ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ผู้ชายเย็นชา และ หนึ่งสัปดาห์แห่งรัก

    ลำดับตอนที่ #2 : อดีต...

    • อัปเดตล่าสุด 9 ก.ค. 50


    ชั้นกลับถึงบ้านด้วยความปกติเรียบร้อย   และล้มตัวพับตัวอ่อนอยู่บนเตียงในห้อง    ชั้นหยิบป้ายชื่อสีแดงสำหรับเด็กใหม่อย่างชั้นขึ้นมาดู   ชั้นเอียงคอเอาศอกหนุนและเงียบอยู่นาน   “~nagareru namida wo toki no kaze ni kasanete  owaranai anata no toiki wo kanjite…”เสียงเพลง tears ของวง x-japan  ที่ชั้นปลื้มสุดๆ ดังขึ้นจากกระเป๋านักเรียน   ชั้นกระโดดก้าวข้ามเตียงไปและเอื้อมมือคว้าโทรศัพท์มาดูเบอร์ก็พบกับคำว่า  เมย์ เพื่อนของชั้นนั่นเองค่ะ   เราเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกันมาตั้งแต่อนุบาล   จนกระทั่งได้มาแยกกันตอนขึ้น ม.ปลาย  

    ฮัลโหล... ชั้นพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดีใจ 

    หวัดดีเดซ์   เมย์เองจ่ะ

    อือรู้แล้ว... ชั้นตอบเมย์และปล่อยตัวลงสู่เตียงไปตามเดิม   แล้วเอาศอกชันไว้บนหมอน คิดถึงเมย์จังเลย   เป็นไงบ้างเนี่ย ^__^”

    ก็สบายดีแล้วแกล่ะเป็นไง   วันนี้ไปปฐมนิเทศนี่นา  มีเพื่อนรึยังฮึ 

    ก็สบายดี  มีคนเข้ามาคุยด้วยล่ะ   ชั้นก็สบายใจมากขึ้นนั่นแหละ  ที่อย่างน้อยก็ยังมีคนมาคุยด้วย

    อืม  ดีแล้วหล่ะ  ชั้นนึกว่าแกจะไม่มีใครคบซะแล้ว  ฮิๆๆ

    บ้าน่า  อย่างแกยังมาคบกะชั้นเลย  เดี๋ยวเหอะ  เรากระเซ้าเย้าแหย่กันไปตามวิถีเพื่อนเก่าที่สนิทกันมานาน   ชั้นหัวเราะและคุยกะเมย์ต่ออีกว่า

    ชั้นไปเจอผู้ชายมา  2  คนด้วยหล่ะวันนี้

    อะไรจ๊ะ  เพิ่งไปเจอวันแรกก็ปลื้มคนอื่นเค้าซะแล้วเหรอ เมย์ยังแหย่ฉันต่อไม่เลิก

    อย่าเพิ่งกวนดิ  ฟังชั้นพูดต่อก่อน

    อิๆๆ เสียงเมย์ยังหัวเราะอยู่ปลายสายดังขึ้นนิดๆแต่ชั้นก็ยังได้ยิน

    อย่าเพิ่งหัวเราะดิแก  คืองี้   ชั้นไปเจอพี่  ม.6  อยู่คนนึง  เค้าดูดีนะ  ตี๋ๆแล้วก็สูงมั่กๆเลยอ่ะ

    แล้วไง? อิๆๆ ชั้นล่ะเอือมเพื่อนคนนี้จริงๆเล้ย...

    แล้วก็เจอสุภาพบุรุษแสนแมนมาด้วย   เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันแต่อยู่คนละห้อง แกว่าไง

    อะไร ว่าไง ชั้นไม่ได้ไปเจอกะแกซะหน่อย  จะได้บอกว่าคนไหนเท่ที่สุดหน่ะ

    ม่ายช่าย...  ชั้นหมายถึง  แกจะว่าไงถ้าชั้นจะจีบ....

    แล้วแกจะจีบคนไหนล่ะฮึ   รุ่นพี่ก็เท่  รุ่นเดียวกันก็โอน้า~”

    ก็บอกแล้วไงเล่าว่าห้ายฟังช้านพูดให้จบก่อน

    เออๆ  จะตั้งใจฟังแล้วจ้า ลองแบบนี้ยังเมย์ก็เลยต้องเงียบเสียงลงในทันที 

    แกถามใช่ไหมว่าชั้นจะจีบคนไหน   ชั้นกำลังจะบอกแกว่า  แกจะว่าไงถ้าชั้นจะจีบทั้งสองคน’ ”

    ห๊า  นี่แกว่าไงนะ  แกเป็นคนหลายใจไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย  ไอ้เพื่อนเอ๋ย เมย์ตะโกนลั่นอยู่ปลายสาย   ชั้นยกโทรศัพท์ห่างจากหูแต่ก็ยังได้ยินเสียงของเมย์ชัดเจนอยู่ดี   ฉันหัวเราะขำๆในความตกใจของเพื่อนเก่าคนนี้(ทั้งที่ความจริงก็ยังคบมันอยู่นั่นแหละ)   

    ชั้นล้อเล่นหรอกน่า   ก็แค่พูดไปงั้นๆเองแหละ  ไม่ต้องคิดมาก ชั้นกล่อมเพื่อนอย่างเมย์เอาไว้ก่อนที่จะโวยวายอะไรไปมากกว่านี้   

    แกกะจะดูไปอีกซักพักใช่ไหมล่า  เพื่อนอย่างนี้รู้ใจชั้นไปซะทุกเรื่องเลย

    อย่ามาทำเป็นรู้ดีน่า ชั้นทำเสียงงอนๆเซ็งๆลงไปด้วยเล็กน้อย

    ช่างเหอะๆ   ชั้นล้อเล่นน่าแก    ว่าแต่ว่าชั้นอยากเห็นหน้าผู้ชายสองคนที่เธอไปเจอมาจังเลย    ว่าไงสเป็คเดิม   ไม่หล่อแต่โดนใช่ป่ะ?”

    อือ   ชั้นก็คิดว่างั้นนะ   ทั้งสองคนก็ไม่ได้หล่ออะไรมากมายนักร้อก 

    เหมือนพี่เตยหล่ะสิ...อุ๊ย!.  

    เราทั้งสองคนนิ่งเงียบ.........

    เดซ์  ...เราขอโทษ  เมย์เสียงอ่อนลงด้วยความสำนึกผิดเต็มประตู

    ไม่เป็นไร   ....ไม่เป็นไร  ชั้นตอบออกไปเพื่อไม่ให้เมย์ไม่สบายใจไปมากกว่านี้

    แกแน่ใจใช่ไหมว่าแกไม่เป็นไร

    อือ....  ชั้นตอบอีกครั้งด้วยเหตุผลเดียวกัน

    ....................................................................

    ชั้นกลับมานั่งทบทวนเรื่องราวที่ชั้นกับเมย์คุยกันเมื่อกี้นี้    ในขณะที่เอื้อมมือไปหยิบหนังสือรุ่นที่วางอยู่บนชั้นหนังสือ     ความคิดของฉันก็สับสนไปหมด...............   เมื่อกี้นี้ที่เมย์ไม่สบายใจไปมากขนาดนั้นเพราะผู้ชายคนนึงที่ทำให้ชั้นเจ็บมากที่สุดคนแรกในชีวิต   คือ...  พี่เตย   ชั้นพลิกหน้าหนังสือไปหาห้อง  ม.3/4  ปี 2548   รูปของคนๆนึงที่ทำให้ชั้นสะดุดตาตั้งแต่แรกที่เห็น     คนๆเดียวกันที่ทำให้ชั้นรู้สึกว่าชั้นมันเป็นคนโง่ที่สุดเท่าที่โลกเคยจารึกมาด้วยซ้ำ     คนๆเดียวที่ทำให้ชั้นต้องทนอยู่ในภาวะที่น่าอึดอัดมาตลอดหนึ่งเดือนเต็ม   เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับชั้น  คุณอย่าหัวเราะนะคะ

    วันที่  18    กุมภาพันธ์  ปี  2548    ชั้นถูกบังคับให้ไปเข้าค่ายอังกฤษที่โรงเรียนเก่าของชั้นเองนั่นแหละ    ชั้นเป็นเด็ก ม.2  คนเดียวที่โผล่ไปที่ค่ายนั่น (ก็ถูกบังคับไปนี่นา -__-’) ในขณะที่ชั้นยืนทำหน้าเอ๋ออยู่คนเดียวกลางค่ายที่มีแต่รุ่นพี่ ม.อื่นๆ   พี่เตยก็โผล่เข้ามาช่วยเหลือ   เราต้องจับกลุ่มเต้นรำบ้าๆบอๆอะไรก็ไม่รู้เค้าก็เป็นคนมาขอคู่กับชั้น     ช่วยชั้นเก็บเก้าอี้   มานั่งใกล้ชั้น    ถามชั้นว่ามีอะไรให้พี่ช่วยรึเปล่าและเพื่อนของพี่เตยก็มาบอกว่า  พี่เตย ปลื้มชั้นอยู่.........  ชั้นโง่ใช่ไหมคะที่หลงคิดไปว่าเค้าจริงใจและจริงจังกับชั้น     หลงไปเชื่อเพื่อนของเค้าว่าพี่เตยปลื้มชั้นจริงๆ.........   พี่เตยไปเรียนต่อที่อื่นในขณะที่ชั้นยังไม่ได้บอกอะไรกับเค้าเลย    ยังไม่ได้บอกว่าชั้นเองก็ปลื้มเค้าเหมือนกัน...........  วันนึงพี่เตยกลับมาที่โรงเรียน     ชั้นดีใจ...มาก (เข้าใจฉันใช่ไหมคะ)  ชั้นพาเพื่อนของชั้นคนนึงที่ชื่อ  แพรว ไปหาเค้า   เมื่อเจอหน้ากัน พี่เตยยิ้มและพูดว่า  พี่ดีใจนะที่เจอน้อง   แล้วก็บอกว่าพี่มีเรื่องจะพูดด้วยมากับพี่หน่อยได้ไม๊    โดยที่หันไปหาแพรว   และยืนข้างหน้าเพื่อนของฉัน   ....ตรงนั้น    และที่เดียวกันที่ฉันไม่สามารถก้าวไปไหนได้     รู้สึกว่าตัวเองถูกทำลายจิตใจออกเป็นส่วนๆ    ได้แต่ยืนมองแพรวที่เดินไปกับพี่เตย     ทั้งๆที่เค้าห่างชั้นออกไปแค่สิบกว่าเมตร    แต่ทำไมชั้นรู้สึกว่ามันช่างไกลเหลือเกิน   ไกลจนเอื้อมไม่ถึง...  ไกลจนไม่อยากจะมอง

    ชั้นโง่ใช่ไหมคะที่หลงคิดไปว่าเค้าจริงใจและจริงจังกับชั้น     หลงไปเชื่อเพื่อนของเค้าว่าพี่เตยปลื้มชั้นจริงๆ.........   คุณคงจะไม่ว่าอะไรถ้าชั้นจะใช้ประโยคนี้อีกรอบ   เพราะความคิดของชั้นที่มีตลอดหนึ่งเดือนมันมีแค่นี้จริงๆ    ชั้นสับสนเพราะไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี    ชั้นโทรคุยกับแพรว   แพรวถามชั้นว่า   ตัวแพรวเองใช่ไหมที่ผิด แล้วคุณจะให้ชั้นตอบว่ายังไง   จะให้ตอบว่า ใช่  แพรวนั่นแหละผิด  แต่ชั้นก็ทำไม่ได้เพราะหลักการของความถูกต้องคือ  ไม่มีใครผิดซักคน   ชั้นไม่ผิดเพราะการที่เราจะรู้สึกดีๆกับใครซักคนมันไม่ใช่ความผิดอยู่แล้ว    แพรวไม่ผิดเพราะแพรวเองก็ไม่รู้ว่าพี่เตยชอบเค้า    พี่เตยก็ไม่ผิดเพราะเหตุผลเดียวกับชั้นที่ว่า  การที่เราจะชอบใครซักคนมันไม่ใช่เรื่องผิดและเค้าเองก็ไม่เคยบอกซักคำว่าเค้าชอบชั้น   แล้วชั้นจะทำยังไงในขณะนี้.....  น้ำตา  คุณอย่าห่วงเลยเพราะชั้นไม่มีมันซักหยด   มันตื้ออยู่ในหัวจนร้องไห้ไม่ออกต่างหากละมั้ง 

    แพรวบอกว่า  พี่เตยบอกว่าแพรวน่ารัก   เค้าชอบแพรวมานานแล้ว   แล้วชั้นมันไปอยู่ที่ไหนในความทรงจำของเค้าบ้าง    ชั้นเป็นตัวอะไรในความสนใจของเค้ากันแน่   แพรวถามชั้นว่าทำใจได้รึเปล่าหลังจากที่เหตุการณ์มันผ่านมาได้หนึ่งสัปดาห์    อืม...มันอาจจะเป็นคำแย่ๆที่ตอบไปแบบลวกๆว่า ชั้นไม่เป็นไร   ทำใจได้สบายมาก เพราะความที่ไม่อยากทำให้เพื่อนลำบากใจมากไปกว่านี้    แพรวบอกว่าพี่เตยให้เบอร์โทรศัพท์กับแพรวมา  เป็นเบอร์ที่ไม่เคยให้ใครแม้แต่เพื่อนของพี่เตยเองก็เถอะ   แพรวถามชั้นว่า   ชั้นอยากโทรไปหาไม๊  เค้ายื่นเบอร์โทรศัพท์นั้นให้ชั้นเลยแต่ชั้นปฏิเสธ    เพราะอะไรรู้ไหมคะ  เหตุผลของชั้นคือ  ที่พี่เตยให้เบอร์โทรฯแพรวมาเพราะอยากให้แพรวโทรไปหาต่างหากไม่ใช่ชั้น   และอย่างที่สองคือเค้าเห็นแพรวเป็นคนสำคัญของเค้าที่สุด     และอย่างที่สามคือ  ในเมื่อชั้นต้องเจ็บขนาดนี้แล้ว  ยังมีหน้าไปโทรหาเค้าอีกรึไง      

    แพรวบอกว่า   แพรวไม่คิดจะเป็นแฟนกับใครโดยเฉพาะพี่เตย    แต่แพรวเองที่เป็นคนโทรไปหาพี่เตยก่อน  จากเบอร์ที่พี่เตยให้มา    แพรวบอกว่าไม่อยากให้ชั้นคิดมาก    แต่ก็เป็นแพรวเองที่ไปนั่งคุยกับพี่เตยทุกวันโดยที่ไม่ให้ฉันรู้......  เพราะวันนั้นชั้นบังเอิญไปหาเพื่อนที่สวนสาธารณะออกกำลังกาย    และชั้นก็เจอ...   เห็นเต็มตา  ชัดเจน  แต่สุดท้ายสิ่งที่ชั้นทำได้คือวิ่งหนีหายไปโดยที่ไม่ได้กล้าทำอะไรซักอย่างเดียว    ชั้นไว้ใจแพรวเต็มที่โดยที่นึกอยู่เสมอว่าแพรวคงไม่โกหก    คิดว่าความเป็นเพื่อนคงจะทำให้เค้านึกถึงใจชั้นบ้างก่อนที่จะทำอะไรที่มันทำร้ายจิตใจของชั้นลงไป     แต่ทำไมถึงเป็นแบบนี้...... ความผูกพันมันไม่ช่วยอะไรชั้นเลย    และในที่สุด   ชั้นตัดสินใจเปลี่ยนโรงเรียน  ชั้นมาสมัครสอบที่โรงเรียนสุรมาลาวิทยาคาร    และสวรรค์ที่ดลบันดาลให้ชั้นไม่ต้องทุกข์ทนไปมากกว่านี้   ก็ทำให้ชั้นสอบติด    ชั้นเลือกที่นี่อย่างไม่ต้องสงสัย   เพราะอย่างน้อยชั้นก็คงไม่ต้องทนอยู่กับความอึดอัดและการโกหกของใคร    

    ในทีแรกที่ชั้นรู้ว่าพี่เตยชอบแพรวชั้นคิดว่า  อย่างน้อยเมื่อชั้นก็เสียพี่เตยไปคนนึงแล้ว   ชั้นคงไม่อยากเสียเพื่อนที่คบกันมานานไปอีกคนหรอก    แต่ตอนนี้  ชั้นเลวใช่ไหมคะที่คิดจะตัดมันออกไปทั้งสองคน   ชั้นได้ความคิดใหม่ที่ว่า   ในเมื่อก็ไม่ได้อีกคนอยู่แล้ว   เสียไปอีกคนมันคงไม่เห็นเป็นไร     ชั้นมันเห็นแก่ตัวใช่รึเปล่า    ชั้นนึกถึงแต่ความรู้สึกของตัวเองใช่รึเปล่า     เพราะอคติใช่ไหมที่ทำให้ชั้นรู้สึกกับแพรวแบบนี้    เพราะความอิจฉาใช่ไหมที่ทำให้ชั้นรู้สึกโกรธอย่างไม่มีเหตุผลแบบนี้   ..............ชั้นมันเลวใช่รึเปล่า???

    ตอนนี้สิ่งเดียวที่ชั้นรู้คือเค้าทั้งสองคนเป็นแฟนกันแล้ว   และชั้นไม่เคยโทรไปหาแพรวอีกเลย   เพราะชั้นไม่รู้จริงๆว่าจะพูดอะไรออกไป   ไม่รู้ว่าจะทนได้รึเปล่าเท่านั้นเอง    ชั้นมาเรียนที่นี่โดยที่ยังไม่เคยกลับไปเยี่ยมเพื่อนที่โรงเรียนเก่าเลยซักครั้ง  เพราะตั้งแต่ปิดภาคเราทุกคนที่อยู่ในห้องก็ไม่เคยได้พบกันอีก   และโรงเรียนของชั้นที่เปิดภาคเรียนช้ากว่าโรงเรียนปรีชาวิทยาคาร    แต่ชั้นก็ไม่กล้าโผล่หน้าไป   เพราะชั้นกลัวกับการที่จะได้พบกับแพรว     กลัวที่จะได้ยินได้ฟังเรื่องราวที่ทำให้ชั้นต้องทนไม่ไหวไปมากกว่านี้     ใช่...ชั้นยอมรับว่าชั้นมันขี้ขลาด  ชั้นไม่กล้ายอมรับความจริงที่ชั้นเองก็รู้ดีแก่ใจ    ชั้นมันเห็นแก่ตัว   และชั้นมันเลว (อีกครั้ง)’

    อดีตเก่าๆที่ผ่านมาไม่นานของชั้นก็มีแค่นี้    เท่าที่จะพอสำนึกได้   จะสมน้ำหน้าว่าชั้นมันคิดไปเองก็ได้เพราะชั้นเองก็คงพูดอะไรไม่ออก  ชั้นได้แต่ถามตัวเองซ้ำๆว่าที่ผ่านมาชั้นมันทำโง่อะไรอยู่    หรืออาจจะด่าก็ได้ว่าชั้นมันหลงตัวเอง    คิดไปเองคนเดียว     แล้วชั้นยังจะกล้าไปคบกับใครอีกรึไง??

    ชั้นปิดหนังสือรุ่นลงและโยนมันกลับเข้าไปที่ชั้น    ชั้นพลิกตัวกลับมานอนกางแขนกางขาและจ้องเพดานอยู่นาน   .....พอที   ชั้นไม่อยากจะคิดอะไรไปมากกว่านี้แล้ว    ตอนนี้ในหัวของชั้นมันมีแต่รูปของพี่เตยและแพรววนเวียนอยู่ในหัว  เค้าจะเป็นยังไงกันบ้างนะ   เวลาที่เค้าอยู่ด้วยกันเค้าจะนึกถึงชั้นไหม  จะพูดถึงชั้นบ้างไหม  และจะหัวเราะความโง่ของชั้นรึเปล่า    และคำถามสุดท้ายที่ทำให้ชั้นรู้สึกทรมานที่สุดคือ  ทำไมคนที่พี่เตยเลือกถึงต้องเป็นแพรว  เพื่อนของชั้นเอง...  'ผู้ชายคนเดียวไม่น่าเสียใจเท่าเพื่อนรักของเราเอง'  ชั้นกระโดดออกจากเตียงและเดินไปที่เครื่องเล่นซีดีที่อยู่มุมห้อง   ชั้นเปิดมันและฟังไปทั้งน้ำตา.........

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×