คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : . ONE . แค่คุณคนเดียว . 3
“ ...เห่าอะไรน่ะ หยอดเหรียญ ” คริสถามขึ้นด้วยความสงสัย ขณะเดินออกมาจากห้องครัว เมื่อได้ยินเจ้าโกลเด้นแสนรักที่เอาแต่ส่งเสียงเห่าไม่หยุดมาเกือบนาทีแล้ว
“ หยอดเหรียญ เสียงดังอะไรน่ะเรา ”
หยอดเหรียญ สุนัขพันธุ์โกลเด้นรีทรีฟเวอร์สีน้ำตาลตัวโตจอมซ่า ที่กำลังตะกุยบานกระจกข้างๆ บานประตูบ้านที่คริสล็อกจากทางด้านในไว้ตั้งแต่กลับมาถึงบ้านตอนทุ่มกว่าๆ แล้ว
“ มีอะไรหรือไง ” คริสปัดผ้าม่านสีครีมจากขอบหน้าต่างยาวลงมาจนถึงพื้นบ้าน เพื่อมองออกไปภายนอกที่ต้องมีอะไรสักอย่างแน่ เพราะไม่อย่างนั้นหยอดเหรียญไม่เห่าเอาเป็นเอาตายแบบนี้หรอก
“ หืม? ก๊วยเจ๋งนี้ ” เจ้าเด็กจอมซ่าข้างบ้านที่เหมือนจะกำลังยืนคุยกับใครบางคนอยู่ แต่เมื่อคริสลองเพ่งมองออกไปให้ชัด เขากลับต้องขมวดคิ้วหมุนทันที
“ คุณคนนั้นนี่น่า มาได้ยังไงเนี้ย ” คริสพูดกับตัวเอง ก่อนจะปลดล็อกประตูจากภายในบ้าน แล้วรีบเดินออกไปตรงประตูรั้วทันที ซึ่งแน่นอนว่าเจ้าโกเด้นสีน้ำตาลอย่างเจ้าหยอดเหรียญที่ส่งเสียงดังอยู่นานสองนานก็ต้องวิ่งตามคริสออกไปด้วย
หรือจะเรียกให้ถูกคือวิ่งนำหน้าเจ้าของไปเกาะรั้วบ้านเรียบร้อยแล้ว
“ เจ๋ง มีอะไรเหรอ? แล้วคุณมาทำอะไรที่นี่ครับ? ” คำถามแรกนั้นคริสหันไปถามก๊วยเจ๋งที่กำลังเก็บโทรศัพท์มือถือของตัวเองลงกระเป๋ากางเกง และอีกคำถามที่คริสหันไปถามคนที่เมื่อเช้าเพิ่งจะเหมาเค้กร้านของเขาไปจนเกลี้ยงตู้
“ พี่คริสมาพอดี คือคุณคนนี้เขาบอกว่ามาหาพี่นะครับ แต่เขาทำเบอร์ของพี่คริสหาย ผมเลยเอาเบอร์พี่ให้เขาไป ”
“ หะ? ” อะไรคือการที่บอกว่าคุณคนนี้ทำเบอร์โทรของเขาหาย
ในเมื่อ...
“ เบอร์อะไร พี่ไม่รู้จักเขา แล้วก็ไม่เคยให้เบอร์อะไรเขาด้วย ”
“ อ้าว? ” ก๊วยเจ๋งตกใจนิดหน่อย
“ ไอ่เจ๋ง!! ” แต่ตอนนี้ก๊วยเจ๋งตกใจมากแล้วล่ะ เมื่อเห็นว่าพี่ชายของเขาโมโหขึ้นมาจริงๆ
“ ก็คุณคนนี้เขาบอกแบบนั้นจะให้ผมทำยังไงล่ะ ผมก็นึกว่าเขาเป็นเพื่อนพี่คริสจริงๆ นี่น่าเลยให้เบอร์พี่คริสไป ” ก๊วยเจ๋งรีบแก้ตัว พลางชี้มือไปยังคนข้างๆ ที่ตอนนี้ยืนยิ้มให้อย่างถูกใจ
แต่ก็นั่นแหละ
สิงโตถูกใจ
แต่คริสไม่ถูกใจสิ่งนี้!
“ คุณ! ” คริสจ้องเขม็ง
“ นี่คุณต้องการอะไรกันแน่! ”
“ เดี๋ยวๆ พี่คริส ใจเย็นๆ อย่าเสียงดังสิพี่ นี่ก็มืดค่ำแล้วนะ ” ก๊วยเจ๋งรีบปราม เมื่อพี่ชายของเขาเริ่มจะเสียงดังขึ้นกว่าปกติ ถึงตอนนี้จะไม่ดึกมาก แต่คนส่วนมากในระแวกนี้เขาก็เข้าบ้านพักผ่อนกันเกือบหมดแล้ว
“ มีอะไรค่อยเข้าไปคุยกันในบ้านก็ได้น่ะพี่ ”
“ อะไรนะ? ” คริสย้อนถาม
“ นี่แกให้เบอร์ของพี่กับเขาไปยังไม่พอ ยังจะให้เขาเข้าบ้านพี่อีกเหรอไอ่เจ๋ง ”
“ โธ่ พี่คริสครับบบบ ” ก๊วยเจ๋งก็ไม่รู้จะพูดยังไงดี คือมันใช่ความผิดเขาไหมล่ะที่ให้เบอร์ไป
“ ก็คุณคนนี้เขาบอกว่ามาหาพี่นี่น่า ”
“ แต่พี่ไม่รู้จักเขา ”
“ ก็ทำความรู้จักกันก่อนสิครับ ” สิงโตที่ยืนยิ้มกับตัวเองระหว่างที่พี่น้องสองคนทะเลาะกันก็ขอพูดขึ้นบ้าง
“ ถ้ายังไม่รู้จักกันก็เปิดประตูบ้านให้ผมทำความรู้จักสิครับ ”
“ ไม่! ” คริสรีบจับกลอนประตูรั้วไว้แน่น แต่ด้วยท่าทางแบบนั้นที่ทำให้หยอดเหรียญเข้าใจว่าเจ้านายของตัวเองจะพาออกไปเดินเล่นนอกบ้านเหมือนอย่างที่ชอบทำ ถึงได้รีบเอาตัวเบียดเพื่อจะเตรียมวิ่งตามประสาหมาอะเลิท จนทำเอาคริสแทบจะเซล้มไปด้านข้างเสียให้ได้
“ หยอดเหรียญ ไม่ออกไป ” แต่ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุนั่นแหละ
“ หยอดเหรียญ ” โดยพื้นฐานนิสัยของสุนัขพันธุ์โกลเด้นรีทรีฟเวอร์จะเรียนรู้เร็วและฝึกง่าย และคริสก็รู้ตัวเองดีว่าเขานี่แหละ ที่เป็นคนสอนให้หยอดเหรียญรู้จักวิธีเปิดประตูรั้ว และหยอดเหรียญก็จะทำได้ดีเสมอหากเขาไม่ล็อกจากทางด้านนอกไว้เหมือนอย่างตอนกลางวันที่เขาต้องออกไปอยู่ร้าน
เพราะฉะนั้น...
“ หยอดเหรียญ! ” เจ้าโกลเด้นตัวโตวิ่งออกจากรั้วบ้านได้สำเร็จ ก่อนจะวิ่งตรงไปหาก๊วยเจ๋งที่ปกติก็สนิทกันมากๆ อยู่แล้ว
แต่พอได้เล่นได้ทักทายก๊วยเจ๋งไปแล้ว หยอดเหรียญก็หันไปสนใจกับคนแปลกหน้าที่แม้จะเคยเจอกันครั้งนี้เป็นครั้งแรก แต่โกลเด้นก็คือโกลเด้น ที่มักจะเห็นคนทั้งโลกเป็นมิตรกับตัวเองเสมอ
“ ว่าไง ชื่อหยอดเหรียญเหรอเรา ” สิงโตลูบหัวเจ้าโกลเด้นตัวโตอย่างเอ็นดู หากแต่กับเจ้าของอย่างคริสที่จำเป็นต้องเดินตามสุนัขของตัวเองออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ก็ได้แต่มองเซงๆ
“ หยอดเหรียญ เข้าบ้านได้แล้ว ” คริสเรียก แต่เจ้าขนปุยกลับสนใจแต่สิงโตที่ยังลูบหัวตัวเองอยู่
“ หยอดเหรียญ! ”
“ นี่คริสขึ้นเสียงแม้แต่กับหมาของตัวเองเลยเหรอเนี้ย ”
“ คุณอย่ามาเรียกชื่อผมง่ายๆ แบบนี้นะ! ”
“ อ๊าว? ” สิงโตเลิกคิ้วขำๆ
“ ทีเมื่อเช้าธีร์มันเรียกได้ แต่พอผมจะเรียกบ้างกลับไม่ได้ซะงั้น เลือกปฏิบัติขนาดนี้นี่คิดไม่ซื่อกับลูกน้องผมหรือเปล่าครับ ”
“ นี่คุณ! ” คริสอยากจะต่อว่าออกไปให้เจ็บแสบ ที่จู่ๆ ก็มากล่าวหากันลมๆ แบบนี้ได้ แต่พอเห็นรอยยิ้มกริ่มของคนตรงหน้า ก็ทำให้คริสไม่อยากจะพูดไม่อยากจะเจรจากับคนประเภทนี้อีกแล้ว
“ เจ๋ง เดี๋ยวพาหยอดเหรียญตามเข้าบ้านมานะ พี่อบขนมไว้ คงจะเสียเวลาอยู่ตรงนี้นานๆ ไม่ได้หรอก ” หากจะบอกว่าคริสแอบประชดประชันสิงโตอยู่ก็คงจะไม่ผิด เพราะทั้งคำพูดทั้งสายที่แม้จะบอกกับก๊วยเจ๋ง แต่ดวงตากลมโตที่แสดงออกชัดเจนว่ากำลังรู้สึกไม่พอใจ ได้จ้องเขม็งไปยังแขกไม่ได้รับเชิญที่ก็ไม่รู้ว่ามีเรื่องสนุกอะไรนักหนา ถึงได้ยิ้มอยู่นั่น
“ ค...ครับ เดี๋ยวผมพาหยอดเหรียญตามเข้าไปครับ ” ก๊วยเจ๋งรีบรับคำทันที
แต่การที่หยอดเหรียญยังคลอเคลียยังวนเวียนอยู่รอบตัวสิงโตเหมือนกับว่าได้เพื่อนใหม่ ก๊วยเจ๋งก็ได้แต่ถามกับตัวเองในใจว่าจะต้องทำอย่างไรล่ะ ที่จะพาหยอดเหรียญเข้าบ้านเร็วๆ เพื่อที่จะไม่ทำให้พี่คริสอารมณ์เสียซ้ำอีก
“ หยอดเหรียญ พี่คริสโกรธแล้วเห็นไหม เข้าบ้านเร็ว ” ก๊วยเจ๋งลองเรียกบ้าง ซึ่งปกติแล้วหยอดเหรียญกับก๊วยเจ๋งสนิทกันมากทีเดียว
แต่ดูเหมือนว่าวันนี้...
หยอดเหรียญจะอยากสนิทกับอีกคนมากกว่าซะแล้วสิ
♡
คริสเดินเข้ามาในบ้าน และตรงไปยังบริเวณห้องครัวที่ตัวเองนั้นได้อบขนมตามที่บอกก๊วยเจ๋งไว้ จริงๆ แล้ววันๆ หนึ่งของคริสก็ไม่ได้มีเรื่องที่ต้องให้เครียดมากมายนัก อย่างมากก็แค่การที่ต้องได้เจอลูกค้าแซวเล่น หรืออาจจะถึงเนื้อถึงตัวในบางครั้ง แต่เขาก็จัดการได้เสมอ
แต่คราวนี้ คริสคิดว่าเขาจัดการกับอารมณ์ของตัวเองไม่ได้สักที
ตั้งแต่ที่คนๆ นั้นมาหาที่ร้านเมื่อตอนเย็น แล้วบอกว่าจะเหมาเค้กในร้านทั้งหมด ด้วยท่าทางที่กวนประสาทในสายตาของคริสมากๆ แถมเจ้าหยอดเหรียญก็ยังทำตัวสนิทสนมจนน่าหมั่นไส้แบบไม่ไว้หน้าเจ้าของของมันเลยสักนิด
“ คนบ้าอะไร ” คริสพูดกับตัวเองอย่างนึกหงุดหงิดใจไม่หาย ขณะก้มตัวเล็กน้อยเพื่อเปิดฝาเตาอบ ก่อนที่เนื้อแป้งนุ่มๆ ภายในเขาจะส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ออกมาที่พอจะทำให้คริสยิ้มออกได้บ้าง
เมล่อนปัง
ขนมปังหวานสัญชาติญี่ปุ่นที่คริสเคยทาน และถูกใจรสชาติมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างที่ทำให้เขาหยุดทำขนมปังชนิดนี้ไปเมื่อหลายปีก่อน
แต่ไม่รู้ทำไมจู่ๆ วันนี้ เขาถึงอยากจะทำเมล่อนปังขึ้นมา
“ พี่คริสสส ” ก๊วยเจ๋งส่งเสียงเรียก ก่อนที่เสียงปิดประตูบ้านจะดังตามมาติดๆ
“ พาหยอดเหรียญเข้ามาแล้วใช่ไหม ” คริสถาม ขณะที่ยังง่วนอยู่กับถาดขนมที่ตนเองเพิ่งจะเอาออกมาจากเตา
“ ถ้าจะกลับบ้านช่วยปิดประตูให้พี่ด้วยนะ ”
“ ผมเพิ่งจะเข้ามา นี่ก็ไล่กันแล้วเหรอ ” ก่อนหน้านี้เสียงก๊วยเจ๋ง...
แต่เมื่อกี้...ไม่ใช่นี่น่า
พอคริสลองเงยหน้าขึ้นจากถาดขนมที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์ภายในห้องครัว แทนที่คริสจะเรียกชื่อคนตรงหน้าที่ยืนยิ้มส่งมาให้ตนเองอย่างชอบอกชอบใจ กลับกลายเป็นว่าคริสต้องรีบเรียกไอ่น้องชายข้างบ้านที่กำลังจะย่องออกจากตัวบ้านไปได้อยู่แล้วเชียว
“ ไอ่เจ๋ง! ”
“ ค...ครับ ” ก๊วยเจ๋งชะงัก
“ มานี่เลยนะไอ่เจ๋ง! ”
“ อะไรล่ะพี่คริส ”
“ ยังจะมาถามว่าอะไรอีกงั้นเหรอ ” คริสเท้าเอว ก่อนจะพยักพเยิดหน้าไปตรงสิงโตที่ตอนนี้เปลี่ยนท่าทางเป็นยืนกอดอกอมยิ้มอย่างสบายอกสบายใจเสียเหลือเกิน
“ ก็หยอดเหรียญมันไม่ยอมเข้าบ้านนี่น่า ” ก๊วยเจ๋งรีบอธิบาย
“ ผมเรียกยังไงหยอดเหรียญมันก็ไม่ยอมตามมา เอาแต่อยู่กับคุณคนนี้ ดูสิ ” ไม่ใช่อยู่แค่ด้านนอกบ้านนะ เข้ามาในบ้านเจ้าโกลเด้นก็ยังไม่ยอมห่างจากคุณคนนี้เลย คุณเขาชื่ออะไรก็ไม่รู้ ก๊วยเจ๋งเองก็ไม่รู้จัก รู้แค่ว่าเป็นคนที่มาเหมาเค้กในร้านไปเมื่อเช้านี้
คริสจำต้องพ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่ ก็เห็นแหละนะว่าหยอดเหรียญคงจะไม่ยอมเข้าบ้านอย่างที่ก๊วยเจ๋งบอกไว้จริงๆ ถ้าคนๆ นี้ไม่พาเข้ามา
“ งั้นก็เชิญคุณกลับได้แล้วครับ ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ขอบคุณนะครับที่พาหยอดเหรียญเข้าบ้านให้ ” คริสก็ไม่ใช่คนไม่มีเหตุผล ในเมื่ออีกฝ่ายช่วยก็ควรขอบคุณตามมารยาทกันไป
แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่อยากได้แค่คำขอบคุณน่ะสิ
“ นอกจากคำขอบคุณ คุณไม่คิดจะเสิร์ฟน้ำเสิร์ฟท่าให้แขกอย่างผมบ้างเลยเหรอครับ คริส ” ไอ่การขอน้ำขอท่านี้ไม่เท่าไหร่หรอก แต่คริสกลับรู้สึกหงุดหงิดใจเวลาที่อีกฝ่ายเรียกชื่อเขาแบบสนิทสนมทุกครั้งไปสิน่ะ
“ ก๊วยเจ๋ง ”
“ รู้แล้วครับรู้แล้ว ” ก๊วยเจ๋งรู้ทุกอย่างแหละว่าพี่คริสต้องการอะไร
“ งั้นเชิญคุณไปนั่งตรงห้องรับแขกก่อนนะครับ ”
“ เรียกฉันว่าสิงโตก็ได้ ”
“ ออครับ ” ก๊วยเจ๋งพยักหน้ารับรู้
“ งั้นเชิญครับ คุณสิงโต ” สิงโตยิ้มรับอย่างเป็นมิตรให้กับเด็กหนุ่มที่ดูเหมือนก๋ากั๋น แต่ก็รู้จักการวางตัวกับผู้ใหญ่ได้ดีทีเดียว
แต่แทนที่สิงโตจะรีบเดินตามก๊วยเจ๋งไป เขากลับหันไปมองคริสที่ยืนทำหน้างอใส่ ก็รู้แหละว่าคนที่โดนกวนประสาทคงจะไม่บ้าส่งยิ้มให้กันแน่
แต่แบบนี้...
ก็น่ารักไปอีกแบบ
“ ยังไงก็ขอชิมเมล่อนปังด้วยนะครับ อบเสร็จแล้วนี่น่า ” และไม่ต้องรอฟังคำตอบจากคริสว่าได้หรือไม่ได้ สิงโตก็เดินออกมาจากโซนหัวครัวทันที ตามหลังก๊วยเจ๋งที่บอกว่าจะพาไปนั่งรอที่ห้องรับแขกกันก่อน
สิงโตเร่งฝีเท้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้ทิ้งระยะห่างจากก๊วยเจ๋งไม่มากนัก และแน่นอนว่าเจ้าโกลเด้นตัวปัญหา ก็เดินตามสิงโตมาติดๆ เช่นกัน
สิงโตมองรอบตัวบ้านอย่างสนอกสนใจ จากที่เขามองจากภายนอกก็เห็นว่าบ้านหลังนี้แม้จะเรียบง่ายแต่ก็ดูมีสไตล์เฉพาะตัว และเมื่อเขาได้เข้ามาเห็นภายในบ้านด้วยตาตัวเองแล้ว ก็อดที่จะชื่นชมความเรียบหรูของการออกแบบไม่ได้จริงๆ
พื้นผนังภายในบ้านถูกทาทับด้วยสีขาวสะอาดตา พื้นทางเดินของบ้านทำมาจากไม้ระแนงที่กลมกลืนกับธรรมชาติเป็นอย่างดี แต่ละห้องของบ้านถูกจัดแยกเป็นโซนอย่างชัดเจน โดยมีจุดเด่นคือทุกห้องของบ้านสามารถมองเห็นและเชื่อมติดกับลานโล่งตรงบริเวณกลางบ้าน ที่ตกแต่งเป็นสวนบอนไซเล็กๆ และมีแผ่นหินน้อยใหญ่เรียงรายไว้ใช้เป็นทางเดิน บวกกับเสียงหยดน้ำที่ตกกระทบกับกระบอกไม้ไผ่ตรงอ่างหิน ยิ่งทำให้บ้านหลังนี้ดูสงบและน่าอยู่มากทีเดียว
“ นั่งรอก่อนนะครับ คุณสิงโต ” ก๊วยเจ๋งพาสิงโตเดินมาจนถึงห้องรับแขกที่อยู่อีกมุมของบ้าน แต่ก็ยังสามารถมองเห็นคริสที่ยืนอยู่ภายในห้องครัว ผ่านบานประตูกระจกบานใหญ่ ที่จริงๆ แล้วแค่เดินลัดสวนตรงกลางบ้านมาก็ถึงแล้ว
แต่คริสคงไม่ชอบให้เดินลัดสวนล่ะมั้ง
สิงโตคิดแบบนั้นก็ถึงกับอมยิ้มชอบใจ หน้างอเก่ง โวยวายเก่ง หงุดหงิดเก่ง ชักสีหน้าเก่ง
แต่ก็น่ารักดี
“ รอแป๊บหนึ่งนะครับ ” ก๊วยเจ๋งบอก เมื่อเห็นสิงโตทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาสีครีมตัวใหญ่เป็นที่เรียบร้อย
“ อือ ไม่ต้องรีบร้อนหรอก ” สิงโตยิ้มให้ ก่อนจะมองตามหลัง กระทั่งก๊วยเจ๋งพ้นกรอบประตูห้องไป และไม่นานเกินรอ สิงโตก็เห็นว่าก๊วยเจ๋งไปโผล่ตรงห้องครัว ที่พอคริสเห็นเจ้าน้องชายข้างบ้านวิ่งมา ก็ยกหลังมือขึ้นเคาะหน้าผากไปหนึ่งที แถมยังบ่นอะไรอีกไม่รู้ต่อ จนก๊วยเจ๋งต้องยกมือขึ้นปิดหูทั้งสองข้างตัวเองไว้ แล้วรีบเดินหนีไปที่ตู้เย็น เพื่อหยิบขวดน้ำเปล่าขวดใหญ่ออกมาวางข้างๆ แก้วน้ำตรงเคาน์เตอร์
“ ดูท่าจะโดนบ่นแหงๆ ” สิงโตพูดขำๆ ก่อนจะหันมามองเจ้าหยอดเหรียญที่ตอนนี้นอนสบายอยู่บนพื้นห้อง
“ แต่บ้านสวยชะมัด ” พูดแล้วก็ต้องพูดอีก เพราะสิงโตรู้สึกแบบนี้จริงๆ บ้านที่แม้จะมีพื้นที่จำกัด แต่กลับออกแบบและสร้างออกมาได้อย่างลงตัวและสวยงามได้อย่างไม่มีที่ติเลย
สิงโตมองการตกแต่งภายในห้องด้วยความสนอกสนใจระหว่างรอ เพราะตั้งแต่ที่เขาเดินเข้ามา บ้านหลังนี้ตกแต่งแบบเรียบง่าย ไม่ค่อยมีของกรอบรูปหรือของตกแต่งที่นำมาติดตามผนังบ้าน เลยทำให้รู้สึกโปร่งๆ โล่งๆ สบายตาดีเหมือนกัน
แต่เมื่อสิงโตหันไปมองตรงมุมห้อง ซึ่งบริเวณนั้นมีโต๊ะไม้เข้ามุม ที่บนโต๊ะนั้นมีแจกันทรงกลมและกรอบรูปวางอยู่ด้วยกันสองกรอบ
กรอบรูปขนาดกลาง ที่ภายในเป็นรูปของชายหญิงคู่หนึ่ง ซึ่งสิงโตคิดว่าคงเป็นคุณพ่อคุณแม่ของคริสแน่ๆ เพราะทั้งรูปหน้า ดวงตา และรอยยิ้ม คริสได้จากคุณแม่มาทั้งหมดเลย
“ หืม? ” แต่เมื่อสิงโตมองไปยังกรอบรูปที่มีขนาดเล็กลงมาหน่อย ที่ภายในกรอบรูปนั้น เป็นรูปของเด็กผู้ชายวัยประมาณห้าหรือหกขวบเท่านั้นเอง
เด็กผู้ชายผิวขาว ในชุดเอี๊ยมหมีสีฟ้าอ่อน ที่ในมือทั้งสองข้างกำลังโอบกอดช่อดอกเดซี่สีขาวไว้ ขณะยิ้มสู้กล้องได้อย่างน่ารักน่าชัง
สิงโตมองรูปถ่ายภายในกรอบรูปขนาดเล็กตรงหน้า คิ้วหนาของเขาขมวดเข้าหากันแน่น แต่ก็เพียงชั่วครู่เท่านั้น ก่อนจะคลายออก และปรากฏเป็นรอยยิ้มบนริมฝีปากทันที
“ ตอนเด็กเป็นยังไง ตอนโตก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ”
ยังน่ารักเหมือนเดิม
ไม่สิ...
น่ารักกว่าเดิมต่างหาก
“ ยิ้มบ้าอะไรอยู่คนเดียวน่ะคุณ ” สิงโตสะดุ้ง ทำเอาความคิดกระจัดกระจาย เมื่อจู่ๆ เสียงจากคนที่เขาเพิ่งนึกถึงนั้นดังขึ้นใกล้ๆ พอหันไปมองยังต้นเสียงนั้น สิงโตก็เห็นว่าคริสได้ยกจานกระเบื้องสีขาวที่บนจานนั้นมีเมล่อนปังวางอยู่
อยากกิน ก็ได้กินสิน่ะ
“ แต้งกิ้ว ” สิงโตบอกกับก๊วยเจ๋งที่เป็นคนช่วยยกน้ำและแก้ว ที่ตอนนี้ถูกวางไว้บนโต๊ะเป็นที่เรียบร้อย พร้อมกับเมล่อนปังที่คริสวางไว้ให้ใกล้ๆ กันนั้นด้วย
“ เมนูพรุ่งนี้เหรอ ” สิงโตชี้ไปที่เมล่อนปัง
“ เปล่า ” คริสส่ายหน้า
“ แค่อยากทำ ”
“ อออออออ ” สิงโตลากเสียงยาวเพื่อแสดงออกว่ารับรู้และเข้าใจ ก่อนจะพยักพเยิดหน้าไปตรงโซฟาตัวข้างๆ
“ ไม่คิดจะนั่งคุยกับแขกหน่อยเหรอ ”
“ ไม่ ” คริสปฏิเสธทันที
“ ถ้ากินเสร็จ คุณก็วางจานกับแก้วไว้ตรงนี้แหละ เดี๋ยวผมมาเก็บเอง ”
เย็นชาเหมือนเมื่อก่อนเป๊ะ
“ บ้านคริสนี้น่าอยู่ดีนะ ” สิงโตยังหาเรื่องคุยต่อ เมื่อเห็นว่าคริสกำลังจะเดินออกจากห้องไป
“ อยู่กับหยอดเหรียญไม่เหงาเหรอ ” สิงโตพูดไปด้วยยิ้มไปด้วย ในขณะที่อีกคนก็เริ่มจะมองตาขวาง
“ ให้ผมมาอยู่ด้วยอีกคนดีไหม ”
“ จู่ๆ ก็เข้ามาบ้านคนอื่น ” คริสกอดอกฉับ
“ เข้ามาแล้วก็มาขอน้ำขอขนมกิน... ” ปลายนิ้วที่กอดอกอยู่ เริ่มเคาะกับต้นแขนตัวเองเบาๆ
“ ถามจริงเถอะคุณ ” มุมปากของคริสเริ่มคว่ำลง พร้อมๆ กับหัวคิ้วที่ขมวดเข้าหากันทีล่ะนิด
“ บ้านไม่มีอยู่หรือไงคุณ ”
ปากดี...เหมือนเมื่อก่อนเป๊ะ
To Be Continued . . .
TALK :
ความคิดเห็น