ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SingtoKrist] . ONE . แค่คุณคนเดียว

    ลำดับตอนที่ #5 : . ONE . แค่คุณคนเดียว . 4

    • อัปเดตล่าสุด 7 ก.ย. 62






    - 4 -




                           

                ...ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อยสิตาสิง   หญิงสาววัยกลางคน บอกกับลูกชายวัยเจ็ดขวบของเธอที่ทำหน้ามุ่ยตั้งแต่ออกจากบ้านมาแล้ว

     

                วันนี้เธอและสามีได้มาร่วมงานของกลุ่มเครือข่ายสถาปนิก ที่ได้จัดแสดงรูปแบบที่พักอาศัยอย่างหลากหลาย ร่วมทั้งโครงการหมู่บ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมที่ได้เข้าร่วม เพื่อเปิดให้ผู้ที่สนใจได้จับจองพื้นที่ในฝันกว่านับร้อยโครงการ ในที่พื้นที่จัดแสดงที่แสนจะกว้างขวางสุดลูกหูลูกตา

     

                ยิ้มหน่อยสิลูก   หญิงสาวยังคงพูดคุยกับลูกชายที่ยืนอยู่ข้างๆ ตัว หากแต่ลูกชายเพียงคนเดียวของเธอนั้นก็ยังคงทำหน้าไม่สบอารมณ์อยู่ดี จนทำให้คนเป็นพ่อต้องหันมาสนใจด้วยอีกคน

                สิง ฟังที่แม่เขาพูดไหม

                สิงได้ยินแล้ว แต่สิงก็บอกพ่อกับแม่ตั้งแต่แรกแล้วนี้ครับว่าสิงไม่อยากมา   สิงโต ลูกชายเพียงคนเดียวของครอบครัวนักธุรกิจใหญ่ ที่ในวงการอสังหาริมทรัพย์นั้นจะมีใครบ้างที่ไม่รู้จัก

     

                ซึ่งแน่นอนว่าเป็นถึงนักลงทุนใหญ่เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย งานแสดงใหญ่ๆ แบบนี้ย่อมต้องถูกเชิญตัวเข้าร่วมงานเป็นธรรมดา 

     

                แต่สำหรับสิงโตในตอนนั้น เขากลับเห็นเรื่องทำนองนี้เป็นเรื่องที่แสนจะน่าเบื่อเสมอ ที่ต้องออกมาเจอคนตั้งมากตั้งมาย ที่เขาเองก็ไม่ได้รู้จักด้วยเลย สู้ให้นอนเล่นเกมส์อยู่บ้านยังสนุกเสียกว่า

     

                ตาสิง   คนเป็นแม่ก็ได้แต่เรียกชื่อลูกชายแค่นั้น เพราะเธอเองก็พอจะเข้าใจความรู้สึกของสิงโตดี เด็กเจ็ดขวบคนไหนบ้างจะชอบงานแบบนี้ มากไปกว่าการไปสวนสนุกหรือห้างสรรพสินค้าอีกล่ะ

                สิงขอไปเดินดูทางนู้นนะครับ   สิงโตชี้ไปในโซนของตกแต่งบ้าน ที่ดูจะสบายใจสบายตากว่าโซนที่มีแต่ผู้คนที่บ้างก็นั่งบ้างก็ยืน แถมยังทำหน้าตาคร่ำเคร่ง เห็นแล้วก็ปวดหัวแทน

                อย่าไปไกลนักล่ะ   คนเป็นพ่อบอกตามหลัง เมื่อลูกชายของตนเองเดินห่างออกไปได้หลายก้าวแล้ว

     

                สิงโตไม่ตอบอะไร เพราะเขาก็ไม่ได้จะเดินไปไหนไกลตามที่พ่อบอกนั่นแหละ เพียงแต่เขาแค่อยากจะเดินดูอะไรๆ คนเดียวบ้างก็เท่านั้นเอง

     

                สิงโตรู้ดีว่าที่คุณพ่อคุณแม่พาเขามางานนี้เพื่ออะไร

     

                ก็เพื่อมาศึกษา ก็เพื่อมาเรียนรู้ แล้วก็เพื่อมาทำความคุ้นเคย เพราะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ตั้งกี่หมื่นล้านจะไปไหนเสีย ถ้าไม่ใช่เป็นของสิงโตลูกชายเพียงคนเดียว ที่ต้องรับช่วงต่อเมื่อถึงเวลาอันสมควร

     

                แต่ให้เริ่มตั้งแต่เจ็ดขวบเนี่ยนะ

     

                ไม่สิ

     

                ตั้งแต่จำความได้เลยด้วยซ้ำ สิงโตนึกหงุดหงิดในใจ

     

                แต่ในขณะที่สิงโตกำลังเดินเซ็งๆ อยู่คนเดียว หูของเขาก็เหมือนกับว่าจะได้ยินเสียงหัวเราะอยู่ใกล้ๆ นี้ เสียงหัวเราะที่ดูมีความสุขเสียเหลือเกิน

     

                สิงโตมองหาต้นเสียง กระทั่งดวงตาคมคายมีเสน่ห์ตั้งแต่ยังเด็ก ได้หันไปเจอเด็กผู้ชายในเชิ้ตสีเหลืองอ่อน เข้าชุดกับกางเกงขาสั้นสีครีม ที่กำลังหัวเราะจนตาปิด อยู่กับพี่สาวผมยาวคนหนึ่งที่เธอเองนั้นก็หัวเราะตามด้วยเหมือนกัน

     

                เสียงหัวเราะที่ไม่ได้ทำให้แค่สิงโตหันไปมองเท่านั้น เพราะผู้คนที่เดินชมงานต่างก็ต้องหันไปมองและยิ้มตามเด็กผู้ชายเจ้าของผิวขาวๆ น่ารักๆ คนนั้นเป็นสายตาเดียว

     

                สิงโตเดินตรงเข้าไปคล้ายกับมีแรงดึงดูด บูธสีขาวสลับสีเขียวอ่อนๆ ตรงหน้าที่เสียงหัวเราะยังไม่หายไป คือร้านดอกไม้ที่ได้มาเปิดบูธขายภายในโซนของตกแต่งบ้านและสวน

     

                สิงโตจ้องมองรอยยิ้มและเสียงหัวเราะด้วยหัวใจที่เต้นรัวขึ้นเรื่อยๆ ในขณะเดียวกับที่เท้าทั้งสองข้างตัวเองก็เดินไปใกล้

     

                กระทั้งคนถูกมองคงเริ่มรู้สึกตัวถึงได้มองตอบ ดวงตากลมโตที่มีหยดน้ำใสๆ ซึมออกมาตรงหางตาจากการหัวเราะกับพี่สาวคนสวย ที่เธอนั้นก็ได้หันมามองด้วยเช่นกัน

     

                สวัสดีจ่ะ สนใจดอกไม้เอาไปตกแต่งบ้านหรือภายในสวนไหมจ๊ะ   พี่สาวคนนั้นทักทายอย่างเป็นกันเอง และเริ่มทำการขายทันทีเมื่อเห็นสิงโตยังยืนนิ่ง

                หรือถ้ายังไงก็เชิญเข้ามาเดินชมภายในร้านเราก่อนได้นะค่ะ ไม่ซื้อไม่เป็นไร   สิงโตพยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะเดินเข้าไปภายในร้านตามคำชักชวนของหญิงสาว

     

                ภายในร้านที่แม้จะมีพื้นที่จำกัดตามข้อกำหนดของการออกบูธขายสินค้า แต่การจัดตกแต่งก็สวยงามและให้ความรู้สึกสดชื่น สมกับที่เป็นร้านดอกไม้จริงๆ

     

                สิงโตมองไปยังพี่สาวเจ้าของร้านที่ตอนนี้ได้หันไปพูดกับลูกค้าอีกคนที่ดูเหมือนกันจะสนใจกระถางต้นไม้ที่วางอยู่บริเวณหน้าร้าน เหลือก็แต่เพียงเด็กผู้ชายผิวขาวที่ดูๆ แล้วคงจะอายุน้อยกว่าเขาไปสองหรือสามได้ล่ะมั้ง

     

                เด็กคนนั้นที่กำลังจัดดอกไม้ลงแจกันไปตามประสา ที่ดูจากพื้นที่รอบๆ โต๊ะที่มีดอกไม้ดอกเล็กบ้างใหญ่บ้าง ที่ก้านดอกโดนตัดให้สั้นบ้างยาวบ้าง ดูๆ แล้วพี่สาวคนเมื่อกี้คงแค่ให้จัดเล่นๆ ไม่ได้เอาไปขายแน่นอน

     

                สิงโตรีบเดินเข้าไปใกล้ แล้วยืนมองอยู่แบบนั้น

     

                สนใจดอกไม้ดอกไหนครับ   เด็กน้อยผิวขาวที่รู้สึกว่ามีคนเดินเข้ามาและมองตนเองอยู่นั้น ได้เงยหน้าขึ้นมองพร้อมกับคำพูดที่พี่สาวสอนเวลาที่ลูกค้าเข้าร้านมา

                จัดดอกไม้แบบนี้...

     

                แต่แทนที่สิงโตจะตอบออกไปดีๆ

     

                จะขายได้เหรอ

     

     

                โอ้ย! ”  หนามดอกกุหลาบที่คริสไม่ทันได้ระวังตอนใช้กรรไกรตัด จึงทำให้หนามคมบนก้านดอกกุหลาบปักลงบนนิ้วมือ ทำให้เลือดสีสดซึมไหล จนคริสต้องรีบเอานิ้วมือข้างนั้นเข้าปาก เพื่อห้ามเลือดอย่างเคยชิน

                กูบอกหลายครั้งแล้วใช่ไหมว่าทำแบบนั้นมันสกปรก   แต่เมื่อคนๆ หนึ่งเห็นการกระทำนั้นเข้าพอดี ก็ถึงกับเอ่ยปากติเตือนขึ้น ทั้งที่เรื่องนี้ก็บอกไปแล้วไม่รู้ตั้งกี่รอบ

                อ้าว ไอ่หมอจิต

                กูชื่อจิมไหม ไอ่คริส   คนที่โดนเรียกว่าหมอจิตถึงกับทำท่าเหนื่อยหน่าย

     

                จิม หรือ จิมมี่ สัตวแพทย์หนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ เพื่อนสนิทซี้ปึ้กของคริส ที่รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมต้น ที่คริสก็ไม่รู้ว่ามายืนอยู่ตรงประตูห้องเลือนกระจกตั้งแต่เมื่อไหร่

     

                มึงมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี้ย   คริสถามอย่างในใจสงสัย

                กูก็มาตั้งแต่ที่มึงนั่งเหม่อ แล้วก็ตั้งแต่ที่มึงใช้กรรไกรได้โคตรหวาดเสียว แล้วหนามกุหลาบก็เลยปักมือมึงไง   จิมมี่จงใจพูดกวนประสาทไปตามนิสัย ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งบนเก้าอี้ตัวใกล้ๆ กับที่คริสนั่งอยู่

                แล้ววันนี้มึงไม่ไปทำงานหรือไง ถึงเอาหน้าโผล่มาที่นี่ได้   คริสมองนิ้วตัวเองที่เลือดหยุดไหลไปแล้ว ก่อนจะหันมาหยิบดอกกุหลาบดอกเดิมขึ้นมาตัดก้านอีกครั้ง

                กูก็มีวันหยุดของกูบ้างไหมมึง นี่ใจคอมึงจะให้กูอยู่กับน้องหมาน้องแมวตลอดเลยหรือยังไงวะ คริส

                ก็แค่ถาม ไม่ได้หรือไง   คริสพูดโดยไม่หันมองเพื่อน ซึ่งการแสดงออกแบบนั้นที่ทำให้จิมมี่ถึงกับต้องส่ายหน้าไปมายิ้มๆ

                เห็นก๊วยเจ๋งว่าวันนี้มึงหงุดหงิดตั้งแต่เช้าแล้ว   จิมมี่พูดไปด้วย มือก็หยิบๆ จับๆ กลีบดอกกุหลาบเล่นไปด้วย จนทำให้คริสต้องตีมือจิมมี่ไปหลายครั้ง เพราะเขากลัวว่าจะทำให้กลีบดอกกุหลาบช้ำขึ้นมาได้

                ดูท่าเช้านี้จะหงุดหงิดจริงๆ

     

                คริสอยากจะบอกเหลือเกินว่าเขาไม่ได้เพิ่งจะมาหงุดหงิดเช้านี้

     

                เขาหงุดหงิดมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วเว้ย ไอ่หมอจิต!

     

                ตั้งแต่เมื่อคืนที่หยอดเหรียญพาคนๆ นั้นเข้ามาในบ้าน แถมไม่พอ ก๊วยเจ๋งยังจะเอาเบอร์ของเขาไปให้คนๆ นั้นง่ายๆ อีกต่างหาก

     

                คนบ้าๆ บอๆ ที่มาขอกินทั้งน้ำทั้งขนม ยังไม่พอ ยังมาขออยู่ด้วยอีก

     

              ให้ผมมาอยู่ด้วยอีกคนดีไหม

     

                พอต่อว่ากลับไป แทนที่จะคิดได้ กลับเอาแต่หัวเราะชอบใจ เลยบอกให้ก๊วยเจ๋งนั่งเฝ้า จนกว่าคนๆ นั้นจะกลับ

     

                ก็กว่าจะกลับ ก็เกือบห้าทุ่มได้

     

                แถมไม่พอ...

     

                ได้เบอร์โทรจากก๊วยเจ๋งไปแล้ว เที่ยงคืนกว่าๆ มีข้อความสั้นๆ ส่งเข้ามา ฝันดีนะครับ คริส

     

                จริงๆ มึงน่ารักนะคริส ถ้ามึงไม่ทำหน้าแบบนี้   จิมมี่ขมวดคิ้วประกอบ

                กูเห็นแล้วปวดหัวแทน

                นั่นมันเรื่องของมึง   ยิ่งพูด คริสก็ยิ่งหงุดหงิด แต่แทนที่จิมมี่จะอยู่เงียบๆ เพื่อให้คริสเย็นลงบ้าง แต่ไม่เลย จิมมี่ยิ้มขำ จนทำให้คริสต้องตวัดสายตามามอง

                มีอะไรน่าขำหรือไง ไอ่หมอ   เดี๋ยวก็เอาโอเอซิสชุบน้ำปาหัวแ ม่ง

                ถ้าจะให้กูเดานะ ที่มึงหงุดหงิดนี้เพราะเมล่อนปังใช่ไหม

     

                เมล่อนปัง...

     

                ทำไมมึงถึงคิดแบบนั้นล่ะ   คริสย้อนถามเพื่อนซี้ที่นั่งเท้าคางกับโต๊ะอยู่ข้างๆ

                ก็เห็นก๊วยเจ๋งบอกว่าเมื่อวานมึงทำเมล่อนปัง มึงไม่ได้ทำเมล่อนปังมานานแล้วไม่ใช่เหรอคริส

                แต่ก็อร่อยเหมือนเดิมนะ   คำตอบของคริสที่แม้จะไม่ตรงคำถาม แต่ก็ทำให้สัตวแพทย์หนุ่มอย่างจิมมี่ถึงกับหลุดขำ

                กูรู้ว่าอร่อยเหมือนเดิม แต่ใจมึงน่ะ ยังเหมือนเดิมอยู่หรือเปล่า คิดถึงเขาคนนั้นหรือไงถึงเป็นบ้าลุกมาทำเมล่อนปังน่ะ แต่เห็นก๊วยเจ๋งว่าทำแล้วก็ไม่กินไม่ใช่เหรอ โคตรเสียของเลยว่ะ มึงไม่กินก็ควรเอามาให้กูกิน

                ไอ่เจ๋งนี้มันพูดมากเกินไปละ   คริสพูดกับตัวเอง พาลนึกไปถึงไอ่เด็กข้างบ้านที่ถึงจะรักมันเหมือนน้องแท้ๆ แต่บางครั้งก็อยากจะฆ่ามันซะเหลือเกิน

                มึงไม่ต้องกลัวเสียของหรอกน่ะไอ่หมอ กูให้ก๊วยเจ๋งมันกินแทนแล้ว

     

                รวมถึงให้ไอ่คนบ้าๆ บอๆ เมื่อคืนก็ให้กินด้วย ชิ้นหนึ่ง

     

                เห็นก๊วยเจ๋งบอกว่าชื่ออะไรนะ...

     

                พี่คริส คุณสิงโตมาหาครับ

     

                อ่า ใช่

     

                ชื่อสิงโต

     

                ห๊ะ? โอ๊ย! ”  หนามดอกกุหลาบปักเข้านิ้วข้างเดิมแถมยังตรงจุดเดิม ในทันทีที่ก๊วยเจ๋งโผล่หน้าเขามาในห้องเลือนกระจก เพื่อบอกว่ามีคนมาหา

     

                มาทำไมอีกวะ คริสคิดในใจ

     

                ยังจะเอาเข้าปากอีก   จิมมี่รีบดึงนิ้วมือของคริสออกจากปากอีกครั้ง เวลาเลือดออกนิ้วคริสชอบเอาเข้าปากตลอด บอกว่าสกปรกๆ ก็ไม่ยอมฟังกันเลย

                แล้วคุณสิงโตนี่ใครวะ คริส

                ออ...   คริสสะบัดนิ้วของตัวเองเบาๆ

     

     

                คนบ้าน่ะ  








    To Be Continued . . .

    @ H i m a w a r i 


                                                                         


    TALK : 


    #คุณสิงเกินไป

    ขอบคุณทุกคอมเม้นที่เม้นนะค่าาาาา

    B
    E
    R
    L
    I
    N
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×