คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : . ONE . แค่คุณคนเดียว . 2
“ จะบ้าหรือไงคุณ! ” คริสรู้สึกหัวเสียขึ้นมาทันทีทันใด
“ เค้กร้านผมไม่ได้มีไว้ให้คุณทานคนเดียวนะ ”
“ แต่ผมเป็นลูกค้าของร้านคุณ ” สิงโตพูด พลางจุดยิ้มอย่างเหนือกว่าเมื่อเห็นอีกฝ่ายชะงักไป
“ ผมเป็นลูกค้าที่ร้านของคุณต้องให้บริการด้วยความยินดี หรือคุณวางมาตรฐานการบริการลูกค้าแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ ”
“ นี่คุณ! คุณอย่ามากล่าวหากันแบบนี้นะ ” คริสตวัดเสียง
ให้ตายเถอะ
เมื่อคืนเขาช่วยคนประเภทไหนไว้เนี่ย
“ งั้นก็แล้วแต่คุณเถอะ ” น้ำเสียงชัดเจนว่าคุณเจ้าของร้านคงไม่พอใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จึงหันไปสั่งให้โปเต้จัดการกับเค้กทุกชิ้นในตู้อย่างที่ลูกค้าคนล่าสุดคนนี้ต้องการ
“ เดี๋ยวยังไงเต้ก็แพคเค้กทั้งหมดใส่กล่องให้เรียบร้อยเลยนะ ”
“ ค...ครับ ” โปเต้ที่ก็ยังตกใจกับการบอกว่าจะเหมาเค้กทั้งหมดของคุณลูกค้าตรงหน้า รีบรับคำสั่งจากคริสทันที
หากแต่ยังไม่ทันที่โปเต้จะได้หันกลับมาตรงหน้าเคาน์เตอร์เพื่อจัดการกับเค้กทุกชิ้นตามที่คริสบอก เสียงของคริสก็ดังขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้น้ำเสียงกลับนิ่งเรียบเสียจนโปเต้เริ่มจะทำตัวไม่ถูกเข้าไปใหญ่
“ ถ้าเค้กที่คุณซื้อไปทานมันยังไม่พอสำหรับกระเพาะของคุณ ก็เชิญคุณแทะเก้าอี้ในร้านของผมเพิ่มได้เลยนะครับ ”
“ คุณคริสเขาว่าคุณสิงเป็นปลวกน่ะครับ ”
“ ไม่ต้องย้ำได้ไหม ” สิงโตเตะไปที่ต้นขาของธีร์สักทีหนึ่ง ก่อนจะมองไปยังคุณเจ้าของร้านที่กำลังหันไปสั่งเด็กผู้ชายทั้งสองคนจนเสร็จสรรพ แล้วตัวเองก็เดินไปทางห้องเรือนกระจก ปล่อยให้พวกเขาทั้งสี่คนยืนมองหน้ากันไปมา แต่ก็เพียงแค่ชั่วอึดใจเท่านั้น เพราะเป็นก๊วยเจ๋งคนแรกที่รีบเอื้อมมือไปเปิดตู้เค้ก ทำให้โปเต้ก็พอจะดึงสติของตัวเองกลับมาได้บ้างแล้ว
“ รอสักครู่นะครับ ” โปเต้บอกกับสิงโตและธีร์ ที่เพียงยิ้มรับอย่างไม่ถือสากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้า
โดยที่สิงโตและธีร์นั่งรอเพียงสิบนาที เค้กประมาณสิบกว่าชิ้นที่ถูกแพคใส่กล่องกระดาษสีขาวน่ารัก ก่อนที่ก๊วยเจ๋งจะเดินมาหาพวกเขาที่โต๊ะที่นั่งรออยู่
“ รถของคุณลูกค้าอยู่ไหนครับ ผมจะยกไปให้ ”
“ ออ ไม่เป็นไรครับ ” ธีร์รีบบอก เมื่อมองถุงใบใหญ่บนเคาน์เตอร์ ที่ภายในมีกล่องเค้กเรียงกันอยู่อย่างเป็นระเบียบ ที่แม้จำนวนกล่องจะเยอะอยู่สักหน่อย แต่ถุงที่ใช้ใส่ก็แค่สองใบเท่านั้น ถืออย่างละข้างก็ไม่มีปัญหาหรอก
“ เดี๋ยวผมยกไปเอง ”
“ อย่างงั้นเหรอครับ ” ก๊วยเจ๋งถามให้แน่ใจ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่สิงโตยื่นบัตรเครดิตให้ตนพอดี
“ พอดีผมไม่ชอบพกเงินสด ร้านนี้รูดได้ใช่ไหม ”
“ ได้ครับๆ เดี๋ยวผมจัดการให้นะครับ ” ก๊วยเจ๋งรับบัตรเครดิต แล้วรีบเดินไปหาโปเต้ที่เคาน์เตอร์ เพื่อให้จัดการกับค่าใช้จ่ายทั้งหมด โดยมีสิงโตและธีร์เดินตามหลังมาด้วย
ใช้เวลาไม่นานนัก เค้กสองถุงใหญ่ และลูกค้าที่เหมือนจะรู้กับเจ้าของร้านอย่างคริสที่ได้เหมาเค้กไปจนหมดตู้ได้เดินพ้นประตูร้านออกไป พร้อมเสียงกระดิ่งดังส่งท้ายสองสามที
“ คุณคนนั้นเป็นเพื่อนพี่คริสเหรอ ” โปเต้รีบหันไปถามก๊วยเจ๋งทันที
“ ไม่ใช่หรอก ” ก๊วยเจ๋งขมวดคิ้วหมุนแล้วส่ายหน้าไปมาอย่างมั่นใจ
“ ถ้าเป็นเพื่อนจริงๆ พี่คริสไม่พูดๆ แล้วก็สะบัดตูดเข้าห้องไปแบบนั้นแน่นอน ” โปเต้พยักหน้าค่อนข้างที่จะเห็นด้วย พี่คริสของพวกเขาไม่ใช่คนอารมณ์ร้าย ออกจะอัธยาศัยดีมากๆ เลยด้วยซ้ำ แต่ที่แปลกคือกับคุณลูกค้าคนเมื่อกี้นั้น ทำให้พี่คริสถึงดูไม่ชอบใจเอาเสียเลย
♡
“ ...แล้วจะเอายังไงต่อครับเนี่ย คุณสิง ” ธีร์ถามเจ้านายของตัวเองเมื่อวางถุงเค้กสองถุงใหญ่ๆ ลงบนโต๊ะกระจกเข้าชุดกับโซฟาสีขาว ภายในห้องรับแขกของบ้านเมื่อพวกเขามาถึง
“ พรุ่งนี้ก็เอาไปแจกสาวๆ ที่บริษัทแล้วกัน ” สิงโตตอบอย่างไม่คิดมาก สาวๆ ที่บริษัทชอบทานของหวานๆ กันอยู่แล้วนี่น่า แล้วเค้กหน้าตาน่าทานขนาดนี้ สาวๆ คงไม่ปฏิเสธหรอกเชื่อสิ
แต่เค้กหน้าตาน่าทาน แต่ทำไมคนทำเค้กถึงได้ชอบทำหน้าตาถมึงทึงแบบนั้นนะ
สิงโตคิดๆ แล้วก็ได้แต่อมยิ้มกับตัวเอง
ก่อนที่จะมีเสียงเรียกดังขึ้นจากทางด้านหลังไม่ใกล้ไม่ไกล และเมื่อสิงโตหันไปมองตรงประตูหน้าห้อง ก็ได้พบกับหญิงสาววัยกลางคน ในชุดเดรสสีน้ำเงินทะเลที่รัดทุกส่วนสัด ที่ถ้าเจ้าตัวไม่หุ่นดีจริงๆ คงพังแน่
“ เจ๊ มาแล้วเหรอ ” สิงโตร้องทัก
“ สวัสดีครับ คุณมิ้น ” ธีร์ก้มหัวลงเล็กน้อย ขณะพูด
มิ้น ญาติผู้พี่ของสิงโต ที่แม้เธอจะมีใบหน้าที่เรียวสวยได้รูป อีกทั้งผิวพรรณที่ขาวเนียนชนิดที่ว่าผู้หญิงด้วยกันยังต้องอิจฉา หากแต่ดวงตาของเธอนั้นกลับโฉบเฉี่ยวคมคาย แถมนิสัยยังเด็ดขาด ตรงไปตรงมา กล้าได้กล้าเสีย จึงทำให้เธอกลายเป็นนักธุรกิจหญิงที่มักเป็นที่พูดถึงเป็นลำดับต้นๆ ได้อย่างไม่ยากนัก
“ ได้อะไรมาบ้างเจ๊ ” สิงโตขยับตัว เพื่อให้พี่สาวคนสวยของตัวเองนั่งลงบนโซฟาข้างๆ กัน ก่อนจะแบมือแล้วยื่นไปตรงหน้า ทำเอาสาวเจ้าต้องกลอกตามองบน แต่ก็ยอมส่งซองเอกสารขนาดเอสี่ให้น้องชายตามขอ
“ ขอด่วนไปหมด นี่นึกว่าฉันเป็นนักสืบหรือไงตาสิง ” เจ๊มิ้นออกอาการเหวี่ยงเล็กน้อยตามสไตล์ ในขณะที่แม่บ้านได้ยกน้ำเย็นๆ และขนมทานเล่นเข้ามาให้ภายในห้องรับแขกอย่างรู้งาน
“ สิงไม่ได้เห็นว่าเจ๊เป็นนักสืบนะ แต่สิงเห็นว่าเจ๊เป็นเจ้าแม่ต่างหาก แค่ข้อมูลของคนๆ เดียวเจ๊หาให้น้องให้นุ่งได้สบายอยู่แล้ว ใช่ไหมล่ะ ” สิงโตพูดยิ้มๆ ขณะที่มือก็เปิดซองเอกสารไปด้วย
ภายในซองเอกสารที่มีกระดาษอยู่สองสามแผ่น ซึ่งนั่นทำให้ธีร์ที่ยืนอยู่ไม่ห่างนักรู้สึกสงสัย แต่พอหน้ากระดาษถูกเปิดออกมาทุกแผ่น ธีร์ก็ถึงกับบางอ้อ
“ ...พีรวัส ” สิงโตอ่านจากข้อมูลที่ได้มา
สงสัยจะถูกใจเข้าแล้วล่ะมั้ง
“ ชื่อคริส ”
“ เด็กคนนี้เป็นใครเหรอสิง ” เจ๊มิ้นถามน้องชายที่โทรหาเธอวันนี้ตอนบ่ายๆ แล้วบอกว่าอยากจะได้ข้อมูลของคนๆ หนึ่ง ซึ่งเธอได้มอบหมายต่อให้ลูกน้องของเธอไปจัดการ และคิดว่าคนที่สิงโตต้องการข้อมูลคงเป็นคู่ค้าทางธุรกิจ
แต่ที่ไหนได้...
กลับกลายเป็นเด็กหนุ่มผิวขาว ที่ดูๆ แล้วคงจะรุ่นราวคราวเดียวกับน้องชายของเธอเสียนี่
“ เพื่อนเก่าหรือไง ”
“ เป็นคนทำเค้กครับ ”
“ หืม? ” เจ๊มิ้นเลิกคิ้วสูง ก่อนที่จะหันไปมองถุงใบใหญ่สองใบที่สิงโตพยักพเยิดให้ดู
“ อย่าบอกนะว่าไปเหมาของเขามาน่ะ ” ปลายนิ้วเรียวๆ สวยๆ ชี้ตรงไปยังกล่องเค้กนับสิบ และคำตอบที่ได้คือใบหน้าของน้องชายที่พยักหน้าขึ้นลงอย่างไม่ปิดบัง
“ จริงจัง? ” เจ๊มิ้นถามย้ำให้แน่ใจ เพราะถึงแม้ว่าน้องชายของเธอจะไม่เข้าข่ายเพลย์บอย แต่น้องชายของเธอก็คบผู้หญิงมาตลอด ถึงเด็กหนุ่มผิวขาวๆ ในรูปนั้นจะหน้าตาน่ารักก็เถอะ แต่ก็ดูออกแหละว่าเป็นผู้ชาย
“ ไม่รู้สิเจ๊ แต่สิงรู้สึกว่าเคยรู้จักกับเขามาก่อน ” สิงโตตอบพร้อมรอยยิ้มบางๆ ขณะที่ดวงตาคมคายก็จับจ้องคนในรูปถ่ายไม่ละ
ลูกน้องของเจ๊มิ้นนี้ฝีมือดีจริงๆ ถึงจะแอบถ่าย แต่ก็ถ่ายมาซะชัดแจ๋วเชียว
“ เคยรู้จักเนี่ยนะ ” พี่สาวคนสวยเอนหลังพิงพนักโซฟา พร้อมทั้งยกขาขึ้นไขว่ห้างในท่าทางสบายๆ
“ แกไปอยู่เมืองนอกตั้งแต่เด็ก จะเอาเวลาไหนไปรู้จักกับเขาน่ะตาสิง ”
“ ที่ว่ารู้จัก... ” สิงโตนิ่งคิดเพียงชั่วครู่
เมื่อคืนตอนที่เกิดเรื่องก็ไม่ได้สังเกตอะไรมาก กว่าจะมีโอกาสมาสนใจรอบข้างก็ตอนที่กำลังถูกคนๆ นั้นทำแผลให้อยู่
ยิ่งได้มองผิวขาวใกล้ๆ ยิ่งได้มองดวงตากลมโตภายใต้แว่นตากรอบหนา ยิ่งได้มองริมฝีปากสีแดงธรรมชาติ
ยิ่งมอง...
ก็ยิ่งรู้สึกคุ้นเคย
“ สิงคงเคยรู้จักกับเขา...เมื่อชาติที่แล้วล่ะมั้งครับ ”
“ สาบานได้ว่านี่เป็นมุขจีบ ถ้าแกมาพูดกับเจ๊แบบนี้นี่เจ๊ด่ากลับแน่ โคตรเฉยเลยย่ะ ” เจ๊มิ้นปัดมือส่งๆ เมื่อเธอรู้สึกว่าเจ้าน้องคนนี้มันเริ่มจะพูดจาเพ้อเจ้อไปกันใหญ่
“ โธ่เจ๊ อย่าทำให้สิงเสียความมั่นใจสิ ” สิงโตพูดขำๆ อย่างไม่คิดมาก แต่คนเป็นพี่สาวกลับย่นจมูกใส่อย่างนึกหมั่นไส้
“ ถ้าเจ๊ไปเล่าให้ตาแม็คฟัง... ”
“ ไม่นะเจ๊ เจ๊อย่าเพิ่งไปเล่าให้เฮียแม็คฟังนะ ” แทบจะทันทีที่สิงโตรีบร้องห้ามไว้ก่อน เมื่อเจ๊ใหญ่พูดถึงน้องชายอีกคนของเธอ ซึ่งเป็นน้องชายแท้ๆ อย่างเฮียแม็ค
“ ถ้าเฮียแม็ครู้ เดี๋ยวก็มาล้อสิงอีก รายนั้นถ้าได้ล้อทีนี้ล้อเป็นปีๆ เจ๊อย่าบอกให้เฮียรู้เชียวนะ ” สิงโตกำชับ ซึ่งเจ๊มิ้นคนสวยก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ นอกจากการเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำมาดื่มเพื่อดับกระหาย โดยปล่อยให้น้องชายของตัวเองเก็บรายละเอียดของข้อมูลที่ลูกน้องของเธอไปจัดการหามาให้
“ เรียนจบเครื่องเคลือบงั้นเหรอ ” สิงโตรู้สึกสงสัย เพราะเห็นเปิดร้านเบเกอรี่ก็นึกว่าจะเรียนจบทางด้านทำขนมมาเสียอีก
“หืม? คุณพ่อคุณแม่เป็นสถาปนิกอยู่ที่ญี่ปุ่นเหรอ ” สายตาของสิงโตสะดุดตรงข้อมูลท้ายๆ บนกระดาษเอสี่แผ่นแรกที่ตัวเองถือไว้
“ งั้นก็แสดงว่าคริสอยู่บ้านคนเดียวน่ะสิ ”
“ แหม สนิทกับเขาแล้วหรือไงยะ ถึงไปเรียกชื่อของเขาแบบนั้นได้น่ะ ” เจ๊มิ้นรู้สึกหมั่นไส้น้องชายตัวเองจริงๆ
“ บ้านคริสก็อยู่ไม่ไกลจากร้านนี่น่า ”
“ คุณสิงครับ ตอนนี้จะสองทุ่มแล้วนะครับ ” ธีร์พูดขึ้นอย่างรู้ทัน พูดออกมาแบบนี้นี่รู้เลยว่าคิดอะไรอยู่
“ แค่สองทุ่มเอง ไม่ใช่ตีสองสักหน่อย ”
“ เดี๋ยวตาสิง จะไปไหนเนี่ย ” เจ๊มิ้นรีบคว้าแขนสิงโตไว้ เมื่อสิงโตทำท่าเหมือนจะลุกจากโซฟาที่นั่งอยู่ด้วยกัน
“ ก็สิงจะไปบอกว่าเค้กของคริสอร่อยมากๆ เลยครับ ”
“ หะ? ” เจ๊มิ้นขมวดคิ้ว หากแต่ธีร์ที่ถึงกับต้องพ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่
“ ไม่ได้ทานเค้กของเขาสักชิ้นเนี่ยนะครับคุณสิง ”
“ พูดมากน่ะ ” สิงโตตวัดเสียงใส่ธีร์เล็กน้อย
“ เดี๋ยวฉันจะไปคนเดียว ”
“ ไม่ต้องบอกก็รู้ ” ธีร์ปัดมือส่งๆ ใส่เจ้านายตัวเอง เป็นเชิงบอกว่าจะไปก็รีบๆ ไปเถอะครับ
แต่กว่าที่สิงโตจะขับรถออกมาจากย่านที่พักอาศัยของตัวเองที่ใครๆ ต่างเรียกว่าเป็นย่านธุรกิจ ซึ่งแน่นอนว่าผู้คนต้องพลุกพล่าน และสิ่งที่ตามมาคือการจราจรที่แออัดจนอยากจะลงไปเดินให้มันรู้แล้วรู้รอดไป แต่อีกใจก็เกรงใจเสื้อผ้าแบรนด์เนมที่ตัวเองใส่อยู่
กว่าสิงโตจะขับรถมาจอดสนิทอยู่ตรงหน้ารั้วบ้านสีขาวตามที่อยู่ที่ได้มาก็เสียเวลาอยู่บนถนนเกือบสองชั่วโมงเต็ม
“ โอ้โฮว ” สิงโตรู้สึกถูกใจกับสิ่งปลูกสร้างที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า
บ้านชั้นครึ่งสีขาวในแบบโมเดิร์นเล่นระดับ แม้จะไม่ใช่บ้านหลังใหญ่โต แต่ก็ไม่เล็กจนดูคับแคบจนเกินไป บริเวณหน้าบ้านก็มีสวนดอกไม้และน้ำตกเล็กๆ ช่วยให้สดชื่น รวมถึงพื้นที่ใช้สอยรอบตัวบ้านก็จัดสรรได้อย่างลงตัว แม้พื้นที่จะมีจำกัดก็ตาม
สมแล้วที่มีคุณพ่อคุณแม่เป็นสถาปนิก
และเมื่อสิงโตหันไปมองตรงบริเวณที่ใช้เป็นที่จอดรถ ก็ยิ่งทำให้อมยิ้มหนักเข้าไปใหญ่ เมื่อสิงโตเห็นรถบีทเทิลสีเหลืองน่ารัก จอดอยู่ข้างๆ กับรถเวสป้าสีฟ้าสดใส
ทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมาะกับเจ้าของบ้านไปหมดเลยจริงๆ
“ ...นั่นคุณลูกค้าเมื่อตอนเย็นนี่น่า ” สิงโตหันไปมองตามเสียงที่จู่ๆ ก็ดังขึ้นใกล้ไม่ไกลนัก และสิ่งที่สิงโตเห็นคือเด็กผู้ชายผิวเข้ม ที่เมื่อตอนเย็นเป็นคนยกถุงเค้กใหญ่ๆ สองถุงมาให้เขากับธีร์
เห็นคริสเรียกว่าไงนะ...
เรียกว่าเจ๋งใช่ไหม?
“ คุณลูกค้ามีอะไรหรือเปล่าครับ หรือว่ามาหาพี่คริสครับ ” ก๊วยเจ๋งถาม พลางเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ก่อนหน้านี้เขาเพิ่งออกไปซื้อน้ำอัดลมที่ร้านสะดวกซื้อ พอจะเดินกลับเข้าบ้านก็เห็นรถยนต์คันคันหรูจอดอยู่ แล้วก็เห็นคุณลูกค้าที่เมื่อตอนเย็นเป็นคนเหมาเค้กที่ร้านไปทั้งหมด กำลังมองเข้าไปในบ้านของพี่คริส แล้วก็ยิ้มอะไรไม่รู้อยู่คนเดียว
“ เธอก็อยู่แถวนี้เหมือนกันเหรอ ” สิงโตเลือกที่จะถามกลับ แทนที่จะตอบคำตอบของก๊วยเจ๋ง
“ ก็แถวนี้แหละครับ ก็นี่ไงครับบ้านผม ” ก๊วยเจ๋งชี้ไปตรงบ้านปูนสองชั้นที่ปลูกติดอยู่ข้างๆ กัน ที่เรียกได้ว่าใช้รั้วบ้านเดียวกันได้เลย
“ ออ ” สิงโตพยักหน้า เพื่อนบ้านกันเหรอเนี้ย
“ ว่าแต่คุณลูกค้ามาหาพี่คริสเหรอครับ ” ก๊วยเจ๋งถามอีกรอบ ในขณะที่สิงโตก็นิ่งคิดหาคำตอบอยู่ชั่วครู่หนึ่ง
“ ใช่ ฉันมาหาคริส ” และสิงโตก็ได้ตอบออกไป
“ แต่ฉันเพิ่งเอาโทรศัพท์ไปซ่อมมา เบอร์โทรในเครื่องก็หายไปหมดเลย ” สิงโตทำหน้าตาลำบากใจเล็กน้อย
“ เธอพอจะมีเบอร์ของคริสไหม ”
To Be Continued . . .
TALK :
ความคิดเห็น