนของชั้นนั่นเองค่ะ เราเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกันมาตั้งแต่อนุบาล จนกระทั่งได้มาแยกกันตอนขึ้น ม.ปลาย
“ฮัลโหล...” ชั้นพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดีใจ
“หวัดดีเดซ์ เมย์เองจ่ะ”
“อือรู้แล้ว...” ชั้นตอบเมย์และปล่อยตัวลงสู่เตียงไปตามเดิม แล้วเอาศอกชันไว้บนหมอน “คิดถึงเมย์จังเลย เป็นไงบ้างเนี่ย ^__^”
“ก็สบายดีแล้วแกล่ะเป็นไง วันนี้ไปปฐมนิเทศนี่นา มีเพื่อนรึยังฮึ”
“ก็สบายดี มีคนเข้ามาคุยด้วยล่ะ ชั้นก็สบายใจมากขึ้นนั่นแหละ ที่อย่างน้อยก็ยังมีคนมาคุยด้วย”
“อืม ดีแล้วหล่ะ ชั้นนึกว่าแกจะไม่มีใครคบซะแล้ว ฮิๆๆ”
“บ้าน่า อย่างแกยังมาคบกะชั้นเลย เดี๋ยวเหอะ” เรากระเซ้าเย้าแหย่กันไปตามวิถีเพื่อนเก่าที่สนิทกันมานาน ชั้นหัวเราะและคุยกะเมย์ต่ออีกว่า
“ชั้นไปเจอผู้ชายมา 2 คนด้วยหล่ะวันนี้”
“อะไรจ๊ะ เพิ่งไปเจอวันแรกก็ปลื้มคนอื่นเค้าซะแล้วเหรอ” เมย์ยังแหย่ฉันต่อไม่เลิก
“อย่าเพิ่งกวนดิ ฟังชั้นพูดต่อก่อน”
“อิๆๆ” เสียงเมย์ยังหัวเราะอยู่ปลายสายดังขึ้นนิดๆแต่ชั้นก็ยังได้ยิน
“อย่าเพิ่งหัวเราะดิแก คืองี้ ชั้นไปเจอพี่ ม.6 อยู่คนนึง เค้าดูดีนะ ตี๋ๆแล้วก็สูงมั่กๆเลยอ่ะ”
“แล้วไง? อิๆๆ” ชั้นล่ะเอือมเพื่อนคนนี้จริงๆเล้ย...
“แล้วก็เจอสุภาพบุรุษแสนแมนมาด้วย เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันแต่อยู่คนละห้อง แกว่าไง”
“อะไร ‘ว่าไง’ ชั้นไม่ได้ไปเจอกะแกซะหน่อย จะได้บอกว่าคนไหนเท่ที่สุดหน่ะ”
“ม่ายช่าย... ชั้นหมายถึง แกจะว่าไงถ้าชั้นจะจีบ....”
“แล้วแกจะจีบคนไหนล่ะฮึ รุ่นพี่ก็เท่ รุ่นเดียวกันก็โอน้า~”
“ก็บอกแล้วไงเล่าว่าห้ายฟังช้านพูดให้จบก่อน”
“เออๆ จะตั้งใจฟังแล้วจ้า” ลองแบบนี้ยังเมย์ก็เลยต้องเงียบเสียงลงในทันที
“แกถามใช่ไหมว่าชั้นจะจีบคนไหน ชั้นกำลังจะบอกแกว่า ‘แกจะว่าไงถ้าชั้นจะจีบทั้งสองคน’ ”
“ห๊า นี่แกว่าไงนะ แกเป็นคนหลายใจไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย ไอ้เพื่อนเอ๋ย” เมย์ตะโกนลั่นอยู่ปลายสาย ชั้นยกโทรศัพท์ห่างจากหูแต่ก็ยังได้ยินเสียงของเมย์ชัดเจนอยู่ดี ฉันหัวเราะขำๆในความตกใจของเพื่อนเก่าคนนี้(ทั้งที่ความจริงก็ยังคบมันอยู่นั่นแหละ)
“ชั้นล้อเล่นหรอกน่า ก็แค่พูดไปงั้นๆเองแหละ ไม่ต้องคิดมาก” ชั้นกล่อมเพื่อนอย่างเมย์เอาไว้ก่อนที่จะโวยวายอะไรไปมากกว่านี้
“แกกะจะดูไปอีกซักพักใช่ไหมล่า” เพื่อนอย่างนี้รู้ใจชั้นไปซะทุกเรื่องเลย
“อย่ามาทำเป็นรู้ดีน่า” ชั้นทำเสียงงอนๆเซ็งๆลงไปด้วยเล็กน้อย
“ช่างเหอะๆ ชั้นล้อเล่นน่าแก ว่าแต่ว่าชั้นอยากเห็นหน้าผู้ชายสองคนที่เธอไปเจอมาจังเลย ว่าไงสเป็คเดิม ไม่หล่อแต่โดนใช่ป่ะ?”
“อือ ชั้นก็คิดว่างั้นนะ ทั้งสองคนก็ไม่ได้หล่ออะไรมากมายนักร้อก”
“เหมือนพี่เตยหล่ะสิ...อุ๊ย!.”
เราทั้งสองคนนิ่งเงียบ.........
“เดซ์ ...เราขอโทษ” เมย์เสียงอ่อนลงด้วยความสำนึกผิดเต็มประตู
“ไม่เป็นไร ....ไม่เป็นไร” ชั้นตอบออกไปเพื่อไม่ให้เมย์ไม่สบายใจไปมากกว่านี้
“แกแน่ใจใช่ไหมว่าแกไม่เป็นไร”
“อือ....” ชั้นตอบอีกครั้งด้วยเหตุผลเดียวกัน
....................................................................
ชั้นกลับมานั่งทบทวนเรื่องราวที่ชั้นกับเมย์คุยกันเมื่อกี้นี้ ในขณะที่เอื้อมมือไปหยิบหนังสือรุ่นที่วางอยู่บนชั้นหนังสือ ความคิดของฉันก็สับสนไปหมด............... เมื่อกี้นี้ที่เมย์ไม่สบายใจไปมากขนาดนั้นเพราะผู้ชายคนนึงที่ทำให้ชั้นเจ็บมากที่สุดคนแรกในชีวิต คือ... พี่เตย ชั้นพลิกหน้าหนังสือไปหาห้อง ม.3/4 ปี 2548 รูปของคนๆนึงที่ทำให้ชั้นสะดุดตาตั้งแต่แรกที่เห็น คนๆเดียวกันที่ทำให้ชั้นรู้สึกว่าชั้นมันเป็นคนโง่ที่สุดเท่าที่โลกเคยจารึกมาด้วยซ้ำ คนๆเดียวที่ทำให้ชั้นต้องทนอยู่ในภาวะที่น่าอึดอัดมาตลอดหนึ่งเดือนเต็ม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับชั้น คุณอย่าหัวเราะนะคะ
‘วันที่ 18 กุมภาพันธ์ ปี 2548 ชั้นถูกบังคับให้ไปเข้าค่ายอังกฤษที่โรงเรียนเก่าของชั้นเองนั่นแหละ ชั้นเป็นเด็ก ม.2 คนเดียวที่โผล่ไปที่ค่ายนั่น (ก็ถูกบังคับไปนี่นา -__-’) ในขณะที่ชั้นยืนทำหน้าเอ๋ออยู่คนเดียวกลางค่ายที่มีแต่รุ่นพี่ ม.อื่นๆ พี่เตยก็โผล่เข้ามาช่วยเหลือ เราต้องจับกลุ่มเต้นรำบ้าๆบอๆอะไรก็ไม่รู้เค้าก็เป็นคนมาขอคู่กับชั้น ช่วยชั้นเก็บเก้าอี้ มานั่งใกล้ชั้น ถามชั้นว่ามีอะไรให้พี่ช่วยรึเปล่าและเพื่อนของพี่เตยก็มาบอกว่า พี่เตย ปลื้ม’ชั้นอยู่......... ชั้นโง่ใช่ไหมคะที่หลงคิดไปว่าเค้าจริงใจและจริงจังกับชั้น หลงไปเชื่อเพื่อนของเค้าว่าพี่เตยปลื้มชั้นจริงๆ......... พี่เตยไปเรียนต่อที่อื่นในขณะที่ชั้นยังไม่ได้บอกอะไรกับเค้าเลย ยังไม่ได้บอกว่าชั้นเองก็ปลื้มเค้าเหมือนกัน........... วันนึงพี่เตยกลับมาที่โรงเรียน ชั้นดีใจ...มาก (เข้าใจฉันใช่ไหมคะ) ชั้นพาเพื่อนของชั้นคนนึงที่ชื่อ ‘แพรว’ ไปหาเค้า เมื่อเจอหน้ากัน พี่เตยยิ้มและพูดว่า พี่ดีใจนะที่เจอน้อง แล้วก็บอกว่าพี่มีเรื่องจะพูดด้วยมากับพี่หน่อยได้ไม๊ โดยที่หันไปหาแพรว และยืนข้างหน้าเพื่อนของฉัน ....ตรงนั้น และที่เดียวกันที่ฉันไม่สามารถก้าวไปไหนได้ รู้สึกว่าตัวเองถูกทำลายจิตใจออกเป็นส่วนๆ ได้แต่ยืนมองแพรวที่เดินไปกับพี่เตย ทั้งๆที่เค้าห่างชั้นออกไปแค่สิบกว่าเมตร แต่ทำไมชั้นรู้สึกว่ามันช่างไกลเหลือเกิน ไกลจนเอื้อมไม่ถึง... ไกลจนไม่อยากจะมอง
ชั้นโง่ใช่ไหมคะที่หลงคิดไปว่าเค้าจริงใจและจริงจังกับชั้น หลงไปเชื่อเพื่อนของเค้าว่าพี่เตยปลื้มชั้นจริงๆ......... คุณคงจะไม่ว่าอะไรถ้าชั้นจะใช้ประโยคนี้อีกรอบ เพราะความคิดของชั้นที่มีตลอดหนึ่งเดือนมันมีแค่นี้จริงๆ ชั้นสับสนเพราะไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี ชั้นโทรคุยกับแพรว แพรวถามชั้นว่า ‘ตัวแพรวเองใช่ไหมที่ผิด’ แล้วคุณจะให้ชั้นตอบว่ายังไง จะให้ตอบว่า ‘ใช่ แพรวนั่นแหละผิด’ แต่ชั้นก็ทำไม่ได้เพราะหลักการของความถูกต้องคือ ไม่มีใครผิดซักคน ชั้นไม่ผิดเพราะการที่เราจะรู้สึกดีๆกับใครซักคนมันไม่ใช่ความผิดอยู่แล้ว แพรวไม่ผิดเพราะแพรวเองก็ไม่รู้ว่าพี่เตยชอบเค้า พี่เตยก็ไม่ผิดเพราะเหตุผลเดียวกับชั้นที่ว่า การที่เราจะชอบใครซักคนมันไม่ใช่เรื่องผิดและเค้าเองก็ไม่เคยบอกซักคำว่าเค้าชอบชั้น แล้วชั้นจะทำยังไงในขณะนี้..... ‘น้ำตา’ คุณอย่าห่วงเลยเพราะชั้นไม่มีมันซักหยด มันตื้ออยู่ในหัวจนร้องไห้ไม่ออกต่างหากละมั้ง
แพรวบอกว่า พี่เตยบอกว่าแพรวน่ารัก เค้าชอบแพรวมานานแล้ว แล้วชั้นมันไปอยู่ที่ไหนในความทรงจำของเค้าบ้าง ชั้นเป็นตัวอะไรในความสนใจของเค้ากันแน่ แพรวถามชั้นว่าทำใจได้รึเปล่าหลังจากที่เหตุการณ์มันผ่านมาได้หนึ่งสัปดาห์ อืม...มันอาจจะเป็นคำแย่ๆที่ตอบไปแบบลวกๆว่า ‘ชั้นไม่เป็นไร ทำใจได้สบายมาก’ เพราะความที่ไม่อยากทำให้เพื่อนลำบากใจมากไปกว่านี้ แพรวบอกว่าพี่เตยให้เบอร์โทรศัพท์กับแพรวมา เป็นเบอร์ที่ไม่เคยให้ใครแม้แต่เพื่อนของพี่เตยเองก็เถอะ แพรวถามชั้นว่า ชั้นอยากโทรไปหาไม๊ เค้ายื่นเบอร์โทรศัพท์นั้นให้ชั้นเลยแต่ชั้นปฏิเสธ เพราะอะไรรู้ไหมคะ เหตุผลของชั้นคือ ที่พี่เตยให้เบอร์โทรฯแพรวมาเพราะอยากให้แพรวโทรไปหาต่างหากไม่ใช่ ‘ชั้น’ และอย่างที่สองคือเค้าเห็นแพรวเป็นคนสำคัญของเค้าที่สุด และอย่างที่สามคือ ในเมื่อชั้นต้องเจ็บขนาดนี้แล้ว ยังมีหน้าไปโทรหาเค้าอีกรึไง
แพรวบอกว่า แพรวไม่คิดจะเป็นแฟนกับใครโดยเฉพาะพี่เตย แต่แพรวเองที่เป็นคนโทรไปหาพี่เตยก่อน จากเบอร์ที่พี่เตยให้มา แพรวบอกว่าไม่อยากให้ชั้นคิดมาก แต่ก็เป็นแพรวเองที่ไปนั่งคุยกับพี่เตยทุกวันโดยที่ไม่ให้ฉันรู้...... เพราะวันนั้นชั้นบังเอิญไปหาเพื่อนที่สวนสาธารณะออกกำลังกาย และชั้นก็เจอ... เห็นเต็มตา ชัดเจน แต่สุดท้ายสิ่งที่ชั้นทำได้คือวิ่งหนีหายไปโดยที่ไม่ได้กล้าทำอะไรซักอย่างเดียว ชั้นไว้ใจแพรวเต็มที่โดยที่นึกอยู่เสมอว่าแพรวคงไม่โกหก คิดว่าความเป็นเพื่อนคงจะทำให้เค้านึกถึงใจชั้นบ้างก่อนที่จะทำอะไรที่มันทำร้ายจิตใจของชั้นลงไป แต่ทำไมถึงเป็นแบบนี้...... ความผูกพันมันไม่ช่วยอะไรชั้นเลย และในที่สุด ชั้นตัดสินใจเปลี่ยนโรงเรียน ชั้นมาสมัครสอบที่โรงเรียนสุรมาลาวิทยาคาร และสวรรค์ที่ดลบันดาลให้ชั้นไม่ต้องทุกข์ทนไปมากกว่านี้ ก็ทำให้ชั้นสอบติด ชั้นเลือกที่นี่อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะอย่างน้อยชั้นก็คงไม่ต้องทนอยู่กับความอึดอัดและการโกหกของใคร
ในทีแรกที่ชั้นรู้ว่าพี่เตยชอบแพรวชั้นคิดว่า อย่างน้อยเมื่อชั้นก็เสียพี่เตยไปคนนึงแล้ว ชั้นคงไม่อยากเสียเพื่อนที่คบกันมานานไปอีกคนหรอก แต่ตอนนี้ ชั้นเลวใช่ไหมคะที่คิดจะตัดมันออกไปทั้งสองคน ชั้นได้ความคิดใหม่ที่ว่า ในเมื่อก็ไม่ได้อีกคนอยู่แล้ว เสียไปอีกคนมันคงไม่เห็นเป็นไร ชั้นมันเห็นแก่ตัวใช่รึเปล่า ชั้นนึกถึงแต่ความรู้สึกของตัวเองใช่รึเปล่า เพราะอคติใช่ไหมที่ทำให้ชั้นรู้สึกกับแพรวแบบนี้ เพราะความอิจฉาใช่ไหมที่ทำให้ชั้นรู้สึกโกรธอย่างไม่มีเหตุผลแบบนี้ ..............ชั้นมันเลวใช่รึเปล่า???
ตอนนี้สิ่งเดียวที่ชั้นรู้คือเค้าทั้งสองคนเป็นแฟนกันแล้ว และชั้นไม่เคยโทรไปหาแพรวอีกเลย เพราะชั้นไม่รู้จริงๆว่าจะพูดอะไรออกไป ไม่รู้ว่าจะทนได้รึเปล่าเท่านั้นเอง ชั้นมาเรียนที่นี่โดยที่ยังไม่เคยกลับไปเยี่ยมเพื่อนที่โรงเรียนเก่าเลยซักครั้ง เพราะตั้งแต่ปิดภาคเราทุกคนที่อยู่ในห้องก็ไม่เคยได้พบกันอีก และโรงเรียนของชั้นที่เปิดภาคเรียนช้ากว่าโรงเรียนปรีชาวิทยาคาร แต่ชั้นก็ไม่กล้าโผล่หน้าไป เพราะชั้นกลัวกับการที่จะได้พบกับแพรว กลัวที่จะได้ยินได้ฟังเรื่องราวที่ทำให้ชั้นต้องทนไม่ไหวไปมากกว่านี้ ใช่...ชั้นยอมรับว่าชั้นมันขี้ขลาด ชั้นไม่กล้ายอมรับความจริงที่ชั้นเองก็รู้ดีแก่ใจ ชั้นมันเห็นแก่ตัว และชั้นมันเลว (อีกครั้ง)’
อดีตเก่าๆที่ผ่านมาไม่นานของชั้นก็มีแค่นี้ เท่าที่จะพอสำนึกได้ จะสมน้ำหน้าว่าชั้นมันคิดไปเองก็ได้เพราะชั้นเองก็คงพูดอะไรไม่ออก ชั้นได้แต่ถามตัวเองซ้ำๆว่าที่ผ่านมาชั้นมันทำโง่อะไรอยู่ หรืออาจจะด่าก็ได้ว่าชั้นมันหลงตัวเอง คิดไปเองคนเดียว แล้วชั้นยังจะกล้าไปคบกับใครอีกรึไง??
ชั้นปิดหนังสือรุ่นลงและโยนมันกลับเข้าไปที่ชั้น ชั้นพลิกตัวกลับมานอนกางแขนกางขาและจ้องเพดานอยู่นาน .....พอที ชั้นไม่อยากจะคิดอะไรไปมากกว่านี้แล้ว ตอนนี้ในหัวของชั้นมันมีแต่รูปของพี่เตยและแพรววนเวียนอยู่ในหัว ‘เค้าจะเป็นยังไงกันบ้างนะ เวลาที่เค้าอยู่ด้วยกันเค้าจะนึกถึงชั้นไหม จะพูดถึงชั้นบ้างไหม และจะหัวเราะความโง่ของชั้นรึเปล่า’ และคำถามสุดท้ายที่ทำให้ชั้นรู้สึกทรมานที่สุดคือ ‘ทำไมคนที่พี่เตยเลือกถึงต้องเป็นแพรว เพื่อนของชั้นเอง...’ 'ผู้ชายคนเดียวไม่น่าเสียใจเท่าเพื่อนรักของเราเอง' ชั้นกระโดดออกจากเตียงและเดินไปที่เครื่องเล่นซีดีที่อยู่มุมห้อง ชั้นเปิดมันและฟังไปทั้งน้ำตา.........
ความคิดเห็น