คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : . ONE . แค่คุณคนเดียว . 5
“ มาทำไมอีก ” เด็กน้อยผิวขาววัยหกขวบ เอ่ยถามเด็กผู้ชายอีกคนที่เมื่อวานเพิ่งจะพูดจาดูถูกเขาไป
‘ จัดดอกไม้แบบนี้... ’
คนบ้าอะไร รู้จักก็ไม่รู้จัก แต่กลับมาว่ากันแบบนี้
‘ จะขายได้เหรอ ’
โครตไร้มารยาท
“ ร้านดอกไม้ ก็ต้องมาดูดอกไม้สิครับ ” เด็กผู้ชายตรงหน้าตอบอย่างไม่รู้สึกรู้สา ทั้งที่ก็รู้อยู่แหละว่าอีกฝ่ายแสดงออกว่าไม่พอใจอย่างชัดเจน
“ หรือว่าจะให้มาดูเด็กเฝ้าร้านดีล่ะครับ ”
♡
“ ไอ่เจ๋ง!! ” คริสเรียกชื่อน้องชายจนลั่นร้าน ทำเอาจิมมี่ที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ถึงกับต้องยกมือขึ้นปิดหูตัวเองแทบจะทันที พร้อมๆ กับที่ก๊วยเจ๋งพาสิงโตเดินเข้ามาในห้องเรือนกระจกพอดิบพอดี
“ ใจเย็นก่อนนะพี่คริส ” ก๊วยเจ๋งรีบยกมือขึ้นกันตัวเองไว้ก่อน
“ คุณสิงโตเขาบอกว่ามาหาพี่ แล้วจะให้ผมทำยังไงล่ะครับ ” พอได้ฟังแบบนั้น คริสก็ถึงกับต้องกลอกตามองบน พร้อมกับพ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่
“ อ้าว ก็นึกว่าใคร ที่แท้ก็คุณสิงนี่เอง ”
เดี๋ยวนะ...
“ อ้าว คุณหมอ สวัสดีครับ ไม่คิดว่าจะเจอคุณหมอที่นี่นะครับเนี่ย ”
ทำไมไอ่หมอจิตมันทำเหมือนรู้จักไอ่หมอนี่ได้ล่ะ
“ มันยังไงเนี้ย ไอ่จิม ” คริสหันไปถามเพื่อนของตัวเองแทบจะทันที จู่ๆ ก็มาทำเหมือนเป็นคนรู้จักกัน แล้วจู่ๆ คุยกันข้ามหัวไปมาแบบนี้เนี่ยนะ
“ มึงรู้จักเขาเหรอ ”
“ รู้จักสิ ” จิมมี่พยักหน้า
“ ก็คุณสิงเขาจะเอาแมวของคุณมิ้นมาให้กูดูแลประจำแหละ ”
“ พูดเหมือนกูรู้จัก ” คริสทำท่าเหนื่อยหน่าย แต่นั่นกลับทำให้จิมมี่ต้องแปลกใจเข้าไปอีก
“ อ้าว มึงรู้จักคุณสิงแล้วไม่รู้จักคุณมิ้นเหรอวะ ”
“ กู! ไม่! รู้! จัก! ใคร! ทั้ง! นั้น! แหละ! ” และแต่ละคำที่คริสเน้นเสียงเสียจนจิมมี่อดขำไม่ได้ แต่ก่อนที่จะได้ขำออกไปจริงๆ คริสก็รีบลุก แล้วเดินหนีออกห้องเรือนกระจกไปทันที
เดินผ่านจิมมี่ที่นั่งงงๆ
เดินผ่านก๊วยเจ๋งที่รีบหลบทางให้แทบทันที
และแน่นอนว่าอีกคนที่คริสต้องเดินผ่าน...
“ จะรีบไปไหนครับเนี่ย ” สิงโตถามขึ้น พลางขยับตัวเพื่อปิดทางไว้
“ หลบไปนะคุณ ” คริสทำเสียงแข็งใส่
“ ผมแค่จะมาชวนคริสออกไปทานมื้อเที่ยงด้วยกันน่ะครับ ” สิงโตบอกจุดประสงค์ ซึ่งนั่นคงไม่ใช่คำตอบที่ดีนัก เพราะยิ่งฟัง คริสก็ยิ่งไม่เข้าใจ
กับคนที่ได้มาเจอกันในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานแบบนั้น แล้วอีกสองสามวันถัดมาก็บอกว่าจะมาชวนไปทานมื้อเที่ยงเนี่ยนะ
“ ตลกหรือเปล่าคุณ ”
“ จริงจังครับ ” คำตอบสั้นๆ แต่แสนจะเข้าใจง่าย ที่ทำให้ทั่วบริเวณนั้นเกิดเดดแอร์ขึ้นกะทันหัน กระทั่งจิมมี่ต้องกระแอมไอออกมาเพื่อเรียกสติ ตอนนั้นแหละที่คริสรีบเดินหนีออกจากห้องเรือนกระจกไปได้
“ เรื่องมันเป็นมายังไงครับเนี่ย คุณสิง ” จิมมี่ถามลูกค้าประจำของคลินิกเขา ซึ่งสิงโตก็ได้แต่หันมายิ้ม ก่อนจะพูดออกไปบ้าง
“ เพื่อนที่สอนคริสทำแผลคงเป็นคุณจิมมี่สินะครับ สอนทำแผลเก่งจังเลยนะครับ คริสถึงทำแผลให้ผมซะสวยเชียว ” สิงโตเปิดแขนเสื้อขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะปรากฏให้เห็นพลาสเตอร์ยาสีขาวใสๆ แปะอยู่บนแผลอะไรสักอย่างที่จิมมี่ก็ยังจับต้นชนปลายถูกอยู่ดี
แต่ยังไม่ทันที่จิมมี่จะได้ถามให้หายสงสัย สิงโตก็ได้เดินตามหลังคริสออกจากห้องเรือนกระจกไป เหลือก็แต่ก๊วยเจ๋งที่ถึงกับปาดเหงื่อ
“ นึกว่าจะโดนมะเหงกซะแล้ว ” ก๊วยเจ๋งพูดกับตัวเองอย่างโล่งใจไปที แต่ยังไม่ทันที่ก๊วยเจ๋งจะได้เดินกลับไปช่วยโปเต้ที่เคาเตอร์หน้าร้าน แต่ก็โดนเพื่อนพี่ชายอย่างจิมมี่ล็อคแขนเอาไว้ก่อน
“ คริสกับคุณสิงโตนี้มันยังไงวะ ” จิมมี่เริ่มคำถาม
“ ไอ่คริสมันไปรู้จักกับคุณสิงโตได้ยังไงวะเจ๋ง ”
“ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันพี่จิม ว่าพวกเขาไปรู้จักกันได้ยังไง แต่ที่รู้แน่ๆ คือเมื่อคืนคุณสิงโตไปหาพี่คริสที่บ้านด้วยล่ะ ตั้งดึกแหละกว่าจะกลับ ”
“ หะ? ”
♡
คริสรู้สึกอยากจะปิดร้านให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยจริงๆ
“ คุณเป็นบ้าอะไรของคุณเนี้ย คุณสิงโต ” หลังจากที่คริสเดินหนีออกมาจากห้องเลือนกระจก ก็ได้รีบตรงมายังเคาเตอร์ร้านที่โปเต้กำลังรับออเดอร์ลูกค้าอยู่พอดี
ตอนแรกคริสกะจะมาช่วยโปเต้ทำนู่นนี่นั่นไปพลาง เพื่อดึงความสนใจของตัวเองให้มาอยู่ที่งาน มากกว่าที่จะต้องไปปวดหัวกับคนบ้าที่จะบอกว่ารู้จักกันเหรอ? ก็ไม่ใช่ หรือจะบอกว่าสนิทกันเหรอ? ก็ยิ่งไม่ใช่ใหญ่อีกนั่นแหละ
แต่แทนที่สิงโตจะต้องรับรู้กลายๆ ว่าให้เลิกวุ่นวายกับเขาสักที เพราะด้วยท่าทางของคริสที่ไม่อยากจะเสวนาด้วยนั้นก็ชัดเจนอยู่แล้ว แต่ที่ไหนได้ สิงโตกลับมานั่งตรงเก้าอี้ทรงสูงหน้าเคาเตอร์ แล้วก็เอาแต่จ้องคริสยิ้มๆ โดยที่ไม่พูดอะไร
และเป็นคริสเองนั่นแหละ ที่จะสติแตกก่อน จนต้องถามออกไปตรงๆ ให้รู้ไปเลย
“ งานการไม่มีทำหรือไงคุณ ถึงได้มานั่งทิ้งเวลาเรี่ยราดอยู่แบบนี้น่ะ ”
“ งานของผมจะทำหรือไม่ทำก็ได้ครับ ” คำพูดสุดแสนจะน่าหมั่นไส้ ที่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คริสไม่อยากจะพูดด้วยจริงๆ
“ พี่คริส ” โปเต้เดินมายืนอยู่ข้างๆ แล้วเรียก หลังจากที่คริสคิดว่าจะไม่สนใจสิงโตจริงๆ แล้ว โดยการหันหลังมาล้างแก้วกาแฟตรงอ่างซิงค์ แต่เพราะเสียงเรียกและแผ่นกระดาษสีขาวจัตุรัสสำหรับเขียนออเดอร์ที่โปเต้ยื่นให้ ทำให้คริสต้องรับไปอ่าน เพราะคิดว่าน่าจะเป็นออเดอร์ลูกค้าจากโต๊ะไหนสักโต๊ะแหละ
แต่ที่ไหนได้...
ตัวหนังสือที่เขียนด้วยปากกาสีน้ำเงินขีดขยุกขยุย แต่คริสก็พอจะอ่านออกบ้างว่า ‘ไปทานมื้อเที่ยงกันครับ’
“ ไม่ ” คริสหันหลังกลับไปตอบแทบจะทันที ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่จิมมี่และก๊วยเจ๋งเดินออกมาจากห้องเรือนกระจก และทันได้เห็นเหตุการณ์พอดิบพอดี
ก่อนหน้านี้ก๊วยเจ๋งได้เล่าเรื่องเมื่อคืนเท่าที่ตัวเองรู้เห็นให้จิมมี่ฟัง ซึ่งก็ทำให้จิมมี่รู้สึกสนุกขึ้นมาแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้สิ
“ มึงก็ไปกินข้าวเป็นเพื่อนคุณเขาหน่อยสิ ” จิมมี่ช่วยพูด
“ ลูกค้าเยอะแบบนี้จะให้ไอ่เจ๋งกับเต้มันอยู่กันสองคนหรือไง แถมตอนบ่ายๆ ไอ่เด็กสองคนนี้ก็มีเรียนอีก ” คริสเถียงกลับ
“ กูก็อยู่ไหมล่ะ สูตรร้านมึงกูก็รู้ กูก็จะอยู่ช่วยให้ก่อนก็ได้ แล้วมึงก็พูดเหมือนกับว่าตอนมึงอยู่มึงได้ช่วยไอ่เจ๋งไอ่เต้ตั้งมากตั้งมายงั้นแหละ กูก็เห็นไอ่เด็กสองคนนี้มันจัดการกันเองทั้งนั้น ” จิมมี่แอบเหน็บเล็กน้อย ก็รู้แหละนะว่าเป็นเจ้าของร้านจะเข้าร้านหรือไม่เข้าร้านก็ได้ เพราะจริงๆ แล้วแค่เบเกอรี่ในร้านในแต่ละวันที่คริสเป็นคนทำเองทั้งหมด ก็แทบจะกินเวลาหลับเวลานอนมันไปเยอะเหมือนกัน
“ มึงไปกินข้าวกับคุณสิงเถอะ คุณสิงเขาอุตส่าห์มาชวน วันนี้กูว่างทั้งวัน เดี๋ยวกูอยู่ช่วยเจ๋งกับเต้มันเอง ” ถึงจะไม่รู้เรื่องตั้งแต่ต้น แต่แค่เขาได้ฟังเรื่องจากที่ก๊วยเจ๋งเล่าให้ฟังเมื่อกี้ จิมมี่ก็พอจะเดาเรื่องราวคร่าวๆ ออกบ้างแล้วล่ะ
ก็เพื่อนของเขามันเป็นประเภทดึงดูดเพศเดียวกันมาแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่น่า
“ เพื่อนผมมันกินง่ายอยู่ง่ายครับคุณสิง ”
“ ไอ่หมอ! ” คริสตวัดเสียงใส่เพื่อนของตัวเองทันที ดูก็รู้ว่ามันอยู่ฝ่ายใคร
และในเมื่อมีคนเปิดทางให้ขนาดนี้แล้ว...
“ งั้นจะเอาร้านไหนดีครับคริส คริสอยากทานอาหารอิตาเลี่ยน อาหารญี่ปุ่น หรือว่าอาหารจีนดีล่ะครับ ขึ้นเหลาเลยไหมครับ ”
“ ไม่ ” คริสตอบสั้นๆ
“ งั้นอาหารเกาหลีดีไหม หรือคริสอยากทานอาหารชาววังก็ได้นะครับ ”
“ ผมจะกินอาหารตามสั่งหน้าปากซอย ”
To Be Continued . . .
TALK :
ความคิดเห็น