คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ชายฮูทดำ ที่ไร้ตัวตน 80%
แม้ว่าเหตุการณ์ผ่านมาถึง4ปีแล้วก็ตาม แต่ผมจำได้ดีอย่างไม่มีทางที่จะลืมมันได้ลง
และผมเองอาจจะจดจำมันไปตลอดชีวิต..
“คะ..ใครน่ะ!”ชายหนุ่มถามเสียงดังลั่นกับบุคคลที่กำลังตามตัวเขามา สิ่งนั้นได้ตามเขาไปในทุกๆที่ อาจจะตั้งแต่เขายังมารู้สึกตัวด้วยซ้ำ
อานะตะ เริ่มรู้สึกตัวเมื่อ2-3วันก่อน แต่เขาคงคิดมากไปเอง
จนมาวันนี้ความรู้สึกมันเริ่มชัดเจนยิ่งขึ้น มันทำให้เขารู้สึกขนลุก
ไม่ว่าเขาจะวิ่งหนีจากสิ่งนั้นให้พยายามหลุดพ้นมากเท่าไร เขาก็รู้เหมือนกับว่าสิ่งนั้นตามตัวเขาทันทุกครั้ง
“ฉันถามว่าใคร!”
“พี่ค่ะ!รีบไปโรงเรียนกันเหอะ!”
อานะตะหยุดชะงักเมื่อได้ยินประโยคอะไรบางอย่างจากเด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่กำลังเดินสวนทางกับเขา
เด็กหญิงตัวน้อยๆที่สวมเสื้อนักเรียนประถมต้นกำลังวิ่งนำหน้าพี่ตัวเองอย่างร่าเริง พร้อมเสียงของพี่ที่หัวเราะชอบใจกับท่าทีของน้องตัวเอง อานะตะมองภาพนั้นอย่างไม่วางตา
ฟิ้ววว~
ลมในตอนเช้าพัดมาปะทะร่างของชายหนุ่ม จนผมสีเปลือกไม้ปลิวสะบัด ผมยาวๆของอานะตะแยงนัยน์ตาของเขา ชายหนุ่มจึงยกมือขึ้นมาจับผมของตัวเอง
อานะตะชักเริ่มมีอาการรำคาญผมที่เริ่มยาวหน่อยๆแล้ว จึงล้วงมือไปหยิบยางในกระเป๋ามามัดผมตัวเองหลวมๆก่อนจะก้าวเท้าเดินต่อไป พลางนึกถึงภาพในอดีตวันวานที่ตัวเองเคนเดินไปโรงเรียนกับน้องสาว
ภาพของคู่พี่น้องเมื่อกี้มันเกิดเป็นภาพทับซ้อนในอดีตของตัวเอง
แต่ตอนนี้คงไม่ภาพแบบนี้ให้ตัวเขาเห็นอีกต่อไปแล้ว
‘นึกถึงตัวเองในอดีตสินะ’
ชายหนุ่มผงะ เมื่อได้ยินเหมือนมีคนมากระซิบข้างๆหูของ อานะตะจึงรีบเอามือมือปิดหูของตัวเอง พลางสั่นหัวตัวเองเบาๆ
คะ..ใคร กันความรู้สึกเหมือนมีใครมองอยู่เลย
มันเพิ่งไม่ได้มารู้สึกในวันนี้แต่มันเป็นมาหลายวันก่อนแล้ว
เราคงจะเครียดมากไปหน่อย สงสัยอีกไม่นานคงจะได้เป็นโรคประสาทแน่
ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเองก่อนจะเดินทางต่อไปอย่างหวาดระแวง
หรืออาจมีใครสะกดรอยตามเรามา..แล้วใครกันล่ะ?
ร่างสูงที่แอบหลบอยู่มุมหนึ่งแสยะยิ้มออกมาพร้อมพูดประโยคหนึ่งไว้ก่อนที่ร่างจะค่อยๆจางหายไป
“นายได้ยินเสียงฉันแล้ว..”
ที่โรงเรียน...
ในช่วงพัก อานะตะก็ได้มานั่งร่วมวงกับเพื่อนสนิทตัวเองตั้งแต่สมัยประถม ในกลุ่มเพื่อนของชายหนุ่มกำลังคุยเรื่องเรียนต่อกันอย่างสนุกปาก โดยที่ชายหนุ่มได้แต่นั่งเงียบเป็นผู้ฟังที่ดี
“เห้! อานะตะ พวกเราเล่าเรื่องวางแผนอนาคตให้นายฟังจนหมดเปลือกแล้วนะ นี่นายไม่คิดที่จะเล่าให้เพื่อนฟังบ้างเลยรึไง” ฮาโตะเพื่อนที่สนิทกับอานะตะที่สุดเป็นฝ่ายถามชายหนุ่มที่กำลังเก็บข้าวกล่องของตัวเองลงกระเป๋า
อานะตะเงยหน้าขึ้นมามองทุกคนในกลุ่มพลางส่ายหน้าเบาๆ
“ฉันยังไม่มีจุดมุ่งหมายเลยน่ะ คงเล่าให้พวกนายฟังไม่ได้หรอก..”อานะตะตอบเสียงเบา พลางยิ้มให้เพื่อนทุกคนบางๆ
ฮาโตะเริ่มมีอาการหมั่นไส้ จึงเอามือทั้ง2มาจับบ่าอานะตะแล้วบีบแน่น
“นี่อานะตะ พวกเราก็ม.ปลายอยู่ปีที่3แล้ว ถ้าไม่คิดเดี๋ยวนี้ก็คิดไม่ทันแล้วนะ ถ้านายมีเรื่องอยากจะปรึกษา มาคุยกับพวกฉันก็ได้พวกเราจะได้ช่วยหาทางให้” ฮาโตะออกความเห็น เพื่อนทุกคนในกลุ่มประสานเสียงอย่างพร้อมเพรียงกัน บางคนออกเสียงเชียร์อานะตะ
“น่าอานะตะ ฉันก็เพื่อนนายนะมีเรื่องทุกข์ใจก็มาคุยกับพวกได้ พวกเราไม่ทิ้งนายหรอก..”
อานะตะ รู้สึกซึ้งใจอย่างบอกไม่ถูก ที่มีเพื่อนดีๆแบบนี้ แต่เขาก็ได้แต่บอกคำขอบใจแก่เพื่อนไป
“ขอบใจนะ แต่ฉันยังไม่รู้จริงๆ..”อานะตะยังคงยืนยำคำเดิม จนเพื่อนสนิทเริ่มถอดใจก่อนจะค่อยปล่อยมืออกจากบ่าของชายหนุ่ม
“เห้อ~แล้วแต่นายนะ ฉันก็ทำได้แค่นี้แหละ”
อานะตะหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะขอบคุณในความหวังดีของเพื่อนชาย
“แล้วความฝันของนายกับน้องสาวล่ะ ไม่คิดจะสานต่อเลยเหรอ..”อยู่ๆเพื่อนในกลุ่มคนหนึ่งก็โพล่งออกมาอย่างไม่ทันคิดให้ดี จนทุกคนหันมามองกันเป็นตาเดียว
อานะตะกระตุกอย่างแรงเมื่อนึกถึงสิ่งนั้น จนเขาต้องเอามือขึ้นมาปิดหน้าที่เริ่มมีน้ำตาไหลอาบแก้ม เสียงของฮาโตะเอ็ดเพื่อนคนนั้นเบาๆก่อนจะเดินไปปลอบอานะตะ
“นายพูดอะไรไปรู้ตัวมั้ย คิดซะบ้างสิ ไอ้ สึบาสะ..”
‘พี่ค่ะ..ถ้าวันนั้นมาถึงเรามาสานต่อร่วมกันนะ..’
ประโยคนั้นมันตอกย้ำ
ภาพที่เลวร้ายมันก็ฉายซ้ำหลายๆครั้งในหัว
‘อากะรุ จะรอวันนั้นนะ..’
แต่มันไม่มีวันนั้นอีกแล้ว..
อานะตะ..
“เฮือก!”
ชายหนุ่มสะดุ้งตัวอย่างตกใจเมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อตัวเอง
เสียงมันคล้ายกับเสียงที่ได้ยินเมื่อเช้า
แต่คราวนี้มันชัดเจนกว่า ชัดเจนจนราวกับมีคนมายืนเรียกเขาใกล้ๆตัว
อานะตะหันไปมองที่ต้นเสียง ก็เห็นใครบางคนกำลังยืนยิ้มให้เขาที่หน้าประตูห้องเรียน
แต่เป็นรอยยิ้มอันเย็นยะเยือก
ชายหนุ่มลุกขึ้นจากที่นั่งอย่างรวดเร็วจนเพื่อนๆพากันตกใจ แล้วร้องถามว่าเป็นอะไรไป แต่อานะตะกลับไม่ตอบแล้ววิ่งหนีไปออกทางประตูหลังห้องโดยไม่สนใจเสียงเพื่อนที่เรียกเขาแม้แต่นิดเดียว
อยู่ๆชายหนุ่มก็อยากจะไปที่ที่เขาเคยเห็นภาพเลวร้าย
ทั้งๆที่เขาไม่กล้าเหยียบที่นั่นมานานนับ4ปี ตั้งแต่เหตุกาณ์คราวนั้น
อานะตะวิ่งไปที่หลังตึกอาคาร สถานที่น้องเขากระโดดตึกฆ่าตัวตาย ชายหนุ่มมาหยุดอยู่ที่เดิมที่ๆเขานั่งกอดร่างไร้ชีวิตของน้องสาว
นัยน์ตาที่มีน้ำตาเอ่อล้นมองไปยังมุมตึก..
คนที่เขาเห็นเมื่อกี้ เหมือนกับชายคนที่ยืนร้องไห้อยู่มุมตึกก่อนที่เขาจะหมดสติไปในเหตุการณ์คราวนั้น
เขายืนอยู่ตรงนั้น ยืนอยู่ที่เดิม
“อานะตะ..”ชายลึกลับเรียกชื่อของเขา
“นายเองสินะที่ตามฉันมา ต้องการอะไรจากฉันกันแน่ หรือนายเป็นคนที่ทำให้น้องสาวฉันต้องตาย ตอบมาเลยนะ!”อานะตะถามอย่างโมโห
ชายร่างสูงค่อยๆเดินออกมาจากมุมตึก เขาสวมฮูดสีดำ กางเกงยีนส์สีดำ ผมสีดำขลับ ใส่รองเท้าผ้าบีดำ ผิวขาวซีด นัยน์ตาสีเทาอ่อน ชายฮูดดำยอมออกเผยตัวให้อานะตะเห็นอย่างจะจะ
“ใช่ฉันเอง แต่ก็ใช้เวลานานมาเลยนะกว่านายจะได้ยินเสียงฉันน่ะ..”ชายปริศนาบอกพลางแสยะยิ้ม จนอานะตะรู้สึกขนลุก
“นะ..นายเป็นใคร..”อานะตะถามเสียงแหบพล่า พลางจ้องคู่กรณีอย่างไม่ละสายตา
ร่างสูงไม่ตอบ กลับเข้ามาประชิดตัวอานะตะอย่างรวดเร็วจนชายหนุ่มตั้งตัวไม่ทัน
อ๊ะ...
เอวของอานะตะถูกโอบด้วยแขนของชายฮูดดำ แล้วเขาก็กระซิบประโยคบางอย่างออกมาที่ข้างหูของชายหนุ่ม
“พูดตรงนี้คงจะไม่สะดวก งั้นค่อยมาคุยกันทีหลังก็แล้วกัน เดี๋ยวฉันจะบอกนายให้หมดทุกเรื่องเลย..”ชายร่างสูงกล่าวด้วยน้ำเสียงเบาจนฟังไม่ถนัด แต่อานะตะยังได้ชัดเจน ก่อนที่สติของเขาจะค่อยๆดำดิ่งสู่ความมืดไปในที่สุด
80%
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เดี๋ยวมาต่อนะค่ะขอตัวล่ะน้า~~~
ความคิดเห็น